พักนี้เล่นfacebookเจอแต่พวกมิจฉาทิฐิ

เฮ้อ เจอแต่เพจไม่พึงประสงค์ทั้งนั้นผมเข้าไปเตือนพวกเค้าก็ไม่รับฟังแถมด่าผมอีก

ไม่รู้จะทำยังไงกับคนพวกนี้แล้วครับ.....

 

อุเบกขาค่ะ ตามที่หลวงพ่อสอน ขอให้เจริญในธรรมนะคะ เจริญแล้วมาสอนเราด้วยนะคะ แหะๆ

 

ถูกแล้วครับต้องใช้อุเบกขาการวางเฉยครับ
...หันหลังคืนฝั่ง พ้นจากทะเลทุกข์...

 

มารไม่มี บารมีก็ไม่แก่ ค่ะ

 

ผมไม่ได้เจอแค่ใน FB เจอตัวเป็นๆก็มี .. บางทีก็ทำตัวเป็นคนดีนะ ช่วยเหลือสังคม

แต่ก็ยังกินเหล้า แล้วก็ชอบนินทาคนอื่น อย่างนี้.. บางทีก็มาโพสต์ใน FB ประมาณว่า

รู้ธรรมมะ เหมือนจะเอามาเชือดเฉือนเพื่อเอาชนะ ... แต่เหมือนเขาว่าตัวเอง เมื่อผมสังเกตุ

ดูแล้ว.. ผมก็นึกในใจ ทำไมว่าตัวเองละนั่น... ยกตัวอย่างนะ เช่น ผมเคยเห็นเขาโพสต์

นะว่า คบคนพาลพาลพาไปหาผิด เพราะฉะนั้นควรเลือกคบคนที่สูงกว่า แต่ผมก็เห็น

เขา เข้ากลุ่มนินทาคนโน้นนี้ และกินเหล้า เหมือนเดิม... พอเจอผม ก็เหมือนไม่ค่อยชอบ

ผมจะเป็นคนนิ่งๆ ไม่พูดมาก ..... ผมใช้หลัก เมตตา กรุณา มุฑิตา คือเราเห็นคนผิด

ก็ตักเตือนก่อน.. ซึ่งผมก็เคยโพสต์ใน FB เหมือนกันเพื่อใช้เหตุผล แต่เขาก็จะ

ใช้แบบ เลี่ยงบาลี หรือเอาชนะ สุดท้าย ปัญญาไม่เกิด เราก็ต้องวางอุเบกขา

หลังๆ ผมก็จะนิ่งๆ เฉยๆ สงบของเราไป เวลาเจอใครพูด คิด ไม่ดี ก็ไม่สนใจ เข้าใจว่า

เป็นกรรม เป็นจิตของเขาที่หมัก มานาน... ก็พิจารณาตนเองดีกว่า ไปเพ่งคนอื่น

 

คนก็มีหลายประเภทค่ะ ทำไม่ได้หรอกที่จะให้ทุกคนดีเท่ากัน เลิกนินทาชาวบ้าน ยากค่ะ ปลงเถอะค่ะ

 

คุณ จขกท หมายถึงเพจหมิ่นหรือเปล่า ถ้าใช่ก็อย่าไปสนใจเลยค่ะ วางอุเบกขานะคะ เมื่อก่อนดิฉันเองก็เคยไปฉะกับพวกนี้มานิดหน่อยเหมือนกัน แต่ดูเหมือนพวกเขาก็ไม่ได้สนใจอ่ะค่ะ ของแบบนี้คงต้องปล่อยอะคะ เพราะถ้าเราไปตอบโต้ บางทีศีลที่เราพากเพียรรักษาก็ขาดไ้ด้เหมือนกัน ยังไงเรามาพูดคุยกันแต่สิ่งดีๆ กันดีกว่านะคะ แอดเป็นเพื่อนกันได้ค่ะ http://www.facebook.com/lekkii.malaikul ส่งข้อความบอกนิดนึงนะคะ ว่ามาจากเว็บพลังจิต จะได้กดรับค่ะ เพราะตอนนี้ ไม่ได้กดรับเพื่อนทุกคนแล้ว เพื่อนหลักพันแล้วหาคนลำบากค่ะ ถ้าไม่รังเกียจ แอดมานะคะ

