**ดูดเปลี่ยนชีพ** อุปกรณ์พิเศษเมื่อเกิดภาวะน้ำขาดแคลน

XoX ว้าว ถ้าจะกลายเป็นหมูทดลองซะแล้วเรา
เดี๋ยวเถอะ จะกินน้ำให้พุงป่องไปเล๊ย

 

ช่วงฟ้าปิดใครสนใจเอาผมไปเลี้ยงมั่ง อิอิ

 

มันขึ้นอยู่กับว่า...หน้าตา...เป็นเช่นไรหล่ะ...(แบบว่า...น่ารัก...หรือ...น่ากลัว...)...เพราะช่วงฟ้าปิดนั้น...มันก็น่ากลัวมากอยู่นา า า า .....ไม่อยากให้ใจกระทบกะเทือนน่ะ...

 

มีไว้ 3 อันเป็นอย่างน้อยก็ดีครับ..เผื่อไว้ดีกว่าขาดครับคุณนาย
น้ำดื่ม - ที่เราเก็บตุนใส่แกลอนเอาไว้แล้วให้พอหรือเกิน 2 เดือน
น้ำใช้ - ก็เอาใส่โอ่ง หรือถังพลาสติก ปิดไว้ให้มิดชิด
น้ำที่เราใช้แล้วเราอาจ recycle ไม่ได้ ก็คงถึงคราวต้องใช้หลอดดูดนี้ล่ะ
ต้องประหยัดน้ำให้มากที่สุด อากาศคงหนาวเย็นแน่ๆ
ถึงตอนนั้นคงใช้น้ำเช็ดตัวไม่ต้องอาบน้ำกันล่ะครับ


**น่าสงสารคุณกิ๊กนะ...ถูกเพื่อนๆบังคับให้เป็นหมูทดลอง 555 (เต็มใจรึป่าวครับ!)**

 

พี่นายครับ ผมขอลงชื่อสั่งจอง 3 อันครับ (ตามคำแนะนำเลยครับ)

 

อันนี้ลอกมาทื่อๆครับ จาก Trail Gear Guide 2007 , p.106

How to buy, Water Treatment

Test1: Is the water safe?

In the UK you can safely drink water from taps and
even some mountain streams. But if abroad you
need to take much more care as only 0.8 per cent
of the world's water is safe to drink untreated.

Test2: Service Life

All filters clog up eventually so they will need
replacing, often as quite a high cost. So consider
this when choosing a system to purify large
amounts of water.

Test3: Taste

Iodine leaves a nasty taaste in the water, so better filters
use carbon or silver to remove it.

Test4: Flow rate

If you don't want to wait all day for your water, then a
fast flow rate is important. But if you only expect to
purify water occasionally then a slower method may
be acceptable.

Test5: Ease of Use

If you are using the purification system frequently,
ease of use will be a major factor. Otherwise you could
save money and weight in your rucksack by choosing a
system that may be less efficient.

Test6: Treatment Options

Vaccination: Jabs available before travelling will provide
protection against some viruses such as polio and hepatitis,
and bacteria such as chorela.

Boiling: Boiling water for 5-10 minutes will kill all
bacteria, parasites and viruses. But add 1 minute for
every 100m (1,000ft) that you are above sea-level.

Iodine: Iodine in small doses is effective against all
bacteria, parasites and viruses, but on its own it will
not remove any solids. However iodine is toxic and requires
careful use as 2-4g of it can kill. Pregnant women and
those with thyroid problems also need to consult their
doctor before using it, and in any situation iodine should
only be used for maximum of 30 days regularly. So
pure iodine is best for emergency use only. Small bottles
of iodine tablets are available from many outdoor shops.

Chlorine: Chlorine kills bacteria and viruses but is not
effective against cysts such as Giardia, which is often
the main problem in the mountain streams of the UK.
Packets of chlorine tablets are available from many
outdoor shops.

