ผมรู้สึกเศร้าแล้วเครียดช่วยผมด้วย(การงานชีวิตจิปาถะ)

สติปัญญาอย่างมึงต้อง ลูกปืนชุบแป้งทอด อร่อยดี กินแล้วเข้าไปอยู่ในสมองมึงไง จะได้เจริญปัญญาอ่อนไอ้ light worker

เทวดาชั้นฟ้าไม่ส่งเลขที่บ้าน light worker มาให้สะทีจะเอาให้ ปากเจ่อเลยไอ้เลวlight worker ชั่ว ชั่วมากๆ
ใครอยากเห็นตัวมัน ดูไอ้เสื้อขาว เจอที่ไหนฝากให้ปากแตกก่อนลงนรกสักที


[ame=http://www.youtube.com/watch?v=VWCVld3ovIs&feature=youtube_gdata_player]Meeting summer 10 part 2.5 - YouTube[/ame]

 

วันนี้

วันนี้ มัน ดุ จริงวุ้ย

(deejai)(deejai)(deejai)(deejai)

 

ประเด็นเรื่องเรียนและเรื่องงาน

ที่เดนมาร์คมีอาจารย์วิชาแนะแนวเหมือนในไทยรึเปล่าคะ? ถ้ามี น่าจะลองปรึกษาดูนะ
(อาจารย์แนะแนวจะคอยให้คำปรึกษาทางด้านการเรียนและอาชีพให้กับนักเรียน)

ในเบื้องต้นช่วยตนเองโดยใช้หลักอริยสัจสี่ได้ (ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค)
หรือพูดอีกแบบว่า ให้ลองใช้หลักการคิดอย่างมีเหตุมีผลเพื่อการแก้ปัญหาดู

ทุกข์
ความทุกข์ตอนนี้คือ ความวิตกกังวลเรื่องของอนาคต กลัวว่าจบมาแล้วจะไม่มีงานทำ ไม่มีรายได้เลี้ยงตัวเองและพ่อแม่ (วิตกกังวลมากจนเครียด เศร้า และสับสน)

สมุทัย
ความทุกข์มันมีที่มา ต้องลองหาสาเหตุของความทุกข์ อะไรคือเหตุการณ์หรือสิ่งที่ทำให้เราคิดหรือรู้สึกแบบนั้น เช่น
- เห็นคนตกงานเยอะ เลยกลัวว่าเรียนจบแล้วจะตกงานด้วย?
- ตัวเราเองเรียนไม่เข้าใจ เรียนไม่รู้เรื่อง หรือเบื่อในสิ่งที่เรียนอยู่ในขณะนี้?

นิโรธ, มรรค
ถ้ารู้ปัญหาแล้ว ลองทำความเข้าใจ หาข้อมูลเพิ่มเติมที่จะช่วยแก้ปัญหาได้ เช่น
- เรียนในสายอาชีพที่ตลาดต้องการ ประเภทจบมาแล้วมีงานทำแน่นอนและมีโอกาสความก้าวหน้า
- หรือค้นหาสิ่งที่เราทำแล้วถนัด มีใจรัก แล้วทำให้ดีที่สุด สู้ไปกับมัน

อา่ยุยังน้อยหาตัวเราให้เจอ
ชอบอะไร ถนัดอะไร มีอะไรที่คิดว่าเป็นความสามารถพิเศษที่จะนำมาประกอบอาชีพได้
ถ้าหาไม่เจอก็ เลือกเรียนในสายอาชีพที่เป็นที่ต้องการของตลาดและความสามารถของเราพอไปได้

 

ตอนดิฉันอายุเท่าคุณ ดิฉันยังคิดไม่ได้แบบนี้เลยนะนี่
คำแนะนำบางอย่างเกิดจากความล้มเหลวของตัวเองเป็นครูสอน

คิดได้เร็วก็นับว่าดีค่ะ แต่ต้องคิดแบบใช้ปัญญาแก้ปัญหา
ปรึกษาอาจารย์ ปรึกษาผู้รู้ แล้วนำข้อมูลมาใช้ตัดสินใจ

ความจริงของโลกคือ รู้จักตัวเอง รู้จักความเป็นไปของโลก รู้จักแก้ปัญหา ถึงจะไปรอด
และ ความสำเร็จกับความล้มเหลวเป็นของคู่กัน เป็นเรื่องธรรมชาติสำหรับชีวิตมนุษย์

 

พี่เอ็มเอส vs light worker คู่นี้ไม่จบมา 1 ปีละ เมื่อไหรจะจบกันละ light worker ใช้คำรุนแรงมากไปไหมจ๊ะ อ่านแล้ว สะดุดเลย ไม่น่าเอาของสูงๆ ที่เคารพมาพูดคุยด่าว่ากันนะจ๊ะ หนูว่ามันไม่เหมาะ sleeping_rb แต่ light worker นิสัยไม่ดีเลยนะ

 

