ช้างเผือกกับคำทำนายของหลวงปู่มั่น

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย นวกะ36, 14 พฤศจิกายน 2010.

  1. นวกะ36

    นวกะ36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2008
    โพสต์:
    222
    ค่าพลัง:
    +2,997
    ช้างเผือกกับคำทำนายของหลวงปู่มั่น

    [​IMG]
    หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านหลังจากว่างจากการส่งงานอันหนักหน่วงในช่วงเดือนที่ผ่าน ผมได้มีโอกาสอ่านประวัติคร่าวๆของพระสุปัฏิปันโนแห่งอุดรธานี(บ้านเกิดของผมเอง ซึ่งผมไม่เคยมีบุญได้กราบท่านเลย จนปัจจุบันนี้ท่านละสังขารไปได้สองปีแล้ว) คือ พระปัญญาพิศาลเถร หรือ หลวงพ่อทูล ขิปฺปปัญโญ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านค้อ



    ตัวท่านหลวงพ่อทูลนี้ ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ขาว อนาลาโยแห่งวัดถ้ำกลองเพล (วัดนี้ผมเคยไปตอนเด็กๆ ไปบ่อยมากเพราะเวลาไปหาน้าที่จังหวัดหนองบัวลำภู จะต้องผ่านวัดนี้เป็นประจำ) ซึ่งในอัตโนประวัติที่ท่านเขียนนี้ มีตอนหนึ่งที่ผมอ่านแล้วรู้สึกปลาบปลื้มใจมาก เลยอยากให้เพื่อนๆทุกท่านได้มีโอกาสได้รับรู้ด้วย ซึ่งเป็นการสนทนาระหว่างหลวงปู่ขาว กับ หลวงพ่อทูล เรื่องคำทำนายของหลวงปู่มั่น เกี่ยวกับช้างเผือก ซึ่งมีเนื้อความดังนี้

    _/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__​


    หลวงปู่ขาวเล่าเรื่องช้างเผือกให้ฟัง

    [​IMG]

    หลวงปู่ขาว อนาลโย


    เมื่อเสร็จธุระจากกฐินวัดป่าหนองแซงแล้ว ก็ได้กลับไปวัดถ้ำกลองเพล ได้พูดคุยธรรมกับหลวงปู่ตามปกติในวันหนึ่งได้อยู่กับหลวงปู่สององค์ หลวงปู่ได้ถามข้าพเจ้าว่า


    "ทูล เคยนิมิตว่าได้ขี่ช้างเผือกไหม"

    ขอโอกาสหลวงปู่ กระผมเคยนิมิตว่าได้ขี่ช้างเผือกครั้งหนึ่ง หลวงปู่พูดว่า

    "ขี่อย่างไร เล่าให้เฮาฟังซิ"


    ก็ขอโอกาสเล่าให้หลวงปู่ฟังดังนี้ ในคืนหนึ่งเมื่อเข้าสมาธิได้ที่แล้ว ในโลกนี้มีความสว่างเห็นไปหมดทุกที่ มองขึ้นไปบนอากาศก็มีความสว่างไสวเช่นกัน ในขณะนั้นเห็นหลวงปู่มั่นนั่งอยู่บนหลังช้างเผือกขนาดใหญ่ และมีครูอาจารย์องค์อื่นๆนั่งอยู่บนหลังช้างเผือกยืนเรียงแถวกันอยู่หลายองค์ จากนั้นช้างเผือกที่หลวงปู่มั่นนั่งอยู่ก็ลอยขึ้นสู่อากาศ และช้างเผือกตัวอื่นๆก็พาครูอาจารย์ลอยขึ้นสู่อากาศเช่นกัน จากนั้นก็มาถึงตัวช้างเผือกที่กระผมนั่งอยู่ก็ได้ลอยขึ้นไปตามช้างเผือกกลุ่มใหญ่ ได้ลอยอยู่บนอากาศเป็นวงกลม ช้างเผือกแต่ละตัวมีการประดับประดา ด้วยเครื่องเพชรนิลจินดา ประดับด้วยผ้าสีทองที่มีความสวยงามมาก ในท้องฟ้าอากาศมีรัศมีระยิบระยับแพรวพราว สว่างเต็มท้องฟ้าไปหมด แล้วมีเสียงประกาศว่า


