บวช ๔๗ พรรษาเป็นโมฆะ

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย nunoiyja, 3 พฤษภาคม 2011.

  1. nunoiyja

    nunoiyja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2010
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,733
    เจ้าคุณมหาไข เปรียญ ๖ ประโยค (จ.หนองบัวลำภู)

    ไม่ไปภาวนาผีจะฆ่าเอาให้ตาย สมัยนั้นมีผีใหญ่อยู่ตัวหนึ่ง อยู่วัดมหาชัย มันก็ไปกำคอ กำเอว จะฆ่าทิ้ง บวชมา ๔๗ พรรษา ไม่ได้รับผลอะไรสักอย่างในศาสนา ผีมันกำคอแน่นเข้าๆ จนจะตาย ถ้าไ่ม่ไปภาวนามันจะเอาให้ตาย ท่านจึงยอม พอเช้าจึงไปวัดถ้ำกลองเพล ก็มอบตัวให้หลวงปู่หลุยและหลวงปู่ขาว

    “ขอให้ท่านช่วยสอนในด้านสมถวิปัสสนา เดินจงกรมภาวนา ยืนภาวนา นั่งภาวนาทำอย่างไร แต่คืนนี้ผมไม่เดินหรอก กลัวเสือและกลัวช้าง จะเอาแต่นั่ง”

    “เออดี ไม่เป็นไร นั่งภาวนาทั้งคืนไม่ต้องนอน ” หลวงปู่ขาวบอกวิธีให้

    “นั่งเอาขาขวาทับขาซ้าย มือขวาทับมือซ้าย ทำกายให้ตรง ดำรงสติให้มั่นเฉพาะหน้า ปล่อยวางความอยากและอุปทานปล่อยวางหมดเสียสิ้น ทำใจให้เหมือนดินและน้ำ หรือผ้าเช็ดเท้า หายใจเข้า พุท ออก โธ เท่านั้น อย่าส่งจิตไปอื่น นั่งคืนยังรุ่งนั้นแหละ ถ้านอนแสดงว่าเป็นคนขี้เกียจขี้คร้าน มาเลี้ยงกิเลส"

    ท่านเจ้าคุณก็เจริญในคืนนั้น มีนกเค้าไฟมันมาร้องว่า “อ๊ด…อ๊ด…อ๊ดเถิด”

    แหม…ถึงใจ ธรรมะนี้มันถูกกับความอดทนเป็นตะปะ แผดเผาเสียซึ่งกิเลส จิตก็เลยรวมใหญ่ ลงถึงฐานอุปจารสมาธิ ค้นคว้าในกายนี้เกิด แก่ เจ็บ ตาย ถึงสภาพตายก็ตายพื้บ ท่านก็เพ่งอืดพองเปื่อยเน่าขึ้น เห็นแจ้งชัด ท่านก็ใช้ปัญญาถอนสังโยชน์ ๓ ขาดจากใจทีนี้ ความหิวโหยอยากนอนไม่มี กลัวเสือ กลัวช้าง ไม่มี จิตของท่านสว่างผ่องใส น้ำตาไหลคืนยันรุ่ง คิดว่าพึ่งได้บวชวันนี้คืนนี้ แต่ก่อนนี้บวชเป็นโมฆะ ถึงได้เปรียญ ๖ ก็เป็นโมฆะ ๔๗ พรรษาก็เป็นโมฆะ…

    “สาธุ อะโห พุทโธ ธัมโม สังโฆ ข้าพเจ้าเป็นคนประมาท…นึกประมาทแล้วหลวงปู่เสาร์หลวงปู่มั่น หรือหลวงปู่ใดก็ดี หลาย ๆ องค์หลวงปู่ที่ท่านเที่ยวธุดงธ์ภาวนา ประมาทว่าไปนั่งหลับหูหลับตาอยู่ในป่าเขาลำเนาไพรนั้น หาว่าอวดดี และว่าจะได้รู้วิชาอะไร เราเรียนเราจึงได้ นั้นแหละ…ประมาทไปแล้วเพราะความไม่รู้ ขอขมาโทษอย่าให้เป็นบาปเป็นกรรม จะได้ปฏิบัติบูชาคุณท่าน ทั้งหลายตลอดชีวิตไปจนวันตาย”

