อยากทราบว่ากรรมฐานใดทำให้นั่งสมาธิได้นานๆครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย วิทย์, 16 กุมภาพันธ์ 2007.

  1. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    เคยได้ยินมาว่ามีบางคนสามารถนั่งสมาธิได้ทีเป็นวันๆ หรือนั่งทีสองสามวันจนถึงเจ็ดวันเลยทีเดียว ผมอยากทราบว่าต้องใช้กรรมฐานวิธีไหนถึงจะทำแบบนั้นได้ครับ
     
  2. deejaimark

    deejaimark เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +16,511
    .......................................................................................
    ลองตั้งจิตดีๆ แล้วลองนั่งแบบอธิฐานจิตดูนะคะ อาจจะนั่งได้นานขึ้นจากที่เคยนั่งได้ และถ้าสมาธิดีขึ้น จิตแกร่งขึ้นก็อาจจะนั่งได้เป็นวันอย่างที่คุณต้องการก็ได้ค่ะ......
    ....ขออณุโมทนา....
     
  3. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,998
    ค่าพลัง:
    +5,064
    อรูปฌาณสี่ นั่งเพลินจนตายไม่รู้ตัวเลย
     
  4. วสวัต

    วสวัต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    238
    ค่าพลัง:
    +2,079
    จะนั่งนานแค่ไหน ก็ให้สงสารสังขารตัวเองด้วยนะครับ
    เราก็ต้อง มี เมตตา กรุณา กับ สังขารตัวเอง เพราะยังต้องใช้เขาอยู่นะ
     
  5. หาธรรม

    หาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,164
    ค่าพลัง:
    +3,739
    จริง ๆ แล้วกรรมฐานมีมากกว่า 40 วิธี แต่ละวิธีจะเหมาะสำหรับแต่ละคนตามที่ท่านเคยฝึกมาในกาลก่อน ๆ คือเรียวว่าถูกจริต แต่วิธีที่เหมาสำหรับทุกคนโดยที่ใคร ๆ ก็ทำได้คือวิธี อาณาปาณสติ คือดูลมหายใจเข้าออก หายใจเข้านึกในใจพุทธ หายใจออกก้นึกโธ เอาจิตใจจดจ่อที่ลมหายใจ เมื่อเริ่มเข้าที่แล้ว คำภาวนาจะหายไปเอง ท่านหาอ่านดูเองแล้วกันว่าลักษณะของฌาน 1,2,3,4....8 แต่อย่าไปจำมานะถ้าจำมาแล้วนึกว่าจะให้ได้อย่างที่อ่านมาจะไม่สำเร็จเพราะจิตไม่ว่าง ... พอถึงตรงที่จิตรวมหรือจิตดิ่ง (เอกคตา) น่าจะเป็นจุดที่กรรมฐานแต่ละวิธีจะมาได้ผลบรรจบเช่นเดียวกันตรงนี้ เหมือนว่าเดินทางมาด้วยเส้นทาง ต่าง ๆ กัน พอเข้าที่แล้วก็จะเข้าสู่ร่องเดินเดียวกัน เมื่อจิตดิ่งแล้วก็หาวิธีประคอง ถ้าถึงฌาน 4 แล้วน่าจะนั่งได้นานแล้วนะ ถ้าแลยฌาน 5 หรือที่เรียกว่าอรูปฌาน เข้าไป คงจะนั่งได้หลายวัน ถ้าฌาน 8 ก็เป็นฌานที่พระอริยเจ้าใช้อยู่หรือที่เรียกว่านิโรธสมาบัติซึ่งคงจะยากมาก

    สรุปก็คือว่าการนั่งให้ได้นานไม่ได้ขึ้นกับวิธี แต่ควรเลือกเอาวิธีที่ถูกจริต อาจจะเริ่มลองที่วิธีอานาปาณสติคือภาวนาและดูลมหายใจ เมื่อจิตเป็นหนึ่งหรือดิ่งแล้ว เข้าไปฌาน 2, 3 นั่งได้ตั้งนานสองสามชั่วโมงพอออกจากสมาธิแล้วเหมือนเวลาผ่านไปแป๊บเดียวเอง

