สงสัย...อย่างนี้ เป็นสังฆทานไหม?

เท่าที่ทราบ ไม่ว่าจำนวนพระเท่าไหร่ก็ตาม เช่น

ตักบาตรหน้าบ้าน1รูป แต่ถ้าใจคิดถวายเป็นสังฆทานก็จะเป็นสังฆทาน

หรือถวายภัตตาหารพระ1จาน แด่พระนั่งอยู่4รูปขึ้นไป 1จานของเรานั้นจะกลายเป็นสังฆทานทันที

แต่ ถ้ามีพระนั่งอยู่10,000รูป เราถวายภัตตาหาร10,000จาน
ใจเราก็จรดลงไปว่าเราถวายพระ10,000รูปนั้น อย่างนี้จะเป็นสังฆทานไหม

 

อานิสงส์ถวายสังฆทานและ วิหารทาน​

โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง.​

ผู้ถาม
ถ้าเราตั้ง จิตจะถวายสังฆทาน แต่ว่าไม่ได้บอกเล่าคะ ?​

หลวงพ่อ
ถ้า ตั้งจิตแต่ไม่ได้บอกก็ไม่ได้ยิน เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ถ้าพระนั่งฉันอยู่ตั้งแต่ ๔ องค์ขึ้นไปหนูเอาของไปถวายเอาน้ำไปถวายถ้วยเดียว ก็เป็นสังฆทานทันที ไม่ต้องบอก ถ้ามีพระตั้งแต่ ๔ องค์ขึ้นไปนะ ถ้าองค์เดียวต้องบอก แล้วเขาจะเก็บไว้เป็นสังฆทานเลย จะเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ถ้าเป็นอย่างอื่นคนรับก็ไปนรกซิ ผู้ให้ไปสวรรค์เพราะว่าถวายทานเป็นส่วนบุคคลกับถวายเป็นสังฆทาน อานิสงส์มันต่างกันหลายแสนเท่า แล้วก็ยังมีอีกเวลาหนึ่ง ถ้าพระออกจากสมาบัติ นี่คูณหนักเข้าไปอีกไม่รู้เท่าไร การถวายสังฆทานนี้มีอานิสงส์มาก ความจริงถ้าจะพูดถึงอานิสงส์กันจริง ๆ ละก็ รู้สึกว่าจะมากกว่าจัดงานที่บ้านที่วัดตั้งเยอะแยะ ทั้งนี้เพราะว่าอะไร เพราะว่าถวายสังฆทาน เราทำกันแบบเงียบ ๆ ไม่มีกังวลการบำเพ็ญกุศลแต่ละคราว ถ้ามีกังวลมากอานิสงส์มันก็น้อย ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะว่าจิตที่เราเข้าสู่กุศล มันห่วงงานอื่นมากกว่า ไม่ตั้งจิตโดยเฉพาะและโดยเฉพาะอย่างยิ่งการถวายสังฆทาน คำว่าสังฆทานก็หมายความว่า ถวายสงฆ์ในหมู่ตั้งแต่ ๔ รูปขึ้นไป ตามพระวินัยท่านเรียกกันว่าคณะสงฆ์ ถ้าต่ำกว่านั้นเป็นคณะบุคคล ถ้าบุคคลเดียวเป็นปาฏิปุคคลิกทาน ทานโดยเฉพาะ ทีนี้การถวายสังฆทานแก่พระสงฆ์เป็นหมู่นี้มีอานิสงส์มาก​

http://www.bp.or.th/webboard/index.php?topic=25606

 

หมายเอาว่า ๑ รูป ต้องบอก(ยกเว้นตักบาตร เพราะอย่างไรก็เป็นสังฆทาน เพราะเราไม่ทราบได้ว่ารูปใดจะมารับ หมายเอาว่าเราไม่ได้เจอะจง) ๔ รูปเป็นสังฆทาน...