Filtration: Filters force water through small hole around
0.0002mm (0.2 microns) in size while trapping contaminants.
To remove viruses some chemical treatment is also required,
in the form of iodine. So most water filters are designed
to be used a few drops of iodine that are added to the water
before it is filtered.

Purification: Water purifiers give water a dose of iodine
as they filter, but the taste of the iodine can removed by
other chemicals such as carbon or silver that may be built
into the unit.

UV light: This destroys viruses, bacteria and protozoa -
including Giardia and cryptosporidium - in seconds.

Test7: Packed size & weight

A few iodine tablets are ideal for emergency use,
small purifiers are great for occasional use, while
heavy and bulky filters and purifiers are best restricted
to daily use.

Test8: Contamination

When you buy a treatment system the packaging will state
which contamination it is effective against.
The three main groups are:

Bacteria: - chorela, E coli (Africa, Asia, UK, USA).
Viruses: - hepatitis, polio, rotavirus (Africa, Asia,

South America).
​

Parasites/cysts/protozoa: - Giardia, cryptosporidium,

(African, North America, South America, Australia
plus any mountain streams that flow near
wild camping areas or popular footpaths anywhere
in the world including UK and Western Europe).
​

 

ขอลงชื่อจองเอาไว้ใช้ด้วยคน สัก 3 อัน เด้อครับ...แหม..แต่อยากได้แบบแรกที่มีรูปภาพพวกชาวแอฟริกาสาธิตให้ดูด้วยจังเลย เมื่อไหร่เค้าจะนำมาขายแบบเป็นทางการน๊า...จะซื้อสักโหลนึงเลย

 

เอาสาวแอฟริกามาสาธิตด้วยป่ะ ....@^o^@...

 

ยืนยันจำนวนครับ...... 3 อันครับ ขอบคุณอย่างสูง และรอโอนเงินครับ....(โปรดแจ้งด้วยนะครับ)

 

ขอจอง 3 อัน ตามคำแนะนำครับ

 

"คลื่นเสียง"กรองน้ำ **น่าสนใจมากๆ**
มีอีกแบบเรื่องน้ำเอามาจาก NoOta แต่อาจยังทดลองอยู่ในห้องแลป

​

ระบบ "คลื่นเสียงกรองน้ำ" (Sonic Water Purifier) เป็นทางออกใหม่ในการกำจัด "สารพิษ" ออกจากน้ำ
นักวิทยาศาสตร์คิดค้นวิธีการยิงคลื่นเสียง "อัลตราซาวด์" ลงไปในน้ำปนเปื้อนมลพิษ เพื่อเขย่าหรือระเบิด "พันธะคาร์บอนด์" ของบรรดาสารพิษให้แยกตัวออกจากน้ำ
วิธีการนี้มีชื่อว่า "โซโนไลซิส"
ในอนาคตอันใกล้เราอาจได้เห็นเครื่องกรองน้ำด้วยคลื่นเสียงเช่นนี้ในรูปแบบอุปกรณ์พกพาสะดวก นำไปติดตั้งใช้งานได้ง่ายตามเขตทุรกันดาร ช่วยให้ชาวบ้านมีน้ำบริสุทธิ์ดื่มกิน
และยังนำไปใช้เป็นเครื่องมือบำบัดน้ำเสียในโรงงานได้ด้วย


---------------------
Ref.
http://www.matichon.co.th/khaosod/kh...sectionid=0326

 

น่าสนใจมาก ขอจอง 5 อันนะครับ

 

มาช้าไปหน่อยครับผม ของส่งมาหมดแล้วครับ ต้องขออภัยด้วยครับ

 

i used -Water Washer--straw filter-a good one krub.

