คุยกับผีตัวที่ ๑๓ ตาย ๗ วันไปเกิดเป็นนางเทพอัปสร

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย JeTo2008, 5 กุมภาพันธ์ 2010.

  1. JeTo2008

    JeTo2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    157
    ค่าพลัง:
    +1,845
    คุยกับผีตัวที่ ๑๓ ตาย ๗ วันไปเกิดเป็นนางเทพอัปสร
    มาเล่าเรื่องผีตัวต่อไปให้อ่านกันดีกว่า สำหรับเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงอีกเรื่องที่เกิดขึ้นกับผู้เขียนเอง ตอนนั้นทำงานเป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งอยู่ฝ่ายขาย ต้องดูแลเทคแคร์ลูกค้าทุกเรื่อง ตั้งแต่เรื่องเกิด ไปจนถึงเรื่องตาย สารพัดเรื่อง รวมทั้งเรื่องงานด้วย เรียกว่า เวลาลูกค้ามีกิจกรรมอะไรก็ต้องไปร่วม เพื่อความสัมพันธ์อันดี ลูกค้าแต่งงานก็ต้องไปอวยพร ลูกค้าทำบุญบริษัทก็ต้องไปร่วม ลูกค้าเสียชีวิตก็ต้องไปงานศพ นี่ก็เป็นอีกครั้งกับประสบการณ์เกี่ยวกับผี คือ เป็นปกติคนเราต้องมีเกิดมีตายด้วยกันทุกคน ครั้งนี้ก็มีลูกค้าที่สนิทชอบพอเพราะค้าขายกันมาหลายปี เป็นคนดีมากๆดีกับผู้เขียนมากๆ เกิดเสียชีวิตลง งานศพต้องไปงานศพลูกค้า เตรียมพวงหรีดติดชื่อบริษัทที่ผู้เขียนทำงานอยู่ เป็นตามธรรมเนียมของสังคมในปัจจุบัน วันนั้นเป็นงานสวดพระอภิธรรมศพวันที่ ๒ ผู้เขียนก็นำพวงหรีดไปให้ที่งาน คืนนั้นก็อยู่จนเสร็จพิธี แล้วก็กลับบ้าน ตั้งใจจะมาอีกครั้งในวันเผา ก็บอกลาเจ้าภาพที่เป็นญาติ ของผู้ตาย ซึ่งก็รู้จักกันดี เพราะติดต่องานกันอยู่ประจำ วันนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็แผ่เมตตาไปยังดวงจิต ดวงวิญญาณทั้งหลายตามปกติของผู้เขียน ซึ่งดวงจิตเหล่านั้นก็มารับส่วนบุญเป็นปกติเหมือนหลายๆที่ ก็คงต้องใช้คำว่าปกติ เพราะเป็นปกติจริงๆของผู้เขียน ที่ไปงานไหนงานไหนก็เป็นอย่างนี้ก็เลยชินซะแล้ว ส่วนสำหรับเรื่องของผู้ตาย เอาไว้เล่าตอนวันเผาทีเดียวเลยก็แล้วกัน เวลาผ่านไปจนครบวันที่ ๗ ซึ่งเป็นวันเผา ตามธรรมเนียมคนไทยพุทธ ก็มักที่จะเผาศพกันตอน ๕ โมงเย็น วันนั้นผู้เขียนไปถึงงานประมาณ ๔ โมง เมื่อไปถึงก็ทำความสวัสดีทักทาย กับบรรดาญาติผู้ตายที่รู้จักตามสมควรแล้วก็ไปนั่งในส่วนที่จัดเอาไว้ให้แขกผู้มาร่วมงานพิธีฌาปนกิจนั่ง อีกตามเคยพอได้นั่นก็มีอาการ ก็เลยหลับตาลงเพื่อจะได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆกาย อ่อ ก่อนอื่นจะขอเล่าย้อนไปวันก่อนที่มาฟังพระอภิธรรมก่อน คืนนั้นผู้เขียนได้พบกับผู้ตายแล้วและได้พูดคุยกัน โดยปกติคนที่ตายจะรู้ตัวเองว่าตายส่วนใหญ่จะตายไปแล้วสามวัน วันสองวันแรกมักจะคิดว่าตัวเองนอนหลับ นอกจากว่าจะมีคนไปปลุก ( คนที่มีพลังพิเศษที่สามารถติดต่อกับคนตายได้) สมัยนั้นผู้เขียนไม่เคยคิดว่าตัวเองมีพลังอย่างนั้นเลย