มีกิจกรรมทางเพศก่อนนั่งสมาธิบาปหรือบุญ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย เลนิน, 28 กันยายน 2011.

  1. ซาตานคลั่ง

    ซาตานคลั่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    496
    ค่าพลัง:
    +1,449
    มองในแง่ดี ดีกว่านั่งสมาธิไปด้วยหงุดหงิดงุ่นงานไปด้วย ระงับนิวรณ์ไปได้ตัวนึงล่ะ

    แต่ความจริงแล้วต้องถามก่อนนะว่า เวลานั้น คุณถือศีลอะไรอยู่ ศีล5 หรือศีล8

    (ไม่ขอพูดถึงศีล227)
     
  2. เลนิน

    เลนิน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +17
    คือถือศีล 5 ครับ ดำเนินชีวิตแบบปุถุชนปกติ

    ที่ผมกังวลก็คือการทำพิธีกรรมบริสุทธ์ในพื้นที่ไม่บริสุทธ์นั้นเกรงว่าจะบาป

    เพราะเห็นบางคนมีห้องพระ ต้องนั่งบนอาสนะ พระพุทธรูปต้องอยู่บนโต๊ะหมู่บูชา ห้ามส่งเสียงดัง ให้คลานเข้ามาในห้องพระ ฯลฯ ซึ่งตอนอยู่บ้านผมก็ปฏิบัติเช่นนั้น แต่ตอนอยู่หอก็ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้เพราะมันมีแค่ห้องเดียว

    ส่วนการมีความสัมพันธ์ทางเพศนั้นผมก็เว้นห่างไปพอสมควรก่อนที่จะสวดมนต์ไหว้พระ เพื่อให้ใจห่างออกจากกามไปซักระยะ นั้นคือหลังมีเพศสัมพันธือาจจะ อาบน้ำ ทำนู่นทำนี่ หรือนอนคุยเรื่องงาน ก่อนจะดับไฟหลับจึงค่อยไหว้พระสวดมนต์ จึงไม่เกิดราคะจิตขึ้นในขณะสวดมนต์ นั่งสมาธิแต่อย่างใด และไม่ได้ทำเป็นนิสัย ถ้ากลับบ้านก็อีกอย่างหนึ่ง

    ตอนแรกผมก็คิดว่าไม่เป็นไร แต่รู้สึกไม่สบายใจนิดหน่อยเพราะรู้สึกไม่บริสุทธ์ผุดผ่องเพราะใช้สถานที่พิ้นที่เดียวกันในการทำสิ่งที่ตรงข้ามกับการเจริญภาวนา แต่ได้ฟังคำตอบเเล้วค่อยสบายใจว่าไม่เป็นปัญหา

    ตอนนี้กำลังหัดฝึกสมาธิอยู่ครับ กะจะฝึกแบบอานาปานสติ เพื่อให้ชีวิตประจำวันและหน้าที่การงานดีขึ้น เพราะผมค่อยข้างฟุ้งซ่าน ขี้หลงขี้ลืม ชอบจมอยู่กับความคิดแบบไร้แก่นสาร คือคิดเรื่องนู้นบ้าง เรื่องนี้บ้าง สติจึงไม่ค่อยอยู่กับตัวเท่าไหร่นัก ส่งผลให้ทำงานได้ไม่ดี เพราะความจำไม่ดีนักบวกกับใช้เวลาคิดหรือฝันกลางวันมากกว่าทำงานจริง จึงอยากฝึกไว้น่ะครับ ตอนนี้ไม่พัฒนาเท่าไหร่เลย ใจยังวอกแวกอยู่เหมือนเดิม แต่คิดว่าทำไปเรื่อยให้สม่ำเสมอเริ่มดีขึ้นเองแหละครับ

    ขออนุโมทนา สาธุทุกท่านที่โปรดชี้แนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2011
  3. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,801
    ค่าพลัง:
    +7,939
    มาดูเรื่อง สถานที่ บนโลกใบนี้กันก่อน

    ก่อนที่ แต่ละคนจะออกมาลืมตาดูโลก ล้วนต้องคลุกอยู่ใน สถานที่ ที่หนึ่งอยู่
    ตลอดเก้าเดือน สถานที่ตรงนั้น มีหลายคนทีเดียว ไปเอา ความคิดความอ่าน
    ที่ล้ำหน้า สติปัญญา ไปสำคัญเอาว่า ตรงนั้น เป็นที่ สกปรก เพราะ เนื่อง
    กับเรื่อง สกปรก

