พอใจรูม

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย ppojai, 3 ตุลาคม 2010.

  1. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,905
    ค่าพลัง:
    +16,489
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    วิ๊ดดดดดดดดด วิ๊ววววววววววววววว ตัวครายยยยยย ตัวมานนนน เน้อ ๆ ๆ
    หลบปายทำงานก่อนแย๊วววววววววววววววววววววว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 ตุลาคม 2011
  2. librarianstory

    librarianstory สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    347
    ค่าพลัง:
    +15
  3. librarianstory

    librarianstory สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    347
    ค่าพลัง:
    +15
    <EMBED height=360 type=application/x-shockwave-flash width=480 src=http://www.youtube.com/v/RHjo07i7ICs?version=3&hl=th_TH&rel=0 allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always">

    [​IMG]
    </EMBED>
     
  4. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,905
    ค่าพลัง:
    +16,489
    ใจสั่งมา - เสก โลโซ</PRE>
    Intro : G / C (2times)


    G C
    หากว่าเธอผ่านมาได้ยิน เพลงนี้
    G D
    คาดว่าเธอก็คงรู้ดีว่าเป็นฉัน
    C
    มอบให้เธอคนเดียว
    Bm Em
    อาจไม่เกี่ยวแต่สำคัญ
    Am C D
    เพราะฉันนั้นอยากให้เธอได้ฟัง

    G
    ที่เฝ้าแต่โทร
    C
    โทรไปหาเธอเรื่อยเปื่อย
    G D
    เหนื่อยก็ยอมก็ใจชอบเธอไม่เบา
    C
    แต่ใจเจ้ากรรมไม่รู้เลย
    Bm Em
    ว่าเธอไม่ชอบเรา
    Am D G/G7
    ไม่สน และไม่เอา ไม่อยากคุย

    Am D
    * ก็เลยมาร้องเพลงบอก
    Bm Em
    แค่อยากให้เธอนั้นเข้าใจ
    Am D G/G7
    ไอ้สิ่งที่ฉันทำลงไป ใจสั่งมา
    Am D
    อย่าโกรธเลยนะคนดี
    Bm Em
    ยกโทษให้ฉันนะแก้วตา
    Am D G/D
    คราวหลังจะไม่มา จะไม่โทร

    Instru : G / C / G / D / C / Bm / Em / Am / D / G / G7

    ( ซ้ำ * )

    G C
    แหละสุดท้ายที่ในหัวใจ มันร่ำร้อง
    G D
    อยากจะมองจะมองหน้าเธอ อีกสักที
    C Bm
    ก่อนจะลาเธอไป คนใจดำหน้าตาดี
    Am D G
    ขอโทษเธอสักทีจากหัวใจ
    C Bm Em
    แหละมีหนึ่งคำ ที่ยังค้างข้างใน
    Am D G
    คำพูดลูกผู้ชาย ฉันชอบเธอ
    </PRE>
     
  5. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,905
    ค่าพลัง:
    +16,489
    :cool:ทำไมเรื่องบางเรื่อง คนบางแบบถึงเข้ามาในชีวิตคุณ ทำไมปัญหาบางอย่างจึงปรากฎขึ้นในชีวิต
    สิ่งที่ดูเหมือนปัญหา ที่จริงแล้วคือความปรารถนาดี ที่จะให้เราพัฒนาความเข้าใจบางอย่าง เพื่อพาชีวิตไปสู่ความสุข ความรัก ความสำเร็จ ในระดับที่ดียิ่งขึ้น ปัญหา เป็นเพียงสิ่งที่เรียกร้องความสนใจ ให้เราช่วยหันกลับมาดูแลมาใส่ใจ ภายในจิตใจตัวเอง สะสางความรู้สึกภายในบางอย่าง ที่เราอาจใช้ชีวิตโดยกลบเกลื่อนมันไป ด้วยงานหนัก กิจกรรมเยอะ เรื่องสนุกกินเวลา
    คำตอบทั้งหมดอยู่ที่ปมในใจของเราเอง ปัญหาต่างๆเข้ามาเพื่อตอกย้ำให้เราคลี่คลายสิ่งที่อยู่ในใจตัวเอง แม้บางเรื่องเราคิดว่าลืมไปแล้ว แต่ยังมีผลต่อกรอบการมองโลกและการกระทำความคิดของเราโดยไม่รู้ตัว เข็มทิศระบบจิตใต้สำนึก ที่ช่วยให้ผู้คนได้เปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนความท้าทายให้กลายเป็นความมั่นคง
    ................
    [​IMG]
     
  6. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,905
    ค่าพลัง:
    +16,489
    รักมันคืออะไรหละ ???