    "นี้เป็นกลุ่มคณะช้างเผือก ที่หลวงปู่มั่นได้พาหมู่คณะไปสู่พระบรมสุข คือ วิมุตตินิพพานในกาลครั้งนี้"


    จากนั้นจิตก็ได้ถอนออกจากสมาธิ ก็ได้พิจรณาว่า เป็นเรื่องปกติี่ที่ผู้ปฏิบัติได้มาถึงจุดนี้แล้ว ถือเป็นความสมบูรณ์ เป็นอุดมมงคล เพราะช้างเผือกเป็นช้างทรงของพระราชา จะตีความว่า ราชาธรรมนี้ก็เป็นได้ หมายถึงผู้จบในภาคการศึกษา คือจบในอาตยนะนั่นเอง หรือจะเรียกว่าเป็นผู้ที่เรียนจบในประโยค ๖ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ได้แล้วอย่างสมบูรณ์


    จากนั้นหลวงปู่ขาวเพียงแต่ยิ้มแล้วพูดว่า


    "ในสมัยเฮาอยู่กับหลวงปู่มั่น หลวงปู่มั่นเคยประกาศให้คณะสงฆ์ทั้งหลาย ได้รับรู้ไว้ว่า เมื่อเราได้ตายไปแล้ว จะมีช้างเผือกหนุ่มตัวหนึ่ง เหาะไปมา แสดงอภินิหาร ให้คนทั้งหลายได้รู้เห็นในความสามารถต่างๆ มากมาย พระเถระทั้งหลายได้ฟังแล้ว ก็มีความเข้าใจความหมายว่า ในยุคต่อไป จะมีพระอรหันต์หนุ่มเกิดขึ้น จะได้แสดงความรู้ึความสามารถ เผยแผ่ธรรมให้คนทั้งหลายได้รับรู้ความจริงในสัจธรรม จะมีผู้ปฏิบัติตามได้รับผลมากทีเดียว"


    ข้าพเจ้าก็ถามหลวงปู่ขาวว่า ขอโอกาสหลวงปู่ ช้างเผือกหนุ่มเชือกนั้นเกิดขึ้นหรือยัง หลวงปู่ก็พูดว่า

    "เกิดขึ้นแล้ว"


    ข้าพเจ้าก็ถามหลวงปู่ต่อไปว่า ช้างเผือกหนุ่มนั้นอยู่ที่ไหน กระผมอยากรู้ อยากไปกราบท่าน หลวงปู่ยิ้มๆแล้วพูดว่า "ไม่บอก หาเอาเองแล้วกัน" เรื่องช้างเผือกหนุ่มนั้น พระอาจารย์วัน อุตฺตโม และพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ ก็เคยพูดในเรื่องช้างเผือกหนุ่มนี้ให้ข้าพเจ้าฟังเช่นกัน เมื่อถามท่านว่าเป็นอาจารย์องค์ใด ท่านก็ไม่บอกเช่นกัน


    [​IMG]
    หลวงพ่อทูล ขิปฺปปัญโญ

    หากมีคำถามข้าพเจ้าว่า ช้างเผือกหนุ่มเชือกนั้นเกิดขึ้นหรือยัง ข้าพเจ้าก็จะตอบว่าเกิดขึ้นแล้วเช่นกัน แต่ไม่รู้ว่าช้างเผือกเชือกนั้นอยู่ที่ไหน หรือท่านอาจจะเห็นอยู่แ่ต่ไม่รู้ว่าเป็นช้างเผือก เพราะช้างเผือกนั้นอาจใช้สีดำทาเพื่ออำพรางตัวเอาไว้จึงไม่มีใครรู้ ขอให้พวกเราค้นหาช้างเผือกหนุ่มนั้นให้พบ เมื่อพบแล้ว กรุณามาบอกข้าพเจ้าก็แล้วกัน เพื่อจะได้ไปกราบคารวะและฟังธรรมจากช้างเผือกหนุ่มเชือกนั้นให้สมใจ การทำนายของหลวงปู่มั่นนั้น หลวงปู่ขาวพูดว่า "มีความแม่นยำมาก พูดคำใดคำนั้น เพราะหลวงปู่มั่นมีความชำนาญด้วยญาณ อตีตังสญาณ ท่านรู้ในเรื่องอดีตที่ผ่านมาแล้ว อนาคตังสญาณ ท่านรู้ในเรื่องอนาคต"