    อีกประการคือหาที่นั่งเช่นผ้ารองนั่งหรือเบาะ อย่านั่งบนทีแข็ง ๆ เพราะจะกดทับเส้นเลือด ทำให้เลือดลมเดินไม่สะดวกซึ่งทำให้ปวดเมื่อยและชาได้ซึ่งทำให้นั่งได้ไม่นาน สำหรับผู้ฝึกใหม่จริงอยู่เมื่อถึงจุดหนึ่งจะไม่มีเวทนา แต่ก็ต้องถนอมร่างกายไว้ทำหน้าที่ได้นาน ๆ ถ้าในป่าเขาอาจจะหาหญ้าแห้ง หรือใบไม้แห้งมารองนั่ง พระพุทธเจ้าท่านนั่งบนใบหญ้าคา ก็ขอแนะนำเพียงเท่านี้ ถ้าสูงกว่านี้ขอผู้รู้ช่วยตอบด่อด้วยนะครับเพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้อื่นต่อไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กุมภาพันธ์ 2007
  6. หาธรรม

    หาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,164
    ค่าพลัง:
    +3,739
    จิตดำวิเคราะห์ (ข้อความที่ 3) อรูปฌาณ 4 น่าจะใช่อย่างที่ท่านว่าคือสามารถอยู่ในฌานไม่มีรูปได้นาน แต่คำว่า "เพลินจนตายไม่รู้ตัว" อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวไม่น่าจะถูก เพราะ ผู้ที่เข้าสมาธิ จนถึงระดับฌานใด ๆ ก็ตามกายท่านนิ่งจริง แต่มีจิตเป็นตัวรู้จะอยู่ในสภาวะรู้ รู้กว่าคนลืมตาอีก ดังนั้นคำว่าเพลินไม่นาจะใช่ และคำว่าไม่รู้ตัวก็ไม่น่าจะถูก สำหรับผู้มีสติรู้ขณะนั้น
     
  7. GARU

    GARU เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    320
    ค่าพลัง:
    +1,283
    รักกรรมฐานกองไหน นั่งกองนั้น นั่งติดต่อกันไปนานๆ เดี๋ยวก้อนั่งได้นานเองแหละ
     
  8. aui ang ja

    aui ang ja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +446
    ทำไปก่อนครับ ทำบ่อยๆครับ ระลึกรู้ตัวทุกอริยาบทครับ จะทำสมาธิ ไม่ไช่ต้องนั่งอย่างเดียวครับ


    หัดพิจารณา ไปด้วยครับ ไม่ต้องกลัวว่าจะนั่งได้นานหรือไม่นาน ตัดกิเลสเข้าสิครับ อยากได้อะไรเดี๋ยวจะมาเองทุกอย่างครับ


    ป.ล.คุณยายผีป่าบอกมาครับ ผมเลยจำมาบอกต่ออีกที

    ตั้งใจทำความดีอย่างนี้ ผมขออนุโมทนาบุญด้วยครับ
     
  9. Kosiyakarin

    Kosiyakarin Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +47
    ทำใจให้สบายๆ ผ่อนคลายอารมณ์ด้วยการหายใจเข้า ออก นับเป็น 1 จำนวน 5- 10 ครั้ง ให้ใจสบาย ส่วนร่างกายนั้น ไม่ว่า จะนั่ง นอน เดิน เราสามารถที่จะกำหนดลมหายใจและจับภาพพระพุทธรูปที่ชอบ ปางใดก็ได้โดยมองแล้วจำภาพ หลังจากนั้นหลับตาลงแล้วสังเกตว่าภาพพระพุทธรูปเป็นอย่างไรเมื่อหลับตา หากภาพหายใป ก็ลืมตาดูพระพุทธรูปใหม่ ทำบอ่ยครั้งเข้าก็จะเริ่มชิน และมีสมาธินานขึ้น เริ่มจากวันละ 1-5 นาที และเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ชินไปเองและจะเกิดสมาธิ ลองทำดู ไม่ต้องเร่งรีบค่อยๆทำค่อยๆปฏิบัติ นั่งนานหรือไม่นานไม่สำคัญ ขอเพียงแค่ใจสบาย มีสมาธิ และเริ่มที่จะพิจารณาสิ่งต่างๆ ก็ดีแล้วและนั้นก็คือ ปัญญา
    ***คนเราถ้าไม่ลองทำดูแล้วจะรู้อย่างไรว่าดีหรือไม่ดี
    เหมือนดั่งคุณเห็นอาหารตั้งอยู่หน้าคุณแต่ไม่ตักทานหรือชิม ใช้แต่ตาดูอย่างเดียว แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าอร่อยหรือไม่อร่อย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กุมภาพันธ์ 2007
  10. วสวัต

    วสวัต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    238
    ค่าพลัง:
    +2,079
    เน้นคุณภาพดีกว่าครับ อย่าเน้นปริมาณเลยนะ
     
  11. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    ทุกวันนี้เวลานั่งสมาธิก็นั่งเฉยๆ ทำใจให้ว่างไม่นึกถึงเรื่องอะไร สักพักจิตก็จะค่อยๆ รวมตัวเป็นสมาธิไปเองครับ
     
  12. พระป่าสุพรรณ

    พระป่าสุพรรณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +13,134
    ผมนั่งมานาน ยังไม่เคยเกินครึ่งชั่วโมงเลย ....ตอนแรกๆซีเรียส เดี๋ยวนี้ไม่แล้วครับ ปล่อยมันไป ไม่ยึดติด เอาคุณภาพดีกว่า
     
  13. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    ผมว่าขึ้นอยู่ที่ว่าเราจะฝึก สติ หรือฝึก สมาธิ น่ะครับ ถ้าฝึกสติก็ไม่จำเป็นต้องทำจิตให้สงบหรือไม่มีความคิด เพียงมีสติรู้เท่าทันอาการของกายและใจไปเรื่อยๆ ให้ต่อเนื่องก็ใช้ได้แล้ว แต่ถ้าจะฝึกสมาธิก็ต้องเน้นการดับการรับรู้อาการของใจไปทีละส่วนๆ อันเป็นไปตามลำดับขั้นไปเรื่อยๆ น่ะครับ (มีอยู่ 9 ขั้น ตั้งแต่ฌาน1-8 และก็นิโรธสมาบัติ)
     
  14. virot05

    virot05 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    830
    ค่าพลัง:
    +1,679
    ต้องอยู่ที่กำลังของสมาธิของแต่ละท่านครับ เพราะหากพลังสมาธิยังน้อยอยู่ หรือกำลังฌานยังต่ำอยู่ จะทำให้นั่งได้ค่อนข้างสั้นครับ ต้องปฏิบัติบ่อย ๆ ครับ และ อย่าไปเกรง และหาสถานที่ที่เงียบด้วยครับ อาหารการกินก็อย่าให้หนักมากไป รักษาสุขภาพให้ดีด้วยครับ เพื่อประคองกำลังของสมาธิ หากสมาธิรวมกันแล้วก็ขึ้นอยู่กับ พลังของสมาธิของแต่ละคนที่ทำมาในอดีตชาติ และผลการปฏิบัติในชาตินี้ด้วยครับ
     
  15. virot05

    virot05 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    830
    ค่าพลัง:
    +1,679
    เพิ่มเติมนิดหน่อยนะครับ
     
  16. บัวใต้น้ำ

    บัวใต้น้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    891
    ค่าพลัง:
    +1,936
    พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้สรรเสริญคนที่นั่งสมาธินานๆน่ะครับ ศาสนาของพระพุทธเจ้าท่านเน้นเรื่องปัญญา ดังนั้นถ้าวิธีการใดที่ทำให้เกิดปัญญาได้ ก็ควรสนใจอย่างเร่งด่วนครับ เพราะพุทธพจน์ก็ได้มีบอกไว้ว่า

    บุคคลจะพ้นทุกข์ได้ด้วยความเพียร
    บุคคลจะบริสุทธ์ได้ด้วยปัญญา


    ซึ่งโดยปกติแล้ว จะเกิดปัญญาได้จะต้องอาศัยความสงบแห่งจิตเป็นพื้นฐานครับ

    ซึ่งบางคนบำเพ็ญสมาธิมามากแต่ปางก่อนก็ทำฌาณ ให้เฝ้าสังเกตความจริงของจิตใจในฌาณได้เลย ดูตรงๆไม่ต้องไปดัดแปลงอะไร หรือแก้ไขอะไรในจิตน่ะครับ

