เว็บพลังจิต ปฎิทินพลังจิตธรรมสัญจร 54

บันทึกการเดินทาง ตอน วัดมังกรบุปผาราม - วัดทองทั่ว

ใช้เส้นทางจากจันทบุรี ไปสู่ อ.ขลุง เพื่อเดินทางไปยังวัดมังกรบุปผาราม (เล่งฮั่วยี่) ถึงวัดในเวลา ๐๙.๔๐ น. ได้ให้เวลาทุกคนที่นี่ ๔๐ นาที

สภาพวัดเป็นศิลปะแบบจีนนิกายมหายาน มีประวัติความเป็นมาริเรื่มก่อสร้างวัดตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๕ ซึ่งความเกี่ยวเนื่องของวัดตามคติความเชื่อของชาวจืน คือเป็นส่วนหางมังกร โดยส่วนหัวอยู่ที่วัดมังกรกมลวาส (เล่งเน่ยยี่) จ.กรุงเทพมหานคร ส่วนท้องอยู่ที่ วัดจีนประชาสโมสร (เล่งฮกยี่) จ.ฉะเชิงเทรา

เมื่อผ่านลอดใต้ซุ้มประตูวัด ลานวัดด้านหน้าด้านซ้าย-ขวา คือหอแปดเหลี่ยมที่ตกแต่งด้วยโมเสคอย่างงดงาม หอด้านซ้ายเป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อหลวงจีนคณาณัติจีนพรต อดีตเจ้าอาวาสวัด หอด้านขวาเป็นรูปของเทพเจ้ากวนอู

บริเวณลานน้ำพุด้านหน้า ประดิษฐานรูปองค์เจ้าแม่กวนอิม และวิหารท้าวจตุโลกบาล ภายในวิหารประดิษฐานพระศรีอารยเมตไตรยโพธิสัตว์ ด้านหลังเป็นพระสกันทโพธิสัตว์ และพระพุทธปฎิมาเป็นพระประธาน ๓ องค์ และพระสาวก

เมื่อเดินลึกเข้าไปด้านหลังพระอุโบสถ จะเป็นวิหารสุขาวดี ภายในประดิษฐานพระปฎิมาพระอมิตาพระพุทธเจ้า ด้านข้างเป็นรูปภาพของพระอาจารย์จีนวังสมาธิวัตร ซึ่งเป็นปฐมเจ้าคณะใหญ่ผู้สถาปนาวัดมังกรบุปผาราม ในสมัยของรัชกาลที่ ๕

ไหว้พระ-สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แก้เคล็ด เสริมโชคลาภกันตามอัธยาศัย ก่อนที่จะพร้อมกันที่รถในเวลา ๑๐.๒๐ น. เพื่อเดินทางต่อไปยัง วัดทองทั่ว เป็นสถานที่ต่อไป

วัดทองทั่ว ถือเป็นวัดเก่าแก่คู่เมืองจันทบูรอีกหนึ่งวัด เมื่อออกจากวัดมังกรบุปผาราม ใช้เส้นทางเพื่อวิ่งกลับเข้าสู่ตัวเมืองจันทบูร ขับรถตรงมาไม่ถึง ๕ นาที วัดอยู่ทางด้านซ้าย เป็นเส้นทางเดียวกับไปโบราณสถานเมืองพเนียด

สภาพวัด มีพระอุโบสถหลังเก่าที่ได้รับอิทธิพลมาจากสมัยขอมเรืองอำนาจ ด้านหน้ามีสิงห์นั่งแกะสลักด้วยหินทรายสีแดง ส่วนพระอุโบสถหลังใหม่ มีรูปปั้นยักษ์ ๒ ตนประดิษฐานอยู่หน้าซุ้มประตูโบสถ์ ตรงข้ามพระอุโบสถหลังเก่า มีเจดีย์ทรงระฆังคว่ำ ตั้งอยู่ด้านหน้า ด้านขวามีศาลาเรือนไทย ซึ่งจัดเป็นพิพิธภัณฑ์เมืองพะเนียด

เมื่อก้าวเท้าขึ้นสู่เรือนไทย ด้านซ้ายคือรูปเหมือนของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ขวามือคือพระปฎิมา และเมื่อเดินผ่านบันไดปูนเข้าสู่ช่วงสุดท้าย นั้นคือ พิพิธภัณฑ์สถานเมืองเพนียด