    คำพระ ท่านจะเลี่ยง พูดเรื่องตรงนี้ให้หมิ่นเหม่ ท่านจะพูดว่า "บัวเกิดแต่โคลนตม"

    ดังนั้น เราต้องไม่ลืมกำพืด หรือ ที่มาของเรา ว่า มาจากตม อย่างไร และอย่า
    ปฏิเสธแหล่งที่มานั้น

    ก็ในเมื่อ สถานที่แรก ในโลก ที่เราหยั่งลง เกิดมาเป็นคน มันเป็น ตม ขนาดนั้น

    ประสาอะไรกับ สถานที่อื่น ที่ไปค่อนแคะ สำคัญว่า สกปรก อยู่อีกเล่า

    ให้อยู่กับ ปัจจุบัน ใช้ใจเป็นใหญ่ เอาใจเป็นประธาน เรือนอะไร จะผ่องใส หรือ
    สกปรก ก็ให้พิจารณาที่

    "เรือนใจ" เป็นสำคัญ

    หา "ใจ" ให้เจอก่อน ย่อมเห็น หนทางที่จะเกิดแต่ตม แต่ก็สามารถบานเป็น
    ดอกบัวที่พ้นน้ำ รอให้ผู้มีวาสนามาเก็บบุญเก็บกุศลไปจากเรา อีกทีหนึ่ง

    ไม่มีการ ปฏิเสธโลก แม้ในยามเริ่มต้นปฏิบัติ ระหว่างทางปฏิบัติ และ แม้แต่
    สิ้นสุดการปฏิบัติ ก็ยังต้องอยู่กับ โลก อันเราเริ่มมาจากการเกิด ณ สถานที่นั้นๆ
     
  4. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,801
    ค่าพลัง:
    +7,939
    การที่ มาใช้ อานาปานสติ ก็ใช้เพื่อ จำแนกแยกแยะ การสำคัญว่า ขันธ์5 เป็นตน

    การหลง การลืม เป็นเรื่อง ของขันธ์5 ที่มันไม่เที่ยง เราไม่ได้ปฏิบัติธรรม เพื่อทำให้
    ขันธ์5 มันเที่ยง แต่ เรามาเจริญวิหารธรรม เพื่อคอยสังเกต และยอมรับว่า ขันธ์5
    มันไม่เที่ยง เป็นปรกติ เป็นทุกขสัจจ ที่เราอุปทานไปว่า เป็นเรา เป็นของเที่ยง ทำให้
    มัวเมากับการเห็นผิดนั้น จนต้องเวียนว่ายตายเกิด อาศัย ครรภ์ หยั่งลงโดยการปัก
    ลงของวิญญาณ ต่อ นามรูป ทั้งหลาย ที่เรา หลงเพลินใจ เห็นว่าเที่ยง เห็นว่าเป็น
    ของๆเรา

    การที่ชาวพุทธ มีปัญญา ไม่ใช่เพราะ จดจำอะไรได้ไม่ลืม แต่เป็นการ ระลึกได้แม้
    ว่าสิ่งนั้นจะผ่านมานานนับอสงไขยก็ระลึกได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2011
  5. 59/94

    59/94 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +25
    เห็นด้วยกับคุณสับสน (#14) ขอให้ท่านลองดูจากประสบการณ์จริงแล้วเปรียบเทียบเอา
     
  6. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,801
    ค่าพลัง:
    +7,939
    การมี อุปนิสัยเป็นนักคิด พอจิตคิดเราดูไม่ทัน มาเห็นอีกที จิตจมไปกับความ
    คิด ไหลไปคิด ไหลไปในโลกแห่งความฝัน ตอนกลางวัน เรียกว่า เหม่อ
    หากเป็นตอนกลางคืนยามนอน เรียกว่า ฝัน แท้จริงแล้ว มันก็อาการของจิต
    ตัวเดียวกัน คือ จิตไหลไปในคลอง(โอฆะ มหาสมุทร)ของความคิด แล้วถอน
    ตัวออกมาไม่ได้ เหมือน รถติดหล่ม หมดกำลังที่จะยกตน

    อานาปานสติ จึงทำเพื่อ ทำให้จิตใจมีกำลัง

    อานาปานสติ จึงทำเพื่อ ตามเห็นความไม่เที่ยงของการไหลไปคิด กับ จิตตัังมั่น
    ต่อการอยู่ในวิหารธรรม ดูความแปรปรวนไปเรื่อยๆ จนจิตมีปัญญา เห็นทุกขสัจจ
    แจ้งในอริยสัจจ ทำให้จิตมีปัญญา

