ธรรมเหนือโลก + ธรรมสายเทพ = "เทพโลกอุดร"

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย anakarik, 12 กรกฎาคม 2011.

  1. Amatayan

    Amatayan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +6,188

    อันนี้ท่านคงเข้าใจผิดแล้วละครับ กรรมและกฎแห่งกรรม ไม่มีใครทำแทนกันได้ บุคคลจะบริสุทธิ์หรือไม่ก็เพราะตนเท่านั้นเป็นผู้ทำเอง สิ่งที่ท่านคิดนั้นหากคิดว่าถูกต้องดีแล้ว ขอให้ท่านตรวจสอบกับธรรมะของพระพุทธเจ้าเถอะ ไม่เช่นนั้น คุณอาจสะสมความเห็นอันไม่ถูกต้องตามธรรม ตามความเป็นจริงได้
     
  2. Amatayan

    Amatayan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +6,188
    กฎแห่งกรรม


    กฎแห่งกรรมเป็นข้อกำหนดตามกฎเกณฑ์ธรรมชาติ มิได้มีผู้ใดเป็นผู้กำหนด เป็นไปตามกฎแห่งการกระทำ เป็นกฎแห่งผู้กระทำจะพึงได้รับ เป็นไปเพื่อให้เป็นผู้ที่มีทรัพย์ มีเครื่องอุปโภค บริโภคก็ได้ กรรมเป็นไปทำให้เป็นผู้ที่ไร้ทรัพย์ ไร้เครื่องอุปโภค ไร้เครื่องบริโภคก็ได้ ด้วยอำนาจความเป็นไปของ....กรรมที่ตนได้ทำไว้.....เท่านั้น


    กรรมนั้นเองย่อมจำแนกสัตว์ให้ดี ให้เลว ให้ปราณีต ให้ท่านเป็นคนมีอายุน้อย ให้ท่านเป็นคนมีอายุยืน ให้ท่านเป็นผู้มีปัญญาหรือให้ท่านเป็นผู้ที่ปราศจากปัญญา " บุคคลอื่นใครๆก็ไม่สามารถบังคับบัญชาให้เป็นไปอย่างนั้นได้ "


    กรรมนั้นเทียวย่อมจำแนกสัตว์ให้เป็นไปอย่างนี้ เพราะฉะนั้นสรรพสัตว์ย่อมเป็นไปตามอำนาจแห่ง "กรรม"หรือเป็นไปตาม " กฎแห่งกรรม "


    กฎแห่งกรรมคือกฎธรรมชาติที่ว่าด้วย " ผลแห่งกรรม " ที่ผู้กระทำจะต้องได้รับ กฎแห่งกรรม เป็นข้อกำหนดที่เป็นหลักเกณฑ์ตามธรรมชาติ มิได้มีผู้ใดไปกำหนดขึ้น ไม่มีผู้ใดเนรมิตขึ้นให้เป็นไปเช่นนั้น ไม่ใช่ลิขิตของพระพรหม ไม่ใช่ฟ้าบันดาล ไม่ใช่เทพอำนวย แต่มันเป็นข้อกำหนด เป็นหลักเกณฑ์ ที่เป็นไปตามธรรมชาติที่บุคคลจะได้รับผลจากการกระทำของตน กฎแห่งกรรม จึงเป็นหลักความจริงที่ไม่บิดเบือน ไม่หลอกลวงแก่บุคคลที่ยึดถือ และเชื่อตามกฎเกณฑ์อันนั้น เพราะฉะนั้นกฎแห่งกรรมจึงเป็นกฎธรรมชาติที่เป็น" หลักสากล "


    ทั้งนี้แม้พระผู้มีพระภาคเจ้าซึ่งเป็นบุคคลที่ยอดเยี่ยม เป็นบุคคลผู้เป็นอัจฉริยะ เป็นบุคคลที่พิเศษ เป็นบุคคลที่สูงสุดไม่มีผู้อื่นยิ่งไปกว่า แต่พระองค์ก็ไม่สามารถอยู่เหนือกฎแห่งกรรม ไม่สามารถที่จะอยู่เหนือกฎแห่งธรรมชาติเหล่านี้ได้ แม้พระองค์จะบรรลุพระสัพพัญญุตญาณเป็นพระสัพพัญญูสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วก็ตาม แต่อกุศลกรรมที่พระองค์ได้กระทำไว้ก็ยังสามารถติดตามมาให้ผลแก่พระองค์ได้


