เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 30 มิถุนายน 2010.

แท็ก: เพิ่มแท็ก

หน้า 260 ของ 494

UncleGee เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

1 มกราคม 2012

โพสต์:

3,979

ค่าพลัง:

+10,239
ขอบคุณท่านผู้ถ่ายทอดความรู้ และท่านผู้แปล ทุก ๆ ท่าน ครับ
ขออาราธานาคุณพระรัตนตรัย และสิ่งศักสิทธิ์ทั้งหลายทั่วสากลโลก
ช่วยคุ้มครองทุกท่าน ให้รอดพ้นจากภัยพิบัติทั้งปวงตลอดไป
"ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน"

UncleGee, 4 เมษายน 2012

#5181
light worker เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

10 พฤศจิกายน 2011

โพสต์:

465

ค่าพลัง:

+446

ขออนุญาติดันหน่อยน้า...ใกล้ถึงเวลาแว้วววว :boo::boo:

light worker, 5 เมษายน 2012

#5182
phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

14 พฤศจิกายน 2009

โพสต์:

2,471

ค่าพลัง:

+2,396

kindred said: ↑

ข้อความการสื่อสารจาก Archangel Michael

โดย Ronna Herman / เมษายน 2012

ที่มา...http://www.funfactory.spruz.com/pt/Archangel-Michael-Where-Are-You-On-The-Path-Of-Ascension---April-2012-through-Ronna-Herman/blog.htmffice

ตอนที่ 4

ในขั้นเริ่มต้นของการขยายตัวทางจิตสำนึก
ชีวิตที่จดจ่ออยู่แต่ในโลกแคบๆของพวกคุณจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
ตัวตนแห่งวิญญาณของพวกคุณจะค่อยๆกลายเป็นผู้กำกับและคอยเป็นผู้ควบคุมดูแลชีวิตของพวกคุณ
; แต่ ตัวตนของความอยากแห่งอัตตาจะไม่ยอมให้ถูกครอบงำได้ง่ายนัก
มันมีอยู่ในธรรมชาติของจิตและอารมณ์ต่างๆของพวกคุณเองมาอย่างยาวนานแล้ว
ในขณะที่พวกคุณกำลังดำเนินการในการตื่นรู้ทางจิตสำนึก
การสวดมนต์จะต่อยๆพัฒนาไปสู่การทำสมาธิทั้งแบบเคลื่อนไหว และ แบบอยู่นิ่งๆ(active and passive meditation)
การปฏิญาณตนและการท่องมนตราต่างก็เป็นวิธีการทั้งหลายในการพูดคุย
กับพระบิดา/พระมารดาแห่งเรา และกับรูปธรรมแห่งแสงสว่าง

การทำสมาธิ หรือ ความสงบเงียบอันศักดิ์สิทธิ์
คือการรอฟังคำตอบ

เมื่อเวลาผ่านไป ความต้องการทั้งหลายของอัตตา
จะค่อยๆถูกแทนที่ด้วยเจตจำนงของจิตที่ถูกจดจ่อจากจิตวิญญาณไปเอง
พวกคุณต้องทำตามการชี้นำเหล่านี้จากจิตวิญญาณของพวกคุณเอง
และพวกคุณก็จะถูกปรับให้รับเสียงกระซิบและเสียงกระตุ้นเตือนของตัวตนอันสูงส่งของพวกคุณได้

พวกคุณต้องก้าวข้ามดินแดนที่มืดมนของระนาบทิพย์ในระดับต่ำๆ
และเผชิญหน้ากับมายาการในด้านลบทั้งหลายที่พวกคุณได้เคยสร้างมันขึ้นมาเองให้ได้
: ความกลัว ความรู้สึกผิด ความละอายใจ
การไม่เห็นคุณค่า การละทิ้ง และ ความรู้สึกสิ้นหวังในชะตากรรม