    อภินิหาร ๓ อย่าง

    ที่หลวงปู่มั่นว่าช้างเผือกหนุ่มมีอภินิหารนั้น หลายคนอาจตีความหมาย ไม่ตรงตามหลวงปู่มั่นก็อาจเป็นได้ เพราะคนส่วนใหญ่ได้อ่านในตำรา หรือได้ฟังจากครูอาจารย์มามากว่า อภินิหารต้องเป็นผู้มีฤทธิ์ สามารถดำดินเหาะเหินไปบนอากาศได้ เช่นได้อ่านเรื่องอภิญญา มีจักขุญาณ มีญาณทางตาที่เรียกว่าตาทิพย์ กำหนดจิตให้เห็นรูปเทวดา นรก และสิ่งอื่นๆได้ โสตญาณ มีญาณทางหู เรียกว่าหูทิพย์ กำหนดจิตฟังเสียงในหมู่เทวดาและสัตว์นรก และกำหนดฟังเสียงอื่นๆได้ เจโตปริยญาณ เป็นญาณรู้ทางใจ กำหนดจิตรู้ในความคิดความเห็นของคนอื่นได้ มโนมอิทธิญาณ เป็นฤทธิ์ทางใจ กำหนดจิตให้เป็นนั่นเป็นนี่ หรือเป็นหลายคนได้ อิืทธิวิธี เป็นอภินิหารทางใจ สามารถเหาะเหินไปมาที่ไหนได้ คนส่วนใหญ่จะมาเข้าใจว่า อภินิหารต้องเป็นอย่างนี้


    ในความหมายของหลวงปู่มั่น ว่าช้างเผือกหนุ่มมีอภินิหารนั้น หมายถึงอภินิหาร ๓ อย่าง


    1. อิทธิปาฏิหารย์ แสดงฤทธิ์ได้นานาประการ
    2. อาเทสนาปาฏิหารย์ มีญาณรู้วาระจิตคนอื่น แล้วพูดดักใจคนอื่นได้
    3. อนุสาสนีปาฏิหารย์ มีความสามารถแสดงธรรมได้อย่างมีเหตุผล ทำให้คนที่ฟังเข้าใจในความหมายได้อธิบายธรรมหมวดที่คนเข้าใจได้ยาก มาอธิบายให้คนเข้าใจง่าย อธิบายธรรมหมวดยาว สามารถย่นย่อธรรมที่ยาว มาอธิบายโดยย่อให้คนเข้าใจได้
    อภินิหาร ๓ ข้อนี้ ข้อ ๑ ข้อ ๒ ที่ทำให้เกิดขึ้นได้ แต่พระุพุทธเจ้าไม่สรรเสริญ แต่พระพุทธเจ้ามาสรรเสริญ อนุสาสนีปาฏิหารย์ ในข้อ ๓ เพราะเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาและมรรคผลนิพพาน ฉะนั้นหลวงปู่มั่นว่ามีช้างเผือกหนุ่มมีอภินิหารนั้น หมายถึง อนุสาสนีปาฏิหารย์ เป็นผู้มีความสามารถแสดงธรรม ให้เป็นไปในคำสอนของพระพุทธเจ้าได้อย่างถูกต้อง ทำให้คนมีสัมมาทิฏฐิ ความเห็นชอบ ตามแนวทางที่เป็นจริง แสดงธรรมให้คนเข้าใจในอุบายการปฏิบัติ เพื่อเป็นไปในมรรคผลนิพพาน หลวงปู่มั่นมีความหมายเป็นอย่างนี้ ขอให้พวกเราได้เข้าใจ เพื่อจะได้ค้นหาช้างเผือกหนุ่มได้ง่ายขึ้น มิใช่ว่าคอยไปดู เมื่อไรหนอท่านจะเหาะขึ้นสู่อากาศ เมื่ิอไหร่หนอท่านจะดำดินและหายตัวให้ดู ถ้าจะหาในวิธีนี้ รับรองได้ว่า จะไม่พบช้างเผือกหนุ่มอย่างแน่นอน เพราะตีความหมายในอภินิหารผิดไป จึงทำความเข้าใจแก่ท่านดังนี้



