เว็บพลังจิต คนไทยรวมใจอธิษฐานเพื่อช่วยให้น้ำลด (อธิษฐานบารมีเป็น 1 ในบารมี 10)

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Komodo, 10 ตุลาคม 2011.

  1. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,612
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    คนไทยรวมใจอธิษฐานเพื่อช่วย<WBR>ให้น้ำลด

    "อธิษฐานบารมี" เป็น 1 ในบารมี 10 ซึ่งมีความสำคัญมาก และพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ล้วนใช้อธิษฐานบารมี<WBR>มาแล้วทั้งสิ้น
    ดังนั้นขอเชิญทุกท่าน "อธิษฐานรวมบุญที่เราเคยกระ<WBR>ทำมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบ<WBR>ัน" เพื่อช่วยให้ประเทศไทยฝ่าวิ<WBR>กฤตครับ


    *******************************************************************************

    [​IMG]

    คำอธิษฐานจากพระอาจารย์ (ไม่ประสงค์ออกนาม)

    (อธิษฐานได้ทุกเวลานะครับ แต่เพื่อให้มีกำลังพร้อมกัน<WBR> จะอธิษฐานพร้ิอมกันเวลา 20.30 น. ก็ได้นะครับ บารมีจะได้รวมตัวกันง่ายหน่<WBR>อย)

    นะโมพระพุทธสิกขีพระพุทธเจ้<WBR>า ขอได้โปรดดลบันตาลให้ข้าพเจ<WBR>้าและสรรพสัตว์ทั้ง 3 โลก
    ได้หลุดพ้นจากภัยพิบัติวัฏฏ<WBR>สงสารโดยสิ้นเชิงด้วยพระบาร<WBR>มีมิอาจประมาณ
    ลูกขอนอบน้อมนมัสการด้วยจิต<WBR>ใจ ขอให้ลูกมีจิตสะอาดสว่างใส หลุดพ้นไซร้สู่บ้านนิพพานเท<WBR>อญ
    สัมปะจิตฉามิ ๙ จบ

    สาธุ สาธุ สาธุ ลูกของถวายบุญกุศลที่ทำมา ตั้งแต่อดีต มาจนถึงปัจจุบันวันนี้ ระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี (ระลึกถึงบุญกุศลความดี)
    แด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุ<WBR>ทธเจ้าทุกๆพระองค์ ด้วยอานิสงค์แห่งการถวายบุญ<WBR>นี้ของจงเป็นพะละวะปัจจัยเป<WBR>็นกำลังบุญ
    ช่วยให้ภัยพิบัติทั้งหลายที่เกิดจา<WBR>กน้ำท่วมก็ดี ...... นี้ ได้สงบลงโดยเร็วเทอญ



    *******************************************************************************

    ผมไม่ได้ขอให้ท่านทำ และไม่ได้ขอให้ท่านเชื่อ แต่อยากให้ท่านลองอ่านข้อธรรมข้างล่างและพิจารณาดูครับว่า "อธิษฐานบารมี" มีความสำคัญเพียงใด

    พวกเราทุกคนทำความดีมาไม่ใช้น้อยครับ ถ้าเราอธิษฐานรวมบุญในอดีตมารวมกัน
    และน้อมถวายแด่พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทุก ๆ พระองค์บนพระนิพพาน

    จากนั้นขอให้เราน้อมความดีของพวกเราทุก ๆ คนรวมกันอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร รวมทั้งสรรพสิ่งทั้งหลายที่เป็นต้นเหตุหรือรับกรรมจากภัยครั้งนี้ครับ
    ขอให้หนักกลายเป็นเบา ขอให้วิกฤตจบโดยเร็วพลัน ขอให้ผู้เสียชีวิตไปสู่สุขคติ และสุดท้าย คือ ขอให้คนไทยทุกคนรักและสามัคคีกันครับ

    อย่าคิดว่าเราไม่ได้ทำบุญ หรือ เราบุญน้อยครับ เพราะเรื่องบุญ ไม่มีคำว่าเล็กน้อยครับ แม้ชาตินี้ไม่ค่อยได้ทำ
    แต่ให้มั่นใจว่า ถ้าบุญเราน้อย เราไม่ได้เกิดมาเป็นคน ไม่ได้เกิดมาในยุคพระพุทธศาสนา ไม่ได้เกิดมาในเขตพระพุทธศาสนา
    ไม่ได้เกิดมาในเขตที่มีพระอริยสงฆ์ ไม่ได้เกิดในแผ่นดินของพระมหาโพธิสัตว์ (ในหลวง) และไม่ได้เกิดมาเจอกันแน่นอน

    ดังนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญครับ เราเกิดมาเพื่อทำความดีร่วมกัน และเมื่อเราตั้งใจทำความดีแล้ว เราไม่จำเป็นต้องอายใครครับ
    ทำไปเรื่อย ๆ ใครจะมองยังไงก็ช่างเขา สำคัญที่ใจของเราครับ

    สุดท้ายนี้ผมขอโมทนาบุญในทุก ๆ บุญของทุกท่าน และขอให้ทุกท่านโมทนาในทุก ๆ บุญที่ผมทำเช่นกัน
    ผมกราบขอขมาและขอ อโหสิกรรมจากทุกท่าน และขอให้อโหสิกรรมกับทุก ๆ ท่านโดยไม่ต้องขอขมากรรมกับผมนะครับ
    ผมไม่โกรธใคร ไม่เกลียดใคร ไม่อาฆาต และในอนาคตก็จะไม่คิดไม่ดีกับใครครับ

    โมทนา
    เป็นเพื่อนกับชมรมโมทนาบุญ เว็บพลังจิตได้ที่
    <IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 292px; HEIGHT: 62px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="//www.facebook.com/plugins/likebox.php?href=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2FMotanaboonCom&width=292&colorscheme=light&show_faces=false&border_color&stream=false&header=true&height=62" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME>​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ตุลาคม 2011
  2. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,612
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    วิธีทำบารมี 10 ให้เต็ม


    [​IMG]

    บารมี นี่เขาแปลตามภาษาบาลีแปลว่า เต็ม แต่เนื้อแท้จริง ๆ ต้องใช้กำลังใจให้เต็ม ไม่ใช่เอาวัตถุมาเต็ม คือ

    (1) ทานบารมี จิตใจท่านพร้อมแล้วหรือยังที่จะให้ทานตามความสามารถ
    เพราะการให้ทานนี่เป็นการทำลายโลภะ ความโลภ
    (คำว่าทานบารมีเต็ม ก็คือ จิตใจเรามีำกำลังใจเต็มในการให้ทาน มีความรู้สึกอยากให้อยู่ตลอด โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ ให้เพื่อสงเคราะห์ผู้อื่นและธำรงค์พระุพุทธศาสนา เป็นการให้เพื่อลดความตะหนี่ในใจเราเอง…สำหรับวิธีปฏิบัติคือ หากใครใส่บาตรได้ทุกวันก็ถือว่าดีมาก แต่หากไม่สะดวกแนะนำให้ใส่บาตรวิระทะโย คือ นำเงินใส่กระป๋องทุกวัน แล้วค่อยรวบรวมไปทำบุญ)
    ส่วนเสริม สำหรับบางท่านที่ไม่มีเงิน อาจใช้อย่างอื่นแทนเช่น ข้าวเปลือก ข้าวสาร หรือ ไม่มีข้าว ไม่มีเงิน แต่ต้องการให้ทานบารมีเต็ม ให้ปลูกพืชผัก แล้วตั้งใจว่า ผัก(เช่นพริก มะเขือ) ต้นนี้ เราจะไม่กิน ออกผลเมื่อไหร่ จะเอาไปถวายพระสงฆ์ทั้งหมด….


