ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. พลอยรุ้ง

    พลอยรุ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +2,088
    คิดถึงเว๊บพลังจิตมากๆ และโดยเฉพาะกระทู้นี้ เนื่องจากมีหตุขัดข้อง ทำให้ไม่ได้เข้ามาดู 3 เดือน สวัสดีทุกๆคนนะคะ และช่วงนี้ประเทศเราก็ประสบภัยพิบัติของจริงซะด้วย หลังจากที่พูดๆกันมานาน เตรียมพร้อมกันมาพอสมควร คราวนี้แฟนพันธุ์แท้ของเว๊บเราคงได้พูดกันเต็มเสียงว่า มาแล้วของจริง ไม่ถูกหาว่าเป็นโรควิตกจริต
    ส่วนดิฉันที่บ้านยังไม่ท่วม ทั้งที่อยู่ใกล้แม่น้ำชี แต่ที่นาท่วม แต่ที่นี่ท่วมกันทุกปีอยู่แล้ว ไม่ต้องทำนาก็ได้ (เปลี่ยนไปเลี้ยงปลาแทน) ก็ได้แต่ส่งเงินบริจาคช่วยคนอื่น ความจริงอยากเอาแรงกายไปช่วยด้วย แต่ไปไม่ได้จริงๆ อยากขอให้ทุกคนไม่ประมาทและขอให้ทำบุญกันเยอะๆค่ะ และขอให้ทำอย่างมีสติด้วยนะคะ อย่าให้ตัวเองเดือดร้อน และขอให้เป็นบุญจริงๆที่ช่วยส่งเสริมพระพุทธศาสนาจริงๆ อย่าหลวมตัวไปช่วยพวกวิชามาร แต่ก็กรรมใครกรรมมันนะคะบางทีก็ห้ามกันไม่ได้
     
  2. Premsuda (May)

    Premsuda (May) เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +646
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ธันวาคม 2011
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เมย์ไม่ได้เข้ามา 1 ปีครึ่ง ทำไมเดี๋ยวนี้เว็บพลังจิต ไม่โชว์รายชื่อคนที่ ออนไลน์ แล้วเหรอคะ

    เดี๋ยวนี้ไม่มีคลิกอนุโมทนาแล้วหรือคะ

    น้องเมย์ กับ น้องพลอยรุ้ง ไม่ได้เข้ามาในเว็บพลังจิตนานแล้ว คงไม่ทราบว่าช่วงที่เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่นี้ ทำให้มีคนสนใจเข้ามาในเว็บพลังจิต เพื่อค้นหาข้อมูลเรื่องของภัยพิบัติน้ำท่วมเป็นจำนวนมาก ทำให้เซพเวอร์ของเว็บพลังจิตต้องทำงานหนักมาก จนทำให้เว็บพลังจิตต้องล่มไปบ่อยๆ ทางคณะผู้ดูแลเว็บจึงต้องลดภาระของเซฟเวอร์ให้ทำงานน้อยลง โดยยกเลิกปุ่มอนุโมทนา และไม่โชว์รายชื่อของคนที่ออนไลน์ เพื่อให้การทำงานในด้านอื่นๆของเว็บพลังจิต สามารถทำงานได้อย่างราบรื่น สะดวกรวดเร็วขึ้นครับ
     
  4. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    มีเวลาเตรียมตัวอีกไม่ถึงหนึ่งปีครับ ระหว่างนี้เกิดภัยต่างๆทะยอยมากระจายตามจุดต่างๆ

    แต่ที่จะปรากฏชัดก็คือเรื่องโรคระบาดครั้งร้ายแรง และสงครามโลก

    สถานที่ปลอดภัยของแต่ละบุคคลแตกต่างกัน ตามวาสนาและบุญที่แต่ละคนทำมา

    อธิษฐานเอาดีที่สุดครับ

    สิ่งสำคัญคือ
    อย่าไปร่วมกับกรรมลบของเขา
    อย่าไปยินดีสะใจกับกรรมเวรผลกรรมของเขา
    อย่าไปรวมตัวอยู่กับชาวอกุศล
    อย่าไปอาลัยในทรัพย์สินชื่อเสียงลาภยศบ้านเรือน

    อยู่ในหมู่พวกที่เป็นกัลยาณชน
    อยู่ในศีลในธรรม
    อยู่ในไตรสรณะคมม์
    อยู่ในฌานสมาธิ
    อยู่กับธรรมสมบัติตั้งใจอยู่ในกุศล

    ถึงเวลาก็จะปลอดภัย

    แต่หากถึงเวลาวาระไม่ทันกาล ก็จงคิดถึงคุณของพระพุทธเจ้า หลับตา กลั้นหายใจกำพระเอาไว้ ให้มั่นคงที่สุด นึกเป็นแสงสว่างเป็นเพชร ภาวนาว่า "นิพพานสุขัง" แล้วจะปลอดภัยครับ
     
  5. Premsuda (May)

    Premsuda (May) เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +646
    นี่ลดภาระของเซฟเวอร์แล้วเหรอคะ ก็ยังช้าเหมือนเดิมอ่ะค่ะ อิอิ (deejai)
     
  6. sumitran21

    sumitran21 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +124
    MONATA....SATOO!!!!:cool::cool::cool:
     
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    พิษณุโลก-เตรียมประกาศ 5 อำเภอประสบภัยหนาว

    [​IMG]

    ปภ.จังหวัดพิษณุโลก จับตา 5 อำเภอ ที่มีอุณหภูมิลดลงต่อเนื่อง เพื่อเตรียมประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติหนาว สามารถนำงบประมาณมาช่วยเหลือประชาชนได้ทันที

    วันนี้ (2 ธ.ค.) นายบุญยิ่ง คุ้มสุพรรณ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนที่อาศัยอยู่บนที่ราบเชิงเขากำลังประสบภัยหนาวเย็น ได้แก่ อำเภอนครไทย ชาติตระการ วังทอง วัดโบสถ์ และ เนินมะปราง มีอุณหภูมิประมาณ 15-20 องศา ทำให้ทางป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิษณุโลก ต้องจับตาเป็นพิเศษ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยหนาว โดยทั้ง 5 อำเภอนี้

    หากอุณหภูมิลดลง หรือ ต่ำกว่า 15 องศา ติดต่อกัน 3 วัน จะต้องประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติหนาวทันที เพื่อจัดงบประมาณของจังหวัดเข้าไปช่วยเหลืออีกครั้ง โดยเฉพาะในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อำเภอนครไทย ที่ขณะนี้ต้องจับตาเป็นพิเศษ เนื่องจากมีประชาชนได้เริ่มประสบภัยหนาวแล้วกว่า 5 หมู่บ้าน อุณหภูมิเฉลี่ย 15 องศา

    นอกจากนี้ ปภ.ได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว ที่บริเวณศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก สามารถติดต่อได้ที่ 055-230465 และ 055-230398 คาดว่าเร็วๆนี้ อาจต้องเปิดศูนย์ช่วยเหลือแต่ละอำเภอให้ครบทั้ง 9 อำเภอ เพื่อสะดวกในการช่วยเหลือ และรับแจ้งจากผู้ประสบภัยหนาว หลังตรวจสอบพบว่าหมู่บ้านแต่ละแห่ง ไม่มีเครื่องวัดอุณหภูมิ ส่งผลให้การทำงานช่วยเหลือแต่ละหมู่บ้านเป็นไปอย่างล่าช้า ซึ่งทางจังหวัดจะหามาตรการช่วยเหลือต่อไป

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันศุกร์ ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2554

    ที่มา http://www.krobkruakao.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1322798162.jpg
      1322798162.jpg
      ขนาดไฟล์:
      17.8 KB
      เปิดดู:
      1,235
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2011
  8. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    หมอนิดบอกในเว็บแกว่า ภัยพิบัติปี 54 มันยังไม่จบ แต่มันจะติดพันไปถึงปี 56

    นี่เป็นข้อความของแก ทำให้รู้ว่าแกเทิดทูนในหลวงมาก

    www.mornid.com/home.php

    "สถาบันที่ปวงชนชาวไทยทั้งประเทศเคารพรักและเทิดทูนยิ่งชีวิต...

    มีคนเพียงกลุ่มเล็กๆแค่กลุ่มหนึ่งเท่านั้นที่ ไม่รู้คุณแผ่นดิน...ไม่รู้คุณค่าของ “อริยบุคคลของประเทศ”...ไม่เคยสำนึกเลยว่าแผ่นดินที่เคยแห้งแล้งจนเพาะปลูกอะไรไม่ได้...แต่ “อริยบุคคลของประเทศ”..ไปพลิกฟื้นให้มีน้ำ มีเขื่อนเก็บน้ำ...กระทั่งทุกวันนี้ชาวไร่ชาวนาทำมาหากินได้เพราะใคร...ถิ่นทุรกันดารแค่ไหน “อริยบุคคลของประเทศ” ก็บุกป่าฝ่าดงเข้าไปทุกที่ทั่วทั้งประเทศ...นำความเจริญเข้าไปให้กับประชาชนทุกแห่งหนของประเทศไทย...

    เคยสำนึกกันบ้างไหม...”อริยบุคคลของประเทศ”...ไม่เคยเลือกชนชั้นวรรณะ...แม้แต่ชนเผ่าต่างๆก็ได้รับ..พระเมตตาจาก...”อริยบุคคลของประเทศ”...

    เคยคิดกันบ้างไหมว่า “อริยบุคคลของประเทศ” ท่านเหนื่อยมามากแค่ไหน...กี่สิบปีที่ “อริยบุคคลของประเทศ”..ท่านตรากตรำทำงานมาอย่างหนัก เพื่อใคร?...

