พูดไม่ดีทำไม่ดีกับแม่ ยังไม่ได้ทันขอโทษแม่ แม่ตายเสียก่อน

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย maggycm, 12 สิงหาคม 2011.

  1. maggycm

    maggycm สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +0
    พูดไม่ดีทำไม่ดีกับแม่ ยังไม่ได้ทันขอโทษแม่ แม่ตายเสียก่อน

    เคยพูดและทำไม่ดีกับแม่มากๆ เสมือนเป็นลูกเดรัจฉาน ทำให้แม่รู้สึกไร้ค่า เหมือนโดนลูกทิ้งขว้าง พูดจาทำร้ายจิตใจแม่
    ความเป็นวัยรุ่น ความหลงมัวเมาหลงลืมธรรมะในจิตใจไปจนหมดสิ้นจนไร้สติ
    ทั้งๆ ที่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าโตมาแล้วเราจะกลายเป็นคนเลวมากขนาดนั้น

    เมื่อแม่เสีย และพ่อเสีย ไม่เหลือใครเลย และคงเป็นเพราะผลกรรมชั่วที่ไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายแม่กับพ่อขนาดนั้น ทำให้ช่วงหนึ่งใหญ่ๆ ของชีวิตชีวิตตกต่ำถึงที่สุดทุกข์ถึงที่สุด หันหน้าเข้ามาหาธรรมะที่แม่เคยสอนอีกครั้ง ชีวิตเริ่มดีขึ้นบ้าง

    ผมอยากขอโทษพ่อกับแม่ ผมสำนึกผิดมาเกือบสิบปีตลอดเวลาที่แม่เสีย ความรู้สึกเหมือนตกนรกทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ ผมอยากบอก อยากคุยกับพ่อกับแม่ อยากให้ท่านรับรู้ว่าผมเสียใจ ผมไม่ได้ตั้งใจ และผมไม่อยากเหมือนโดนคำสาปจากวิบากกรรมที่ทำกับพ่อแม่อีกต่อไปแล้ว

    ผมควรทำอย่างไรดี และผมจะบอกพ่อกับแม่ให้รับรู้ถึงความรู้สึกของผมได้ยังไง หรือว่ามันสายไปแล้วใช่ไหมครับ
     
  2. Mana80

    Mana80 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +138
    การขอขมากรรมต่อบิดา มารดา ที่เสียชีวิตไปแล้ว
    ไปที่ หน้าพระประธาน ที่พระใช้ทำวัตร ลงอุโบสถ หรือหน้าพระประธาน ใน ห้องพระ ในบ้านคุณ
    หรือหน้ารูปของพ่อ - แม่ ที่อยู่ในบ้านคุณ( เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง )
    หรือ ทำต่อหน้าทั้ง 3 แห่งรวมกันก็ได้ หรือจะทำเพียง 2 แห่งจาก 3 แห่งก็ได้
    แล้วคุณก็ คุกเข่าลง ประนมมือไว้ที่หน้าอก
    เพ่งมองไปที่ ดวงพระเนตรของพระประธาน หรือ เพ่งมองไปที่ ดวงตาของพ่อ - แม่ ในรูป
    พร้อมกับตั้ง นะโม 3 จบ แล้วกล่าวคาถา ว่า