 

lifestraw หลอดดูดน้ำมหัศจรรย์​

​

​

​

​

​

lifestraw

หลาก หลายหมู่บ้านที่เคยทุกข์ทรมานจากการขาดแคลนน้ำดื่มที่สะอาด เตรียมตัวเฮได้แล้ว เมื่อต่อไปนี้คุณจะไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะสุดยอดนวัตกรรมอย่าง Lifestraw หรือเจ้า "หลอดมหัศจรรย์" จะช่วยบันดาลให้น้ำที่เคยขุ่นและเต็มไปด้วยเชื้อโรคกลายเป็นน้ำที่สามารถบริโภคได้ในชั่วพริบตา

ด้วยขีดความสามารถในการคัดกรองเชื้อโรคประเภทแบคทีเรีย และไวรัสได้ถึง 99% จึงทำให้ Lifestraw กลายเป็นสินค้าที่องค์การยูนิเซฟสั่งซื้อไปแจกจ่ายแก่

-ผู้อพยพในแถบทวีปแอฟริกา และ

-ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในปากีสถานเมื่อ 2 ปีก่อน

ส่วนราคาของเจ้าหลอดมหัศจรรย์นั้นตกอยู่ที่

3 ดอลลาร์ หรือราวๆ 100-120 บาทเมื่อคิดเป็นเงินไทย

หลอดมหัศจรรย์นี้สามารถกรองน้ำได้ปริมาณ 700 ลิตร หรือคิดเป็นระยะเวลาการใช้งานได้ 1 ปี วิธีการใช้งานก็ง่ายแสนง่าย เพียงแค่นำหลอดนี้ไปจุ่มลงในแหล่งน้ำที่ต้องการดื่ม แล้วก็ดูดขึ้น แล้วก็เป่าออกซะ 1ที จากนั้นก็ทำการดูดดื่มน้ำได้ตามใจปรารถนา

​

​

ที่มา http://yongyuttidea.blogspot.com/2009/10/lifestraw.html

 

<TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width="41%"><TABLE borderColor=#ffffff height=200 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=200 border=1><TBODY><TR><TD borderColor=#9999ff align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top width="59%">
ชื่อสินค้า : หลอดกรองน้ำฉุกเฉิน LifeStraw Water Purifier <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=right colSpan=2> </TD></TR><TR><TD align=middle width="62%">

ปกติ <S>1,200.00 บาท</S>
ลดเหลือ : 950.00 บาท
​

</TD><TD width="38%"> </TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE>
ที่มา http://www.thaioutdoorlife.com

หลอดกรองน้ำฉุกเฉิน แบบพกติดตัว LifeStraw Water Purifier ที่ได้รับรางวัลนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2005 จากนิตยสาร Time


หลอดกรองน้ำจาก LifeStraw เป็นนวัตกรรมของปี 2005 ที่ได้รับรางวัลสิ่งประดิษฐ์ยอดเยี่ยมจากนิตยสาร Time ด้วยประสิทธิภาพที่ใหญ่เกินตัว ทั้งที่มีขนาดยาวแค่ 31 เซนติเมตร และเส้นผ่าศูนย์กลางเพียง 2.9 เซนติเมตร แต่สามารถกรองสารเคมี เชื้อโรคแบคทีเรีย และไวรัส ไม่ให้ปะปนเข้าไปกับน้ำที่เราดื่มได้ โดยได้รับการทดสอบจากแหล่งน้ำธรรมชาติ และแหล่งน้ำนิ่ง ทั้งในทวีปเอเชีย และอาฟริกา ซึ่งแต่ละแห่ง มีไข้ป่า และมาเลเลีย หรือเชื้อโรคร้ายแรงอื่นๆ ปะปนอยู่ ซึ่งได้รับการการันตีรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO) แล้ว

โครงสร้างตัวหลอดเป็น high impact polystyrene แข็งแรงทนทาน มีเชือกสำหรับคล้องคอ ง่ายต่อการหยิบใช้ น้ำหนักขณะแห้งเพียง 140 กรัม และในเวลาที่เปียกก็มีน้ำหนัก 160 กรัมเท่านั้น

