สงสัยครับ ทําไมประเทศอินเดีย ถึงเป็นประเทศที่ไม่ค่อยเจริญ เหมือนหลายๆประเทศ

ผมสงสัยครับ ประเทศอินเดียนี่ เป็นประเทศที่พระพุทธเจ้า ลงมาประสูติ แต่แล้ว ประเทศที่พระพุทธเจ้าลงมาประสูติ นี่ก็ ไม่ค่อยเจริญ

ป้าผมบอกมาว่า ศาสนาพุทธที่อีนเดีย เนี่ยถือว่า เป็นศาสนา ที่เล็กมาก ศาสนา ที่ใหญ่เนี่ย คือฮินดู ผมลองใช้ ความคิดผม ลอง ไตร่ตรองดูนะครับ

สิ่งที่ ทําให้ประเทศอินเดียไม่เจริญคือ กรรมที่เค้าก่อ ยังมี แบ่งวรรณะ กันอยู่

ผู้หญิงผู้ชาย ยังไม่เท่าเทียมกัน และก็ คนอินเดีย ผมคิดว่า งมงายเกินไป
ผมไม่ได้ ด่านะครับ แค่ เห็นมาหลายอย่า ลองคิดดู แค่นั้น ไม่เหมือน คําที่พระพุทธเจ้าบอก สายกลาง อย่าเชื่อใครง่ายๆ ต้องพิสูจน์ก่อน

แบบนี้อ่าครับ

 

ผมเคยได้ยินมาว่า อินเดียเป็นหนึ่งในผู้นำเรื่อง Technology และ IT อันดับต้น ๆ ของโลก ไม่ใช่หรือ ?

 

เขาก็แค่ไม่นิยมใส่สูทรผูกเน็คไทด์เท่านั้นเองครับ

 

ประเทศอินเดียในเมืองใหญ่ๆถือว่าเจริญรุ่งเรืองมากครับ คำว่าวรรณะในเมืองใหญ่ๆเช่น เชนไน กัลกาตา หรือ มุมไบ ไม่มีอีกแล้วครับ แต่ถ้าเป็นในชนบทอันห่างไกลคำว่าวรรณะและพิธีกรรมถือว่าเข้มข้นมากครับ เช่น พิธีสะตี(พิธีที่หญิงสาวชาวอินเดียที่มีสามีแล้วต้องทำหลังจากสามีของตนได้เสียชีวิตลงนั้นคือการกระโดดเข้ากองไฟตายตามสามีครับ)ถ้าไม่ทำพิธีนี้หญิงสาวคนนั้นก็จะได้ถูกการลงโทษจากสังคมครับ

 

โดดกองไฟตายตามสามีผมคิดว่าเป็นอะไรที่โ่งสิ้นดีเลยครับ(อาจจะแรงไปนิด)

 

อินเดียมีหลายชนชั้น พวกที่เจริญมากก็รวยจริ๊ง ๆ พวกที่จนก็จนไม่มีกิน เหมือนกับไม่ทั่วถึงกัน ซึ่งอาจจะมาจากหลายหาเหตุปัจจัย เช่น การปกครอง การคอรัปชั่น เป็นต้น

 

อินเดียสมัยก่อนนี้เจริญมากครับ หลายพันปีก่อนเป็นเศรษฐีแทบทุกบ้าน ศาสตร์
ต่างๆ อย่าง โยคะค้นพบมากว่า 5000 ปีแล้วยังไม่มีท่าใหม่เกิดขึ้นเลย
โหราศาสตร์ในสมัยนั้นสามารถบอกได้เลยว่าชิวิตของคนๆ หนึ่งจะเป็นอย่างไร ไม่
ผิดพลาด แต่สมัยที่เจ้าชายสิทธัตถะเกิดโหรผู้ใหญ่ไม่มีใครกล้าทำนาย โหรอายุ
น้อยสุดยังทำนายออกมาเป็น 2 ทาง สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนสำหรับโหรศาสตร์
อินเดีย สมัยนั้นคนทุกคนเบื่อหน่ายกับการเวียนว่ายตายเกิด เพราะรวยกันแทบทุก
บ้านเลย ไม่อยากเกิดกันอีกแล้ว ผิดกับสมัยนี้ทุกคนเชื่อเรื่องกรรมมากๆ คนไม่
สนใจว่าตัวเองจะจนหรือโดนกดขี่ยังไง เพราะเชื่อว่าเป็นเพราะกรรม อินเดียถึง
เป็นประเทศที่ไม่มีการปฏิวัติเลยใน 10000 ปี และเป็นประเทศที่เชื่อในเรื่องตัว
ตนมาก พระพุทธศาสนาถึงอยู่นอินเดียไม่ได้เพราะสอนเรื่องการไม่ยึดถือตัวตน

