สามแยก มาอีกแล้วครับ

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย teelor, 21 ธันวาคม 2011.

  1. teelor

    teelor Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2010
    โพสต์:
    137
    ค่าพลัง:
    +65
    หัวข้อ เป็นพระอริยะแล้วไม่ต้องทรงอารมณ์
    ลอง ชม ใน youtube กันครับ

    <object width="420" height="315"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/Vcr8STua-qM?version=3&amp;hl=th_TH&amp;rel=0"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/Vcr8STua-qM?version=3&amp;hl=th_TH&amp;rel=0" type="application/x-shockwave-flash" width="420" height="315" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></object>

    รบกวน ผู้รู้ ช่วยดูหน่อย และ ชี้แจง
    เพราะ ถ้าคนอื่นไม่รู้ มาดุ จะเกิดการเข้าใจผิดหรือเปล่า :boo:

    <object width="420" height="315"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/3InrhlOOZcE?version=3&amp;hl=th_TH&amp;rel=0"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/3InrhlOOZcE?version=3&amp;hl=th_TH&amp;rel=0" type="application/x-shockwave-flash" width="420" height="315" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></object>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ธันวาคม 2011
  2. b for buddha

    b for buddha สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +2
    ก็ถูกแล้วนี่ครับ พระอริยะที่ไหนจะไปทรงอารมณ์ให้มันเป็นอัตตาขึ้นมาอีกครับ

    เพราะอะไร?

    ก็เพราะว่าขันธ์ห้าไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวเรา พอละสักกายทิฏฐิ คือความเห็นว่าขันธ์ห้าเป็นตัวเราได้แล้ว พระอริยะก็จะไม่ทรงอารมณ์อีก ปล่อยให้มันเกิดดับเองตามธรรมชาติธรรมดาของมัน โดยไม่มีตัวตนซ้อนลงไปในการเพ่ง เกร็ง บังคับอีก หมดตัณหาในการไปมีเจตนาบังคับสภาวะอะไรอีก
     
  3. surer

    surer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,508
    ค่าพลัง:
    +1,317
    เจ้าของกระทู้ ฟังในคลิบยังละครับ
    ไม่ใช่เห็นแค่ชื่อคลิบแล้วเอามาโพส ฟังก่อนครับ
    หลวงพ่อท่านอธิบาย ไว้หมดแล้ว
    เหลือแต่เจ้าของกระทู้ จะฟังหรือป่าว
     
  4. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,923
    ค่าพลัง:
    +9,200
    นักบวชเกษมเป็นมิจฉาทิฎฐิ คำพูดจึงออกมาปนเป ผิดบ้างถูกบ้าง
    คนบรรลุธรรม หมายความว่า เข้าถึง เข้าใจแจ่มแจ้งในหลักทั้งปวงของธรรมแห่งองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อเข้าใจแล้วไม่ว่าจะพลิกไปเหลี่ยมไหนมุมไหนก็ต้องมั่นคง ไม่ใช่หลุดออกจากหลักการอันเป็นแก่นคือ ทางสายกลาง

    ต่อไปจะพูดเรื่องการทรงอารมณ์ให้ฟัง พระอริยะทุกองค์ เว้นแต่พระอรหันต์ จะต้องทรงอารมณ์ เพราะว่าอะไร
    ตอบว่า เพราะพระอริยบุคคลเว้นแต่พระอรหันต์ยังมีกิเลส จึงยังต้องทรงอารมณ์และสำรวมระวังรักษากาย วาจา ใจ ไม่ให้ไปในทางที่จะเพิ่มกำลังให้กิเลส นี่เรียกว่าเป็นทางเดินแห่งอริยมรรค
    ดังที่ สมัยหนึ่งพระโมคคัลนะ ทรงง่วงนอน จึงทรงถามวิธีการแก้ง่วงกับพระศาสดา หรือ พระอานนท์ร้องไห้ตอนพระศาสดาปรินิพพาน นี่แสดงให้เห็นว่า พระอริยะต้องทรงอารมณ์ ขัดเกลา จิต ตามอริยมรรคมีองค์8