แต่วันนั้น มีความคิดว่าอยากรู้ว่าคนตายอยู่ที่ไหนยังไง เนื่องจากตอนที่ท่านมีชีวิตอยู่ท่านจะมีความเมตตาต่อผู้เขียนมากเหมือนกัน ผู้เขียนก็จะนับถือท่านเพราะท่านเป็นผู้ใหญ่ที่ใจดี ก็เลยหลับตาแล้วถามหา คือถามไปลอยๆว่า ท่านอยู่ที่ไหน ความจริงเรียกชื่อท่าน เรียกในใจนั่นแหละก็ไม่คิดว่าจะได้พบท่านหรอก แค่ลองดู สักพักหนึ่งก็มีเสียงตอบมาว่า “ใครหน่ะ ใครมาเรียก อยู่ที่นี่ นอนอยู่” ผู้เขียนก็พุ่งความสนใจไปยังเสียงนั้น มันตรงไปยังโลงศพ แล้วก็เห็น ผู้ตายนอนอยู่ภายในโลงนั้น ร้องเรียก (ในสภาพที่ตายแล้วนะ) เป็นภาวะรับรู้แห่งดวงจิต ผู้เขียนก็เลยตอบไปว่า “ผมเอง” พร้อมกับบอกชื่อที่ผู้ตายรู้จัก แล้วก็ถามผู้เขียนว่า “พวกเรามาทำอะไรกันที่นี่ และนี่ที่ไหน” ผู้เขียนตอบไปว่า “ที่วัด... (ชื่อวัด) พี่ตายแล้วครับตอนนี้ศพนอนอยู่ในโลง (ผู้เขียนเรียกผู้ตายว่าพี่ ผู้ตายให้เรียก เพราะลูกน้องทุกคนเรียก) พี่ตื่นได้แล้วครับ”“ตายแล้ว” ผู้ตายร้องด้วยความตกใจ “ครับ พี่ตายได้ ๒ วันแล้วครับ” ผู้ตายจึงลุกขึ้นจากร่างที่นอน ตอนนี้จะเห็นผู้ตายสองคน คือที่นอนเป็นศพกับ ที่เป็นจิตวิญญาณ (ไม่ต้องตกใจนะครับ เพราะทุกอย่างมันเป็นไปตามกฎธรรมชาติ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เวียนว่าย นิพพาน ) พร้อมกับการร้องไห้ครั้งที่น่าจะถือว่า ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ เท่าที่ประสบการณ์ของผู้เขียน ได้พบกับคนที่เพิ่งตายใหม่ๆทุกคนนั้นจะเศร้าโศกเสียใจมาก ผู้อ่านทุกท่านก็เตรียมใจไว้สำหรับวันนั้นของทุกคนด้วยนะครับอย่าเหลวไหลจนลืมตาย ตายเมื่อไหร่ต้องเสียใจจะหาว่าไม่เตือน พี่ผู้ตายท่านนี้ก็เหมือนกันพอแกรู้ตัวว่าตายแล้วก็ลุกขึ้นร้องไห้แล้วเดินสะเปะสะปะไปทั่วงาน ไปจับแขนขับเนื้อตัวของบรรดาญาติพี่น้องลูกหลาน และร้องเรียกทุกคนที่รู้จักก็ไม่มีใครรับรู้หรือได้ยินเลยสักคนเดียว มันเป็นภาพที่ผู้เขียนสะเทือนใจมากที่สุดอีกภาพหนึ่ง สงสารผู้ล่วงลับที่คนอยู่ไม่มีวันรับรู้ได้เลย เฮ้อ! ผมก็ปล่อยแกสักพักหนึ่ง จึงร้องเรียกด้วยเสียงทางจิต ให้กลับมาคุยกัน และปลอบโยนให้ผู้ตาย ยอมรับความจริงเสีย เพราะถึงอย่างไรก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้อีกแล้ว มันกลับไปไม่ได้แล้ว มาคุยกันเถอะว่าจะไปที่ไหนต่อ พูดถึงตรงนี้ผู้ตายค่อยสงบลงเพราะได้สตและคงอยากรู้ว่าตัวเองจะต้องไปอยู่ที่ภพไหนต่อจากโลกมนุษย์ นี้ การหยั่งรู้นี้เป็นหนึ่งในสิ่งที่เรียกว่าอภิญญาทางจิต (อภิญญา แปลว่า ความรู้อันยิ่ง มาจากคำว่า อภิ (ยิ่ง) + กับ ปัญญา (ความรู้) รวมเป็น อภิญญา ) นั่นสอนภาษาไปด้วยเลย มี ๖ อย่าง คือ ๑ . อิทธิวิธี ๒ . ทิพยโสต ( หูทิพย์ ) ๓ . เจโตปริยญาณ ( จิตทิพย์ ) ๔. บุพเพนุวาสานุสติญาณ (ระลึกชาติ) ๕. จุตตูปาปาตญาณหรือทิพยจักษุหรือตาทิพย์ชั้นละเอียด) ( หยั่งรู่การเกิด ดับ ของสัตว์ ) ทั้งห้าตัวนี้ ผู้บำเพ็ญจนสำเร็จฌานสมาบัติ สามารถมีได้ทุกคนเป็นเรื่องธรรมชาติ เกิดขึ้นจากการสั่งสมบารมีของแต่ละคน แต่ตัวที่ ๖ .