ภาพกลุ่มควันคล้าย หน้ากากอาถรรพ์โบราณ หลังสึนามิถล่มญี่ปุ่น

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย chate_SP, 29 มีนาคม 2011.

  1. chate_SP

    chate_SP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2005
    โพสต์:
    297
    ค่าพลัง:
    +220
    ตะลึงหลังเผยแพร่ภาพ "ควันปริศนา" ซึ่งเชื่อว่าเป็นคล้ายกับภาพมัจจุราช ปรากฏบนท้องฟ้า หลังเหตุการณ์สึนามิถล่มประเทศญี่ปุ่นราบคาบ...

    [​IMG]

    สยดสยองและกลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ทันที เพราะมีคนไทยตาดีตั้งข้อสังเกตผ่านไทยรัฐออนไลน์กับภาพปริศนาเป็นควันสีดำทะมึนขนาดมหึมาพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าหลังจากสึนามิเข้ากลืนประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11-03-2011 สร้างความเสียหายมหาศาล บ้างก็ภาพควันว่าเป็นภาพมัจจุราช บางคนบอกว่าเป็นภาพคล้ายกับหน้ากากอาถรรพ์ของประเทศญี่ปุ่น หรือ “คะบูกิ” (หรือคนทั่วไปเรียกว่า คาบากิ) ศิลปะดั้งเดิมในสมัยโบราณของประเทศญี่ปุ่น

    เมื่อไทยรัฐออนไลน์ลองนำภาพดังกล่าวมาวิเคราะห์และตรวจสอบพบว่าภาพปริศนาที่ว่าเป็นถ่ายความเสียหายมุมสูงของจังหวัดฟุกุชิมาหลังคลื่นสึนามิถล่มญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2011 “จริง” แต่หากมองภาพปริศนาดังกล่าวด้วยมุมปกติ จะไม่สามารถเห็นภาพหน้ามัจจุราชดังกล่าวได้ชัดเจนเท่าไหร่
    ภาพถ่่ายอีกด้านหนึ่งของภาพปริศนา

    [​IMG]

    ทว่าเมื่อลองนำภาพกลุ่มควันสีดำซึ่งกำลังพวยพุ่งกลับภาพถ่ายลง สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าก็สร้างความประหลาดใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากภาพดังกล่าวมีลักษณะน่ากลัวและชวนขนหัวลุกอย่างยิ่ง ยิ่งเมื่อลองนำภาพหน้ากาก “คะบูกิ” ซึ่งเป็นหน้ากากอาถรรพ์ของประเทศญี่ปุ่นแล้วยิ่งชวนสยดสยองไปใหญ่

    สำหรับประวัติความเป็นมาของหน้ากาก “คะบูกิ” ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าเป็นศิลปะการแสดงแบบดั้งเดิมที่ของประเทศญี่ปุ่นเกิดขึ้นในศตวรรษที่ 17 โดยนางรำที่ชื่อว่า Izumo no okuni แต่ในสมัยนั้นยังไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่ เนื่องจากไม่ประณีตและวิจิตรบรรจงเท่ากับปัจจุบัน

    เดิมละครคะบูกินั้นใช้ผู้หญิงเล่นเป็นตัวนาง ซึ่งผู้หญิงเหล่านั้นมักจะเป็นโสเภณี แต่เพราะเป็นผู้หญิง การแสดงจึงดูอ่อนช้อยและงดงาม แต่ในสมัยโทคุกาวามีการห้ามโดยเด็ดขาด ด้วยเห็นว่าไม่ดีงามต่อศีลธรรม ตัวละครจะมีการเคลื่อนไหวที่กระฉับกระเฉง แสดงออกซึ่งท่าทางที่มีความหมาย เช่น ร้องไห้ เสียใจ ดีใจ โกรธ บ้าคลั่ง ฯลฯ จึงทำให้ละครคาบูกิเป็นที่นิยมดูกัน

    การแสดงถูกอัพและพัฒนามาเรื่อยๆ จนกลายเป็นที่นิยมที่สุดในสมัยเอโดะศตวรรษ ที่ 20 แต่ไม่ถูกจัดว่าเป็นละครคลาสสิคเนื่องจากคะบูกิเป็นรูปแบบความ บันเทิงที่ผสมผสานกันหลากหลาย ตั้งแต่ดนตรี การร่ายรำ การเล่าเรื่องตลกชวนหัว เรื่องเศร้าซึ้งและทุกอย่างที่ผู้ชมต้องการดู ในละครคะบูกิไม่มีผู้แสดงหญิง ใช้นักแสดงชายแสดงเป็นผู้หญิง

    [​IMG]