    อานาปานสติ ที่ทำเพื่อ กำลัง(ฌาณ) กับ ทำเพื่อปัญญา(ญาณ) ก็จะเป็นตัว
    ทำให้ รถมีกำลัง ถอนตัวออกจากหล่ม ข้ามโอฆะความคิดได้ แต่ไม่ปฏิเสธ
    หน้าที่คิดของจิต ที่เราเกิดมาต้องมีมัน ต้องใช้มัน เสมือนบัวต้องอาศัยโคลน
    ในการเจริญเติมโต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2011
  7. ผู้เตือน warn

    ผู้เตือน warn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2010
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +688
    มีได้ มีไปเอะครับ ถ้าไม่ผิดศีล ผิดธรรม

    แต่จะฝึกอำนาจ ขั้นอภิญญาสมาบัติแล้วละก็ ยังไปไม่ถึงขั้น

    พระอริยเจ้า พระโสดาบัน ยังมีผัว มีเมียกันอยู่ เราเป็นอะไรล่ะ

    พระโสดาบัน เป็นทีทอยู่ในกระแส เส้นทางตรง พระนิพพานแล้ว

    ถ้าอารมณ์ใจสุงขึ้นไปอีกขั้นก็พระสกิกทาคามี

    พระสกคทาคามี บางที รู้สึกว่า เอ้ เราชนะแล้วหรือนี่ ใจมีความเบา

    มีความสุขมาก แต่พอเผลอๆ โดนกิเลสกวน ตีกลับ จึงได้ รู้ ว่าเรายังไม่ไช่

    จะเดินสายไหน ถ้าจะเอาอภิญญาสมาบัติ มีกำลังจิตแก้กล้า ก็ต้อง โยนกามกิเลส ออกจากใจ

    สู้แบบตายกันไป[FONT=Angsana New]ข้าง [FONT=Angsana New]ถ้าเป็นแบบนี้ จิตที่ได้รับการฝึกฝน มาอย่างหนัก อย่างดี ก็จะมีความแกร่ง[/FONT][/FONT]

    [FONT=Angsana New][FONT=Angsana New]มีอำนาจ มีจิตตานุภาพ อนาคตก็จะได้อภิญญาห้า[/FONT][/FONT]

    [FONT=Angsana New][FONT=Angsana New]แต่[FONT=Angsana New]ถ้าเดินสายกลาง เอาแค่จิตสงบ ค่อยๆบรรเทา ละ ลด เลิก แล้วเน้นเจริญ วิปัสสนา[/FONT][/FONT][/FONT]

    [FONT=Angsana New][FONT=Angsana New][FONT=Angsana New]ก็ทำไปเ[FONT=Angsana New]ถอะครับ ผลท่ได้[FONT=Angsana New]สูงกว่า อภิญญาโลกีย์ แต่ไช้กำลังใจต่ำกว่ามากๆ[/FONT][/FONT][/FONT][/FONT][/FONT]
    [FONT=Angsana New][FONT=Angsana New][FONT=Angsana New][FONT=Angsana New][FONT=Angsana New]ไปแบบเบิร์ดๆ สบายๆ เน้นความเป็นพระอริยเจ้า เน้นความหลดพ้น[/FONT][/FONT][/FONT][/FONT][/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2011
  8. Anice

    Anice เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +751
    แล้วถ้าเป็นในทางกลับกัน สวดมนต์ไหว้พระก่อน มีกิจกรรม....
    จะให้ผลต่างกันมั้ยค่ะ
     
  9. Ongsathit

    Ongsathit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    626
    ค่าพลัง:
    +574
    -กิเลส กับ ธรรมะ ก็อยู่ที่เดียวกัน

    -วิชชา กับ อวิชชาก็อยู่ด้วยกัน

    -ความโง่ กับ ความฉลาด ก็อยู่ด้วยกัน

    -น้ำกับใบบัว อยู่ด้วยกันแต่ไม่ติดกัน
     
  10. พรานยึ้ม

    พรานยึ้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    591
    ค่าพลัง:
    +682
    ถ้ามันไม่ไหวจริงๆ สักที ก็ไม่เป็นไรนี่ครับ อย่าไปผิดศีลก็แล้วกันครับ
     
