ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

^
^
^

อื้อหืมม.. กำลังกินเมี่ยงปลาทู... ยิ่งเห็นภาพยิ่งแซ่บ!! (k)

 

ท่านหมายถึงพระหรือ???????????

 

หวังดีจริงๆจึงขอบ่นว่า

อ่านกันเล่นๆด้านล่าง (เทียบกับภัยธรรมชาติโดยคร่าวๆ)
---------------------------------------------------

ค.ศ.2000 -- ไม่เกิดอะไรเลย -- คนเริ่มไม่เชื่อ
ค.ศ.2001 -- ไม่เกิดอะไรอีก -- คนไม่ค่อยเชื่ออะไรเท่าไหร่แล้ว
~
ค.ศ.2009 -- เกิดบ้างแล้ว -- คนเริ่มตื่นตัว
ค.ศ.2010 -- เกิดบ่อยๆ -- คนตื่นตัว
ค.ศ.2011 (ช่วงกลาง) -- เกิดค่อนข้างมาก -- คนตื่นตัวมาก
ค.ศ.2011 (ช่วงปลาย) -- คำพยากรณ์มามาก -- คนตื่นตัวมากที่สุด
31 ธ.ค. 2554 -- คำพยากรณ์ช่วงที่ 1 -- คนตื่นตัวมากที่สุดสุดสุด(กำลัง3) --
-- แต่ไม่เกิดอะไร -- คนส่วนมากๆเริ่มไม่เชื่อถือ ประมาทขึ้น
13 เม.ย. 2555 --- คำพยากรณ์ช่วงที่ 2 -- คนตื่นตัวมากที่สุดสุด(กำลัง2) --
-- ก็จะไม่เกิดอะไรอีกนั่นล่ะ -- คนไม่ค่อยเชื่อมากขึ้น ประมาท
21~22 ธ.ค. 2555 -- คำพยากรณ์ช่วงที่ 3 -- "ทั่วโลกลุ้นระทึก" น่ากลัวที่สุด
-- เท่าที่เคยพยากรณ์กันมา -- ลุ้นสุดหัวใจ --
-- แต่ก็ไม่เกิดอะไรมากอีกนั่นล่ะ -- ทีนี้คนทั่วๆไปก็พูดกัน
ว่าคำพยากรณ์ไร้สาระ ไม่เห็นมีอะไรเลย อาจจะประมาท
สุดขั้ว เพราะไม่เห็นมีอะไรๆเลยนี่ มีแต่เรื่องเล่าไปเล่ามา
(อย่างมากก็แค่โทรศัพท์ใช้ไม่ใด้บางที่ และบางช่วง)
31 ธ.ค. 2555 ประมาณ 22:00 ถึง 00:00 ปีใหม่แล้ว ไม่มีอะไรหรอก อ้าว
ยกแก้วฉลอง .. แล้ววาระสุดท้าย แห่งการประมาทแบบรวม
กันแล้วเป็นพันล้านคน ก็เกิดขึ้น .. แล้วอะไรๆก็อาจจะโผล่
มาทักทายบ้างช่วงนี้แหล่ะ เหมาะสมดี ก็ไม่แน่นักเนาะ ..

........... จงจำใว้ว่า "ความประมาท เป็นหนทางแห่งความหายนะ" ............

(ก็เขาว่า แสดงความเห็นใด้นี่ครับ อันนี้ก็แค่ความเห็นผมคนเดียว โปรดใช้วิจา
รณ"ญาณ" ที่แจ่มใส เป็นญาณทัศนะครับในการอ่าน .. นิ่งแต่ไม่ทรงเป็นญาณ
ทัศนะ รึขอสายพระเนตรยืนยัน ก็อาจเห็นภาพความคิดตัวเองแค่ในหัวใด้นะ)


ปรารถนาดียิ่ง
Prateep S.