ประวัติของเมืองเพนียด คือเมืองโบราณในสมัยขอมเรืองอำนาจ แต่เกิดจากความโลภและขัดแย้งกันของกษัตรย์ผู้ครองเมืองระหว่างโอรสของมเหสีองค์เก่า และโอรสของมเหสีองค์ใหม่ (พระนางกาไว) ทำให้เกิดการสู้รบชิงเมือง และทำให้เมืองต้องล่มสลายและถูกทิ้งรกร้างไปในที่สุด

ยุคสมัยปัจุบัน พื้นที่ของเมืองพเนียดเดิมได้ถูกชาวบ้านรุกล้ำและทำลายแนวกำแพงเมือง คูเมืองเก่าทิ้งด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำให้ร่องรอยของโบราณสถานสูญหายไปมาก แต่สิ่งที่ยังหลงเหลือและค้นพบที่นำมาเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ ก็ทรงคุณค่าเหลือประมาณ

ชาวคณะฯ ใช้เวลาไหว้พระ ร่วมกันสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และชมประวัติศาสตร์เมืองเพนียดเสร็จสิ้นในเวลา ๑๑.๒๐ น. ได้เวลาเดินทางต่อไปยังวัดไผ่ล้อม พระอารามหลวง

 

บันทึกการเดินทาง ตอน วัดไผ่ล้อม-ศาลหลักเมือง-ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

ก่อนเดินทางถึงวัดไผ่ล้อม ผ่านเส้นทางเข้าไปสู่น้ำตกคลองนารายณ์ จขกท. ได้แต่ส่งใจไปกราบยมัสการสักการะรอยพระพุทธบาทคลองนารายณ์ ปีนี้เป็นปีแรกที่เดินทางไปถึงเมืองจันท์ แล้วไม่ได้ไปกราบนมัสการสักการะรอยพระพุทธบาทหรืออาจจะเป็นเพราะปิดวาระของสถานที่นี่ไปแล้วกระมัง แต่ก็ยังดีใจที่เมื่อได้โทรสอบถามพี่ อบต. คลองนารายณ์ที่น่ารักและน้ำใจงาม พี่ตอบกลับมาว่าชาวบ้านและคนในพื้นที่ยังช่วยกันดูแลอยู่

เดินทางถึงวัดไผ่ล้อม พระอารามหลวงในเวลา ๑๑.๓๐ น. ได้ให้เวลาทุกคนที่นี้ ๔๐ นาที่เช่นเดิม วัดไผ่ล้อม เ็ป็นวัดเก่าแก่ของเมืองจันทบูร โดยสิ่งที่ยังหลงเหลืออยู่ภายในวัด อาทิเช่น กุฎิพระ ศาลาการเปรียญมีไม้ฉลุอายุกว่า ๑๐๐ ปี อย่างงดงาม พระอุโบสถหลังใหญ่ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางไสยาสน์ ซึ่งจากบันทึกแจ้งว่าเป็นพระพุทธรูปปางไสยาสน์องค์ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก ภายในพระอุโบสถมีพระพุทธบาทจำลอง และลูกนิมิตรให้ได้ร่วมกันกราบไหว้สักการะและปิดทองถวายเป็นพุทธบูชา

ปัจจุบันมีพระธรรมรงค์มุนี อายุ ๑๐๒ ปีเป็นเจ้าอาวาส แต่ชาวคณะไม่ได้ไปกราบไหว้ เนื่องจากตอนที่ติดต่อมาทราบว่าหลวงพ่อมีสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง เสร็จสิ้นจากวัดในเวลา ๑๒.๑๕ น. ที่เหลือคือเวลาพักรับประทานอาหารกลางวันกันที่ตัวเมืองจันท

แจ้งทุกคนว่าให้เวลารับประทานอาหาร ๑ ชม. ส่งสมาชิกชุดแรกที่ร้านลิ้มหมู่สะเต๊ะ ซึ่งเป็นร้านชื่อดังของเมืองจันท ก่อนที่ จขกท. และสมาชิกอีก ๑๑ คน จะตะเวนไปหาของดีเมืองจันท นั่นคือ หมูชะมวง และไม่ผิดหวัง ๑๒ คนกับอาหารมื้อกลางวันที่แสนอร่อย ถูกปากที่ร้านจันท์โภชนา เมนูที่สั่งมาข้าวเปล่า ๒ โถ อาหารอย่างละ ๒ ชุด ประกอบด้วยหมูชะมวง ผัดไทยเส้นจันท์ ถั่วฝักยาวผัดกระปิกุ้ง น้ำพริกแสร้งว่า และปิดท้ายด้วยลอมาจู หรือต้มส้มญวน อาหารทุกอย่างหมดเรียบภายในพริบตา กับราคาสบาย ๆ กระเป๋าของทุกคน