 

ปล่อยไปเถอะ เค้าทำตามหน้าที่เค้า เราก็ไปตามหน้าที่เรา

 

ใช่ๆหลวงพ่อสอน อย่าไปจนใจจริตคนอื่นค่ะ ให้เอาเวลามาปฏิบัติตัวของเราดีกว่า ก็พยายามกันไปอะคะ ทุกวันนี้เราพยายามอยู่เพราะเพิ่งมาปฏิบัติและอ่านหนังสือของหลวงพ่อ คือตายขอไปพระนิพพานไม่ได้ก็ขอโสดาบันค่ะ ได้ไม่ได้ไม่รู้ตั้งใจไว้ก่อนค่ะ

 

แนะนำว่าอย่าไปเล่น ครับ

คนเลว คนพาล อยู่ให้ห่างเท่าไหร่ ยิ่งเป็นการดีเท่านั้น
เข้าไปเล่นแล้ว ไม่ได้ประโยชน์ จะเสียเวลาทำไม

 

ผมไม่ยุ่งไม่ได้หรอกครับ เพราะ คนในกลุ่มนั้นอาจจะมีบางคนที่ยังสามารถสั่งสอนได้ เราต้องชี้ทางสว่างให้ ส่วนพวกเค้าจะเดินตามทางที่แนะนำหรือไม่ก็แล้วแต่คนพวกนั้น

 

เจอเช่นกันครับ...ปล่อยวาง

 

นึกถึงคำสอนครูอาจารย์ ท่านสอนว่า

คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล ผมเริ่มเข้าใจแล้วว่า ทำไมบางยุคของพระพุทธเจ้า จึงต้องมีแต่คนดี เพราะคนเลวนั้น ก็เลวได้ใจจริงๆ จะเตือนจะอธิบายไรไป มันยากยิ่งที่เขาจะรับฟังและพิจารณา คิดถึงคำสอนของท่านพ่อพระอินทร์อีก ท่านบอกว่า จะสงเคราะห์ใครก็สงเคราะห์คนที่เราควรสงเคราะห์และสงเคราะห์เขาได้จริง สุดท้าย พรหมวิหาร 4 น่าจะดีที่สุดในยุคนี้

 

ระวังอีกเรื่องนึงครับ

ระวังคนที่มีวาจาดีหน้าเชื่อถือใช้เล่ทางวาจามาครอบงำเรา อันนี้อันตรายมากเพราะเขาไม่ได้แสดงตัวออกมา เจอมาเยอะผมเห็นคนหลงเชื่อเยอะทั้งในเว็บและน้องเว็บ ถ้าจะเชื่ออะไรขอให้ใช้ปัญญาหน่อยนะครับอย่างเพิ่งหลงคำเยินยอหรือคำลวง

 

ตัวผมก็เหมือนกัน อยากจะช่วยเพื่อนผม พอผมจะแสดงธรรม เค้าก็มาด่าผมสะงั้น
ก็เข้าใจเลยว่า ทําไมพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปักเจกพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ พระอริยะทั้งหลาย ท่านรู้ธรรม แต่ท่านไม่อยากสอน เพราะคนแบบนี้ สอนไปเหนื่อยเปล่า สอนคนที่พอจะเข้าใจดีกว่า ตอนนั้นผมรู้สึกท้อ แต่ก็อุเบกขา ให้เค้าเป็นไปตามกรรมสักวันเค้าก็คงจะสํานึกผิดเอง

อ่อ จะเตือนอีกเรื่อง เวลาจะเชื่อใคร หรืออะไรก็ตาม ขอให้ท่านพิจาณา ไม่ใช่ทําตามกันมาโดยไม่มีสาเหตุ ต้องพิจาณา ตามความธรรมดาด้วยนะครับ

อ่อ ขอเตือนอีกนิดหนึ่ง ผู้ใดรู้ธรรม แล้วไปเชือดเฉือน รู้ธรรมแล้วเจตนา จะเอาชนะให้ได้

