การ "ตายซ้ำๆ จากภายใน" ทำให้วิวัฒนาการของคุณสูงขึ้นโดยไม่ต้องเกิดใหม่?

นี่เป็นสิ่งที่อัศจรรย์ที่สุด และเหนือล้ำอย่างที่สุดที่สามารถจะมีได้ เกิดได้ และคุณก็สามารถทำได้ด้วยตัวของคุณเอง คือ การเลื่อนระดับทางวิวัฒนาการของคุณให้สูงขึ้นอย่างไม่มีขีดจำกัด โดยไม่ต้องอาศัยการเวียนว่ายตายเกิดหลายชาติภพ เพียงชาติภพเดียว, สังขารเดียว สังขารนี้เอง คุณก็สามารถเลื่อนระดับทางวิวัฒนาการให้สูงขึ้นได้ราวกับเกิดตายหลายต่อหลายชาติ หรือเทียบเป็นการวิวัฒนการของโลกมนุษย์ก็คือ มนุษย์เกิดแล้วตายไปเป็น ๑๐๐ รุ่นทีเดียว แต่คุณไม่จำเป็นต้องเวียนว่ายตายเกิดมาถึงขนาดนั้นเพื่อเร่งกระบวนการวิวัฒนาการนี้เลย เมื่อคุณเข้าใจถึง "การตายซ้ำๆ จากภายใน" และด้วยวิธีอันพิเศษสุดนี้เอง ที่จะทำให้คุณเลื่อนระดับทางวิวัฒนาการสูงขึ้นอย่างอัศจรรย์ มันเป็นวิธีที่ปลอดภัย, ได้ผล และมหัศจรรย์ ถ้าคุณได้ทดลองและพิสูจน์มันด้วยตัวของคุณเอง แล้วคุณจะพบว่าการวิวัฒนาการนั้น ไม่จำเป็นต้องผ่านการเกิดและตายของสังขาร แต่สามารถใช้การ "เกิดและตายของจิตวิญญาณภายใน" ได้ โดยยังคง "มีสังขารเดิมที่ปกติ" อยู่ นี่คือ วิธีที่เราพยายามเร่งวิวัฒนาการให้ชาวโลกในบางประเทศ ทว่า ชาวโลกที่กำลังไม่กล้าแข็งพอ ถูกพลังงานเก่าครอบงำ ทำให้นำพาผู้คนไป "ฆ่าตัวตาย" ซึ่งนั่นไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องที่เรากำลังแนะนำท่านเลย เพราะเราแนะนำท่านให้ใช้ "สังขารเดิมที่มีอยู่ต่อไป" ไม่ต้องเปลี่ยนสังขาร นี่คือ สิ่งสำคัญมาก คุณต้องดูแลปกป้องสังขารเดิมของคุณไว้เพื่อกระบวนการวิวัฒนาการนี้ แล้ว "ตายซ้ำๆ จากภายใน" คือ เมื่อจิตวิญญาณขั้นต่ำ (วิวัฒนาการต่ำ) ของคุณตายลง ก็จะเกิดใหม่ เป็นจิตวิญญาณที่มีวิวัฒนาการสูงขึ้นได้ ที่ชาวพุทธเรียกว่า "โอปปาติกะกำเนิด" นั่นเอง

 

