ข้อความจากต่างมิติ - กฎแห่งการดึงดูด (ทำไมและเมื่อไหร่มันถึงจะได้ผล), สภาวะนิพพาน

ขอบคุณสำหรับคำอธิบายครับ อ่านของ Archangel Metatron ตอนนี้แล้วนึกถึงตอนอ่าน สนทนากับพระเจ้าเล่ม 1 เลย (sing)





ดี ทีนี้เราจะใช้เรื่อง “ความสำเร็จทางโลก” เป็นหัวข้อเพราะเธอพูดและถามถึงอยู่

เยี่ยมครับ

ตอนนี้เธอมีความคิดอยู่ว่า “ฉันต้องการความสำเร็จทางโลก” ใช่ไหม?

ใช่ครับ…บางครั้ง

และบางครั้งเธอก็คิดว่า “ฉันต้องการเงินมากกว่านี้” ถูกต้องหรือเปล่า

ถูกครับ

ถ้างั้นเธอจะไม่ได้ความสำเร็จทางโลกและไม่มีทางมีเงินมากขึ้นด้วย (อ่านถึงตรงนี้งงมาก???)

ทำไมล่ะครับ?

เพราะจักรวาลไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะให้สิ่งที่สอดคล้องกับความคิดของเธอปรากฏออกมา
ความคิดของเธอคือ “ฉันต้องการความสำเร็จทางโลก” เธอเข้าใจไหมว่าพลังแห่งการสร้างสรรค์ก็เหมือนยักษ์ในตะเกียงวิเศษนั่นล่ะ คำพูดของเธอเป็นเหมือนคำสั่ง เข้าใจไหม?

ถ้างั้น ทำไมผมถึงไม่ประสบผลสำเร็จมากว่าเดิมล่ะครับ?

ฉันบอกว่า…คำพูดของเธอเหมือนคำสั่ง และตอนนี้คำพูดของเธอก็คือ “ฉันต้องการความสำเร็จ” และจักรวาลก็ตอบว่า “ตกลง” ได้เลยตามนั้น” (ถึงตรงนี้ก็เลยนึกอยากถามพระเจ้าว่าถ้าผมต้องการความล้มเหลวล่ะ ผมจะไม่ล้มเหลวใช่ไหม???)

ผมชักไม่แน่ใจว่ายังตามทันอยู่หรือเปล่า?

ลองคิดแบบนี้ดูนะ คำว่า “ฉัน” คือกุญแจสำหรับสตาร์ทเครื่องยนต์ แห่งการสร้างสรรค์ คำว่า “ฉันเป็น” (I AM) นั้นมีพลังที่สุด มันคือแถลงการต่อจักรวาล
คือคำสั่ง
ทีนี้ อะไรก็ตามที่ต่อท้ายคำว่า “ฉัน” (ซึ่งดึงความเป็นฉันอันยิ่งใหญ่ออกมา) มีแนวโน้มจะสร้างความจริงทางกายภาพขึ้น
ดังนั้น “ฉัน” + “ต้องการความสำเร็จ” จึงทำให้เกิดภาวะที่เธอต้องการความสำเร็จขึ้นมาก “ฉัน” + “ต้องการเงิน” จึงสร้างภาวะที่เธอ ต้องการเงิน มันไม่สามารถเป็นอย่างอื่นได้เพราะความคิดและถ้อยคำมีพลังสร้างสรรค์การกระทำก็เช่นนั้น ถ้าแสดงออกในลักษณะที่สื่อว่าเธอต้องการความสำเร็จและเงินทองด้วยละก็ ทีนี้ความคิด คำพูด และการกระของเธอจะสอดคล้องกันหมด ซึ่งก็มั่นใจได้เลยว่า เธอจะได้ประสบการณ์แห่งความต้องการแน่นอน
เข้าใจหรือยัง?

ปล. สีชมพูตัวหนาคือบทสนทนาของนีล สีชมพูคือบทสนทนาของพระเจ้า สีน้ำเงินคือสิ่งที่ผมสงสัย








เชื่อมโยงบทความกันจริง ๆ ก็คงเป็นเรื่องความเชื่อกระมัง แต่จะเป็นความเชื่อในระดับที่เรารู้ตัวหรือไม่รู้ตัวนี่สิ แต่ก็พอเข้าใจเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมหน่อย (ในความรู้สึกอ่ะนะ)

ยังไงก็ขอบคุณสำหรับคำอธิบายของคุณ Chayutt อีกครั้งครับ ;41

 

พูดถึงหนังสือสนทนากับพระเจ้า
ใครทราบบ้าง เล่ม 3 ออกรึยัง
เขาพิมพ์มั๊ย

 

มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ด้วยค่ะ ขอนั้งยัน นอนยัน เลย ให้ตายสิ




ดังนั้นพวกคุณอาจจะพบว่า
ตัวเองกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัด
ที่วิธีการ “คิดในแง่บวก” ทั้งหมด
ดูเหมือนจะไม่ประสบผลสำเร็จแต่อย่างใดเลย

นั่นเป็นเพราะว่า ณ ตอนนี้...
มันมีบทเรียนที่พวกคุณจะต้องเผชิญหน้ากับมันเสียก่อนอยู่
และมันก็จะเกิดอีกขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่อย่างนั้นแหละ
จนกว่าพวกคุณจะยอมเผชิญหน้ากับมัน
จนกว่าพวกมันจะได้รับการแก้ไขให้เสร็จสิ้นไป...