    "
    อิทัง เม มาตาปิตูนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ มาตาปิตะโร " ( 10 จบ )
    แล้วตั้งใจกล่าวขอขมากรรม ว่า
    ด้วยกายกรรม วจีกรรม และ มโนกรรม นี้ ข้าพเจ้า นาย ............... นามสกุล ................... ขอขมากรรมแด่ดวงวิญญาณของ คุณพ่อ ............. คุณแม่ ................... ที่ได้ร่วงลับไปแล้ว
    อกุศลกรรมอันใดที่ ข้าพเจ้าได้เคยกระทำกรรมล่วงเกิน คุณพ่อ ..... คุณแม่ ..... ของข้าพเจ้า
    ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยมโนกรรม ก็ดี และ จะโดยตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี
    ขอด้วยอำนาจแห่งบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้มาขมากรรมบิดามารดา ต่อหน้าพระประธานอันศักดิ์สิทธิ์ในวันนี้จงเป็นพละปัจจัยให้การขอขมากรรมของข้าพเจ้าในครั้งนี้ จงสำเร็จ สำเร็จ สำเร็จ
    สมดังความปรารถนาของข้าพเจ้าด้วยเถิด
    สาธุ สาธุ สาธุ แล้วกราบ 3 ครั้ง
    ( คุณต้องหมั่นทำบ่อย จนเป็น อาจิณณกรรม การขอขมาของคุณจึงจะมีกำลังจนเป็นผลเกิดขึ้นจริง
    ไม่ใช่ นึกอยากจะขอขมาขึ้นมา ก็ทำขึ้นมาทีหนึ่ง อย่างนั้น ใช้ไม่ได้ คุณต้องหมั่นขอขมาซ้ำ จนเป็น กิจวัตรเหมือนอย่างที่พระสงฆ์ ท่านกล่าวขอขมา พระรัตนตรัย เวลาท่านทำวัตรในอุโบสถ เช้า - เย็น ทุกๆวัน )
     
  3. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,800
    ถ้าคุณยังมีชีวิตอยู่ ก็นับว่ายังไม่สายเกินไปหรอกครับ

    หมั่นทำความดี ทำบุญทำกุศล แล้วอธิฐานว่าขอความดีที่เราทำนี้ส่งผลไปให้ถึงพ่อแม่

    ของเราด้วยเทอญ ทำแบบนี้ทุกครั้ง เป็นประจำ หรือถ้าจะให้ดี ก็บวชทดแทนพระคุณท่าน

    ถึงแม้จะบวชเพียงไม่กี่วัน แต่ถ้าคุณทำด้วยความตั้งใจจริง ผลดีมันก็จะส่งผลถึงท่านได้

    ทำดีให้พ่อแม่ดู ถึงท่านจะไม่อยู่ แต่ท่านก็รับรู้ได้ครับ
     
  4. วัฒนพงษ์

    วัฒนพงษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +46
    ชีวิตคนเราเกิดมาไม่มีใครที่ทำไม่ผิด แต่หากรู้ว่าผิดแล้วแก้ไขนั่นเขาเรียกว่าคนยังมีบุญอยู่ แต่กรรมของคุณข่อนค้างหนักอยู่ เพราะท่านทั้งสองเป็นพระอรหันต์ในบ้าน แต่คุณยังโชคดีที่ได้เกิดมาเป็นชาย คุณจะทำได้ไหม หากจะบวชให้ท่านทั้งสองเพื่ออุทิศส่วนกุศลในบุญครั้งนี้ให้ท่าน ตอนนี้หากบวชไม่ได้ต้องปฏิบัติธรรมและทำกรรมฐาน เพื่อส่งบุญไปให้ท่าน
    ส่วนอตีตที่ผ่านมาไปแก้ไขไม่ได้อย่าไปคิดอีกเลย เอาปัจจุบันที่มีลมหายใจอยู่ คิดว่าสิ่งไหนทำแล้วส่งบุญไปให้ท่านเพื่อให้ท่านอโหสิกรรมให้ แต่จะมีอุปสรรคมากหน่อยต้องผ่านไปให้ได้ เพราะเป็นกรรมที่ทำกับพ่อและแม่ คุณต้องยอมรับดังพระพุทธองค์ท่านได้กล่าวไว้ เรามีกรรมเป็นของตน มีกรรมเป็นผู้ให้ผล มีกรรมเป็นแดนเกิด มีกรรมเป็นผู้ติดตาม มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย เราทำกรรมอันใดไว้เป็นบุญหรือเป็นบาป เราจะเป็นทายาท คือว่าเราจะต้องได้รับผลของกรรมนั้น นั้นสืบไป คุณแม่ผมจากไปสองปีแล้วส่วนคุณพ่อก็หลายปี ส่วนที่ทำให้ท่านให้ดีคือการส่งบุญกุศลที่ทำ ไปให้ท่าน เลือกธรรมบุญนะครับ การทำบุญและได้ผลมากไม่จำเป็นต้องใช้เงิน คือการภาวนากรรมฐาน ได้มากว่าสร้างเจดีย์หลายเท่า ขอให้เห็นธรรมกับการปฏิบัติธรรม
     