    ทีนี้มาดูพระอรหันต์ พระอรหันต์ตามปกติท่านมีจิตเป็นธรรมธาตุแล้วไม่ไหวไปในอาการของกิเลส แต่ว่าบางครั้งธาตุขันธ์ท่านก็มีอาการแปรปรวน ยังเกิดทุกขเวทนาทางกายได้ ท่านก็ต้องอาศัยฌาณสมาบัตินี้ รักษาตน ดังจะเห็นได้จ่ก พระศาสดาทรงเข้าฌาณระงับทุกขเวทนาเมื่อครั้งฉันอาหารพิษตอนใกล้เสด็จปรินิพพาน หรือ พระโมคคัลลานะเจริญสมาบัติสมานกระดูกเมื่อครั้งโดนโจรทุบตี

    ธรรมะของนักบวชเกษม จึงไม่ใช่ธรรมะแห่งองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า
    เป็นการอวดอุตริ
    การที่นักบวชเกษมบอกว่าตนนิ่งไม่สะเทือน ก็เหมือนกับ เสก โลโซ กล่าวว่าตนแน่ ควบคุมยาเสพติดได้ ใจนิ่ง แต่ขอโทษ เวลากลัวตัวสั่น เวลาหวั่นไหว เที่ยวไปให้ทนายความแก้ต่าง หรือ ตอนที่นิ่งไม่ได้ ตอบสนองแม้แต่ใบไม้ไหว นั่นระลึกอาการของตนไม่ได้ เพราะกิเลสมันบัง ระลึกได้แต่ตอนที่ตนฮึกเหิม จึงกล่าวด้วยท่าที ว่าตนแข็งแกร่งขึ้นมา
     
  5. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,923
    ค่าพลัง:
    +9,200
    ทีนี้จะพูดให้ฟังว่าที่นักบวชเกษมยังมีสุขได้ เพราะอะไร เพราะว่า สันตติ คืออาการเปลี่ยนไปของจิตที่ยอมตามกิเลส ได้เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทำให้ไม่เห็นสัจธรรม คือ ทุกข์ นักบวชเกษมยังคงพล่ามไป ยังใชีวิตที่ปราศจากการสำรวม มันจึงไม่ได้ไปบีบเค้นกิเลส อุปมาเหมือนสุนัขวิ่งไป นกบินไป มันก็ไม่ทุกข์อะไร แต่หากจับมันมาขัง จับมันมาฝึก มันจะต้องดิ้นรนแสดงให้เห็น

    เอาแค่ว่า พระมหาเถระ ออกคำเตือนให้พระเกษมยุติการกระทำของตน เราก็ได้เห็น ส้นตีนนักบวชเกษมกันแล้วไม่ใช่หรือ นั่นแหละอาการที่พระเกษมทนไม่ได้ เพราะเริ่มถูกจับเข้ากรอบ กิเลสไม่ได้ทำตามที่ใจตนปราถนาก็แสดงอาการออกมา
     
  6. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    ใช้คำว่า "สันตติ" คำเดียวไม่น่าจะใช้ครับ

    รูปสันตติ อันได้แก่ ความเกิดแห่งรูป
    จิตตสันตติ อันได้แก่ ความสืบต่อแห่งรูป
     
  7. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    รูปหยาบ
    จักขายตนะ โสตายตนะ ฆานายตนะ ชิวหายตนะ กายายตนะ รูปายตนะ
    สัททายตนะ คันธายตนะ รสายตนะ โผฏฐัพพายตนะ นี้เรียกว่ารูปหยาบ

    รูปละเอียด
    อิตถินทรีย์ ปุริสินทรีย์ ชีวิตินทรีย์ กายวิญญัติ วจีวิญญัติ อากาสธาตุรูปลหุตา
    รูปมุทุตา รูปกัมมัญญตา รูปอุปจยะ รูปสันตติ รูปชรตา รูปอนิจจตากวฬิงการาหาร นี้เรียกว่า
    รูปละเอียด
     
