สงสัยเรื่องการฟังสวดภาณยักษ์ค่ะ

วันนี้ดิฉันได้ไปที่วัดๆหนึ่งในภาคตะวันออก เพราะเห็นว่ามีการสวดภาณยักษ์ ก็เลยเข้าไปดูค่ะ เพราะตั้งใจจะไปทำบุญค่ะ พอเข้าไปที่บริเวณจัดงาน เนื่องจากไม่เคยเข้าร่วมมาก่อนก็เลยเข้าไปถามเจ้าหน้าที่ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง เจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่า ดิฉันต้องยกพานขันครูเสียก่อน แต่ดิฉันกลับรู้สึกแปลกๆ ไม่ค่อยจะดี ก็เลยกลับออกมาค่ะ เลยอยากเรียนถามผู้รู้ว่าปกติแล้ว จำเป็นต้องรับขันก่อนทุกครั้งเหรอคะ เพราะเคยมีผู้หลักผู้ใหญ่เตือนว่าอย่ารับจากที่ๆไม่รู้จัก แล้วการเข้าพิธีสวดภาณยักนี่ถือเป็นการสะเดาะห์เคาระห์หรือปล่าวค่ะ

ขอบคุณค่ะ
***
หากโพสผิดห้องก็ต้องขออภัยทีมงานด้วยนะคะ

 

เรื่องรับขันนี่ผมไม่แน่ใจนะครับ แต่การเข้าพิธีมีผู้แนะนำบอกมาว่า เหมาะสำหรับคนดวงไม่ดีจริงๆ ทำอะไรไม่ขึ้น ทำไม่ได้ดี พิธีสวดจะทำการปัดเป่าไล่สิ่งไม่ดีออกไป ในบางทีเจ้ากรรมนายเวรที่ผูกอาฆาตมากๆก็ไล่ไม่ไป

ในกรณีที่เราเป็นปกติ จึงไม่จำเป็นและไม่ควรอย่างยิ่ง เพราะบรรดาผีที่คุ้มครองเราอยู่อาจถูกไล่ออกไป ผีในที่นี้หมายถึง บรรพบุรุษที่เสียชีวิตและยังคอยปกปัดรักษาคุ้มครองเรา และบางคนอาจมีผีคอยคุ้มครอง ทำให้พวกเขาคุ้มครองเราไม่ได้ ในบางกรณีอาจโกรธเคืองกัน หลังจากไล่ไปอาจมีผีเข้ามาแทน ก็เป็นการเสี่ยงที่เราไม่รู้ว่าผีที่เข้ามานี้จะดีหรือไม่ คร่าวๆประมาณนี้ครับ

 

อย่างที่คุณ konngaam บอกไว้ครับผม ซึ่งสำหรับผมเองถ้าใครดวงไม่ดีผมแนะนำว่าให้ ทำบุญ สวดมนต์ ทำสมาธิ วิปัสนา รักษาศีลครับ เพราะถ้าพวกเค้าต้องการจะไปอยากให้เค้าไปด้วยใจที่ยินดีที่จะไปครับ อย่าใช้วิธีไล่เค้าเลยครับ ถ้าเป็นความรู้สึกเจ็บแค้นเรา ต่อให้เค้าไม่สามารถอยู่ใกล้เราได้ แต่ไม่ได้แปลว่าเค้าจะหายแค้นเรา เมื่อสบโอกาสเค้าก็มาใหม่อยู่ดี อีกอย่างที่เจอมากับตัว 5555 ด้วยความซนหรืออะไรไม่รู้ผมโหลดจากเน็ตมาเปิดฟังเล่นไม่นานครับ 5-10 นาที ประมาณนี้ แล้วผมก็ปิด วันรุ่งขึ้นผมตื่นขึ้นมาป่วยเลยครับ

 

ขอบคุณทุกท่านค่ะ วันนี้ก็ไปทำสังฆทานมาแล้วก็สบายใจแล้วค่ะ

 