  5. ชูนุ่น

    ชูนุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    520
    ค่าพลัง:
    +699
    คุณเชื่อกงกรรมกงเกวียนหรือไม่?

    หากเราปฎิบัติกับพ่อแม่อย่างไร.....เราย่อมได้รับอย่างนั้นเหมือนกัน

    แต่นับว่าคุณยังเป็นคนที่มีความกตัญญูอยู่บ้าง จากการที่คุณสำนึกผิด ถึงแม้จะสายไปแล้วก็ตาม(ตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่)

    ตอนนี้ท่านจากเราไปแล้ว แต่ดวงวิญญาณของท่านก็รับรู้ได้....ว่าคุณสำนึกผิดและอยากทำอะไรเพื่อท่าน ก็ไม่สาย อุทิศส่วนบุญส่วนกุศล ทำบุญตักบาตรให้ท่าน ดิฉันเชื่อว่าท่านคงได้รับ และรอคอยรับส่วนบุญส่วนกุศลจากคุณ....

    เมื่อถึงเวลาอันสมควร ท่านก็จะได้อยู่ในที่สุคติ ด้วยอำนาจผลบุญที่คุณส่งให้เป็นปะจำนั่นเอง

    ทำดีไว้เถิด......จะเกิดกับตัวเราเอง....สาธุ
     
  6. yindee1917

    yindee1917 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    229
    ค่าพลัง:
    +211
  7. อภิราม

    อภิราม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    532
    ค่าพลัง:
    +9,005
    บวชซิครับ เพราะการบวช พ่อแม่จะได้รับผลบุญโดยตรง ไม่ว่าท่านจะอยู่ในภพใดภูมิใด

    บุญจากการบวช เป็นบุญที่ยิ่งใหญ่มาก เป็นการทดแทนพระคุณของท่านที่ดีที่สุด

    ที่ลูกผู้ชายทุกคนควรกระทำ บวชเถอะครับ ไม่มีคำว่าสาย หากยังมีลมหายใจอยู่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 สิงหาคม 2011
  8. Reynolds

    Reynolds เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    578
    ค่าพลัง:
    +1,501
    พ่อแม่คุณ ไม่ไปไหนหรอกเค้าอยู่ใกล้ๆคุณคอยดูแลปกป้องคุณอยู่ใกล้ๆ คอยตามอโหสิให้คุณอยู่ คุณทำอะไรท่านรับรู้หมดแหละ บวชได้มั้ยล่ะ ตั้งสัจจะว่าการบวชครั้งนี้จะยกบุญกุศลให้ท่านเพื่อเป็นการขอขมาท่านให้ท่านอโหสิและยกโทษให้และให้ท่านได้รับกุศลผลบุญทั้งหมด ซัก7 15 วันก็ได้ แต่ เอาให้เต็มที่ อย่าผิดพระวินัย ดีไม่ดีถ้าถูกใจอาจอยู่ไปทั้งชีวิตเลยก็ได้ใครจะไปรู้ ถ้าเป็นเช่นนั้นพ่อแม่สบายเลยนะ แต่ยังไงก็ตามบอกท่านขอโทษขอขมาท่านเสีย ตามที่คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Mana80<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4986066", true); </SCRIPT> บอกไว้ก็ได้ หมั่นทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ท่านบ่อยๆๆ แล้วก็ปฏิบัติธรรม สวดมนต์ภาวนา นั่นแหละคือทางที่ท่านจะได้รับผลบุญ ไม่สายที่จะเป็นคนดี ธรรมะไม่มีคำว่าสาย หากจะรู้สึกทุกข์และท้อใจ จงยกเรื่องขององคุลีมารไว้เป็นตัวอย่างนะครับ ธรรมะไม่มีคำว่าสายหรอก เริ่มต้นใหม่ แก้ไขได้เสมอ ตอนนี้เห็นธรรมะแล้วใช้ไหม นั่นก็เท่ากับว่าคุณเริ่มเห็นทางแล้วล่ะ พร้อมที่จะออกเดินทางตามหาธรรมะหรือยัง ค่อยๆเดินไปนะ ทางนี้พ่อกับแม่คุณจะได้รับกุศลผลบุญแน่นอนครับ ผมเชื่อว่าท่านอยู่ใกล้คุณ คอยดูคุณไม่ห่าง คอยห่วงคอยช่วยเหลือเท่าที่ช่วยได้ ด้วยความเป็นพ่อกับแม่
     