    ขอให้เอา “หัวใจที่มีความเป็นคน” คิดดูให้ดี"


    [​IMG]


    นี่เป็นที่แกเขียนเรื่องภัยพิบัติ สรุปมาว่า


    "...นับจากวันนี้เป็นต้นไปถึงปี พ.ศ.2555 เป็นปีอันตรายที่สุด และอาจจะติดพันไปถึง ปี2556 ด้วย "


    <O:p"ภัยทางน้ำก็ยังประมาทไม่ได้...เขื่อนต่างๆต้องเฝ้า ระวังแผ่นดินไหว..เอาไว้ด้วยเพราะอาจมีผลกระทบกับเขื่อนอย่างรุนแรง ระวังเขื่อนแตก</O:p
    <O:p</O:p
    <O:pมีโอกาสที่จะเกิด..”แผ่นดินไหวรุนแรง”..ถ้าไม่เกิดขึ้นในประเทศไทยโดยตรง อาจจะเกิดขึ้นกับประเทศเพื่อนบ้าน และจะส่งผลกระทบมาถึงประเทศไทยได้...</O:p
    <O:p</O:p
    <O:pบางจังหวัดอาจจะเกิดแผ่นดินยุบ...</O:p
    <O:p</O:p
    <O:pหรือทะเลเกิดคลื่นยักษ์ใหญ่ถาโถมเข้าใส่เหมือนในอดีตที่เคยผ่านมา...</O:p
    <O:p</O:p<O:p</O:p
    <O:p...เศษรฐกิจจะตกต่ำ...โจรผู้ร้ายจะชุกชุม.."</O:p<!-- google_ad_section_end -->
     
  9. apichan

    apichan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    825
    ค่าพลัง:
    +4,424
    อีกไม่ถึงปี แล้วจะมีการรวมตัวของชาวเว็บพลังจิตก่อนเกิดเหตุการณ์ใหญ่ๆหรือเปล่าครับ เผื่อได้ประสานงานกันในพื้นที่ต่างๆ

     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สถานการณ์โลกก่อนที่พระเจ้าจักรพรรดิ์จะมาปรากฏกาย

    [​IMG]

    สถานการณ์รัฐบาลต่างๆ ทั่วโลก ก่อนอิมามมะฮ์ดี (อ.) จะมาปรากฏกาย

    ด้วยการสนับสนุนทางการเมือง ทำให้ความเชื่อ และแนวคิดทางการเมืองของศาสนาของแต่ละกลุ่มประสบความสำเร็จในสังคม ด้วยเหตุนี้ในแต่ละกลุ่มของทุกๆ ศาสนาจึงต้องการที่จะจัดตั้งรัฐบาลเพื่อทำตามวัตถุประสงค์ของตนเอง อิสลามจึงเป็นศาสนาหนึ่งที่ประสงค์จะจัดตั้งรัฐบาลแบบอิสลามขึ้นมา เพื่อให้เกิดรูปแบบรัฐบาลอิสลามที่เป็นความจริง และเหมือนเป็นหน้าที่อันสูงส่งทางศาสนาของอิสลามด้วย

    ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ.) ของอิสลามได้สถาปนารัฐบาลอิสลามขึ้นมาในนครมะดีนะฮ์ และหลังจากที่ท่านเสียชีวิต การสถาปนารัฐบาลอิสลามยังเป็นแรงบันดาลใจของบรรดาอิมามผู้บริสุทธิ์ (อะฮ์ลุลบัยต์) และอุลามะอ์ ผู้รู้ที่มีชื่อเสียงอีกหลายคน ในการดำเนินงานจัดตั้งรัฐบาลอิสลามนี้ต่อไป แต่รัฐบาลนี้จะยังไม่สมบูรณ์จนกว่าจะถึงเวลาที่อิมามมะฮ์ดี (อ.) มาปรากฏกาย ดังนั้นรัฐบาลส่วนใหญ่ในปัจจุบันนี้ จึงตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเท็จ

    มีรายงานมากมายได้อธิบายเกี่ยวกับลักษณะทั่วไปของรัฐบาลต่างๆ ที่ถูกสถาปนาขึ้นทั่วโลก ก่อนการมาปรากฏกายของอิมามมะฮ์ดี (อ.) ซึ่งมีลักษณะพอสรุปได้ดังต่อไปนี้ คือ การปกครองของรัฐบาลจะเป็นแบบเผด็จการ

    ความอยุติธรรม คือโรคร้ายแรงที่สังคมมนุษย์จะต้องทนทุกข์ก่อนการมาปรากฏกายของอิมามมะฮ์ดี (อ.) การกดขี่ข่มเหง และการลิดรอนสิทธิของประชาชนอย่างผิดกฏหมาย

    ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ.) ได้กล่าวว่า "โลกจะเต็มไปด้วยความไม่ยุติธรรม และการกดขี่ ด้วยเหตุนี้จึงเกิดความกลัว และสงครามในทุกครัวเรือน"

    อิมามอาลี (อ.) กล่าวว่า " โลกจะเต็มไปด้วยการกดขี่ และความอธรรม ด้วยเหตุนี้จึงมีความกลัว และความเศร้าโศกเกิดขึ้นในทุกครัวเรือน"

    อิมามมุฮัมมัด บากิร (อ.) กล่าวว่า " อิมามมะฮ์ดี (อ.) จะไม่มาปรากฏกาย เว้นเสียแต่ว่าโลกจะเต็มด้วยความกลัว และความเลวร้ายที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงเสียก่อน"

    ก่อนการมาปรากฏกายของอิมามมะฮ์ดี (อ.) จะเกิดความกลัว และความเลวร้ายขึ้นในโลก ซึ่งส่วนมากสืบเนื่องมาจากอำนาจของผู้ปกครองแบบเผด็จการ และหัวแข็ง

    ในความเห็นนี้ อิมามมุฮัมมัด บากิร (อ.) กล่าวว่า "อิมามมะฮ์ดี (อ.) จะมาปรากฏกายในเวลาที่ตำแหน่งผู้นำภายใน จะอยู่ในมือของผู้กดขี่ข่มเหง"

    อิบนุ อุมัร กล่าวว่า " (เมื่อถึงเวลาสุดท้าย) ชนชั้นสูงจะมีทรัพย์สมบัติมากมาย และเด็กๆ จะร้องขอความตาย เนื่องจากการทรมาน และการทนทุกข์ที่พวกเขาได้รับจากผู้ปกครองของเขา"

    จงจำไว้ว่า ผู้ร่วมอุดมการณ์ของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ.) จะทุกข์ทรมาน ไม่ใช่เนื่องมาจากการรุกราน และการรุกล้ำของอำนาจต่างชาติอย่างเดียวเท่านั้น แต่เนื่องจากการกดขี่ข่มเหง และความเห็นแก่ตัวของรัฐบาลของเขาเองด้วย ในรูปแบบที่แม้แต่แผ่นดินโลก ที่ไม่สามารถต้านทานการขยายของมัน ก็ยังดูเล็กลงสำหรับพวกเขา แทนที่ผู้คนจะรู้สึกสัมผัสได้ถึงอิสรภาพ เขากลับรู้สึกว่ากำลังถูกจองจำ แม้แต่ในโลกมุสลิมขณะนี้ ยังมีผู้นำมุสลิมอีกหลายๆ คนในประเทศมุสลิม ที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่ออิสลาม และ ชาวมุสลิมก็เป็นเหมือนคนแปลกหน้าสำหรับพวกเขา

    ในบริบทนี้ได้ถูกอ้างมาจากรายงานเหล่านี้ คือ ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ.) แห่งอิสลาม ได้กล่าวว่า

    "ในเวลาสุดท้าย ภัยพิบัติอันยิ่งใหญ่ ที่ร้ายแรงขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีใครได้ยินมาก่อน จะประสบกับประชาชาติของเรา ในรูปแบบที่ดูเหมือนว่าความกว้างขวางของโลกจะดูแคบลงสำหรับพวกเขา และโลกจะเต็มไปด้วยความอยุติธรรม และอำนาจเผด็จจการ ถึงขนาดที่ผู้ศรัทธาจะไม่สามารถหาที่หลบภัยเพื่อเป็นที่พักพิงได้อีกต่อไป"
    (อัลฮะกิม มุสตัดร๊อก เล่ม 4 หน้า 465)

    บางรายงานได้เน้นย้ำถึง ความสัมพันธ์ของมุสลิมกับผู้นำที่เห็นแก่ตัวเหล่านั้น และหลังจากการครอบครองของผู้ปกครองแบบกดขี่ข่มเหงสิ้นสุดลง สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวนำไปสู่ข่าวดีในการมาปรากฏกายของผู้ช่วยให้รอดของสากลโลก รายงานทั้งหมดนี้ได้กล่าวถึง ยุคสมัยการปกครองของรัฐบาลสามประเภท ที่จะปรากฏออกมาหลังจากท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ.) ของอิสลามเสียชีวิตลง รัฐบาลสามประเภทดังกล่าว คือ

    1-ยุคการปกครองของคอลิฟะห์
    2-ยุคการครอบครองของสหรัฐอาหรับ และอาณาจักร
    3-ยุคสุดท้าย คือ ยุคของผู้ปกครองแบบเผด็จการ

    [​IMG]

    ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ.) กล่าวว่า " หลังจากฉัน คอลิฟะห์จะขึ้นมาปกครอง หลังจากคอลีฟะห์ ผู้นำสหรัฐอาหรับจะปกครอง หลังจากนั้นก็เป็นกษัตริย์ และหลังจากพวกเขาก็จะเป็นผู้นำแบบเผด็จการ และกดขี่ข่มเหง หลังจากนั้นอิมามมะฮ์ดี (อ.) ก็จะมาปรากฏกาย"
    (อัลมุอ์ญัม กะบีร เล่ม 22 หน้า 375

    [​IMG]
    การรวมตัวกันของหน่วยงานต่างๆของรัฐ

    ถ้าผู้บริหารงานแต่ละคนของรัฐบาลต่างๆ เป็นผู้ชอบธรรม และมีความสามารถ ประชาชนก็จะอยู่อย่างสะดวกสบาย แต่ถ้าได้คนที่ไม่คู่ควรขึ้นมาปกครองบ้านเมือง ประชาชนก็จะต้องเผชิญกับการทนทุกข์ และความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสไปโดยปริยาย สภาพที่ว่านี้จะเป็นเหตุการณ์เดียวกัน กับสภาพความเป็นจริงที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาก่อนการมาปรากฏกายของอิมามมะฮ์ดี (อ.) ผู้เป็นความหวังแห่งประชาคมโลก

    ในเวลานั้น หน่วยงานต่างๆ ของแต่ละรัฐจะถูกตั้งขึ้นมาโดยผู้ทรยศ โดยการละเมิด และโดยการกดขี่ข่มเหงของแต่ละคน ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ.) ได้กล่าวว่า “เวลานั้นจะมาถึง ก็ต่อเมื่อผู้ปกครองกลายเป็นผู้กดขี่ข่มเหง ผู้บังคับบัญชากลายเป็นผู้ทรยศหักหลัง ผู้พิพากษากลายเป็นผู้ละเมิดสิทธิ และเมื่อรัฐมนตรีกลายเป็นผู้ปกครองแบบเผด็จการ"

    [​IMG]
    อิทธิพลของผู้หญิงในการปกครองของรัฐบาลต่างๆ

    ปัญหาอีกอย่างหนึ่งที่ถูกอภิปรายเกี่ยวกับรัฐบาลต่างๆ ว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาสุดท้าย คือ การปกครอง และการมีอิทธิพลของสตรีทั้งหลาย ซึ่งจะเป็นผู้ที่เข้ามามีส่วนในการปกครองเหนือประชาชนโดยตรง หรือ อาจจะอยู่ภายใต้บังคับบัญชาของผู้ปกครอง หรืออยู่ภายใต้การครอบงำของผู้ปกครองแบบเผด็จการเหล่านั้น และผู้หญิงจะเข้ามาอยู่ภายใต้บังคับบัญชาของพวกเขาในหลายๆ สาขางาน

    ในเรื่องดังกล่าว ท่านอิมามอะลี (อ.) ได้กล่าวว่า “เวลานั้นจะมาถึง ก็ต่อเมื่อมีการคอรัปชั่น และการล่วงประเวณีเกิดขึ้นกับแต่ละคน จะอยู่ในลักษณะพฤติกรรมแบบยั่วยวน บวกกับความเอื้ออารี และความชั่วช้าเลวทรามทำให้ได้มาซึ่งตำแหน่ง และสถานภาพต่างๆ ในขณะที่ผู้ชอบธรรมกลับกลายเป็นคนอ่อนแอ”

    มีผู้หนึ่งได้ถามท่านอิมามอะลี (อ.) ว่า “เมื่อไหร่เล่าที่ ช่วงเวลานี้จะผ่านมา และก็ผ่านไป?” ท่านได้ตอบว่า“เวลานั้นจะมาถึงเมื่อผู้หญิง และผู้หญิงที่ถูกใช้งานเยี่ยงทาส จะเข้ามามีส่วนรับผิดชอบในงานเพื่อประชาชน และคนหนุ่มสาวจะกลายมาเป็นผู้มีอำนาจในการปกครอง”

    การปกครองของคนหนุ่มสาว

    โดยปกติผู้ที่จะเข้ามาปกครองประเทศจะต้องเป็นผู้จัดการงานที่ดี และเพียบพร้อมด้วยประสบการณ์ เพื่อประชาชนจะได้อยู่กันอย่างสะดวกสบาย แต่ถ้ามีตัวแทนบางคนในบรรดาคนหนุ่มทั้งหลาย หรือ ในบรรดาคนอ่อนปัญญา มีการเล่นชู้ เขาเหล่านั้นควรจะแสวงหาที่พักพิงในพระเจ้าเพื่อให้รอดพ้นจากมารร้ายแห่งการปลุกปั่น (ฟิตนะห์) ที่จะกำลังจะเกิดขึ้น

    ในประเด็นข้างต้น เพียงพอที่จะอ้างถึงรายงานแค่สองข้อ ดังนี้คือ ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ.) กล่าวว่า “จงแสวงหาที่พักพิงในพระเจ้า ในเจ็ดปีแรก และ ในเวลาที่คนหนุ่มสาวขึ้นปกครอง” ซัยยิด อิบนุ มุซัยยิบ กล่าวว่า “การปลุกปั่น (ฟิตนะห์) จะผ่านมา และก็ผ่านไป แต่มันจะเริ่มต้นด้วยเกมของคนหนุ่มสาว”

    ความไม่มั่นคงของรัฐบาลต่างๆ

    รัฐบาลต่างๆ กับความมั่นคงด้านการเมือง เป็นหนึ่งสิ่งที่สามารถนำไปใช้ในการรับใช้ประชาชนของประเทศได้ เพราะถ้าความมั่นคงด้านการเมืองได้รับการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การทำงานที่ยิ่งใหญ่ภายในประเทศก็ไม่สามารถทำได้​

    ในช่วงเวลาสุดท้าย รัฐบาลต่างๆ จะมีความยุ่งเหยิง และบางครั้งรัฐบาลจะแสร้งทำเป็นรับตำแหน่งในระหว่างวัน แต่จะออกจากตำแหน่งเมื่อดวงอาทิตย์ตกดิน​

    ในประเด็นนี้ อิมามญะอ์ฟัร ศอดิก (อ.) ได้กล่าวว่า “ท่านจะเป็นอย่างไร หากเวลานั้นมาถึง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ไม่มีอิมาม เป็นผู้นำทางท่านแล้ว ท่านจะยังคงอยู่โดยไม่มีความรู้ และไม่มีการเรียนรู้ และอวดตัวซึ่งกันและกันกระนั้นหรือ? (จะถึงเวลาหนึ่ง) ที่ท่านจะถูกทดลอง คนดี และคนเลวจากบรรดาพวกท่านจะถูกแยกออกจากกัน เหมือนชาวนาแยกแกลบออกจากข้าวเปลือก"

    ในเวลานั้นดาบที่อยู่ในปลอก และดาบที่ไม่มีปลอกจะถูกสลับกันใช้ ในขณะที่สงครามกำลังลุกเป็นไฟ รัฐบาลจะแสร้งทำเป็นรับตำแหน่งในระหว่างวัน แต่จะถูกปลด และไล่ออกออกจากตำแหน่งด้วยการหลั่งเลือด เมื่อวันนั้นได้สิ้นสุดลง

    [​IMG]
    อำนาจที่อ่อนแอในการบริหารประเทศ

    ก่อนวันแห่งการปรากฏกายของอิมามมะฮ์ดี (อ.) รัฐบาลต่างๆที่มีความเข้มแข็งจะอ่อนแอลง และสิ่งนี้จะเป็นการเตรียมทางสำหรับผู้คนทั่วทั้งโลกในการยอมรับการปกครองโลกของอิมามมะฮ์ดี (อ.)

    ในเรื่องนี้ อิมามญะอ์ฟัร ศอดิก (อ.) ได้กล่าวเกี่ยวกับโองการที่ว่า “จนกระทั่งเมื่อพวกเขาได้เห็นสิ่งที่พวกเขาถูกสัญญาไว้ แล้วพวกเขาก็จะได้รู้ว่าใครเป็นผู้อ่อนแอยิ่งในการเป็นผู้ช่วยเหลือ และมีจำนวนน้อยกว่า” (บทอัลญิน โองการที่ 24)

    สัญญาที่ได้ให้ไว้ในโองการข้างต้น ได้พูดเกี่ยวกับ ท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) บรรดาสหาย ผู้สนับสนุน และ ศัตรูของท่านอิมาม ในเวลานั้น เมื่ออิมามจะได้มาปรากฏกายแล้ว ศัตรูของท่านจะอ่อนแอมากที่สุดในบรรดาศัตรูทั้งหลาย และจะมีกองกำลัง และอาวุธยุทโธปกรณ์น้อยที่สุด

    แปลและเรียบเรียงโดย ซะฮ์รอ นูรอัยนีย์

    ที่มา http://www.ahlulbait.org/main/printable.php?category=46&id=241
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2011
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เมื่อโลกเปลี่ยนเข้าสู่มิติที่ 5 ตัวคนจะขยายใหญ่ขึ้น 2 เท่าตัว

    [​IMG]

    พระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ สอนการฝึกวิปัสสนาสมาธิ วิธีต่างๆ โดยใช้อุปกรณ์ พีระมิด และเหรียญสุขภาพ มาช่วยผู้ฝึก ที่ต้องการเยียวยารักษาอาการเจ็บป่วยของตนเอง และพัฒนาจิตของตนเองไปพร้อมกัน ทั้งขั้นต้นและหลังจากได้ไปถึงสภาวะจิตเดิมของตนเองแล้ว หรือถึง ทาง หรือ มรรค