มีในผู้สำเร็จเป็นพระอรหันต์เท่านั้น เรียกว่า อาสวักขยญาณ ( ญาณแห่งความสิ้นไปแห่งกิเลส ) อย่าเพิ่งงงนะ แต่ถ้าจะให้ไล่ลำดับของฤทธิ์ทางจิต ก็จะมีดังนี้ โลกียฌาน ธรรมกาย มโนมหิทธิ อิทธิวิธี ทิพยโสต เจโตปริยญาณ บุพเพนุวาสานุสติญาณ จุตตูปาปาตญาณ และอาสวักขยญาณ เป็นลำดับไปอย่างนี้ แต่ไม่จำเป็นว่าทุกคนจะต้องมีครบถ้วนนะครับ คนที่สั่งสมมากก็มีครบ ที่สั่งสมมาน้อยก็อาจได้เพียงบางอย่างเท่านั้น อ้าวนอกเรื่องซะยาวเชียว กลับเข้าเรื่องดีกว่า ส่วนผู้เขียนบังเอิญโชคดีมีกับเค้าเหมือนกัน ก็เลยรู้ เมื่อพี่ที่ตายถามจึงบอกไปตามที่เห็นว่า “เมื่อตายครบ ๗ วัน จะได้ไปเกิดเป็น นางเทพอัปสร อยู่ที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ทำหน้าที่โปรยดอกไม้สวรรค์ให้เหล่าเทวดาและผู้มีบุญญาธิการทั้งหลาย เช่น ในเวลาที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะเสด็จไปไหนมาไหน ก็จะมีนางอัปสรโปรยดอกไม้สวรรค์ เป็นการถวายพระพรทุกครั้ง เป็น งานหรือ หน้าที่ของนางอัปสร และในวันนั้น จะมีเหล่านางฟ้านางอัปสรจำนวนมากมาทำการต้อนรับ” ผู้ตายเมื่อได้ฟังแล้วคงเกิดความรู้สึกสบายใจขึ้นพอได้หายเศร้าโศกไปบ้าง แล้วจึงถามผู้เขียนว่า “เธอรู้ได้อย่างไร ถ้าพี่ไม่ตายพี่ก็คงไม่รู้ว่าเธอมีพลังพิเศษอย่างนี้นะสิ” ผู้เขียนพยักหน้ารับและพูดต่อไปว่า “เอาไว้ดูกันวันเผาศพพี่ก็แล้วกัน” “ แล้วทำไมพี่ถึงได้ไปเกิดที่นั่นหล่ะ”ผู้ตายถาม “ก็เพราะว่าตอนที่พี่ยังมีชีวิตอยู่ พี่ได้ถวายดอกไม้บูชาพระด้วยความเคารพเลื่อมใสน่ะสิครับ ถึงได้ไปเกิดที่นั่น” “อืมม จริงสิ พี่ชอบถวายดอกไม้บูชาพระมากเลยมันรู้สึกมีความสุขมากทุกครั้งที่ได้ทำ” “ครับนั่นแหละครับ เหตุปัจจัย ที่ทำให้ได้ไปเกิดบนสวรรค์ คนส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยเชื่อกันนักว่านรก สวรรค์มีจริง จึงไม่ค่อยสนใจทำความดีกันสักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ชอบทำชั่วกันมาก โดยเฉพาะถ้าไม่ประพฤติตนให้อยู่ในศีล ๕ แล้วล่ะก็ แน่นอนครับ ตกไปข้างล่างชัวร์ เอาเป็นว่าวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ผมเองมีความสุขอีกวันนะครับ” “ เรื่องอะไร เรื่องที่พี่ตายนะเหรอ” “อ่อ ไม่ใช่ครับ เรื่องที่ได้พบกับคนที่ตายแล้วได้ไปเกิดเป็นเทวดา นางฟ้า บนสวรรค์น่ะสิครับ หายากนะครับ นานผมจะได้เจอสักคน และที่ดีใจที่เป็นพี่ที่ผมเคารพนับถือด้วยน่ะครับ”ผู้เขียนตอบ นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันที่ ผมไปฟังสวดพระอภิธรรม คืนที่ ๒ ที่ผมได้สนทนากับวิญญาณผู้ตาย ส่วนวันนี้เป็นวันเผามาอ่านกันต่อนะครับว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป หลังจากที่ผมได้ที่นั่งที่คนไม่พลุกพล่านแล้ว ก็หลับตาลงแล้วเรียกหาผู้ตาย แล้วเธอในเวลานี้ก็มานั่งอยู่ข้างผมก่อนแล้ว คือพอเห็นผมเธอก็มาหาเลย เพราะวันนี้เธอจะต้องไปจากโลกแล้ว เป็นวันสุดท้ายของเธอกับความวุ่นวายในโลกมนุษย์ ผู้เขียนจึงถามเธอไปว่า “พร้อมหรือยังครับ” ผู้ตายพยักหน้ารับคำ ผู้เขียนพูดต่อไปว่า “ตอนนี้ขบวนเหล่านางอัปสรมากันเต็มฟ้าเลยนะครับ มารับเพื่อนนางอัปสรด้วยกันขึ้นไปยังสวรรค์ชั้นที่จะไปสถิตอยู่” ก่อนอื่นต้องขอเล่าให้ท่านผู้อ่านเพิ่มเติมก่อน เราคงเคยได้ยินกันมาบ้างว่า คนที่ตายแล้วถ้าเป็นคนชั่วจะมียมทูตมารับวิญญาณไปนรก เหมือนกันครับ คนที่ทำความดีก็มีเทวดานางฟ้ามารับไปสวรรค์เหมือนกัน นี่ก็เป็นอีกหนึ่ง คนดีที่มีนางอัปสรมารับ คือถ้าผู้ตายไปเกิดในฐานะอะไรในสวรรค์ เช่น นางอัปสร พวกนางอัปสรมารับ ถ้าได้ไปเป็นพระมาตุลี เทวดาพวกที่มีฐานะเป็นพระมาตุลีจะมารับ ถ้าได้เป็นพวกคนธรรพ์ เทวดาที่เป็นคนธรรพ์จะมารับ ไปตามหมวดตามหมู่ของตน พอขึ้นไปก็ไปอยู่ในกลุ่มพวกเทวดาประเภทเดียวกัน ตามที่ได้พบเจอมา ในกรณีก็เช่นกัน ใครอยากให้ใครมารับ ก็พยายามทำความดีตามฐานะที่ปรารถนานะครับ กลับมาสู่เรื่องของผู้ตายคนนี้ต่อ ขณะที่เวลาฌาปณกิจ ( เผา ) กำลังใกล้เข้ามา ผู้เขียนก็เห็นขบวนนางอัปสรร่ายรำอยู่กันเต็มฟ้า โปรยปรายดอกไม้มายังบริเวณพิธีเต็มฟ้า ครั้นเมื่อถึงเวลา ผู้ตายก็พูดขึ้นว่า “คงต้องไปจริงๆแล้ว คงต้องลากันตรงนี้หล่ะนะ” ผู้ตายพูดพร้อมกับมีน้ำตา นี่คงเป็นการร้องไห้ครั้งสุดท้ายแล้วในโลกมนุษย์ในชาตินี้ ผู้เขียนบอกผู้ตายไปว่า “โชคดีนะครับพี่นางอัปสร ไปเถอะครับพี่เพื่อนๆมารอแล้ว” เวลานั้นมีนางอัปสรจำนวน ๘ นาง ลงมาที่ที่ผู้เขียนอยู่กับผู้ตาย แล้วเรียกให้ผู้ตายไปหา พร้อมกับส่งผ้ามาให้ผู้ตายชุดหนึ่ง แล้วก็พูดขึ้นว่า “มานี่เถอะมาเอาผ้าทิพย์ของเธอไปนุ่งห่มเสียเถิดพวกเราจะได้ไปกันเสียที่ได้เวลาแล้ว” แล้วผู้ตายก็ไปรับผ้าทิพย์นั้น เหล่านางอัปสรทั้งหลายก็มาล้อมรอบพี่ผู้ตายนั้นเป็นวงกลม โดยมีผู้ตายอยู่ตรงกลาง แล้วก็มีรัศมีแผ่ออกมาแว่บหนึ่ง พี่ผู้ตาย ตอนนี้ก็แต่งกายด้วยผ้าทิพย์นั้น เหมือนกับพวกนางอัปสรเลย ที่ยิ่งน่าอัศจรรย์ยิ่งกว่านั้นก็คือ พี่ผู้ตายซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นนางอัปสรไปแล้ว กลับเป็นสาว และสวยงามมาก ดุจนางฟ้านางสวรรค์ ผู้เขียนถึงกับตะลึงในความงามไปเลย อย่างว่าละครับก็นางฟ้านี่นา ใครได้เป็นก็สวยทุกคนนั่นแหละ แล้วพวกนางอัปสรก็พานางอัปสรใหม่เหาะขึ้นไปในอากาศ แล้วเหาะลอยไปรอบเมรุเผาศพเป็นวงกลมพร้อมกับโปรยดอกไม้มายังเมรุซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่เมรุได้เผาร่างอันไร้วิญญาณนั้น ที่สำคัญก็คือ ขณะที่นางอัปสรพานางอัปสรใหม่เหาะไปรอบๆเมรุนั้น คล้ายกับว่านางอัปสรทั้งหลายได้บอกให้นางอัปสรใหม่ให้ดูสรีระเก่าที่ในที่สุดก็ไม่มีประโยชน์อะไรสุดท้ายก็ต้องเผาทิ้ง ให้ปลงอนิจจังเสียเถอะอย่าไปอาลัยอาวรณ์อะไรอีกเลย ไปสู่ภพใหม่ต่อไป ตราบใดที่มนุษย์ทุกคนยังไม่สิ้นกิเลสแล้วก็ยังต้องเวียนว่ายไปทิ้งไว้แต่ขี้เถ้าอย่างนี้ แล้วพวกนางอัปสรทั้งหลายก็พากันเหาะกลับขึ้นไปสวรรค์ที่ตนอยู่ผู้เขียนมองไปจนสุดสายตาจนภาพของนางฟ้าทั้งหลายได้เลือนหายไป “ไปแล้ว” ผู้เขียนพูดออกมา แล้วก็ยิ้มอย่างมีความสุข ที่ได้พบเจอคนดี ได้เจอนางฟ้า อย่างว่าครับ เมื่อเราเจอคนดีสักคนหนึ่งเราก็จะสามารถพบเจอกับคนดีอีกหลายๆคนได้ เพราะคนดีก็มีกลุ่มก้อนของคนดี ถึงไม่มีในโลกนี้ก็มีในโลกอื่นภพอื่น นั่นแหละ คนดีอยู่ที่ไหนในโลก ในสุดแม้ไม่มีใครรู้เหล่าเทวดานางฟ้า ก็สามารถรู้และไปพบจนได้ ผิดกับพวกคนชั่วที่ตอนมีชีวิตอาจจะดูมีเพื่อนฝูงมากมายห้อมล้อมเฮฮา แต่พอตอนตายไม่มี เทวดานางฟ้าองค์ไหนอยากเอาไปอยู่ด้วยสักคน ต้องปล่อยให้ตกนรกหมกไหม้ไปคนเดียว นี่ก็เป็นเรื่องราวของชีวิตหลังความตายของผู้ล่วงลับอีกหนึ่งเรื่องที่น่าจะเป็นคติสอนใจ ให้ผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ควรตั้งใจทำแต่คุณงามความดี กันเอาไว้ให้มากๆเพราะมันจะส่งผลไปถึงภพชาติต่อไปได้ ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่ผู้เขียนได้ประสบพบเจอกับประสบการณ์ทางวิญญาณ โดยเฉพาะคนที่เพิ่งตาย ถ้าได้ไปงานศพไหนก็ศพนั้นมีเรื่องราวทุกงานศพที่ไป แต่ก็เป็นที่น่าเสียใจที่ไม่สามารถจะบอกกับญาติของผู้ตายได้ว่าคนที่ตายไปต้องไปที่ไหน หรือไปเกิดเป็นอะไร เพราะจะมีใครเชื่อยิ่งถ้าญาติของตัวต้องไปตกนรกแล้วก็คงยิ่งไม่เชื่อ เพราะคนส่วนใหญ่ชอบคิดเข้าข้างตัวเข้าข้างญาติพี่น้องตัวเอง แต่ท่านทั้งหลายพึงจำไว้นะครับว่า บาปบุญคุณโทษทั้งหลายไม่มีญาติพี่น้อง นรกสวรรค์ไม่มีญาติไม่มีเส้นสายไม่มีลำเอียง ใครทำอย่างไรไว้ต้องได้อย่างนั้นแน่นอน ขอฝากเรื่องนี้ด้วยนะครับ อ่อ พอดีช่วงที่ผ่านมาทำงานสร้าง อาศรมแห่งธรรม อยู่ที่ชลบุรี จึงไม่ค่อยมีเวลาเขียนมาให้อ่านได้บ่อย ก็จะพยายามเขียนมาให้อ่านกันอีกให้ได้แน่นอนครับ และ อยากรู้ว่าคนที่คุณรักตายแล้วไปไหน คุยกับ เจโต ๐๘๖-๕๔๒-๒๔๘๖ หรือ พบ เจโต เชิญที่ อาศรมแห่งธรรม อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี แล้วพบกันในคุยกับผีตัวที่ ๑๔ นะครับffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2010
  2. JeTo2008

