เมื่อชีวิตของคนเราไม่สามารถควบคุมเหตุการณ์ต่างๆได้

จู่ๆเราก็เกิดขึ้นมามีชีวิตอย่างหาคำอธิบายไม่ได้ว่าเกิดมาทำไม มีเหตุการณ์ในชีวิตมากมายอย่างเร็วมากนับตั้งแต่วันที่เราเริ่มหายใจ และก็เกิดเหตุการณ์ต่างๆมากมายในชีวิต เหตุการณ์ในชีวิตหลายๆเรื่องเราคิดไม่ออกบอกไม่ถูก ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ ควบคุมไม่ได้แก้ไขไม่ทัน

ดังนั้นก็เหลือเพียงแค่เราควรเลือกที่จะมีความสุขโดยการรักผู้คนที่อยู่รอบตัวเรา หรือเราจะไม่พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี ทุกข์ใจในสิ่งที่เราอยากเป็น มันก็อยู่ที่ตัวคุณ

เรียนรู้ที่จะรักผู้คนรอบกาย ในความรักหลากหลายรูปแบบที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว มิตรภาพ คนรัก หรือคนในสังคมรอบๆตัวเรา ดีกว่าจะมานั่งทุกข์ใจในสิ่งที่เราไม่มีวันจะได้เป็น(ฟังคนอื่นเค้ามาอีกที)

 

พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า...

นัตถิ ตัณหา สมานที
แปลว่า...ไม่มีแม่น้ำใดๆ...
จะยิ่งใหญ่เสมอเท่า...
ค ว า ม ต้ อ ง ก า ร ข อ ง ม นุ ษ ย์ . . .

 

แค่อยากแชร์ข้อมูลด้วยคนเท่านั้นนะครับ
ไม่มีความหมายพิเศษใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่รู้ว่าจะมีไปทำไม

http://palungjit.org/threads/ข้อควา...่อไหร่มันถึงจะได้ผล-สภาวะนิพพาน.310332/page-5

ข้อความสื่อสารจากมหาเทพเมตาตรอน (Archangel Metatron)
เรื่อง: กฎแห่งการดึงดูด ทำไม และ เมื่อไหร่มันถึงจะใช้ได้ผล หรือใช้ไม่ได้ผล

วันที่ 6 ธันวาคม 2011
ผู้รับการสื่อสาร Tyberonn
ที่มา: The Law of Attraction - How & When it Works & Why it Doesn't - Part 3 > Earth Keeper

ตอนที่ 22

ชีวิตของพวกคุณไม่ได้เป็นไปตามยถากรรม
(You Are Not at the Mercy of Circumstance)


ชีวิตของพวกคุณไม่ได้เป็นไปตามยถากรรม
แต่ที่น่าสนใจก็คือ พวกคุณกลับเข้าใจผิดไปว่ามันเป็นอย่างนั้น
เพราะความเชื่ออันนั้นเอง ลองใช้เวลาไตร่ตรองดูสักครู่สิ
นี่ล่ะคือ กฎแห่งความเชื่อหล่ะ


ถ้าพวกคุณเชื่อว่าสถานการณ์ต่างๆทำให้พวกคุณต้องติดกับดักแล้วหละก็
มันก็จะเป็นเช่นนั้นจริงๆ
และมันก็จะเป็นเช่นนั้นไปเรื่อยๆ
จนกว่าพวกคุณจะเปลี่ยนความเชื่อหลักอันนั้นของพวกคุณได้เสียก่อน

พวกคุณคือผู้สร้างที่กำลังเรียนรู้วิธีที่จะเป็นผู้ร่วมสร้างอยู่
พวกคุณมาอยู่ที่นี่เพื่อที่จะเรียนรู้ว่า พวกคุณสามารถที่จะสร้างสรรค์สิ่งต่างๆขึ้นมาได้
และพวกคุณก็กำลังสร้างอยู่แล้วด้วย

หนึ่งในเหตุผลสำคัญของการมาอยู่ในโลกแห่งความเป็นทวิภาวะแห่งนี้ของพวกคุณ ก็คือ
เพื่อที่จะมาเรียนรู้วิธีที่จะสร้างสรรค์อย่างมีความรับผิดชอบ และอย่างมีสติสัมปชัญญะ
ซึ่งผู้เชียวชาญคนสำคัญที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อยู่ ก็มักจะเป็น “ด็อกเตอร์เหตุและผล”(Dr.Cause & Effect)
และด็อคเตอร์คนนี้แหละ ที่มักจะมาเยี่ยมไข้ที่บ้านเสมอๆ!