การสวดภาณยักษ์ นั้นก็คือ การสวดพระอาฏานาฏิยปริตร โดยพระปริตรนี้ แบ่งเป็น2ภาค คือภาคภาณพระ และภาคภาคยักษ์ โดยตามพระพุทธประวัติกล่าวว่า หลังจากพระมหาบุรุษตรัสรู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วนั้น ท้าวจตูโลกบาลก็มาเข้าเผ้า พระพุทธเจ้าก็ตรัสกล่าวถึงพระพุทธวงศ์ คือพระนามพระพุทธเจ้าที่เคยตรัสรู้มาแล้ว (ภาณพระ) จากนั้นท้าวจตุโลกบาลก็มีดำริว่าบริวารของตนนั้นมีมากมาย ทั้งที่เป็นยักษ์ กุมภัณฑ์ นาค และคนธรรพ์ ซึ่งมีมายมากที่ไม่มีจิตเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา กลัวว่าจะมารบกวนพระสงฆ์สาวกที่ไม่มีฤทธิ์ ขณะจาริกและปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานให้ได้ความเดือดร้อน จึงถวายพระปริตรนามว่า อาฏานาฏิยปริตร แด่พระพุทธเจ้า เพื่อให้พระสงฆ์นำไปสวดกัน(ภาณยักษ์) โดยในพระปริตรดังกล่าวจะกล่าวถึงพระนามของท้าวจตุโลกบาล ทั้งนี้เมื่อบริวารของท้าวจตุโลกบาล เมื่อได้ยินพระนามท้าวเธอก็ย่อมจะเกรงกลัวและเร้นกายไปไม่มารบกวน ดังนั้นความเชื่อของชาวพุทธ เวลาเกิดเหตุการณ์ร้ายไม่มีในบ้านเมืองก็จะนิมนต์ให้พระสงฆ์สวดภาณยักษ์ อย่างเช่นในสมัยต้นกรุงฯได้เกิดโรค--ยุดนั้นก็มีการสวดภาณยักษ์กันมากมาย แต่จริงๆแล้ว พระอาฏานาฏิยปริตร นั้นเวลาเรานิมนต์พระมาเจริญพระพุทธมนต์เย็น พระท่านก็จะสวดอยู่แล้ว เพราะพระปริตรดังกล่าวนั้นได้รวมอยู่ทั้งใน จุลราชปริตร(สวด 7 ตำนาน) และมหาราชปริตร(สวด 12 ตำนาน) อยู่แล้ว

 

ดีไม่ดีล้วนอยู่ที่กรรม ไม่มีใครทำให้คุณดีหรือไม่ดีได้ คุณทำตัวคุณเองทุกอย่าง
เกิดมาดีชั่วก็ล้วนแต่เป็นกรรมคือการกระทำของคุณที่คุณกระทำมา ไม่มีใครสามารถแก้กรรมได้ คุณทำอย่างไรคุณก็ได้อย่างนั้น...

 

สวดภาณยักษ์ ช่วยอะไรไม่ได้หรอก พวกดิ้นๆสั่นๆในงาน ส่งเสียงร้องวิ๊ด มีหลายประเภท 1.หน้าม้า 2.จิตประสาท 3.เห็นเขาทำก็ทำตาม 4.สั่นๆของขึ้น(สักยันต์)เพื่ออวดให้ดูว่าตัวเองมีของ

 

คนจะดี เพราะทำกรรมดี คนจะชั่ว เพราะทำกรรมชั่ว ส่วนคนชั่ว สวดให้ดี ไม่ได้หรอกครับ
.....พุทธแท้ๆ เขาไม่ทำกันหรอกครับแบบนี้..

 

เข้ามาอ่าน นานาจิตตัง ครับ

 

จริงๆครับนานาจิตตังเรื่องแบบนี้:z17

 