    JeTo2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    157
    ค่าพลัง:
    +1,845
  3. JeTo2008

    JeTo2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    157
    ค่าพลัง:
    +1,845
  4. sdf

    sdf Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +99
    อนุโมทนาสาธุด้วยค่ะ อย่าลืมคุยกับผีตัวที่14 แล้วเขียนมาเล่าอีกน่ะค่ะ ชอบอ่านมากม๊าก
     
  5. ยิ้มให้กับทุกวัน

    ยิ้มให้กับทุกวัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +183
    ขอบคุณมากนะคะที่นำเรื่องดีดีมาให้อ่าน

    ดิฉันติดตามเรื่องของคุณเจโตมาตลอด

    ก็จะขอติดตามอ่านเรื่องที่ 14 ในเร็วๆนี้ค่ะ
     
  6. T.cha

    T.cha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2010
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +641
    อ่านแล้วขนลุกครับ ผมถึงแฟนผมขึ้นมาทันที แฟนผมเค้ามีสัมผัสที่6 ครับ มีอยู่ครั้งหนึ่ง แฟนเคยบอกว่า ได้ฝันว่าไปอยู่ที่ไหนซักที่ มีคนบอกว่า ให้ไปโปรยดอกไม้ได้แล้ว ระวังเหอะๆ เดี่ยวได้เกิดเป็นมนุษย์นะ
     