    (2) ศีลบารมี ศีลของท่านบริสุทธิ์ผุดผ่องหรือเปล่า
    ทุกวันท่านพิจารณาศีลของท่านหรือเปล่าว่าครบถ้วนไหม
    (การรักษาศีลให้บริสุทธิ์ ต้องเจริญพรหมวิหาร 4 และกรรมบท 10 ควบคู่ไปด้วย)


    (3) เนกขัมมบารมี การถือบวช หรือ การละออกจากกาม การถือบวชในที่นี้ก็หมายถึงว่าเป็นการระงับนิวรณ์ 5 ประการ โดยเฉพาะ
    กามฉันทะ เห็นรูปสวย เสียงเพราะ กลิ่นหอม รสอร่อย และสัมผัสที่ต้องการการมั่วสุมไปด้วยกามารมณ์เป็นโทษ มันเป็น อนิจจัง ไม่มีการทรงตัว รูปมันสวยไม่จริงสวยนิดหนึ่ง แล้วก็แก่ไปเสื่อมไปทุกวัน เสียงผ่านหูแล้วก็หายไป กลิ่นหอมกระทบจมูกแล้วก็หายไป สัมผัสที่เรานึกว่าดี ความจริงมันเป็นปัจจัยนำโทษมา นี่หมายถึงว่าสัมผัสระหว่างเพศมันนำโทษมาให้ หากต้องการสัมผัสแบบนั้นงานมาก งานมันก็เกิดขึ้นมาก กำลังใจต้องรักษาไว้ซึ่งกันและกัน ต้องเอาใจคนโน้น ต้องเอาใจคนนี้หนักใจมาก

    (4) ปัญญาบารมี นี่เราเห็นหรือยังว่าการเกิดเป็นทุกข์ เกิดมาแล้วนี่ภาระต่าง ๆ เต็มไปหมด
    ที่พูดไปแล้วนี่มีแต่ความทุกข์ทั้งนั้นหาความสุขไม่ได้ ถ้าเราจะสุขได้จริง ๆ ก็ต้องวางการเกิดคือ
    วางขันธ์ 5 นี่เป็น ปัญญาบารมี

    (5) วิริยบารมี ได้แก่ความเพียร เรามีความเพียรครบถ้วนแล้วหรือยัง
    คือใช้กำลังใจเป็นสำคัญ ไปหักห้ามความชั่วไม่ให้เข้ามายุ่งกับใจ
    (6) ขันติบารมี แปลว่า ความอดทน การกระทำความดีที่ฝืนอารมณ์เดิมต้องอดทนเพราะใจมันคอยจะต่ำ มันคบกิเลส ตัณหา อุปาทาน คือ มีความรัก ความโลภ ความโกรธ ความหลง นี่เราก็พิจารณาเห็นว่าความรักเป็นโทษ ในเมื่อสิ่งทั้งหลายเหล่านี้มันเป็นโทษ เราจะฝืนกำลังใจที่มันคบกันมานาน เราก็ต้องใช้ความอดทน ไม่อย่างนั้นเราก็จะทรงตัวอยู่ไม่ได้

    (7) สัจจบารมี ความจริงใจ ที่เราตั้งใจจะห้ำหั่นกิเลสทั้ง 3 ประการให้มันสิ้นไป
    เราจะไม่ละความพยายามทรงสัจจะเข้าไว้ จะไม่ยอมทิ้งสัจจะคือความจริงใจ
    แต่ว่าการรักษาสัจจะต้องให้มันพอดีพอควร อย่าทำเกินพอดี การนั่งกรรมฐานเครียดเกินไป พระพุทธเจ้าไม่ใช้ ใช้อารมณ์ย่อหย่อนเกินไปไม่ใช้ ใช้อารมณ์พอดี ๆ เพื่อรักษาอาการของขันธ์ 5 ให้เป็นปกติ

    (8) อธิษฐานบารมี อธิษฐานต้องตั้งใจไว้เลยว่า การปฏิบัติแบบนี้ เราต้องการพระนิพพาน ไม่ใช่สักแต่เพียงว่าทำเป็นแค่อุปนิสัย ถ้าอารมณ์คิดว่าเป็นแค่อุปนิสัยมันขี้เกียจง่าย ตั้งใจไว้เฉพาะว่าชาตินี้ทั้งชาติ อย่างเลวที่สุดเราจะเป็นพระโสดาบันให้ได้

    (9) เมตตาบารมี เมตตาบารมีตัวนี้ก็เป็นตัว ตัดโทสะ ความพยาบาท ที่เป็นกิเลสตัวสำคัญ
    สำหรับ ปัญญาบารมี นั้นตัดโมหะ

    (10) อุเบกขาบารมี ทรงอารมณ์เฉย ในเมื่อกฎของกรรมที่เราทำไว้เป็นอกุศลในชาติก่อนที่เราทำมันมาให้ผล เราก็มีอารมณ์สบาย อะไรมันจะเกิดแก่เราบ้าง เราก็สบายที่เรียกว่า สังขารุเบกขาญาณ คือร่างกายมันจะแก่เราก็สบาย
    เฉย….เรารู้ว่าจะแก่ ถ้ามันจะป่วยใจเราก็สบาย เพราะรู้ว่ามันจะป่วย รักษาตัวเหมือนกัน หายก็หาย
    ตายแหล่ก็ช่างมัน ของรักของชอบใจที่จะต้องพลัดพรากจากกัน เรารู้ว่านี่เป็นธรรมดา อารมณ์ใจก็เฉย
    สบาย…เพราะรู้ว่าเป็นธรรมดา มันจะจากไปเราก็ห้ามมันไม่ได้ คนที่รักกันกับเราเขาประกาศเป็นศัตรูก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา เพราะเขากับเรายังมีกิเลสกัน ต่างคนต่างมีกิเลส เขาจะไปมันเป็นเรื่องของเขาเราไม่ตาม ถ้าเขาจะมาเราก็ไม่ปฏิเสธพร้อมยอมรับ ใจสบายเป็น อุเบกขาบารมี ร่างกายมันจะตายจะพังก็ช่าง จัดเป็น อุเบกขาบารมี