ตอบตามความเชื่อค่ะ

ฉันเคยเข้าสวดภาณยักษ์มาแล้ว 4 ครั้ง ก็ไม่ได้มีอะไรที่แปลกไป แต่ตามความเชื่อเชื่อกันว่าการเข้าสวดภาณยักษ์หากครบ 9 ครั้งจะไม่สามารถมีใครมาทำสิ่งไม่ดี (เช่นทำของต่ำ) ได้ โดยการสวดภาณยักษ์ต้องรับขันครูทุกครั้งค่ะ ขันครูนี้จะมีสายสินธุ์และยันต์รูปท้าวเวสสุวรรณอยู่ด้วยสำหรับทำพิธี เมื่อทำเสร็จก็สามารถนำยันต์ไปติดที่บ้านเพื่อป้องกันภูติผีที่จะเข้ามาทำอันตรายเรา และสายสินธุ์ก็นำขึ้นหิ้งพระค่ะ ขันครูนี้ไม่ใช้ขันตามที่รับจากทรงเจ้าเข้าผีไม่ได้มีผลว่าเอามาแล้วต้องเลี้ยงต้องสวดค่ะ และบางวัดจะมีทำพิธียันต์เกราะเพชรเพื่อป้องกันอันตรายจากอุบัติเหตุค่ะ คนที่ดวงตกเชื่อว่าจะช่วยทำให้ดวงดีขึ้น คนที่ดวงดีอยู่แล้วทำเพื่อป้องกันสิ่งไม่ดีที่จะเกิดขึ้นใหม่ค่ะ (ทั้งหมดขึ้นอยู่กันการใช้ชีวิตด้วยนะค่ะ หากขับรถเร็วสวดภาณยักษ์ไปแล้วก็ตายได้ค่ะ)

 

ปกติ 1 วัดจะจัดปีละ 1 ครั้ง บางทีก็ไม่มีการจัดค่ะเพราะต้องใช้พลังในการสวดมาก สวดบ่อยสงสัยพระจะเป็นกล่องเสียงอักเสบค่ะ

 

มีหน้าม้าด้วยเหรอเคยเจอเป็นเด็กสาว15-16เองร้องน่ากลัวมากแป๊บเดียวตอนหยุดสวดนั่งเล่นมือถือเฉย

 

ถ้ามีหน้าม้าแบบนี้ก็บาปแย่

 

-----------------------------------------
ขอบพระคุณมากค่ะ ได้ความรู้ขึ้นมาอีกมากค่ะ

 

---------------------------------------------------
เมื่อตอนวัยรุ่นค่ะ พึ่งย้ายไปเรียนที่กทม. และก็มักจะเจอ วิญญาณข้างห้องมาทักทาย/กุมารก็มาทัก กลัวก็กลัว แต่ก้ต้องทนอยุ่ ...ประจวบเหมาะ เดินผ่านวัด...
เขากำลังมีพิธี สวดภาณยักษ์ ภายใน ศาลาเห็นคนนั่งพนมมือกัน แล้วมีสายสินธิ์
ล้อม โยงไปโยงมา แล้วมีเสียงประกาศ ให้คนที่เดินไปเิดินมา ให้เข้ามา
สะเดาะห์เคราะห์.......เราก็มองหน้ากัน.(ตอนนั้นเข้าใจว่าไอ้ที่เห็นผีก้เพราะดวงตก). แล้วก็เดินเข้าไปนั่ง ต่อจากคนอื่น.. หลวงพ่อก็เดินพรมน้ำมนต์...
เสียงสวดก็ดังดังๆๆๆๆ ไอ้คนข้างๆๆ ก็เต้นผับๆๆๆๆๆ เรานั่งหลับตา ..กลัวก็กลัว
เห็น เงาตัวใหญ่ๆๆเดินไปเดินมา เสียงดังมาก ในมือมีไม้กระบองด้วย พอลืมตา
ก็ไม่เห็นเงานั้น แต่เห็น หลวงพ่อ... เลยนั่งหลัยตาต่อ... อีกแล้วเห็นเงาอีกแล้ว

แล้ว เราก็เลยนั่งร้องไห้ อยู่ตรงนั้น แต่เสียงไม่ดัง ไม่กล้าร้องดังๆๆ อยากจะลุกหนี แต่ไม่กล้า.... พอเสร็จพิธี น้องเราถาม ร้องทำไม ผีเข้าเหรอ(เพราะคนข้างๆๆร้องเสียงดัง พอเสียงดังมากๆๆ หลวงพ่อก็จะเอาไม้ แตะ-น้ำมนต์ ...ไล่ผีออกไป...)

ที่ร้อง ก็เพราะกลัว คือกลัว หลวงพ่อ ตีคนผิดหน่ะสิ โธ่ ผู้หญิงคนนั้น ขั่งข้างฉัน มันดังมากเลย กลัวก็กลัว...
แล้วนี้ หมดเคราะห์ แล้วยังเนียะ.....

