พบมดชนิดใหม่ ที่เรียกว่ามดซอมบี้ที่ติดเชื้อมาจากเชื้อรา

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย AFIKLIFI, 6 มีนาคม 2011.

  1. AFIKLIFI

    AFIKLIFI Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    560
    ค่าพลัง:
    +53
    [​IMG]

    พบมดสายพันธุ์ใหม่มดชนิดนี้ที่จัดอยู่ในประเภท Ophiocordyceps ซึ่งมีการตีพิมพ์ลงในวารสาร PLoS ONE และชื่อของเชื้อรานี้ได้มาจาก Dr. Harry Evans และ Dr. David Hughes เชื้อรานี้จะเข้ามาติดเชื้อที่มดแล้วก็จัดการกับนิสัยของมดตัวที่ัมันมาฝังอยู่แล้วในที่สุดก็ฆ่ามดให้ตายหลังจากที่มีการป้องกันพื้นที่สำหรับพวกมันไว้แพร่เชื้อต่อไป
     
  2. andnamwan

    andnamwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +206
    จะเป็นยังไงน๊า................ถ้าเชื่อราชนิดนี้...พัฒนาตัวเองจนสามารถติดต่อได้กับมนุษย์....เฮ่อสงสัยดูหนังมากเกิน
     
  3. โน้ตโคราช

    โน้ตโคราช สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2011
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +1
    อิๆ น่าทำเป็นพล็อตหนังนะครับเนี่ย:cool:
     
  4. กัปปะ

    กัปปะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    271
    ค่าพลัง:
    +118
    เฮ้ย...น่านมาน ไอ้มดอาเมซอนนี่นา...
     
  5. AFIKLIFI

    AFIKLIFI Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    560
    ค่าพลัง:
    +53
    เขาบอกว่าตอนนี้กลัวว่ามันจะมาเกิดขึ้นกับคนได้ นี่หล่ะเรื่องยุ่ง
    มันเป็นมดทางบราซิลครับเห็นว่าอย่างนั้น คิดแล้วก็น่ากลัวนะ
     
  6. karain

    karain เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    639
    ค่าพลัง:
    +707
    อีกหน่อยก็คงได้เรื่อง
     
  7. pakung

    pakung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,625
    ค่าพลัง:
    +429
    มด มด มด มด มด มด

    ............
     
  8. i3oomi3er

    i3oomi3er สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +2
    อีกหน่อย เชื้อราตัวนี้จะวิวัฒนาการจากการติดเชื้อที่มด มาติดเชื้อที่มนุษย์โลกแทน เมื่อติดเชื้อที่คน มนุษย์ก็จะถูกเรียกว่า มนุษย์ซอมบี้
     
  9. 3y3

    3y3 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +6
    มันก็ไม่แน่หรอกครับ เพราะว่า ถ้าโลกเกิดมึดนานๆ เชื่อราก็ต้องเจริญเติบโตไวแน่ๆ ที่สำคัญคือเราจะหาทางป้องกันบริเวณที่เราอยู่อาศัยยังไงกันดีหนอ
     
  10. AFIKLIFI

    AFIKLIFI Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    560
    ค่าพลัง:
    +53
    คงต้องจุดไฟฆ่าเชื้อหรือไม่ก็พกยาฆ่าเชื้อไว้เยอะๆ กลัวมันเติบโตดีตอนที่โลกมืดไปหลายๆวันนี่หล่ะครับ อะไรก็เกิดขึ้นได้ แม้กับมดยังเกิดขึ้นแล้ว

     
  11. MaFew

    MaFew สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +1
    สงสัยต้องมีมดแบบ อลิส มาจัดการมดพวกนี้แล้วละครับ
    โอะๆๆ สงสัยผมดูresident evil มากไป อิอิ
     
