ความเชื่อผิดๆ ในภาวะน้ำท่วม

ธรรมชาติของพื้นที่มันก็ท่วมของมันมาเรื่อย ๆ แหละครับ ไม่ว่าจะเป็นอยูธยา ปทุมธา่นีั หรือกรุงเทพ แต่ที่หลัง ๆ มานี่ กทม.ไม่ท่วมเพราะเขาทำระบบกั้นไว้ และก็กันกันตั้งแต่ต้นน้ำจนที่อื่นๆ เสียหายมาตลอดหลาย ๆ ปีมาแล้ว ปีนี้ไม่ไหวก็ต้องโดนท่วมบ้างตามธรรมชาติ

ึึคนบางคนโชคดีเกิดมาในช่วงที่ธรรมชาติหรือภัยพิบัติไม่โหดร้าย ก็สบายไป
คนบางคนโชคไม่ดีเกิดมาในช่วงที่มีภัยพิบัติตามธรรมชาติ หรือมนุษย์ภัยมาก ก็ได้รับความลำบากตามสถานะการณ์นั้น ๆ

ชีวิตมนุษย์สั้นมาก ๆ เมื่อเทียบกับวัฏจักรตามธรรมชาติของโลก การเรียนรู้ของมนุษย์ก็เพื่อทำให้ชีวิตที่มีความลำบาก ทนทุกข์ทรมานลดน้อยลงให้น้อยเท่าที่จะทำได้ทั้งทางกายภาพ และทางด้านจิตใจ

ขอโชคดีจงมีแก่ทุกท่าน ขอจงตั้งสติดูตนเองเพราะทุกสิ่งทุกอย่างล้วนออกมาจากตัวของท่านเองทั้งสิ้น

 

เป็นคำเตือนที่ดีมาก...คนยึดติดในโลกทุนนิยม...ไม่เคยละวางอะไรสุดท้ายตายไป ก็เอาอะไรไปไม่ได้...แถมตอนตายก็ทรมาน...หลังตายแล้วจะทรมานยิ่งกว่า

 

ตั่งอยู่ในความไม่ประมาณ...............

 

เห็นด้วยกับคุณWimut

 

หนีกรรมไม่พ้นหรอก ถ้าจะโดน อยู่ที่ไหนก็โดนอยู่ดี

 

ขออนุญาติแชร์ครับ

 

เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ส่วนมากจะห่วงบ้าน ห่วงของ ไม่อยากไปใหน

ต้องเห็นใจทางเจ้าหน้าที่ด้วยค่ะ เพราะเค้ารู้ว่ามีประชาชนติดอยู่ ไม่ย้ายออก เค้าก็ต้องเทียวไปมาเพื่อดูความเรียบร้อย เผื่อต้องการความช่วยเหลือ ตอนนี้กำลังเจ้าหน้าที่ก็แทบจะไม่พอกันแล้ว ถ้าเราไปอยู่รวมกันในที่เค้าจัดไว้ให้ จะแบ่งเบาภาระไปได้เยอะเลย สงสารเจ้าหน้าที่ค่ะ เี๋ดี๋ยวตอนน้ำลด ก็ต้องเก็บกวาด บูรณะ อีกเยอะ ตอนนี้อะไรแบ่งเบาได้ก็ช่วยกันไปก่อนนะคะ

โดยส่วนตัวคิดว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องกลัวตายหรอกค่ะ แต่เราควรทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม ในภาวะวิกฤตแบบนี้ จะได้ปกครองดูแลความเรียบร้อยได้สะดวกขึ้นค่ะ

ขอให้ปลอดภัยทุกคน

 

สุดยอดครับ
ที่ผ่านมาบ้านผมยังไม่เคยน้ำท่วม ก็เลยนึกว่าที่กรุงเทพ คงไม่หนักเท่าไหร่มั้ง

แต่พอมาอ่านข้อความของคุณ แล้วลองคิดดู ตรงทุกอย่าง


ถ้าหากว่าอะไรมันจะเกิดจริง บุญได้ที่ได้เคยกระทำมา ขอให้ดลบันดาล

ขอให้ผมมีสติ คิดทุกสิ่งจนรอบคอบ มีสติ มีความเป็น มนุษย์ จนวินาทีสุดท้ายด้วยเทอญ

 

อย่างที่เจ้าของกระทู้ลงไว้ก็ถูกนะครับผมว่าควรอพยพเด็กและคนแก่ผู้ที่เจ็บป่วยมายังพื้นที่ที่ปลอดภัยเพราะเกิดอุทกภัยรุนแรงขึ้นที่ผมเห็นบ้านหลายหลังก่ออิฐฉาบปูนป้องกันไม่อยู่เลยครับพอน้ำแรงมากกำแพงที่ก่อไว้ก็ล้มลงมาและพอจะต้องอพยพจริงน้ำแรงมากอพยพลำบากมากเลยครับบางบ้านต้องทุบกำแพงที่กันไว้สูงถึงจะออกมาได้