    โดยเนื้อเรื่องของการแสดงคะบูกิจะมีอยู่ 2 ประเภท คือเรื่องเกี่ยวกับสังคมซามูไร ตำนานวีรบุรุษ เวทมนต์และเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ และอีกประเภทคือเรื่องราวชีวิตของชาวเมืองเรื่องเศร้าเคล้าน้ำ ละครคะบูกิเป็นเป็นการแสดงที่เต็มไปด้วย ฉากที่ตื่นเต้นเร้าใจและมักจะต้องมีการต่อสู้กันเกิดขึ้นมากมายในเนื้อเรื่อง

    หากจะสังเกตหน้าตัวแสดงให้ดี จะมีการแต่งหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะที่ตาจะดูน่ากลัวมาก และบทพูดก็ฟังยากมาก แม้กระทั่งคนญี่ปุ่นเองก็ยังฟังเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างแต่ก็ดูขลังดีการแต่งตัวจะแต่งตัวให้บ่งบอกถึงบทของคนนั้น เช่นตัวผู้ดีหรือพระเอกจะถือร่มกระดาษ คาดผ้าคาดหน้าผาก และพกดาบสั้นไว้ที่เอว แต่ถ้าเมื่อไรพระเอกหรือตัวเอกถูกฆ่า การแต่งกายจะเปลี่ยนไปในรูปเกินจริง กล่าวคือเป็นวิญญาณที่มีอำนาจหวนกลับมาแก้แค้น ที่เด่นชัดที่สุด และคิดว่าใครๆก็เคยเห็น เพราะมักจะเอามาเป็นสัญลักษณ์ของคะบูกิ ก็คือชายที่หน้าขาว มีลวดลายสีดำและสีแดงบนใบหน้า หน้าตาดุดัน

    ขณะที่ วิกิพีเดียระบุว่าถึงคะบูกิคล้ายกันว่า เป็นศิลปการแสดงของ‪ญี่ปุ่น โดยมีการแต่งหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ มีการเคลื่อนไหวที่กระฉับกระเฉงแสดงออกซึ่งท่าทางที่มีความหมาย เช่น ร้องไห้ เสียใจ โดยมีเนื้อเรื่อง 2 ประเภท คือเรื่องเกี่ยวกับสังคม‪ซามูไร และ เรื่องราวชีวิตของชาวเมือง

    คะบูกิ เริ่มต้นในตอนต้นของศตวรรษที่ 17 โดยมีการเปิดการแสดงใน‪เกียวโต โดยคณะละครที่ประกอบด้วยผู้ร่ายรำสตรีที่นำโดยผู้ดูแลศาลเจ้าอิซุโมะ แต่หลังจากนั้นปี ‪ค.ศ. 1629 ได้มีประกาศรัฐบาลห้ามสตรีแสดงด้วยมีจุดประสงค์ที่จะรักษา‪ศีลธรรมของประชาชน ดังนั้นคะบุกิจึงแสดงโดยเด็กหนุ่มและเมื่อรัฐบาลห้ามมิให้เด็กหนุ่มแสดงคะบุกิจึงแสดงโดยผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่

    ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวต่างประเทศได้มีการกล่าวถึงภาพควันดำพวยพุ่งหลังจากเหตุการณ์สึนามิถล่มที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11-03-2011คล้าย แบบนี้เช่น ว่าเป็นภาพคล้ายกับอนุสาวรีย์ของ ด.ญ.ซาดาโกะ ซาซากิ (Sadako Sasaki) ซึ่งเสียชีวิตเพราะสหรัฐอเมริกาทิ้งระเบิดใส่เมืองฮิโรชิมา ทำให้เธอได้รับสารกัมมันตภาพรังสี และทนทุกข์ทรมาณมาหลายปี ที่สุดก็เสียชีวิตลง

    [​IMG]

    สำหรับ ประวัติเด็กหญิง ซาดาโกะ ซาซากิ (Sadako Sasaki) เกิดเมื่อวันที่ 7 มกราคม 1943 ที่เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น ต่อมาในวันที่ 6 สิงหาคม 1945 ขณะที่เธอมีอายุได้เพียง 2 ขวบ เครื่องบินของกองทัพสหรัฐอเมริกาได้ทิ้งระเบิดปรมาณูลูกแรกของโลกที่มีชื่อว่า “‪Little Boy” ใส่เมืองฮิโรชิมา โดยจุดที่ระเบิดตกลงมานั้นอยู่ไม่ไกลจากบ้านของเธอ ตลอดระยะเวลา 10 ปีหลังจากนั้นเธอต้องกลายเป็นหนึ่งในเหยื่อที่ต้องเจ็บป่วยด้วยอาการโรคมะเร็งในเม็ดเลือดขาว หรือ ลูคีเมีย จากผลของสารกัมมันตภาพรังสีจากระเบิดนิวเคลียร์ในครั้งนั้นนั่นเอง หลังจากที่เธอต่อสู้กับโรคร้ายมานาน ในที่สุด เด็กหญิงซาดาโกะก็ได้เสียชีวิตลงในวันที่ 25 ตุลาคม1955 ขณะอายุได้ 12 ปี