    ความรัก มีค่ามหาศาลเลยนะ
    ทุกวันนี้อยู่ได้ก็เพราะรัก รักที่มีต่อคุณแม่ ... แม่ที่แสนดี
    แม่ที่ไม่เคยเกลียดผม แม้ว่าผมแย่แค่ไหนก็ตาม
    ทุกวันนี้ผมตระหนักเสมอว่า "ผมมีชีวิตอยู่เพื่อแม่"
    เพราะผม รัก แม่

    รักคือความรู้สึก ... ที่อ่อนไหวนะผมว่า
    การที่คนสองคนจะก่อเกิดความรักซึ่งกันและกันได้ มันคงต้องใช้เวลา
    ค่อยๆ ก่อ ค่อยๆ สาน เป็นรูปร่าง
    แม้ว่ามันจะจับต้องไม่ได้ แต่มันก็สัมผัสได้ด้วยหัวใจ ... จริงมั้ยหล่ะ
    จึงไม่แปลกที่เราจะรู้สึกรักใคร ทั้งๆ ที่มันไม่มีเหตุผล ...
    เพราะว่ามันไม่มีรูปร่างนั่นเอง

    รักคุณพ่อคุณแม่ ... อันนี้ก็เป็นความสัมพันธ์ที่แน่นอนเราผูกพันกันมาตั้งแต่เกิด
    รักเพื่อน ... เพื่อนที่ร่วมสุขร่วมเสพ กันมา ห่วงใยช่วยเหลือ แน่นอนเรารัก
    รักคู่ชีวิต ... คนที่เราตามจีบ คนที่ตามจีบ คนที่โทรมาคุย คนที่เป็นห่วง
    คนที่ปลอบตอนเราทะเลาะกับเพื่อนหรือในยามที่เรามีปัญหา ... คนที่คิดว่าจะอยู่ร่วมชีวิตไปจนวันตาย

    การที่เรารู้สึกผูกพันกับใครสักคนหนึ่ง ... ก่อกำเนิดความรักขึ้นมามันไม่ผิดหรอก
    ไม่ว่าจะกับใคร เพศไหน อายุเท่าไหร่ ...

    หลายคนเถียงว่าความรักไม่จำเป็นต้องมีอะไรกัน
    ถ้าคุณคิดแบบนั้น ... ก็สามารถสะท้อนหน่วยก้านสมองของคุณได้อย่างดี
    ว่าในหัวคุณ ถ้าจะรักใครสักคนนอกเหนือไปจาก พ่อแม่ เพื่อน พี่-น้อง หรือ ญาติๆ

    มันจะต้องมีอะไรกันเสมอ ซึ่งในความเป็นจริง มันไม่ใช่ มันไม่เลย
    ผมว่าคุณก็น่าจะเคยแอบรักใครสักคน โดยที่แอบดูเค้าอยู่ห่างๆ
    แอบรักใครสักคน แอบห่วงใยเค้าห่างๆ
    แอบรักใครสักคน แอบใส่ใจเค้าห่างๆ
    เห็นมั้ย ไม่จำเป็นต้องมีอะไรกันเลย


    [​IMG]
     
  7. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,905
    ค่าพลัง:
    +16,489
    รากของชีวิต
    ผลลัพธ์ในชีวิตที่ปรากฎต่อสายตา ไม่ว่าจะเป็น นำ้หนักตัว คนรอบตัว รายได้ งาน ความสัมพันธ์ ไปจนถึงในระดับลึกซึ้ง เช่น ความสุข ความเคารพตัวเอง ความพึงพอใจในชีวิต มีจุดเริ่มต้น มีรากในจิตใต้สำนึก เหมือนภูเขานำ้แข็งใต้ทะเลที่เรามองไม่เห็นจนจมเรือไททานิคได้

    คุณอาจมีรายได้เท่านี้เพราะจิตใต้สำนึกของคุณอนุญาตให้ตัวเองทำได้แค่นี้
    คนป่วยเรื้อรังวิ่งรักษาทั่วโลกไม่หายเพราะจิตใต้สำนึกใช้การป่วยเป็นที่ซ่อนตัวให้ไม่ต้องส่งมอบผลงานในชีวิต วิ่งรักษาไปทั่วโลกก็ไม่หายจนกว่าจะรู้ตัว
    สามีที่หงุดหงิดไม่อยากพูดกับภรรยา ค้นพบในหลักสูตรจิตใต้สำนึกว่า เป็นเพราะความรู้สึกล้มเหลวในหน้าที่การงาน จนรู้สึกผิดที่ไม่สามารถทำหน้าที่ของสามี หรือดูแลภรรยาได้ไม่ดีพอ ทางการเงิน ความรู้สึก จนเลี่ยงไม่สนใจภรรยา ไม่ใช่เพราะภรรยาบกพร่องแต่อย่างใด และต้นเหตุของความคิดที่เป็นปัญหาเกิดตั้งแต่ตอนอายุเพียง 4 ขวบ

    คนเก่งที่ไม่สามารถสร้างความสำเร็จในชีวิต อาจเป็นเพียงเพราะเก็บกักบางอย่างที่ พ่อแม่หรือครูพูดโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ฝังอยู่ในจิตใต้สำนึกของเขา
    ผู้หญิงที่มีปัญหากับคนรักคนแล้วคนเล่า เลือกคนผิดซำ้ๆ อาจเป็นเพราะเธอไม่เคยหายจากแผลที่รู้สึกว่าตัวเองถูกปฎิเสธจากคนๆนึง

    คนๆนึงทำงานไม่ประสพความสำเร็จทั้งที่เป็นคนมีฝีมือ อีกคนล้มเรื่องความรักทั้งที่ดีทุกอย่าง ปรากฎว่าตั้งแต่อยู่ในท้อง แม่มีเหตุผลบางอย่างที่ไม่ต้องการมีลูก เด็กรู้สึกผิดที่มีชีวิต หรือบางคนรับรู้ได้ถึงความไม่เป็นที่ต้องการและใช้ชีวิตแบบคนที่ไม่เป็นที่ต้องการตลอดมา ด้วยมุมมองต่อชีวิตแบบนั้น เขาก็ย่อมได้รับชีวิตตามนั้น