    ต่อมาในฤดูแล้ง ปีนั้นท่านเจ้าคุณก็ป่วยหนักเป็นโรคตับ ไต เป็นมะเร็ง หมอบอกว่าไม่ไหวแล้วจะสิ้นลมโดยเร็วให้กลับบ้าน… พระหลวงปู่ขาวได้ให้โอวาทบอกแนวทางว่า

    “ตั้งใจดี ๆ นะ อารมณ์อดีต อนาคต ปล่อยวางให้หมด เอาปัจจุบันธรรม พิจารณาทุกข์ ทุกลมหายใจเข้าออก เกิดก็ทุกข์ มีแต่ทุกข์ทั้งนั้น ในโลกทั้ง ๓ นอกจากทุกข์ไปแล้วไม่มี นั้นแหละ มีสติ ปัญญา กำกับจิตให้รู้ทุกข์อย่างนั้น จิตมันจะรื้อถอนเครื่องร้อยรัด อวิชชา ตัณหา สังโยชน์ ปัจจัยให้หมดเสียสิ้น ในขณะนั้น…นั่นแหละ พระอริยสัจเจ้าทั้งหลายในครั้งพุทธกาลโน้น ท่านก็ได้สำเร็จอรหันต์ในขณะที่เจ็บป่วยก็มาก ได้สำเร็จอรหันต์ในระยะสิ้นลมหายใจก็นับไม่ถ้วน”

    คืนนั้นหลวงปู่ขาวไม่นอนนะภาวนาเพ่งดู ช่วยอยู่…
    ท่านเจ้าคุณก็ตั้งใจภาวนา เมื่อจะสิ้นลมในคืนนั้น ปัญญาเกิดขึ้นเห็นพร้อมว่า

    “เรามาอยู่กับกองทุกข์ เกิดก็ทุกข์ ตายก็ทุกข์ ไปโลกหน้าก็ทุกข์ มีแต่กองทุกข์”

    ท่านก็เลยปล่อยวางสังโยชน์ ปัจจัย ๑๐ หมดสิ้นกิเลสในระยะนั้น พอสิ้นกิเลสพื้บก็รู้แจ้งว่าสิ้น…







    ลอกมาจาก
    ๘๐ ปี หลวงปู่ขาว ถาวโร (หน้า ๑๑๔)
    เจ้าคุณมหาไข « The Dark and the Light

    แถมนิดนะครับ แต่ในหนังสือ "ชีวิตแลกธรรม" กลับพิมพ์ว่า "จากหนังสือ "๘๐ ปีหลวงปู่จันทา ถาวโร"(หน้า ๑๑๔) ผมก็ไม่รู้นะว่าจากหนังสือของหลวงปู่ขาวหรือว่าหลวงปู่จันทา เอาเป็นว่า อ่านเอาใจความก็แล้วกัน นะครับ
     
  2. PORNPIMOL

    PORNPIMOL เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2008
    โพสต์:
    139
    ค่าพลัง:
    +545
    อนุโมทนาสาธุค่ะ
    ชอบมากเลยเพราะช่วงนี้ป่วยไม่หาย ไอตลอดเลยค่ะ

    พระหลวงปู่ขาวได้ให้โอวาทบอกแนวทางว่า

    “ตั้งใจดี ๆ นะ อารมณ์อดีต อนาคต ปล่อยวางให้หมด เอาปัจจุบันธรรม พิจารณาทุกข์ ทุกลมหายใจเข้าออก เกิดก็ทุกข์ มีแต่ทุกข์ทั้งนั้น ในโลกทั้ง ๓ นอกจากทุกข์ไปแล้วไม่มี นั้นแหละ มีสติ ปัญญา กำกับจิตให้รู้ทุกข์อย่างนั้น จิตมันจะรื้อถอนเครื่องร้อยรัด อวิชชา ตัณหา สังโยชน์ ปัจจัยให้หมดเสียสิ้น ในขณะนั้น…นั่นแหละ พระอริยสัจเจ้าทั้งหลายในครั้งพุทธกาลโน้น ท่านก็ได้สำเร็จอรหันต์ในขณะที่เจ็บป่วยก็มาก ได้สำเร็จอรหันต์ในระยะสิ้นลมหายใจก็นับไม่ถ้วน”
     