  12. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    ในอีกแง่หนึ่ง เขาบอกว่า บทบาทสำคัญของราที่ทำลายมดและแมลงคือ ช่วยควบคุมปริมาณแมลงในธรรมชาติให้สมดุล มิให้ระบาดทำความเสียหายกับพืชป่าไม้ เกิดสมดุลธรรมชาติ

    http://www.dnp.go.th/foremic/fmo/insectfungiKKC.htm

    แล้วจะมีใครมองว่า มนุษย์เราเป็นเหมือนมดกับแมลงหรือเปล่า? ที่มีมากไปอาจทำลายความสมดุลของธรรมชาติ เลยต้องให้ปรสิตรามาจัดการ!? ถ้าคิดอย่างนี้ก็น่ากลัวอยู่เหมือนกันนะ ว่าไม๊?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มีนาคม 2011
  13. spersion

    spersion สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +0
    มด ต่อไปก็มนุษย์...................
     
  14. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    พ่วงกระทู้นี้เข้ามาด้วยแล้วกันนะคะ..เห็นว่าน่าจะอยู่ในโหมดเดียวกัน
    เผื่อว่าจะมีคนที่ยังไม่ได้อ่าน (เหมือนกัน) น่าสนใจดี

    http://palungjit.org/threads/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B9%83%E0%B8%88.225494/

    "ปรสิตสั่งหนูไม่กลัวตาย" ถ้าได้ดูภาพนี้แล้วจะอมยิ้ม
    v
    v

    [​IMG]

    เครดิตภาพ 10 ปรสิตควบคุมจิตใจสยองโลก!!
     
  15. AFIKLIFI

    AFIKLIFI Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    560
    ค่าพลัง:
    +53
    คุณกำลังจะหมายถึงอาวุธชีวะภาพงั้นเหรอ ควบคุมปริมาณประชากรโลกโดยการแพร่กระจายแล้วฝังตัวและถูกบังคับร่างกายให้ถูกพาไปทำลาย อย่างนี้น่ากลัวครับ เห็นเขาบอกว่ามดชนดนี้ที่ถูกครอบครองแล้วจะไม่รู้ตัวส่วนการเดินและใช้ชีวิตนั่นเพราะว่าเชื้อราเป็นตัวบังคับและเอามดเป็นตัวนำพาไปที่ที่ต้องการหลังจากหมดประโยชน์ก็จะฆ่าทิ้งเสีย

     
  16. manganiss

    manganiss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2009
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +636
    ไม่ได้มีแต่มดนะ .... มีอีกเพียบ

    ปรสิตควบคุมจิตใจ

    ในธรรมชาตินั้นมีทั้งความงดงาม และความโหดร้าย ขึ้นกับว่าเราจะมองในแง่มุมไหน อย่างไรก็ตาม ธรรมชาตินั้นดำเนินไปตามกลไกของมันเอง ดี-ชั่วนั้นเป็นเพียงคุณค่าที่มนุษย์กำหนดขึ้นเอง ถูกหรือไม่?

    ลองมาทำความรู้จักกับ 11 ปรสิตควบคุมจิตใจต่อไปนี้ เรามีสิทธิตัดสินหรือไม่ว่าสิ่งที่มันทำนั้นโหดร้าย...


    แมลงวันนักเชิดหุ่น
    Pseudodacteon (Phorid flies)


    แมลง วันในจีนัส Pseudodacteon มีอยู่ราวๆ 110 สปีชี่ส์ ดำรงชีวิตเป็นปรสิตในมดแถบแอฟริกาใต้ เจ้าแมลงวันนักเชิดหุ่นจะบินไปวางไข่ในช่องอกของตัวมดงานอย่างรวดเร็ว ตัวอ่อนที่ฟักออกจากไข่จะเดินทางไปยังส่วนหัว ฝังตัวอยู่ที่นั่นและกิน hemolymph (ของเหลวในร่างกายแมลงที่ทำหน้าที่เสมือนเลือด) เนื้อเยื่อกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อระบบประสาทเป็นอาหาร สุดท้ายสมอง (ปมประสาท) ของมดจะถูกกินเรียบครับ ทำให้มดที่ไร้สมองนั้นขาดจุดมุ่งหมายในการดำรงชีวิตโดยสิ้นเชิง มันจะเดินสะเปะสะปะออกจากฝูงเป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์ จากตัวอ่อนก็จะละลายส่วนหัวของมดออกมาเป็นดักแด้ รอเวลาโตเต็มวัยต่อไป…อย่างไรก็ตาม อัตราการประสบความสำเร็จในการดำรงชีวิตแบบปรสิตของเจ้าแมลงวันนักเชิดหุ่น ถือว่าค่อนข้างต่ำครับ (น้อยกว่า 3%)