พวกคุณหว่านพืชอะไรไป ก็จะได้เก็บเกี่ยวผลผลิตอันนั้นมา
และถึงแม้ว่าผลผลิตที่เก็บเกี่ยวมานั้นจะคือความไม่สะดวกสบาย และไม่เป็นผลดีเลยก็ตาม
แต่มันก็คือวิธีการที่จะทำให้พวกคุณได้พิจารณาว่า อะไรที่ทำให้พวกคุณต้องได้รับผลแบบนั้น

ดังนั้น เพื่อยุติสถานการณ์ต่างๆที่มีสาเหตุมาจากภาวะจิตของเราเอง
มันจำเป็นจะต้องอาศัยการฝึกฝนและปฏิบัติ เพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น



ซึ่งกุญแจสำคัญก็คือ ความเชื่อของพวกคุณเองอีกนั่นแหละ
แต่มันจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง หรือแตกต่างไปซักเท่าไหร่เลย

ถ้าพวกคุณยังเชื่ออยู่ว่า
ชีวิตในปัจจุบันนี้ของพวกคุณ
เป็นผลสืบเนื่องมาจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับพวกคุณแล้วตั้งแต่ในวัยเด็ก
หรือเป็นผลสืบเนื่องมาจากอดีตชาติของพวกคุณเอง
ซึ่งพวกคุณรู้สึกว่าพวกมันทั้งคู่อยู่นอกเหนือการควบคุมของพวกคุณ

เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิตของพวกคุณ,
ชีวิตของพวกคุณ และ ประสบการณ์ต่างๆของพวกคุณ
ล้วนเป็นผลสืบเนื่องมาจากความเชื่อในปัจจุบันของพวกคุณเองทั้งสิ้น

ลองเปลี่ยนความเชื่อในปัจจุบันของพวกคุณดูสิ แล้วชีวิตของพวกคุณจะเปลี่ยนไป
ไม่เพียงแต่ชีวิตในปัจจุบันของพวกคุณเท่านั้นนะ แต่รวมถึงอดีต และอนาคตของพวกคุณอีกด้วย
ที่จะเปลี่ยนไปด้วยเช่นเดียวกัน
นั่นคือพลังอำนาจในการสร้างสรรค์ของความเชื่อ

ท่านคุรุทั้งหลาย ไม่ว่าพวกคุณจะมีระดับแสงสว่างอยู่ในสัดส่วนมากน้อยแค่ไหนก็ตาม
และไม่ว่าพวกคุณจะกำลังสร้างสรรค์ด้วยความไม่รู้ตัวอยู่ หรือกำลังเนรมิตอย่างมีสติสัมปชัญญะอยู่ก็ตาม
พวกคุณก็ไม่อาจหลีกหนีจากความเชื่อของพวกคุณเองไปได้
เพราะว่ามันคือตัวเร่งปฏิกิริยาสำหรับการสร้างสรรค์ประสบการณ์ของพวกคุณ

.......................................

 

สำหรับคนธรรมดาทั่วไป ประสบการณ์จะสร้างความเชื่อ ใช่ป่ะ
แต่สำหรับคนที่ไม่ธรรมดา ความเชื่อจะสร้างประสบการณ์...

ยอมรับว่าท่านไปไกลจริงๆ...ตามไม่ทัน...หุหุ

 

สวัสดีนะครับคุณชยุต แหมเห็นเข้ามาอ่านพอดี

ผมเชื่อว่าในอนาคตหลายๆคนก็จะสามารถควบคุมมันได้ แต่ในกระทู้นี้ผมจะพูดในมุมที่อดีตของคนเราไม่รู้ที่มาของการเกิด เหตุการณ์ต่างๆในชีวิตแรกเริ่มไม่รู้ต้นสายปลายเหตุและไม่อาจควบคุมสิ่งต่างๆในชีวิตได้น่ะครับ ซึ่งในอดีตช่วงนั้นถ้าคนเราเกลียดผู้อื่นคนๆนั้นก็จะมีชีวิตมืดมนตร์ตลอดไป แต่ถ้าคนๆนั้นเรียนรู้ที่จะรักผู้อื่นรอบกายคนๆนั้นก็จะเจอทางออกในที่สุด

ส่วนอนาคตนั้นพวกคุณจะไปได้ไกลขนาดไหนก็อยู่ที่ความตั้งใจของคุณแล้ว ทุกเสี้ยววินาทีของความตั้งใจในชีวิตคุณคือตัวตัดสินความเป็นไปได้ในชีวิตของคุณ