  3. nunoiyja

    nunoiyja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2010
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,733
    ขอให้หายป่วยเร็วๆ แล้วกันนะครับ อย่าลืมกันยาละครับ ภาวนาอย่างเดียวบางครั้งไม่หายนะครับ

    พระบรมศาสดาตรัสไว้ว่า

    โรคบางอย่างรักษาก็หาย ไม่รักษาก็หาย
    โรคบางอย่างรักษาจึงหาย ไม่รักษาไม่หาย
    โรคบางอย่างรักษาก็ตาย ไม่รักษาก็ตาย

    เจริญในธรรมนะครับ
     
  4. หมี พลเสน

    หมี พลเสน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +358
    น้อมกราบพระอรหันต์ และขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับสาธุ สาธุ สาธุ
     
  5. packmilan

    packmilan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +8
    เด็กใหม่

    ผมจะลองนั่งดูถึงเช้า พี่ๆว่าจะควรทำไงดี

    ปล.ผมอยากรู้เรื่องศีล8ใครรู้ช่วยสอนผมหน่ิยจิคับ
     
  6. aumking

    aumking เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    699
    ค่าพลัง:
    +814
    อนุโมทนาสาธุครับ

    เมื่อลงมือปฏิบัติจึ่งรู้แจ้งแทงตลอดอย่าได้มามัวอยู่ในกองสุมแห่งกิเลส
     
  7. k_pe

    k_pe สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +18
    ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ ไม่ต้องถึงเช้าก็ได้ครับ แต่ใ้ห้ทำอย่างสมํ่าเสมอน่ะครับ (ทางสายกลาง)

    ศีล ๘ มีความหมายคือ
    สำหรับฝึกตนให้ยิ่งขึ้นไปโดยรักษาในบางโอกาส หรือมีศรัทธาจะรักษาประจำก็ได้ เช่น แม่ชีมักรักษาประจำ หัวข้อเหมือนศีล ๕ แต่เปลี่ยนข้อ ๓ และเติมข้อ ๖-๗-๘ คือ

    ๑. เว้นจากทำลายชีวิต
    ๒. เว้นจากถือเอาของที่เขามิได้ให้
    ๓. เว้นจากประพฤติผิดพรหมจรรย์ คือเว้นจากร่วมประเวณี
    ๔. เว้นจากพูดเท็จ
    ๕. เว้นจากของเมา คือ สุราเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
    ๖. เว้นจากบริโภคอาหารในเวลาวิกาล คือเที่ยงแล้วไป
    ๗. เว้นจากฟ้อนรำ ขับร้อง บรรเลงดนตรี ดูการเล่นอันเป็นข้าศึกต่อพรหมจรรย์ การทัดทรงดอกไม้ ของหอม และเคลื่องลูบไล้ซึ่งใช้เป็นเครื่องประดับตกแต่ง
    ๘. เว้นจากที่นอนอันสูงใหญ่ หรูหราฟุ่มเฟือย

    อาราธนาศีล 8
    (ถ้าคนเดียวเปลี่ยนจากคำว่า "มะยัง" เป็น "อะหัง" และ "ยาจามะ" เป็น "ยาจามิ")

    มะยัง ภันเต ติสะระเณนะ สะหะ อัฏฐะ สีลานิ ยาจามะ (ว่า 3 ครั้ง)

    ข้าแต่ ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอสมาทานศีล 8 พร้อมด้วยไตรสรณคมน์ เพื่อประโยชน์แห่งการรักษา เป็นข้อ ๆ

    คำสมาทาน ว่า
    ปาณาติปาตา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ (ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการฆ่าสัตว์ด้วยตนเองและไม่ใช่ให้ผู้อื่นฆ่า)

    อทินนาทานา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ (ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการลัก ,ฉ้อ ของผู้อื่นด้วยตนเอง และไม่ใช่ให้ผู้อื่นลัก ฉ้อ)

    อพฺรหฺมจริยา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ (ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากอสัทธรรม กรรมอันเป็นข้าศึกแก่พรหมจรรย์)

    มุสาวาทา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ (ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการพูดเท็จ คำไม่เป็นจริง และคำล่อลวง อำพรางผู้อื่น)

    สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺฐานา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ (ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการดื่มสุรา เมรัย เครื่องดองของทำใจให้คลั่งไคล้ต่าง ๆ )

    วิกาลโภชนา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ (ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากบริโภคอาหารในเวลาวิกาล)

    นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนา มาลาคนฺธวิเลปนธารณมณฺฑนวิภูสนฏฺฐานา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ (ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากพูด ฟัง ฟ้อนรำ ขับรอ้งและประโคมเครื่องดนตรีต่าง ๆ และดูการเล่นที่เป็นข้าศึกแก่กุศล และทัดทรงตกแต่งร่างกายด้วยเครื่องประดับและดอกไม้ของหอม เครื่องทาเครื่องย้อม ผัดผิวให้งามต่าง ๆ)

    อุจฺจาสยนมหาสยนา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ (ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากนั่ง นอน เหนือเตียง ตั่ง มีเท้าสูงเกินประมาณ และที่นั่ง ที่นอนอันสูงใหญ่ ภายในใส่นุ่นและสำลี อาสนะอันวิจิตรไปด้วยลดลายงามด้วยเงินทองต่าง ๆ)

    อิมานิ อัฏฐะ สิกขาปะทานิ สะมาทิยามิ (ว่า 3 ครั้ง)

    ที่มา:http://www.larnbuddhism.com/grammathan/siil8.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤษภาคม 2011
  8. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
  9. ปฐมฌาณ

    ปฐมฌาณ เป็นและตาย..อยู่ใกล้กัน..เพียงลมหายใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    486
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,870
    ในบรรดารอยเท้าของสัตว์..ทั้งหลาย.
    .ไม่ว่าจะเป็นรอยเท้าเสือ..รอยเท้าเก้ง

    ..ย่อมรวมลงรอยเท้าเดียว..คือรอยเท้าช้าง

    ในบรรดาธรรมของพระพุทธเจ้าที่มี.......แปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์

    ย่อมรวมลงที่เดียว.....คือ....

    สติ

    (หลวงปู่ขาวเทศน์สอนนายแพทย์อวย เกตุสิงห์และคณะ..จากหนังสืออนาลโยวาท..จำมา
    ขอรับ..อ่านมานานแล้ว)
    .
     
  10. justonelife

    justonelife เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +190
    อนุโมทนาสาธุครับ และอนุโมทนากับคุณเด็กใหม่ด้วยครับ ที่ได้ตั้งจิตจะนั่งสมาธิและจะถือศีลแปด สาธุ สาธุ สาธุ
     
  11. packmilan

    packmilan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +8
    k_pe ขอขอบคุณมากคับพี่

    คืออยากจะถามต่อว่าถ้าเรารักษาศีล8แระเราช่วยตัวเองอ่ะมันจะผิดไหม

    คือไม่ได้ทะลึ่งนะคับ เพราะผมกะยังมีกิเลศ พี่กรุณาให้คำแนะนำผมด้วย จะเปนพระคุณอย่างสูงคับ

    ปล. ข้อ3กับข้อ7อ่ะคับคือช่วยอธิบายอย่างละเอียดหน่อยได้มั้ยคับ
     
  12. เขามอ

    เขามอ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    321
    ค่าพลัง:
    +539
    ข้าพเจ้า ขออนุโมทนา ในกุศลผลบุญ ของท่านทั้งหลายที่ได้ทำไว้ดีแล้ว ด้วยเทอญ
     
  13. Faithfully

    Faithfully เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    656
    ค่าพลัง:
    +2,459
    "พระอริยสัจเจ้าทั้งหลายในครั้งพุทธกาลโน้น ท่านก็ได้สำเร็จอรหันต์ในขณะที่เจ็บป่วยก็มาก ได้สำเร็จอรหันต์ในระยะสิ้นลมหายใจก็นับไม่ถ้วน”

    อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา..ชนะแล้วซึ่งกิเลสทั้งปวง จริงแท้..
    สาธุ สาธุ สาธุ
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  14. หาธรรม

    หาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,164
    ค่าพลัง:
    +3,739
    ถ้าสมาทานศีล ๘ ข้อ ๓ จะเป็นอพรัมจริยาเวรมณี คือเว้นจากการเสพเมถุนทุกวิธี คือ ไม่ทำให้อสุจิเคลื่อนด้วยการจงใจ ถ้าศีล ๕ จะเป็นกาเมสุมิฉา.. คือ มีอะไรกับคู่ของตนเท่านั้น ไม่ผิดลูก สามี ภรรยา ผู้อื่น อย่างนี้ได้ ดังนั้น การรักษาศีล ๘ เป็น เนกขัมมะ คือ เว้นจากกาม คือ เว้นจากความพึงพอใจในรูปรสกลิ่นเสียงทั้งหลาย

    ส่วนข้อ ๗ ไม่ร้องรำทำเพลงดูหนังดูละคร ประดับตกแต่ร่างกายด้วยเครื่องประดับ ดอกไม้ ของหอม... เหล่านี้เป็นเหตุให้เกิดความทะยานอยากได้อยากมีอยากเป็นซึ่งเป็นข้าศึกต่อความสงบของกายและใจ

    การรักษาศีลมีอานิสิงส์มาก มากกว่าการถวายโบสถ์วิหารที่สร้างด้วยทองคำ มากกว่าถวายสังฆทาน ธรรมทาน และ มากกว่าอภัยทานด้วย...

    เราต้องอยู่ทางโลก ต้องเรียน ทำงาน ประกอบอาชีพ เราอาจหาเวลาสะดวกรักษาศีล ๘ เช่น วันโกนวันพระ หรือ ช่วงวันหยุดวันว่างก็รักษาครั้งละ ๓ วัน ๕ วัน หรือ ๗ วัน ก็ดีนะครับ
     
  15. Fishjacker

    Fishjacker เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +736
    อนุโมทนาสาธุ ขอบารมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และคุณบิดามารดา ครูบาอาจารย์ นำทางสู่การตัดกิเลส จนถึงนิพานเทอญ.
     
  16. ปฐมฌาณ

    ปฐมฌาณ เป็นและตาย..อยู่ใกล้กัน..เพียงลมหายใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    486
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,870
    อนุโมทนาขอรับ..ตอบได้ยอดเยี่ยม...

    ขออนุญาติเสริมหน่อย.

    บางคนบอกว่า...ตนเองไม่ได้ทำบาปทางกาย..
    แต่ทางวาจา..ก็ยังทำอยู่

    บางคนบอกว่าตนเอง.....ไม่ได้ทำบาปทางวาจา

    แต่ทางใจ...ก็ยังทำอยู่
    (หลวงปู่มั่้น ภูริทัตตเถระ)
     
  17. กรวุฒิ

    กรวุฒิ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2011
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +17
    เป็นคำตอบที่เยี่ยมมากครับ อนุโมทนาบุญด้วยครับ วันนี้วันวิสาขา เป็นวันพระพุทธเจ้าครับ ทำความดีให้ถึงพร้อม สาธุ
     
  18. k_pe

    k_pe สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +18
    ขออนุโมทนา สาธุ ด้วยอีกครั้งนะครับ
    เป็นเรื่องปกติธรรมดาครับ ที่อารมณ์ของเราๆท่านๆที่ยังเป็น ปุถุชนอยู่ ปุถุชนแปลว่า ผู้มีกิเลสหนา คือคนปกติที่ยังมีกิเลส คนธรรมดาสามัญ (ก็ต้องมีผิดพลาดกันบ้าง)

    น่ายินดีกับน้องนะครับ ที่มีจิตใจไฝ่ในธรรม พยายามห่างไกลจากกิเลส ไม่เสียทีที่เกิดมาในชาตินี้ ได้พบพระพุทธศาสนา พวกเราโชคดีมากๆครับ นับว่าเป็นบุญอย่างยิ่ง จึงต้องพยายามปฏิบัติให้รู้แจ้งเห็นจริงให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

    ส่วนศีลข้อ 3 กับ 7 นั้น ท่าน หาธรรม และท่าน ปฐมฌาณ
    ท่านได้แนะนำถูกต้องทุกประการแล้วครับ อนุโมทนาครับ


    กับคำถามที่ว่า ถ้าเรารักษาศีล8แระเราช่วยตัวเองอ่ะมันจะผิดไหม
    คือถ้าเรารับศีล8มาแล้ว หรือตั้งใจสมาทานที่จะรักษาแล้ว ก็ผิดแบบเต็มๆครับ