ประเด็นเรื่องการบวช

คุณก็สามารถบวชเณรหรือบวชพระเพื่อศึกษาพระธรรมในระยะเวลาสั้นๆ ก่อนก็ได้นี่คะ
อย่างในเมืองไทยก็มีการอุปสมบทหมู่พระภิกษุสามเณรภาคฤดูร้อน

เรียนทั้งโลก ทั้งทางธรรมไปพร้อมๆ กันได้ แค่จัดสรรเวลาให้เหมาะ
เรียนรู้คู่กัน บางกรณีอาจจะทำให้คุณเข้าใจชีวิตได้ดีขึ้นด้วยซ้ำนะ

 

ประเด็นเส้นทางการเมือง

คุณมีความตั้งใจดีเป็นพื้นฐานนะ

แต่ดิฉันคิดว่า ยังมีอะไรให้คุณต้องศึกษาเรียนรู้กันอีกเยอะเลยแหละ
โลกนี้หลายอย่างมันไม่ง่ายอย่างที่คิด ตอนนี้อยู่ในในฐานะประชาชน ก็ฝึกหาข้อมูล สังเกต คิดวิเคราะห์ เหมือนเล่นเกมส์ลับสมองกันไปพลางๆ ก่อนแล้วกัน

 

ทุกวันนี้คนเรายังยึดติดกับค่านิยมเก่าๆ
เรียนสูงๆ แล้วจะประสบความสำหรับ ทุกๆเรื่อง มันไม่จริงเสมอไป
ตอนนี้สถิติตกงานสูงก็คือคนจบปริญญาตรี โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว
ที่เป็นเช่นนี้เพราะค่านิยม เก่าๆ ความคิดเก่าๆ ถ้ายังเป็นอยู่ปัญหาคงนี้คงไม่จบง่ายๆ

จะจบหรือไม่จบ ตอนนี้ก็ควรจะค้นหาอะไร่ใช่สำหรับตัวเรา
ส่วนตัวผมยังเรียนจบตอนนี้ยังเป็นลูกจ้างเขาอยู่ อ่านหนังสือเล่มหนึ่ง....

ตัดแขนข้างหนึ่ง แลกกับ 50 ล้านเอาไหม...คงไม่เอา
ตัดขาข้างหนึ่ง แลกกับ 150 ล้านเอาไหม...คงไม่เอาด้วยแหล่ะ
แล้วทำไมทั้งตัว ทำไมต้องเอาทั้งชีวิตและร่างกายมาแลกกับการเป็นลูกจ้างรายได้ไม่กี่หมื่นเองด้วยน๊าา

มนุษย์ มีอายุประมาณ 75 ปี สรุปคร่าวๆมี 2 แผนดังนี้
1.เรียน20 ปี---> สร้างชีวิต ทำงาน หาเงิน เป็นลูกจ้าง งานที่หยุดแล้วรายได้หยุดตาม 40ปี-----> ใช้ชีวิตเกษียร/ใช้ชีวิตแบบอิสระ 15ปี----> ตายแบบชีวิตลูกจ้างประจำ...น่าเบื่อมาก...ทำเอกชนจะถูกนายจ้างไล่ออก จ้างออกเมื่อไหร่ก็ได้

2.เรียน20 ปี---> สร้างชีวิต ทำงาน สร้างเครือข่ายองค์กรธุรกิจ งานลิขสิทธิ์ เก็บค่าเช่า 5-10 ปีและตลอดไป-----> ใช้ชีวิตเกษียร/ใช้ชีวิตแบบอิสระ /อยากบวชก็ได้แต่ยังมีรายได้อยู่ 50 ปี----> ตายแบบแผนนักธุรกิจและนักลงทุน...เสี่ยงอยู่เหมือนกัน...ถึงเรียนไม่สูงมีความมุ่งมั่นก็ประสบความสำเร็จได้ถ้ามุ่งมั่นพอ

ทำให้มองย้อนกลับมาดูคุนค่าของตัวเองใหม่ หากคิดใหญ่ฝันใหญ่ปัญหาที่คุณกังวลอยู่สร้างทางเลือกตัวเองไว้เสมอผมมองว่าเป็นเรื่องเล็กไปแล้วตอนนี้ สำหรับผมเจอแบบ 2 แต่เสียดายน่าจะเจอเร็วกว่านี้ซักหน่อยแต่ก็ยังไม่สายและอยาก Reset โลกให้เป็นแบบ 2 ให้หมด ส่วนคุณหรือใครบางคนพยายามค้นหาตัวเองให้เจอ ถ้ายังไม่เจอก็เตรียมตัวใช้ชีวิตแบบ 1 ต่อไป

 

ป้าลองไปหาข้อมูลมาให้ เจ้าของกระทู้ลองอ่านดูนะ เผื่อจะมีประโยชน์
เป็นลิงค์ของสมาคมไทย-เดนมาร์ก
สู้ๆ นะหนุ่มน้อย :VO
v
v
New to Denmark - 7 โรงเรียนและการศึกษา

http://www.thai-danskforening.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539178497