    ทำสิ่งที่เวิร์ค
    ไอน์สไตน์บอกว่า มนุษย์เป็นสัตว์ชนิดเดียวที่ ทำวิธีแบบเดิมซำ้ๆทั้งที่ไม่ได้ผลแล้วหวังว่า ทำแบบเดิมไปเรื่อยๆแล้วผลลัพธ์จะเปลี่ยนไป
    เราก็แค่ รู้ว่าแบบเดิมไม่ได้ผล ถ้าเราเปลี่ยนไม่ได้ทั้งที่อยากเปลี่ยน เข็มทิศจิตใต้สำนึก ช่วยเราเปลี่ยนวิธีการทำ ทำด้วยวิธีที่เวิร์ค ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ไม่ปล่อยให้ ชีวิตเรากลายเป็นการขับเคลื่อนอัตโนมัติ โดยไม่ได้ดูว่าสิ่งนี้กำลังพาเราไปไหน แล้วเราอยากไปที่นั่นหรือเปล่า


    ถ้าเราไปยืนหน้าที่ขายตั๋วเครื่องบินแล้ว บอกว่าฉันไม่ไปที่นั่นที่นี่ แต่ไม่บอกว่าเราต้องการไปที่ไหน คนขายก็คงขายตั๋วให้เราไม่ได้ เราก็ไม่ได้อยู่ในจุดหมายที่เราต้องการอยู่


    บางคนโกรธแค้นคนๆนึงมาก นั่งเคียดแค้นเจ็บชำ้นำ้ใจทุกวัน เหมือนคนที่นั่งกินยาเบื่อหนู หวังว่าหนูจะตาย โดยไม่เคยรู้ว่าตัวเองทำอย่างนี้จะได้ผลอย่างไร
    หรือเราเศร้าแต่ในหัวเราเล่นแต่ซีดีเพลงอกหัก เราอาจโวยวายว่าไม่เอาๆเพลงแบบนี้ เข็มทิศจิตใต้สำนึก จะสอนให้เรารู้วิธีเปลี่ยนซีดีในหัวตัวเอง
    บางคนอยากหายป่วยแต่ไม่หาย เพราะจิตใต้สำนึกกลัวว่าถ้าหายจะไม่มีใครสนใจ ก็ต้องทำความเข้าใจจนทุกส่วนในตัวเขา เลือกแนวทางและผลลัพธ์อย่างรู้ตัวลึกซึ้งกว่าที่ตาเห็น
    ผู้หญิงอายุ กว่า 50 ปี คนหนึ่ง สงสัยว่าทำไมเธอจึงได้รับผลตอบแทนน้อย ทั้งๆที่เป็นคนมีความสามารถ แต่คนมักปฎิบัติกับเธอแบบเป็น ภาระ มากกว่าเป็น คนที่มีค่า วันที่เธอ มาเข้าหลักสูตรเข็มทิศจิตใต้สำนึก ขณะที่เข้าสู่ภาวะผ่อนคลาย ที่นักวิทยาศาสตร์เรียกว่าคลื่นสมองช้าลง จนถึงระดับธีตา เธอจำความรู้สึกขณะที่เป็นเด็กทารกได้ เธอรู้สึกว่าขณะนั้น แม่ไม่ต้องการให้เธออยู่ในท้อง เธอเป็นภาระ เธอรู้สึกไม่เป็นที่ต้องการ เธอได้เห็นเหตุผลเลยว่าทำไมตลอดทั้งชีวิต ความรู้สึกว่าตัวเองไม่เป็นที่ต้องการถึงอยู่กับเธอเสมอ จนทำให้เธอมีแฟนตั้งครรภ์ตั้งแต่อายุ 17 เพื่อจะได้มีใครสักคนรักเธอกอดเธอ เลือกแฟนที่ดูทึ่มที่สุด แต่มั่นคง เพื่อเขาจะได้ยอมทน อยู่กับเธอไม่ทิ้งเธอไป ทั้งที่เธอเป็นคนสวย ใจดี แต่คนอื่นๆ มักจะปฏิบัติกับเธอไม่ดีเสมอ


    ความลับ

    เธอเก็บความอยากรู้อันนี้ไว้ไม่ไหว ว่าทำไมแม่ไม่ต้องการเธอ วันนี้แม่อายุ กว่า 70 ปี แต่เธอต้องรู้ให้ได้ ปรากฏว่า ความจริงคือ ตอนที่แม่ตั้งครรภ์ พ่อไปมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงอื่นเพียงแค่ครั้งเดียว แต่ติดเชื้อซิฟิลิสมา ทำให้แม่เป็นห่วงมากกลัวว่าเธอจะพิการ แม่เลยเฝ้าแต่คิดขณะตั้งครรภ์ว่าลูกไม่น่ามาตอนนี้เลย มันอันตรายมาก แม่ไม่รู้เลยว่า ความรู้สึกไม่อยากให้เธอมาอยู่ในท้อง ได้ผ่านทุกอณูความรู้สึกของแม่ ไปบันทึกไว้ในจิตใต้สำนึกส่วนที่ลึกที่สุดของเธอเรียบร้อยแล้ว


