**ขอผู้มีคุณธรรม/ปัญญาทางธรรม**(ตอบด่วน)

ท่านมีความคิดเห็นหรือจะแนะนำอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องของความคิด ระหว่างบุคคล 2 ประเภทนี้...
1.บุคคลที่ไม่ได้ฝึกฝนทางจิตมาก่อน (ไม่เคยทำสมาธิเลยหรือทำแต่ไม่สำเร็จ)
2.บุคคลที่ได้รับฝึกฝนทางจิตมาดีแล้ว (ผู้มีดวงตาเห็นธรรม)
เพื่อเป็นประโยชน์และเพื่ออนุเคาะห์แก่หมู่ชนรุ่นหลัง(เยาวชน) หรือปุถุชนที่ยังมีความคิดผิดๆหรือไม่รู้จริง(อวิชชา/มิจฉาทิฎฐิ) เป็นต้น
ปกติหรือทุกวันนี้เราก็ล้วนมีแต่ความทุกข์ด้วยกันอยู่แล้ว
โดยเฉพาะเป็นทุกข์เรื่องภัยพิบัติ ทุกคนต่างก็รับข่าวสารกันทั่วไป มีทั้งจริงและไม่จริง
แถมยังมีหมอดูทายทักว่าจะมีเขื่อนใหญ่ 2เขื่อนจะแตกและบวกกับเรื่องการเมืองที่ยังร้อนระอุ(ความคิดแตกต่างได้ แต่อย่าแตกแยกกันเลย)
ได้โปรดขอความแนะนำจากผู้ที่มีคุณธรรม ช่วยชี้แจงแถลงไขให้กระจ่างด้วยเถิด เพราะสภาวะจิตใจถึงขีดตกต่ำแล้ว(โดยเฉพาะคนไทย)
และขอสงวนสิทธิ์ตอบเฉพาะผู้รู้ธรรมะจริงๆ(ปัญญาทางธรรม)
ขออนุโมทนา...

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=40eSx1ArwOo&feature=related]คาราวาน ถั่งโถมโหมแรงไฟ - YouTube[/ame]

 

คำตอบนั้นท่านย่อมรู้อยู่แก่ใจจะถามใครไปใย

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=yNtn2QP3Cjk]Live and learn-บอย โกสิยพงษ์ - YouTube[/ame]

 

ในบางเรื่องต้องวางอุเบกขาค่ะ พระพุทธองค์ก็เคยทรงกล่าวไว้ถึงบัวสี่เหล่า
จะเคยฝึกจิตมาหรือไม่ ไม่สำคัญ ผู้ที่อยู่ในหมู่ของบัวในตม แม้แต่พระพุทธเจ้าก็ทรงเดินผ่านไป ไม่แสดงธรรม เพราะแสดงธรรมไปนอกจากไม่เกิดผลดียังสร้างบาปอันหนักแก่ผู้นั้นด้วย...

มันเป็นกรรมของประเทศ ไม่สามารถแก้ไขได้ที่ปลูกฝังกันมาขนาดนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดเพิ่งเป็น..

หนทางแก้ต้องรู้จักปล่อยวางที่ใจตน เลิกยึดมั่นถือมั่น ในตัวตนและสมบัติ หากวางไม่ได้ต้องจัดการให้ดี จนไม่เป็นห่วงนั้นเองจึง วางใจลงได้..(ถูกมั้ย)

คนไทยเราดีอย่างนึงที่ใต้สำนึกเราถูกฝังไว้โดยอัตโนมัติว่า หากทุกข์มากจะเข้าหาธรรมะได้เอง...

ขอให้รอดปลอดภัยได้ทุกๆท่าน ค่ะ สาธุ...

 

อำนาจรัฐจะได้มาด้วยกระบอกปืน
ปืนต่อปืนมันยิงมาเรายิงไป
ติดอาวุธความคิดพิชิตศึก
สร้างสำนึกปลดปล่อยและปลุกใจ
ปฏิวัติโค่นล้มสังคมแบบเก่า
ปฏิวัติเพื่อเราประชาชาติไทย
มาร่วมกันดันกงล้อประวัติศาสตร์
สู่เอกราชจริงแท้และสดใส
จับอาวุธถั่งโถมโหมแรงไฟ
เพื่อก้าวไปสู่สังคมอุดมการณ์

ขอสดุดี

 

ผมเป็นผู้มีสมาธิน้อย ปัญญาน้อย แต่พยายามคิดดี พูดดี ทำดี และหัดปล่อยวางทุกวัน เมื่อถึงเวลาจริง ๆ ไปละ...........

 

หลักความเชื่อ ๑๐

หลักนี้มีที่มาใน กาลามสูตร และสูตรอื่นๆ ที่ตรัสไว้สำหรับให้ทุกคน มีความเชื่อในเหตุผลของตนเอง ในเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นว่า สิ่งที่มีผู้นำมากล่าวหรือสั่งสอนนั้น ตนควรจะเชื่อถือเพียงไร หรือไม่ มีผู้ไปทูลถามว่า เขาได้รับความลำบากใจ ในการที่สมณะพราหมณ์พวกหนึ่ง ก็สอนไปอย่างหนึ่ง สมณะพราหมณ์พวกอื่น ก็สอนไปอย่างอื่น หลายพวกหลายอย่างด้วยกัน จนไม่รู้ว่า จะเชื่อใครดี ในที่สุด พระองค์ ตรัสหลักสำหรับ ทำความเชื่อแก่คนพวกนั้น มีใจความว่า