    <center></center><object width="640" height="390">


    <embed src="http://www.youtube.com/v/6UThaL-D6U8&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always" width="640" height="390"></object>


    ปรสิตสั่งหนูไม่กลัวตาย
    Toxoplasma gondii


    Toxoplasma gondii เป็นปรสิตในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิด รวมทั้งแมว หนู หรือแม้แต่มนุษย์ครับ ภาวะปรสิตที่น่าสนใจของมันเกิดขึ้นเมื่อมันดำรงชีวิตอยู่ในตัวหนู (rats หรือ mice เป็น intermediate host) มันจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของหนูอย่างเฉพาะเจาะจง ทำให้หนูไม่กลัวแมว ในบางงานวิจัยยังพบว่า นอกจากจะไม่กลัวแล้วยังวิ่งเข้าหาด้วยความชอบ (preference) ด้วยซ้ำครับ! ได้กลิ่นแมว ได้ยินเสียงแมวก็ไม่วิ่งหนี ในที่สุดหนูก็จะถูกแมวจับกินโดยง่าย และปรสิตก็จะถูกแพร่พันธุ์ในตัวแมวเป็น host ลำดับต่อไป อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาพบว่า T.gondii ไม่มีผลเปลี่ยนแปลงความกลัวของหนูต่อสิ่งอื่นๆอย่างเช่น ความกลัวต่อที่เปิดกว้าง หรือความกลัวต่อกลิ่นบางอย่างที่ไม่คุ้นเคยครับ


    <center>[​IMG]</center>


    ปลาเอ๋ยจงว่ายเหนือน้ำ
    Euphaplorchis californiensis


    E. californiensis เป็นพยาธิที่สืบพันธุ์และวางไข่ในระบบทางเดินอาหารของนกชายฝั่งทะเล อุจจาระของนกจะถูกถ่ายลงไปในทะเลและกลายเป็นอาหารของหอยทะเล ตัวอ่อนจะถูกฟักภายในร่างกายของหอย และถูกปลดปล่อยออกไปอย่างอิสระในท้องทะเล โดยเป้าหมายของ E. californiensis คือปลาทะเลสายพันธุ์ที่เรียกว่า killifish ครับ ซึ่งเมื่อมันเจอ killifish แล้ว มันก็จะแทรกตัวเข้าสู่ร่างกายผ่านทางเหงือกปลา จุดมุ่งหมายสุดท้ายคือสมอง ที่สมอง E. californiensis จะทำให้เกิดเปลี่ยนแปลงทางชีวเคมีของสารสื่อประสาทในสมองอย่างเฉพาะเจาะจง เป็นผลทำให้ killifish เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม จากเดิมอยู่ใต้ทะเลลึกดีๆไม่ชอบ ก็โผล่หัวขึ้นมายังผิวน้ำทะเล เป็นผลทำให้ถูกจับกินโดยนกชายฝั่งทะเลได้ง่าย และปรสิตก็ได้อาศัยในทางเดินอาหารของนกต่อไป


    แมลงสาบเป็นสัตว์เลี้ยง
    Ampulex compressa (Jewel wasp)


    ตัว ต่อ jewel wasp ทำให้แมลงสาบกลายเป็นสัตว์เลี้ยงได้โดยการฝังเหล็กในหนึ่งคู่ลงไป เหล็กในอันแรกจะต่อยเข้าที่อกของแมลงสาบเป็นผลให้มันกลายเป็นอัมพาตแต่บาง ส่วน เหล็กในอันที่สองที่ถูกต่อยเข้าไปยังสมองโดยตรง และเป็นผลให้แมลงสาบสูญเสียกลไกหนีเอาตัวรอด (fail to escape aversive stimuli) และเกิดภาวะสูญเสียการเคลื่อนไหว (long term-hypokinesia) ทั้งนี้ มีการศึกษาพบว่า พิษของตัวต่อ jewel wasp มีผลยับยั้งการทำงานของสารสื่อประสาท Octopamine ซึ่งเกี่ยวข้องกับ เคลื่อนไหวที่ซับซ้อนอย่างการเดิน เมื่อสารสื่อประสาทดังกล่าวถูกยับยั้งก็ทำให้แมลงสาบไม่สามารถเริ่มเดินได้