จขกท. ไม่ได้ลองแวะซื้อไอศกรีมโบราณและสาละลอยแก้วที่ขึ้นชื่อของที่นี่ เนือ่งจากหมองดดื่มน้ำเย็น และรับประทานของพวกนี้ แต่สมาชิกหลายคนที่ได้มีโอกาสลิ้มลอง บอกว่า..... อร่อยมาก ฮึ! ฝากไว้ก่อนเถอะโอฬาร หายดีกลับมาเมืองจันท์อีกเมื่อไร ไม่พลาดแน่นอน....

ขึ้นรถเดินทางมาต่อที่ศาลหลักเมือง แจ้งทุกคนว่าให้ไปกราบไหว้สักการะศาลหลักเมืองก่อนที่จะเดินข้ามถนนไปไหว้สักการะศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชที่อยู่ด้านข้าง ตัว จขกท.มาบ่อย เพราะฉะนั้นใช้เวลาไม่นานในการสักการะ และมานั่งพักรอทุกคนที่หน้าซุ้มประตูหน้าศาล ระหว่างนั้น พขร.รถบัสได้เดินมาบอกว่า ทหารให้นำรถเข้าไปจอดในค่ายตากสิน ฮ้า! จขกท. ร้องออกมาด้วยความงุนงง ว่าเป็นไปได้หรือ เพราะปกติมากี่ครั้ง ต่อให้รถแน่นเต็มลานขนาดไหน ไ่ม่เคยเห็นให้เข้าไปจอดภายใน แต่นี่ลานจอดรถออกว่าง คนที่มาก็ไม่หนาแน่นสักเท่าไร เรียกว่า ได้กราบไหว้และจอดรถกันอย่างสบาย แต่เอาเุถอะ เมื่ออนุญาต ก็ได้บอกน้อง พขร. ให้เลื่อนรถเข้าไปจอดในค่ายทันใด

ดักรอแจ้งทุกคนว่า รถจอดอยู่ในค่าย จนมากันครบ ก่อนที่จะเดินตามทุกคนไปขึ้นรถเป็นคนสุดท้าย..... เมื่อเดินผ่านประตูหน้าค่ายเข้าไป สิ่งที่สะดุดตาและสะดุดใจขึ้นมากระทันหัน คือรูปหล่อขององค์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ในท่ายืนประทับ พระหัตถ์ขวาถือพระแสงดาบ รีบเดินไปขออนุญาตหัวหน้าสารวัตรทหารว่า ขออนุญาตถ่ายรูปภายในค่ายได้หรือไม่ คำตอบคือ "ได้ครับ" ไม่รอช้า รีบเรียกสมาชิกทุกคนให้ลงจากรถ และภาพหมู่ของชาวคณะฯ หน้าอนุสาวรีย์อันงดงามก็บังเกิดขึ้น ท่ามกลางการนั่งมองของทหารหน้ากองอำนวยการนับสิบนาย

เสร็จสิ้นจากสถานที่นี้ มองนาฬิกาข้อมือ เป็นเวลา ๑๔.๓๐ น. เวลายังเหลืออีกมากกับอีก ๒ สถานที่ คือ วัดพลับและวัดเขาสุกิม พขร. แจ้งว่า ได้สอบถามเส้นทางไปวัดพลับแล้วทราบว่าเป็นเส้นทางคดเคี้ยว รถบัสไปได้แต่อาจจะไม่คล่องตัว จะเพิ่มสถานที่ไหนต่อ คิดในใจว่า ในเมื่อโดนปิด วาระวัดพลับยังไม่เปิดให้ไปก็ยังไม่ขอฝืน ได้แจ้งสมาชิกทุกคนในรถทราบไปตรง ๆ ถึงสภาพเส้นทางของวัดพลับ และเสนอทางเลือกให้ไปแวะซื้อของฝากกันที่ตลาดหรือว่าจะไปวัดเขาสุกิม หลายเสียงตอบมาว่า ขอไปวัดเขาสุกิม ได้เวลาบ่ายหน้าออกจากตัวเมืองจันท์ไปยังวัดเขาสุกิมทันใด

 