    สิ่งหนึ่งที่ทั่วโลกจดจำได้เกี่ยวกับเด็กหญิงชาวญี่ปุ่นผู้นี้ คือความพยายามในการพับกระดาษเป็นนกกระเรียนของเธอตามความเชื่อโบราณของชาวญี่ปุ่นที่ว่า “ถ้าหากว่าคนที่เจ็บป่วยสามารถพับนกกระเรียนได้ถึงพันตัว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำให้คนนั้นกลับมามีสุขภาพแข็งแรงอีกครั้งหนึ่ง เพราะนกกระเรียนเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่จะมีอายุถึงพันปี”

    ตอนที่เธอเสียชีวิตนั้น เธอเพิ่งพับนกกระเรียนได้ 644 ตัวเท่านั้นทำให้ในวันประกอบพิธีศพเพื่อนๆ ของเธอต้องร่วมกันพับนกอีก 365 ตัว ให้ครบหนึ่งพันแล้วจึงนำไปฝังพร้อมกับร่างของ ซาดาโกะ.

    ที่มา : สุดฮือฮา พบภาพ 'หน้ากากอาถรรพ์โบราณ' โผล่บนท้องฟ้า หลัง 'สึนามิ' ถล่มญี่ปุ่น - ข่าวไทยรัฐออน
     
  2. chate_SP

    chate_SP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2005
    โพสต์:
    297
    ค่าพลัง:
    +220
    ส่วนตัวผม คิดว่ามันไม่คล้ายเท่าไรนะ - -"
     
  3. vangiras

    vangiras เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    358
    ค่าพลัง:
    +3,218
    มันเป็นจินตนาการของมนุษย์ อย่าไปคิดมาก
     
  4. โดเรม้อน

    โดเรม้อน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    849
    ค่าพลัง:
    +75
    อะไรหัวขึ้นอะไรเอาหัวลง.....................................น่าจะได้รับตำตอบแล่วสินะ
     
  5. ภควันตัง

    ภควันตัง สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +1
    จินตนาการกันไป...แล้วแต่มุมมองแต่ละคน...อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดอยู่ที่ว่าวันนี้เราทำความดีกันหรือยัง..
     
  6. [บุชช่า

    [บุชช่า Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +46
    รูปมัจจุราชเหมือน แต่รูปเด็กหญิง ไม่เหมือนเรย ไม่เกี่ยวเลย
     
  7. Dont"

    Dont" สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    434
    ค่าพลัง:
    +17
    งั้นมันคงจะเป็นรูปอะไรก็ได้ ถ้าอยากไห้เป็น
     
  8. แก้วทิพย์

    แก้วทิพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    450
    ค่าพลัง:
    +2,435
    .ให้กำลังใจค่ะ น้องโดเรมอน แหม เป็น น้องชายของพี่พลังจิต เป๊ะ ว่าแต่ว่าจะดูแลกระดานไหวเหรอคะ ยังไงก็ขอเชียร์
     
  9. โมก

    โมก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +1,737
    เรื่องราวความเชื่อเรื่องกุเป็นตุเป็นตะเป็นปกติของนสพ.ฉบับนี้ จำได้สมัยเด็กๆเมื่อยี่สิบปีก่อนเคยเสนอข่าวเรื่องผีเสื้อแดง เป็นผีสาวท้องแก่ใส่ชุดสีแดงตามเอาชีวิตคน เล่นข่าวเป็นอาทิตย์เดี๋ยวไปโผล่ที่นั่นที่นี่ ทำเอาผู้คนที่ไม่ใคร่ใช้สติพิจารณาตื่นเต้นอลหม่านไปกับเขาด้วย หลังจากนั้นดิฉันและครอบครัวไม่เคยซื้อนสพ.ฉบับนี้อีกเลย ในรูปก็แค่จินตนาการของมนุษย์
     
  10. นักธรรมเอก

    นักธรรมเอก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +761
    ไม่เกี่ยวกันเลย อุตส่าห์เอาภาพกลับหัว ลองนอนหงายมองก้อนเมฆบนฟ้าสิครับ แต่ละช่วงเวลาก็จะเห็นเป็นรูปโน่นนี่ได้หลายอย่าง ตามแต่จินตนาการของคน นานาจิตตัง
     
  11. pk010209

    pk010209 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    973
    ค่าพลัง:
    +2,634
    ไม่เห็นจะเหมือนตรงไหน ก็คิดกันไป
     
  12. devildon32

    devildon32 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    77
    ค่าพลัง:
    +42
    อีกแหระหนังสือพิมพ์ชื่อนี้ เหมือนเวลานั่งมองดูท้องฟ้า เป็นสัตว์โน้นนี้นั้นไม่เห็นจะ อะไรเลย..เฮ้อ..
     

แชร์หน้านี้

Loading...