นี่คือ "สูตรพิเศษที่เหนือล้ำจากจักรวาล" เป็นเทคโนโลยีใหม่สำหรับโลกนี้


ตามทฤษฎีวิวัฒนาการที่คุณได้เรียนมา ดีเอ็นเอ จำเป็นต้องได้รับการถ่ายทอดจาก
รุ่นสู่รุ่นเพื่อกระบวนการวิวัฒนาการ ทว่า สิ่งนี้เป็น "เทคโนโลยีของจักรวาล" ที่ส่ง
ตรงลงมาถึงคุณโดยเฉพาะ ไม่ใช่คุณคนแรกหรอกที่ได้รับมัน เพราะเราได้พยายาม
ส่งเทคโนโลยีนี้ให้กับประเทศที่มีความเจริญก้าวหน้าทั้งหลายมาหลายต่อหลายครั้ง
ทว่า เราไม่สามารถเชื่อมต่อกับผู้ที่มีความใสมากพอที่จะต้าน "พลังงานเก่า" ของ
โลกใบนี้ได้ ทำให้การสื่อสารของเราถูกบิดเบือน และกลายเป็นโศกนาถกรรม ตาย
หมู่ ของลัทธิประหลาดบางลัทธิไป โปรดอย่าเข้าใจผิดว่าเราต้องการให้เป็นเช่นนั้น
เพราะเราพยายามสื่อสารกับพวกท่าน ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า "พลังงานเก่าของโลกนี้
ครอบงำและเป็นกำแพงกั้นอยู่" ดังนั้น จึงง่ายมากที่จะถูกบิดเบือนข่าวสาร และยาก
มากที่จะทำให้ข้อมูลข่าวสารบริสุทธิ์ถูกต้อง ทว่า ณ เวลานี้โอกาสเป็นของท่านแล้ว
เพราะผู้สื่อสารเป็นชาวไทย และใช้ภาษาไทยเป็นหลัก เราหวังว่าท่านคงพร้อมที่จะ
รับเทคโนโลยีใหม่นี้จากเราและสามารถใช้มันในการเร่งกระบวนการวิวัฒนาการของ
ตัวคุณเอง ให้ทัดเทียมกับ "มาตรฐานจักรวาล" ได้ในที่สุด ดังเราจะค่อยๆ อธิบาย..

 

การตายซ้ำๆ จากภายใน ทำให้จิตวิญญาณของคุณวิวัฒนาการเร็วขึ้น


ยกตัวอย่างง่ายๆ สมมุติจิตวิญญาณในร่างของคุณเป็นเทพหมู เมื่อเทพหมูตาย
ลงในสังขารเดิม (สังขารเดิมปกติ ไม่เป็นอันตรายใดๆ) เขาก็จะเกิดใหม่เป็นสิ่ง
ที่สูงขึ้นหรือต่ำลงกว่าเดิมก็ได้ ทว่าถ้าใช้กระบวนการที่ถูกต้อง (สร้างบุญบารมี)
เทพหมู สามารถเกิดใหม่เป็น "จิตวิญญาณโพธิสัตว์" ได้ในกายสังขารเดิมนี่เอง
นี่คือ "การตายแล้วเกิดใหม่ในร่างสังขารเดิม" ทำให้เกิดวิวัฒนาการจากภายใน
ที่สูงขึ้นได้ และถ้าจิตวิญญาณโพธิสัตว์นั้นตายลงแล้วเกิดใหม่อีก ด้วยบุญบารมี
(ไม่ใช่ด้วยกรรม) ก็จะเกิดใหม่เป็น "พุทธะ" หรือ "ยูไล" นั่นเอง สิ่งเหล่านี้ ล้วน
สามารถเกิดขึ้นได้จริง และเกิดขึ้นแล้วกับหลายท่าน การทดลองของเราที่ทำกับ
ชาวไทยหลายคน กำลังประสบผลสำเร็จอย่างงดงาม และท่านก็สามารถเข้าร่วม
ในกระบวนการนี้ได้ด้วยตนเอง และด้วยการ "ทดลองด้วยตัวของท่านเอง" ง่ายๆ
คือ "การกระทำกิจอย่างยิ่งยวดจนหมดจิตหมดใจที่จะทำต่อไป" เมื่อนั้น จิตก็จะ
"ดับสลายตายสิ้นจากสภาวะเดิม" และ "ก่อเกิดใหม่" ในสังขารเดิมในทันที โดย
การทำกิจของท่านนั้น ไม่ต้องสนใจว่าผลจะออกมาอย่างไรสำเร็จหรือไม่ อย่าไป
กำหนดผลลัพธ์นั้น เพราะตัวแปรภายนอกที่เราควบคุมไม่ได้มีมากมาย ยิ่งท่านทำ
สำเร็จท่านก็จะยิ่งทำอย่างเดิมต่อไป จิตวิญญาณของท่านก็จะไม่เปลี่ยนแปลงไป
แต่ยิ่งท่านทำไม่สำเร็จ หรือสำเร็จด้วยใจที่ไม่อยากทำเลย ก็เท่ากับยิ่งทำให้จิตดับ
สลายจากสภาวะเดิมเร็วเท่านั้น ทั้งนี้ ในการทำกิจของท่านย่อมต้องเป็นไปในทาง
"สว่าง" คือ "สร้างบุญบารมี" เท่านั้น หากเป็นไปในทางตรงกันข้ามแล้วก็จะยิ่งทำ
ให้ท่านเสื่อมต่ำลง และมีวิวัฒนาการแบบ "ขาลง" แทน หวังว่าท่านคงพอเข้าใจ..