  9. Homealond

    Homealond เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +476
    บวชค่ะ และแม้จะสึกหรือไม่ จากนี้ไปขอให้ทำแต่ความดีทุกลมหายใจ ทำความดีทุกครั้งก็อุทิศให้พ่อแม่อย่างเดียว

    อย่าให้สาย เพราะชีวิตยังอยู่ ยังมีโอกาศมากกว่าคนที่ไม่มีสังขารค่ะ
     
  10. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,129
    บวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ให้คุณพ่อคุณแม่ ... อีก 1เสียงครับ


    บุญที่ใหญ่ที่สุดของลูกผู้ชายที่จะตอบแทนคุณบิดามารดา

    ..................................................................

    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=5 width=550 border=0><TBODY><TR><TD align=middle>อานิสงส์บวชพระ </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff>
    <TABLE width=540 align=center border=0><TBODY><TR><TD align=left>
    องค์สมเด็จพระบรมศาสดาตรัสว่า การอุปสมบทบรรพชามีอานิสงส์พิเศษ ซึ่งองค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์ตรัสว่า อานิสงส์อย่างอื่น มีการสร้างวิหารที่ดี การถวายสังฑานก็ดี ทอดกฐินผ้าป่าก็ดี จัดว่าเป็นอานิสงส์สำคัญ แต่อานิสงส์นี้นั้น บุคคลที่จะพึงได้ต้องโมทนาก่อน

    แต่ว่าการอุปสมบทบรรพชานี้แปลกกว่านั้น องค์สมเด็จพระทรงธรรมบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ว่า

    "สมมุติว่าบุตรชายของท่านผู้ใดออกจากครรภ์มารดาวันนั้น บิดามารดาก็จากกัน ลูกกับพ่อแม่ย่อมไม่รู้จักกัน เวลาที่อุปสมบทบรรพชานั้น บิดามารดาไม่ทราบ บิดามารดาย่อมได้อานิสงส์นั้นโดยสมบูรณ์ การอุปสมบทบรรพชาจึงจัดว่าเป็นกุศลพิเศษ"

    คำว่า "บรรพชา" หมายความว่า บวชเป็นเณร คำว่า "อุปสมบท" หมายความว่า บวชเป็นพระ

    ท่านที่บรรพชาในพระพุทธศาสนาเป็นสามเณร องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า ท่านผู้บรรพชาเอง คือ เณร ถ้าประพฤติปฏิบัติดีก็เป็นการลงทุนซื้อสวรรค์ ถ้าปฏิบัติเลว การบวชพระบวชเณรก็ถือว่าเป็นการซื้อนรก ท่านที่บวชป็นเณรเข้ามาในพระพุทธศาสนาแล้วประพฤติปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามระบบธรรมวินัย สำหรับท่านผู้เป็นเณรนั้นไซร้ ย่อมมีอานิสงส์ถ้าตายจากความเป็นคน ถ้าจิตของตนมีกุศลธรรมดาไม่สามารถจะทรงจิตเป็นฌาน ท่านผู้นั้นจะเสวยความสุขบนสวรรค์ได้ถึง ๓๐ กัป