^_^

 

อ่า ทำไมคิดเหมือนกันเลย 90% ^^
แต่เราว่าระหว่างปีอาจมีอะไรซักอย่าง แต่ไม่รุนแรง จะดูเหมือนอุบัติภัยทั่วไป

 

2 ก.พ. 55 รื่นเริงทัศนาจร

โรงเรียน พาเด็ก ทัศนา
ขามา รถตก ข้างคู
อาสา พื้นที่ เข้ากู้
งมดู เด็กที่ หายไป

ภาพน้ำ ยังท่วม เท่าเดิม
ประเมิน การหนี ไม่ได้
บางที อาจจะ ไม่ย้าย
เอาไว้ รุนแรง ค่อยไป

รอดู สัญญาณ ใหม่ๆ
เผื่อไว้ มีการ เปลี่ยนแปลง
หากมี จะรีบ แถลง
แล้วแจ้ง ให้ทราบ ทั่วกัน

ทุกภาพ ที่แจ้ง เข้ามา
อย่าหา ว่าจะ เป็นจริง
รอดู ถ้าเกิด แล้วอิง
เป็นจริง ถึงค่อย พูดคุย

องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน

 

2 ก.พ. 55

เรื่องนี้ มีผู้ เคยลง
ขอปลง ไม่ขอ เขียนตาม
อยากรู้ ทุกท่าน ต้องถาม
บทความ จากผู้ ดูแล

องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน

 

อ่านแล้วรู้สึกอนิจจัง จริงๆ - คนเราควรอยู่อย่างพอดีและพอเพียง และมีศีลธรรมที่ดีงาม

หัวข้อ - ใครอยากเป็นนักร้อง นักแสดง นางแบบ ควรเลิกคิด


อันนี้เป็นประสบการณ์ของหลวงปู่คำคะนิงมาเล่าต่อเรื่องนรกนางแบบ

หลวงปู่คำคะนิงเดินเที่ยวชมเมืองนรกต่อไป เห็นสถานที่แห่งหนึ่ง สว่างไสวรุ่งเรืองดุจแสงฟ้าแลบอยู่แปลบปลาบ เป็นยกพื้นเวทีกว้างคล้ายสะพานทอดยาวโค้งลงไปในสระน้ำอันกว้างใหญ่ สระน้ำนั้นลุกไหม้เป็นเปลวไฟแดงฉานโชติช่วง น่าสะพรึงกลัว ก็รู้ว่าเป็นขุมนรก

บนสะพานนั้นมีหญิงสาวรูปร่างอรชรสวยงามจำนวนมาก พากันเดินออกจากเวทีมีม่านผืนใหญ่มหึมา หญิงสาวเหล่านั้นแต่งกายด้วยเสื้อผ้าอาภรณ์สวยงาม เดินนวยนาดลงจากเวที ทอดแขนทอดขามาตามสะพาน
จ่ายมบาลอธิบายว่า มนุษย์ผู้หญิงเหล่านี้เป็นพวกนางงามนางแบบ กำลังเดินโชว์ร่างกายและเสื้อผ้า หลวงปู่คำคะนิงยืนงุนงงประหลาดใจยิ่ง

นางงาม นางแบบ เสื้อผ้าอาภรณ์อันสวยงามฉูดฉาดสะดุดตาเหล่านั้น เดินเรียงรายตามกันออกไปยืนอยู่กลางสะพาน แล้วเยื้องกรายเปลื้องเสื้อผ้าออกก่อน เหลือแต่ร่างเปลือยล่อนจ้อนอุจาดนัยน์ตา แต่ละนางร่างสวยงามด้วยส่วนสัดปานนางฟ้า

จากนั้นก็มีนกอินทรีตัวใหญ่บินมาจากไหนไม่รู้ นัยน์ตานกอินทรีแดงฉานพวยพุ่งออกมาเป็นเปลวไฟ มันบินมาตรงหน้าหญิงสาวแต่ละนางที่ยืนเปลือยกายอยู่
แล้วใช้จะงอยปากอันคมกริบจิกเข้าที่หน้าผากหญิงสาว กระชากทีเดียว หนังศีรษะและเส้นผมก็ลอกออกมาตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า กลายเป็นหนังทั้งแผ่น หญิงสาวนางนั้นส่งเสียงหวีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด

เมื่อนกอินทรีจิกลอกเอาหนังออกไป ก็เหลือแต่ร่างที่แดงฉานไปด้วยเลือด น่าขยะแขยงชวนขนพองสยองเกล้า จะมองหาความงามเมื่อตะกี้นี้ไม่พบเลย นกอินทรีได้จิกกินนัยน์ตาทั้งสองข้างก่อน แล้วจึงจิกเอาเนื้อแดง ๆ ออกมาเผยให้เห็นอวัยวะภายใน คือ ตับไตไส้พุง น่าขยะแขยง ไม่สวย ไม่งาม