    คืนหนึ่งภายหลังจากการฝึกสมาธิหมุนจบสิ้นลง หลวงพ่อมักจะเปิดโอกาสให้ถามคำถามต่าง ๆ ที่ผู้มาฝึกเกิดสงสัยขึ้น หากไม่มีคำถามหลวงพ่อก็มักจะเล่าประสบการณ์ของท่านให้ฟังกัน คืนนั้นท่านพูดถึงการขึ้นไปเผยแพร่ธรรมะบนดอยของท่าน รวมไปถึงการประกอบพิธีสมโภชพระธาตุที่สร้างขึ้นบนดอย ซึ่งขณะที่กำลังบรรจุพระธาตุเข้าองค์เจดีย์นั้น ฟ้าที่ขมุกขมัวก็เปิดเป็นแสงสว่างจ้าส่องลงมาเป็นลำ สร้างความแปลกใจแก่คนที่อยู่ในพิธี หลวงพ่อบอกว่า ท่านถึงกับขนลุก ซึ่งผมเองก็อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย ยังอดแปลกใจไม่ได้

    จากนั้นท่านเล่าว่า ขณะที่ท่านจะแผ่เมตตานั้น ท่านไม่สามารถที่จะทำได้ เพราะว่าวิญญาณบนดอยไม่ยอมรับ การแผ่เมตตานั้น เนื่องจากถึง เวลาที่พวกเขาจะได้ลงมาเกิดแล้ว ท่านได้อธิบายต่ออย่างละเอียดว่า แต่เดิมชาวเขาไม่ได้อยู่บนดอย แต่อยู่ในที่ลุ่มเป็นเจ้าแผ่นดินเดิม พระของพวกเขาจะกินเจคล้าย ๆ กับพระจีน แต่เมื่อพุทธศาสนาลังกาวงศ์เข้ามาสู่ประเทศไทยสมัยสุโขทัย พระของลัทธิลังกาวงศ์นั้น ฉันเนื้อได้ และมีลักษณะเหมือนพระในปัจจุบัน พวกเจ้าถิ่นเดิมก็ถูกทำลายล้าง จนต้องหนีขึ้นไปอยู่บนดอยนับตั้งแต่นั้นจนเหลือชาวเขา ในปัจจุบัน ซึ่งบัดนี้วิญญาณที่ถูกทำลายล้างไปนั้น ได้เวลาที่จะกลับลงมาแล้ว พวกเขาจึงไม่ยอมรับการแผ่เมตตาที่ได้แผ่ไปให้

    'มันเป็นกรรมของพวกเขา เคยทำอย่างไรกับพวกเขาก็จะต้องโดนกลับคืนบ้าง อีกหน่อยพระทั้งหลายจะต้องถูกยึดเงินจนหมด และก็ไม่สามารถอยู่ในสภาพพระเช่นนี้ได้ เมื่อเรื่องพระหมดไป หลังจากนั้นอีกประมาณปีครึ่งก็จะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3'

    (การหยั่งรู้การณ์ล่วงหน้าของพระอาจารย์นี้ อาจไปคล้องจองกับ การรมควันต้นมะม่วง ให้ออกผล ที่ในหลวงทรงกล่าวถึงเอาไว้ในหนังสือ พระมหาชนก..ซึ่งจะรวมไปถึงยกเลิกการแต่งตั้งยศฐาบรรดาศักดิ์ให้แก่คณะสงฆ์ออกไป กลับไปปฏิบัติตามแบบอย่างในพุทธกาลที่เรียบง่ายงดงาม และทำการสังคายนาพระธรรมวินัยเสียใหม่ ให้การปฏิบัติต่างๆ ตรงกับในพระธรรมวินัยเช่น ตอนต้นพุทธกาลอีกวาระหนึ่ง และจะได้ขออโหสิกรรม กฏระเบียบที่ราชวงศ์จักรีได้กำหนดขึ้นไว้กับพระรัตนตรัย และเสริมบุญบารมีให้แก่ส่วนรวมของประเทศไทยสืบไป)

    ผมถึงกับตะลึงที่ท่านพูดถึงเรื่องนี้ออกมา โดยไม่มีใครถาม ท่านเลย และเป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินกับหูที่ท่านได้พูดถึงเรื่องอนาคต ท่านบอกว่า จริง ๆ แล้วไม่ค่อยอยากเล่านัก เพราะจะทำให้คนตื่นกลัวกัน แต่ที่ท่านเล่าให้ฟังก็เพื่อไม่ให้พวกเราประมาท และเรื่องราวต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นนั้นอยู่ในวิสัยของท่านที่จะรู้ได้

    'โยมก็จำเอาไว้เล่น ๆ ก็แล้วกัน ถ้าหากเหตุการณ์เหล่านี้มันเกิดขึ้น ก็จะนึกได้ว่า อ๋อ หลวงพ่อเคยพูดไว้'

    ท่านกล่าวอย่างติดตลก ในคืนถัดมา เมื่อผมได้มีโอกาสซักถามกับท่านโดยตรง ท่านได้เล่าเกี่ยวกับรายละเอียดของเรื่องที่จะเกิดขึ้นอย่างชัดเจน มีการระบุถึงบุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ด้วย แต่ผมคงจะขอข้ามส่วนนี้ไป เพราะเป็นรายละเอียดปลีกย่อยเกินไป และโดยส่วนตัวแล้ว ผมสนใจในภาพรวมที่จะเกิดขึ้นมากกว่า

    'ถ้าเกิดสงครามโลกแล้วเราจะทำอย่างไรดีครับ ?' มีคนถามขึ้น

    'ไม่ต้องกลัวหรอกโยม' ท่านตอบ

    แต่แทนที่คำตอบของท่านจะทำให้หายกลัว สำหรับผมแล้วกลับตะลึงหนักเข้าไปอีก เพราะท่านได้พูดต่อว่า

    'ไม่รู้ว่าพวกเราจะได้อยู่ทันดูสงครามโลกครั้งที่ 3 หรือเปล่า'

    หลายคนอาจดีใจว่า สงครามโลกอาจจะใช้เวลาอีกนานกว่าจะเกิดซึ่งตัวเองก็คงตายไปเสียก่อนอะไร ทำนองนั้น แต่ในความคิดของผม คนเราอาจมีสิทธิ์ตายจากภัยพิบัติอย่างอื่นได้ก่อนเกิดสงคราม ซึ่งหลังจากนั้นหลวงพ่อได้เล่าต่อไปว่า การใช้น้ำมันอย่างสิ้นเปลืองจะทำให้ ธาตุต่าง ๆ ที่ประกอบขึ้นเป็นโลกแปรปรวน ในแกนกลางของโลกซึ่งเอียงอยู่ประมาณ 23 องศาครึ่ง จะมีมโนธาตุมากขึ้น คือมันจะกลวง และเบาขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุดมันจะพลิกตัวลงอย่างกระทันหัน (หลวงพ่อทำมือให้ดู)

    'ทำให้เกิดภัยพิบัติอย่างรุนแรงแก่มนุษย์ทั้งหลาย คนจะลอยเคว้งคว้างไปทั่ว บ้างหาที่เกาะแต่ไม่อยู่'

    (ในประเด็นคนลอยเคว้งคว้างนี้ เคยได้รับทราบจากลูกศิษย์พระอาจารย์ ที่ติดตามปฏิบัติวิปัสนากรรมฐาน กับพระอาจารย์มา 15 ปี ที่ KU HOME ที่พระอาจารย์จะลงมาให้การอบรม 2 เดือน/ครั้ง ได้พูดถึงการเตรียมเซฟเฮ้าส์ ว่าในห้องนอน ไม่ควรมีสิ่งของ ตู้โต๊ะที่จะเคลื่อนที่หรือล้มมาทับคนที่อยู่ข้างใน หรือเราซวนเซไปกระแทกเข้า ม่ว่าจะเป็นผนังห้อง หรือเพดาน และหน้าต่างก็ไม่ควรใช้กระจก ให้เป็นบานไม้แทน แต่ตอนนั้นได้ฟังแล้วก็ไม่ได้ซักถามในรายละเอียดและเหตุผลว่าทำไม ต้องเตรียมห้องนอนหลบภัย ในแบบที่กล่าวแล้ว

    เมื่อได้มารับทราบจากบทความในเว็บเพจนี้ แล้วนำมาต่อจิ๊กซอร์กันแล้ว ทำให้เข้าใจสภาพอนาคตที่จะเกิดขึ้นอย่างชัดเจน และลูกศิษย์พระอาจารย์ท่านเดิมยังได้เน้นว่า เมื่อสัญญาณอันตรายปรากฏขึ้น ซึ่งในตอนนั้นก็ไม่ได้ถามว่าเป็นสัญญาณชนิดใดอีกเหมือนกัน ต่อเมื่อได้มาติดตามค้นหาข้อมูลต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศมากๆเข้า จึงได้ภาพที่ชัดเจน ว่าสัญญาณอันตราย สิ่งหนึ่ง ก่อนจะเกิดเหตุภัยพิบัติ ครั้งรุนแรงวาระแรก พระอาทิตย์จะส่องแสงสีแดงออกส้ม ก่อนจะลับฟ้า และจะเห็นพระอาทิตย์ขึ้น 2 ดวง