    คัดลอกจาก:Mindfulness of Mind - ช้างเผือกกับคำทำนายของหลวงปู่มั่น
     
  2. ศรัทธานนท์

    ศรัทธานนท์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2010
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +114
    ด้วยพุทธบารมี ธรรมบารมี สังฆบารมี ขอให้ข้าพเจ้าได้เจอช้างเผือกหนุ่มนั้น แล้วขอให้ข้าพเจ้าได้ฟังธรรมอันประเสริฐ ได้ดวงตาธรรมมาด้วยเถิด
     
  3. yommatood

    yommatood เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    624
    ค่าพลัง:
    +1,298
    ช้างเผือกกับคำทำนายของหลวงปู่มั่น คือ หลวงปู่เณรคำหรือเปล่าหนอ<!-- google_ad_section_end -->
     
  4. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    เข้ามาอ่านค่ะ..............
     
  5. Sunthorn2493

    Sunthorn2493 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +181
    ช้างเผือกรูปนั้น หมายถึง ท่านหลวงตามหาบัว หรือเปล่าครับ เพราะเคยอ่านประวัติของท่านพระอาจารย์มั่น ท่านทำนายว่า หลังจากท่านนิพพานแล้วไม่นาน จะมีพระหนุ่ม 2 องค์ บรรลุธรรมตามท่านในเวลาไล่เลี่ยกัน ผิดถูกประการใดขออภัยด้วยครับ..:VO:VO
     
  6. Sirimaneekorn

    Sirimaneekorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    198
    ค่าพลัง:
    +185
    คิดว่าเป็นหลวงตามหาบัวค่ะ เพราะท่านช่วยชาตินับประมาณมิได้
    เผยแพร่ธรรมะ สอนธรรมะให้หลุดพ้นหลายองค์แล้ว เช่นหลวงปู่คำดี
    แม่ชีแก้ว
     
  7. อวิชานาคา

    อวิชานาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    268
    ค่าพลัง:
    +345
    ปรารถณาจะได้ฟังธรรม พึ่งบารมีช้างเผือกท่านนั้น ทำลายกิเลสที่มันเกาะกุมไม่ยอมปล่อยจริงๆ ขอให้ข้าพเจ้ามีวาสนาจะได้พบช้างเผือกท่านนั้นด้วยเถอะ
     
  8. ป่ากุง

    ป่ากุง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2010
    โพสต์:
    416
    ค่าพลัง:
    +784
    เคยฟังเทศนาพ่อแม่ครูอาจารย์ องค์พระหลวงตามหาบัว ....หลวงปู่มั่นได้ทำนายว่า จะมีช้างเผือกหนุ่ม 2 เชือก ที่เดินตามทางของเราถึง....... หลังเรานิพพานไปไม่นาน...
    ..... องค์หลวงตา สำเร็จ เมื่อ ปี 2493 หลวงปู่เจี๊ยะ สำเร็จ ปี 2492.....