    กำลังใจรวมความว่าบารมีทั้ง 10 ประการ คือ
    (1) จิตพร้อมจะให้ทาน
    (2) จิตทรงศีลอยู่เสมอ
    (3) เราพร้อมที่จะระงับนิวรณ์ 5 ประการ
    (4) เรามีปัญญาที่จะรู้แจ้งเห็นจริงตามกฎของธรรมดา
    มีอารมณ์ยอมรับนับถือกฎของธรรมดาเป็นปกติ
    (5) เรามีความเพียรเพื่อจะทำลายกิเลสให้พินาศไป
    (6) เรามีขันติความอดทน ทนต่อการฝืนอารมณ์เพราะอารมณ์มันคอยต่ำ เราจะดึงขึ้นสูง
    มันก็จะคอยต่ำต้องทนดึงเข้าไว้
    (7) สัจจะ เมื่อตั้งใจจะทำลายกิเลสแล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาทำลายกิเลสกันเรื่อยไป ไม่ถอยกลับ
    (8) อธิษฐานตั้งอารมณ์ไว้ตรงว่าเราจะเข้าไปหาพระนิพพานให้ได้ จะไม่ยอมถอยหลัง
    จับจุดไว้จุดเดียวเท่านั้น
    (9) เมตตา ประกาศตนเป็นคนมีความรักปรารถนาในการสงเคราะห์คนทั้งหมดและสัตว์ทั้งหมด
    ไม่ถือว่าใครเป็นศัตรูร้ายของเรา
    (10) อุเบกขา มีความวางเฉย วางเสียได้เมื่อกฎของกรรมจะเข้ามาสนองตน

    บารมี 10 นี้ท่านให้ทบทวนทุกวันว่าเรามีครบหรือไม่ ขาดบกพร่องข้อใดบ้าง


    ที่มา : http://www.dhammatan.net/2010/07/%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%B5-10/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ตุลาคม 2011
  3. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,612
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ธรรมะโดยหลวงพ่อฤๅษี(พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน)

    [​IMG]

    หลวงพ่อ(ฤาษี) ตอบปัญหาธรรม
    ฉบับพิเศษ เล่ม ๙

    ทำบุญจะต้องอธิษฐานไหม

    ผู้ถาม : หลวงพ่อคะ เวลาทำบุญนี่จำเป็นไหมที่เราจะต้องอธิษฐาน?

    หลวงพ่อ : จำเป็นหรือไม่จำเป็นฉันก็ถือว่าจำเป็น มันตรงทางดี
    ถ้าไม่อธิษฐานนี่มันไม่ตรงทางนะ อย่างสมมุติว่าชาตินี้เราได้มี
    โอกาสจะเป็นพระอริยเจ้าได้ แต่เราขาดอธิษฐานบารมีกรรมอื่น
    มันตีเป๋ได้ ตัวอย่าง อาฬวีเศรษฐี นี่ภายหลังมาเป็นขอทาน
    พระพุทธเจ้าทรงตรัสกับพระอานนท์ว่า ถ้าสมัยอาฬวีเศรษฐี
    ฟังเทศน์จากพระพุทธเจ้าก็จะเป็นพระอริยเจ้าได้ แต่ว่านี่อาฬวีเศรษฐี
    เป็นขอทาน พระพุทธเจ้าเทศน์เท่าไรก็ไม่มีผล เพราะขาด
    อธิษฐานบารมี

    ผู้ถาม : และถ้าอธิษฐานขอไปพระนิพพานนี่ มากเกินไปสำหรับ
    คนธรรมดาทั่วไปไหมคะ?

    หลวงพ่อ : ไม่มีมาก นิพพานนี่ไม่มีมาก ที่ว่างมากเหลือเกิน
    โลกมนุษย์เราหนึ่งโลก ไม่เท่ามุมหนึ่งของพระจุฬามณี
    จะไปเทียบกับดาวดึงส์ก็ไม่ได้ ดาวดึงส์โตมากใช่ไหม จุฬามณีน่ะ
    เป็นจุดหนึ่งของดาวดึงส์ เป็นที่ตั้งของเจดีย์และโลกเรานี่
    เล็กกว่ามุมหนึ่ง นิพพานที่กว้างใหญ่กว่า ฉันว่าคนทั้งหมด
    ทั้งปลาทั้งปลวกอะไรทั้งหมด ไปนิพพานนี่ยังไม่เต็มที่ยังว่างมาก
    กลุ่มคนที่ถึงนิพพานแล้วกับบริเวณน่ะ ยังไม่รู้เทียบกี่แสนเท่า
    ยังมากอยู่ อากาศนี่ไม่มีขอบเขตนะ


    อธิษฐานเวลาใกล้ตาย

    ผู้ถาม : หลวงพ่อเจ้าคะ ดิฉันเบื่อโลกเหลือเกินอยากจะตายวัน
    ตายพรุ่งให้รู้แล้วรู้รอดไป เพราะไม่กลัวแล้วเรื่องความตาย
    แต่ก็ไม่แน่ใจว่าอารมณ์แบบนี้ ตายจริง ๆ แล้วไม่รู้จะไปล่าง
    หรือบนก็เลยอยากจะถามหลวงพ่อว่าเมื่อารมณ์จิตอย่างนี้เกิดขึ้น
    เราควรอธิษฐานแบบไหนอย่างไร เผื่อว่าตายจริง ๆ เราจะได้
    ไม่ลงข้างล่างเจ้าค่ะ?

    หลวงพ่อ : อธิษฐานว่า ฉันยังไม่ตาย ๆ ๆ เอาอย่างนี้ซิ นึกถึงพระพุทธเจ้า
    โดยเฉพาะ เอาพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่งก็ได้นะวางข้างหน้า
    จำภาพท่านไว้ถ้าตายเมื่อไรไปข้างบนเมื่อนั้น


    ทำบุญลืมอธิษฐาน

    ผู้ถาม : กราบเรียนหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง การที่ผมเอาทองคำ
    ไปบรรจุที่ใต้ฐานพระบรมสารีริกธาตุนั้น ตอนนั้นลืมอธิษฐาน
    ไม่รู้จะอธิษฐานอย่างไร ตอนนี้นึกได้จะอธิษฐานติดตาม
    พระพุทธเจ้าใหม่ได้หรือไม่ขอรับ?

    หลวงพ่อ : ได้ บุญไม่สลายตัว

    ผู้ถาม : แล้วผู้ที่ไม่มีทองคำไปบรรจุ แต่ก็อนุโมทนาไปทุก ๆ ครั้ง
    กับคนที่เขาเอาไปถวายจะมีโอกาสป้องกันนรก เหมือนคนบรรจุ
    หรือเปล่าขอรับ?

    หลวงพ่อ : รับรองว่าตายแล้วไปสวรรค์ ไม่ตกนรกแน่ ถ้าโมทนา
    ด้วยความจริงใจนะ

    ทำบุญไม่ทันอธิษฐาน

    ผู้ถาม : หลวงพ่อเจ้าขา ตอนที่เพื่อนข้างบ้านเขาฝากเงินมาทำบุญ
    แต่ไม่ทันอธิษฐาน เมื่อลูกกลับไปแล้วไปบอกเขาว่าเงินที่ให้ไปน่ะ
    ได้ทำบุญเรียบร้อยแล้ว เขามีความสงสัยว่า เอ๊ะ! ลืมอธิษฐาน
    อานิสงส์จะสมบูรณ์แบบ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์เหมือนกับที่ท่านทั้งหลาย
    อธิษฐานก่อนล่วงหน้าหรือเปล่าเจ้าคะ?