    และต่อมาจะเกิดสุริยุปราคาขึ้น ก่อนที่ดาวต่างๆจะมาเรียงตัว เป็นแถวเดียวกัน ในระนาบของกาแลกซี่ทางช้างเผือก ตั้งแถวเล็งไปที่ดาวหลุมดำ ใจกลางของแกแลกซี่ทางช้างเผือก และต่อมาทั่วจักรวาลต่างๆจะเห็นแสงวาบสว่างผิดปกติเกิดขึ้น ผู้ที่ได้เตรียมการอพยพไปที่หลบภัยเอาไว้ล่วงหน้า ให้รีบออกเดินทางทันที และควรเข้าถึงที่พักภายใน 6-7 ชั่วโมงเป็นอย่างช้า

    หากต้องผ่านเขตที่มีแผ่นดินไหวมาก ถนนอาจแตกหักใช้การไม่ได้ และมีสิ่งก่อสร้างต่างๆหักพังลงมากีดขวางทางจราจร และอุปสรรคอื่นๆอีกหลายๆอย่าง เพื่อความปลอดภัยของชีวิตตนเอง เมื่อตกผลึกความเห็นของตนเองแล้ว ว่าเหตุเภทภัยจะเกิดประมาณเวลาใด วันใด เดือนใดแล้ว ท่านก็ควรเดินทางไปถึงเซฟเฮ้าส์ล่วงหน้าเสียก่อนอย่างน้อย 3-5 วัน จะได้ไม่ต้องขับรถไปลุ้นไปว่าทางข้างหน้าที่ทุกคนต่างเร่งรีบ จะยังพอมีช่องทางให้เราเดินทางไปถึงที่หมายหรือไม่.....ท่านที่สนใจติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ลิงค์นี้ และอีกลิงค์

    แล้วรถของเราจะต้องตรึงเอาไว้หรือเปล่า ส่วนเซฟเฮ้าส์ เป็นสิ่งแน่นอน ที่ต้องยึดเหนี่ยวเอาไว้ให้มั่นคงติดกับพื้นดิน และป้องกันลมพายุที่พัดรุนแรงผิดปกติเอาไว้ด้วย ท่านจึงต้องคาดการณ์ทิศทางลม ในบริเวณที่ท่านเลือกทำเลสร้างเซฟเฮ้าส์ด้วย ว่าควรจะมีลมพัดแรงมาในทิศทางใด จะได้ปรับทิศของสิ่งก่อสร้างให้ต้านลมน้อยที่สุด

    ส่วนที่เป็นหลังคา ท่านอาจต้องเตรียมป้องกันลูกเห็บขนาดใหญ่ หรือสเก็ดของแข็งจากท้องฟ้า ตกลงมา กระแทก เมื่อเร็วๆนี้ ลูกเห็บที่ตกที่แคนาดาใหญ่โตถึง 1 ฟุต คงต้องมีมาตรการป้องกัน ...ส่วนในโซนประเทศไทย น่าจะเป็นเศษขยะอวกาศที่เหลือจากการเผาไหม้ในอากาศไม่หมดมากกว่า

    ทั้งในรูปแบบทางวิศวกรรม และในรูปแบบของกำลังภายใน ที่อิงกับพลานุภาพของพระรัตนตรัย ที่จะได้พิสูจน์กันคราวนี้ ต่อหน้าต่อตา ของผู้ที่จะต้องอยู่เผชิญ สิ่งแวดล้อม ที่ไม่เคยคาดคิดว่าจะเป็นไปได้ พยายามนำบางเรื่อง ที่นึกได้นำมาปูแนวความคิดให้หลายๆท่าน ได้นำไปใช้ต่อยอด ด้านความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว ไม่ใช่เตรียมเซฟเฮ้าส์เอาไว้อย่างดี ไปถึงแล้วกลับไม่ปลอดภัยแก่ชีวิต ทั้งลม ฝน และสภาพไร้น้ำหนักของโลก ที่ไม่มีแกนพลังงานหลงเหลืออยู่

    ดูคล้ายๆกับอยู่ในซิมมูเลเตอร์ของนักบินอวกาศ จนกว่าโลกที่เหลืออยู่จะได้สถาปันนาแกนพลังงานใหม่แน่นอนแล้ว ดูๆไปก็น่าสนุกดีระหว่างที่ลอยไปลอยมาในที่จำกัดภายในเซฟเฮ้าส์เล็กๆ)

    เมื่อได้ทราบข้อมูล คนตัวเบาจากพระอาจารย์รัตน์ เบาจนอยู่ในสภาพเหมือนแหวกว่ายอยู่ในอวกาศ เรื่องนี้ก็ยังติดอยู่ในใจเรื่อยมา ต่อมาเมื่อเช้าวันที่ 22 ก.ย. 2553 จึงได้ข้อมูลเพิ่มเติมเข้ามาว่า ตัวคนจะขยายใหญ่ขึ้นประมาณ 2 เท่าตัว สร้างปัญหากับผู้ที่อยู่ในที่แคบๆเช่นในเรือดำน้ำ จะผ่านช่องแคบๆในเรือไม่ได้ ส่วนผู้ที่กำลังอพยพเคลื่อนย้ายหนีภัยในวินาทีสุดท้ายทางรถยนตร์ จะมีปัญหา

    ถ้ามีผู้โดยสารเต็มคัน รถยนตร์จะรับน้ำหนักน้อยลงแต่ขนาดใส่ผู้โดยสารไม่เพียงพอ และอีกประการหนึ่ง กำลังคลื่นแม่เหล็กที่ดวงอาทิตย์ส่งมาให้โลกตลอดเวลา ยังทำให้อารมณ์ของคนวิปโกรธกันได้ง่ายมาก ในเรื่องที่รู้สึกขัดหูขัดใจเพียงเล็กน้อย ปัญหาทางอารมณ์ที่ทรามลงไปนี้ จะสร้างปัญหาแก่มนุษย์และสังคมมากทีเดียว

    โดยความเป็นจริงของพลังงานเส้นแรงแม่เหล็ก ที่ท่วมโลกมากขึ้นทุกวันในปัจจุบันนี้ ก็สร้างปัญหาด้านสุขภาพแก่สิ่งมีชีวิตมากขึ้นทุกวันอยู่แล้ว เนื่องจากโลกต้องรับพลังงานมาจากดวงอาทิตย์และดาวหลุมดำใจกลางกาแลกซี่ทางช้างเผือก เพิ่มขึ้นตลอดเวลาทุกวินาที แต่ไม่สามารถคลายออกปล่อยทิ้งไปทางขั้วโลกใต้สู่ดวงดาวดวงอื่นๆ กลับเก็บพลังงานเอาไว้ทั้งหมด จึงสร้างปัญหาเช่นอากาศร้อนเพิ่มขึ้นเร็วมาก

    พร้อมกับเพิ่มปริมาณรังสีแกมม่าที่นักวิจัยเยอรมันค้นพบที่บริเวณขั้วโลกเหนือ และยังไปเพิ่มปริมาณความร้อนให้ภายในเซลล์ทั่วร่างกาย หากมนุษย์ไม่มีเครื่องป้องกันคลื่นพลังงานตัวนี้ ความร้อนภายในเซลล์ทำให้นิวเครียสขยายตัว และยังมีผลกระทบต่อจิตใจ ให้หงุดหงิดและโกรธง่ายอีกด้วย ซึ่งจะเป็นปัญหาส่วนบุคคลและสังคมสูงยิ่งขึ้นโดยลำดับ

    ได้ฟังการสัมมนาเจาะลึกภัยพิบัติ เมื่อ 29 ธ.ค. 2553 ที่ ม.ศรีปทุมและองค์กรอื่นๆอีก 3 รายช่วยกันจัดขึ้นนั้น พระอาจารย์รัตน์ได้เปิดเผยในที่ประชุมทราบว่าโลกกำลังเผชิญกับประจุลบจำนวนมหาศาลจากกาแลกซี่อันโดรเมดา ส่งมา ซึ่งจะมีผลร้ายแก่สุขภาพมนุษย์สัตว์สิ่งมีชีวิตต่างๆ มนุษย์จะยิ่งหายใจลำบาก ขาดน้ำในร่างกายมากขึ้น เลือดจะกลายเป็นกรดมากขึ้น หากความเป็นกรดลงมาถึง pH 6.6 จะเกิดอาการโคม่า

    วิกฤตที่พูดถึงจะไม่เกิดขึ้นทันที ไม่ต่างกับน้ำซึมบ่อทราย หรือตายผ่อนส่งโดยคนส่วนใหญ่ไม่ทราบสาเหตุ และไม่เคยคิดหาอุปกรณ์ป้องกันชีวิตตนเอง หรือแม้แต่ผู้ที่ได้รับฟังกับหูตนเอง ก็ยังงมีอีกมาก รับไม่ได้และยากที่จะเข้าใจ เนื่องจากมันเป็นพลังงานลบ ต้องใช้คุณภาพจิตที่ละเอียดพอสมควร

    เมื่อวันที่ 3 ม.ค. 2554 ได้มีโอกาสไปกราบท่านครูบาอินทร เจ้าอาวาสวัดสันป่ายางหลวง ที่ จ.ลำพูน ได้เรียนปรึกษาท่านถึงการเล็งๆที่ดินที่วังน้ำเขียวเอาไว้ พระคุณเจ้าตอบทันทีว่าที่นั่นเหนื่อยนะ ก็พอจะเข้าใจสิ่งที่ท่านเตือน มาทบทวนในพุทธทำนายว่าพื้นที่ภาคอิสานจะไม่ประสบภัยพิบัติมากนัก โดยเฉพาะแผ่นดินไหว แต่หลังเหตุรุนแรงของโลกผ่านไปบริเวณภูมิภาพนี้จะอดอยากและมีโรคระบาดมากที่ผุ้คนจะล้มตาย