    ...ในความคิดของผม ช้างเผือก คือ พ่อแม่ครูอาจารย์ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ครับ
     
  9. นวกะ36

    นวกะ36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2008
    โพสต์:
    222
    ค่าพลัง:
    +2,997
    ถ้าจะพิจารณากันอย่างละเอียดแล้วในใจของผมคิดว่าน่าจะเป็นองค์หลวงตามหาบัว แห่งวัดป่าบ้านตาด ก็เพราะว่าในปัจจุบันนี้ท่านเปรียบเสมือนเป็นเสาหลักให้กับพระป่าสายหลวงปู่มั่น และพ่อแม่ครูบาอาจารย์สายพระป่าก็มักกล่าวถึงองค์หลวงตาให้ลูกศิษย์ลูกหาของแต่ละท่านฟังเสมอ และทั้งยังได้บอกให้ลูกศิษย์ให้รีบหาเวลาไปกราบองค์หลวงตากัน ดังนั้นผมจึงคิดว่าองค์หลวงตานี้แหละคือช้างเผือกที่หลวงปู่มั่นได้กล่าวเอาไว้
     
  10. ธัมมนัตา

    ธัมมนัตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,516
    ค่าพลัง:
    +9,769
    เรืองนิมิตช้างเผือกของหลวงปู่มั่นความโดยละเอียดมีดังนี้

    “หลวงปู่มั่นนิมิตเห็นพระหนุ่ม ๒ รูปนั่งช้าง ๒ เชือกติดตามท่านซึ่งนั่ง
    สง่างามบนช้างตัวขาวปลอดจ่าโขลงเป็นช้างใหญ่ พระหนุ่มสองรูปนี้จะสำเร็จก่อนและหลังท่านนิพพานไม่นานนัก”

    นิมิตเดียวกันนี้ได้บันทึกโดยละเอียดไว้ในประวัติหลวงปู่มั่นดังนี้
    “...คืนหนึ่งมีเหตุการณ์โดยทางนิมิตภาวนาเกิดขึ้น เวลานั้นท่านพักอยู่ในภูเขาลึก
    แห่งหนึ่ง ห่างจากหมู่บ้านมากที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเหตุการณ์ที่ทั้งน่าหวาดเสียวและน่ายินดีพอๆ กัน คืนนั้นดึกมากราว๓ นาฬิกา อันเป็นเวลาธาตุขันธ์ละเอียดท่านตื่นจากจำวัด นั่งพิจารณาไปเล็กน้อยปรากฏว่าจิตใจมีความประสงค์จะพักสงบมากกว่าจะพิจารณาธรรมทั้งหลายต่อไป

    ท่านเลยปล่อยให้จิตพักสงบ พอเริ่มปล่อยจิตก็เริ่มหยั่งลงสู่ความสงบอย่างละเอียดเต็มภูมิสมาธิและพักอยู่นานประมาณ ๒ ชั่วโมง หลังจากนั้นก็ค่อยๆ ถอยออกมา แต่แทนที่จิตจะถอนออกมาสู่ปกติจิต เพราะมีกำลังจากการพักผ่อนทางสมาธิพอสมควรแล้ว แต่กลับถอยออกมาเพียงขั้นอุปจารสมาธิ แล้วออกรู้เหตุการณ์ต่อเนื่องไปในเวลานั้นเลยทีเดียวคือขณะนั้นปรากฏว่ามีช้างเชือกหนึ่งใหญ่มากเดินเข้ามาหาท่าน แล้วทรุดตัวหมอบลงแสดงเป็นอาการจะให้ท่านขึ้นบนหลัง ท่านก็ปีนขึ้นบนหลังช้างเชือกนั้นทันที พอท่านขึ้นนั่งบนคอช้างเรียบร้อยแล้วขณะนั้นปรากฏว่ามีพระวัยหนุ่มอีกสององค์ขี่ช้างองค์ละเชือกเดินตามมาข้างหลังท่าน ช้างทั้งสองเชือกนั้นใหญ่พอๆ กัน แต่เล็กกว่าช้างตัวที่ท่านกำลังขี่อยู่เล็กน้อย ช้างทั้งสามเชือกนั้นมีความองอาจสง่าผ่าเผยและสวยงามมากพอๆ กัน คล้ายกับเป็นช้างทรงของกษัตริย์มีความฉลาดรอบรู้ความประสงค์และอุบายต่างๆ ที่เจ้าของบอกแนะดีเช่นเดียวกับมนุษย์