    ถ้าหากว่าทำจิตของตนเกือบเป็นฌาน ได้ฌานสมาบัติ ตายจากความเป็นคนจะเกิดเป็นพรหม มีอายุอยู่ถึง ๓๐ กัปเช่นเดียวกัน
    อายุเทวดาหรือพรหมย่อมมีกำหนดไม่ถึง ๓๐ กัป ก็หมายความว่าเมื่อหมดอายุแล้วก็จะเกิดเป็นเทวดาใหม่ เกิดเป็นพรหมใหม่อยู่บนนั้นไปจนกว่าจะถึง ๓๐ กัปหรือมิฉะนั้นก็ต้องเข้าพระนิพพานก่อน

    บิดามารดาของสามเณร ย่อมได้อานิสงส์คนละ ๑๕ กัป ครึ่งหนึ่งของเณร
    องค์สมเด็จพระมหามุนีตรัสต่อไปว่า บุคคลผู้มีวาสนาบารมี คือมีศรัทธาแก่กล้า ตั้งใจอุปสมบทในพระพุทธศาสนาเป็นพระสงฆ์ แต่ว่าเมื่อบวชแล้วก็ต้องปฏิบัติชอบ ประกอบไปด้วยคุณธรรม คือ มีพระธรรมวินัยเป็นสำคัญ ท่านที่บวชเป็นพระด้วยตนเอง จะมีอานิสงส์อยู่เป็นเทวดาหรือพรหม ๖๐ กัป บิดามารดาจะได้คนละ ๓๐ กัป นี้เป็นอานิสงส์พิเศษ

    แต่ทว่าภิกษุสามเณรท่านใดทำผิดบทบัญญัติในพระพุทธศาสนา ก็พึ่งทราบว่าเวลาตายก็มีอเวจีเป็นที่ไปเหมือนกันอานิสงส์ที่พึงได้ใหญ่เพียงใดโทษก็มีเพียงนั้น

    สำหรับผู้ที่ช่วยในการบวช การอุปสมบทบรรพชาในพระพุทธศาสนา คือบำเพ็ญกุศลร่วมกับเขา ด้วยจตุปัจจัยมากบ้างน้อยบ้าง ช่วยขวนขวายในกิจการงานในการที่จะอุปสมบทบ้าง อย่างนี้องค์สมเด็จพระพิชิตมารบรมศาสดากล่าวว่า ท่านผู้นั้นจะมีอานิสงส์เสวยความสุขอยู่บนสวรรค์ หรือในพรหมโลกคนละ ๘ กัป

    แต่ถ้าเป็นคนฉลาด อย่างที่วัดนี้เขาบวชพระกัน ๔๒ องค์ เราก็บำเพ็ญกุศลช่วยในการบวชพระ ใม่เจาะจงเฉพาะท่านผู้ใดผู้หนึ่ง เรียกว่าช่วยทั้งหมดทั้ง ๔๒ องค์ ก็ต้อง ๔๒ องค์ ตั้งเอา ๘ คูณ


    อานิสงส์กุศลบุญราศีท่เราจะพึงได้สำหรับท่านผู้เป็นเจ้าภาพ ในฐานะคนที่บวชไม่ได้เป็นบุตรของเรา แต่ว่าเป็นผู้จัดการขวนขวายในการอุปสมบทบรรพชาให้ อันนี้องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดากล่าวว่า ท่านผู้จัดการบวชจะได้อานิสงส์ ๑๒ กัป จะมีผลลดหลั่น ซึ่งกันและกัน

