พระอยากสึกไปมีเมีย!!

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Norlnorrakuln, 4 มีนาคม 2012.

  1. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,814
    ค่าพลัง:
    +15,099
    [​IMG]

    คราวหนึ่ง เมื่อพระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน นครสาวัตถี<O:p</O:p
    ที่นครสาวัตถีนี้เอง มีพระอรหันต์สาวกองค์หนึ่ง นามว่าพระสังฆรักขิตเถรเจ้า พระเถรเจ้ามีหลานชายคนหนึ่งมีนามเช่นเดียวกับท่าน จึงเรียกกันว่า สังฆรักขิตผู้เป็นหลาน เหตุที่ได้ชื่อเช่นเดียวกันนี้ ก็เพราะบิดาของเขาซึ่งเป็นน้องชายของพระเถรเจ้า โปรดชื่อสังฆรักขิต<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ต่อมา เมื่อสังฆรักขิตผู้เป็นหลาน เจริญวัยควรแก่บรรพชา ก็ได้บรรพชาอยู่ในสำนักพระเถรเจ้าสังฆรักขิตผู้เป็นลุง ครั้งเวลาผ่านไปล่วงสู่วัยที่จะอุปสมบทได้ ก็ได้รับการอุปสมบทอยู่ศึกษากับพระเถรเจ้า ผู้เป็นพระอุปัชฌายะ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ต่อมาเมื่อภิกษุสังฆรักขิตผู้เป็นหลาน ได้ไปจำพรรษาอยู่ในวัดชนบทแห่งหนึ่ง และได้ลาภเป็นผ้าจำนำพรรษา ๒ ผืน ผืนหนึ่งยาว ๗ ศอก อีกผืนหนึ่งยาว ๘ ศอก เมื่อเกิดลาภผลเช่นนั้น ท่านสังฆรักขิตผู้เป็นหลาน ด้วยความรู้สึกกตัญญูและเคารพ จึงคิดว่าตัวเองจะเอาไว้เฉพาะผืนที่ยาว ๗ ศอก ส่วนผืนที่ยาว ๘ ศอกนั้นจะเอาถวายพระอุปัชฌายะผู้เป็นลุง<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เมื่อออกพรรษาแล้ว ท่านสังฆรักขิตจึงกลับมาเยี่ยมพระอุปัชฌายะ ครั้งถึงวิหารในสำนักแห่งพระสังฆรักขิตเถรเจ้า ปรากฎว่าพระเถรเจ้ายังไม่มายังวิหาร จึงเข้าไปในวิหาร จัดการปัดกวาดทำความสะอาด จัดน้ำล้างเท้าไว้ และปูอาสนะให้เรียบร้อย เสร็จแล้วก็นั่งคอยพระเถรเจ้า<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    นั่งคอยอยู่สักครู่ใหญ่ ก็เห็นพระเถรเจ้าเดินมา เมื่อพระเถรเจ้ามาถึงวิหารแล้วก็ลุกขึ้นต้อนรับ ตรงเข้าไปรับบาตรและจีวรแล้วนิมนต์ให้นั่ง เอาพัดใบตาลไปพัดให้ จัดน้ำถวายและล้างเท้าให้ด้วยวิสัยของศิษย์ที่ดี เมื่อพระอุปัชฌายะได้พักพอสมควรแล้ว ท่านสังฆรักขิตผู้เป็นหลาน ก็นำเอาผ้าผืนที่ยาว ๘ ศอก ไปวางลงใกล้ๆพระเถระ และกล่าวว่า กระผมขอถวายผ้าผืนนี้ให้ท่านพระอุปัชฌายะเอาไว้ใช้ ขอรับ พูดจบแล้วก็เอาพัดมาถือ พัดให้พระอุปัชฌายะต่อไป<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    พระเถรเจ้าได้พูดว่า ก็ไม่เป็นไร เธอเอาไว้ใช้เองทั้ง ๒ ผืนนั่นแหละ ผ้าของฉันมีครบแล้วไม่ควรจะมีเพิ่ม