    พอช้างสองเชือกของพระหนุ่มเดินมาถึงท่านก็พาออกเดินทางมุ่งหน้าไปทางภูเขาที่มองเห็นขวางหน้าอยู่ไม่ห่างจากที่นั้นนักประมาณ ๑ กิโลเมตร ช้างท่านเป็นผู้พาเดินหน้าไปอย่างสง่าผ่าเผยในความรู้สึกส่วนลึก ท่านว่าราวกับจะพาพระหนุ่มสององค์นั้นออกจากโลกสมมุติทั้งสามภพ ไม่มีวันกลับมาสู่โลกใดๆ อีกต่อไปเลยพอไปถึงภูเขาแล้ว ช้างพาท่านและพระหนุ่มสององค์เดินเข้าไปที่หน้าถ้ำแห่งหนึ่งซึ่งไม่สูงนักเพียงเป็นเนินเชื่อมกันขึ้นไปหาถ้ำเท่านั้นเมื่อช้างใหญ่ทั้งสามเชือกเข้าไปถึงถ้ำแล้วช้างเชือกที่ท่านอาจารย์ขี่อยู่หันก้นเข้าไปในหน้าถ้ำ หันหน้าออกมา แล้วถอยก้นเข้าไปจรดผนังถ้ำ ส่วนช้างสองเชือกของพระหนุ่มสององค์ต่างเดินเข้าไปยืนเคียงข้างช้างท่านข้างละเชือกอย่างใกล้ชิด หันหน้าเข้าไปในถ้ำ ส่วนช้างท่านอาจารย์ยืนหันหน้าออกมาหน้าถ้ำ ขณะนั้นปรากฏว่า ท่านอาจารย์เองได้พูดสั่งเสียพระว่า‘นี้เป็นวาระสุดท้ายแห่งขันธ์และภพชาติของผมจะขาดความสืบต่อกับสมมุติทั้งหลายและจะยุติลงเพียงแค่นี้ จะไม่ได้กลับมาสู่โลกเกิดตายนี้อีกแล้ว นิมนต์ท่านทั้งสองจงกลับไปบำเพ็ญประโยชน์ตนให้สมบูรณ์เต็มภูมิก่อนอีกไม่นานท่านทั้งสองก็จะตามผมมาและไปในลักษณะเดียวกับที่ผมจะเตรียมไปอยู่ขณะนี้ การที่สัตว์โลกจะหนีจากโลกที่แสนอาลัยอ้อยอิ่งแต่เต็มไปด้วยความระบมงมทุกข์นี้ไปได้แต่ละรายนั้น มิใช่เป็นของไปได้อย่างง่ายดายเหมือนเขาไปเที่ยวงานกัน แต่ต้องเป็นสิ่งฝืนใจมากที่ผู้นั้นจะต้องทุ่มเทกำลังทุกด้านลงเพื่อต่อสู้กู้ความดีทั้งหลาย ราวกับจะไม่มีชีวิตยังเหลืออยู่ในร่างต่อไปนั่นแล จึงจะเป็นทางพ้นภัยไร้กังวล ไม่ต้องกลับมาเกิดตายเสียดายป่าช้าอีกต่อไปการจากไปของผมคราวนี้มิได้เป็นการจากไปเพื่อความล่มจมงมทุกข์ใดๆ แต่เป็นการจากไปเพื่อหายทุกข์กังวลในขันธ์ จากไปด้วยความหมดเยื่อใยในสิ่งที่เคยอาลัยอาวรณ์ทั้งหลาย และจากไปอย่างหมดห่วง เหมือนนักโทษออกจากเรือนจำฉะนั้น ไม่มีความหึงหวงและน้อยเนื้อต่ำใจ เพราะความพรากไปแห่งขันธ์ที่โลกถือเป็นเรื่องกองทุกข์อันใหญ่หลวง และไม่มีสัตว์ตัวใดปรารถนาตายกันเลย

    ฉะนั้นจึงไม่ควรเสียใจอาลัยถึงผมอันเป็นเรื่องสั่งสมกิเลสและกองทุกข์ไม่มีชิ้นดีเลย นักปราชญ์ไม่สรรเสริญ’พอท่านแสดงธรรมแก่พระหนุ่มสององค์จบลง ก็บอกให้ถอยช้างสองเชือกออกไป ซึ่งยืนแนบสองข้างท่านด้วยอาการสงบนิ่งราวกับไม่มีลมหายใจ และอาลัยคำสั่งเสียท่านที่ให้โอวาทแก่พระหนุ่มสององค์