    การที่นำเอาอานิสงส์บรรพชากุลบุตรกุลธิดาไว้ในพระพุทธศาสนามาแสดงแก่บรรดาท่านพุทธบริษัท เพราะเห็นว่าในเวลานี้ บรรดาพุทธบริษัททั้งหลายยังไม่ค่อยจะมีความเข้าใจคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระประทีปแก้วในข้อนี้ อีกประการหนึ่ง การจะบวชลูกหลานเข้าไว้ในพระพุทธศาสนา ส่วนใหญ่ไม่ได้ตั้งใจจะเอาบุญ ถือทำกันตามประเพณีเป็นสำคัญ พอเริ่มการจัดงานก็มีการฆ่าไก่บ้าง ฆ่าปลาบ้าง ฆ่าหมูบ้าง ฆ่าวัวฆ่าควายบ้าง เอาสุราเบียร์เข้ามาเลี้ยงกันบ้าง ถ้าทำกันตามประเพณีแบบนี้ก็จะได้ชื่อว่า ไม่มีอานิสงส์กุศลบุญราศีอะไรเลย เพราะมีเจตนาชั่ว คือเริ่มต้นก็ทำบาปก่อนแล้วองค์สมเด็จพระประทีปแก้วกล่าวว่า ถ้าจิตเป็นอกุศล กุศลใดๆ ที่ตนคิดว่าจะทำมันก็ไม่ปรากฏ

    ฉะนั้น ในการใด ถ้าเราจะบำเพ็ญกุศลบุญราศีให้ปรากฏเป็นผลดีก็ขอให้การนั้นเป็นการที่บำเพ็ญกุศลจริงๆ จงเว้นกรรมที่เป็นอกุศลเสียให้หมด งดสิ่งที่เป็นกรรมชั่วทุกประการ ตั้งใจไว้เฉพาะบำเพ็ญกุศลบุญราศีเท่านั้น

    กุลบุตรที่บวชในพระพุทธศาสนา ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ความผ่องใสของท่านผู้บวชก็มีขึ้น คือ จิตผ่องใสปราศจากอารมณ์ที่เป็นกิเลส ต่อมาปฏิบัติตามคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์ คือเจริญสมถกรรมฐาน วิปัสสนากรรมฐาน จนอารมณ์ชื่นบานเข้าถึงธรรมปีติ คำว่า ธรรมปีติ หมายความว่า ยินดีในการปฏิบัติความดีในด้านพระธรรมวินัยอย่างหนึ่ง ยินดีในการเจริญสมถภาวนาและวิปัสสนาภาวนา อานิสงส์กุศลบุญราศีก็เกิด

    องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเปรียบเทียบไว้ว่า ผู้ใดอุปสมบทบรรชาในพระพุทธศาสนาแล้ว วันหนึ่งทำจิตใจว่างจากกิเลสเพียงวันละชั่วขณะจิตเดียว เวลานอกนั้นจิตก็ฟุ้งซ่านไปตามอารมณ์ต่างๆ แต่พยายามควบคุมกำลังใจไม่พลาดพลั้งจากพระธรรมวินัย ท่านผู้นั้นบวชเข้ามาแม้แต่วันเดียว ก็ย่อมมีอานิสงส์ดีกว่าพระที่บวชเข้าในพระพุทธศาสนาตั้ง ๑๐๐ ปี มีศีลบริสุทธิ์ แต่ไม่เคยเจริญสมาธิจิต คือ ทำจิตว่างจากกิเลสวันหนึ่งชั่วขณะจิตเดียว มีรัศมีกายสว่างไสวกว่า

    รวมความว่า การอุปสมบทบรรชาในพระพุทธศาสนา ย่อมเป็นปัจจัยเข้าถึงพระนิพพาน และมีอานิสงส์เป็นสามัญผล คือผลที่เสมอกัน คนที่บวชในพระพุทธศาสนาจะลูกผู้ดีหรือยากจนเข็ญใจย่อมมีสิทธิเสมอกันในการทรงสิกขาบท และในการกำหนดจิตปฏิบัติสมถกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน

    ถามพระท่านว่า ถ้าพระพวกนั้นจะทำบุญบวชพระบ้าง ทั้งๆ ที่ตัวเองก็บวช และทำบุญด้วยจะมีอานิสงส์เหมือนญาติโยมไหม