    เวลาที่เราเป็นเด็ก สมองบางส่วนยังพัฒนาไม่เต็มที่ เราไม่เข้าใจว่านี่คือนานหรือแค่ชั่วขณะเดียว ทันตแพทย์หญิงอีกคนที่อยู่ในห้องเรียนเดียวกัน จำได้ตั้งแต่ตัวเองยังเป็นทารกแบเบาะ อายุ7เดือน ร้องไห้ในเปลแล้วไม่มีคนมาอุ้ม สมองที่ยังพัฒนาไม่เต็มที่ ไม่เข้าใจเรื่องเวลา คิดว่าเวลาครึ่งชั่วโมงที่ร้องแล้วไม่มีใครอุ้ม คือตลอดกาล คิดว่าตัวเองไม่มีใครรัก ทั้งๆที่นั่นไม่ใช่ความจริงเลย แต่ในสมองของคน อะไรคือจริง อะไรคือไม่จริง

    สิ่งที่อยู่เบื้องหลัง
    ผู้ชายคนหนึ่ง ตอนเด็กๆพ่อไปมีเมียน้อย ทิ้งลูกกับแม่ไว้ไม่ไปเยี่ยมไม่ไปดูแล วันหนึ่งลูกได้ข่าวว่าพ่อไปเที่ยวเมืองนอก เด็กน้อยอุตส่าห์นั่งรถเมล์ ไปรอรับพ่อที่สนามบินดอนเมือง พอไปถึงก็ยืนเกาะลูกกรงรอด้วยใจจดจ่อ
    ทันทีที่พ่อลงเครื่องมาเห็นลูกมารอโดยไม่ได้นัดหมาย พ่อตกใจมาก ด้วยความประหลาดใจ พ่ออุทานว่า มาทำไมล่ะแก อยากได้ของฝากล่ะสิ ตอนที่พ่อพูดอย่างนั้น ลูกช็อค ภาษาทางจิตใต้สำนึกเรียกว่าเกิด brain pattern interruption หรือ สมองช็อค ส่วนที่ปกป้องความเชื่อ critical factor เปิดออก วินาที ที่ใครบางคนทำให้เราสะดุ้งตกใจ จนส่วนที่ปกป้องเราไม่ได้ระวังตัว สิ่งที่เขาพูดต่อจากนั้น ไหลตรงเข้าสู่ จุดบรรจุความเชื่อของเราทันที่ เหมือนเวลาที่เราคิดว่าคนจะชม เรารอรับคำชม แต่พอกลายเป็นโดนว่า เราจะเสียใจมากกว่าปกติ เจ็บปวดมากกว่าปกติ
    วินาทีที่ลูกกำลังตกใจ พ่อพูดต่อว่า อยากได้ของฝากล่ะสิ คนอย่างแกน่ะ ไม่คู่ควรกับการได้อะไรดีๆหรอก

    ตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้อายุ 50 กว่าแล้ว ผู้ชายคนนี้ สร้างความสำเร็จมาถึงจุดหนึ่งทีไร เขาทำพังลงทุกที จนมาค้นพบ ความเชื่อที่ตัวเองไม่เคยรู้ แล้วเพิ่งได้เห็นว่า มีบางสิ่งบางอย่างในตัวเขาทำพังโดยไม่รู้ว่าทำไม

    ความจริงในมุมใหม่

    เข็มทิศจิตใต้สำนึก เขาถูกพากลับไปในเหตุการณ์นั้นอีกครั้งแบบผู้ใหญ่ ที่มีความรู้ความเข้าใจ มีประสบการ์ณ มีความกล้าหาญแบบผู้ใหญ่กลับไปด้วย เขาเจ็บปวด กลัว ไม่กล้า ไม่อยาก กลับไปที่จุดนั้นอีก
    แต่ก็ต้องไปเพื่อสะสางให้ความเชื่อนี้หยุดส่งผลในชีวิตของเขาเสียที
    ด้วยสายตาที่กลับไปแบบผู้ใหญ่ เขากลับเห็นว่าตอนนั้นพ่อเหงื่อแตกเต็มตัว แววตารู้สึกผิด ละอายใจ หน้าเสีย เขาเพิ่งเห็น เพิ่งเข้าใจว่า ที่จริงแล้ว พ่อแค่รู้สึกผิด ที่ไม่ได้ซื้อของมาฝากเขา รู้สึกผิดที่ทิ้งเมียกับลูกไปมีความสุข ไม่ได้กลับไปดูแล จนลูกต้องมาตาม
    พ่อแค่รู้สึกผิด และไม่ได้มีอะไรผิดพลาดในตัวเขา เขาปกติ ไม่ได้บกพร่องจนพ่อไม่รัก เขาปกติดี คู่ควรกับสิ่งดีๆ พ่อแค่พูดเพราะพ่อไม่รู้จะรับผิดชอบกับความรู้สึกของเขากับแม่ได้อย่างไร เหมือนที่เวลาเขากลับบ้านดึกแล้ว สงสารเมีย เขาก็จะพาลหาเรื่องว่าบ้านรก อาหารไม่อร่อย ทั้งหมดที่พูดไป ก็เพราะรู้สึกผิดต่อเมียเท่านั้นเอง ไม่ใช่เป็นเพราะความบกพร่องของเมียแต่อย่างใด ซาบซึ้งในความดีความอดทนของเธอเสียด้วยซำ้
    ตั้งแต่ผู้ชายคนนี้สลัดความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับตัวเองออกไป คุณลองนึกภาพดูว่าชีวิตที่ไม่ได้แบกขยะเป็นคันรถ จะมีความสุข มีพลังขนาดไหน