พวกคุณจะค่อยๆมีความมั่นใจมากขึ้น
หากว่าพวกคุณยอมเผชิญหน้ากับรูปแบบของความรู้สึกนึกคิดในด้านลบๆเหล่านี้ และปะทะกับมันแบบซึ่งๆหน้า
มันจะไม่มีอะไรให้ต้องกลัวเกรงเลย

แล้วพวกคุณก็จะเริ่มใช้ชีวิตควบคู่ไปกับการตื่นรู้ได้ด้วยตนเอง
ดังนั้นพวกคุณก็จะค่อยๆสัมผัสได้ถึงระนาบทิพย์ที่สูงขึ้นของมิติที่ 4 และระนาบทางจิตในชั้นต้นๆของมิติที่ 5 ได้
พวกคุณจะค่อยๆสอดรับและผสานธรรมชาติต่างๆทางอารมณ์และจิตใจของพวกคุณได้อย่างช้าๆ
เพื่อที่พวกคุณจะได้เคลื่อนไปตามกระบวนการของบรรลุถึงยัง
"ความเป็นหนึ่งเดียวกันกับตัวตนที่เป็นมนุษย์ในแบบของพวกคุณเองที่มีหลากหลายด้านได้อย่างกลมกลืนกัน"

เมื่อสิ่งนี้สำเร็จเสร็จสิ้นลง พวกคุณก็จะพร้อมสำหรับการผสาน
รวมเข้ากับเหลี่ยมมุมทั้งหลายของตัวตนอันสูงส่งของพวกคุณเองได้

ถ้าพวกคุณยังคงใส่ใจต่อเสียงเรียกอยู่อย่างสม่ำเสมอ
พวกคุณจะเกิดความเข้าใจต่อความหมายของชีวิตและสิ่งที่เป็นเป้าหมายอันสูงส่งของพวกคุณเองมากขึ้น
นั่นก็คือ การอยู่เหนือข้อจำกัดทางโลกย์ที่มีอยู่ของพวกคุณ

ทันใดนั้นเอง กิจกรรมต่างๆรวมทั้งผู้คนทั้งหลายแหล่ที่พวกคุณเคยมีปฏิสัมพันธ์กันมาแต่เก่าก่อนในอดีต
ก็ดูราวกับว่าสิ่งต่างๆเหล่านั้นกลับนำมาแต่ความรู้สึกที่น่าพึงพอใจ
และสร้างความปลาบปลื้มยินดีให้เกิดขึ้นกับพวกคุณ

คลื่นใต้น้ำของความไม่พอใจอันศักดิ์สิทธิ์จะเริ่มแข็งแกร่งขึ้นในจิตใจของพวกคุณ
และจะเริ่มผุดพลุ่งขึ้นมาเสนอหน้าภายในธรรมชาติทางอารมณ์ของพวกคุณ
ความปรารถนาในความรู้ของจิตวิญญาณก็จะแข็งแกร่งขึ้น
พร้อมๆกับความต้องการที่จะเข้าใจว่า อะไรที่มันกำลังเกิดขึ้นกับพวกคุณอยู่
มันจะเหมือนกับว่า สิ่งบังตาอย่างหนึ่งของพวกคุณได้ถูกถอดออกไป
และพวกคุณก็กลายเป็น alien ต่างถิ่น

บางที...พวกคุณก็อาจจะไม่มีใคร
ที่พวกคุณจะสามารถไว้เนื้อเชื่อใจได้เลยก็ได้
แล้วพวกคุณก็เลยเริ่มรู้สึกอยากจะแยกตัวออกมา
อย่างสันโดษและอยู่ตามลำพัง
Click to expand...

ข้อ ความ ที่ กล่าว มา ถูก ต้อง มาก ที่ สุด (จาก ที่ ได้ อ่าน มา)

การปฏิญาณตนและการท่องมนตราต่างก็เป็นวิธีการทั้งหลายในการพูดคุย
กับพระบิดา/พระมารดาแห่งเรา

การสวดมนต์เป็น การเปิดมิติเพื่อเข้าถึง พระบิดา มารดา มนุษย์มีที่มาจริง...มิใช่การมาทานงวนดินแล้วเกิดรูปร่าง ดอก ต้องย้อนไป มากกว่านั้น เกิดจากอำนาจของใคร ...