 

คำว่า เจริญ ของคุณน่าจะหมายถึงในแง่วัตถุ
แต่ถ้าหมายถึง จิตวิญญาณ ประเทศอินเดียเป็นประเทศที่เจริญมากที่สุด
ดูได้จากการที่อินเดียเป็นแหล่งกำเนิดศาสนาต่างๆ มากที่สุดในโลก

 

ในบางเรื่องเขาก็เจริญมากระดับหนึ่งนะ
ส่วนเรื่องการแบ่งชั้นวรรณะ ก็ทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมกัน
แต่ถ้าเขาอยู่กันได้อย่างสงบ ก็โอเคระดับหนึ่ง
ความเจริญแบบบางประเทศที่เราเห็นๆกัน
แต่ก็ไม่ใช่ว่าคนจะมีความสุขความพอใจ ดูจากอัตราการฆ่าตัวตาย
การแข่งขันดิ้นรน การถูกเอาเปรียบ ช่องว่างระหว่างคนรวยคนจน
และโอกาสก็ยังไม่มีความเท่าเทียมกันอยู่ดี อย่างเช่นระบบการศึกษา
โรงเรียนกวดวิชา ถ้ามีเงินไม่พอโอกาสที่เข้าเรียนในสถาบันที่ต้องการก็มีน้อย
กว่า เป็นต้น

 

ว่าแต่อินเดีย ประเทศไทยเจริญซะที่ไหน อะไรก็ปล่อยวาง ไม่ดิ้นรนพยายาม ไม่ทะยานอยากมี อยากเป็น

 

ครับ อินเดีย เป็นประเทศ ไม่ใช่คน และไม่ใช่คำจำกัดความของอะไร เหมือน กับ อาหารไทย ก็ไม่ใช่คนไทย ต้องแยกแยะให้ออกนะครับ......... ทั้งหมดเป็นสิ่งที่เราปรุงแต่ง(คิดเองทั้งหมด)... ลองรู้เท่าทันอย่างนี้ เราก็จะไม่โดนมายา หรือ ภาพลักษณ์ของเราเอง หลอกเราเอง... เหมือนกับ เรา มีเพื่อนหลายคน แต่ ก็ไม่ใช่ว่า คนที่เป็นเพื่อน จำเป็นต้องดีมากมาก แบบที่เรา คิด เสมอไป ( เพราะมันอาจไม่เกี่ยวกันเลย)...

 

1.ระบบการปกครอง - ที่ยังมีการแบ่งชนชั้นวรรณะ ใครรวย ก็รวยอยู่อย่างนั้น ใครจน ก็โงหัวขึ้นมาได้ยาก

2.ปริมาณประชากร - ที่มีมากเป็นอันดับ 2 ของโลก และแบ่งเป็นรัฐต่างๆ การกระจายความเจริญให้ทั่วถึงนั้น นับว่ายากครับ ก็เหมือนกับประเทศไทย จะเอาเขตอำเภอของ ตจว. ไปเปรียบกับ กทม. , ชลบุรี , หรือเชียงใหม่ ไม่ได้หรอกครับ

3.กฏหมาย - ที่ค่อนข้างรุนแรง และหละหลวม (ใครทำรถติด โดนทุบได้เลยเดี๋ยวนั้นนะครับ) เหมือนจำกัดเสรีภาพในระดับหนึ่ง

......แต่ก็นะ ชาวอินเดียส่วนมาก มักจะพอใจกับชีวิตที่เป็นอยู่ คือไม่เอาอะไรแล้วชีวิตนี้ ไม่ปากกัดเท้าถีบเหมือนไทยเรา เขาอยู่กับแบบให้พ้นไปวันๆ คนที่เก่งๆก็เข้าไปอยู่ในเมืองซะส่วนใหญ่ ปล่อยให้บ้านเกิดตัวเองล้าหลังเพราะขาดบุคลากรเก่งๆ ที่จะมาพัฒนา ต่างจากบ้านเรา ที่ยังมี ปราชญ์ชาวบ้าน , ผู้นำระดับต่างๆ ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ปลัด ฯลฯ ในชุมชนนั้นๆ ช่วยกันพัฒนา สร้างรายได้ให้แก่ชาวบ้าน , การที่เคยตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ ก็คงเป็นอีกส่วนหนึ่งด้วยมั๊งครับ.........