    ขณะนั้นช้างทั้งสามเชือกแสดงความรู้สึกเหมือนสัตว์มีชีวิตจริงๆ ราวกับมิใช่นิมิตภาวนาพอสั่งเสียเสร็จแล้ว ช้างสองเชือกของพระหนุ่มก็ค่อยๆ ถอยออกมาหน้าถ้ำหันหลังกลับออกไป แล้วหันหน้ากลับคืนมายังท่านอาจารย์ตามเดิมด้วยท่าทางอันสงบอย่างยิ่งส่วนช้างท่านก็เริ่มทำหน้าที่หมุนก้นเข้าไปในผนังถ้ำโดยลำดับ เฉพาะองค์ท่านนั่งอยู่บนคอช้างนั่นเอง ทั้งขณะให้โอวาททั้งขณะช้างหมุนตัวเข้าในผนังถ้ำ พอช้างหมุนก้นเข้าไปได้ค่อนตัว จิตท่านเริ่มรู้สึกตัวถอนจากสมาธิขึ้นมาเรื่องเลยยุติลงเพียงนั้นเรื่องนั้นจึงเป็นสาเหตุให้ท่านพิจารณาความหมายต่อไป เพราะเป็นนิมิตที่แปลกประหลาดมากไม่เคยปรากฏในชีวิต ได้ความขึ้นเป็นสองนัย

    ที่น่ายินดีเช่นกันคือตอนที่นิมิตแสดงภาพพระหนุ่มและช้างให้ปรากฏขึ้นในขณะนั้นบอกความหมายว่า จะมีพระหนุ่มรู้ธรรมตามท่านสององค์ในระยะที่มรณภาพ ไม่ก่อนหรือหลังท่านนานนัก ท่านว่าแปลกอยู่อีกตอนหนึ่งก็คือ ตอนท่านสั่งเสียและอบรมสั่งสอนพระหนุ่มไม่ให้ตกใจ และมีความอาลัยถึงท่านให้พากันกลับไปบำเพ็ญประโยชน์ส่วนตนให้เต็มภูมิก่อน และพูดถึงการจากไปของท่านเองราวกับจะไปในขณะนั้นจริงๆ นี้ท่านว่า นิมิตแสดงให้เห็นเป็นความแปลกในรูปเปรียบว่าเมื่อวาระนั้นมาถึงจริงๆ พระหนุ่มสององค์จะรู้ธรรมในระยะนั้น…”

    และในคราวหนึ่งช่วงอยู่เชียงใหม่ก่อนกลับภาคอีสานหลวงปู่มั่นได้ทำนายพระหนุ่มองค์หนึ่งให้หลวงปู่เจี๊ยะฟังว่า“มีพระหนุ่มอยู่องค์หนึ่ง เวลานี้กำลังเรียนหนังสืออยู่จะมาหาเรา พระองค์นี้จะทำประโยชน์ใหญ่ให้โลกให้วงศาสนาได้กว้างขวาง ลักษณะคล้ายๆ ท่านเจี๊ยะแต่ไม่ใช่ท่านเจี๊ยะ ตอนนี้อยู่ เชียงใหม่ เขาอยากมาหาเรา แต่ ยังไม่เข้ามาหาเรา องค์นี้ต่อไปจะสำคัญอยู่นะ เขายังไม่มาหาเรา แต่อีกไม่นานก็จะเข้ามา”

    หลวงปู่เจี๊ยะเล่าถึงความรู้สึกภายหลังจากได้ฟังคำทำนายของหลวงปู่มั่นในครั้งนี้ด้วยว่า“เมื่อท่านพูดอย่างนั้นเราก็จับจ้องรอดูอยู่ ไม่ว่าใครจะไปจะมาก็คอยสังเกตอยู่ตลอดเพราะคำพูดของท่านสำคัญนัก พูดยังไงต้องเป็นอย่างนั้น เรื่องนี้เราจึงเก็บไว้แล้วคอยสังเกตตลอดมา เพราะผู้ที่จะมาสืบต่อท่านต้องเป็นผู้มีบุญใหญ่