    สิ่งที่เราไม่เคยรู้

    ผู้หญิงคนหนึ่งทำโปรเจ็คทุกอย่างแล้วหยุดตรงที่เกือบเสร็จ

    เธอเพิ่งพบว่า ตอนเด็กๆ สอบได้เกรดสี่เกือบทุกวิชายกเว้นสองวิชา เอาเกรดมาให้แม่ดูด้วยความตื่นเต้น พอแม่เห็น เด็กน้อยรอรับคำชม แม่พูดว่า อีกสองวิชาเองนะลูก ทำไมไม่ทำให้ได้ล่ะลูก ตั้งแต่นั้นเธอกลัวการวัดผลแข่งขันทุกชนิด เลือกทำงานองค์กรที่ไม่ต้องแข่งขัน เลือกทำงานที่มีคนช่วยกันหลายๆคน ผลตอบแทนน้อย ไม่มีผลงานเป็นของตัวเอง ไม่พบความรู้สึกพึงพอใจในงานที่ทำ ในชีวิต แน่นอนเธอไม่เลือกคู่ชีวิต ยอมอยู่คนเดียว อย่างกลางๆ ไม่ทุกข์มาก แต่ไม่เคยมีความพึงพอใจ เหมือนไม่เคยมีชีวิตที่แท้จริง พอเข้าใจตัวเอง เข้าใจแม่ คลายปมในจิตใจที่แอบซ่อนไว้อย่างสมบูรณ์ ทุกอย่างก็เข้าที่ มีชีวิตชีวา ทั้งเรื่องงาน ความรัก เงิน ตำแหน่งความสุขใจ


    เด็ก 3ขวบในตัวเรา

    ในยามเป็นเด็กเราอาจกลัวโดยไม่มีเหตุผล เช่นกลัวความมืด เสียงดัง กลัวสิ่งที่ผู้ใหญ่ พ่อแม่หรือครู พูดหรือ ทำ แล้วเรานำกรอบการมองโลกที่ใด้มาจากประสพการณ์วัยเด็ก มาใช้โดยไม่รู้ตัว เราจึงต้องกลับไปเคลียร์ด้วยความเข้าใจแบบผู้ใหญ่ เข้าใจใหม่ ให้เหตุการณ์เหล่านั้น หยุดส่งผลในชีวิตเรา
    เข็มทิศจิตใต้สำนึกเชื่อว่า When shit happens,undo it! เรื่องแย่ๆเกิดขึ้นได้ คลายมันไป!

    It is never too late to have a wonderful childhood!
    ไม่ว่าวันนี้คุณอายุเท่าไร ไม่เคยสายเกินไปที่จะมีชีวิตวัยเด็กที่มีความสุข เห็นความจริงด้วยสายตาของผู้ใหญ่
    อย่าปล่อยชีวิตให้เด็ก 3ขวบในตัวเราเป็นคนบงการ


    มีชีวิตที่มหัศจรรย์

    ผลลัพธ์ในชีวิต เป็นสิ่งที่มาเตือน ให้เราสนใจดูแล พัฒนาสิ่งดีๆ ยอดเยี่ยมในตัวที่เรามี เราแต่ละคนเกิดมาเพื่อทำสิ่งดีงามที่ยิ่งใหญ่

    ถ้าเมื่อไรที่เราเก็บความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับโลกเกี่ยวกับตัวเองไว้ หรือไปอยู่กับองค์กรผิดๆ คนผิดๆ ชีวิตจะส่งความยากเข้ามา เพื่อท้าทายให้เราลุกขึ้นมาดู มาเปลี่ยน หยุดดำเนินชีวิต ที่ขับเคลื่อนแบบอัตโนมัติ ตั้งคำถามกับตัวเอง ว่าสิ่งที่เราเชื่อ คนที่เราเชื่อ สิ่งที่เราฝากชีวิตไว้ จะพาเราไปถึงเป้าหมายที่เราต้องการจริงหรือ และมากไปกว่านั้น เป้าหมายที่เราวิ่งเข้าหา ใช่สิ่งที่ชีวิตของเราต้องการหรือเปล่า
    เราทุกคนเวลาที่ประสพความสำเร็จ มีความสุขความพึงพอใจในชีวิต เราก็รู้และทำอยู่แล้ว แต่บางครั้งเราก็อาจหลงลืม ลืมที่เรารู้สึกดีๆ ลืมด้านดีๆในชีวิต ลืมว่าเราทำอย่างไรคิดอย่างไรจึงมีความสุข ประสพความสำเร็จในชีวิต