การทำสมาธิ หรือ ความสงบเงียบอันศักดิ์สิทธิ์ คือการรอฟังคำตอบ

เป้าประสงค์ การทำสมาธิ คือ การโสตติดต่อกับญาติ ของเรา ของแต่ละคนจะมีญาติ ของเราตั้งแต่กำเนิดขึ้นมา นานมาแล้ว นี่มีจริง ...

พวกคุณต้องก้าวข้ามดินแดนที่มืดมนของระนาบทิพย์ในระดับต่ำๆ
และเผชิญหน้ากับมายาการในด้านลบทั้งหลายที่พวกคุณได้เคยสร้างมันขึ้นมาเองให้ได้ : ความกลัว ความรู้สึกผิด ความละอายใจ
การไม่เห็นคุณค่า การละทิ้ง และ ความรู้สึกสิ้นหวังในชะตากรรม
พวกคุณจะค่อยๆมีความมั่นใจมากขึ้น
หากว่าพวกคุณยอมเผชิญหน้ากับรูปแบบของความรู้สึกนึกคิดในด้านลบๆเหล่านี้ และปะทะกับมันแบบซึ่งๆหน้า มันจะไม่มีอะไรให้ต้องกลัวเกรงเลย

ทำมาแล้ว แบบนี้ล่ะ ถูกต้องที่สุด เป็นธรรมะที่นำมาเผยแผ่ อย่างยอดเยี่ยมมาก เรียกว่า ที่สุดของที่สุดทางตรงไม่อ้อมค้อม

เป็นหลักการปฏิบัติ เราทุกคนจักต้องสัมผัส สิ่งเหล่านี้ หมายความว่า ผ่านสิ่งเหล่านี้ โดย มิต้องไปต่อต้านใด ๆ ทุกคนจักต้องผ่านจะละเว้น ไม่ได้ หากละเว้น ก่ยังไม่ผ่านก่ จะต้องกลับมาเจอกันอีก

นิวรณ์ ต้องเจอ และ มาร ตัวจริง (ทางมโนสัมผัส) ก่ ต้องเจอ หาก ใคร ล่ะ เว้น โดย ใช้ อำนาจ แห่ง ฌาน โดย ที่ ตน ไม่ มี บารมี ใจ เพียง พอ ก่ ไม่ ผ่าน

ข้อความ ทั้งหมด ข้าง ต้น ที่ คุณ Kindred ระบุ ตรง นี้ ใช่ ถูก ต้อง

ไม่ ใช่ ข้อ ความ ล้อ กัน เล่น แน่ นอน ....

การ ก้าว ข้าม... ทุก อย่าง จัก มี ขั้น ตอน และ รหัส

ที่ บอก ว่า ระลึก รู้ อยู่ กับ ปัจจุบัน ยัง ไม่ เสถียร ดอก ครับ มี มาก กว่า นั้น

คิด ว่า หา เอา จาก บท ความ น่า จะ มี ....

แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 เมษายน 2012

phudit999, 5 เมษายน 2012

#5183
อจิตตะ เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

12 มกราคม 2012

โพสต์:

305

ค่าพลัง:

+1,840

ข้อความการสื่อสารทางโทรจิต
โดย Blossom Goodchild
วันที่สื่อสาร ๓ เมษายน ๒๕๕๕

ที่มา : Blossom Goodchild - April 3, 2012

ตอนที่ ๑

<style>  </style> (ถาม)
Hello…ฉันขอถามคำถามที่ยังคาใจอยู่ในเรื่อง
“ความเหมือนที่แตกต่าง” ว่า...เราจะต้องทำอย่างไร
ระหว่าง ช่องทางที่แตกต่าง กับ ข้อมูลที่แตกต่าง ตามที่คุณบอกเราน่ะ
ฉันรู้...ว่าคุณได้เคยบอกไว้ว่า 'ให้ทำตามสัจจะในใจของคุณ
“'แต่คุณช่วยบอกหน่อยได้ไม๊ว่าทำไมมันจึงมีความแตกต่างมากมายและตรงไหนกัน?
นี่แต่ละคนเขาก็มาด้วยใจและก็มีความตั้งอกตั้งใจที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลที่เหมือนสัญญาณเตือนที่ดีนี้ไว้ ...แต่ทำไม...????
คุณได้โปรดสอนพวกเราหน่อยซิ
(ตอบ)
ที่เราเลือกนำเสนอเกี่ยวกับความแตกต่างนี่ เพราะข้อมูลบางส่วนที่ได้ส่งไปได้มีการตีความผิดๆ ไปมาก
หรือพูดอีกทีก็คือว่า อาจจะมีผู้หวังดีที่จะนำความจริง
มาเผยแผ่...แต่...พลังจิตที่จะถ่ายทอดข้อความสู่จิตวิญญาณของโลกนี้ของเขายังไม่เต็มร้อย (ศรัทธายังไม่แก่กล้า=ผู้แปล)

(ถาม)
อืม... เรื่องนี้ฉันเข้าใจ. หลายคนก็พูดถึงเราแบบนี้
แต่มันจะเป็นการดูถูกที่จะไปพูดกับ คนนั้น คนนี้ ที่เขาบอกว่าเขา “รู้สึก” ได้ว่าเขาเป็นช่องทางไปสู่ แสงสว่างและสัจจะ ได้
...แต่ฉันว่า ... ทุกฝ่ายถูกหมดคงไม่ใช่แน่...
เพราะมันเห็นได้ชัดถึงความแตกต่าง
ฉันคิดว่ามันต้องมีการสะสางให้เบ็ดเสร็จสักทีกับสถานการณ์อย่างนี้
ชาวบ้านต่างพากันยึดมั่นใน”ความเชื่อ”ที่จะนำข้อมูลที่เขาได้รับนั้นมาปฏิบัติ
แล้วเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาหรือใครคนไหนที่เหมาะหรือยังไม่เหมาะที่จะปฏิบัติตามนั้น
(ตอบ)
มาทบทวนกันอีกครั้งนะ...
“””ใครคือผู้ที่นำคุณสู่ “ความกลัว” และใครเป็นผู้ที่นำคุณสู่ “ความรัก” “””' แค่นี้แหละที่คุณต้องรู้...

ไม่มีใครอยากเป็นคนไม่ดี แต่ที่ทำ เพราะเหตุจาก"ความไม่รู้"

อจิตตะ, 5 เมษายน 2012

#5184
อจิตตะ เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

12 มกราคม 2012

โพสต์:

305

ค่าพลัง:

+1,840

ข้อความการสื่อสารทางโทรจิต
โดย Blossom Goodchild
วันที่สื่อสาร ๓ เมษายน ๒๕๕๕

ที่มา : Blossom Goodchild - April 3, 2012

ตอนที่ ๒
<style>  </style> (ถาม)
พูดง่าย ๆ คือ...ใครที่นำคุณสู่ “ความรัก” นั่น “จริง”...แต่ใครที่นำคุณสู่ “ความกลัว” นั่น “ไม่จริง”..ใช่ไหม?
(ตอบ)
...เปะเลย...เมื่อคุณเดินสู่เส้นทางของ”ความรัก” มันก็ไม่มีอะไรที่ต้องกลัว.
...เราไม่ได้มาเพื่อจะบอกให้ “'ระวัง” ...
เพราะทุกคนถูก “กำหนด”ชะตาไว้แล้ว
สำหรับพวกเราเรื่องอย่างนี้เป็นเรื่องจิ๊บ ๆ
ก็อย่างที่เราเคยบอกไว้ก่อนแล้วว่าเรามาเพื่อช่วยให้เกิดการรับรู้ว่า “คุณคือใคร”...”ใยมาอยู่ที่นี่”
เรามาเพื่อช่วยค้นหาตัว “คุณ”
คุณ คือ“ความรัก” ...มาจาก “ความรัก” และก็มีแต่ “รัก “เท่านั้น ซึ่งไม่มีอะไรจะมาแทนที่ “รัก”นี้ได้...และไม่มีอะไรจะต้องกลัวอย่างแน่นอน
ผู้ที่ยังมีความกลัวอยู่ย่อมหมดโอกาสที่จะหยั่งรากลึกถึง”ความรัก “ภายในตัวเขาเองได้