    หลวงพ่อ : อธิษฐานล่วงหน้าหรือล่วงหลังมีผลเท่ากัน การตั้งใจ
    ทำบุญจริงย่อมเป็นบุญใช่ไหม อานิสงส์มันสมบูรณ์แบบแล้ว
    อย่างแบงก์ ๑๐๐ บาท ยังไง ๆ มันก็ ๑๐๐ บาท มันไม่ใช่ ๙๙ บาท
    ใช่ไหม ไม่เป็นไรนะ อธิษฐานก่อนหลังเหมือนกันเป็นการ
    ตั้งใจเพื่อจะไปไหน เราเรียก อธิษฐาน


    ที่มา : ปกิณกะธรรมะและเรื่องเล่าของพระราชพรหมยาน;หลวงพ่อฤาษีตอบปัญหาธรรม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ตุลาคม 2011
  4. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,612
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    การอธิษฐานหลาย ๆ อย่างจะได้ไหมคะ?โดย หลวงพ่อฤาษี;ตอบปัญหาธรรม
    <HR class=hrcolor SIZE=1 width="100%">[​IMG]


    อธิษฐานหลาย ๆ อย่าง

    ผู้ถาม : หลวงพ่อเจ้าคะ การอธิษฐานหลาย ๆ อย่างจะได้ไหมคะ?

    หลวงพ่อ : อธิษฐานได้ แต่ผลยังไม่ทราบเพราะยังไม่รู้ว่า
    อธิษฐานกันว่ายังไง อธิษฐานบารมีจริง ๆ ให้มุ่งพระนิพพาน
    การอธิษฐานหวังผลก้มีผลเหมือนกันไม่ใช่ไม่มีผลนะ
    อย่างพระอนุรุทธท่านอธิษฐานเวลาทำบุญและให้ทาน
    ท่านอธิษฐานบอกว่า “ขอผลบุญนี้หรือขอผลทานนี้
    ถ้าข้าพเจ้าเกิดไปชาติไหนก็ตาม ขอคำว่าไม่มี
    จงอย่าปรากฎแก่ข้าพเจ้า”
    ท่านอธิษฐานแบบนี้ทุกชาติ เกิดทุกชาติท่านต้องการอะไร
    มีหมด ต่อมาถ้าสิ่งนั้นท่านหาไม่ได้ เทวดาต้องจัดให้

    อธิษฐานขอคำว่าไม่มี

    ผู้ถาม : กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง เวลาทำบุญ
    กับหลวงพ่อทุกครั้ง มักจะอธิษฐานว่า “ขอคำว่าไม่มี
    จงอย่าปรากฎแก่ข้าเจ้าตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน”
    การอธิษฐานอย่างนี้จะสำเร็จผลในชาติปัจจุบันหรือเปล่าเจ้าคะ
    หรือต้องไปรอชาติหน้าเจ้าคะ?

    หลวงพ่อ : ก็ไม่ต้อง ตั้งใจแบบนั้นแล้วก็ทำตามนั้นซิ อันดับแรก
    ไม่ลืมความตาย ๒. เคารพในพระไตรสรณคมน์ มีพระพุทธเจ้า
    พระธรรม พระอริยสงฆ์ ๓. มีศีล ๕ ครบถ้วนให้แน่วแน่
    อย่าถอยหลัง ควบกรรมบท ๑๐

    ที่มา : ปกิณกะธรรมะและเรื่องเล่าของพระราชพรหมยาน;หลวงพ่อฤาษีตอบปัญหาธรรม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ตุลาคม 2011
  5. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,612
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ถาม : ทำไมคนเราต้องอยู่ใต้กฎของกรรม ?

    ตอบ : คุณทำคุณถึงได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณทำไม่ว่าจะดีหรือชั่วก็ตามคุณทำเอง
    ถ้าหากคุณเลิกทำสามารถหลุดพ้นไปได้ก็ไม่ต้องอยู่ใต้กฎของกรรม
    อย่างพระอรหันต์ พระปัจเจกพุทธเจ้าหรือพระพุทธเจ้า สิ่งที่เราทำผลมันเกิดอยู่แล้ว
    ลองเขกหัวตัวเองดูซิ ต้องการเขกหรือไม่เขกมันก็เจ็บ นั่นแหละทำอะไรมันได้อย่างนั้น

    เพราะฉะนั้นมีอยู่ตัวหนึ่งที่น่าเวทนาคนบางคนก็คือ ตัวอธิษฐานบารมี
    คนเขาทำบุญเสร็จเขานั่งอธิษฐานแล้วอีกคนบอกนี่โลภ ทำบุญแล้วยังขอโีน่นขอนี่
    ความจริงการอธิษฐานบารมีนี่เป็นเรื่องของคนฉลาดเป็นการกำหนดเจาะจงในสิ่งที่ตัวเองทำๆ
    แล้วต้องการหรือไม่ต้องการผลนั้นเกิดแน่นอน
    แต่คนใช้อธิษฐานบารมีเขาฉลาด เขารู้จักเจาะจงว่าจะให้เกิดอย่างไร ? เกิดเมื่อไหร่ ?

    ขณะเดียวกันว่าอีกคนหนึ่งไม่ยอมอธิษฐาน สมมุติว่าหิวข้าวตอนนี้
    แต่อีก ๓ วันข้าวค่อยมา ก็ทรมานตัวเองไปก่อน
    แล้วเรื่องของการอธิษฐานบารมี เหมือนยิงปืน แล้วเล็งเป้าย่อมแม่นยำกว่า
    ในขณะที่อีกคนหนึ่งยิงขึ้นฟ้าลงดินไปเรื่อย แล้วหวังจะให้ถูกเป้า รอไปก่อนเถอะ

    ถาม : อธิษฐานนี่จำเป็นต้องออกเสียงมั้ยครับ ?

    ตอบ : อธิษฐานแปลว่า ตั้งใจมั่น
    จะออกเสียงหรือไม่ออกเสียงมันอยู่ที่เรา ขอให้ตั้งใจอย่างนั้นจริงๆ

    ถาม : อย่างที่หลวงพ่อเคยสอนว่า ถ้าบารมีใกล้เต็มแล้วจริงๆ นี่
    อย่างหลวงปู่ปานนี่ทำบุญทีไรก็จะเปล่งวาจาออกมา ?

    ตอบ : อันนั้นเกี่ยวกับพระโพธิญาณคือ ตั้งใจจะเป็นพระพุทธเจ้า
    ถ้าทำถึงระดับนั้นเขาไม่อายใครแล้ว ประกาศให้รู้ชัดเจนเลยว่าเราทำอันนี้เพื่อปรารถนาพระโพธิญาณ
    เหมือนกับคุณก้องเล่นเอาเขาอึ้งกันทั้งโบสถ์ พอญัตติเสร็จเขาประกาศเลยว่า
    กุศลของการที่บวชครั้งนี้ขอให้ข้าพเจ้าเข้าถึงซึ่งพระโพธิญาณ พระทุกองค์สาธุพร้อมกัน
    แต่ความรู้สึกในใจบอกว่า มึ_ไปเถอะกูไม่ไปหรอก แบบนั้นแหละ
    แต่จริงๆ มันก็น่าสงสัยนะทำไมต้องอยู่ใต้กฎของกรรมด้วย
    มันเหมือนอยู่ๆ เอากฎหมายมาขี่คอบังคับเราใช่มั้ย ?
    แต่จริงๆ มันไม่ใช่ เราทำเอง ถ้าเราไม่ทำก็ไม่จำเป็นต้องมี

    อย่างเช่นว่า นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน มนุษย์ เทวดา มาร พรหมตลอดถึงนิพพาน
    ถ้าหากว่าคนหลุดพ้นหมดหรือว่าเลิกทำดี ทำชั่วทั้งหมดสิ่งเหล่านี้่ก็จะไม่มี
    สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเพื่อรองรับการกระทำของเราเท่านั้น
    ถ้าหากว่าไม่มีการกระทำสิ่งเหล่านี้ก้ไม่เกิดขึ้น ไม่รู้จะเกิดขึ้นทำไม

    ถาม : ....................................