    จาก ภาวะดังกล่าว jewel wasp ซึ่งมีขนาดตัวเล็กกว่ามากจะควบคุมแมลงสาบได้โดยสิ้นเชิง jewel wasp จะงับเอาหนวดข้างหนึ่งของแมลงสาบและลากไปยังรังของมันราวกับจูงสุนัขที่สวม ปลอกคอ ที่รังของมัน แมลงสาบจะถูกวางไข่ไว้ในท้อง สุดท้ายเมื่อตัวอ่อนถูกฟักขึ้นภายในช่องท้องของแมลงสาบ แมลงสาบก็ยังคงมีชีวิตอยู่และถูกตัวอ่อนกัดกินอวัยวะภายในไปอย่างช้าๆ


    <center></center><object width="640" height="390">


    <embed src="http://www.youtube.com/v/qN2XMyxAs5o&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always" width="640" height="390"></object>


    เกลียวเชือกในท้องตั๊กแตน
    Spinochordodes tellinii


    พยาธิ ขนม้า (hairworm) เป็นปรสิตในแมลงกลุ่มตั๊กแตนและจิ้งหรีด (Orthoptera) ตั้งแต่ตัวอ่อนยันโตเต็มตัว ในขณะที่เป็นตัวอ่อนมันจะดำรงชีวิตอยู่เฉยๆแต่เมื่อโตเต็มวัยก็จะออกจากร่าง ของแมลงมาใช้ชีวิตอยู่ในแหล่งน้ำเพื่ออาหารและสืบพันธุ์ต่อไป นี่คืออารัมภบทซึ่งยังไม่ได้กล่าวถึงความน่ากลัวของเจ้าพยาธิตัวนี้แต่อย่าง ใด

    วงจรชีวิตของพยาธิขนม้าเริ่มจากไข่ถูกวางบนวัชพืชตามแหล่งน้ำ host จะได้รับไข่เข้าไปในร่างกาย ไข่ฟักเป็นตัวอ่อนที่มีขนาดเล็กมากแต่สุดท้ายเมื่อโตเต็มที่จะมีขนาดยาวกว่า ร่างกายของ host ประมาณ 4 เท่า (ครับ ตัวเลขนี้ไม่ผิด ปรสิตจะกินอวัยวะภายในของ host เกือบหมดสิ้น ขดลำตัวที่ยาวกว่า host หลายเท่าอยู่ภายในร่างกายนั้น) และเปลี่ยนพฤติกรรมของ host ให้ตามหาแหล่งน้ำแล้วกระโดดลงไปจมน้ำตาย เพื่อให้ปรสิตออกจากตัวhost ไปอาศัยและสืบพันธุ์ในแหล่งน้ำต่อไปได้

    ประเด็นที่น่าสนใจคือกลไกที่ ปรสิตเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของ host ซึ่งจากการศึกษาพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับการแสดงออกของโปรตีนกลุ่มหนึ่งใน สมอง (ปมประสาท) ของ host ที่ถูกเหนี่ยวนำโดยปรสิตที่โตเต็มวัยแล้ว โปรตีนดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการพัฒนาของระบบประสาทโดยตรงและการทำงานของสาร สื่อประสาทต่างๆ


    <center></center><object width="640" height="390">


    <embed src="http://www.youtube.com/v/D7r1S6-op8E&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always" width="640" height="390"></object>