    เหตุการณ์นี้ (ราวเดือนพฤษภาคม ๒๔๘๓)
    อยู่ในระยะเวลาเดียวกับที่องค์หลวงตาเพิ่งเดินทางไปถึงวัดเจดีย์หลวง แต่ในครั้งนั้นองค์หลวงตายังไม่เข้าไปหาหลวงปู่มั่นจึงยังไม่มีโอกาสได้สนทนากับหลวงปู่เจี๊ยะแต่อย่างใด
     
  11. ปะขาวหนุ่ม

    ปะขาวหนุ่ม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +66
    ผมรู้แต่ว่าเป็นหลวงตามหาบัว ท่านหนึ่งอีกท่านหนึ่ง อีกท่านผมไม่รู้จากการวิเคราะห์ของผมเอง เพราะหลวงปู่มั่นนิพพานได้ไม่กี่ปีหลวงตามหาบัวก็บรรลุธรรม ปี2492
     
  12. ttt2010

    ttt2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,754
    ค่าพลัง:
    +904
    อนุโมทนาสาธุ บุญนี้ ขอยกให้กับท่านเจ้าของกระทู้ด้วยเทอญ...
    ttt2010 ศิษย์พระอาจารย์บุญยง อภิลาโส ภิกขุ

    _____________________________________________________
    บอกบุญแหล่งทำบุญ
    เปิดดวง พิธีกรรมแก้ดวงชะตา (สำนักสงฆ์พรหมรังศรี)
    กฐินสามัคคีปฐมฤกษ์เบิกชัย ที่พักสงฆ์พรหมรังศรี
    ท่องวัดและศาสนสถานที่สำนักสงฆ์พรหมรังศรี<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  13. เกศภัทร์

    เกศภัทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    906
    ค่าพลัง:
    +732
    ผมเชื่อว่า ช้างเผือกหนุ่ม 2 เชือกที่ หลวงปู่มั่นท่านได้ทำนาย น่าจะเป็น... หลวงปู่เทสก์ วัดหินหมากเป้ง และ หลวงตามหาบัว ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 ตุลาคม 2011
  14. คิดดีจัง

    คิดดีจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,626
    ค่าพลัง:
    +5,353
    หลวงปู่มั่นว่ามีช้างเผือกหนุ่มมีอภินิหารนั้น หมายถึง อนุสาสนีปาฏิหารย์ เป็นผู้มีความสามารถแสดงธรรม ให้เป็นไปในคำสอนของพระพุทธเจ้าได้อย่างถูกต้อง ทำให้คนมีสัมมาทิฏฐิ ความเห็นชอบ ตามแนวทางที่เป็นจริง แสดงธรรมให้คนเข้าใจในอุบายการปฏิบัติ เพื่อเป็นไปในมรรคผลนิพพาน หลวงปู่มั่นมีความหมายเป็นอย่างนี้ ขอให้พวกเราได้เข้าใจ เพื่อจะได้ค้นหาช้างเผือกหนุ่มได้ง่ายขึ้น มิใช่ว่าคอยไปดู เมื่อไรหนอท่านจะเหาะขึ้นสู่อากาศ เมื่ิอไหร่หนอท่านจะดำดินและหายตัวให้ดู ถ้าจะหาในวิธีนี้ รับรองได้ว่า จะไม่พบช้างเผือกหนุ่มอย่างแน่นอน เพราะตีความหมายในอภินิหารผิดไป จึงทำความเข้าใจแก่ท่านดังนี้

    จากข้อความช่วยท้ายนี้ ผมว่าช้างเผือกที่ว่าหน้าจะเป็นพระองค์นั้นแน่นอน

    ที่แสดงธรรมโดยใช่คำตถาคตเท่านั้น และแสดงได้อย่างแจ่มแจ้งถูกต้องตามคำตถาคต

    ไม่มีข้อสงสัยเลย
     

แชร์หน้านี้

Loading...