    คนแต่ละคนมีสิ่งที่ดีที่สุดอยู่ในตัวเอง เกิดมาเพื่อพัฒนาสิ่งดีๆในตัวเองนี้ ดึงมันออกมาใช้ทำประโยชน์ให้โลก ทำประโยชน์ให้ตัวเอง มีชีวิตอย่างมีคุณค่ามีความหมาย แล้วโลก ก็ตอบแทนเป็นความสุข ความรัก ความสำเร็จ ความรู้สึกพึงพอใจในชีวิต ที่เรารู้สึกอยากตื่นขึ้นมาแต่เช้าทุกวัน มีพลัง จดจ่อกับสิ่งที่กำลังทำเราทุกคนมีสิ่งดีงามที่สุดอยูในตัว ความท้าทายต่างๆ มาเพื่อเจียรไน สิ่งที่ดีที่สุดในตัวคุณให้เปิดเผยออกมา
    +++++++++++++++++++++++++++++++++++



    เบื้องหลัง

    คนมากมาย ไม่พอใจผลลัพธ์ในชีวิต เช่น ความรัก ความสัมพันธ์ การงาน การเงิน สุขภาพ นำ้หนักตัว ความสุขสงบใจ ความรู้สึกพึงพอใจในชีวิต
    การเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ในชีวิตต้องเริ่มที่บริเวณต้นเหตุคือจิตใต้สำนึกซึ่งเป็นส่วนที่เก็บ ประสพการณ์ ในอดีตทั้งหมด รวมมาเป็น ความเชื่อ ความเห็น อุปนิสัย พฤติกรรม ความเคยชิน กรอบในการมองโลก สิ่งที่เราให้ค่าว่าดี ไม่ดี ชอบ ไม่ชอบ อยากทำ ไม่อยากทำ ความเชื่อว่าทำได้สำเร็จ ไม่สำเร็จ

    วงจร

    มนุษย์แต่ละคนมีระบบในการรับข้อมูล ตีความ จากนั้นก็จัดเก็บลงในจิตใต้สำนึก ระบบการตีความหรือกรอบในการมองโลกของคนที่รู้สึกไม่ดี เมื่อรับข้อมูลใหม่เข้ามาก็จะตีความตามเครื่องกรองประสพการณ์ที่ชำรุด ทำให้ตีความประสพการณ์ซำ้ลงร่องเดิม ตอบสนองไปตามความเชื่อเดิม ทำให้ชีวิตไม่สามารถ หลุดออกมาจากผลลัพธ์ที่ไม่น่าพอใจได้


    ปราการป้องกันความเชื่อ

    การเปลี่ยนความเชื่อ อุปนิสัย ที่ฝังอยู่ในจิตใต้สำนึก ไม่สามารถ ใช้เพียงความต้องการเปลี่ยนความคิด เพราะความคิดออกมาจากตัวกรองประสพการณ์และ ความเชื่อ ที่ถูก ปกป้องโดย critical factors
    Critical Factors กีดกันข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเชื่อเดิมของเรา


    เวลาที่จิตใต้สำนึกรับและฝังความเชื่อ เกิดในภาวะจิตใจต่างๆที่ Critical factors หยุดทำงานเช่น ผ่อนคลายจนจิตสำนึกหยุดคิด เหม่อลอย กลัว ตกใจ ดูโทรทัศน์ ฟังซีดี ขับรถเพลินๆ

    เช่น เวลาที่ลูกไม่คาดฝัน พ่อแม่ ดุลูกอย่างกระทันหัน วินาทีที่ลูกหยุดนิ่ง อึ้งอยู่ ขณะนั้นสิ่งที่พ่อ แม่ (ครู คนรัก เจ้านาย เพื่อน) พูดต่อมา จะไหลเข้าสู่จิตใต้สำนึกของลูกทันที


    สภาวะพิเศษ

    จิตใต้สำนึกเราเป็นเหมือน เครื่องคอมพิวเตอร์ ที่ระหว่างใช้งาน อาจรับ ไวรัส ขยะ หรือ ใช้ โปรแกรมซอฟแวร์ที่หมดอายุ ไม่เวิร์คอีกต่อไป การเปลี่ยนความเชื่อที่ไม่เป็นประโยชน์กับชีวิต ก็เหมือนการปรับปรุงโปรแกรมซอฟแวร์ ที่เราใช้ ให้ใช้สิ่งที่เป็นประโยชน์ ให้กับตัวเองและผู้อื่น ให้ชีวิตมีพลัง


    วิธีการที่ทำ คือ ใช้การผ่อนคลายทำให้ สมองอยู่ในภาวะที่ทางวิชาการเรียกว่า Altered state หรือ heighten state of suggestibility แล้วให้ผู้เข้ารับ สามารถ เลือก ใส่ความเข้าใจ ลงไปในประสพการณ์ในอดีต เปลี่ยน มุมมองในการเลือกรับรู้โลก เลือกความรู้สึกที่มีต่อสิ่งต่างๆ

    ฝังใจ
    เช่น คนหนึ่งเคยกินเบียร์ครั้งแรกแล้วอาเจียร ต้องทำความสะอาด นึกถึงการกินเบียร์ ดึงภาพ กลิ่น สัมผัส ของการทำความสะอาด อาเจียร จนไม่กินเบียร์อีก
    คนๆหนึ่งมีความรู้สึกต่อการมีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับครอบครัว คนที่รัก เคารพในทางลบ เพราะเคยมีประสพการณ์ ไม่ดีตอนเด็กๆ หรือจำความรู้สึก ถูกปฎิเสธ หรือล้มเหลวทางธุรกิจ หรือผิดหวังในความรัก ทำให้ไม่สามารถปรับสมองให้ คิด ทำพูด ที่ทำให้เกิด ความสำเร็จในเรื่องนั้นๆได้