    พระท่านก็บอกว่า ถ้าเขาจะทำบุญต้องทำบุญก่อนที่เขาบวช นั่นหมายความว่า ขณะที่บวชก็เอาเงินมาช่วยกับกองกลางเท่าไรก็ตามที่จะพึงมีตั้งใจบวชพระทั้งหมด ท่านพวกนั้นจะมีอานิสงส์นอกจากของตัวเอง ๖๐ กัปแล้ว จะมีอานิสงส์เป็นเจ้าภาพด้วย เอา ๑๒ คูณ จำนวนองค์ที่บวช

    ถามว่า ถ้าพระทั้งหลายเหล่านั้นเมื่อบวชแล้วจึงรู้อานิสงส์ เมื่อบวชแล้วเอาสตางค์มาร่วมในการทำบุญบวชพระ

    ท่านบอก อันนี้ไม่ใช่แล้ว นั่นต้องเป็นทานบารมีปกติ เป็นถวายสังฆทานไป อานิสงส์นับกัปไม่ได้ แต่มีความร่ำรวยแน่ รวยทุกชาติ

    จากหนังสือ พ่อสอนลูก <!-- google_ad_section_end -->


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    http://webcache.googleusercontent.com/search?hl=th&biw=1249&bih=704&rlz=1R2MOOI_enTH355&gs_sm=s&gs_upl=1922l15250l0l17203l15l15l0l6l6l0l656l2313l2-1.1.1.2l5l0&q=cache:yEC855kumVUJ:http://palungjit.org/threads/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B9%8C%E0%B8%9A%E0%B8%A7%E0%B8%8A%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0.135190/+%E0%B8%9A%E0%B8%A7%E0%B8%8A%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0+%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B9%8C&ct=clnk


    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 สิงหาคม 2011
  11. justonelife

    justonelife เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +190
    สาธุ สาธุ ในความสำนักผิดชอบชั่วดีครับ ก็ขอให้อดีตผ่านไปเป็นเครื่องเตือนใจให้หมั่นทำดี ผมเองก็ขออนุโมทนาล่วงหน้าหากจะบวช และเห็นด้วยกับเพื่อนๆในกระทู้ที่แนะนำครับ เป็นสิ่งดี สนับสนุนครับ
     
  12. maggycm

    maggycm สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +0
    ขอบพระคุณ พระคุณเจ้าและเพื่อนๆ ทุกท่าน ที่ช่วยชี้แนะแนวทางให้คนที่หมดหวังและทุกข์กับเรื่องนี้มากว่าสิบปีได้พบคำตอบและหาทางออกได้
    ทำให้มีกำลังใจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ เพื่อจะทำความบุญและความดีให้พ่อกับแม่


    จะไปบวชให้ท่านเร็วๆ นี้ล่ะครับ ^__^
     
  13. ruangsin

    ruangsin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +130
    ใครจะทำอย่างผมก็ได้ถ้าพ่อแม่ยังมีชีวิตอยู่เมื่อตอนเดือนเมษายนผมทำน้ำหอมแต่งขันธ์ห้าไปกราบพ่อกับแม่ผมโดยเอาน้ำหอมใส่กะละมังกราบพ่อกับแม่แล้วเอาเท้าท่านทั้งสองจุ่มลงในน้ำท่านก็อโหสิกรรมให้แล้วเอาน้ำนั้นไปอาบโดยรดตั้งแต่ศรีษะลงมาเลยเมื่ออาบเสร็จก็อาเจียนออกมาคิดว่าเป็นสิ่งไม่ดีอะไรสักอย่าง..นับตั้งแต่วันนั้นมาเวลาผมมีปัญหาทุกอย่างก็จะสามารถแก้ไขไปได้แบบไม่น่าจะเป็นไปได้ก็มี
     
  14. พระดนัย

    พระดนัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +1,478
    เจริญพร

    สมัยหนึ่งอาตมาเคยเป็นเหมือนคุณโยม พ่อ แม่ ทุกข์ใจเป็นอย่างมาก สมัยเป็นวัยรุ่น ชอบไปตีกับคนอื่น เอามีดไปฟันเขา พ่อ แม่ พูดอะไรก็ไม่เชื่อ ไปเล่นแชร์ ได้เงินมาก็กินหมด ต้องให้ท่านตามไปจ่ายเงินให้

    แต่อาตมายังโชคดีที่ท่านยังมีชีวิตอยู่

    ก่อนบวชอาตมาไปกราบท่าน บอกท่านว่า...