  7. jaack

    jaack เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +551
    กระทู้ผีทั้งหลายก่อนหน้านี้ได้ขาดหายไปหลายๆส่วน ใครมีเก็บไว้ หากเอามาลงให้อ่าน
    จักเป็นธรรมทานอย่างยิ่ง ขอบคุณครับ
     
  8. aries

    aries เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,404
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,211
    ขอบคุณสำหรับธรรมทานครับ ผมติดตามอ่านทุกเรื่องเลยครับ ^_^ ขอโมทนาบุญด้วยนะครับ
     
  9. โคมหลวง

    โคมหลวง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,152
    ค่าพลัง:
    +6,383
    ดีจังครับ อ่านแล้วเห็นธรรมหลายๆข้อเลยครับ อนุโมทนาด้วยครับ

    บ้านที่สี่ไชยทองอยู่ข้างๆผมนี้เองครับ ใกล้จัง
     
  10. JeTo2008

    JeTo2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    157
    ค่าพลัง:
    +1,845
    ได้นำทุกเรื่องมาลงให้ใหม่แล้วนะครับ

    ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนด้วยครับ และท่านที่ขออนุญาตนำไปเผยแผ่ ผมอนุญาตนะครับ
     
  11. JeTo2008

    JeTo2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    157
    ค่าพลัง:
    +1,845
  12. โอมธนกฤต

    โอมธนกฤต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2009
    โพสต์:
    606
    ค่าพลัง:
    +3,984
    ขอบคุณท่าน JeTo2008 ที่ลงเรื่องครบทุกตอนใหม่และอนุญาตในการทำไปเผยแพร่ อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ
     
  13. infinityboon

    infinityboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2006
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +188
    ผมติดตามอ่านเรื่องของพี่เขามานาน คงเป็นปีเลย ทุกครั้งที่อ่านทำให้ใจสงบตาให้ธรรม ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ผมก็รู้สึกดีที่ใจสงบ เรื่องแบบนี้ถ้าไม่เจอกับตัวเองเขาคงหาว่าบ้า พูดเป็นนิทานให้ฟังได้ แต่จะมีใครซักกี่คนที่จะลองปฎิบัติธรรมทำบุญทำทาน ไม่ใช่เพื่อใครเลย แต่เพื่อตนเองทั้งนั้น วัตถุนิยมมันกลืนกินจิตใจคนไทยไปมากแล้ว มืดตามัวกัยใหญ่จนไม่รู้ว่าอะไรผิดถูก เมื่อรู้ว่าผิดหรือถูกก็คือคนที่ตายไปแล้ว ไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว ได้แต่รอให้ผู้อื่นทำบุญให้ อบ่างนี้เขาเรียกว่าสายไปแล้ว ผู้ที่ติดตามอ่านเรื่องของพี่เขา ขอให้เชื่อเถอะว่านรกสวรรค์มีจริง อันที่จริงตัวผมก็เคยนั่งสมาธิ เคยไปนรกมาก็มีแต่ไม่รู้ว่ามันจะเหมือนกันหรือเปล่า ทางเข้าจะเป็นถ้ำด้านในก็มีเงามากมาย เงานั้นเกิดจากไฟนรก แต่ผมก็เคยเห็นกะทะทองแดงที่ใหญ่มาก แต่เป็นของใครของมันเป็นหลุมๆ ดิ้นไปมาอยู่ในนั้น แล้วก็ต้นงิ้วที่มีหนามอันใหญ่อันเล็กมีคนปีนไปตามหนามอันใหญ่ พอไปกลางต้นก็จะมีหนามพุ่งออกมาทิ่มทะลุร่างกายตาย ส่วนอีกอย่างเป็นแบบจับผู้ชายถ่างขาให้กว้างนั่งลงกับพื้น แล้วก็มีตุ้มเหล็กอันใหญ่กว้างประมาณ1เมตร หล่นลงมาตรงหว่างขา ตายแบบจุกเพราะโดนจุดที่สำคัญของผู้ชาย พอออกจากสมาธิก็ประมาณ30นาที จิตผมไม่นิ่งพอนั่งนานได้มากสุดก็1ชั่วโมง ปัจจุบันไม่ได้นั่งแล้ว ต้องทำงานเจอเรื่องหนักๆ จิตใจเลยหลงไปในทางโลกเสียแล้ว พออ่านเรื่องก็พี่เขาทำให้กลับไปนึกถึงทุกที
     