    วานแมงมุมสร้างรัง
    Hymenoepimecis argyraphaga


    H. argyraphaga เป็นตัวต่ออีกชนิดหนึ่งที่มีภาวะปรสิตในแมงมุม Plesiometa argyra การสืบพันธุ์ของมันเริ่มต้นโดยการใช้เหล็ดในต่อยให้แมงมุมเป็นอัมพาตชั่วขณะ และวางไข่ลงในช่องท้อง ไข่จะถูกฟักในตัวของแมงมุมกลายเป็นตัวอ่อนและดูดกิน hemolymph ของแมงมุมเป็นอาหาร ในขณะที่แมงมุมก็ยังดำรงชีวิตอยู่ตามปกติ เมื่อเวลาผ่านไปราว 1-2 สัปดาห์ แมงมุมจะเริ่มเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการชักใย จากใยแมงมุมรูปแบบปกติจะเปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิงเป็นรูปแบบที่เฉพาะเจาะจง อย่างน่าอัศจรรย์ รังดักแด้ขนาดเล็ก (Cocoon) ทรงรีจะถูกห้อยด้วยใยแมงมุมรูปสี่เหลี่ยมซึ่งออกแบบเตรียมพร้อมสำหรับเป็น ที่อยู่อาศัยของตัวอ่อนต่อไป แมงมุมจะชักใยรูปแบบพิเศษต่อไปเรื่อยๆ จนในที่สุดตัวอ่อนจะฆ่าแมงมุมด้วยพิษ จากนั้นมันจะเข้าไปอยู่ใน Cocoon ในระยะดักแด้รอเวลาโตเต็มวัย


    <center>[​IMG]</center>


    เชื้อราระเบิดหัวมด
    Cordyceps unilateralis


    C. unilateralis เป็นเชื้อราชนิดหนึ่งซึ่งพบในประเทศไทย เชื้อราชนิดนี้ infect มดงานแล้วเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมมดเพื่อการขยายพันธุ์ของมัน C. unilateralis เข้า ไปในร่างกายมดผ่านทางระบบหายใจ และดูดซึมอาหารจากเนื้อเยื่อภายในร่างกายมดอย่างช้าๆ เมื่อเชื้อราพร้อมจะขยายพันธุ์โดยสปอร์ มันก็จะงอกเส้นใย mycelia ปกคลุมสมอง (ปมประสาท) ของมดและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการรับรู้สารฟีโรโมนบางประการ มดงานจะปีนขึ้นไปบนยอดไม้สูงๆ เอากรามเกี่ยวงับกับใบไม้เพื่อตรึงตัวเองอยู่อย่างนั้น เชื้อราจะฆ่ามดและสร้างโครงสร้างที่คล้ายถุงสปอร์กับก้านชูขึ้นบนหัวของมด จากนั้นถุงบรรจุสปอร์จะระเบิดออกและปลดปล่อยสปอร์ล่องลอยไปในอากาศ

    จากการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์ พบว่าเชื้อรา C. unilateralis มี คุณค่าในอุตสาหกรรมสิ่งทอ เนื่องจาก pigment ที่ได้จากเชื้อราชนิดนี้มีความเหมาะสมที่จะนำมาใช้เป็นสีย้อมผ้า นอกจากนี้ยังมีการค้นพบสารต้านมาลาเรียจากเชื้อราชนิดนี้อีกด้วยครับ


    <center></center><object width="640" height="390">


    <embed src="http://www.youtube.com/v/CCOQ0VU24xw&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always" width="640" height="390"></object>


    หนอนบอดี้การ์ด
    Glyptapanteles sp.


    Glyptapanteles sp. เป็นตัวต่อชนิดหนึ่งที่พบในอเมริกากลางและอเมริกาเหนือ ตัวต่อชนิดนี้จะวางไข่ในหนอนผีเสื้อ Thyrinteina leucocerae ที่ยังไม่โตเต็มที่ ตัวอ่อนที่ฟักออกจากไข่จะกินน้ำและเนื้อเยื่อในร่างกายหนอนผีเสื้อเป็นอาหาร เมื่อเจริญเต็มที่แล้วก็จะออกจากร่างหนอนผีเสื้อ เกาะติดกับใบไม้และสร้างรังดักแด้ของตนเอง ส่วนหนอนผีเสื้อก็จะไม่ห่างจากรังดักแด้ไปไหน หยุดหาอาหาร และเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมกลายเป็น “ยาม” เฝ้ารังดักแด้ เมื่อใดก็ตามที่มีวัตถุเข้ามาใกล้รังดักแด้ หนอนยามจะแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว (ยกหัวขึ้นโจมตี) เพื่อปกป้องรังจากผู้บุกรุก หน้าที่ยามของหนอนผีเสื้อจะสิ้นสุดลงด้วยความตาย เมื่อตัวต่อเต็มวัยออกจากดักแด้