 

เปิดโปง...ขบวนการสวดภาณยักษ์ เรื่องจริงที่ต้องพูด

การสวดภาณยักษ์ ที่เห็นๆในกทม. มี2รูปเเบบ 1.วัดจัดเอง เเล้วนิมนต์พระที่ท่านสวดภานยักษ์ได้เป็นชุด มาสวดการสวดนั้นก่อนสวดจะจุดประทัดเพื่อทำให้
ตกใจ(โดยอ้างว่าขับไล่ผี....) ถ้าวัดจัดเองนั้นก็จะไม่จู้จี้ จุกจิกมากไม่มีการให้ทำบุญเเบบมัดมือชก หน้าม้าก็มีน้อย....ส่วนขบวนการที่วิ่งรับจัดงาน โดยวัดได้ สี่สิบเปอร์เซนต์ วัดอยู่เฉยๆไม่ต้องทำอะไร...จะให้ทำบุญเเบบ คุณต้องทำนะ ค่าขันครู199 ถวายสังฆทาน199 ผ้าป่า12 ราศี อีก108 อย่าง เตรียมเงิน ประมาณ1000บาท ไว้เลย...ส่วนการสวดก็จะใช้เสียงลำโพงเพื่อให้ดังเเละ เป็นจังหวะให้ตกใจ..คนที่นั้งข้างๆท่านคือทีมงานของคนที่จัดงานนั้นเเหละ สั่นทุกปี สั่นวันหนึ่ง3รอบ สวดเช้า สวดบ่าย สวดเย็น คนเดิมเเต่สลับกันนั้งเปลี่ยนที่คนละมุมศาลา...เฮ้อ!..เล่าเเล้วยาว คลุกคลีอยู่กับพวกนี้ยี่สิบปีเห็นจะได้ จึงพูดมากไปกว่านี้ก็ไม่ดีเเน่ๆ สรุปว่าใช้สติปัญญาให้มาก ให้เชื่อผลของกรรม เเละการทำบุญในศิล ทานจะดีกว่าจ้า...เเล้วไถ่ชีวิตโคกระบือ มีใครสงสัยบ้างไหม...ใครอยากรู้ยกมือขึ้น..อิอิ(ระวัง!!! อาจจะเป็นโคตัวเดิมที่ท่าน ไถ่เเล้วเวียน สลับวัดไปเรื่อยๆ)

 

พูดยากนะคะ เพราะ ตอนนั้น นานมากแล้วค่ะ เกือบ20กว่าปีแล้วมั้ง แล้วก็ไม่ได้จ่ายเงินด้วยค่ะ
เพราะ พอเสร็จพิธีก็รีบลุก ค่ะ

ตั้งแต่นั้นก็ไม่เคย เดินเข้าไปในงานอีกเลย เพราะกลัว ไม้ตะบอง แต่เห็นจริงๆๆ นั่งหลับตาถึงจะเห็น เพราะตอนนั้น ไม่ทราบจริงๆๆ .....

เราไม่รู้จริง แล้วก็ ไม่ขอออกความเห็น .....แค่มาเล่าเฉยๆๆ แบบสนุกๆๆ ของคนขี้กลัว....

 

ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า แต่เราฟังจาก youtube เสร็จไปหลายชั่วโมง แต่กลับรู้สึกใจสั่นอยู่เลย

ตอนไปทำพิธีจริงๆ ไม่เห็นรู้สึกกลัวอะไรเลย แต่ทำไมพอมาฟังใน youtube กลับเป็นแบบนี้น่ะ ปวดหัวอ่ะ

 

สงสัยใน youtube ของแท้มั้งครับ ผมก็เหมือนกันฟังแปปเดียวรู้เรื่องเลย
นั่งเปิดฟังดูที่บ้าน สั่นเลย ยังงงเหมือนกัน ว่าแค่เสียงอัดมา ทำไมเป็นแบบนี้ เราก็ไม่ได้ไปเข้าพิธีอะไรซักหน่อย แต่พอมาดูข้อมูลเว็บต่างๆ และในเว็บนี้ ก็พอจะรู้ขึ้นมาหน่อยว่า จิตเราเป็นตัวกำหนด