    ตามธรรมดาผลย่อมเกิดแต่เหตุ ก็น่าเสียใจ ที่พี่น้องทางภาคนี้ ค่อนข้างเชื่อข่าวต่างๆง่าย และไม่มีเวลาและอุปกรณ์ในการตรวจสอบข่าวสาร จึงเชื่อคำโฆษณาด้านลบต่างๆได้โดยง่าย จึงถูกพาลงเหวมรณะไปโดยที่ตนเองไม่ได้ตั้งใจ เมื่อในใจของพี่น้องเหล่านี้ไปยึดมั่นในสิ่งที่เป็นปีศาจ หรือมารร้าย จึงกลายเป็นพวกของมารไปโดยไม่รู้ตัว กลายเป็นเหยื่อของมารที่จะมาล้างผลาญชีวิต ตามที่พระแม่องค์ธรรม หรือพ่อเกิดแม่เกิดของทุกสรรพสัตว์ ท่านเปิดเผยให้ทราบ ในที่สุดที่ยังคงเหลือคือผืนแผ่นดินที่แห้งแล้วอดอยาก ยากที่สิ่งมีชีวิตจะดำรงค์ชีวิตอยู่ได้ เมื่อต้องอดทั้งน้ำและอาหาร และยังอุดมไปด้วยโรคระบาดร้ายแรงอีกด้วย แล้วอย่างนี้สภาพชีวิตจะมีอะไรเหลือ

    ในรายละเอียดลึกๆพี่น้องชาวอิสานคงจะตระหนักแก่ใจได้ดี ว่าสภาวะการดำรงค์อยู่ในสังคมส่วนใหญ่ในภูมิภาคของอิสานนั้นเป็นอย่างไร พลังงานของจิตโดยรวมที่เป็นลบจะดึงดูดสิ่งที่เป็นลบด้วยกันเข้ามาโดยอัตโนมัติ ที่เล่าให้ฟังนี้เป็นการขยายความ 'คำ' ของท่านครูบาอินทร ที่ท่านใช้คำว่าเหนื่อยนะที่นั่น แต่อย่างไรก็ตามในบางจังหวัดที่ในพุทธทำนาย ได้พูดถึงว่าจะพออยู่ได้บางจังหวัดเช่นที่อุดร อุบล เป็นต้น

    สำหรับผู้ที่ต้องรับมือสิ่งรบกวนทั้งความร้อนรอบร่างกาย และความร้อนสะสมในร่างกายทั่วทุกเซลล์ ร้อนทั้งนอกร้อนทั้งใน มีออกซิเจนสำหรับหายใจน้อยลง ผสมกับคนปัจจุบันหายใจถี่และตื้น ก็จะทำให้หัวใจหยุดเต้น เพิ่มปริมาณมากขึ้นอย่างน่าสงสาร ที่จะมีมนุษย์ทั่วโลกเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิด เช่นเดือนที่แล้ว ชาวมอสโคว์เสียชีวิตนับหมื่นคน ต้นเดือน ก.ย. ทางญี่ปุ่นเริ่มเสียชีวิตและอีกครึ่งแสนต้องเข้าโรงพยาบาลด่วน โดยคลื่นความร้อนปรากฏขึ้นเป็นโซนๆ หมุนเวียนไปทั่วโลก)

    คนที่จะรอดได้ก็คือ....คนที่สามารถตัด 'จิตใจ' ออกจากร่างกายที่เจ็บปวดได้เท่านั้น (ท่านยกตัวอย่างคนที่ถูกผ่าตัดแล้วไม่เจ็บ) และท่านยังบอกว่าการทดลองนิวเคลียร์ของฝรั่งเศส จะทำให้เหตุการณ์นั้นเกิดเร็วยิ่งขึ้น ผมไม่แน่ใจว่าที่ท่านบอกว่าแกนโลกจะพลิกนั้นเป็นอย่างเดียว ' Pole Shift' หรือเปล่า ?

    หลวงพ่อท่านกล่าวต่ออีกว่า ภัยพิบัติทางธรรมชาติจะมากขึ้น อากาศแปรปรวน แผ่นดินไหว น้ำท่วมจะรุนแรงขึ้นตามลำดับ (จากกรุงเทพ ฯ ถึงนครสวรรค์จะจมน้ำหมด และศูนย์กลางจะย้ายมาอยู่ที่ลำพูน)

    หากแพนดูในแผนที่ พื้นที่ราบใน จ.นครสวรรค์ จะสูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 100 เมตร เอ็ดการ์ เคซี่ย์ นักพยากรณ์เหตุการณ์อนาคต ที่มีชื่อเสียงของสหรัฐฯ ได้มองเห็นว่าโลกจะมีระดับน้ำทะเลขึ้นสูงกว่าเดิม 9 เมตร ในเมื่อ พื้นที่จังหวัดนครสวรรค์กลายเป็นทะเล นั่นแสดงว่าพื้นที่ดินอ่อน กทม.และที่ลุ่มภาคกลาง แถบนครสวรรค์ยังถูกน้ำทะเลท่วมถึง พื้นที่เหล่านี้ต้องได้รับคลื่นแผ่นดินไหวรุนแรงและเป็นเวลาหลายชั่วโมงติดต่อกัน ดินจึงเสียโครงสร้างรับน้ำหนักตัวเองไม่ได้ และยุบตัวลง ซึ่งประเทศต่างๆรอบประเทศไทยล้วนมีพื้นที่ใช้สอยอยู่ในพื้นราบในระดับต่ำกว่า100 เมตร เหนือน้ำทะเลเป็นส่วนใหญ่ หากใช้น้ำทะเลท่วมนครสวรรค์เป็นเกณฑ์ พื้นแผ่นดินในแหลมอินโดจีนก็จะถูกท้องทะเลกลืนกินไปมากกว่าครึ่ง นอกจากส่วนที่เป็นภูเขาสูงกว่า 200 เมตรขึ้นไป ทั้งนี้ก็รอคอยดูกันต่อไปอีกไม่นานก็จะปรากฏผลให้เห็นแผนที่โลกใหม่ ของนายกอร์ดอน ที่ยังพิมพ์จำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน

    ทั้งนี้ยังไม่ได้นำเม็กกะสึนามิ ที่เกิดจากแผ่นทวีปเคลื่อนตัว และเกิดจากภูเขาไฟใต้ทะเลระเบิด คลื่นขนาดใหญ่เหล่านี้ทั้งกดและดูด พื้นดินอ่อนจึงถูกทำลายลงอย่างรวดเร็ว และคลื่นสึนามิ มิได้เกิดจาก 2 สาเหตุที่กล่าวแล้วเท่านั้น ลมพายุที่พัดรุนแรงและก้อนอุกกาบาดขนาดต่างๆที่ตกลงมาจากฟ้า ก็ยังสร้างความเสียหายบนพื้นผิวโลกได้อย่างรวดเร็ว เช่นแห่งสำคัญๆของโลก ที่ปรากฏภาพต่อการหยั่งรู้ของนอสตราดามุส ก็เป็นสิ่งที่มนุษย์ยากจะคาดคิด ว่าระหว่างที่ดาวหางดวงใหญ่พร้อมบริวารอีก 5 ดวง จะมีของแถมมาให้แก่ชั้นบรรยากาศของโลก ให้ชาวโลกได้อกสั่นขวัญผวากันได้ไม่น้อยเลย ท่านที่สนใจลองแวะศึกษาในลิงค์ต่างๆได้ตามต้องการ

    ที่มา http://ainews1.com/article370.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 540111p1.jpg
      540111p1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      31.9 KB
      เปิดดู:
      1,821
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2011
  12. พญาเสือดาว

    พญาเสือดาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    452
    ค่าพลัง:
    +503
    อยากถามพี่เกษมพี่คิดหว่าตอนนี่ พระศรีอริยเมตไตรย ท่านมาเเล้วหรือยังครับ อยากรู้ความคิดของพี่หน่อยครับ อิอิ
     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ในความคิดของผม เชื่อว่าท่านจุติลงมาจากสวรรค์ชั้นดุสิต ลงมาเกิดที่ประเทศไทยนานแล้วครับ เหตุเพราะพระโพธิสัตว์ที่มีบารมีเต็มแล้ว ท่านจะไม่นั่งๆนอนๆ เสวยสุขอยู่แต่บนสวรรค์อย่างที่หลายคนเข้าใจครับ จิตใจของพระโพธิสัตว์ท่านจะเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน ในตอนนี้โลกมนุษย์กำลังต้องการผู้นำด้านจิตวิญญาณ ที่จะมานำทางให้สรรพสัตว์ทั้งหลาย ได้เดินไปสู่หนทาง มรรค ผล นิพพาน อย่างแท้จริง พระศรีอาริย์โพธิ์สัตว์ท่านจึงจำเป็นต้องจุติลงมาเพื่อทำหน้าที่นี้ครับ
     
  14. จอมพล GAY

    จอมพล GAY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    244
    ค่าพลัง:
    +219

    ด้วยความเคารพ

    ทำไมต้องมาจุติเป็นกายเนื้ออ่ะครับ ไม่รอให้เกิดภัยพิบัติแล้วลงมาช่วยทีเดียวเลย
     
  15. บัวรองพุทธบาท

    บัวรองพุทธบาท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    194
    ค่าพลัง:
    +745
    อย่าลังเลสงสัย ในเมตตาธิคุณของพระโพธิสัตว์ทั้งหลายเลยครับ พรหมวิหาร ท่านเต็มเปี่ยม เรื่องบ้างเรื่องคิดไปก็เข้าใจ บางเรื่องก็ไม่เข้าใจ บางเรื่องคิดไปเองว่าเข้าใจทั้งที่ไม่เข้าใจอะไรเลย คิดว่าเป็นเรื่องอจินไตยครับ ไม่พึงควรคิดครับ
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เพราะกายเนื้อมนุษย์นี้ต้องอาศัยเวลาแห่งการเจริญวัย กว่าจะโตเป็นหนุ่มได้ก็กินเวลาอย่างน้อย 20 ปีขึ้นไป ถ้าจะรอให้เกิดภัยพิบัติแล้วค่อยลงมาเกิด ก็ต้องอาศัยเวลาแห่งการเจริญเติบโตอีกตั้ง 20 ปี จึงจะเข้าวุฒิภาวะแห่งการเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว แล้วในสภาวะแห่งการเกิดภัยพิบัติอย่างนั้น ใครจะทนรอความช่วยเหลืออยู่ได้ คุณลองดูภัยน้ำท่วมตอนนี้ดูก็ได้ว่าเวลาที่มีผู้ประสพภัยน้ำท่วมอยู่นั้น พวกเขาต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนมากเพียงใด...