 

การยอมตายโดยดีของจิตวิญญาณ ทำให้กระบวนการวิวัฒนาการง่ายขึ้น


เมื่อใดที่จิตวิญญาณของคุณไม่ยอมตาย มันจะยังคงสภาวะนั้นต่อไปเรื่อยๆ ดังนั้น
การเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือ "วิวัฒนาการ" จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ดังนี้
การยอมตายของจิตวิญญาณแต่โดยดี จึงช่วยให้วิวัฒนาการทางจิตวิญญาณเร็วขึ้น
ง่ายขึ้นได้ นอกจากนี้ ยังมีวิธี "ให้ผู้อื่นช่วยให้ตายทางจิตวิญญาณ" เช่น การถูกคน
ทำลายความเชื่อเก่าๆ, ความยึดมั่นเดิมๆ, ความถือเนื้อถือตัวเดิมๆ ฯลฯ จนคุณเสีย
ใจมาก เหมือนใจสลายหรือ "จิตวิญญาณตายลง" นั่นแหละ ช่วยให้จิตวิญญาณคุณ
ได้วิวัฒนาการสูงขึ้นได้ ทว่า คุณจะต้องถูกทำให้ "ตายจากภายใน" โดยคนที่มีพลัง
ภาค "สว่าง" เท่านั้น เพราะพลังงานฯ ของเขาจะทำให้วิวัฒนาการของคุณสูงขึ้นได้
แต่ถ้าคุณถูกทำให้ตายใน ด้วยพลังภาคมืด คุณจะมีวิวัฒนาการที่ต่ำลง เมื่อคุณเลือก
เชื่อคนผิด, ฟังคนผิด, หลงคนผิด ฯลฯ นั่นแหละ คือ "หายนะทางวิวัฒนาการ" ของ
คุณเอง ดังนั้น จึงจำเป็นมากที่คุณควรจะเลือกพบ "นักรบแห่งแสงสว่าง" และยอมรับ
"การพิพากษาด้วยความตายทางจิตวิญญาณ" จากเขาเหล่านั้น เพราะเขาเหล่านี้ล้วน
พร้อมแล้วที่จะทำให้คุณ "ตายจากวิวัฒนาการขั้นต่ำ" เพื่อเลื่อนระดับให้สูงขึ้นไป แต่
เราไม่สามารถจะบอกคุณได้เลยว่า "นักรบแห่งแสงสว่างที่แท้จริง" คือผู้ใดและผู้ใดที่
เป็น "นักรบแห่งความมืดปลอมตัวมา" ดังนั้น คุณจะต้องค้นหาด้วยตัวของคุณเอง จึง
จะไม่ถูก "ชี้นำหรือครอบงำ" จากผู้หนึ่งผู้ใด นี่คือ "หัวใจสำคัญของการยอมตาย" ซึ่ง
จะทำให้คุณดีขึ้นหรือแย่ลงได้ทันตาทีเดียว เมื่อคุณได้รับ "ความตายจากภายใน" โดย
เหล่านักรบแห่งแสงสว่างที่พิพากษาให้แล้ว คุณจะเข้าใจถึงกระบวนการตายจากภายใน
ได้ไม่ผิดเพี้ยน และขั้นตอนต่อไปของวิวัฒนการนั้น จะเหมือนกัน แต่เป็น "กระบวนการ
ซ้ำๆ" เท่านั้นเอง เพื่อเลื่อนระดับของคุณขึ้นไปเรื่อยๆ ด้วยวิธีเดิม ดังนั้น คุณก็จะทำได้
ด้วยตัวคุณเอง (การตายจากภายใน) โดยมีจุดเริ่มที่ "ยอมรับความตายจากผู้อื่น" ก่อน

 