มันจะจบสิ้นลงได้...
ก็ต่อเมื่อพวกคุณสามารถ
ควบคุมมันได้แล้วเท่านั้น

 

บางทีความหมายหลัก ของ "ธรรมะ"
ก็คือแก่นแท้อันเดียวกันกับในแบบที่เราคุ้นเคยอยู่
เพียงแต่วิธีการอธิบาย หรือวิธีการสื่อสารออกมาจากแต่ละแหล่งข้อมูล
อาจจะแตกต่างกันไปบ้างเท่านั้นเองครับ

โมทนาด้วยนะครับ

............................................

 

ผมนึกถึงเด็กวัยรุ่นบ้านนอกคนหนึ่งนานมาแล้ว ความรู้งู ๆ ปลา ๆ ชอบอ่านหนังสืออยู่บ้าง แต่ก็คุยโม้โอ้อวดน่าดู ชอบวิจารณ์คนนั้นคนนี้ ชอบแสดงออก ก็ไม่มีอะไรมาก อยากให้คนอื่นมองตัวเองว่าเก่ง..แค่นั้นเอง ความจริงทุกสังคมมีคนประเภทนี้ ซึ่งในสายตาของผู้ทรงปัญญาแล้วก็เหมือนคนบ้าเดินข้างถนนนั่นแหละ บางทีนึกคะนองขึ้นมาก็หยิบก้อนกรวดปาใส่รถที่วิ่งตามท้องถนน

 

เท่าที่อ่านมาอย่างช้า ๆ อย่างใคร่ครวญ ผมว่าใช่เลย มันช่วยแก้ไขปัญหาชีวิตได้ดีทีเดียว เพราะแรงอธิษฐานที่เราได้ทำไว้มันเป็นตัวกั้นความสำเร็จของเราเอง ผมเคยเบื่อหน่ายทรัพย์สมบัติทั้งหลาย ถึงกับทิ้งมันอย่างไม่อาลัยใยดี หนีออกจากบ้านหวังหาที่ปฏิบัติธรรม เพื่อเข้าถึงนิพพาน วันหนึ่งผมได้พบกับท้าวเวสสุวรรณ ท่านบอกผมว่า "เจ้าอย่าปฏิเสธทรัพย์สินเงินทอง จงรับมันไว้ มันมีคุณค่าแก่การดำรงชีวิต เจ้าสามารถใช้มันสร้างบารมีได้ ถ้าเจ้าปฏิเสธมันจะไม่เข้ามาหาเจ้า" ตรงกันกับคำสอนนี้เลยครับ

 

อ่านจบแล้วครับ สรุปว่า มันคือคัมภีร์วิเศษของพระเจ้าที่จะนำมนุษย์โลกไปสู่ความสำเร็จทั้งปวง หากใครได้อ่านคัมภีร์เล่มนี้อย่างละเอียด อย่างเข้าใจจริง ๆ แล้วนำไปปฏิบัติ เขาผู้นั้นจะถึงจุดสุดยอดทั้งทางโลกและทางธรรม ทั้งหมดนั้นมันรวมอยู่ในหลักธรรมของพระพุทธเจ้า คือ "อิทธิบาทสี่"

ขอบคุณคุณชยุต และทีมงานที่มีความเมตตากรุณาต่อเพื่อนมนุษย์ ที่ได้พยายามแปลให้พวกเราได้อ่านกัน

ต้องยอมรับและนับถืออย่างจริงใจว่าคนที่จะแปลได้ต้องมีความรู้รอบตัวจริง ๆ และมีความรู้ภาษาไทย ภาษาธรรม และอังกฤษเป็นเลิศ จึงจะแปลได้

ที่น่าอัศจรรย์คือผู้ที่เขียนบทความนี้ออกมา ถ้าเราจะตัดความเชื่อพระเจ้าหรือจิตวิญญาณในมิติสูงส่งออกไป ท่านผู้เขียนคือยอดมนุษย์ผู้มีสติปัญญาอันเลอเลิศระดับศาสดา

 

ขอบคุณ คุณ chayutt จากใจเลยคะ ^_^

 

ราจะบอกกล่าวให้เธอเหล่าผู้เริ่มศึกษาธรรมะให้ฟัง

บทความของคุณชยุตและทีมงานแปลมานั้น

ไม่ได้มีความแตกต่างจากหลักศาสนา หรือสิ่งดีงามต่างๆบนโลกนี้ สิ่งเหล่านี้ในบทความก็ตรงกับหลักของคุณธรรม และสิ่งที่ดีงามในทุก ๆสังคม

เพียงแต่ใช้บัญญัติธรรมแตกต่างกัน เพียงแค่ลักษณะภาษาต่างกัน
--------------------------------------------------------------------------

อนุโมทนากับข้อความนี้ค่ะ
ขอบคุณคุณชยุตและทีมแปลทุกท่าน
ข้อความของท่านช่วยให้ข้าพเจ้าเข้าใจหลักธรรมต่างๆ มากขึ้น
เหมือนบทขยายความ ที่ช่วยให้เห็นสภาวะธรรมต่างๆ ชัดเจนมากขึ้น

 

ขออนุโมทนา และขอบคุณเป็นอย่างมากสำหรับบทความนี้ และขออนุญาติ copy ข้อความ
บางส่วนไว้อ่านด้วยครับ

เพิ่งทราบจากบทความนี้ว่าตัวเองแสวงหาความสุขทางกายภาพมากกว่าการศักสิทธิ์
ต้องลองใหม่แล้ว