    ตอบ : ทำดีต้องได้ดี หรือทำดี...ดี ทำชั่วต้องได้ชั่วหรือว่าทำชั่ว...ชั่ว ถ้ายังติดทั้งดีทั้งชั่วไม่หลุดแน่นอน
    อันนี้เป็นความเข้าใจที่ถูกต้อง ถ้าคุณทำดีแล้วยังติดดีชาตินี้คุณไปนิพพานไม่ได้
    อันนี้กล้ายืนยันเพราะว่า ถ้าถึงระยะสุดท้ายแล้วนักปฏิบัติเขาจะรู้ว่า ถ้าดีก็ทำ ถ้าั่ชั่วก็ละ ไม่เกาะทั้งดีทั้งชั่ว

    ถาม : ถ้าแข่งขันกันทำความดีเป็นกิเลสมั้ยครับ ?

    ตอบ : เป็น แต่ว่ามันก็ดีกว่ากิเลสอย่างอื่น พอ ๆ กับติดวัตถุมงคล ยังไงดีกว่าติดวัตถุึอัปมงคลเยอะ
    แรกๆ เราจำเป็นจะต้องเกาะเพราะว่าเป็นเด็กน้อยเดินไม่แข็งแรงไม่เกาะมันจะตะกายไปได้ยังไง
    แต่พอแข็งแรงดีแล้วถึงสถานที่ๆ ตัวเองต้องการแล้วมันก็ไม่ต้องเกาะต้องแบกอะไร
    เดินขึ้นบันไดเกาะราวบันไดเพื่อความมั่นคง มาถึงในห้องแล้วเราจะแบกราวบันไดมาทำไมเล่า ?
    มันก็ปล่อยตั้งแต่ก่อนจะเดินเข้าห้องแล้ว แต่ช่วงนิดเดียวระหว่างราวบันได้กับประตูห้อง

    คนส่วนใหญ่มันจะนึกไม่ถึงเพราะว่ายังเข้าไม่ถึงจริง ในเมื่อเข้าไม่ถึงจริง
    ก็เลยคิดว่าทำดีแล้วไม่ติดดีมันจะไปนิพพานได้ยังไง ?
    ความจริงอันนี้เข้าใจถูกแต่ตัวที่เข้าใจผิดก็ตอนสุดท้ายเขาไม่คิดอะไรแล้ว

    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนเมษายน ๒๕๔๕
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ตุลาคม 2011
  6. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,612
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    อธิษฐานบารมีเป็นการยิงปืนเล็งเป้าเพื่อให้ถูกต้องเป้าหมาย

    ถาม : แล้วอย่างหนูทำบุญทุกวันหยอดเงินบาทหนึ่ง หยอดเงินหน้าหิ้งพระค่ะ แล้วหนูยังไม่ได้เอามาถวายถือเป็นการทำบุญหรือเปล่าคะ ?

    ตอบ : เป็นแล้ว เพราะว่าเราตั้งใจอยู่แล้วว่าเงินส่วนนี้จะทำบุญ ถ้าหากว่าเราตายตอนนั้นผลบุญอันนั้นเราได้เลย แต่พระขาดทุน เพราะยังไม่ได้รับสตางค์ (หัวเราะ) อันนี้ไม่ต้องกังวล อันนี้เป็นบุญอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าของเรานี่ เจตนามันเป็นบุญอยู่แล้ว พอเราได้ทำไปผลบุญนั้นก็เป็นอันสำเร็จแล้ว มันก็เหลืออยู่เพียงว่ามีวาระมีโอกาสก็เอาเงินนั้นมาถวายพระ เพราะฉะนั้นห้ามตายก่อน ตายก่อนพระขาดทุน

    อธิษฐานบารมีนี่สำคัญนะ เป็นบารมีที่สำคัญมาก คนที่ไม่ถึงระดับปรมัตถบารมีใช้อธิษฐานไม่เป็นด้วยซ้ำไป บางคนก็เข้าใจผิดว่า อธิษฐานบารมี อย่างเช่นว่า ทำบุญแล้วขอให้เป็นนั่นขอให้เป็นนี่ ขอให้ได้นั่นขอให้ได้นี่ปรากฏว่าเป็นการโลภเขาไปคิดอย่างนั้น อันนั้นไม่ใช่ อธิษฐานบารมีเป็นการเจาะจงว่าผลบุญที่เราทำจะให้มันเกิดอะไร จะให้เกิดขึ้นเมื่อไหร่ สำหรับตัวเราเป็นการเจาะจงเวลา ถ้าหากว่าเราต้องการของอย่างหนึ่งตอนนี้ ถ้าเราไม่ตั้งใจไว่กอนมันมาอีกโน่นปี ๒ ปี ข้างหน้า ซึ่งไม่มีประโยชน์กับเราแล้ว

    อธิษฐานบารมีเป็นการยิงปืนเล็งเป้าเพื่อให้ถูกต้องเป้าหมาย ถ้าหากยิงเหวี่ยงแหส่งเดชไปมันอาจจะไม่ถูกเป้าหมายเลยก็ได้ สิ่งที่เราทำไม่ว่าจะดีหรือชั่วเขาส่งผลอยู่แล้ว

    อธิษฐานบารมีนี่เป็นการจำกัดว่าจะให้เกิดขึ้นเมื่อไหร่ เกิดผลอย่างไร มันไม่ได้โลภอะไรเลย เพียงแต่กำหนดให้มันแน่นอนลงไปเท่านั้น เรื่องของอธิษฐานบารมีนี่ถ้าหากว่าเราสร้างสาเหตุได้เพียงพอ ผลมันก็จะเกิด ทีนี้ถ้าหากว่าเหตุมันยังไม่พอผลมันก็ยังไม่เกิดหรอก

    อย่างเช่นว่าน้ำขวดนี้ ยกตัวอย่างน้ำนี่ง่ายดี ถ้าหากว่าโยมสร้างเหตุเพียงพอก็คือ น้ำมันจะเต็มขวดแล้ว โยมตั้งใจอธิษฐานขอน้ำขวดหนึ่งโยมได้แน่นอน แต่ถ้าหากว่าน้ำมันแค่นี้ แล้วโยมตั้งใจขอน้ำขวดหนึ่งโยมได้แน่นอน แต่ถ้าหากว่าน้ำมันแค่นี้ แล้วโยมตั้งใจขอน้ำเต็มขวด เขาก็ให้เราไม่ได้เพราะว่ายังไม่เต็ม
    เพราะฉะนั้นเราต้องทำเหตุให้เพียงพอ ผลถึงจะได้ เรื่องของธรรมะเป็นเรื่องตรงไปตรงมา

    ที่หลวงพ่อโตวัดระฆัง ท่านบอกว่า ถ้าเจ้าไม่สร้างเอาไว้แล้ว เที่ยวไปขอร้องขอต่อคนอื่นเมื่อไหร่เจ้าจะได้ เพราะฉะนั้นก็เลยจำเป็นอยู่ตรงนี้ว่า เราต้องทำให้เพียงพอ ถึงเวลาอธิษฐานว่าเราต้องการอย่างไรมันถึงจะเป็นอย่างนั้น

    ฉบับที่ ๒๘ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๙ - PaLungJit.com

    ขอขอบคุณ
    เว็ป กระโถนข้างธรรมาสน์
    <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ตุลาคม 2011
  7. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,612
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ตอกย้ำอธิษฐานบารมี

    ถาม : หลวงพ่อคะ เวลาที่เราทำความดีแล้วแผ่เมตตาจิตส่งออกไป แต่ตัวเราไม่ได้ทำสมาธิ เขาจะได้ไหมคะ ?