 

คนที่อพยพไปแล้วขอแสดงความดีใจด้วยครับ ส่วนคนที่ยังอยู่ สู้ ๆ ครับ ผมก้ออยู่เหมือนกัน อะไรที่อ่าน ๆ แล้วทำให้บั่นทอนอย่าไปสนใจมันครับ

 

ถ้าสัญญาณโทรศัพท์และสัญญาณเน็ทยังมีให้ใช้อยู่ ผมแนะนำให้ลองหาซื้อ เครื่องชาร์ทโทรศัพท์แบบพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ครับ ผมเคยเปิดเจอ ลองเซิร์สดูนะครับ และวิทยุและมีไฟฉายในตัว แบบชาร์ทพลังงานแสงอาทิตย์หรือชาร์ทไฟด้วยการหมุนมือแบบไดนาโม ลองหาดูนะครับ น่าจะมีประโยชน์มากๆ

 

ดีมากเลยที่ตั้งกระทู้สร้างสรรค์แบบนี้ เป็นแนวทางให้คนอื่นๆ ผมเอาไปแชร์ให้คนอื่นๆอ่านแล้วครับ บอกตรงๆในสภาวะแบบนี้ ยังมีบางพวก(เจ้าเก่า)ตั้งกระทู้ทำให้คนสับสน ไม่ขอพูดถึงรู้ๆกันอยู่ นอกจากบิดเบือนคำสอนพระพุทธเจ้าแล้วยังสร้างความแตกแยกในสังคมด้วยความคิดไม่สร้างสรรค์ทางการเมือง เป็นร่างทรง user เดิม แต่สมัครใหม่

 

ผมอยู่ในเมืองพิษณุโลกนะ เคยไปบ้านเพื่อนที่บางระกำน้ำท่วมถึงชั้นสองทุกปี ถามเพื่อนว่าทำไมไม่ย้ายออกมาอยู่ที่สูงๆ เพื่อนบอกไม่เป็นไรทนได้ชิ ตูอึดอยู่แล้ว

ทำเอาผมนึกถึงคำสอนของหลวงปู่ชา เลยบอกเพื่อนว่าตอนขับรถเข้ามาหน้าหมู่บ้านเห็น วัวกับควายอยู่บนถนนเยอะเลย แสดงว่ามันไม่อึดเท่าเอ็ง แต่มันฉลาด ผลคือมันไล่เตะผมฮ่าๆ

 

อย่าต่อกรรม ให้ตัดกรรม
ถ้าอยากจะไปนิพพาน@ในชาตินี้
เห็นทุกอย่างให้เป็น
*****เรื่องธรรมด<WBR>า*****​

♥♥♥ คำสอนสมเด็จองค์ปฐม ♥♥♥​

.​

 

มีสติตลอดสายและไม่ประมาทหรอกครับ

ตอนนี้พวกเราอยู่ในยุคที่อาจจะสบายด้วยเทคโนโลยีส่งเสริมสนับสนุนให้สะดวกสบาย

BACK TO BASIC ครับ

ดูสมัยก่อนอยุธยาเค้าก็มีหน้าน้ำหลากทุกปี พม่าเค้ายังรู้เลย งดทัพมาช่วงนี้

คนอยุธยา ไม่มีรถยนต์ แอร์ ตู้เย็น ทีวี อินเตอร์เนท ไวไฟ3G ไม่มีโทรศัพท์มือถือ
ไม่มีการประชุมแบบวิดีโอคอนเฟอเรนท์ ไม่มี Google map satellite

ทำไมเค้าอยู่กันได้ครับ อยู่มาเป็นร้อยๆปี

คนยุคนี้มันสบายกันเกินไปแล้ว ไม่รู้จักความลำบาก ไม่รู้จักความทุกข์

แค่แอร์ไม่ทำงาน โทรศัพท์แบตหมด อินเตอร์เนตเข้าไม่ได้ มันจะขาดใจตายกันหมด

ให้มันหนีกันเข้าไป มันก็จะหนีกันไปเรื่อยๆ จนไม่มีแผ่นดินจะอยู่....