    <center></center><object width="640" height="390">


    <embed src="http://www.youtube.com/v/7UkDMrG6tog&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always" width="640" height="390"></object>


    มดผีดิบ
    Dicrocoelium dendriticum


    D. dendriticum เป็นพยาธิในตับของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมพวกเคี้ยวเอื้อง โดยมี primary และ secondary intermediate host เป็นหอยทากและมดตามลำดับ เมื่อไข่พยาธิถูกขับออกมาทางอุจจาระ หอยทากจะกินไข่พยาธิเข้าไป ไข่พยาธิถูกฟักภายในทางเดินอาหารของหอยทาก ซึ่งหอยทากจะมีกลไกป้องกันตัวเองโดยการสร้าง cyst ขึ้นห่อหุ้มพยาธิเอาไว้ จากนั้น cyst จะถูกขับถ่ายออกมาพร้อมอุจจาระ มดงานที่กลืน cyst เข้าไปก็กลายเป็น secondary intermediate host พยาธิออกจาก cyst และอาศัยอยู่ในช่อง haemocoel และเจริญเติบโตเป็นตัวเต็มวัยในระยะถัดไป เคลื่อนที่ไปตามปมประสาทของมดและควบคุมพฤติกรรมของมัน (อีกแล้ว)

    ใน ช่วงเวลากลางวัน มดงานที่ถูกสิงสู่ก็ยังคงดำรงชีวิตเหมือนกับมดงานตัวอื่นๆ แต่เมื่อถึงเวลากลางคืน ดวงอาทิตย์ตกดิน อุณหภูมิต่ำลง มดงานตัวดังกล่าวจะแยกตัวออกจากฝูง (พฤติกรรมคล้ายผีดิบชอบกล) ไม่กลับรัง ปีนขึ้นไปบนยอดหญ้าแล้วเอากรามงับเกี่ยวเอาไว้ตรึงตัวเองไม่ไปไหนอยู่อย่าง นั้น รอเวลาให้สัตว์กินหญ้ากลืนมดเข้าไปถูกย่อยในทางเดินอาหารและพยาธิก็จะได้ออก มาเจริญเติบโต สืบพันธุ์ในร่างกายของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมต่อไป แต่หากมดไม่ถูกกินและตะวันขึ้น รุ่งเช้ามาเยือน อุณหภูมิสูงขึ้น มดงานตัวดังกล่าวก็จะปล่อยกรามออก และเดินทางกลับเข้าฝูง ดำรงกิจกรรมต่างๆตามปกติ (ผีดิบจริงๆเห็นมั้ย) เนื่องจากหากยังแขวนตัวอยู่อย่างนั้นก็มิวายจะถูกแดดเผาตายทั้งมดทั้งพยาธิ พอราตรีมาเยือนก็กลับไปปีนยอดหญ้าอีก


    <center></center><object width="640" height="390">


    <embed src="http://www.youtube.com/v/lGSUU3E9ZoM&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always" width="640" height="390"></object>