    ตอบ : ได้...แต่ได้ไม่เต็มที่ เพราะแรงส่งไม่ค่อยจะพอ

    เมื่อเราทำความดีทุกอย่างเช่น สวดมนต์ทำวัตร เจริญกรรมฐาน ฯลฯ ถึงเวลาก็อธิษฐานรวบยอดไปด้วยว่า "ผลบุญทั้งหมดที่เราทำมาตั้งแต่ต้นจนถึงบัดนี้ ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าเข้าถึงซึ่งพระนิพพาน"

    เราเอาทั้งหมด ไม่ได้เอาเฉพาะครั้งนี้ แล้วที่เหลือจะอธิษฐานอยางไรต่อก็ว่าไป เช่น "ถ้ายังไม่ถึงซึ่งพระนิพพานเพียงใด ขอความข้องขัดใดๆ อย่าได้มีในการดำรงชีวิตของข้าพเจ้าเลย ขอให้ข้าพเจ้าเป็นผู้มีความเป็นอยู่คล่องตัว มีความปรารถนาที่สมหวังทุกประการ ขอให้เข้าถึงพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้"

    แต่ถ้าเราเป็นประเภทที่ขอน้อยแล้วไม่ตรงกำลังใจของเรา ก็ขอให้มาก ๆ เอาให้เหนี่อยลิ้นห้อยไปเลย


    ถาม : ขอทุกวันแบบนี้ เป็นเพราะเราทำได้ไม่ดี ก็เลยขอแต่ท่าน..?

    ตอบ : ไม่ใช่จ้ะ... ลักษณะแบบนี้เป็นการตอกย้ำตัวอธิษฐานบารมี คือความตั้งใจของเรา ยิ่งตอกย้ำมั่นคงเท่าไร ถึงเวลาผลก็จะมั่นคงแค่นั้น


    สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๕



    ที่มา : http://www.watthakhanun.com/webboard...ead.php?t=2628
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ตุลาคม 2011
  8. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,612
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ของฝากจากพระยายม...เรื่อง "วันหยุดนรกการ"<!-- google_ad_section_end -->

    [​IMG]
    ภาพ : หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง และ พ่อหลวงของเรา

    ของฝากจากพระยายม

    (เรื่อง การอุทิศส่วนกุศล ท่านพระยายม (ลุงพุฒิ) ท่านมาสั่งให้หลวงพ่อบอกลูกหลาน เมื่อวันปวารณาออกพรรษาปี ๒๕๓๑ ซึ่งหลวงพ่อได้เล่าให้ฟังดังนี้)

    หลวงพ่อ : พระยายมกับท่านลุง (นายบัญชี) มาเที่ยววันออกพรรษา
    พระยายม กับท่านลุงฯ บอกว่า “คนที่ผมจะช่วยได้ ต้องเฉพาะคนที่ผ่านสำนักผมเท่านั้นนะ!”

    ถามท่านว่า “ลุงมีข่าวอะไรส่งข่าวบ้างละ?”

    ท่านบอก “ไม่มี! ผมหยุดนรกการ ๓ วัน”

    รู้จักไหม… ชาวบ้านเขาหยุดราชการ ใช่ไหม..ท่านหยุดนรกการ ๓ วัน เมื่อวานนี้ (ออกพรรษา), วันนี้ (ปวารณา), และพรุ่งนี้

    ถาม “ทำไม?”

    ท่านบอก “วันสำคัญนี่ วันมหาปวารณาผมไม่สอบสวน”

    เลยถามว่า “ถ้าเวลาที่ลุงไม่สอบสวน พวกที่คอยการสอบสวนเขามีอิสระใช่ไหม…?”

    ท่านบอกว่า “ตามปกติเขาก็มีอิสระอยู่แล้ว ไอ้ที่ไปยืนที่นั่นเขายืนรอคนไม่ให้ลงนรกเท่านั้นเอง”

    คือ ท่านมีหน้าที่ไม่ให้ลงนรก แต่ก็ต้องไปตามกฎของกรรม ถ้ารู้กฎของบุญนิดหนึ่งท่านให้ไปสวรรค์ก่อนเลย.. ท่านจัดอย่างนั้น.

    เลยถามท่านว่า “ถ้าเขามีอิสระอย่างนี้เขาไปได้ไหม?”

    ท่านบอกว่า “เขาไปไหนก็ได้ ถึงเวลาสอบสวนเขาก็มาเอง กฎของกรรมมันบังคับ”

    หมายความ เขาจะต้องถูกสอบสวน ไม่งั้นเขาจะลงนรกทันที ถ้าเขามาที่นั่นยังมีโอกาสพ้นหรือไม่พ้น ยังไม่แน่

    เลยถามว่า “ถ้าบรรดาญาติเขาอุทิศส่วนกุศลให้ เขาจะมีโอกาสได้รับไหม…?

    ท่านบอกว่า “ถ้าญาติฉลาด ได้รับทุกคน”

    ญาติฉลาด หมายความ ทำบุญแล้วอุทิศส่วนกุศลให้ตรงให้คนเดียว อย่าให้คนอื่น แต่ต้องออกชื่อนะ เพราะเวลานั้นยังเป็นเวลาปลอดอยู่ มีสภาพคล้าย สัมภเวสี

    ก็ถามท่านว่า “ทำบุญอย่างไหน พวกนี้จึงจะไปสวรรค์ชั้นสูง มีความสุขมาก มีความสุขน้อย หรือไม่ได้รับเลย”

    ท่านบอกว่า “แดนใดที่ไม่มีบุญ ทำแล้วก็ไม่ได้รับเหมือนกัน

    หมายความพระเรานี่ล่ะ! เป็นพระแต่หัวแต่ผ้าเหลืองมีไหม นี่แหละทำไปเท่ไรเจ๊งหมด ขาดทุน! ท่านบอกว่า อย่างนี้ทำเท่าไรก็ไม่มีผล อุทิศส่วนกุศลให้แก่พวกนั้นเขาก็ไม่ได้รับ เพราะรับไม่ไหว ถ้าทำบุญที่เขตมีบุญน้อย เขาก็มีอานิสงส์น้อย เขาก็มีความสุขน้อย นี่เราก็ไม่ต้องพูดกัน ทำบุญที่มีอานิสงส์ใหญ่ที่เป็นบุญมาก ก็ได้รับผลมาก ก็ถามถึงบุญ ท่านบอกว่า สังฆทาน นี่ดีที่สุด!