จากนั้นนกอินทรีจิกกินตับไตไส้พุงจนหมดสิ้น เหลือแต่ร่างโครงกระดูกจะหาความสวยงามไม่ได้เลย กลายเป็นร่างโครงกระดูกยืนสั่นสะท้านอยู่
ฝ่ายหญิงสาวคนอื่น ๆ เห็นเช่นนั้น ก็มีความหวาดกลัวอย่างสุดขีด พากันกระโดดหนีลงไปในสระนรกที่เป็นเปลวไฟลุกโชติช่วงแดงฉานนั้น ก็ถูกเปลวไฟนรกลุกเผาไหม้ ส่งเสียงร้องกรีดแหลมระเบ็งเซ็งแซร่ด้วยความเจ็บปวด
แต่แล้วก็มีเหล็กคล้ายหอกเผาไฟแดง ๆ แทงทะลุร่างหญิงสาวเหล่านั้นส่งขึ้นมาจากขุมไฟนรก ร่างที่ไหม้เหลือแต่กระดูกขาวโพลนก็กลับกลายเป็นร่างหญิงสาวสวยงามเหมือนเดิม มีเสื้อผ้าอาภรณ์สวมใส่เหมือนเดิมทุกอย่าง

ต่อจากนั้นก็ถูกนกอินทรีโผบินเข้าจิกกระชากเสึ้อผ้าออกเหลือแต่กายเปลือยล่อนจ้อน แล้วจิกหนังลอกออกทั้งแผ่น จิกกินเนื้อ กินตับไตไส้พงเหมือนที่กระทำกับหญิงสาวคนแรก

ส่วนหญิงสาวคนอื่น ๆ มีความหวาดกลวัส่งเสียงหวีดร้องวุ่นวายระเบ็งเซ็งแซร่นั้นจะวิ่งหนีไปทางไหนก็ไม่ได้ เพราะมีหอกเผาไฟแดง ๆ แทงขึ้นมาจากขุมนรกเพลิง จี้สกัดหน้าหลังไว้รอบข้างไปหมด

หลวงปู่คำคะนิงสลดสังเวชเป็นที่ยิ่ง ไม่ทราบว่าหญิงสาวเหล่านั้นมีความผิดสถานใด ถึงต้องมาถูกกระทำลงโทษอย่างโหดเหี้ยมอำมหิตถึงปานนี้
จ่ายมบาลล่วงรู้วาระจิตได้ตอบว่า หญิงสาวเหล่านี้สมัยเป็นมนุษย์ชอบประพฤติตนทางอนาจาร คืออวดร่างกายของตน เปลือยร่างต่อสาธารณะ และหลงใหลลุ่มหลงในเสึ้อผ้าอาภรณ์เครื่องตกแต่งประดับกายอย่างไม่ลืมหูลืมตา

สามารถกระทำชั่วได้ในทุกสิ่งเพื่อแสวงหาเงินมาซึ้อเสื้อผ้าอาภรณ์ประดับตัวเองอวดคนอื่น

เป็นผู้หญิงประเภทฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม ไม่รู้จักศาสนาคำสั่งสอนของศาสดาองค์ใด ไม่เชื่อในคุณธรรมความดีใด ๆ ไม่ละอายแก่ใจ
เชื่อแต่ว่า เกิดมาชาตินี้ชาติเดียว ต้องแสวงหาความสุขสนุกสถานให้เต็มที่ กิน ถ่าย เสพกามและนอนเท่านั้น อย่างอื่นไม่คิด ชาติหน้าไม่มี บาปบุญไม่มี นรกไม่มี

ดังนั้นเมื่อหญิงสาวเหล่านี้ตายแล้วจึงต้องมาเสวยกรรมอยูในนรกเช่นนี้

ข้อคิดจากประสบการณ์นี้ก็คือไม่ว่าจะทันสมัยแค่ไหนนรกก็ตามทัน




เรื่องที่สองนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับนักเต้นรำ

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๘ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๐ สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค ตาลปุตตสูตร