โครงสร้างภายในประกอบด้วยชั้นกรอง 2 ชั้นหลัก คือกรองฝุ่นละออง สิ่งแปลกปลอม และอีกชั้นสำหรับสารเคมี แบคทีเรีย และไวรัส

ชั้นแรกแบ่งกระบวนการกรองเป็น 2 กระบวนการ โดยสามารถกรองอนุภาคของฝุ่นละออง สิ่งปลอมปนได้ตั้งแต่ละเอียดตั้งแต่ 125 ไมครอน จนเล็กถึงขนาดเพียง 15 ไมครอน ( 1 ไมครอน = 1 ใน 1,000 ของ 1 มิลลิเมตร )

ชั้นที่สองประกอบไปด้วยกระบวนการกรองสามกระบวนการ ขั้นที่หนึ่งกรองด้วย Halogenated resin สามารถกรองและกำจัดแบคทีเรีย ไวรัส หรือเชื้อโรคอื่นๆ ได้ในขั้นตอนนี้ ขั้นที่สองกรองด้วย Strong base anion exchange resin ชั้นนี้จะกรอง และกำจัดเจ้าเชื้อโรคที่เหลือ ซึ่งเล็ดรอดผ่านจากขั้นตอนที่หนึ่งมา และในขั้นที่สาม กรองด้วย Granular activated carbon เป็นการกรองกลิ่น และดักจับสารเคมีที่ปะปนเข้ามา

ทำให้มั่นใจได้ว่า ทุกครั้งที่เข้าป่า และต้องการดื่มน้ำ คุณจะได้น้ำที่สะอาด ปลอดภัยจริงๆ เพียงแต่หาแหล่งน้ำ (แม้น้ำในโป่ง) จิ้มหลอดลงไป แล้วดูดขึ้น กระบวนการกรองข้างต้นก็จะเริ่มเดินเครื่องทันทีด้วยแรงดูดของแต่ละคน

* ข้อบ่งใช้ *

1. สามารถได้กับน้ำประมาณ 700 ลิตร หรือประมาณ 1 ปี โดยคำนวนจากการดื่มน้ำ 2 ลิตร / วัน (หากไม่ได้ใช้ทุกวันก็สามารถยืดอายุออกไปได้อีกนาน)

2. อายุการใช้งานอยู่ในราว 3 ปีโดยประมาณ ในอุณหภูมิไม่เกิน 30 องศาเซลเซียส

3. หลังจากใช้แล้ว หากพบแหล่งน้ำสะอาด ควรล้างทำความสะอาดตัวกรองเพื่อยืดอายุการใช้งาน

4. เพื่อสุขภาพที่ดี ไม่ควรใช้ปะปนกับคนอื่น

ที่มา http://www.thaioutdoorlife.com

 

ช่วยกันอนุรักษณ์ดินและน้ำเอาไว้

วิบากกรรมของผู้ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ
จะต้องไปเกิดในแดนกันดารแห้งแล้ง

 

...อืมม์....หลอดดูดเลือด เฮ๊ย ดูดเปลี่ยนชีพ นี่...ทำไมขื่อมันน่า กลัวจัง...ที่ว่า กำจัด พยาธิ์ได้ ๙๙ % นี้.. หมายความว่า.. อีก ๑ % มัน สามารถจะหลุดเข้าไปอยู่ในกระเพาะ คนดูดได้ ใช่หรือ ไม่....ถ้า เป็น อย่างนั้น ผม ขอ เป็นน้ำต้มเดือดๆดีกว่า...เข้าป่า ก็ อย่าลืม พก เล็นส์นูนรวมแสงอาทิตย์ หรือ ไฟแช็ก ไว้ หน่อยละกัน...ความรู้เรื่อง ทานน้ำต้มจนเดือด นี้ ได้ มาจาก พระธุดงค์ ครับ...