    อันผู้รักษาอุโบสถศีลนั้น ย่อมได้อานิสงส์ทั้งชาตินี้และชาติหน้าโดย อนุรูปแก่การปฏิบัติของตนๆ ดังพระพุทธพจน์ตรัสไว้ในตอนท้าย แห่งอุโบสถสูตรว่า "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อุโบสถประกอบด้วย องค์ ๘ ที่อริยสาวกเข้าอาศัยอยู่นานแล้ว เป็นคุณมีผลใหญ่ และอานิสงส์ใหญ่ มีความรุ่งเรืองแผ่ไพศาลมาก"

    ท่านครูบาศรีวิชัยท่านตอบเรื่องนี้ตั้งแต่ปี 2474ว่า

    การปฏิบัติรักษาศีล 5 อันเป็นบันไดขั้นต่ำ เบื้องต้นของพระพุทธศาสนา มีอานิสงส์ให้ได้รับความสุขในปัจจุบัน ประจักษ์แจ้งแก่ตาดังนี้
    ครั้นตายแล้วก็ได้ขึ้นไปเกิดบนสวรรค์ ครั้นจุติจากสวรรค์ก็ได้ลงมาเกิดเป็นมนุษย์ มีรูปอันงาม มีปัญญาเฉลียวฉลาด มีทรัพย์สมบัติมาก มีอายุยืน มีเมียมีลูกมีหลาน ก็ว่านอนสอนง่าย ไม่มีศัตรูเบียดเบียนได้ และเป็นปัจจัยให้มีความสุขไปตราบถึงพระนิพพาน

    ผู้ที่รักษาศีล 8 ได้ ก็ได้รับความสุขในปัจจุบันมากกว่าศีลข้อ 5 ขึ้นไปอีก คือ ไปนอนอยู่ที่วัด เป็นกายวิเวก จิตวิเวก สงบอารมณ์ ปราศจากความพยาบาท จองเวร ถีนมิทธะ ปราศจากความง่วงเหงาหาวนอน อุทธัจจะ ปราศจากความฟุ้งซ่านรำคาญใจ ไม่มีสิ่งใดมารบกวน วิจิกิจฉา ปราศจากความสงสัยในพระธรรมคำสั่งสอนแล้ว คือ ไปอบรมทำใจให้บริสุทธิ์แยบคายเสมอดั่งพรหม ครั้นว่าตายก็ได้ขึ้นไปเกิดบนชั้นพรหม มีความสุขและอายุยืนยิ่งกว่าชั้นสวรรค์ ครั้นจุติก็ได้มาเกิดเป็นมนุษย์ในตระกูลสูง มีรูปโฉมอันเงางาม มีปัญญาเฉลียวฉลาด อายุยืน มียศ มีบริวาร มีอำนาจมาก

    "ถ้าจำเป็นต้องช่วยตัวเองจริงๆ ก็ควรจะออกจาก ศีลอุโบสถหรือศีล8ก่อน
    และพยายาม ลด ละ ห่าง พิจารณาเพ่ง อสุภะ บ่อยๆครับ"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤษภาคม 2011
  19. คนรักชาติ

    คนรักชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +181
    [​IMG]
    ขอบุญบารมีพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระอริยะทุกพระองค์ พระโพธิสัตย์ทุกพระองค์โดยมีบุญบารมีของหลวงปู่ดู่และหลวงปู่ทวดเป็นที่สุดช่วยดลบันดาลให้จิตข้าพเจ้าฝากกระแสจิตไว้กับบุญบารมีของผู้เกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่โพส ฝากกระแสจิตไว้กับบุญบารมีผู้โพสกระทู้ ฝากกระแสจิตไว้กับบุญบารมีผู้อ่านกระทู้ และฝากกระแสจิตไว้กับบุญบารมีของผู้ตอบกระทู้ ข้าพเจ้าอยากมีส่วนร่วมกับบุญบารมีของพวกท่านทั้งบุญบารมีในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
    พุทธังอนันตัง ธัมมังจักรวาลัง สังฆังนิพพานัง ปัจจะโยโหตุ
     
  20. นักรบธรรม

    นักรบธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    969
    ค่าพลัง:
    +1,174

แชร์หน้านี้

Loading...