ความโดยย่อก็คือมีพ่อบ้านนักเต้นรำนามว่าตาลบุตรเข้าไปถามพระพุทธเจ้าว่านักเต้นรำถ้าตายไปจะไปเป็นสหายของเทวดาผู้ร่าเริง พระพุทธเจ้าก็ทรงห้ามว่าอย่าเลยคามณี แต่ก็ถูกรบเร้าถึงสามครั้งท่านเลยบอกว่าเราห้ามท่านไม่ได้แล้ว เราจะพยากรณ์แก่ท่าน ดูกรนายคามณี เมื่อก่อนสัตว์ทั้งหลายยังไม่ปราศจากราคะอันกิเลสเครื่องผูกคือราคะผูกไว้ นักเต้นรำรวบรวมเข้าไว้ซึ่งธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด ในท่ามกลางสถานเต้นรำ ในท่ามกลางสถานมหรสพ แก่สัตว์เหล่านั้นมากยิ่งขึ้น เมื่อก่อนสัตว์ทั้งหลายยังไม่ปราศจากโทสะ อันกิเลสเครื่องผูกคือโทสะผูกไว้ นักเต้นรำรวบรวมเข้าไว้ซึ่งธรรมเป็นที่ตั้งแห่งโทสะ ในท่ามกลางสถานเต้นรำ ในท่ามกลางสถานมหรสพ แก่สัตว์เหล่านั้นมากยิ่งขึ้น เมื่อก่อนสัตว์ทั้งหลายยังไม่ปราศจากโมหะ อันกิเลสเครื่องผูกคือโมหะผูกไว้ นักเต้นรำย่อมรวบรวมไว้ซึ่งธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งโมหะ ในท่ามกลางสถานเต้นรำ ในท่ามกลางสถานมหรสพ แก่สัตว์เหล่านั้นมากยิ่งขึ้น นักเต้นรำนั้น ตนเองก็มัวเมาประมาท ตั้งอยู่ในความประมาท เมื่อแตกกายตายไป ย่อมบังเกิดในนรกชื่อปหาสะ พ่อบ้านถึงกับร้องไห้.

http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.p ... 768&Z=7822


ที่มา ใครอยากเป็นนักร้อง นักแสดง นางแบบ ควรเลิกคิด - คลิปแมส

 

ผมอยากให้คุณ K_97 เปิดกระทู้โดยเฉพาะแบบคุณอริยะบุญหรือคุณฮั๋วโต๋ ไม่ทราบว่าพอเป็นไปได้บ้างหรือเปล่าครับ

 

เห็นด้วยกับคุณ Poon-pan นะค่ะ
เพราะว่าแฟนคลับคุณ K-97 ก็มีเยอะ
ดิฉันคนหนึ่งก็ตามอ่าน ถ้าเป็นกระทู้เฉพาะก็ดีค่ะ
จัดไปเลยค่ะ จะได้เป็นกระทู้เฉพาะส่วน จะกลับไปดูย้อนหลังก็ง่ายด้วยค่ะ

 

สนับสนุนอีกเสียงคะ....ลุง k-97 น่าจะเปิดกระทู้.....ตอนนี้มีคนสนใจ...ข้อความจากลุงเยอะมาก

 

ตามอ่านข้อความคุณลุง K-97 เช่นเดียวกัน...

อนุโมทนาบุญกับคุณลุง และท่านอื่นๆ ที่ได้ปรารถนาดีเข้ามาแจ้งเตือนให้ทราบกัน...สาธุ _/|\_

 

<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> แฟนบอลอียิปต์ตีกันเละดับคาสนาม 73 ศพ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>วันนี้ (2 ก.พ.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ว่า กระทรวงสาธารณสุขของอียิปต์แถลงว่า

มีชาวอียิปต์อย่างน้อย 73 ศพ เสียชีวิตจากเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้น ระหว่างเกมการแข่งขันฟุตบอลที่เมืองปอร์ต ซาอิด เมืองท่าริมฝั่งทะเลเมดิเตอเรเนียน ระหว่างทีมคู่แค้นกัน 2 ทีม นับเป็นเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นกับเกมกีฬาอีกรายการหนึ่งในประเทศอียิปต์ในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและหน่วยแพทย์พยาบาล เปิดเผยว่า แฟนบอลของทีมเจ้าบ้าน “อัล-มัสรี” ได้บุกลงไปในสนามระหว่างเกมการแข่งขัน