ผู้นั้นตายไปย่อม ไปอบายภูมิ และผู้ใดรู้ธรรมแล้ว เจตนา คือ จะสอน ให้หลุดพ้น เป็นกัลยานิมิตรที่ดี ผู้นั้นตายไปย่อมเป็นเพื่อนของเหล่า พรหม เทวดา ดีไม่ดี ได้เจอพระพุทธเจ้า หรือพระอริยเจ้า ได้ ฟังธรรม และบรรลุอรหันต์ตอนนั้นเลย ประเสริฐยิ่งหนัก

 

เค้าก็อยู่ของเขา เราก็อยู่ของเรา...ทุกคนต่างมีกรรมเป็นธรรมดาเฉพาะตนอยู่แล้ว

ถ้าคิดว่าเราไปสั่งสอนเค้าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ย่อมมีกรรมผูกมัดกับเค้า

อย่างน้อยๆก็เกิดความขุ่นข้องหมองใจ...จะทำไปทำไม???

 

กรรมอยู่เหนือเหตุผลทั้งปวง...เค้าทำสิ่งใด ผลแห่งกรรมนั้นไม่ว่าดีหรือชั่ว

เค้าต้องเป็นผุ้รับเองอยู่แล้ว

เราจะทำเรื่องธรรมดาของเค้า(ความเป็นอยู่ของเขา)

ให้เป็นเรื่องไม่ธรรมดาของเรา(อารมณ์ที่วิ่งเข้ามากระทบดวงจิตและวิบากกรรมต่อกัน)ไปทำไม

ทำแล้วก็ไม่ใช่ว่าจะทำให้ความธรรมดาของเค้าหายได้ ทำแล้วมีแต่จะสร้างกรรมเพิ่มต่อกัน

สู้เอาสภาวะธรรมของเค้ามาเป้นตัวศึกษาให้เรารู้จักความเลวในตัวเราไม่ดีกว่าหรือ

เพราะถ้าไม่ทำแบบนี้...

...แล้วจะพ้นทุกข์ได้ยังไง??? หืม...

 

ในโลกนี้ มีหลายอย่างที่มันน่ากลัว ที่สำคัญ กลัวใจเราจริงๆ จะมีไหมที่สักวัน เราจะเป็นพวกมิจฉาทิฐฐิ หากพยายามอยู่ในศีลห้าอย่างเคร่งครัด จะเพียงพอต่อการรักษาจิตใจตนให้เป็นสัมมาทิฐฐิหรือป่าว

 

เป็นเรื่องยากจริงๆครับ ท่านพระยา โดยเฉพาะยุคนี้สมัยนี้ ไตรลักษณ์กำลังแสดงตนให้เห็นอย่างชัดเจน เกิดขึ้น ตั้งขึ้นในท่ามกลาง และดับไปในท้ายที่สุด พลุหลากสีสรรค์สวยงามส่องสว่างยามเริ่มแสดง และยามเมื่อขึ้นสูงสุด หมดกำลังขับ ก็ต้องดับสลายมืดมน สุดท้ายก็ต้องตกลงมายังจุดต่ำสุด แต่ถึงแม้กระนั้นกฏแห่งกรรมยังคงหมุนเวียนต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด

 

การอบรมสั่งสอนลูกหลานคนอื่น
บางทีไม่ค่อยกล้าน่ะค่ะ เกรงใจ มันจะเสียมารยาท
ต้องให้พ่อแม่ ครูบาร์อาจารย์ ที่เขาเคารพ เป็นผู้สอน
คนอื่นที่เขาไม่เคารพ มาสอน เค้าจะเชื่อได้อย่างใดน่ะ แถมด่าให้อีก บาปกรรม กรณีที่คนสอนเป็นคนดี ไอ้คนด่า ก็บาป เป็นการเพิ่มบาปให้เขาอีก

ตถาคตจึงตรัสว่า
ตถาคตย่อมไม่กระหายศิษย์ แต่ศิษย์ย่อมกระหายศาสดา

ทั้งกาลแสดงธรรม ต้องมีกาลเทศะ จึงจะให้ผลดีมีประโยชน์

แล้วสงสัย เฟซบุ๊ค ไม่ได้แอดแต่เพื่อนฝูงญาติมิตร หรอกรึ เหตุใดไปแอดแต่มิจฉาทิฐิล่ะ