    วันนี้ลูกทำพิธี ขอขมาคุณพ่อคุณแม่แล้ว ร่มโพธิ์แก้ว โพธิ์ทองของลูกเอ๋ย อันกุศลผลบุญที่คุ้นเคย ขอชดเชยคุณพ่อคุณแม่พลันกตัญญู

    ทุกวันนี้ อาตมามีความสุขมากๆ เลย
     
  15. TuCkIe

    TuCkIe สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +16
    ขอเป็นอีก 1เสียงที่เป็นกำลังใจให้นะคะ คนเราทำผิดแล้ว รู้จักแก้ไขในสิ่งที่ผิดก็นับว่าดีนะคะ ขอเป็นกำลังใจให้ท่านทำความดีเพื่ออุทิศบุญกุศลให้ บิดา-มารดา ต่อไปค่ะ ..
    สู้ๆ นะคะ ...:cool:
     
  16. phrasantamano

    phrasantamano Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +53
    เหมือนอาตมเมื่อตอนเป็นชาวบ้าน ความรู้สึก"ผิด"ต่อโยมพ่อโยมแม่ยังไม่ได้ขอขมาลาโทษ ท่านก็มาจากไปก่อน มารู้สึกตัวตอนก่อนจะบวช บวชแล้วก็ยังรู้สึกสำนึกผิด พยายามทำความดีทุกอย่างตามพระธรรมวินัย(ให้ผิดน้อยที่สุด)เพื่ออุทิศบุญกุศลไปให้ท่านทั้งสอง บางเวลาทำสมาธิมีจิตใจสงบถึงกับร้องไห้ออกมาเพราะ....1.สายไปแล้วที่จะกราบท่าน 2.เมื่อตัวเองเจอกับความสุขที่แท้จริงก็สายไปแล้วที่จะบอกท่าน 3.ร้องไห้เพราะขอบพระคุณท่านที่สร้างร่างกายเนื้อนี้มาเพื่อทำความดีและ4.ร้องไห้เพราะ"ได้บวช"ให้ท่านทั้งสองแล้วแม้ท่านจะไม่เห็นด้วยตาเนื้อก็ตาม ......ขออนุโมทนาต่อ"ลูก"ผู้คิดได้ทุก ๆ ท่าน
     
  17. animejanai

    animejanai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    520
    ค่าพลัง:
    +494
    แก้ไขข้อความ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 ตุลาคม 2012
  18. น้องจุ๊บ

    น้องจุ๊บ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    603
    ค่าพลัง:
    +1,303
    อ่านแล้วสังเวชใจ ที่คุณทำไม่ดีต่อคนที่รักคุณมากที่สุดในชีวิต ตอนที่ท่านมีชีวิตอยู่ เพราะถ้าทำไม่ดีต่อผู้มีพระคุณจะส่งผลร้ายแรงกลับมาอย่างมากมาย
    บวช(ผ้าเหลือง)ให้ท่านนะคะ ถือศีลให้เคร่ง
     
  19. Willam

    Willam สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    624
    ค่าพลัง:
    +18
    ดีแล้วที่รู้ตัวทัน ดีกว่าหน้ามืดตาลาย ไม่รู้ตัวจนวันของตนเองที่จะตาย เรื่องในอดีตที่เลวร้ายก็ลืมๆ มันไป ทำทุกวันนี้ให้ดีที่สุด กระผมเป็นกำลังใจให้ครับ สู้ๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...