การวิวัฒนการจากภายใน ทำให้อายุขัยยืนขึ้นและมีปัญญามากขึ้น


การวิวัฒนาการด้วยกระบวนการ "ตายซ้ำๆ จากภายใน" นี้ ทำให้คุณจะได้
อายุขัยที่ยืนยาวขึ้น ไม่ใช่อายุขัยสั้นลงเลย บางท่าน หมดอายุขัยแล้ว ยัง
สามารถ "ต่ออายุขัย" ได้อีก ด้วยวิธี "ตายซ้ำๆ จากภายใน" นี่เอง หรือก็
คือ "การให้จิตวิญญาณตายแทนสังขาร" เพื่อคงสภาพสังขารไว้ ตามเดิม
ผลคือ วิวัฒนาการที่สูงขึ้นทันทีของสังขารนั้นๆ โดยไม่ต้องผ่าน "การเกิด
ใหม่" หรือการพัฒนาดีเอ็นเอรุ่นสืบรุ่น อีกต่อไป ซึ่งจะทำให้คุณมีปัญญาที่
สูงขึ้น, สุขภาพดีขึ้น, แข็งแรงขึ้น, ปรับตัวเข้ากับโลกได้มากขึ้น ฯลฯ ด้วย
เช่นนี้ คุณจะใช้ "ทรัพยากรทางสังขาร" น้อยแต่ได้ประสิทธิภาพ กล่าวคือ
เพียง ๑ สังขารสามารถเทียบเท่ากับ ๑๐ หรือ ๑๐๐ สังขารก็ได้ (การเวียน
ว่ายตายเกิดผ่าน ๑๐ สังขาร อาจทำให้วิวัฒนาการสูงเท่ากับ ๑ สังขาร ถ้า
ใช้วิธีนี้) ด้วยการใช้ทรัพยากรทางสังขารน้อย โลกใบนี้จะได้รับผลกระทบ
น้อยจากสังขารใหม่ๆ ด้วย และนี่คือ สิ่งที่ดีต่อโลก, ถนอมโลกให้ยาวนาน
ยังมีผลดีอีกมากมาย ที่ได้จากกระบวนการนี้ทั้งทางตรงและทางอ้อม ท่าน
สามารถทดลองและพิสูจน์มันได้ด้วยตัวของท่านเอง เราไม่สามารถอธิบาย
ทั้งหมดได้ เพราะเวลาจำกัดและขีดจำกัดทางการสื่อสาร ซึ่งเราหวังว่าท่าน
จะทดลองและค้นพบมันด้วยตัวของท่านเอง แล้วท่านจะพบว่ามันอัศจรรย์
เพียงใด เมื่อท่านเข้าสู่ "กระบวนการวิวัฒนาการจากการตายภายใน" ดังนี้

 

สุดท้ายนี้ เราหวังว่าท่านจะเข้าใจในสิ่งที่เราสื่อสารได้ไม่พิดเพี้ยน เนื่องจากการสื่อสารของเราผ่านสังขารบางสังขารที่ถูกพลังงานเก่าครอบงำนั้น เคยผิดพลาดมาแล้ว กล่าวคือ สังขารที่ทำงานผิดพลาดนั้น นำพาผู้คนไป "ฆ่าตัวตายหมู่" ซึ่งเราจำเป็นต้องแจ้งแก่ท่าน ไว้ ณ ที่นี้ว่าเรามิได้ต้องการให้กระทำเช่นนั้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะ "การสื่อสารที่ผิดพลาด" อันเกิดจาก "พลังงานเก่า" เข้ามารบกวน ดังนั้น สิ่งนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นอีก เมื่อเราได้เลือกสังขารที่ได้ชำระล้างพลังงานเก่า และต้านทานกับพลังงานเก่าของโลกได้ในระดับที่น่าพอใจแล้ว ประกอบกับการสื่อสารที่ถูกรบกวนน้อยนี้ หวังอย่างยิ่งว่าท่านทั้งหลายจะไม่เข้าใจผิดในเจตนารมณ์ที่ดีของเรา และสามารถนำเทคโนโลยีด้าน "วิวัฒนาการ" นี้ไปใช้ในทางสร้างสรรค์ และแน่นอนว่ามันล้ำยุคกว่าเทคโนโลยี "โคลนนิ่ง" ของโลกนี้เสียอีก เพราะเทคโนโลยีโคลนนิ่งนั้น ยังไม่อาจทำให้เกิดการวิวัฒนาการได้รวดเร็วเท่านี้ สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกท่านผ่านการทดสอบต่างๆ ของจักรวาลไปได้ด้วยดี จนถึงที่สุดแห่งวิวัฒนาการต่อไป สวัสดี...