    ส่วนที่คุณ จอมพล GAY สงสัยว่าทำไมไม่ลงมาช่วยในขณะที่ยังเป็นเทวดาอยู่ ผมก็ขอตอบว่าถ้าอยู่กันคนละภพภูมิ มันช่วยอะไรกันไม่ได้มากนักหรอกครับ จะให้ท่านลงมาประทับทรงคนโน้นคนนี้มันก็ดูไม่เหมาะสม เหมือนยืมจมูกคนเขาอื่นหายใจ มันย่อมไม่สะดวกสบายเหมือนใช้จมูกของตัวเองครับ อีกอย่างเวลาพระโพธิสัตว์จะสร้างบารมี ก็ต้องอาศัยกายมนุษย์นี้แหละครับถึงจะสร้างบารมีได้เต็มที่ ยึ่งงานสืบต่ออายุของพระพุทธศาสนาให้ยืนยาวไปจนครบ 5,000 ปี ยิ่งต้องลงมาทำด้วยตัวเอง เพราะเป็นงานหนักที่ต้องต่อสู้กับอุปสรรค มีมารผจญคอยกลั่นแกล้งขัดขวาง ต้องอาศัยบุญบารมีที่สั่งสมมาแล้วอย่างมากมาย จึงจะสามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆไปได้ และสามารถสร้างโลกใหม่ที่มีแต่สันติสุขได้อย่างที่ใจพระองค์ท่านต้องการได้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ธันวาคม 2011
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ท้าวสักกะเสด็จมานิรมิตสมบัติให้พระศรีอาริย์

    [​IMG]

    ตามตำนานพระศรีอาริย์จุติ ได้กล่าวเอาไว้ว่า เมื่อพระศรีอาริย์ได้เข้าพิธีอุสสาราชาภิเษกแล้ว พระอินทร์จะมาเนรมิตปราสาท 3 หลังให้พระศรีอาริย์ พร้อมทั้งเนรมิตพระนครใหม่ มีบ้านเรือน 36 ล้านหลังให้ภายในพระนครใหม่นั้น ซึ่งตามตำนานกล่าวเอาไว้ว่าอยู่ที่เมืองเชียงใหม่ของประเทศไทยเรานี่เอง

    เรื่องของพระศรีอารย์ในช่วงกึ่งพุทธกาลนี้ ผมทราบดีว่าเป็นเรื่องที่คนในยุคสมัยนี้ ยากจะเชื่อว่ามันจะเป็นไปได้ พระอินทร์จะมาเนรมิตปราสาท 3 หลังให้จริงหรือ และจะมาเนรมิตเมืองใหม่ที่มีบ้านเรือนตั้ง 36 ล้านหลังได้จริงหรือ ฟังดูเหมือนเป็นนิทานที่เล่าให้เด็กฟังก่อนนอน อะไรประมาณนั้น ผมจึงขออนุญาตยกเรื่องของ"พระโชติกะเถระ" ตามที่มีปรากฎอยู่ในพระไตรปิฎก เป็นหลักฐานยืนยันว่า เรื่องที่พระอินทร์มาเนรมิตปราสาทให้ผู้มีบุญนั้นเป็นเรื่องจริง ในสมัยพุทธกาลก็เคยเกิดปรากฎการณ์เช่นนี้มาก่อนแล้ว ในพระไตรปิฎกก็มีบันทึกยืนยันไว้เป็นหลักฐานดังนี้

    ท้าวสักกะเสด็จมานิรมิตสมบัติให้โชติกเศรษฐี

    ท้าวสักกะทรงใคร่ครวญดูว่า "นี้เหตุอะไรหนอแล?" ทรงทราบว่า "ชน<WBR style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 16px verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(0,0,0); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(239,235,239); orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">ทั้งหลาย<WBR style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 16px verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(0,0,0); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(239,235,239); orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">กำลัง<WBR style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 16px verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(0,0,0); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(239,235,239); orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">จับ<WBR style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 16px verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(0,0,0); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(239,235,239); orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">จอง<WBR style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 16px verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(0,0,0); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(239,235,239); orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">ที่<WBR style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 16px verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(0,0,0); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(239,235,239); orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">ปลูก<WBR style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 16px verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(0,0,0); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(239,235,239); orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">เรือน<WBR style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 16px verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(0,0,0); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(239,235,239); orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">เพื่อโชติกะ" ทรงดำริว่า "โชติกะนี้ จักไม่อยู่ในเรือนที่ชนเหล่านั่นทำแล้ว, การที่เราไปในที่นั้น ควร" แล้วเสด็จไปที่นั้นด้วยเพศแห่งนายช่างไม้ ตรัสว่า "พวกท่านทำอะไรกัน?"

    เหล่าชน. พวกฉันจับจองที่ปลูกเรือน สำหรับโชติกะ.

    ท้าวสักกะตรัสว่า "พวกท่านจงหลีกไป, โชติกะนี้จักไม่อยู่ในเรือนที่พวกท่านปลูก" แล้วทอดพระเนตรดูภูมิประเทศประมาณ ๑๖ กรีส.

    ภูมิประเทศนั้นได้เป็นที่สม่ำเสมอในทันใดนั้นนั่นเอง ดุจวงกสิณ. ท้าวเธอทรงดำริอีกว่า "ขอปราสาท ๗ ชั้นสำเร็จด้วยแก้ว ๗ ประการ จงชำแรกแผ่นดินผุดขึ้น ณ ที่นี้" แล้วทอดพระเนตรดู. ปราสาท (เห็นปานนั้น) ผุดขึ้นแล้วในขณะนั้นนั่นเอง. ท้าวสักกะทรงดำริอีกว่า "ขอกำแพง ๗ ชั้น ที่สำเร็จด้วยแก้ว ๗ ประการ จงผุดขึ้นแวดล้อมปราสาทนี้" แล้วทอดพระเนตรดู. กำแพงเห็นปานนั้นผุดขึ้นแล้ว.

    ครั้งนั้น ท้าวเธอทรงดำริว่า "ขอต้นกัลปพฤกษ์ทั้งหลาย จงผุดขึ้นในที่สุดรอบกำแพงเหล่านั้น" แล้วทอดพระเนตรดู. ต้นกัลปพฤกษ์ทั้งหลายเห็นปานนั้น ผุดขึ้นแล้ว. ท้าวเธอทรงดำริว่า "ขุมทรัพย์ ๔ ขุม จงผุดขึ้นที่มุมทั้ง ๔ แห่งปราสาท" แล้วทอดพระเนตรดู. ทุกสิ่งได้มีอย่างนั้นเหมือนกัน.

    ก็บรรดาขุมทรัพย์ทั้งหลาย ขุมทรัพย์ขุมหนึ่งได้มี<WBR>ประมาณ<WBR>โยชน์<WBR>หนึ่ง, ขุม<WBR>หนึ่ง<WBR>ได้<WBR>มี<WBR>ประมาณ ๓ คาวุต, ขุมหนึ่งได้มีประมาณกึ่งโยชน์, ขุมหนึ่งได้มีประมาณคาวุตหนึ่ง, ที่ซุ้มประตูทั้ง ๗ ยักษ์ ๗ ตน ยึดการรักษาไว้แล้ว. ในซุ้มประตูที่ ๑ ยักษ์ชื่อยมโมลีพร้อมด้วยยักษ์พันหนึ่งที่เป็นบริวารของตน ยึดการรักษาไว้แล้ว, ที่ซุ้มประตูที่ ๒ ยักษ์ชื่ออุปปละพร้อมด้วยยักษ์ที่เป็นบริวารของตน ๒ พัน ยึดการรักษาไว้แล้ว, ที่ซุ้มประตูที่ ๓ ยักษ์ชื่อวชิระพร้อมด้วยยักษ์ที่เป็นบริวารของตน ๓ พัน ยึดการรักษาไว้แล้ว, ที่ซุ้มประตูที่ ๔ ยักษ์ชื่อวชิรพาหุพร้อมด้วยยักษ์ที่เป็นบริวารของตน ๔ พัน ยึดการรักษาไว้แล้ว, ที่ซุ้มประตูที่ ๕ ยักษ์ชื่อสกฏะพร้อมด้วยยักษ์ที่เป็นบริวารของตน ๕ พัน ยึดการรักษาไว้แล้ว, ที่ซุ้มประตูที่ ๖ ยักษ์ชื่อสกฏัตถะพร้อมด้วยยักษ์ที่เป็นบริวารของตน ๖ พัน ยึดการรักษาไว้แล้ว, ที่ซุ้มประตูที่ ๗ ยักษ์ชื่อทิสามุขะพร้อมด้วยยักษ์ที่เป็นบริวารของตน ๗ พัน ยึดการรักษาไว้แล้ว. ทั้งภายในและภายนอกแห่งปราสาท ได้มีการรักษาอย่างมั่นคงแล้ว ด้วยอาการอย่างนี้.