  11. dakdee7777

    dakdee7777 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2009
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +3
    การประกอบกามกิจ = เป็นอกุศล
    การไหว้พระสวดมนต์ นั่งสมาธิ = เป็นกุศล
    แต่การใช้สถานที่ร่วมกัน ไม่เหมาะสม = เป็นอกุศล (แม้ไม่มีเจตนาที่เป็นอกุศล)
     
  12. พรานยึ้ม

    พรานยึ้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    591
    ค่าพลัง:
    +682
    งั้นคนอศัยอาพาร์เม้นท์อยู่ ไม่ต้องทำอะไรกันแล้ว บ้าน ห้องเช่า

    มันไม่ไช่นิคับ ผมไม่เห็นด้วยนิคับ
     
  13. Namushakamunibutsu

    Namushakamunibutsu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,347
    ค่าพลัง:
    +2,618
    มันอยู่ที่ขณะจิตนั้นๆครับ ถ้าจิตเป็นกุศลก็เป็นบุญ เท่านั้นเอง ไม่ได้อะไรมากครับ
     
  14. กัมปนาท2011้

    กัมปนาท2011้ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    ดีครับ ยิ่งทำให้มีสมาธิในการสวดมากยิ่งขึ้นครับ:cool:
     
  15. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    ไม่เป็นไร 100% ครับ จิตใจอยากไหว้พระเป็นพอ ได้บุญแล้วจร้า
     
  16. Palilai

    Palilai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    351
    ค่าพลัง:
    +433
    ใช่ งั้นคนที่อยู่หอพัก หรืออพาตเมนท์หรือคอนโด ก็ไม่ต้องสวดมนต์ไหว้พระกันพอดี มันอยู่ที่จิตต่างหาก เคยได้ยินหรือเปล่าคะ สถานที่ไหนก็ปฏิบัติได้ ถ้าจิตสงบ คนเขาตั้งใจจะปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มัวแต่ยึดติดสถานที่แล้วจะไปถึงไหนกัน เอาแค่ก่อนจะมีกิจกรรมก็ขอขมาลาโทษสักหน่อย หรือบอกกล่าวให้ท่านทราบ ท่านบรรลุแล้วย่อมเข้าใจในมนุษย์ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  17. wonderfulman

    wonderfulman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2011
    โพสต์:
    768
    ค่าพลัง:
    +308

    เห็นด้วยครับ..สาธุ...
     
  18. rangman

    rangman สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +1
    บาปครับ.....................(ถ้าเป็นเมียคนอื่น) อิ อิ อิ
     
  19. a5g1aeka

    a5g1aeka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    728
    ค่าพลัง:
    +1,578
    :cool:เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ สาธุๆๆๆครับ...กามนี้ข้ามยากนัก...แม้บรรลุโสดาบันเช่นนางวิสาขา ก็ยังมีลูกหลานเต็มไปหมด...จริงไหมครับ...:cool::cool::cool:
     
  20. กาน้ำ

    กาน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    89
    ค่าพลัง:
    +153
    พระอนาคามีผล พระอรหัตมรรค พระอรหัตผล ยกท่านไว้เลย ดับราคะได้อย่างสิ้นเชิง ไม่มีทางเกิดขึ้นอีก

    ลงมาดูระดับ
    ๑โสดาปฎิมรรค โสดาปฎิผล มีราคะแต่ไม่ผิดศีล๕ คือมีเฉพาะคู่ของตน
    ๒สกิทาคามีมรรค สกิทาคามีผล มีราคะแต่ไม่ผิดศีล๕ คือมีเฉพาะคู่ของตน ลดลงครึ่งหนึ่ง
    ๓อนาคามีมรรค มีราคะแต่ไม่ผิดศีล๕ คือมีเฉพาะคู่ของตน ลดลงกว่าครึ่ง แต่ยังมีหลงเหลือ
    .......................................................................................

    ปุถุชน ผู้หนาแน่นด้วยกิเลส มีราคะแต่ไม่ผิดศีล๕ คือมีเฉพาะคู่ของตน หลังจบกิจกามก็ปฎิบัติธรรมตามปกติ

    ผู้ครองเรือน หมายถึงยังมีครอบครัว ยังไม่สามารถตัดใจจากกามารมณ์ได้นั้น เป็นเรื่องธรรมดา จะมีก็มีไป
    หลังอาบน้ำ แต่งกายให้เรียบร้อย สำรวม วางจิตให้ถูก อย่านำมาปะปนกัน จิตจะได้ไม่ฟุ้งเวลาปฎิบัติธรรม
     

แชร์หน้านี้

Loading...