  8. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,923
    ค่าพลัง:
    +9,200
    พวกอภิธรรม กูไม่คุยด้วย บอกไว้ก่อน จะได้ไม่เสียเวลา
     
  9. ดูงาน

    ดูงาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +2,670
    เคยอ่านหนังสือประวัติหลวงปู่จาม ท่านบอกว่า เป็น อกริยา

    ท่านก็ยังบอกอีกว่า นักปฎิบัติผู้ถึงแล้วย่อมเข้าใจคำนี้ อกริยา

    น่าจะมีคนที่เข้าใจในเว็ปอยู่แต่พูดไม่ได้ เป็นเรื่องปัจจัตตัง
     
  10. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    ผมสนใจศึกษาพระธรรมของพระพุทธเจ้า ถ้ามีคำที่ผมไม่เคยได้ยินผมจะเอาไปศึกษาต่อในพระไตรปิฏก คำๆ เดียวสามารถเอาไปศึกษาต่อยอดได้อีกมากมาย และผมยึดหลักที่ว่าถ้าคำสอนของพระพุทธเจ้าผิดเพื้ยนไป ความหมายจะไม่ถูกต้อง คนฟังจะเข้าใจผิด พระพุทธเจ้าไม่ให้เพิ่มเติมหรือให้ตัดคำของพระองค์ ผมไม่ได้มีเจตนาล่วงเกินท่านขันธ์ครับ
     
  11. surer

    surer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,508
    ค่าพลัง:
    +1,317
    ท่านขันธ์ ครับ ผู้ดูแลเค้าบอกว่าไม่ควรใช้คำ
    กู-มึง นะครับ ถ้าผิดพลาดประการใด ต้องขอโทษด้วย
     
  12. ดาวบุ๋น5

    ดาวบุ๋น5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    605
    ค่าพลัง:
    +375
    -ท่านขันธ์กล่าวไว้ถูกต้องแล้ว ..ต่ออีกนิดนึงเวลาคนทรงอารมณ์ญาณระดับสูงจะสำรวมกายสำรวมใจ จิตใจเบิกบาน สว่าง สงบ.. ไม่ใช่ออกทางร่างกายท่าทาง ไม่เหมาะสมแบบนั้น ..กระบวนท่าทางกายต่างๆคือกิเลสที่ยังหลงเหลือ คือจิตที่ยังไม่ได้ละอกุศลทั้งมวล ย่อมขับให้ใจสั่งให้กายประพฤติตนในทางที่ผิดแบบอย่างที่เห็นจากอดีตพระท่านนั้น

    เหล่าสาวกท่านเกษมคุณลองนั่งสมาธิดูก็จะเข้าใจเอง พระที่นั่งสมาธิไม่เป็นจะเป็นสาวกของพระพุทธองค์คงจะยาก เพราะก่อนพระพุทธเจ้าตรัสรู้เห็นแจ้งก็ต้องใช้การนั่งสมาธิดูจิตใจของตัวเองและหาหนทางแห่งการดับทุข์ ..แต่วิธีดับทุกข์ในแบบที่อดีตพระทำนั้น คือใช้สมองเหมือนคนทั่วไป ในการคิดหาเหตุผล อ้างอิงเพื่อจะแก้ต่างสิ่งต่างๆ ด้วย ปัญญาที่ยังไม่ได้กลั่นกรองจนถึงที่สุด ปัญญายังไม่ได้ตกตะกอนถึงแก่นแท้จริง แล้วมาพูดว่ายกตัวเองว่าดีเลิศ

    ขอให้เข้าใจสิ่งที่อดีตพระสอนนั้นไม่ได้เป็นแก่น เป็นเพียงกระพี้ที่สามารถไปใช้ทางโลกได้ เหมือนคนคิดใช้เหตุผลทั่วไป แต่คิดไปคิดมาก็สับสน มั่วๆไปเรื่อยๆ
    หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ก็หลงอยู่กับความคิดผิดๆไปเรื่อยๆนั้นล่ะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...