    เพรียงเปลี่ยนปูเป็นกะเทย
    Sacculina


    Sacculina คือชื่อจีนัสของเพรียงปรสิตปูชนิดหนึ่ง Sacculina ตัวอ่อนเพศเมียจะว่ายน้ำจนเจอกับปูตัวผู้ซึ่งเป็น host (ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องเจาะจงปูตัวผู้) เมื่อ Sacculina พบ host ก็จะคืบคลานบนแผ่นกระดองของปูจนถึงส่วนข้อต่อกับตามขาหรือลำตัว ปูที่โชคร้ายจะพยายามสะบัดปรสิตออกแต่ก็ยากที่จะสำเร็จ Sacculina ตัวเมียจะแทรกตัวเข้าไปตามเนื้อปู ในที่สุดปูก็จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม หาอาหารเพื่อป้อนให้กับปรสิต และเลิกสนใจสืบพันธุ์กับเพศตรงข้าม บริเวณท้องปูมีขนาดขยายใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเพื่อเป็นที่อยู่ของปรสิต Sacculina จะปล่อยเส้นด้ายจากบริเวณท้องไปทั่วร่างกายเหยื่อเพื่อดูดซึมอาหารและปล่อย สารเคมีบางอย่างเพื่อเปลี่ยน hormonal balance ของ host

    Sacculina เพศผู้ก็ล่องลอยมาตามน้ำเพื่อมาผสมพันธุ์กับตัวเมียบนท้องปู เมื่อการผสมพันธุ์เสร็จสิ้นลง ปูตัวผู้นี้ก็จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเป็นเพศเมีย ปูกะเทยจะมีพฤติกรรมปกป้องดูแลหวงแหนไข่ปรสิตบริเวณท้องราวกับเป็นไข่ของตน เอง และเมื่อปรสิตฟักออกจากไข่แล้วยังเอาก้ามปูช่วยพุ้ยน้ำเพื่อให้ตัวอ่อนปรสิต กระจายสู่แหล่งน้ำต่อไปอีกด้วย


    หนอนหนวดหอยทาก
    Leucochloridium paradoxum


    L. paradoxum เป็นพยาธิตัวแบนที่เป็นปรสิตในนก แต่มี intermediate host เป็นหอยทาก เมื่อตัวอ่อน L. paradoxum เข้าสู่ร่างกายของหอยทาก มันจะเจริญเติบโตในทางเดินอาหารของหอยทาก เมื่อโตขึ้นก็อาศัยอยู่ในโครงสร้างคล้ายท่อที่เรียกว่า broodsacs ภายในบรรจุพยาธิ 10-100 ตัว ท่อ broodsacs ดังกล่าวจะเคลื่อนที่ไปยังก้านตาของหอยทาก ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอันน่าสะพรึง ก้านตาหอยทากจะบวมเป่งขึ้น มีการสั่นไหวเป็นจังหวะและมีสีสันฉูดฉาดตา การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวยังไปรบกวนการรับรู้แสงของหอยทากอีกด้วย ทำให้จากเดิมนิสัยหอยทากนั้นชอบอยู่ที่มืดก็กลายเป็นไม่เกรงกลัวต่อแสงสว่าง หอยทากจะปรากฏตัวในที่โล่ง ลักษณะก้านตาที่บวมเป่งมองไกลๆก็คล้ายตัวหนอนจะล่อให้นกบินมาจิกกิน นกที่กินหอยทากเข้าไปก็จะได้รับพยาธิจำนวนมากเข้าสู่ร่างกาย

    จำได้ว่าพยาธิตัวนี้ถูกเอาไปใช้เป็นพล็อตในการ์ตูนญี่ปุ่นแนวสยองขวัญสักเรื่องหนึ่งด้วยนะ


    <center>[​IMG]
    </center>
     
  17. manganiss

    manganiss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2009
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +636

    น่ารักฮะ ภาพนี้ แต่มันน่าโดนกินจริงๆ
     
  18. AFIKLIFI

    AFIKLIFI Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    560
    ค่าพลัง:
    +53
    โหคุณหาได้ หลายชนิดมาก พวกนี้มันจัดอยู่ใน Ophiocordyceps หรือเปล่านะเพราะว่ามันสามารถควบคุมจิตใจได้ ขอบคุณมากครับสำหรับข้อมูลจะได้เอาไว้ระวังตัว 55
     
  19. pakung

    pakung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,625
    ค่าพลัง:
    +429
    สัตว์ประหลาด !@@##$#%$&^%$(*&^%$#@
     
  20. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
     

แชร์หน้านี้

Loading...