ท่านพระสังฆรักขิตผู้เป็นหลานก็ยังไม่ยอมขอร้องว่า ท่านลุงอย่าได้ปฎิเสธเลย ขอรับ หากท่านลุงรับเอาผ้าผืนนี้ไว้ใช้ กระผมจะได้บุญได้อานิสงส์มาก แม้ท่านสังฆรักขิตได้อ้อนวอนอีกหลายครั้ง พระเถระก็ไม่ยอมรับ ท่านสังฆรักขิตก็เกิดความน้อยใจ คิดไปว่าเมื่อครั้งเรายังเป็นคฤหัสถ์ เราก็เป็นหลานของท่าน ครั้นเราบวชแล้ว เราก็ได้มาเป็นศิษย์ของท่าน รับการอบรมสั่งสอนจากท่าน ท่านเป็นอุปัชฌายะของเรา แต่เมื่อเราถวายผ้าให้ท่านใช้ ท่านก็ไม่ยินดีจะใช้ผ้าร่วมกันเรา เราจะอยู่เป็นภิกษุต่อไปเพื่ออะไรกัน เราควรกลับไปเป็นคฤหัสถ์เสียดีกว่า!<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    คิดเช่นนี้แล้วก็ระลึกได้ว่า การมีชิวิตอยู่ครองเรือน เป็นความยากลำบากจะทำมาหากินอะไรเลี้ยงชีพ ท่านสังฆรักขิตก็ครุ่นคิดวิตกอยู่ แต่แล้วก็นึกได้ว่ามีผ้าอยู่ จึงคิดเลยเถิดต่อไปว่า ผ้าผืนที่ยาว ๘ ศอกนี้ ที่ท่านลุงไม่ยอมรับจากเรานี้แหละ เราจะเอาไปขายได้เงินมาแล้ว ก็จะเอาไปซื้อแม่แกะมาตัวหนึ่ง ตามธรรมดานั้นแม่แกะตกลูกได้เร็ว เมื่อได้ลูกแกะแล้วก็จะนำลูกแกะไปขายเอาเงินมาทำทุนค้าขาย<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เมื่อมีเงินมีทรัพย์มากแล้ว ก็จะหาเมียสักคนหนึ่งแล้วเราก็จะมีลูก ได้ลูกชาย เราก็จะตั้งชื่อให้เหมือนกับชื่อลุงของเรา แล้วเราก็จะพาลูกและเมียนั่งเกวียนมาไหว้ท่านลุง ระหว่างทางเราจะให้เมียส่งลูกมาให้เราอุ้ม เมียของเราก็คงจะรักลูกมากและไม่อยากให้เราแย่งไปอุ้ม นางคงจะไม่ยอมคงจะพูดว่า ท่านจะอุ้มลูกไปทำไม ทำหน้าที่ขับเกวียนไปก็ดีอยู่แล้วฉันเป็นคนอุ้มเอง เมื่อเมียไม่ยอมให้เราอุ้มลูก เราก็จะตีเมียด้วย ปฏัก! ขณะนั้นท่าน สังฆรักขิตกำลังถือพัด พัดให้พระอุปัชฌาอยู่ เมื่อคิดมาถึงตอนนี้ ก็เลยเอาด้ามพัดตีลงไปที่ศรีษะของพระเถระด้วยความลืมตัว<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เมื่อหลานพัดให้อยู่ดีๆ แล้วกลับเอาด้ามพัดมาตีศรีษะ พระเถระจึงเพ่งพิจารณาดูให้รู้สาเหตุ ในที่สุดก็รู้ความคิดทั้งปวงของท่านสังฆรักขิตผู้เป็นหลาน จึงได้พูดขึ้นว่า
    <O:p</O:p
    สังฆขรักขิตเอ๋ยเธอตีเมียของเธอไม่ได้ ก็มาตีพระแก่ๆ พระแก่ๆอย่างฉันนี้มีความผิดอะไร ภิกษุสังฆรักขิตผู้หลานสะดุ้งสุดตัว บอกกับตัวเองว่าฉิบหายแล้วเรา เราคิดอะไรท่านลุงรู้หมดสิ้นแล้ว เราอยู่เป็นสมณะต่อไปทำไมอีก คิดแล้วก็โยนพัดทิ้งออกวิ่งหนีไปทันที”<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ภิกษุหนุ่มและสามเณรทั้งหลายเห็นเหตุการณ์เช่นนั้น ก็พากันออกวิ่งไล่จับภิกษุสังฆรักขิตไว้ได้ แล้วพาไปเฝ้าพระพุทธองค์ พระบรมศาสดา<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    พระพุทธองค์ตรัสถามว่า พวกเธอมาทำไมกัน”<O:p</O:p
    ภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า พวกข้าพระองค์ได้จับภิกษุหนุ่มรูปหนึ่งมาถวาย พระเจ้าข้า ภิกษุรูปนี้ทำร้ายพระสังฆรักขิตเถรเจ้าด้วยด้ามพัดพระเจ้าข้า”<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    พระศาสดาจึงตรัสถามท่านสังฆรักขิตผู้เป็นหลานว่า เธอทำอย่างที่ภิกษุเหล่านั้นกล่าวหา จริงหรือ?”<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    สังฆรักขิตภิกษุ กราบทูลว่า จริงพระเจ้าข้า”<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    พระศาสดา เพราะเหตุใดเธอจึงกระทำกรรมหนักอย่างนี้ เธอได้มาบวชในศาสนาของพุทธะเช่นเรามิใช่หรือ! เธอได้เป็นบุตรของพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง ผู้มีความเพียรแรงกล้าแล้ว เธอไม่อาจให้คนทั้งหลายเรียกเธอได้ว่า เป็นพระโสดาบัน หรือสกทาคามี หรืออรหันต์ เพราะเหตุใดเธอจึงกระทำกรรมหนักอย่างนี้”<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    สังฆรักขิตภิกษุ กราบทูลว่า ข้าพระองค์อยากสึกพระเจ้าข้า”<O:p</O:p
    พระพุทธองค์ เพราะเหตุใดเธอจึงอยากสึก”<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ท่านสังฆรักขิต จึงกราบทูลเล่าเรื่องทั้งปวงให้ทรงทราบ นับตั้งแต่วันที่ได้รับผ้าจำนำพรรษา จนกระทั้งเผลอเอาก้านตาลตีศรีษะพระเถระ แล้วรู้สึกตกใจกลัว จึงได้วิ่งหนีไม่อยากอยู่เป็นพระอีกแล้ว พระพุทธองค์จึงประทานโอวาทว่า<O:p</O:p
    สังฆรักขิต เธออย่าคิดเช่นนั้นเลย อันธรรมดาของจิตย่อมมีปกติรับอารมณ์ แม้อยู่ในที่ไกลแสนไกล จิตก็เกี่ยวมาเป็นอารมณ์ คือเอามายึดเอามาเกาะ เอามาจดจ่อไว้ เธอจงพยายามให้พ้นจากเครื่องผูก คือราคะ โทสะ โมหะ”<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ลำดับนั้นพระพุทธองค์จึงได้ตรัสเป็นพระคาถาว่า<O:p</O:p
    "บุคคลใดสำรวมจิต ซึ่งไปไกล เที่ยวไปดวงเดียว ไม่มีร่างกาย มีถ้ำเป็นที่อยู่อาศัย บุคคลนั้น ย่อมพ้นจากเครื่องผูกของมาร"<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เมื่อสิ้นกระแสพระธรรมกถา พระสังฆรักขิตผู้เป็นหลานก็บรรลุถึงโสดาปัตติผล ดำรงตนเป็นพระโสดาบัน สำเร็จประโยชน์เบื้องต้นในพระพุทธศาสนาแล้ว<O:p</O:p
    นอกจากนี้ ภิกษุสามเณรอีกหลายรูป ก็ได้สำเร็จประโยชน์เป็นพระอริยะบุคคลในโลก เช่นเดียวกับท่านสังฆรักขิต.<O:p</O:p