ซึ่งทีมเจ้าบ้านนำคู่แข่งคือทีม อัล-อาห์ลี ซึ่งเป็นทีมฟุตบอลชั้นนำของลีกอียิปต์ ด้วยสกอร์ 3-1 ประตู แฟนบอลทีมเจ้าบ้านด้วยความดีใจจึงแห่กันลงไปในสนามจำนวนมาก แล้วถือโอกาสขว้างทั้งก้อนหิน พลุ และขวด เข้าใส่แฟนบอลของทีมคู่แข่ง แล้วยังพลอยมีนักฟุตบอลบางคนถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บไปด้วย

อย่างไรก็ตาม หน่วยแพทย์ที่ห้องเก็บศพโรงพยาบาลเมืองปอร์ต ซาอิด เปิดเผยว่า

ศพของผู้เสียชีวิตบางคนที่ถูกนำมาเก็บไว้ที่ห้องเก็บศพนั้น เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยที่สนาม ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตยังไม่ทราบแน่ชัด ต้องรอผลการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพ

กระทรวงสาธารณสุขของอียิปต์ ออกแถลงการณ์ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากเหตุจลาจลที่สนามฟุตบอลเมืองปอร์ต ซาอิดแล้วอย่างน้อย 73 ศพ

ส่วนนักฟุตบอลของทั้งสองทีม ได้วิ่งกลับเข้าไปในห้องแต่งตัว เพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้ตกเป็นเป้าหมายของการก่อเหตุรุนแรง ขณะเดียวกัน หลังเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นที่สนามฟุตบอลในเมืองปอร์ต ซาอิดแล้ว เกมการแข่งขันฟุตบอลอีกคู่หนึ่ง ที่สนามฟุตบอลในกรุงไคโร ระหว่างทีมอัล-อิสมาอิลยา กับทีมซามาเลค ก็มีต้องยกเลิกไปด้วย เพื่อเป็นการแสดงความเสียใจให้กับเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายที่เสียชีวิตจากเหตุรุนแรงดังกล่าว ภาพข่าวทางโทรทัศน์แสดงให้เห็นว่า บางส่วนของสนามฟุตบอลในกรุงไคโร มีการจุดไฟเผาด้วย คาดว่าเป็นเพราะแฟนบอลบางส่วนไม่พอใจที่การแข่งขันถูกยกเลิกไป

<!-- /.content --><!-- START: Facebook Share -->
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ยอด"หนาวตาย"ทั่วยุโรปพุ่งแตะหลัก 80 คน คลื่นความเย็นยังแผ่ลามทั่วภูมิภาค </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>หิมะตกหนักก่อให้เกิดความเดือดร้อนไปทั่วทวีปยุโรป

โดยแผ่ลามไปถึงประเทศอิตาลีและตุรกี ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตรวมจากการหนาวตายทั่วยุโรปตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วพุ่งทะลุหลัก 80 คนแล้ว ขณะที่ในบางพื้นที่ของโรมาเนียตลอดชายฝั่งที่ติดทะเลดำ กลายสภาพเป็นน้ำแข็งทั้งหมด

ในตอนกลางของอิตาลี สภาพลมแรงและอากาศเย็นเป็นอุปสรรคต่อการสัญจรตามท้องถนน และยังทำให้การแข่งขันฟุตบอลหลายแมตช์ต้องถูกยกเลิก

กระทรวงฉุกเฉินของยูเครนเปิดเผยวันนี้ว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 13 คน จากสภาพอากาศหนาวจัดในยูเครนในช่วง 24 ชม.ที่ผ่านมา ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 43 คน โดยโรงเรียนและมหาวิทยาลัยหลายแห่งในกรุงเคียฟต้องปิดการเรียนการสอนชั่วคราว ซึ่งรวมถึงทางตอนเหนือของประเทศกรีซ ที่อุณหภูมิลดลงแตะระดับ -16 องศาเซลเซียส

ยูเครนกำลังเผชิญฤดูหนาวที่มีสภาพอากาศหนาวจัดที่สุดในรอบ 6 ปี โดยอุณหภูมิในช่วงเวลากลางคืนลดต่ำลงถึง -33 องศาเซลเซียส