บันทึกการเดินทาง ตอน วัดเขาสุกิม

ออกจากตัวเมืองจันท์ เดินทางเพื่อไปยังวัดเขาสุกิม ย้อนเส้นทางที่เพิ่งเดินทางจากมากในตอนเช้า เมื่อผ่านสามแยกที่ต้องเลี้ยวขวาเพื่อเดินทางต่อไปยังพระพุทธบาทพลวง ได้แต่ตั้งจิตอธิษฐานส่งใจขึ้นไปกราบสักการะอีกหนึ่งรอบ ก่อนที่จะเดินทางถึงวัดเขาสุกิมในเวลา ๑๕.๐๐ น. แจ้งทุกคนว่าให้เวลาที่นี่ ๑.๓๐ ชม. ขอให้ใช้เวลาให้เต็มที่ตามอัธยาศัย พร้อมกันที่รถเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในเวลา ๑๖.๓๐ น.

หลายคนยังไม่เคยมา ได้แต่แนะนำสถานที่ไปว่า ให้เดินไปในทิศใด และไปกราบที่ไหนบ้าง ส่วนตัว จขกท. แยกไปกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เพิ่งสร้างใหม่และเดินชมวัตถุสถานที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซื้อของฝาก ก่อนที่จะเดินกลับมานั่งพักผ่อนรอทุกคนที่รถ

๑๖.๓๐ น. ได้เวลาล้อหมุนออกจากวัด เพื่อเดินทางกลับถึงจุดหมายปลายทางสุดท้าย คือกรุงเทพมหานคร ที่ทุกคนจากมาเมื่อวาน จขกท. ปิดสวิทซ์ตัวเองนอนหลับสนิทมาตลอดเส้นทาง มารู้สึกตัวตื่นในช่วงทางแยกเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ ส่งสมาชิกทั้ง ๑๑ คนลงที่หน้าห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาราม ๒ และส่งสมาชิกที่เหลือที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. สนามเป้าในเวลา ๒๐.๒๐ น เป็นอันปิดทริปกิจกรรมบุญทีมีแต่เขา ไม่มีเรา......ของเดือนนี้อย่างบริบูรณ์

ญ.ผู้หญิง
๒๗ มี.ค.๕๔

 

ขออนุญาตยกเอาข้อมูลของธรรมเฉพาะกิจ (๓) จากกระทู้ปฎิทินพลังจิตธรรมสัญจร หน้าที่ ๒๕ แยกออกมาวางเป็น คคห.ใหม่ เพื่อความสะดวกในการปรับปรุงข้อมูล

 

เล่าแจ้งแถลงไข...

ได้รับภาพจากสมาชิกหลายท่านแล้ว ขอเวลาย่อภาพสักนิดแล้วจะนำมาลงให้ได้รับชม ช่วงนี้ขอเรียนเชิญสมาชิกร่วมเล่าความรู้สึก ความประทับใจในทริปนี้ได้ค่ะ

สำหรับทริปธรรมเฉพาะกิจ (๓) ร่วมสืบสานวัฒนธรรมและประเพณีไทย วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) ที่สอบถามมาถึงเรื่องการแต่งกายผ้าไทย ซึ่งบางคนไม่คุ้นเคย ขอตอบว่า ผ้าไทยในที่นี้ไม่ใช่ชุดไทย แต่อาจจะเป็นเสื้อ หรือกางเกง หรือผ้านุ่งที่มีเอกลักษณ์ลวดลายของความเป็นไทย ไม่ใช่แต่งกายแนวเสื้อยืด กางเกงยีนส์ กางเกงขาสั้น หรือเสื้อสายเดี่ยว คอลึก เอวลอย เนื่องจากชื่องานก็บอกอยู่แล้วว่า "สืบสานวัฒนธรรมและประเพณีไทย"

ส่วนงานเป่ายันต์เกราะเพชร วัดท่าขนุน ในวันเสาร์ที่ ๗ พ.ค. หลายคนสอบถามเข้ามาว่าจัดรถไปหรือเปล่า เพราะเ็ห็นว่าวันที่ตรงกับงานโครงการพระพุทธศาสนาสงเคราะห์ ฯ (๔) ที่พระเดชพระคุณพระสมุห์ปรินทร์ (หลวงพี่เอก) ท่านจะจัดทำสิ่งของไปมอบให้กับทหารในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนใต้ ขอตอบว่า พระเดชพระคุณหลวงพี่เอกท่านจะเดินทางไปมอบสิ่งของเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับทหารด้วยมือท่านเอง โครงการนี้ จขกท. ไม่ได้ร่วมเดินทางไปด้วยเหมือนเช่นทุกครั้ง แต่ทำหน้าที่ตามที่ท่านได้เมตตามอบหมายให้ทำ คือการเป็นสะพานบุญบอกบุญสำหรับกัลยาณธรรมทุกท่านได้ร่วมบุญกันเข้ามา