    แล้วท่านก็บอกว่า “ไปบอกชาวบ้านเขานะว่า คนที่ผมจะช่วยได้จริงๆ ต้องเฉพาะคนที่ผ่านสำนักผมเท่านั้นนะ” อย่าง สัมภเวสี เปรต อสุรกาย ไม่ผ่านท่าน ท่านช่วยไม่ได้ แล้วคนที่ลงนรกท่านใดก็ช่วยไม่ได้ เพราะไม่ได้ผ่านสำนักท่าน คนที่ต้องผ่านสำนักท่าน เมื่อผ่านสำนักท่านก็ต้องไปคอยอยู่ เลยถามท่านว่า “ทำอย่างไร ถึงความแน่นอนจึงจะปรากฏ ลุงจะช่วยได้”

    ท่านก็เลยบอกว่า “เอาอย่างนี้ เวลาเขาทำบุญเสร็จ อุทิศส่วนกุศลให้แก่คนตาย ถ้ายังไม่มั่นใจให้บอกว่า…”

    “ถ้าบุคคลนี้ ยังไม่มีโอกาสโมทนาเพียงใด ขอพระยายมเป็นพยานด้วย ถ้าหากว่าพบเธอเมื่อใด ขอให้บอกเธอโมทนาเมื่อนั้น”

    ท่านบอกว่า “เพียงแค่เท่านี้แหละ! ผมก็ไม่ต้องสอบสวน มันโผล่หน้าเข้าไป ผมก็บอกว่า เฮ้ย! ข้าทำบุญอย่างโน้นมึงโมทนาเว้ย! มันก็ไปสวรรค์เลย แค่นี้ล่ะผมก็ไม่ต้องเหนื่อย…”

    (แล้ว หลวงพ่อก็จบการสนทนาระหว่างท่านกับพระยายมเพียงแค่นี้)

    ที่มา : คัดลอกจาก หนังสือ “การอุทิศส่วนกุศล” วัดท่าซุง หน้า ๙ - ๑๒

    อ้างอิงจาก : www.bloggang.com/mainblog.php?id=srt-student&month=15-11-2008&group=12&gblog=5

    <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 ตุลาคม 2011
  9. หริภุญชัย

    หริภุญชัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    229
    ค่าพลัง:
    +3,517
    มีคำพูดตอนหนึ่งในหนังสือ พุทธโอวาท ๓ เดือนก่อนปรินิพพาน ว่า <O:p</O:p
    แม้จะไม่มีชีวิตเหมือนเหล่ามนุษย์ แต่ข้าก็เปล่งดอกออกมา บูชาพระพุทธเจ้าจนได้ ข้ารู้สึกเสียดายโอกาสทอง แทนมนุษย์เป็นจำนวนล้านๆ ที่ไม่รู้จักพระคุณของพระพุทธเจ้า เอาเสียเลย (ต้นสาละรำพึง ) ดังนั้นสิ่งเล็กน้อยที่เราอาจมองข้ามก็น่าจะเป็นประโยชน์บ้าง แม้แต่แรงอธิฐานที่มองไม่เห็นแต่มีพลังมหาศาลที่สามารถทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนได้ถ้ารวมพลังกัน สาธุ สาธุ
     
  10. diya

    diya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,950
    ค่าพลัง:
    +13,031
    ร่วมด้วยช่วยอธิษฐานค่ะ โมทนาสาธุ ฟ้าหลังฝนจะกลับมา
     
  11. ธรรมสถิต

    ธรรมสถิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,261
    ค่าพลัง:
    +15,736
    [​IMG]

    ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่าน
    บุญรักษาทุกท่าน
    --------------------
    คนไทยรักและสามัคคี ช่วยเหลือกัน
     
  12. หัสดี

    หัสดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +173
    ให้พากันเปล่งวาจากล่าวสรรรเสริญ ในพระคุณนามของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย

    พระบารมีของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย และพุทธคุณทั้งหลาย ด้วยสติกำหนดตั้งมั่น ไปกับการกล่าวสาธยาย

    จะกล่าวทั้ง 3 บท หรือบทใดบทหนึ่งในแต่ละวัน แต่ละเวลา ก็แล้วแต่

    การกล่าวสาธยายยาวๆ เพื่อให้จิตมีกำลัง แล้วจึงตั้งจิตอธิษฐานที่จะช่วย

    โดยอาศัยกำลังจิตนั้น แผ่กระแสไปด้วยความเมตตา กรุณา

     
  13. บดินทร์จ้า

    บดินทร์จ้า เจโตวิมุตติ-ปัญญาวิมุตติ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    493
    ค่าพลัง:
    +749
    ขอความร่วมมือจากพี่น้องชาวไทยและชาวพลังจิตทุกท่าน

    เมื่อคืนนี้วันที่ ๑๐ ตุลาคม ๕๔ ข้าพเจ้าได้ดึงผลบุญ ผลกุศลทั้งหมดของพี่น้องชาวไทยทั่วประเทศ ให้มารวมกันจนเป็น
    พลังบุญ มหาศาล แล้วส่งมอบถวายแด่พระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ เจ้า พร้อมทั้งขอบารมีพระพุทธองค์ และพระโพธิสัตว์เจ้า
    ช่วยส่งผลบุญเหล่านี้ ให้กับเทพเจ้า ผู้ปกปักรักษา ผืนแผ่นดินไทย ให้มีบารมีมากๆ เพื่อช่วยปัดเป่าทุกข์ ภัย ที่เกิดจากภัยธรรมชาติ
    ณ. เวลานี้ ปรากฏ ว่าในขณะที่ส่งมอบนั้น อาการปิติ ขนลุก ขนตั้ง ได้กระจายไปทั่วร่างกาย อย่างมากมายมหาศาล ซึ่งไม่เคยปรากฏ
    มีมากเช่นนี้ มาก่อน จากนั้น ก็ทำให้ข้าพเจ้าได้รับทราบเรื่องราวเหล่านี้ ด้วยกระแสจิต ส่งตรงมาที่ข้าพเจ้า

    เหตุแห่งภัยพิบัติ ช่วงเข้าพรรษาเป็นช่วงที่เหล่าเทพผู้มีฤทธิ์เดช และปกปักรักษาผืนแผ่นดินประเทศไทย ต่างพากันถือศีลกันหมด
    จึงขาดการป้องกันและปัดเป่าเภทภัยทางธรรมชาติ จึงเป็นช่วงที่เหมาะ และ ได้โอกาสเวลาที่เหมาะสม ของเหล่ารุกขเทวดา นางไม้
    ทั้งหลาย ต่างพากันรวมกลุ่มเป็นก้อนใหญ่ และมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ว่า
    เราจะทำให้เกิดภัยธรรมชาติ ต่อมนุษย์ กลุ่มนี้ ให้ได้รู้จักกับความพลัดพรากจากที่อยู่อาศัย และ ครอบครัวอันเป็นที่รัก โดยมิได้มุ่งหมาย
    ถึงขั้นทำให้คนกลุ่มใหญ่ถึงขั้นเสียชีวิต แต่ทำให้รู้สึกถึงการสูญเสีย เหมือนกับที่พวกเรานั้น พากันสูญเสีย บ้านเรือนอันเป็นป่าไม้
    ทำให้พวกเราทั้งหลาย ไม่มีที่อยู่ ที่อาศัยกัน ทำให้พวกเราต้องพากันพลัดพราก จากครอบครัวอันเป็นที่รัก เช่นเดียวกันกับเรา