๑๐๐๐๐ รูป ไม่ว่าคุณถวายขาด ถวายเกิน ถวายพอดี ถือว่าเกิน ๔ รูป เป็นสังฆทานแน่นอนครับ...

 

ผมกังวลอยู่ว่า พระสงฆ์ 1 รูป ถ้าท่านบิณฑบาตแล้วกลับวัด

ท่านฉันอาหารเพียงรูปเดียวไม่ได้นำไปร่วมกับคณะสงฆ์

พระสงฆ์รูปนั้นท่านจะลงนรกเอาได้นะครับ...เพราะเราตั้งใจถวายเป็นของสังฆทาน

แนะนำให้ตักบาตรให้ครบ 4 รูปจะเป็นการดีนะครับ




ป.ล. บิณฑบาต (อ่านว่า บินทะบาด) เป็นภาษาบาลี มาจากคำว่า ปิณฺฑ + ปาต แปลว่า การตกลงแห่งก้อนข้า

บาตรเป็นหนึ่งในอัฐบริขาร ๘ อย่าง เป็นของที่พระภิกษุและสามเณรใช้ในการบิณฑบาต

 

อ่านที่เฮียปอคอมเมนท์แล้ว....เรื่องของบุญ บาปนี้ ช่างละเอียดมากเหลือเกินนะคะ

 

เอ๊ แล้วถ้าพระธุดงค์กางกลดอยู่กลางป่ารูปเดียว เดินมาบิณฑบาตกับชาวบ้านในหมู่บ้าน หรือชาวบ้านนำของไปใส่บาตรท่าน ท่านฉันอาหารรูปเดียว ไม่ตกนรกแย่เหรอครับ ?

 

งั้นต้องให้ท่านkhomeraya ไขข้อข้องใจผมสักหน่อยครับ ?


พระธุดงค์นั้นถ้าเป็นพระโสดาบันขึ้นไป ก็ไม่น่าจะมีปัญหา

ถ้าเป็นพระสมมุติสงฆ์นี้แหละ เราบอกท่านว่าถวายเป็นสังฆาน ท่านจะฉันอาหารโดยไม่ลงนรกได้หรือเปล่า ?

 

ครับ ถ้าเป็นสมมติสงฆ์หรือพระโสดาบันก็ตาม การที่ท่านฉันอาหารเพียงรูปเดียวหรือไม่นั้น ไม่สำคัญเท่ากับว่า เจตนาในใจของท่าน

ถ้าเจตนาของท่าน ท่านได้รับอาหารหรือสิ่งของอะไรก็ตาม แล้วท่านไปนึกห่วงนึกหวงเป็นของตนเอง อย่างนั้น ท่านก็ต้องได้รับผลกรรมของท่าน

แต่ถ้าท่านทำใจสบายๆ ไม่ได้เอาใจไปเป็นเจ้าเข้าเจ้าของในสิ่งที่คนถวายท่าน ดังเช่นอาหารที่ยกตัวอย่างมา ท่านก็จะนึกว่า เอาละ ถ้ามีพระสงฆ์รูปอื่นมา เราก็จะแบ่งให้ และเราจะฉันอาหารนี้เพื่อให้กายสังขารพออยู่ได้เท่านั้น เราไม่หลงในกลิ่นรสของอาหาร

ถ้าท่านตั้งเจตนาไว้อย่างนี้ ไม่หลงยินดี ไม่หลงเป็นเจ้าเข้าเจ้าของในอาหารนั้น ต่อให้ท่านฉันรูปเดียวกลางป่ากลางดง ท่านก็ไม่ลงนรกขอรับ.....