    เพื่อให้เกิดความเข้าใจในความเป็นไปของเรื่องกรรมนี้ ก็จำเป็นที่ต้องอาศัยพระพุทธองค์ที่ประกอบด้วยพระสัพพัญญุตญาณ ที่สามารถรู้ทุกสิ่ง ทุกอย่าง เป็นผู้บอก เป็นผู้แสดง กฎแห่งกรรมที่เป็นความจริงเหล่านั้นให้พวกเราได้ทราบได้
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  3. Sikkha

    Sikkha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    556
    ค่าพลัง:
    +421
    I know....I know....... this is the teaching of ," The God Must Be CrAZzzzzzy "

    เป็นสั่งสอนของ "พระเจ้าเป็นบ้า"
    55555555555555555
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กรกฎาคม 2011
  4. mainoii

    mainoii เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    136
    ค่าพลัง:
    +124
    จิตเป็นพุทธะ อยู่ในสภาพการณ์อย่างไรก็ได้ (ผ้าเหลืองหรือฆราวาส)ทำจิตให้ว่างเปล่า ไม่ติดบุญ ติดบาป ทำจิตให้สว่าง ทุกสิ่งในโลกล้วนเป็นสิ่งสมมุติ แล้วอธิฐานจิตติดตามสมเด็จพ่อองค์ปฐมบรมบิดา กลับคืนสู่แดนทิพย์นิพพานสวรรค์นิรันดร(บ้านเดิม) ดีกว่า 5555 สาธุ สาธุ สาธุ
     
  5. เสขบุคคล

    เสขบุคคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,280
    ค่าพลัง:
    +5,423
    การสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาต้องศึกษาพระสัทธรรมของพระพุทธเจ้าให้เข้าถึง หากเราไม่ศึกษาในพระสัทธรรมแล้วจะเรียกว่า "สืบทอดอายุพระพุทธศาสนา"ได้อย่างไร สืบทอดกับทำลายมันไม่หนีกันเลย การเสื่อมไปแห่งพระสัทธรรมเพราะไม่ศึกษา ไม่ลงมือทำ แล้วผลความสำเร็จจะมีแต่ที่ใดเล่า


    ส่วนหนึ่งในพระธรรมเทศนาของท่าน พระอาจารย์ สมบัติ นันทิโก เรื่อง อุทานสูตร
     
  6. เสขบุคคล

    เสขบุคคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,280
    ค่าพลัง:
    +5,423
    พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว เป็นธรรมที่ผู้ศึกษาพึงเห็นได้ด้วยตนเอง เป็นธรรมที่ผู้ปฏิบัติได้และให้ผลได้ไม่จำกัดกาล เป็นธรรมที่ควรกล่าวกะผู้อื่นว่าท่านจงมาดูเถิด เป็นธรรมที่ควรน้อมเข้ามาใส่ตัว เป็นธรรมที่อุคติตัญญูบุคคล วิปจิตัญญูบุคคล และเนยยบุคคลจะพึงรู้ได้เฉพาะตน มีศรัทธาตั้งมั่นไม่หวั่นไหว ไม่หวั่นไหวจริงๆว่า สวากขาโตว่าธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว พวกที่ไม่มีศรัทธา ก็บอกว่านั่นปริยัติทั้งนั้นเลย พวกไม่มีศรัทธามักปฏิเสธปริยัติเป็นต้น การปฏิเสธปริยัติเป็นการประกาศถึงความเป็นผู้ไม่มีศรัทธาเลย ถ้าใครตำหนิปริยัติแล้ว ต่อไปอย่าสวดเลยว่า สวากขาโต ภควตา ธัมโม พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว เพราะปริยัตินี้เป็นธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว หากเขามีศรัทธาตั้งมั่น ไม่หวั่นไหว เขาจึงเป็นพระโสดาบันได้ แต่ถ้าเขาไม่มีคุณสมบัติพระโสดาบันตำหนิพระปริยัติแล้วปฏิเสธ ประกาศถึงว่าไม่มีคุณสมบัติความเป็นพระโสดาบันอยู่ในใจเลยและได้ชื่อว่า ไม่มีอัทธยาศัยในการทำให้เป็นพระโสดาบันเลย