(ถาม)
...ฉันปิ๊งนะ... ที่คุณพูดมาน่ะ
แต่มันก็ยังไม่ได้เปลี่ยนความเป็นจริงในเรื่องความแตกต่างของช่องทางรับข้อมูลเลย...
แล้ว หากพวกเขาทั้งหมดมาจาก “ความรัก” จริง งั้น พวกเขาก็ต้องพูดเหมือนกันทุกคนซิ...<style> </style>
(ตอบ)
“ความจริง” กำลังจะปรากฏในไม่ช้านี้ ...
คุณจะรู้ได้เมื่อมันมาถึง
เราจะช่วยคุณเตรียมพร้อมในการรับข้อความที่กำลังจะมาถึงนั้น

(ถาม).
อาจต้องเตรียมเสียใจด้วยนะ ...
เพราะเราจะรู้ได้อย่างไรว่าสถานการณ์ไหนที่ถึงเวลาต้องเตรียมพร้อม...
(ตอบ)
ในทุกสถานการณ์ไม่ต้องมีการเตรียมพร้อมมากไปกว่าการมี “ความรัก” และรู้ ตื่น เบิกบานในทุกปัจจุบันขณะ... นี่เป็นหัวใจหลักของข้อความ มันก็แค่ “ปัจจุบันขณะ”
พวกคุณมัวแต่วางแผนอนาคต แต่มันไม่ใช่ “ปัจจุบันขณะ”
เรามาเพื่อจะขอให้คุณใช้ชีวิตอยู่กับ “ปัจจุบันขณะ”

ไม่มีใครอยากเป็นคนไม่ดี แต่ที่ทำ เพราะเหตุจาก"ความไม่รู้"

อจิตตะ, 5 เมษายน 2012

#5185
อจิตตะ เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

12 มกราคม 2012

โพสต์:

305

ค่าพลัง:

+1,840
ข้อความการสื่อสารทางโทรจิต
โดย Blossom Goodchild
วันที่สื่อสาร ๓ เมษายน ๒๕๕๕

ที่มา : Blossom Goodchild - April 3, 2012

ตอนที่ ๓
<style>  </style>

(ถาม)

แล้วที่คุณบอกเมื่อถึงเวลาเราจะรวมตัวเป็นครอบครัวเดียวกันอีกครั้ง ในกาลข้างหน้า ...ซึ่งก็ไม่ใช่ “ปัจจุบันขณะ”

ซึ่งทำให้พวกเราคิดถึงแต่อนาคตที่คุณคาดเดา...

นี่ฉันไม่ได้คิดจะให้คุณรู้สึกอึดอัดที่จะตอบนะ แต่ฉันรู้สึกว่าเรื่องเหล่านี้น่าจะต้องมีการจัดลำดับกันใหม่ในแบบมุมมองของชาวโลกนะ...

(ตอบ)

เราเข้าใจสภาพของคุณในตอนนี้ ซึ่งเราก็คาดอยู่แล้วว่าจะต้องมีคำถามที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา อันเนื่องจากเหตุที่เรา

ไม่สามารถส่งข้อมูลจากคนอื่นไปสู่คนอื่นได้

(ถาม)

แล้วทำไมความแตกต่างของเรื่องนี้มันจึงไปอยู่เบื้องหน้าเล่า

มันเหมือนหนังเรื่อง “sliding doors” ใช่ไม๊ ?

...ในทางสองแพร่ง ทางไหนจะเป็นทางที่หลุดออกมาได้นะ ?บางที่...ชีวิตที่อยู่ในเส้นขนาน...โอ้...แม่เจ้า...Struth Blossom เอ้ย...