๑. มา อนุสฺสาเวน อย่าเชื่อโดยฟังตามกันมา
๒. มา ปรมฺปราย อย่าเชื่อโดยเหตุสักว่าตามสืบๆ กันมา
๓. มา อิติ กิราย อย่าเชื่อโดยตื่นข่าว
๔. มา ปิฎกสัมฺปทาเนน อย่าเชื่อโดยอ้างปิฎก
๕. มา ตกฺกเหตุ อย่าเชื่อโดยนึกเดาเอาเอง
๖. มา นยเหตุ อย่าเชื่อโดยคาดคะเน
๗. มา อาการปริวิตกฺเกน อย่าเชื่อโดยการตรึกตรองตามอาการ
๘. มา ทิฎฐินิชฺฌานกฺขนกฺขนฺติยา อย่าเชื่อโดยเห็นว่าถูกตามลัทธิของตน
๙. มา ภพฺพรูปตาย อย่าเชื่อโดยเห็นว่า ผู้พูดควรเชื่อได้
๑๐. มา สมโฌ โน ครุ อย่าเชื่อโดยถือว่า สมณะนี้เป็นครูของเรา
​

 

แมงมุม อยุ่ไหน แมงมุมอยู่ไหน อยู่นี่จ๊ะ อยู่นี่จ๊ะ สุขสบายกันดีหรือไร สุขสบายกันดีหรือไร ไปก่อนนะ สวัสดี

 

สิ่งที่ดีพึ่งกระทำ
สิ่งที่ชั่วพึ่งหลีกเลี่ยง
เพียรทำใจให้บริสุทธิ์
นี่คือทั้งหมดของคำสอน
ของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์

 

เฮ้ โจรรรรร............

 

เฮ้ย! อย่าซ่าส์มากนัก.

 

กฎแห่งจักรวาล สิ่งที่เหมือนกันย่อมดึงดูดกัน
ฉะนั้นการมองโลกด้วยความคิดในแง่บวก ย่อมให้ผลกำไรเป็นอันมาก
(ใครที่กำลังคิดชั่ว จงเปลี่ยนใจซ่ะ)

 

อันนี้ขึ้นอยู่กับใจคนครับ ผมเปลี่ยนตัวผมเองได้ ผมมี 2 คนในร่างเดียวขัดแย้ง แต่ฝ่ายดีชนะเช่นเวลาเห็นสาวสวย ๆ จิตนึงจะคิดทันทีเห็นภาพผู้หญิงคนนั้นนอนกับผมบนเตียง ผมเป็นเจ้าของเขาผมมีความสุขมาก ๆ อีกจิตสวนมาทันที ท่านหลงกิเลสแล้วท่านเชื่อในคำสอนแห่งพุทธองค์ไม่ใช่หรือ นรกนะท่าน ท่านจะตกต่ำถ้าท่านไปอยู่กับผู้หญิงคนนั้นขาจะปอกลอกท่านจนหมดตัว แถมติดโรคเพราะสำส่อน ชีวิตจะไม่เหลืออะไร ท่านปฏิบัติดีมาตลอดจะหวนกลับสู้นรกภูมิหรือ เท่านั้นเองครับภาพพระพุทธเจ้าก็ปรากฏขึ้น ไอ้ตัวกิเลสหายไปทันที

 

คุณครู ใจดีๆ เหนื่อยมั้ย? กับภารกิจ ที่ได้รับมอบหมาย?

 

การที่ คนทุกคน ได้รับ ได้เจอ ได้พบ กับ สถานการณ์เช่นนี้ มันเป็นเรื่องปกติธรรมดา ที่สัตว์โลก ย่อมได้ พบเจอ

เช่น การที่ มีคนสองคน หรือ คนสองฝ่าย หรือ คนหลายฝ่าย ใน สังคม ในประเทศ ในเมือง ในโลก เกิด ทะเลาะกัน วิวาทกัน ชังกัน ไม่รักกัน....แล้วพอ มี ศรัตรูอื่นที่ใหญ่กว่า เก่งกว่า แข็งแรงกว่า เข้ามา รังควาญ เข้ามาหวัง ยึด

ก็จะทำให้ สองฝ่ายที่กำลังทะเลาะกันอยู่ จะหยุดทะเลาะกัน หันหน้าเข้ามาสามัคคีกัน ร่วมมือกัน เพื่อ ร่วมกันต่อต้าน อริศรัตรูภายนอก โดย อัตโนมัติ

เป็นการ ปกป้อง ป้องกันตัวเอง ของ สัตว์โลก โดยทั่วไป

ดังคำขวัญที่ใครก้อไม่รู้ ตั้งขึ้นมาว่า...ยามศึกเราร่วมกันรบ ยามสงบเรา ทะเลาะเบาะแว้งกันเอง....นั่นเพราะ เมืองที่รวมนักรบ เมืองที่รวมคนเก่ง เมืองที่รวมผู้ทรงปัญญา....ก็เป็นเช่นนี้เองครับ พอบ้านเมืองเกิดเรื่องก็ร่วมใจกัน แสดงฝีมือ ปกป้อง บ้านเมือง ร่วมกัน

แต่พอ สงบศึก ภายนอก ก็ มาเริ่ม ศึกภายในกันเอง คือ ชิงดีชิงเด่นกัน

ดังนั้น การที่ ต้อง มา ร่วมกัน ตกระกำลำบาก ร่วม ชะตากรรม ที่ ต้อง พบกับภัยพิบัติร่วมกัน มันคือ ...กลวิธีของธรรมชาติ ที่ จะทำให้ ทุกคน หันหน้า มา รักกัน ...สามัคคีกัน นั่นเอง

 

เนียนมั่กมาก ขอคารวะ..