    ข้าพเจ้าได้ฟังจากเรื่อง อุทาน ตอนที่ ๑๖ นาทีที่ประมาณ ๓๙ - ๔๒ เป็นเนื้อความที่ท่านพระอาจารย์ สมบัติ ท่านเทศน์แล้วรู้สึกว่าความเป็นจริงในปัจจุบัน พวกเราชาวพุทธห่างไกลจากพระพุทธศาสนามากๆเลย ถึงแม้ว่าจะเกิดอยู่ในแผ่นดินที่ทรงไว้ซึ่งความสมบูรณ์ที่สุดของหลักธรรม ชาวต่างประเทศเขาเข้าใจว่าประเทศไทยนี่โชคดีที่พระพุทธศาสนารุ่งเรืองที่สุด แต่โดยเนื้อหาความเป็นจริงแล้วเราค่อยๆเลือนหายไปจากธรรมะของพระศาสดาที่ละน้อยๆๆๆ
     
  7. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746
    กรรมไม่ใช่ตัวตนของตน (อัตตา) ที่จะยึดเป็นของใครๆ ได้


    เหมือนเรายืมเงินเพื่อน ต่อไปข้างหน้าเราก็ใช้หนี้เพื่อนได้ใช่ไหม?
    เหมือนวันนี้ เรายืมมือเขามาช่วยเรา เขามีบุญบารมี เขาช่วยเราแต่
    เขาต้องรับกรรมที่มายุ่งกับระบบกรรมของเรา (เขาละเมิดกรรมเลย
    ต้องรับแทนเรา) แต่ในชาติข้างหน้า เราจะติดหนี้บุญบารมีเขา เรา
    ต้องไปเกิดเพื่อใช้หนี้บุญบารมีเขา จุดนี้เอง ทำให้คนไม่ใช่ปัจเจกฯ
    พระพุทธศาสนา นั้นไม่ใช่ระบบปัจเจกฯ จุดนี้จึงเปิดให้พระโพธิสัตว์
    สามารถทำได้ เช่น แม่ชีทศพร เขาก็ทำ เขาทำได้เพราะเขามีบารมี
    ของเขาเอง ที่จะกระทำได้ เขาทำแล้ว สัตว์ก็ติดหนี้บุญบารมี เชื่อม
    โยงสายบุญบารมี ร่วมกันไป กลายเป็นบริวารชดใช้กันชาติข้างหน้า


    ระบบกรรมถ้าดูแบบอัตตา ก็คงถูกอย่างที่ท่านคิด หรือเสนอมา
    แต่ถ้าดูแบบอนัตตาแล้ว อาจแตกต่างจากที่ท่านเข้าใจ ก็ได้นะ
     
  8. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746
    ถ้ากรรมของใครของมัน ช่วยกันไม่ได้เลย...
    แล้วโลกนี้จะมีความเมตตา มีโพธิสัตว์ทำไม?
    ในเมื่อท่านกล่าวว่ากรรมนั้น ของใครของมัน
    ช่วยกันไม่ได้เลย?


    อย่างนี้ พระโพธิสัตว์ก็อยู่เฉยๆ ไปหมดนะสิ?
     
  9. qwerty-ii66

    qwerty-ii66 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +9
    ไปละคับ คงไม่มีอะไรแล้ว ตามนั้นนะคับ บาย
     
  10. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746
    การละเมิดกรรมแบบพระโพธิสัตว์กับมารต่างกันอย่างไร?


    ๑) พระโพธิสัตว์ยอมรับกรรมนั้นไว้เอง แต่มารไม่ยอม จะปัดให้ผู้อื่นแทน
    ๒) พระโพธิสัตว์เชื่อว่ากรรมมีผลจริงแต่แรก ก่อนช่วยแล้ว แต่มารไม่เชื่อ
    ๓) พระโพธิสัตว์ละเมิดกรรมด้วยเมตตาคิดช่วยสัตว์ แต่มารนั้นคิดต่างไป
    ๔) พระโพธิสัตว์ใช้บุญบารมีตน รองรับผล แต่มารใช้อิทธิฤทธิ์ให้เกิดผล
     
  11. qwerty-ii66

    qwerty-ii66 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +9
    ซวยแระ.............อืมเข้าใจแระ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กรกฎาคม 2011
  12. qwerty-ii66

    qwerty-ii66 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +9
    ในที่สุดก็ได้เป็นเพชรแระ มีจุดนิดๆ
     