    หนีไม่พ้น
    เมื่อคนๆหนึ่งไม่สามารถขับเคลื่อนไปสู่ชีวิตที่ต้องการ เขาก็จะ หนีจากสิ่งที่ควรทำจริงๆในชีวิต ย้ายความสนใจไปยังสิ่งดึงดูดความสนใจอื่น ( distraction) เช่น กินทั้งที่ไม่หิวจนอ้วนมากใช้จ่ายเกินตัวจนเป็นหนี้ ทำงานเพื่อลืมความทุกข์จนเสียสุขภาพ มีแฟนเยอะแต่เหงามาก สูบบุหรี่ทั้งที่สุขภาพไม่ดี แม้กระทั่งไปอาสาทำเรื่องของคนอื่นหรือส่วนรวมเพื่อหลีกเลี่ยงไม่สะสางเรื่องค้างคาของตนเอง หรือจิตใต้สำนึกสั่งให้เก็บความเจ็บป่วยหรือความทุกข์เรื้อรังไว้ เพื่อใช้เป็นที่ซ่อนตัวเพื่อจะได้ไม่ต้อง perform หรือ ส่งมอบผลงานในชีวิต และรับผิดชอบต่อครอบครัวและตนเอง


    การดูแล

    เราต้องเลือกเปลี่ยนสิ่งที่อยู่ในจิตใต้สำนึก ให้เป็นสิ่งที่มีประโยชน์กับชีวิต

    เพราะหากไม่เปลี่ยนก็จะทำให้เกิดความเครียด ความกดดัน ทั้งทางกายและใจ จนปรากฎเป็นปัญหาสุขภาพกาย ใจ สุขภาพ การเงิน งาน ความสัมพันธ์ ความรัก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 ตุลาคม 2011
  8. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,905
    ค่าพลัง:
    +16,489
    [​IMG]
    คอยพี่
    รุ่งฤดี แพ่งผ่องใส
    ดนตรี..................
    > คอย..พี่ จนดวงสุรีย์ สิ้น แสง อ่อน
    หมู่สกุณา กลับหลัง เขัาสู่รวงรัง พักนอน
    แต่พี่สัญจร จากหาย หน้า
    > คอยพี่..ตลอดราตรี ไม่ เห็น มา
    ดึกดื่นค่อนคืน ทอดถอน สุดหลับตานอนนิทรา
    น้ำตานองหน้า ทั้งคืน
    * พี่ขา พี่ เปล่าเปลี่ยวอย่างนี้ สุดฝืน
    หรือพี่ไปมี หญิง อื่น จึงลืมคู่ชื่น ให้ช้ำใจ
    > คอย..พี่ กระทั่งระวี สู่ ฟ้า ใหม่
    เฝ้าคอยด้วยใจ หม่นหมอง
    โธ่พี่ลืมน้องหรือไร ถึงทิ้งน้องให้ หลงคอย
    * พี่ขา พี่ เปล่าเปลี่ยวอย่างนี้ สุดฝืน
    หรือพี่ไปมี หญิง อื่น จึงลืมคู่ชื่น ให้ช้ำใจ
    > คอย..พี่ กระทั่งระวี สู่ ฟ้า ใหม่
    เฝ้าคอยด้วยใจ หม่นหมอง
    โธ่พี่ลืมน้องหรือไร ถึงทิ้งน้องให้ หลง..คอย

    (k):cool::mad::'(({):boo:
    file music

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=uKPmX-8L7Jc]koipee600.avi - YouTube[/ame]
     
  9. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,905
    ค่าพลัง:
    +16,489
    [​IMG]
    เพลงนี้ฟังดูแล้วเนื้อหาสอนผู้หญิงเรา..ได้ดีทีเดียวค่ะ เรากำลังดิ้นรนไขว่คว้าอะไรกันอยู่ทุกวันนี้..ฟังแล้วก็หยุดอยากไปได้เหมือนกันค่ะ
    ชื่อเพลง : ผู้หญิงบ้า (A)
    ศิลปิน : อุ๊ หฤทัย วิวัฒน์
    ดนตรี..1...2>> อยากจะรู้
    ผู้คนค้นหาอะไร ทั้งดิ้นรน
    ทั้งคว้าไขว่สับสน หนึ่งสมองสองมือ
    ก็ยังไม่พ้นต้องวกวน และวุ่นวายไม่เว้นวัน
    หกล้มซมซาน ไม่เคยได้พักใจ
    เหนื่อยล้ากันไป ให้เป็นดังหวัง
    และฉันคนหนึ่ง ก็เหมือนคนที่หลงทาง
    เพื่ออะไรไม่เข้าใจ แต่บังเอิญได้เจอ
    ผู้หญิงคนหนึ่ง นั่งมองเหม่อ
    ทักทายกับดอกไม้ ไม่กังวลไม่แคร์
    มอมแมมแค่ไหน ไม่ว่าใคร
    จะล้อเธอว่าบ้าบอ แดดร้อนลมแรง
    ไม่เคยจะสนใจ เมื่อหิวก็เพียงแค่แบมือขอ
    อยู่แค่ประทัง อิ่มแล้วเธอก็เพียงพอ
    มากกว่านั้นไม่ต้องการ อยากรู้จริงว่าเราหรือเธอ
    ใครบ้าบอกว่ากัน เหนื่อยแทบตาย
    ไล่ตามความฝัน ไม่รู้ทำไม
    ดนตรี..8..Bars 6...7...8>>>
    โลกยังหมุนไป เธอไม่เห็นต้องหมุนตาม
    โลกเราร้อนรนลุกลาม แต่เธอไม่ร้อนใจ
    อยากรู้จริงว่าเราหรือเธอ ใครบ้าบอกว่ากัน
    เหนื่อยแทบตาย ไล่ตามความฝัน
    ไม่รู้ทำไม
    (k):cool::mad::'(({):boo:
    ไฟล์เพลง