ภูมิใจเถอะครับที่ได้เกิดเป็นคนไทยน่ะ ^^

 

ประเทศอินเดียไม่ธรรมดานะครับ มีการเจริญเติบโตทางเศรฐกิจที่สูง ประเทศไทยก็ยังพยายามดึงให้นักธุรกิจอินเดียมาลงทุน โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ อิเล็คทรอนิคส์ และชิ้นส่วนอุตสาหกรรม เศรษฐกิจอินเดียใหญ่เป็นอันดับที่สามของเอเชียและอยู่ในระดับ หนี่งในสิบ ของอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของโลก จากการเพิ่มประสิทธิภาพแรงงานและสัดส่วนการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมมากขึ้น ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ ๗ ต่อปี ขณะที่การใช้พลังงานภาคอุตสาหกรรมขยายตัวในอัตราที่ต่ำกว่าร้อยละ ๓.๖

อินเดียมีประชากรมาก พื้นที่ก็กว้างใหญ่ มีหลากหลายความเชื่อ แต่ละเมืองก็มีความแตกต่างด้านความเชื่อ วิถีชีวิต เป็นการยากที่จะหลอมรวมความเชื่อ หรือสร้างสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่จะยึดเหนี่ยวทุกคนไว้ด้วยกัน (อันนี้ไทยเราโชคดีกว่ามากนะครับ) บางทีการสร้างเอกภาพท่ามกลางความหลากหลายอาจไม่ใช่จุดประสงค์หลักของชาว อินเดียก็ได้ เพราะในมุมมองของ Eric Weiner นักศึกษาด้านความสุขตัวเอ้ของโลกนั้นได้กล่าวไว้ว่า “ความสุขสำหรับคนอินเดียก็คือ ความขัดแย้ง”

 

ผมว่าผมเคยได้ยินจากที่ไหนมาจำไม่ได้ในเวปนี้หรือในทีวี นี่ละ
เค้าเทียบกับ คนจีนกับคนอินเดีย ประชากรในประเทศเยอะมากๆทำไมจีนด้านเศรษฐกิจความเจริญร่ำรวยถึงได้พัฒนาไปกว่าอินเดียเพราะว่า พื้นฐานคนอินเดียส่วนชอบสวดอ้อนวอนขอเทพเจ้าขอโน่นขอนี่แล้วลงมือทำเปล่าไม่รู้ แต่คนจีนลงมือทำก่อนแล้วค่อยสวดอ้อนวอนขอเทพเจ้าจึงสำเร็จ จะว่าคนจีนขยันก็ใช่อยู่ ผมไปฟังเค้ามาไม่ได้คิดเองนะ

 

ขอโทษนะคะ แต่เพื่อนร่วมงานชาวอินเดียของเรา (พอดีเคยทำงานอยู่บริษัทอินเดีย) เคยพูดว่า ประเทศไทยต่างหากที่ไม่เจริญ เค้าบอกว่าประเทศเค้าเจริญกว่าเรามากค่ะ ส้วมของเค้าเป็นแบบกดๆ มีปุ่มเยอะแยะดีเท่ากับที่ญี่ปุ่นใช้ คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีก็ทันสมัยมาก แต่ไม่ได้เจริญพร้อมๆ กันทุกที่ อันนี้เค้ายอมรับ

แต่ ประเทศไทยก็ไม่ได้เจริญเหมือนกันหมดไปทั่วทั้งประเทศไม่ใช่เหรอ แล้วลองเอาแผนที่ประเทศไทยไปเทียบกับเขาดูสิ แล้วลองวงส่วนเจริญของเค้ากับของเราดู ก็นะคะ

แต่อย่างหนึ่งที่เค้าไม่เหมือนเรา คือ ค่านิยมทางการศึกษา ที่อินเดียเท่าที่สัมผัสมา คนจบปริญญาตรีนี่ถือว่ายอดมาก แบบเพื่อนเรามักจะออกตัวแบบเชิดๆ เสมอว่า ผมจบปริญญาตรีมานะ ผมจบปริญญาตรีมานะ ส่วนพวกที่ไม่จบก็จะพูดว่า ผมความรู้น้อยไม่จบปริญญาตรี แต่ขอโทษนะคะ เมืองไทยตอนนี้ปริญญาตรีจบกันให้เกลื่อนใช่ไหมล่ะคะ คำพูดของเค้ามันเลยดูน่าหมั่นไส้ แบบปริญญาตรีใครๆ เค้าก็จบย่ะ แหมมม

 

อ่อครับ ผมไม่ค่อบ ชอบ วัฒนธรรม อินเดีย บางอย่าง คือ วิงวองเทพเจ้า งมงาย ก็ว่าได้

แต่เทพเจ้ามีจริง แต่ ที่บอกงมงายคือ เชื่อ เกินไป ไม่ยอม ลงมือทําอ่าครับ คนไทยบางคนก็เหมือนกัน วิงวองเทพเจ้าให้ช่วย พอ ท่านช่วย แล้วก็ดีใจ พอวันไหน สุดหนัก ก็ดันไปโทษเทพเจ้าสะงั้น