    วิธีแก้กรรมให้เบาบางลง ให้พี่น้องชาวไทยทั้งหลายผู้มีจิตใจดี น้ำใจอันงาม อุทิศผลบุญ ผลกุศล ผลทาน ที่ได้ทำกันมาดีแล้ว จากการบริจาคเงิน
    บริจาคสิ่งของ บริจาคอาหารแห้ง และ จากการ อุทิศแรงกาย แรงใจอันบริสุทธิ์ ช่วยเหลือเพื่อนพี่น้องชาวไทย อุทิศผลบุญให้แก่เหล่ารุกขเทวดา
    เหล่าเทพาอารักษ์ เหล่านางไม้ ทั้งหลาย ที่ประสบกับความทุกข์ ยาก ให้เขาเหล่านั้นมีความสุข และขอให้มีวิมานอันเป็นทิพย์ ไว้อยู่อาศัย

    วิธีอุทิศผลบุญที่มีกำลัง ขอให้พี่น้องชาวไทยผู้รับทราบข่าวสารให้รีบพากันบอกต่อ และ ให้รีบพากันนั่งสมาธิคนละประมาณ ๕ นาทีเป็นอย่างต่ำ ในเวลาใดก็ได้แล้วแต่จะสะดวก
    อุทิศผลบุญ ที่ได้เคยทำแล้ว หรือ กำลังทำอยู่ก็ดี อุทิศให้โดยตรงแก่ รุกขเทวดา เทพาอารักษ์ นางไม้ ที่ประสบทุกข์ยาก จากการที่มนุษย์ ตัดไม้ทำลายป่า จนไม่มีที่อยู่อาศัย
    ขอให้ รุกขเทวดา เทพาอารักษ์ นางไม้ เหล่านี้ จงมีแต่ความสุข และ มีวิมานอันเป็นทิพย์ ด้วยเทอญ

    หากพี่น้องชาวไทยร่วมแรงร่วมใจกันปฏิบัติตามที่กล่าว เป็นจำนวนมากๆแล้ว ข้าพเจ้ามั่นใจได้ว่า จะทำให้องค์มหาโพธิสัตว์ และเหล่ามหาเทพทั้งหลาย
    จะ เสด็จลงมาช่วยปัดเป่าทุกข์ภัยของพี่น้องชาวไทยในขณะ นี้ ให้เบาบางลงได้แน่นอน ครับ(หลังออกพรรษาแล้ว)
     
  14. oon_dee

    oon_dee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +24
  15. Bussarin.K

    Bussarin.K เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    307
    ค่าพลัง:
    +326
    อนุโมทนาสาธุด้วยนะคะ
    ช่วยๆกันอธิษฐานนะคะ บุญของทุกๆท่านเท่านั้นที่จะช่วยให้วิกฤตนี้ผ่านพ้นไปได้ >_<
     
  16. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,142
    ค่าพลัง:
    +1,960
    โอม

    ขอความสงบสุข จงเกิดแก่ ผู้ที่ไม่มีกรรมที่เป็นต้นเป็นต้นเหตุเกี่ยวกับน้ำท่วมและลูกหลงเรื่องน้ำท่วมนี้ ขอลอดปลอดภัยด้วยเถิด

    ข้าพเจ้าทั้งหลายขออวยพร ส่วนผู้ที่มีเคราะห์และผู่ที่มีเกี่ยวกับน้ำท่วมหรือเป็นเหตุที่ทำให้น้ำท่วมในกาลก่อนเมื่อท่านทั้งหลายสำนึกแล้ว ขอให้ ท่านทั้งหลาย ขอให้ลอดปลอดภัยด้วยเถิด

    ขอความสงบจงเกิดแก่ผืนดิน

    ขอความสงบจงเกิดแก่ผืนน้ำ

    ขอความสงบจงเกิดแก่สรรพชีวิต

    โอม ศานติ ศานติ ศานติ
     
  17. แชมป์คุง

    แชมป์คุง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    212
    ค่าพลัง:
    +279
    อนุโมทนาสาธุการครับ ผมเองสวดมนต์ขอบารมีของพระรัตนตรัยและพระโพธิสัตว์กวนอิมและทุกๆพระองค์ขอให้ประเทศไทยพ้นภัยพิบัติ ผมสวด อาฏานาฏิยปริตร พาหุงมหากา และกรุณาเมตตาธรณีสูตร ช่วยๆกันน่ะครับ หลายร้อยแรงศรัทธา นำมาซึ่งปาฏิหาริย์แน่นอน
     
  18. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,612
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    วันนี้อธิษฐานแล้ว 1 ครั้งครับ สาธุ

    ช่วงนี้กรุงเทพ ฯ ฝนไม่ตกแล้ว 2 วันครับ
     
  19. Psych

    Psych สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 เมษายน 2011
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +0
    เชิญชวน

    เชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาในบวรพุทธศาสนา ร่วมงาน “ชินบัญชรอธิษฐานธรรม...คุ้มเกล้าชาวไทย” จึงขอเชิญชวนสาธุชนผู้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา ผู้รู้คุณในแผ่นดินไทย ผู้มีความกตัญญูต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ พึงพร้อมเพรียงกันในงานดังกล่าว ซึ่งจะมีการสวดบทชินบัญชร ๙ จบ เป็นพิเศษ เป็นทำนองมคธ ๓ จบ สังโยค ๓ จบ และสรภัญญะ ๓ จบ ครบสมบูรณ์ด้วยชินบัญชรอธิษฐาน เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์มหาราชา องค์มหาราชินีแห่งแผ่นดินไทย และเพื่อความสงบสุขของปวงชนชาวไทย... ในงานดังกล่าวมีการมอบหนังสือธรรมะที่สำคัญให้กับผู้มีศรัทธา โดยมี พระอาจารย์อารยะ อารยะวังโส นำเจริญพระพุทธมนต์และให้ธรรมเทศนา มีพระธรรมธีรราชมหามุนี เจ้าอาวาสวัดระฆังฯ เป็นประธานคณะสงฆ์ในพิธี ขอเชิญชวนสาธุชนเข้าร่วมงาน เพื่อความเป็นหนึ่งของพลังแผ่นดิน... สำหรับการจัดงานเจริญพระพุทธมนต์ สวดพระปริตร อธิษฐานจิตเพื่อแผ่นดินไทย ครั้งที่ ๓๓ นั้น คณะกรรมการจะจัดให้มีขึ้น ณ พระอุโบสถ วัดระฆังโฆสิตาราม ในวันปิยมหาราช ๒๓ ต.ค. ๒๕๕๔ ระหว่างเวลา ๐๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. อนุโมทนา...สาธุ...
     
  20. มุ่งสู่พระนิพพาน

    มุ่งสู่พระนิพพาน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +87
    ด้วยบุญที่ข้าพเจ้าได้ร่วมบุญทอดกฐินและปล่อยชีวิตสัตว์ให้พ้นจากการถูกฆ่าข้าพเจ้าขออุทิศบุญนั้นแก่หล่ารุกขเทวดา
    เหล่าเทพาอารักษ์ เหล่านางไม้ ทั้งหลาย ที่ประสบกับความทุกข์ ยาก ให้เขาเหล่านั้นมีความสุข และขอให้มีวิมานอันเป็นทิพย์ ไว้อยู่อาศัยและมีความสุขบารมียิ่งขึ้นตลอดไป
     

แชร์หน้านี้

Loading...