ครั้นพุทธกาล องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ชำระล้างกองทัพขององค์พญามารด้ว<WBR>ยน้ำ จากพระแม่ธรณีบีบมวยผม
มาถึงกาลปัจจุบัน ก็เช่นเดียวกัน
น้ำจะชำระล้าง สิ่งที่เป็นอัปมงคล เพื่อเปิดรับสิ่งที่เป็นมงคลต่อไป


"เราจะผ่านพ้น วิกฤตินี้ไปด้วยกัน"

 

"ถั่วต้มที่สวด"ล้อเล่นครับ....ถูกต้องที่สุด ช่วงนี้เตรียมพร้อมทุกอย่างแล้วทั้งระบบไฟฟ้า น้ำดื่ม อาหาร เรือเร็ว น้ำมันเชื้อเพลิง ระบบสื่อสาร วิทยุสื่อสาร อาหารสัตว์ เพราะเชื่อคำเตือนพระคุณเจ้า ท่านได้บอกไว้ก่อนสามเดือนว่าจะเกิดภัยพิบัติขึ้นแต่ไม่รู้หรอกว่าจะเกิดอะไร และได้บอกกับทุกคนที่เจอ บองท่านก็เชื่อบางท่านก็ไม่เชื่อ เหมือนกับหลายๆท่าน ที่ไปบอกญาติพี่น้องหรือคนอื่นๆ แต่เราก็ยังยึดถือคำของพระคุณเจ้าที่ท่านบอกมาเสมอ และต่อนี้ต่อไปก็ยังไม่จบแค่นี้ยังมีต่ออีกแต่เราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไร ก็เตรียมตัวให้พร้อมล่ะกัน

 

ไม่คิดหนีไปใหน อยู่เผื่อว่า จะช่วยอะไรใครได้บ้าง

มีคนที่ตกค้างอีกมากมาย เมื่อตัดสินใจอยู่แล้ว พยายามไม่ให้เป็นภาระของใคร

เตรียมพร้อมสำหรับช่วยตัวเอง และให้พีพลังเหลือไปดูแลคนอื่นได้บ้าง

บทนี้ถือเป็นบททดสอบที่ยื่งใหญ่ ถ้าผ่านไปได้ เป็นการฝึกตัว และใจ

ให้อยู่ได้ ในสถาวะ ไม่มี ซึ่งแค่อย่างมาก 1-2 เดือนเท่านั้น

เพื่อ.....รับเหตุการณ์ครั้งใหญ่ ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า

 

เท่าที่สังเกตุ เหตุการณ์ครั้งนี้ เราจะเห็นได้ว่า ในภาวะคับขัน
มนุษย์ส่วนใหญ่ จะเห็นแก่ตัว มุ่งแต่เพื่อตัวเองทั้งนั้น
อาจจะแผ่มาบ้าง เฉพาะกับคนไกล้ชิด
คำพูดใดๆ ไม่ชัดเจนเหมือนการกระทำ
ภาวะวิกฤติอย่างนี้แหละ ตัวตนที่แท้จริง มันจะเปิดออกมา

 

ใครใคร่ย้าย ย้าย ใครใคร่อยู่ อยู่ครับ บังคับกันไม่ได้ อนาคตจะเป็นเครื่องชี้ว่าคิดถูกหรือผิด

 