  13. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746
    เมื่อพระโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมีได้มากแล้ว ก็จะพิจารณาช่วยสัตว์ฯ


    ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละท่าน ว่าจะเอาบุญบารมีที่ตนมีอยู่นั้น มาช่วย
    สัตว์ในหมู่ใด เหล่าใด สิ่งนี้เป็นสิ่งที่พึงมี พึงได้ เป็นได้ ด้วยบุญบารมีของ
    พระโพธิสัตว์องค์นั้นๆ ซึ่งท่านอาจพิจารณาต่างกันไป บางท่าน เลือกช่วย
    พระพุทธศาสนาไม่ยุ่งกรรมทางโลกเลยก็มี, บางท่านเลือกช่วยทุกศาสนา
    แต่ไม่ละเมิดกรรมทางโลก ก็มี, บางท่าน เลือกช่วยทางโลก ไม่ได้ช่วยใน
    ทางธรรมอย่างแท้จริงเลย ก็มี (หมดบารมีที่จะเหลือพอมาช่วยให้ได้อย่าง
    จริงๆ จังๆ แล้วนั่นเอง) บางครั้งก็ขึ้นอยู่กับ "ผู้อัญเชิญ" ด้วยเหมือนกันว่า
    จะมีใครไปเชิญท่านมาโปรดสัตว์ในลักษณะใด เช่น พอผู้มีบุญบารมีถึงได้
    แล้ว มีพราหมณ์มาทูลเชิญไปเป็นพระราชา ก็มี หรือถ้าเห็นว่าทางโลกมีผู้
    มีบุญบารมี "แก่งแย่งกันล้นอยู่แล้ว" ท่านก็อาจนำบุญบารมีมาช่วยในทาง
    ธรรมแทน ไม่ยุ่ง ไม่แย่ง อำนาจทางโลก ไม่ละเมิดกรรมทางโลก ก็ได้...
     
  14. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746

    สังขารฆราวาสรับภาวะใสเกินไปได้ไม่นานหรอก
    พลังดำก็เข้ามาครอบขันธ์อีก เดี๋ยวดำ, เดี๋ยวใสฯ
    นี่เป็นธรรมดาของการทรงขันธ์ในเพศฆราวาส...



    (พอจิตมารมารุมเข้ามากๆ จนสับสนเข้า ทนไม่ไหว
    ก็สลัดออกเหมือนเห็บเหา คนเลยมารับจิตมารกันไป
    เพียบ ก่อนหน้านี้ เห็นเว็บสงบ ก็เลยกลายเป็นเรื่อง)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 กรกฎาคม 2011
  15. qwerty-ii66

    qwerty-ii66 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +9
    ทางโลกมีหลายระดับ เช่น ระดับล่างๆ (ไม่ต้องสูง ไม่ต้องเด่น ไม่ต้องใหญ่ ไม่ต้องบิ๊กเบิ้ม) แค่หัวหน้าสำนัำกงานเล็กๆก็น่าจะได้นะ
     
  16. qwerty-ii66

    qwerty-ii66 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +9
    หรือว่าจะมีบางพวกจะมาจูนให้ไปยุ่งเกี่ยวกันในระดับใหญ่ๆในทีหลัง ตอนแรกก็บอกและหลอกเราว่า แค่เล็กๆ แต่ความจริงมันเป็นหลุมพรางล่ะสิ
     
  17. qwerty-ii66

    qwerty-ii66 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +9
    ก็ถึงว่ามันดูคุ้นๆ ............................
     
  18. qwerty-ii66

    qwerty-ii66 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +9
    แล้วอยู่กับสีเหลืองมันจะทำให้จิตมารใสได้ดีกว่าใช่ป่ะ แล้วค่อยสลัดออก ว่างั้น
     
  19. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746

    นิมนต์อยู่ทางธรรมเถอะ
    ท่านไม่ได้มีพื้นฐานทางการเมืองเลย


    การเมืองมันสนุกมากหรือ?
    ท่านเอาไหวหรือ?
     
  20. qwerty-ii66

    qwerty-ii66 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +9
    ผมก็แค่อยากเป็นพ่อค้าเล็กๆอ่ะ แต่เอาเถอะ จะอยู่ทางธรรมไปก่อน โอป่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...