    แต่คนที่ทำสมาธิไม่เก่ง ทำความสงบใจได้ไม่ลึก ก็ควรหันมาเจริญสติครับ จะอาศัยดูกายตามแนวหลวงพ่อเทียน หรือดูจิตตรงๆตามแนวหลวงพ่อปราโมทย์ ก็จะได้สติมาเป็นบาทฐานครับ นักปฏิบัติประเภทนี้ ถ้าจะบรรลุธรรมขึ้นมา จิตจะมารวมตัวเข้าฌาณโดยอัตโนมัติครับ ไม่ต้องหัดทำฌาณมาก่อนก็สามารถทำได้ครับ

    ดังนั้นขอยืนยันน่ะครับ ถ้าจะหัดทำสมาธิให้ได้นานๆ ก็ขอให้เข้าใจเถอะครับ ว่าของพวกนี้เป็นอนัตตาครับ หันมาเจริญปัญญาด้วยการทำสัมมาสมาธิหรือเจริญสติเพื่อพาตนเองให้พ้นทุกข์ดีกว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2007
  17. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    คือผมเคยอ่านพระสูตรที่ว่าคนที่ได้ทำบุญกับผู้ที่พึ่งออกจากฌานสมาบัติจะได้อานิสงส์มากน่ะครับ ยิ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งแล้วได้ทำบุญกับผู้ที่พึ่งออกจากนิโรธสมาบัติได้ยิ่งได้บุญมากเป็นพิเศษครับ ผมเลยคิดว่าถ้าตัวเราฝึกสมาธิเข้าฌานให้ได้ลึกๆนานๆ เวลาใครมาทำดีกับเราเขาก็จะได้บุญมากตามไปด้วยน่ะครับ
     
  18. fujiayu

    fujiayu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +1,001
    เพื่อนผมฝึกนั่งตั้งแต่อายุสิบสี่ ฝึกนั่งทุกวันๆละสามชั่วโมง
    ผมเองก็ดูว่าทำได้จริงๆ เพราะนั่งเฝ้า บ่อยมากที่นั่งตั้งแต่
    เที่ยงคืนจนหกโมงเช้า ที่สำคัญรู้เห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่รู้
    ทุกอย่างอยู่ที่การฝึกและฝึก คำว่าฝลุ้กไม่มีเด็ดขาด จนเดี๋ยวนี้
    ก็ยังนั่งถ้ามีเวลา บางเรื่องจะไม่เล่าให้ฟังในที่นี้ เพราะเป็น
    การอวดมากกว่า
     
  19. อักขรสัญจร

    อักขรสัญจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,516
    ค่าพลัง:
    +27,187
    สมาบัติ = เข้าถึง
    ฌาณสมาบัติ = เข้าถึงฌาณ
    สมาบัติแปด = เข้าถึงทั้งฌาณ4และอรูปฌาณ4 รวมเป็น8
    ผลสมาบัติ = เข้าถึงอริยผล
    นิโรธสมาบัติ = เข้าถึงความดับทุกข์(พระนิพพาน)
    อยากนั่งนานก็ให้จิตอยู่ในฌาณนานๆ
    อยู่ในฌาณลึกๆก็จะยิ่งอยู่ได้นาน
    กรรมฐานที่เข้าฌาณลึกได้ คือ
    อานาปานุสติ (ลมหายใจ)
    กสิณ10 (ภาพดิน น้ำ ลม ไฟ แสง ช่องว่าง สีแดง ขาว เหลือง เขียว; เลือกเอาอย่างเดียว)
    อรูปฌาณ4 เริ่มแต่ความว่างไปจนไม่รับรู้อะไร
     
  20. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    เท่าที่ผมทราบมา การเอาสติมาระลึกอยู่ภายในกายทั่วตัวทั่วพร้อมนั้น ก็เป็นพื้นฐานของ รูปฌานที่1-4 เช่นกัน นั่นคือความสงบที่เกิดขึ้นจากสมาธิในแต่ละขั้นนั้นจะแผ่ซ่านครอบคลุมร่างกายทั้งตัวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า........(รายละเอียดข้อมูลสามารถหาอ่านได้จากตอนรูปฌาน 4 ในกายคตาสติสูตรครับ)
     

แชร์หน้านี้

Loading...