 

สาธุครับ..เห็นด้วยตามนี้....พระภิกษุเป็นผู้อยู่ดำรงค์ได้ด้วยการขอ....ภิกษุแปลว่า ผู้ขอ....ทั้งนี้พระธุดงค์มากมายที่ยังไม่ได้บรรลุเป็นพระอริยบุคคล...แต่เป็นผู้มีความเพียรเพื่อความเป็นพระอริยบุคคล(เพื่อละซึ่งกิเลส)...ไปกัน หนึ่งรูปบ้าง สองรูปบ้าง สามรูปบ้าง หรือแม้แต่พระในเขตของเมือง ถ้าวัดใหนมีพระสงฆ์ไม่เกิน ๔ รูป ห้ามกินข้าวเป็นบาป ผมว่าไม่ใช่หละ.....ในเรื่องของธุดงค์วัตรการปฏิบัติเหล่านี้เป็นวัตรปฏิบัติของภิกษุที่พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญให้ปฏิบัติ....ทั้งนี้ยังมีพระสูตรหลายพระสูตรที่เกี่ยวกับว่า การปฏิบัติเช่นใดชื่อว่าภิกษุไม่บริโภคข้าวของชาวบ้านให้เสียเปล่า....

 

ขอรับความคิดเห็นครับ

 

อันนี้คิดมากเกินไปครับ เราบอกท่านไปว่าเราถวายเป็นสังฆทานก็พอแล้ว ส่วนท่านจะทำอย่างไร ก็แล้วแต่ท่านล่ะครับ

ตัวผมเองบางทีขับรถไปเจอพระเดินบิณฑบาตอยู่รูปเดียว ก็จอดรถเอาเงินไปถวายท่าน แล้วก็บอกว่า "ถวายเป็นสังฆทานครับ" ถ้าท่านเอาไปใช้ส่วนตัวก็ "เฮง" เองล่ะครับ

 

เป็นครับ เพราะถ้าตั้ง 4 รูปขึ้นไปเป็นสังฆทานนะครับ
แต่จะให้ดี ก็อธิฐานเพิ่มนิด ว่าถวายเป็นสังฆทานเพื่อภัตตาหารพระ 10,000 รูป ถวายเป็นสังฆทานเพื่อบำรุงค่าน้ำค่าไฟฟ้า

ลองอ่านดูนะครับ


นางภัททาเทพธิดาได้ถามต่อไปอีกว่า
พี่ได้เลี้ยงดูพระภิกษุทั้งหลาย ผู้สำรวมดี ผู้ประพฤติพรหมจรรย์ ให้
อิ่มหนำสำราญด้วยข้าวและน้ำ ด้วยมือของตนเอง มากกว่าเธอ ครั้น
ให้ทานมากกว่าเธอแล้ว ก็ยังได้บังเกิดในเหล่าเทพเจ้าต่ำกว่าเธอ ส่วนเธอ
ได้ถวายทานเพียงเล็กน้อย อย่างไรจึงมาได้ผลอย่างพิเศษไพบูลย์ถึงเช่นนี้
เล่า แน่ะแม่เทพธิดา ฉันถามเธอแล้ว นี่เป็นผลแห่งกรรมอะไร โปรด
ตอบฉันด้วย?
นางสุภัททาเทพธิดาตอบว่า
เมื่อชาติก่อน ดิฉันได้เห็นพระภิกษุผู้อบรบทางจิตใจเพื่อคุณอันยิ่งใหญ่
จึงได้นิมนต์ท่านรวม ๘ รูปด้วยกัน มีพระเรวตเถระเป็นประธานด้วย
ภัตตาหาร ท่านพระเรวตเถระนั้นมุ่งจะให้เกิดประโยชน์ อนุเคราะห์แก่
ดิฉัน จึงบอกดิฉันว่า จงถวายสงฆ์เถิด ดิฉันได้ทำตามคำของท่าน
ทักขิณาของดิฉันนั้น จึงเป็นสังฆทาน ดิฉันให้เข้าตั้งไว้ในสงฆ์เป็นทาน
ที่ไม่อาจปริมาณผลได้ว่า มีอยู่เท่าไร ส่วนทานที่คุณพี่ได้ถวายแก่ภิกษุ
ด้วยความเลื่อมใสเป็นรายบุคคล จึงมีผลไม่มาก.
</pre>