ทำไมคุณไม่ทำให้มันสับสนยิ่งกว่านี้นะนี่...

(ตอบ)

... ไม่หรอก... มันไม่ใช่ในกรณีนี้

(ถาม)

ไม่ใช่แล้วอะไรล่ะ? ถ้าคุณทำตามแผนการอันศักดิ์สิทธิ์ของคุณ...ภายในปีนี้ อะไรที่คุณเรียกมันว่า “สัจจะ”...มันจะมาสถิตย์อยู่ส่วนไหนของเราล่ะ...

(ตอบ)

เราได้มอบ”สัจจะ” ตามที่เราเห็นให้คุณ...

แต่เราคงจะตามไปรับผิดชอบใครที่เห็นมันและเลือกที่จะปฏิบัติตามไม่ได้หรอกนะ...

...คุณสุภาพสตรีที่รัก... เราขอชื่นชมกับความจริงที่คุณบอก

ว่า งานนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย

แต่เราได้เห็นคุณค่าของการที่เรามิใช่ส่วนหนึ่งส่วนใดของโลก มันจึงทำให้เราเห็นสรรพสิ่งของโลก ด้วยมุมมองของเรา

...เรารู้ว่า...สิ่งที่คุณต้องการมาก คือ คำถาม ...คำตอบ...

...เรารู้ว่า ...ผู้คนอีกมากที่ยังสับสน

...เรารู้ว่า ...ทุกชีวิต มีแต่”ความกลัว”อยู่ในใจจากเหตุที่พวกเขาไม่สามารถ “ปล่อยวาง “ กับทุกสิ่งทุกอย่างไปได้
ไม่มีใครอยากเป็นคนไม่ดี แต่ที่ทำ เพราะเหตุจาก"ความไม่รู้"

อจิตตะ, 5 เมษายน 2012

#5186
อจิตตะ เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

12 มกราคม 2012

โพสต์:

305

ค่าพลัง:

+1,840

ข้อความการสื่อสารทางโทรจิต
โดย Blossom Goodchild
วันที่สื่อสาร ๓ เมษายน ๒๕๕๕

ที่มา : Blossom Goodchild - April 3, 2012

ตอนที่ ๔
<style>  </style> (ตอบต่อ)
คุณเคยรู้สึกบ้างไม๊ว่า...สิ่งที่คุณเห็นและได้ยินบางทีมันก็ขัดแย้งกันจนทำให้คุณมัวแต่คิดถึงตัวเอง... และถ้าคุณสุ่มสี่สุมห้าทำตามมันเข้าแล้ว ...เมื่อใดที่มีคนมาตั้งคำถามคุณ ...คุณก็แทบจะอยากโดดหน้าผาซะให้พ้น ๆ
แต่หากตามที่คุณเคยบอกว่าในวันข้างหน้าจะมี”เรือแห่งแสงศรัทธา”มาจอดรอคุณที่ขอบหน้าผานั้นแล้วขอให้คุณกระโดดลงมาที่เรือเพื่อยกระดับจิตของคุณขึ้น
...คุณ Blossom... เราขอถามคุณว่า ...คุณจะทำมันทันทีโดยไม่ถามใจคุณดูก่อนเลยใช่ไหม ? ถ้ามันสมเหตุสมผลที่ต้องทำ...

(ถาม)
ไม่อ่ะ... ฉันจะไม่ยอมโดดโดยไม่มีร่มชูชีพเด็ดขาด ...!
แล้ว ... ? อะไรคือ”ความเชื่อใจ “ล่ะ ?
(ตอบ)
เชื่อใจใครเหรอ... คุณจะเชื่อใจคุณเองแหละ...คุณรู้ดี
คุณจะไปตั้งความหวังที่จะเชื่อใจใครด้วยปัจจัยภายนอกได้อย่างไร
“แล้วมีอะไรจะมาทำให้คุณเชื่อใจเราได้หากคุณยังไม่เชื่อใจคุณเอง”
นี่คุณกำลังขอให้เราตอบคำถามที่มันเป็นคำตอบในเรื่องความเชื่อใจของคุณ ...