 

อกุศล อคติ อหังการ อวิชชา พอกพูนในใจ เหล่านี้ ทำให้เกิดนิวรณ์ มีแต่ทำให้คุณพินาศ ไม่ทำให้สำเร็จสิ่งที่พูดไว้กระทู้ก่อนๆไหมครับ เพราะตัวคุณ

บางคนวิงวอนไปนิพพาน(เขาก็บูชาพระพุทธเช่นกัน) บางคนมีปัญหาชีวิตต่างไม่เหมือนกันต้องขอเจ้าช่วย ต่างกับไทยยังไง

คำว่างมงาย คือ ความศรัทธาของผู้นั้นต่อผู้ที่ตนนับถือ คุณไปว่าความศรัทธาของคนอื่น คือความไม่เกียรติเพื่อนมนุษย์ ผิดศิลอีกแล้วใช่ไหม

 

ที่ผม บอก งมงาย นี่คือ ทําตัวแบบสัตว์ เพื่อคิดว่า ล้างบาป อ่าครับ กินอึ ไรพวกนี้ อาบน้ำ แม่น้ำนี้ จะชําละล้างบาปให้หายไป ดื่มน้ำแม่น้ำนี้จิตรใจจะบริสุทธิ์ ผมลองคิดไตร่ตรอง

ก็คิดได้ว่า มันไม่ใช่นะ แบบนี้ แต่ผมก็ไม่ได้อยากทําลายศรัทธา ของคนอื่น แต่บางสิ่งผมเห็นว่า ไม่ควร เพราะ เหตุนี้ ผมก็อยากจะชี้ทางให้ถูกต้องอ่าครับ ก็แค่นั้น

บางคน วิงวอง ไปนิพพาน ก็เป็นเรื่อง ดี แต่มีเหตุที่ให้ไป ไม่ได้ เจ้ากรรมนายเวรกลัวว่าจะไม่ได้ชดใช้ครับ อ่าครับ สอง ไม่ใช่สายกลาง ตัวผมก็พยายามจะ สายกลาง ไม่เอนเอียงอ่าครับ

ตัวผมก็วิงวอง สิ่งศักสิทธิเหมือนกันมีหลายครั้งที่ผมวิงเวียน บอกว่าช่วยดูแลตัวผมหน่อย
และผมก็ตอบแทน คือ แผ่เมตตา ให้บุญเข้า เหมือนกัน เรียกว่า เป็นเพื่อน ก็ได้นะครับ

แต่ผมก็ไม่ได้ขัดใจอะไร เพราะว่า ขอให้เทพเจ้าช่วย ท่านก็ช่วย คนที่สมควรช่วย คนที่ช่วยก็ดีใจ แต่ พอวันไหน ลดลง ดวงตก ก็ดันไปโทษ ผมลองจัดสถานการณ์ดูสมมุติผมเป็นเทพ ผมคงรู้สึกเสียใจ จริงๆ

แต่พี่ก็พูดถูก ผมก็ยังมีอวิชชา เกี่ยวกับประเทศอินเดีย ได้ยินมาได้อ่านมาผมเลยคิด แต่ไม่เคยไปเอง ได้ฟังคนอื่นมา ผมก็เชื่อนะ เพราะเค้าไม่ได้โกหกคือความจริง แต่ผมก็ไม่ได้เห็นทั้งหมดหรอกว่าเป็นยังไง

 

ในทางสลับกันถ้าเธอ เกิดในชนเหล่านั้น เธอก็ต้องแบบนั้น เพราะเกิดมาพ่อแม่ชุมชนก็ทำตามกันๆมาๆฝังลึกตั้งแต่เด็ก จริงไหมครับ แล้วอีกอย่าง คนทำกรรมอะไรก็ได้อย่างนั้น จริงหรือป่าว

เรื่องโทษเทพ นั้นมีอยู่ชนหมู่เหล่าทั้งทุกประเทศ แล้วพวกนี้ก็พินาศตามกันไป

ล้างบาปก็เหมือนคล้ายๆพิธีสะเดาะเคราะห์บ้านเราไงครับ จากจิตใจที่หม่นหมองก็ทำให้ผ่องใสสบายใจขึ้นเมื่อผ่องใสแล้วไม่ว่าจะเลวร้ายขนาดไหนก็มีกำลังใจสู้กับเคราะห์นั้นๆ

สิ่งนี้ๆเป็นเรื่องของคนอื่นไม่เรื่องของเธอ เธอไม่ควรยึดติดเอามาทุกข์ อย่าลืมคำสอนพระตถาคต