    อ้างอิงเรื่อง พระภาคิไนยสังฆรักขิตเถระ อรรกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท จิตตวรรคที่ ๓
    <O:p</O:p
    [​IMG]
     
  2. jowpoy

    jowpoy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    326
    ค่าพลัง:
    +758
    พระแถวๆบ้านรูปหนึ่ง บวชเรียนมาแต่เด็ก ตอนนี้ก็เข้าวัยกลางคนได้ มีหญิงม่ายมาติด และดูเหมือนท่านคิดจะสึก น่าเสียดายแท้ เพราะท่านเป็นพระปฏิบัติดี แต่ผ้าเหลืองท่านคงร้องนึงคิดอย่างนั้น
     
  3. teeover

    teeover สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +4
    ทำไมไงครับ....
    ก็พระมองคน ...คนมองพระแล้วถามว่า..ทำไม

    แค่เลิกถาม.ทำไม..แล้วทำ.....ก็ไม่ต้องถามว่า ทำไม
     
  4. barking dog

    barking dog เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2012
    โพสต์:
    765
    ค่าพลัง:
    +152
    กราบนมัสการพระคุณเจ้า


    หากไม่ได้ตั้งใจบวชตลอดชีวิตก็แล้วไป แต่เมื่อตัดสินใจบวชตลอดชีวิตแล้ว ต้องเอาให้ถึงที่สุดขอรับ เวลาอยากสึกไอ้ทึ่มมักนึกถึงอาจารย์ คนรักเรามอบหัวใจให้ แต่อาจารย์เรามอบชีวิตให้ คนรักขาด sun dog เขายังสามารถหาคู่ครองดีๆได้ แต่อาจารย์ขาด sun dog แล้วคงอยู่ลำบาก ยังไงก็ทิ้งอาจารย์ไปไม่ได้

    คนเรามักยอมแพ้เมื่อใกล้ชนะเสมอครับ
     
  5. emaN resU

    emaN resU เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    2,946
    ค่าพลัง:
    +3,301
    อยากมีเมีย ก็ลาสิกขาบทออกมา... ก็เหมาะสมแล้ว

    ดีกว่า มีเมียทั้งที่ยังครองสิกขาบทอยู่




    พระอยากสึกไปมีเมีย
    ผัวก็อยากลาเมียไปบวช
    55555
     
  6. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,814
    ค่าพลัง:
    +15,099
    จากเรื่องพระสังฆรักขิต ที่ได้หยิบยกมาให้ได้พิจารณากันเป็นนิกเขปบทนี้ ได้ข้อคิดว่า!

    สจิตฺตปริยายกุสลา ภเวยฺยุง (องฺ. ทสก. ๒๔/๑๐๐)
    พึงเป็นผู้ฉลาดในกระบวนจิตของตน

    จิต คือธรรมชาติที่นึกคิดรับรู้อารมณ์อยู่เสมอ ธรรมดาจิตย่อมไหลไปสู่อารมณ์ที่ต่ำอยู่เสมอ ฉะนั้นบุคคลผู้มีจิตยังมิได้ฝึกและคุ้มครองไว้ จะเป็นไปตามอำนาจของจิตพาให้ทำแต่สิ่งที่ต่ำทราม เพราะฉะนั้น พระพุทธองค์จึงสอนให้เป็นผู้ฉลาดรู้ทันจิตของตน ไม่ว่าจะนึกคิดอะไรและรับรู้อะไรเราต้องรู้เท่าทันเสมอ จึงจะควบคุมจิตให้อยู่แต่ในทางที่ดีได้.

    เจริญในรสธรรม
     
  7. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,430
    การที่พระสึกนั้นบางครั้งก็ยากจะเข้าใจครับ