 

อนุโมทนา สาธุ ครับ การช่วยชี้ทางให้ผู้อื่น ก็เป็นบุญที่ยิ่งใหญ่อย่างหนึ่งเช่นกัน

 

ก็ให้เค้าปล่อยวางไม่ต้องไปคิดมาก

ขอบคุณครับ


และขอบคุณทุกท่านที่ตอบคําถามครับ

 

เพราะสังคม...ประเมินค่า...ที่จนรวย
คนจึงสร้าง...เปลือกสวย...ไว้สวมใส่
หากสังคม........วัดค่า........ที่ภายใน
คนจะสร้าง.....แต่จิตใจ......ที่ใฝ่ดี

 

ทำการเรียนรู้สร้างสรรค์ตัวเองด้วยความรักที่ไร้เงื่อนไข ทำตัวเองสร้างสรรค์ความเป็นหัวใจของตัวเองในสิ่งเป็นความจริงเท่านั้นเอง

กล่าวคือทุกสิ่งเริ่มต้นจากหัวใจของตัวเอง

ดังนั้นตัวเองควรสร้างสรรค์มันออกมาด้วยเจตจำนงของตัวเอง

กล่าวคือว่า น้องเองควรที่จะตัดสินใจเลือกด้วยตัวเราเองแล้วทำมันออกมาด้วยความสร้างสรรค์ด้วยความรักที่ไม่สิ้นสุดไปเท่านั้นเอง

จากนั้นก็ให้หัวใจของเราดำรงอยู่อย่างเต็มเปี่ยมด้วยความพึงพอใจความสุขที่เปี่ยมล้นไปด้วยความเป็นชีวิตที่สร้างสรรค์ตัวเราเองด้วยการเลือกแห่งตัวเองด้วยหัวใจของเราเองอย่างแท้จริงไปเท่านั้นเองล่ะครับผม

จินตนาการคือความเป็นไปได้อย่างหนึ่ง ที่ช่วยให้ทางเลือกของตัวน้องเองชัดเจนขึ้น

ใช้จินตนาการชี้นำภาพความเป็นที่จะเกิดขึ้นได้นั้นเอง คือ ความเป็นจริงที่อาจสัมผัสได้เห็นได้ รับรู้ได้ ในความเป็นอนาคตที่เราสงสัยอยากได้ภาพ และการรับรู้มาชี้นำภายในปัจจุบันของตัวเราเอง

จินตนาการในมิติแห่งการสร้างสรรค์ในแต่ล่ะทางเลือกแห่งชีวิตที่เราต้องการสร้างสรรค์ตัวเราเราเอง

แล้วจินตนภาพแห่งจิตใจของน้องเองจะทำให้ได้ภาพอนาคตที่อาจเป็นทางเลือกแห่งชีวิตที่เราเองต้องการก็ได้นะครับ

จินตนาการที่ผสานกับความจริงทางกายภาพแล้ว คือ เงื่อนไขความเป็นไปได้ทางกายภาพ เงื่อนไขความเป็นประเพณีสังคมที่น้องอยู่ก็คงจะสร้างภาพความเป็นจริงได้จากหนทางการกำหนดการเลือกของตัวเราเองอย่างแท้จริงไปเท่านั้นเองนะครับผม

วิธีการนี้เชื่อตัวเราเองนะครับว่าทุกสิ่ง เกิดขึ้นจากเจตจำนงในการเลือกสร้างสรรค์ความเป็นชีวิตด้วยตัวเรา

หาใช่ปล่อยไปตามโชคชะตา หรือกรรมเก่าใดใดไม่เลย

น้องควรเรียนรู้การสร้างสรรค์ตัวเองด้วยความรักตัวเอง และความรัก ความเมตตา ความเกื้อกูลในคนอื่น ทุกสิ่ง และธรรมชาตินะครับ

เพราะนี้คือ หนทางแห่งความเป็นชีวิตที่กลมกลืนต่อทุกสิ่งอันเป็นธรรมชาติเช่นนั้นเองอันมีชีวิตชีวาแห่งความเต็มเปี่ยมไปด้วอานุภาคแห่งความเป็นชีวิตที่สร้างสรรค์ตัวเราเองได้นั่นเองนะครับผม :VO

ดังนั้นทุกสิ่งเริ่มต้นที่ความเป็นหัวใจของตัวเราเอง ดังนั้นให้จินตนภาพแห่งหัวใจได้นำพาเธอไปสู่หนทางแห่งการสร้างสรรค์ภาพแห่งอนาคตที่รุ่งเรืองด้วยจินตนภาพแห่งตัวเราเองเถิด

แล้วนั้นเธอจะได้ภาพแห่งอนาคตแท้จริงที่เธอเองนั้นเป็นผู้สร้างสรรค์สิ่งเหล่านั้นขึ้นมาเอง เท่านั้นเอง (kiss)