 

จบการสื่อสารจากจักรวาล


๑๐ ก.ค. ๒๐๑๑
รับสื่อสารโดย "อพอลโล่"

 

โมทนาสาธุค่ะ คุณอพอลโล่ อ่านบทความคุณมาก็เยอะ บางครั้งยอมรับว่า หัวข้อคุณน่าสนใจแต่...คืออายุมาก ใช้สายตานานๆแล้วมันปวดศีรษะ แต่บทความนี้โดนใจเราจริงๆ ถึงจะต้องแปลไทยเป็นไทย ยังต้องขยายความบางอย่างซึ่งคำพูดเหล่านี้ไม่ค่อยคุ้นเคย เพราะส่วนใหญ่เราเป็นชาวพุทธะ จะพูดไปอีกแบบหนึ่ง แต่สรุปแล้วผลรับคล้ายๆกันค่ะ เช้านี้ถือว่าโชคดีที่ได้รับข้อมูลที่เป็นมงคลแก่ชีวิต ขอให้เจริญในธรรมคะ

 

ผมชอบหัวข้อนี้มากเลยครับ ขอบคุณมากครับ

 

เพี้ยน สุดสุด .... ล้างสมองชัดๆ
จะเอาฮาไปถึงไหน

ท่าน ศาดสะดวย


คนปรกติ เขาไปศึกษธรรม ตามแนวทางในศาสนาของเขา

มีแต่พวกเพี้ยน ที่เออออห่อหมกตาม ศาดสะดวย



เดี๋ยวก็ โลกไม่น่าอยู่
....เลยโดยดักคอซะ.....
เลยแถ มาขวยตายจากภายใน


โลกไม่น่าอยู่ แล้วชวนตาย
แต่แถมาเป็น ตายภายใน อิ อิ บ้าสิ้นดี

ขออะไรที่เพี้ยนกว่านี้ได้เปล่า แค่นี้ ยังฮาไม่พอ
เอาอีก เอาอีก !!!

 

ตายซ้ำๆจากภายในที่ว่า ต้องพึ่งนักรบจากแสงสว่าง ซึ่งไม่รู้จะไปหาที่ไหน
มีวิธีอื่นไหมที่ไม่ต้องพึ่งคนอื่น

 

ก็ลองหาในตัวเองดูก่อนสิครับ

 

ใช่การมองเห็นทุกข์แล้วหาทางดับทุกข์โดยผู้สอนหนทางดับทุกข์เป็นผู้ที่บรรลุธรรมขั้นใดขั้นหนึ่งแล้วรึเปล่าครับ อ่านแล้วก็ยังไม่เข้าใจทั้งหมดหรอกนะครับ แต่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ไม่ดีอะไรนี่ครับ ตายจากภายในน่ะ

 

ตายจากภายใน(ในจิตใจ) ก็คือการตัดสังโยชน์สิบ ข้อแรกคือสักกายทิฐฐิ เริ่มจากการให้เรายอมรับว่าตัวเราเองต้องตาย คนอื่นก็ต้องตาย ไม่มีใครฝืนความตายไปได้ คือจะช้าจะเร็วก็แล้วแต่กฏแห่งกรรม ยอมรับกฏธรรมชาติ เมื่อยอมรับความตายว่าไม่มีใครหนีพ้น ความอยากเกิดก็จะลดน้อยลง ความเห็นแก่ตัวก็จะน้อยลง ความรัก โลภ โกรธ หลงก็จะลดน้อยลงด้วย

 

ธรรมมะ คือ ธรรมชาติ โลกนี้มีผู้ที่รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน อยู่แล้วคือพระพุทธเจ้า