    ลองอ่านเรื่องนี้ดูครับ
    พระอาจารย์ฝั้นครับ

    ระหว่างพำนักอยู่ในกรุงเทพฯ เรื่องที่ไม่น่าจะเกิด ได้อุบัติขึ้นแก่ท่านโดยบังเอิญ ที่ว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นนั้น ก็เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสตรีเพศ
    เรื่องมีว่า วันหนึ่งพระอาจารย์สิงห์ ได้พาท่านไปนมัสการท่านเจ้าคุณ พระปัญญาพิศาลเถระ (หนู) ที่วัดสระปทุม ระหว่างทางได้เดินสวนกับผู้หญิงคนหนึ่งเข้า นับตั้งแต่วินาทีนั้นเป็นต้นมา พระอาจารย์ฝั้นก็ลืมผู้หญิงคนนั้นไม่ลง
    ท่านรู้สึกว่า ท่านได้เกิดความรักขึ้นในใจเสียแล้ว ขณะเดียวกัน ท่านก็บอกตัวเองด้วยว่า ท่านจะต้องขจัดความรู้สึกดังกล่าวออกไปเสียให้พ้นจากความรู้สึกนึกคิดให้ได้
    กลับวัดบรมนิวาสในวันนั้น ท่านได้นั่งภาวนา พิจารณาแก้ไขตัวเองถึงสามวัน แต่ก็ไม่ได้ผล ใบหน้าของผู้หญิงนั้นยังคงอยู่ในความรู้สึกนึกคิด จนไม่อาจสลัดให้ออกไปได้ ในที่สุด เมื่อเห็นว่า เป็นการยากที่จะแก้ไขได้ด้วยตัวเองแล้ว ท่านจึงได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ท่านพระอาจารย์สิงห์ฟัง เพื่อให้ช่วยแก้ไข พระอาจารย์สิงห์ได้แนะให้ท่านไปพักในพระอุโบสถ พร้อมกับให้พิจารณาทำความเพียรให้หนักขึ้น
    พระอาจารย์ฝั้นได้บำเพ็ญภาวนาอยู่ในพระอุโบสถเป็นเวลาถึง ๗ วัน ก็สามารถรู้ชัดถึงบุพเพสันนิวาสแต่ในปางก่อน ว่าผู้หญิงคนนี้กับท่าน เคยเป็นสามีภรรยากันมา จึงทำให้เกิดความรู้สึกดังกล่าวขึ้น เมื่อตระหนักในเหตุในผล ท่านก็สามารถตัดขาด ลืมผู้หญิงคนนั้นไปได้โดยสิ้นเชิง
     
  8. เทพธรรมบาล

    เทพธรรมบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,218
    ค่าพลัง:
    +293
    เพลง สีกาหลอก

    <object width="420" height="315"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/WvvDv8WsgbY?version=3&amp;hl=th_TH"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/WvvDv8WsgbY?version=3&amp;hl=th_TH" type="application/x-shockwave-flash" width="420" height="315" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></object>​
     
  9. JitJailove

    JitJailove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    736
    ค่าพลัง:
    +741
    กราบอนุโมทนา สาูธุค่ะท่าน
     
  10. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,814
    ค่าพลัง:
    +15,099
    [​IMG] [​IMG]


    "จิตฺตํ รกฺเขถ เมธาวี" ผู้มีปัญญาพึงรักษาจิต (ขุ.ธ ๒๕/๑๙)
    ผู้มีปัญญา คือผู้ฉลาดรู้แจ้งเห็นจริงโดยประการทั้งปวง
    ย่อมจะรู้ว่าจิตนี้มีสภาพที่เปลี่ยนแปลงเคลื่อนไหวได้ง่าย
    และยังมีสภาพที่ไหลไปสู่อารมณ์ที่ต่ำเสมอ เมื่อรู้ดังนี้แล้ว
    ท่านจึงหมั่นคุ้มครองรักษาจิตไว้ ในทุกอิริยาบทด้วยการสำรวมระวัง
    ในเวลาตาเห็นรูป หูฟังเสียง จมูกดมกลิ่น ลิ้นลิ้มรส กายถูกต้องสัมผัส
    ใจรับรู้อารมณ์ อย่าให้ธรรมฝ่ายต่ำได้โอกาสเข้าครอบงำได้.

    เจริญในรสธรรม
     
  11. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=nYK1hgzmri0]พุทธประวัติ 25 พาพระนันทะท่องสวรรค์ - YouTube[/ame]
     
  12. โอกระบี่

    โอกระบี่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,477
    ค่าพลัง:
    +1,651
    นี่แหละห้วงเหวแห่งพรหมจรรย์ เสียดาย............
     
  13. porntips

    porntips เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    955
    ค่าพลัง:
    +2,410
    ชอบสีกาหลอกของเทพธรรมบาลง่ะ น่ารักดี
     

แชร์หน้านี้

Loading...