 

ถ้าเห็นใครไปได้ไกลผมก็ดีใจด้วยนะ แต่ถ้าใครที่ยังไปไม่ถึงสักทีก็รู้สึกดีด้วยเช่นกัน เพราะกว่าจะไปถึงปลายทางก็จะมีความสุขที่ยิ่งใหญ่ของคนๆนั้นรออยู่ ทั้งระหว่างทางและสุดทาง

 

ผมมีคำถามครับ..
ถามว่า ถ้ากฏแห่งความเชื่อ กฎแห่งแรงดึงดูด ทำให้ชีวิตคนเราเปลี่ยน ทำไมคนที่ไม่มีความเชื่อเรื่องกฎแห่งแรงดึงดูดเลย. จึงสามารถมีทุกอย่างได้ดั่งเนรมิตร ในขณะที่อีกคนนึงใช้กฎแห่งความเชื่อสุดฤทธิ์กลับไม่ได้อะไรดั่งหวัง มันน่าจะมีอะไรมากกว่ากฎแห่งแรงดึงดูดนะครับ

 

อันนี้ไม่ทราบครับ ผมเข้าใจแค่ว่าถ้าเราตั้งใจในสิ่งไหนก็จะประสบความสำเร็จในสิ่งนั้น เรื่องกฏแห่งการดึงดูดอะไรนั้นต้องไปถามคนอื่นหรือให้คนอื่นมาตอบอีกที อิๆ

 

ผมมีคำตอบแบบกระจ่างแจ้งให้คุณพร้อมไว้หมดแล้ว
เพียงแต่คุณจะต้อง "เลือก" ที่จะคลิกเข้าไปอ่าน
แล้วนำมาไตร่ตรองดู ว่ามันมีเหตุมีผลไหม
สมควรที่จะเชื่อได้มากน้อยแค่ไหน เท่านั้นเองครับ

ที่กระทู้นี้ครับ..เพราะเนื้อหามันยาว ก็เลยไม่อาจนำมาให้อ่านที่นี่ได้ครับ

"ข้อความจากต่างมิติ-กฎแห่งการดึงดูด-ทำไมและเมื่อไหร่มันถึงจะได้ผล-สภาวะนิพพาน"

http://palungjit.org/threads/ข้อควา...และเมื่อไหร่มันถึงจะได้ผล-สภาวะนิพพาน.310332/

ถ้าใครสังเกต ก็จะรู้ว่าผมไม่ค่อยยัดเยียดอะไรให้ใครนัก
คือ ส่วนใหญ่จะใช้คำว่า แบ่งปันข้อมูลให้อ่านด้วยเท่านั้นเอง
เพราะว่าความจริงมันก็ไม่มีอะไรน่าห่วงอยู่แล้ว
เพราะว่าไหนๆเราก็ต้องไปถึงฝั่งกันทุกๆคนอยู่แล้ว
เพียงแต่ว่า จะช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง

และการที่ใครจะไปถึงก่อนหรือหลังนั้น มันก็ไม่ใช่ความผิดแต่อย่างใดด้วย
เพราะว่า ในระดับปรมัตถ์แล้ว กาลเวลามันไม่มีอยู่จริง
ดังนั้น ทุกๆคน จึงอยู่ที่จุดเริ่มต้น และอยู่ที่จุดสิ้นสุดเรียบร้อยแล้ว

แต่ทางเลือกก็เป็นของเราทุกๆคนเสมอ
ว่าเราจะเลือกก้าวไปทางไหนในวันนี้หรือวันหน้า
ไม่มีอะไรผิด ไม่มีอะไรถูก ทุกอย่างล้วนถูกต้องหมด
ขึ้นอยุ่กับเหตุปัจจัยของแต่ละคน ในแต่ละชั่วขณะนั้นๆของเขาเอง
..................................................

 

ขอบคุณพี่ชยุตมากครับ...

 

ดีงอยู่กับปัจจุบัน ทำในปัจจุบัน ละในปัจจุบัน แค่นี้ก็พอแล้ว ปัจจุบันเลือกเป็นคนดีทำดีทุกวันแบ่งปันและช่วยเหลือสังคม

 

The End........is(or) Just the Beginning

 

อนาคตมีหลายเส้นทาง แต่จุดหมายปลายทางมีอย่างเดียวคือความตาย
ตอนยังอยู่ก็ควรทำแต่ความดี สร้างบารมี เพื่อเป็นทุนต่อไปโลกหน้า