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=uKr1iiIqUBM"]puyingbarbor (1).avi - YouTube[/ame]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 31 ตุลาคม 2011
  10. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,353
    ค่าพลัง:
    +6,491
    วันนี้ป้า.ใจ. มาแปลกนะ ดูจริงจังกว่าทุกครั้ง 55+..ขอบคุณสำหรับสาระดีๆ อ่านแล้วมีประโยชน์ต่อชีวิตจริงๆนะป้า..รักคืออะไรน้า? ไม่รู้จริงๆ.. รู้แต่ว่าผูกพันกับเพื่อนๆในห้องนี้มากๆจร๊าา.. สรุปคือ รักเพื่อนทุกคนนนน..
    (ป้ารู้มั้ย? สิ่งที่ดิฉันสงสัยมานาน ดิฉันมีคำตอบแล้วล่ะ)
     
  11. ชญามณี

    ชญามณี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    230
    ค่าพลัง:
    +29
    พี่พอใจขา.....

    เข้ามานั่งฟังเพลงของคุณพี่ ชอบฟังค่ะ
    บทความก็ดีมากค่ะ


    _Friend_;aa30
     
  12. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,905
    ค่าพลัง:
    +16,489
    (k)ขอบคุณค่ะ น้อง kama-manas ที่แวะมาเยี่ยมเยียนและอ่านบทความนะคะ:cool:


    สิ่งที่ดิฉันสงสัยมานาน ดิฉันมีคำตอบแล้วล่ะ
    (k)สงสัยอาราย คำตอบอาราย บอกหน่อยได้ไหม บอกหน่อยได้ไหม อยากรู้จังงงง เยยยย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 31 ตุลาคม 2011
  13. บานหน้าต่าง

    บานหน้าต่าง สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +3
    ขอนุญาตแวะมาฟังเพลงนะคะความหมายดีมากพึ่งเคยได้ฟังครั้งแรก:cool:
     
  14. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,905
    ค่าพลัง:
    +16,489

    (k) ขา ๆ ๆ ๆ มาแว๊วค่ะ..ขอบคุณที่คิดถึงกันนะคะ น้องชญามา..ณี ของพี่พอใจขา... คอยพี่...พี่ก็มาแว๊วค่ะ...มาบ่อย ๆ นะคะ คิดถึงน้องเสมอ ๆ มิเสื่อมคลายยยย อีกแระ ๆ ๆ ๆ....
     
  15. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,905
    ค่าพลัง:
    +16,489
    (k) ขออนุญาตก็ อนุญาต เลยค่ะ...น้องบานหน้าต่าง น้องฟังเพลงไหนแล้วชอบคะนี่ เพลง ผู้หญิงบ้า
    เหยอ คะ...ช่ายค่ะ..คราย ๆ ก็ว่าเธอบ้า แต่ดูลึก ๆ แล้วคนดี ๆ ที่บ้าหลงวัตถุ..หลงระเริงกันอยู่ทุกวันนี้ วิเคราะห์ดูดี ๆ แล้วก็อาจจะบ้ามากกว่านะคะ..
    แวะมาบ่อย ๆ ได้เลยนะ..เป็นเพื่อนปรับสาระทุกข์สุกดิบกันปายเรื่อย ๆ น่ะค่ะ
     
  16. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,905
    ค่าพลัง:
    +16,489
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=sOATJUiKt48"]การสร้างความสุขให้ชีวิต 1/5 - YouTube[/ame]

    เกิดมาชีวิตนี้ควรได้ฟังนะคะ...
    การสร้างความสุขให้ชีวิต โดยพล.อ.ต.นพ.บุญเลิศ จุลเกียรติ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 31 ตุลาคม 2011
  17. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,905
    ค่าพลัง:
    +16,489
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=5Rhui71ehgs]การสร้างความสุขให้ชีวิต 2/5 - YouTube[/ame]
     
  18. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,905
    ค่าพลัง:
    +16,489
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=zfDgkvAF_bg]การสร้างความสุขให้ชีวิต 3/5 - YouTube[/ame]
     
  19. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,905
    ค่าพลัง:
    +16,489
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=nZmvwiUrBg8]การสร้างความสุขให้ชีวิต 4/5 - YouTube[/ame]
     
  20. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,905
    ค่าพลัง:
    +16,489
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=uH59Lf3y0UY]การสร้างความสุขให้ชีวิต 5/5 - YouTube[/ame]
     

แชร์หน้านี้

Loading...