รายงานของกระทรวงฉุกเฉินยูเครนระบุว่า ในช่วง 5 วันที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตจากสภาพอากาศหนาวเย็นแล้วถึง 43 คน โดย 28 คนเสียชีวิตบนถนน ขณะที่ 7 คนเสียชีวิตในบ้าน และอีก 8 คนเสียชีวิต ขณะเข้ารับการรักษาพยาบาล ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัย รายงานระบุว่า มีประชาชนหลายร้อยคนต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล เนื่องจากหิมะกัดและอาการเจ็บป่วยอื่น ๆ อันเนื่องมาจากอากาศหนาวจัด ยูเครนตั้งที่พักชั่วคราวหลายร้อยแห่งทั่วประเทศ และแจกจ่ายอาหารและเครื่องดื่มให้แก่ผู้ไร้บ้าน


ขณะที่หลายเมืองในบัลเกเรีย สามารถวัดอุณหภูมิต่ำสุดได้ครั้งใหม่ โดยเฉพาะเมืองเนจา

ซึ่งอุณหภูมิลดลงถึง -29 องศาฯ เป็นเวลา 2 วันติดต่อกันแล้ว ขณะที่ทั่วทั้งประเทศยกระดับการเตือนภัยเป็น"สีส้ม" ซึ่งหมายถึงอยู่ในสภาพเลวร้ายที่สุด โดยโรงเรียนกว่า 450 แห่งทั่วประเทศต้องปิดชั่วคราว

ในบอสเนียและเซอร์เบีย ทางการต้องใช้เฮลิคอปเตอร์เพื่อหย่อนสิ่งของยังชีพให้แก่ผุ้ประสบภัยในพื้นที่ห่างไกลที่ถูกตัดขาดจากพายุหิมะ ส่วนในโปแลนด์ พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 7 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากการหนาวตายเพิ่มขึ้นมากกว่า 20 รายแล้ว

ด้านสื่อของเยอรมนีรายงานว่า อากาศเย็นถึงขั้นติดลบ ส่งผลให่สตรี 2 รายเสียชีวิตอันเนื่องมาจากตกลงไปในคูน้ำที่กลายเป็นน้ำแข็ง ขณะที่อีกรายประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เนื่องมาจากรถยนต์เสียการควบคุม

ส่วนในอิตาลี อุณหภูมิลดต่ำลงเป็นประวัติการณ์ โดยเฉพาะตอนใต้สุดของประเทศ รวมถึงเกาะคอร์ซิกากลางทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

ซึ่งหิมะตกหนาถึง 20 ซม. และส่งผลให้การคมนาคมขนส่งตามถนนสายหลักกลายเป็นอัมพาต รวมถึงยังส่งผลให้การแข่งขันฟุตบอลซีรีส์ อา หลายนัดต้องเลื่อนออกไป โดยเฉพาะคู่สำคัญระหว่างทีมอินเตอร์ มิลาน และปาร์เลอโม

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

อยากให้คุณ k_97 เปิดกระทู้ของตนเอง

มายกมือเห็นด้วยค่ะ จะตามอ่านเหมือนเดิมค่ะ ^^

 

ตัวเต็งชิงประธานาธิบดีฝรั่งเศส ถูกปาผงแป้งขณะหาเสียง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งเพื่อทำการเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ของฝรั่งเศส ซึ่งผู้สมัครรับการคัดเลือกได้ทำการหาเสียงกันอย่างเข้มข้นนั้น
นายฟรานซัวร์ ฮอลังเดออ (Francois Hollande)วัย 57 ปี ซึ่งเป็นตัวเก็งชิงตำแหน่งประธานาธิบดี จากพรรคสังคมนิยมฝ่ายค้าน ระหว่างที่กล่าวหาเสียงอยู่นั้นก็มีหญิงรายหนึ่งอายุประมาณ 45 ปี ขว้างถุงแป้งเข้าใส่ตัวของนายฟรานซัวร์ ระหว่างหาเสียงบอดี้การ์ดจึงรีบเข้าไปล็อคตัวหญิงคนดังกล่าว

ทั้งนี้ แม้ว่าตามร่างกายและใบหน้า แว่นตา ผม ของนายฟรังซัวร์ เต็มไปด้วยผงแป้งสีขาว แต่ด้วยภาวะผู้นำของเขาสามารถควบคุมสติและอารมณ์ได้ดี จนกลับมากล่าวสุนทรพจน์ได้จนจบ
<IFRAME height=315 src="http://www.youtube.com/embed/QntMLZ_RYi0" frameBorder=0 width=560></IFRAME>
Mthai News



ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับข่าว
สำนักเอเอฟพีได้รายงานว่า ที่ประเทศอัฟกานิสถานได้เกิดสุดสลดขึ้นอีกครั้ง เมื่อสามีสุดโหดได้ก่อเหตุสังหารฆ่าภรรยาของตนเอง หลังเกิดความแค้นที่ภรรยาของตนเองคลอดแต่ลูกสาวไม่ให้กำเนิดลูกชายอย่างที่เขาต้องการ
โดยรายงานว่าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29ม.ค. ที่ผ่านมา ที่บ้านหลังหนึ่งในเขตคานอาบัด ในจังหวุดคุนดุซ ทางภาคเหนือของประเทศ ทราบชื่อผู้ตายคือนางสโตเรย์ วัย 30 ปี และจากการสอบสวนพ่อของผู้ตายทราบว่า หลังจากที่นางสโตไรได้คลอดลูกสาวซึ่งเป็นคนที่ 3 ของครอบครัวเมื่อ 3เดือนก่อน ก็ทำให้ผู้เป็นสามีและแม่สามีไม่พอใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากพวกเขาต้องการลูกและหลานที่เป็นผู้ชาย
จึงดุด่าว่าเธอสารพัดก่อนที่พวกเขาจะได้ลงมือฆ่าเธออย่างโหดเหี้ยมด้วยการใช้เชือกรัดคอและแขวนคอเธอกับหน้าต่างห้องจนเสียชีวิตเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมแม่สามีมาดำเนินทันที ส่วนสามีสุดโหดนั้นหลบหนีไปได้ ซึ่งขณะนี้ตำรวจได้ระดมกำลังไล่ล่าหาตัวมาดำเนินคดีอยู่
อย่างไรก็ดีหลังข่าวดังกล่าวดังกล่าวได้แพร่สะพัดออกไป ก็ทำให้ผู้หญิงชาวอัฟกานิสถานเกิดความตื่นตัวและตระหนกกับเสรีภาพและความปลอดภัย จึงได้เรียกร้องให้ทางการเข้ามาจัดการกับปัญหาดังกล่าวที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศอยู่ในขณะนี้.

 

...เฮ้อ..ถ้าจำไม่ผิด นานมาแล้ว วิชาวิทยาศาสตร์ โครโมโซมผู้ชายคือ xy ผู้หญิงคือ xx
...ดังนั้นถ้าได้โครโมโซม y จากสามี ก็จะทำให้ได้ ลูกชาย มันไม่มีทางที่ ภรรยาหรือผู้หญิงจะมีโครโมโซม y อยู่แล้วนี่คะ
...แล้วความเชื่อผิดๆที่ผู้หญิงต้องให้ลูกชายโดยไม่คิดถึงหลักความจริง มันแย่มากๆเลย ความผิดอยู่ที่ผู้ชายนะแบบนี้ที่ให้แต่ โครโมโซม x มาน่ะ
...ถ้าเข้าใจผิดก็ขออภัย

 

วิธีผูกเชือกโรยตัวครับ
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=w4JhIolmdo4]การผูกเชือกโรยตัว.MOD - YouTube[/ame]
ผมเห็นว่าจำเป็นที่จะต้องรู้ไว้ และทดลองทำดูครับ

 

ตามอ่านข้อความของ ลุงk_97เหมือนกันค่ะ เลยเห็นด้วยถ้าคุณลุงจะกรุณาเปิดกระทู้ของตัวเอง

 

เออ..ไม่ทราบว่าทาง กทม. เริ่มลอกคู..คลองหรือยังผมมีรางสังเห่าว่าน้ำจะท่วมหนักกว่าเดิมถ้ายังเชื่องช้าอยู่..กรี๊ดฝนตกเดือนแห่งรัก...รักที่ล้นปรี่จนเต็มเขื่อน...ธรรมชาติรักเรามากเลยกำลังจัดเต็ม

 

ฝนสีเลือดกำลังตั้งเคร้า....คนกรุงจงระวังให้หนักเจ้ากรรมนายเวร..กำลังเคลื่อนผล..คงใกล้แล้วตอนนี้มันติดผู้มีบารมีสูงอยู่...เข้ามาไม่ได้

เอิ๊กๆๆๆ ยี๋ฮา มันพะยะคะ

 

ทางวิทยาศาสตร์ไม่มีนะครับ มีกรณีเดียวคือมีกำมะถันหรือสารเคมีปนเปื้อนในเมฆฝนที่กำลังตั้งเค้าครับ