ไม่ต้องไปหาคำสอนอะไรที่ผิดแผก หรือพยายามเบี่ยงเบน หลักธรรมของพระพุทธองค์

หรอกครับ ศึกษาธรรมมะที่ พระพุทธเจ้าสอน ทำให้ได้ ไม่ต้องไปเอาจากนอกโลกหรอก

เพราะเราคือมนุษย์อยู่บนโลกก็มีผู้ชี้แนะแนวทางแล้ว... พระพุทธเจ้าก็เป็นมนุษย์ที่

ประเสริฐที่สุด ทำไมเรายังต้องไปหาอะไรจากนอกโลก หาจากข้างในจิตข้างในใจ

ตัวเองนี่แหละครับ.... และผมขอเตือนพวกที่จะเอาคำสอนของพระพุทธศาสนาไป

ปรับเปลี่ยนเบี่ยงเบนและจะแอบอ้างว่าเอามาจากนอกโลกบ้าง นอกนรกบ้าง อะไร

ก็ตาม... คำสอนของท่านจะเป็น การทำให้คนหลงผิด คือ ไม่รู้จริง เป็นกรรมอย่างนึง

คือกว่าที่ตนจะได้รู้แจ้งเห็นจริง ก็ต้องหลงทาง ผิดก่อน ก่อนที่จะเจอของจริงเสียเวลาไปนาน อย่างนี้นี่เอง ที่เขาว่า พระพุทธศาสนาจะดำรงอยู่ได้ 5000 ปี นักบวชจะมีแต่ผ้าติ่งหูสีเหลือง.. เพราะคนพยายาม นำเอาคำสอนไปเบี่ยงเบน ไปปรับบ้าง แล้วยกว่ามาจากนอกโลกบ้าง นอกนรกบ้าง จนในที่สุดคำสอนจริงๆก็เบี่ยงเบนไปหมด หาผู้รู้จริงได้ยาก... หยุดเถิดครับ

..... ทาน ศีล ภาวนา... วิปัสนา....

 

-+ อ่านจนตาลายไหนละคับวิธี หรือว่าเขียนให้กำกวมเอาไปตีความเอาเอง มันดูเท่ดี +-

 

ขอบพระคุณมาก ผมชอบบทความนี้ครับ
แต่ไม่แน่ใจว่าจะตีความตรงกับท่านหรือเปล่า

"การตายซ้ำๆ จากภายใน"
สำหรับผมแล้วหมายถึง เห็นการเกิดและดับ สลับกันไปภายในกายสังขารนี้
ก็ค่อยๆ คลายทิฐิ คลายความยึดถือมั่นหมายในกายสังขารของตนและสิ่งทั้งปวงในโลก

"การกระทำกิจอย่างยิ่งยวดจนหมดจิตหมดใจที่จะทำต่อไป" เมื่อนั้น จิตก็จะ
"ดับสลายตายสิ้นจากสภาวะเดิม" และ "ก่อเกิดใหม่" ในสังขารเดิมในทันที โดย
การทำกิจของท่านนั้น ไม่ต้องสนใจว่าผลจะออกมาอย่างไรสำเร็จหรือไม่ อย่าไป
กำหนดผลลัพธ์นั้น เพราะตัวแปรภายนอกที่เราควบคุมไม่ได้มีมากมาย ยิ่งท่านทำ
สำเร็จท่านก็จะยิ่งทำอย่างเดิมต่อไป จิตวิญญาณของท่านก็จะไม่เปลี่ยนแปลงไป
แต่ยิ่งท่านทำไม่สำเร็จ หรือสำเร็จด้วยใจที่ไม่อยากทำเลย ก็เท่ากับยิ่งทำให้จิตดับ
สลายจากสภาวะเดิมเร็วเท่านั้น
ส่วนประโยคเหล่านี้ สำหรับผมแล้ว คือ วิริยะบารมี อุเบกขาบารมี ในระดับปรมัตถบารมี

 

ขอบคุณ คุณkaran20 ครับที่ช่วยแปล มันเป็นเรื่องของภาษาแท้ๆ หนอ

 

ปลดกำหนด คลายกำหนัด

 

ใช่ครับ มีทางตรงแล้วจะอ้อมไปทางโค้งทำไม คนเราก็แปลกเนอะ อนุโมทนาสาธุกับคำเตือนสติของคุณครับ