วันนี้อยากเข้ามาครับขอแสดงความคิดเห็นไม่ใช่อยากดังอยากเอาประสพการมาเล่าบ้าง ให้เอาไปใช้ ในคราวจำเป็นถ้ามีประโยชน์ ถ้าไม่มีประโยชน์ ก็ทิ้งมันไป แต่ไม่ได้เข้ามาดูที่ต่างๆเกือบสองเดือน จริยธรรมศิลธรรมเท่านั้นที่จะให้คนทุกคนเบาบางจากภัยภิบัติต่างๆได้ มากบ้างน้อยบ้างตามวิบากกรรม ที่ตนทำมาต่างหาก (ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตนก่อนๆที่จะให้บุคคลอื่นมาช่วยเราครับ) ต้องดูเหตุการณ์สถานะการที่ภัยมาแล้วใช้สติปัญญาคิดหาทางเอาตัวรอด ทั้งที่อยู่และพวกที่จะออกจากพื้นที่เพราะทุกคนมีที่อยู่ไม่เสมอกัน คุยกันเป็นวันที่เคยพอมีประสพการ จริงอยู่บ้างไม่หมดหรอกครับ ทุกคนมีเหตุและผลต่างกัน แต่ใคร จะรู้เหตุจริงและประสพมามากกว่ากันเท่านั้นเอง คิดสฎี มันรู้ไม่เท่าประสพการจริงไม่ได้หรอกครับ คิดสฎีการเรียนรู้ ก็ไม่เท่า การปฏิบัติจริง และเรียนรู้ ไปพร้อมกัน มันจะสอนเราได้เป็นอย่างดี น้ำมาเราเตรียมการที่จะอยู่กับมัน ให้เดือดร้อนน้อยที่สุด หาอาหาร ไว้ล่วงหน้า เป๋นเดือนหรือหลายเดือน เผื่อไฟดับ ก่อนที่จะโกลาหล เหมือนทุกวัน เตาแก๊ส ถังใหญ่ ใช้ได้ถึง เกือบสองเดือน เราพร้อมสับ ไฟไม่มี หามาไว้ มาไม่ถึงเราก็ไม่เสียหายอะไร ถ้ายังไม่มีใครมาช่วยเหลือเรามี น้ำถ้าทางการหรือผู้บริจาค มาไม่ถึง ผมไม่จำเป็นต้องอธิบายละเอียดทุกคนมีปัญญาอยู่แล้ว ( ที่จะคิดวางแผน ถ้ามันไม่มี น้ำ ให้เอาน้ำที่มาต้มกินเพื่อรักษาชีวิตรอด จะสอาดกว่าน้ำปะปา ถ้าน้ำมันมา เป็นอาทิตย์ แล้ว เนี่ย มันจะไล่น้ำสกปรก ออกไปน้ำจะสอาดขึ้นดีกว่าน้ำที่ทางการก็เอามากรองให้พวกเราใช้เหมือนกัน บ้านสองชั้น ให้เตรียมการ ขนของขึ้นไว้ ความปลอดภัยและเสียหายจะเกิดกับเราน้อยมาก บ้านชั้นเดียวขนของก่อนที่น้ำจะมาถึง ไปอยู่ที่อื่น ถ้าไม่มีที่ไป เอาเตียงไม้มาหนุนเท่าที่จะทำได้ แล้วอพยพไปอยู่ที่อื่นต่อไป ถ้าไม่ไหว เอาชีวิตรอดก่อนอื่น ทรัพย์สมบัติไม่ตายหาไหม่ได้อ่ะ ส้วมไม่มีไม่ต้องไปกังวล มีหลายวิธี แบบเจ๊กตันก็ได้ถ้าดูทีวีเอาตูดหย่อนลงน้ำก็ขี้ได้แล้ว ไม่งั้นก็ลงน้ำเบ่งขี้ลงไปในน้ำเสร็จก็ล้างไม่ต้องอธิบายนะ แก้งลงไปอาบน้ำถ้ากลัวคนเห็นหรืออาย โอ้ ใช้ได้หมด ไม่ต้องบอกวิธีเยอะ แยะ คนที่อยู่กับน้ำ เขามีวิธีของเขา มากมาย ให้คิดกันเอาเองบ้าง ( ผมน่ะอยากอธิบายมากมาย แต่เวลาผมไม่ค่อยมี และประสาทเริ่มช้าลง ด้วยกายเป็นเหตุ อย่าไปวิตกจนเกินเหตุ ใช้สติคิดเดี๋ยวมันก็คิดได้เองวางแผนออกมาได้ เหตุการมันสอนเราเอง ถ้าเตรียมการทีหลังทุกคนก็เห็นในทีวี ถ้าดูนะมันจะโกลาหลมากมาย เพราะคนเราประมาท ไม่ทำอะไรเลย ทางการเขากันไว้อย่างดีนึกว่าเอาอยู่ เลยชล่าใจ น้ำมาพังหมดแม้แต่ชีวิตยังจะไม่รอด นี่จริงๆ เขามีตัวอย่างให้เราดู ตั้งแต่นครสวรรค์ อุทัย ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา แตก และอีกหลายที่ ก็ไม่จำ ไม่ดู ปล่อยให้มันเสียหาย อีกมากมาย บางอย่างที่คุณอธิบายมา ถ้าแผนแรกไม่ได้ผล แผน 2-3-4-5 ก็ว่ากันไปตามเหตุการ จะรอ ให้ทางการมาช่วยเราอย่างเดียวมันไม่ถูกเรื่อง ถ้าคนป่วย หรือไม่มีญาติ ไม่ว่ากันครับ และผมก็ขอเป้นกำลังใจให้ทุกคน สู้ต่อไปเพื่อมีชีวิตสดใสและรอด จากความทุกยากเบาบางลง ไปตามวิบากของตน ทางที่ดี หันมาพึ่งพา จริยธรรมศิลธรรม จะช่วยทุกท่านได้ ไม่ว่าชาติ ไหนภาษาไหน ถ้าทุกคนยอมรับซึ่งกันและกัน ช่วยเผื่อแผ่กันตามกำลัง ไม่จำเป็น ต้องช่วยคนมาก หรือไม่ช่วยเลย เอาตัวไม่เป็นภาระคนอื่น เมื่อช่วยเราได้แล้ว ถ้าเรามีกำลัง จะสงเคราะผู้อื่นได้ก็ทำไม่ได้ ก็วางภาระอันนั้น ลง ก็จะเดือดร้อนน้อยลงไปตามลำดับ พูดกันเป็นวันก็ไม่จบครับขอบคุณครับ สิ่งใดไม่ชอบใจก็ต้องขออภัยด้วยสวัสดี