  14. spthong2000

    spthong2000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    328
    ค่าพลัง:
    +3,967
    สวัสดีครับคุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->JeTo2008 เรื่องราวของคุณที่นำมาลงนั้นให้ข้อคิดได้อย่างดี ขออนุโมทนาบุญกับการนำมาเผยแพร่เป็นวิทยาทาน แต่มีข้อสงสัยอยากสอบถามเนื่องด้วยเห็นว่าปฏิบัติกรรมฐานน่าจะรู้และพอตอบได้ อยากถามว่าการที่สามารถปฏิบัติได้ในระดับนี้มีของเก่าหรือสัญญาเก่าที่ฝึกปฏิบัติมาแต่อดีตชาติใช่หรือไม่ และถ้าคนที่ไม่เคยปฏิบัติมาก่อนเลยและเริ่มปฏิบัติโอกาสที่สามารถที่จะทำได้ระดับเดียวกับคุณได้หรือไม่ และอยากให้คุณแนะนำกับผู้ที่จะฝึกปฏิบัติสมาธิกรรมฐานแนะนำแนวทางและการปฏิบัติเพื่อเป็นวิทยาทานให้กับผู้ไม่รู้ที่กำลังเริ่มปฏิบัติแต่ไม่ได้มีครูบาอาจารย์สอน เพื่อจะได้ผู้ร่วมจรรโลงศาสนาพุทธและเพิ่มคนดีๆเพิ่มขึ้น
     
  15. tong5959

    tong5959 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    2,056
    ค่าพลัง:
    +6,082
    [​IMG]



    ผีตัวที่ 14 เมื่อไหร่มาครับ
     
  16. แสงประไพ

    แสงประไพ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2010
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +19
    เย้ ได้อ่านซะที่ ตัวที่ 13 รอนานมากกกกกก

    รออ่านผีตัวที่14อยู่
     
  17. แสงประไพ

    แสงประไพ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2010
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +19
    เย้ได้อ่านผีตัว ที่ 13แล้ว รอนานมากกกกกก


    รออ่านตัวที่14อยู่
     
  18. narongsuon

    narongsuon สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +0
    ขอบคุณ มากครับสำหรับเรื่องราวดี ๆ
     
  19. umatevie

    umatevie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2007
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +410
    หวัดดีปีใหม่ค่ะ นานแล้วไม่ได้เข้ามา สนุกเหมือนเดิม รวมข้อคิด ในชีวิตประจำวันด้วย ดีมากๆๆ จะรออ่านต่อนะค่ะ. งานติดทองพระพุทธรูป คงจะสำเร็จแล้ว ขออุโมทนาสาธุ ด้วยค่ะ. มีงานอะไร กรุณาลงบอกด้วยนะค่ะ ขอขอบคุณนะค่ะ
     
  20. JeTo2008

    JeTo2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    157
    ค่าพลัง:
    +1,845
    พบและสนทนาธรรมในแบบเจโต ได้ทุกวันพฤหัสบดี และทุกวันอาทิตย์

    เชิญพบและสนทนาธรรมในแบบเจโต ได้ทุกวันพฤหัสบดี และทุกวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา ๑๓.๐๐ น.- ๑๗.๐๐ น ณ.เรือนธรรม ตั้งอยู่ที่บริเวณ ถนนตัดใหม่สามัคคี-ติวานนท์ ปากเกร็ด สนใจโทร.๐๘๖๕๔๒๒๔๘๖
     

แชร์หน้านี้

Loading...