    ที่มาhttp://www.84000.org/tipitaka/attha/...25.0&i=36&p=33
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2011
  18. Ghosty Rat

    Ghosty Rat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 เมษายน 2005
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +364
    Swiss ski resorts hit by drought

    [​IMG] Swiss mountains have remained snow-free this year ภูเขาในสวิซยังไร้หิมะปีนี้
    The traditional start of Switzerland's ski season has been marred by a shortage of snow across the Alps. เทศสกีในสวิซถูกทำลายโดยภาวะขาดหิมะ ทั่วเทือกเขาเอล์ป

    The autumn has been the driest on record in the country. เป็นฤดูใบไม้ร่วงที่แล้งที่สุดในประวัติการณ์ของประเทศ
    Correspondents say the continuing drought is bad news for the country's tourism industry which is already suffering from the strong Swiss franc. นักข่าวกล่าวว่าภาวะแล้งที่กำลังเกิดเป็นข่าวร้ายสำหรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศซึ่งก็ย่ำแย่จากภาวะเงินแข็งตัวของสวิสฟรังค์ (เงินแข็งตัวทำให้เงินแพงและเพิ่มค่าใช้จ่ายหรับนักท่องเที่ยว)

    Big resorts such as Davos or St Moritz have been able to open a few runs with the help of snow cannons. Others have delayed the start of the season. รีสอร์ทใหญ่ๆอย่าง ดาวอส หรือ เซนต์มอริซท์ สามารถทำให้มีทางเล่นสกีหรือทำงานได้ด้วยความช่วยเหลือของปืนใหญ่หิมะ ในขณะที่เจ้าที่เหลือต้องเลื่อนเทศกาลหิมะไปก่อน

    The franc has risen sharply this year against the euro, the dollar and the British pound, making a skiing holiday in Switzerland far more expensive than in France, Italy or Austria . ค่าเงินสวิสฟรังค์ทะยานแบบโด่งในปีนี้เมื่อเทียบกับ ยูโร ดอลลาร์ กับเงินปอนด์ ทำให้การเล่นสกีในวันหยุดในสวิสแพงกว่าใน ฝรั่งเศส อิตาลี หรือออสเตรีย

    Praying for snow The BBC's Imogen Foulkes says now the lack of snow has added to the worries of hoteliers, ski instructors, and lift companies. วิงวอนหวังว่าจะมีหิมะ เจ้าหน้าที่บีบีซี อิโมเก้น โฟลเคส กล่าวว่า ภาวะขาดหิมะเพิ่มความวิตกให้กับโรงแรม ครูสอนสกี และ บริษัทลิฟท์ขนส่งขึ้นลงเล่นสกี

    There was some snow in parts of the Swiss Alps early on Saturday, but observers say this was not enough to kick-start the struggling ski season. บางที่ยังมีหิมะตกในเทือกเขาสวิสเอลป์ช่วงเช้าของวันเสาร์ที่ผ่านมา (วันนี้ของข่าว) แต่ผู้เห็นเหตุการณืบอกว่ายังตกไม่พอที่จะเริ่มเทศกาลสกีที่ยังติดขัดอยู่

    Alpine resorts in neighbouring countries are also experiencing shortages of snow. แม้แต่รีสอร์ทบนเทือกเขาในประเทศเพื่อนบ้านก็ประสบปัญหาเดียวกัน

    A hotel in Austria's Katschberg mountains has hired 15 chimney sweepers - which are associated with good luck in the country - to pray for snow.
    "We're confident things will go well now!" hotel manager Wolfgang Hinteregger said. โรงแรมในออสเตรียในเทือกเขา แคตท์เบิรค์ จ้างคนทำความสะอาดปล่องไฟ 15คน ซึ่งเกี่ยวข้องกับความโชคดีของประเทศ เพื่อวิงวอนหรือหวังว่าจะมีหิมะ "เราเชื่อมั่นว่าทุกอย่างต้องไปด้วยดี" โวลฟ์กัง ฮินเทอร์เรคเกอร์ กล่าว


    Reference
    BBC News - Swiss ski resorts hit by drought


    งานนี้หนักมากครับ แล้งทั่วโลกทั้งในอังกฤษและยุโรป ต่อไปอาหารคงหายากเพราะประเทศที่ผลิตได้จะน้อยลง บวกกับปลูกอย่างอื่นหรือโดนภัยธรรมชาติตัดกำลัง ผมก็หวังว่าอย่าให้เป็นจริงเลย...ทุกท่าน ผมเองก็สั่งคนของผมปลูกของกินเท่าที่ทำได้ที่บ้านพักตากอากาศที่ด่านซ้าย จังหวัดเลยไว้รับมือ เผื่อไว้ถึงผมไม่รอด จะได้ใครหนีทันจะได้ใช้ไอ้ที่ผมปลูกทิ้งไว้ในที่ได้ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเนอะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ธันวาคม 2011
  19. gun2555

    gun2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    701
    ค่าพลัง:
    +1,205
    ด่านซ้ายอยู่ในเขตลอยเลื่อน
     
  20. TLDC

    TLDC Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +94
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>จ้าละหวั่น! เยอรมนีสั่งอพยพคน 4.5 หมื่น หลังพบระเบิด WWII ก้นแม่น้ำไร[​IMG]
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>4 ธันวาคม 2554 19:06 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD vAlign=top width=500 align=middle>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ระเบิดน้ำหนัก 1.8 ตัน ในแม่น้ำไรน์ ลูกนี้ทำให้คน 45,000 คน กว่าครึ่งเมืองคอปเลนซ์ต้องอพยพออกจากรัศมี 1.8 กิโลเมตร ก่อนที่วันนี้ (4) ผู้เชี่ยวชาญจะเข้าปลดชนวนระเบิด</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี - ชาวเมืองคอปเลนซ์ ทางตะวันตกของเยอรมนี ประมาณ 45,000 คน ได้รับคำสั่งให้อพยพออกจากบ้านเรือน ในวันนี้ (4) ก่อนที่ผู้เชี่ยวชาญจะเข้าปลดชนวนระเบิดยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งถูกพบอยู่ก้นแม่น้ำไรน์ เมื่อเดือนที่ผ่านมา หน่วยดับเพลิงท้องถิ่นเปิดเผย

    ระเบิดของกองทัพอังกฤษน้ำหนัก 1.8 ตัน ลูกนี้ ถูกพบในแม่น้ำไรน์ หลังจากระดับน้ำลดลงต่ำจนเกือบแห้งขอด โดยทีมผู้เชี่ยวชาญจะเข้าปลดชนวนระเบิดทันทีที่สามารถอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงหมดทุกคน ทั้งนี้ ผู้ที่อาศัยอยู่ในรัศมี 1.8 กิโลเมตร จากจุดที่พบลูกระเบิด ได้รับคำสั่งให้อพยพออกจากบ้าน เพื่อความปลอดภัย

    เจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิง ตำรวจ เจ้าหน้าที่พยาบาล และเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองเมืองคอปเลนซ์ร่วม 2,500 คน รับหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกในการอพยพ โดยมีประชากรกว่าครึ่งเมืองที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งอพยพดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการอพยพครั้งใหญ่ที่สุดของเมืองคอปเลนซ์ ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง

    นอกจากนี้ โรงพยาบาล 2 แห่ง บ้านพักคนชรา 7 หลัง เรือนจำอีกหนึ่งแห่ง และโรงแรมอีกจำนวนหนึ่ง ต่างต้องอพยพผู้คนออกจากพื้นที่ มีการปิดการจราจรของถนนทุกเส้นในพื้นที่ สถานีรถไฟหลักก็หยุดให้บริการ

    อนึ่ง ระเบิดสัญชาติอังกฤษลูกนี้ ถูกพบตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน พร้อมกับระเบิดของกองทัพสหรัฐฯ น้ำหนัก 125 กิโลกรัม อีกลูกหนึ่ง ซึ่งจะมีการปลดชนวนระเบิดในวันเดียวกันนี้ ทันทีที่ได้รับคำยืนยันว่า อาคารทุกหลังในรัศมี 1.8 กิโลเมตร ได้อพยพคนออกหมดแล้ว

    เนิ่นนานกว่า 60 ปี หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง ทางการเยอรมนี เชื่อว่า เฉพาะในกรุงเบอร์ลินแห่งเดียว อาจมีระเบิดถูกฝังอยู่ประมาณ 3,000 ลูก ลูกระเบิดที่ยังไม่ทำงานเหล่านี้ส่วนใหญ่ถูกค้นพบระหว่างการก่อสร้างในพื้นที่ต่างๆ

    เมื่อเดือนมิถุนายน 2010 ระเบิดของฝ่ายพันธมิตรน้ำหนัก 500 กิโลกรัม ลูกหนึ่งที่คาดว่าเป็นของกองทัพอังกฤษ เกิดการระเบิด กระทั่งมีทหารช่างเยอรมนีเสียชีวิต 3 นาย และบาดเจ็บสาหัสอีก 2 นาย ในเมืองเกิททิงเกน ขณะทหารกลุ่มนี้กำลังเตรียมตัวปลดชนวนระเบิด
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...