เพราะฉะนั้น งานเป่ายันต์เกราะเพชรวัดท่าขนุน ในวันเสาร์ที่ ๗ พ.ค. จัดรถเดินทางไปแน่นอน แล้วยิ่งปีนี้มีเสาร์ ๕ เพียงครั้งเดียว จะพลาดได้อย่างไร

โมทนาค่ะ

 

สวยงามมากค่ะ หรือจะเปลี่ยนเป็นเสื้อคอกระเช้าแทนเสื้อยืด ก็เก๋ดีไม่หยอก วันนี้ถ้าว่างจะนำชุดไทยสำหรับสวมใส่ไปวัด แบบหลากหลายมาลงให้ดูเป็นตัวอย่าง

รับทราบค่ะ ว่าแต่เป็นคมน์เองหรือว่าเป็นคุณแม่ ถ้าเป็นคมน์แนะนำให้ใส่ชุดม่อฮ่อม หรือไม่ก็นุ่งโสร่งแดง เสื้อผ่าอกกระดุมผูกแขนยาวแบบหนุ่มมอญ หรือไม่ก็นุ่งผ้าม่วงโจงกระเบน สวมเสื้อราชประแตนแบบหนุ่มไทย แต่ถ้าเป็นคุณแม่ ประเดี๋ยวพี่จะนัดกับคุณแม่นุ่งผ้าซิ่น สวมเสื้อคอกระเช้ากันไปค่ะ ฮิ ฮิ ฮิ

ว่าแล้ว.... ก็ขอเปิดรับผู้กล้าที่รักความเป็นไทย ร่วมแต่งชุดไทยไปงานสืบสานวัฒนธรรมและประเพณีไทย ณ วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) ในวันจักรีอีก ๑ ท่านค่ะ


;aa59 ถ้าคมน์นุ่งผ้าม่วง สวมเสื้อราชประแตน พี่ขอแนะนำต่อว่า ต้องทำผมทรงหวีแสกตรงกลาง และถือไม้เท้าหัวเงินสักอัน (นึกภาพตามนะ) คุ้น ๆ หรือเปล่าจ้ะว่าเหมือนใคร

 

รับทราบและขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง

หมายเหตุ
อ่านรายละเอียดของกองทุนบึงลับแลได้ที่หน้า ๑ คคห.ที่ ๙ คลิก

 

ขอเปิดรับผู้รักความเป็นไทย ร่วมแต่งกายชุดไทย สืบสานงานวัฒนธรรมและประเพณีไทย ณ วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) ในวันพุธที่ ๖ เม.ย. จำนวน ๖ คน​

 

ใส่ชุดนักรบ โจงกระเบน + โชว์พุง 6 ชั้น

 

พี่ว่าขาดอีก ต้องให้น้องปาล์มนุ่งโจงกระเบนสีน้ำเงิน น้องแทนนุ่งโจงกระเบนสีทอง ที่นี้ล่ะ ถ่ายรูปออกมา..... สุดยอด

ไม่ถึงขนาดนั้นค่ะ เพียงแต่ถ้าใส่ชุดไทย เกล้ามวยเก็บผมจะดูเรียบร้อย สวยสง่า เหมาะกับชุด แต่ถ้าไม่ถนัดนุ่งผ้าซิ่น พี่ก็ขอแนะนำให้สวมกางเกงเล กระเปรงที่ออกแนวผ้าไทยก็ได้ ที่สวนจตุจักรมีขาย ลองไปเดินดูได้ตามอัธยาศัยหรือถ้าไม่อยากลงทุนไปขอยืมผ้าซิ่นคุณย่าคุณยาย และหาเสื้อลูกไม้แขนกระบอกขนาดพอดีตัว พร้อมทั้งผ้าสไบลูกไม้อีกสักผืน เพียงเท่านี้ก็ครบสูตรแล้ว

หมายเหตุ
จริง ๆ การแต่งกายด้วยผ้าไทยหรือนุ่งผ้าซิ่น สวมเสื้อแขนกระบอก ห่มสไบ ผู้เฒ่าผู้แก่ในต่างจังหวัดยังนิยมนุ่งหรือสวมใส่ไปวัดกันมาก ยังพบเห็นได้ทั่วไปค่ะ