(ถาม)
แล้วหากเราหาคำตอบไม่ได้ ...หรือไม่ก็บอกว่า ไม่รู้ล่ะ...?
(ตอบ)
ก็แสดงว่าคุณไม่เชื่อใจตัวเอง แล้วอย่างนี้คุณจะเชื่อในสิ่งที่คุณได้ยินและได้อ่านจากปัจจัยภายนอกได้ล่ะหรือ?

(ถาม)
งั้น... ..คุณจะแนะนำวิธีที่จะทำให้เราเชื่อใจในตัวเองอย่างไรในมุมมองของคุณ
(ตอบ)
ทำตามใจปรารถนาของคุณซิ...
มันเป็นเรื่องน่าสนใจสำหรับเราแต่ดูเหมือนจะยากนิดนิดสำหรับคุณ
เมื่อใดที่คุณรู้สึกได้ถึง”ความรู้สึก”ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและมีปิติสุขพร้อมที่จะมี”ความสุข”ได้ทุกวันเวลานาที
คุณจะไม่คล้อยตามกับ”ความเชื่อใจ”ของคุณในสิ่งที่คุณได้ตัดสินใจ”รู้สึก” นั่นล่ะหรือ “?
ลองอ่านใจตัวเองซิว่ามันรู้สึกอย่างไร?
และนี่...คือวิธีเรียนรู้ที่จะเชื่อใจตัวเอง

ไม่มีใครอยากเป็นคนไม่ดี แต่ที่ทำ เพราะเหตุจาก"ความไม่รู้"

อจิตตะ, 5 เมษายน 2012

#5187
อจิตตะ เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

12 มกราคม 2012

โพสต์:

305

ค่าพลัง:

+1,840

ข้อความการสื่อสารทางโทรจิต
โดย Blossom Goodchild
วันที่สื่อสาร ๓ เมษายน ๒๕๕๕

ที่มา : Blossom Goodchild - April 3, 2012

ตอนที่ ๕
<style>  </style>(ถาม)
จะเกิดอะไรหากมีใครเกิดความรู้สึก 'นอกลู่นอกทาง' (off track)...
ซึ่งมันไม่น่าจะมาจากเหตุที่เราไม่เชื่อใจตัวเอง...
(ตอบ)
ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ล่ะ ?

(ถาม)
เพราะเรายังไม่ได้ปล่อยให้ “ความเชื่อใจ” หลงทางไปไหน เพียงแต่มันอาจเป็นเพียงวันแย่แย่ของเราเท่านั้น
(ตอบ)
เอาล่ะ...มีความจำเป็นที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงทัศนคติกันหน่อย ... ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
...ถ้าหากคุณเชื่อใน”ความจริง”โดยปราศจากเงื่อนไข
ผลตอบแทนที่คุณจะได้รับสูงสุดคือ
“คุณได้นำความเชื่อใจในตัวคุณเองมาเชื่อใจคุณเอง”
และนี่คือ”ความรู้สึก”ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งของแต่ละวัน และทุกวันของคุณ
เวลาที่คุณไม่พอใจกับคำพูดของใคร
ทำไมคุณจึงไปใช้ “ความเชื่อ “ในคำพูดเหล่านั้น?
มันมีอะไรที่ทำให้คุณต้องใช้ “ความเชื่อ” นั้นหรือ ?
คุณนั่นแหละที่จะบอกตัวเองได้ว่า “ไม่ต้องไปเชื่อมัน”
แล้วคุณจะรู้ได้ว่ามันมี “ความรู้สึก” อย่างไร... FEELINGS! FEELINGS ! FEELINGS!

(ถาม)
เอาล่ะ...ฉันเพิ่งได้ดูสารคดีเกี่ยวกับ C
hemtrails. (เมฆจำลอง=ผู้แปล)
ฉันรู้เรื่องนี้ดี...
ฉันได้ใช้”ความเชื่อ”กับสารคดีเรื่องนี้...ฉันเชื่อเรื่องนี้...
แต่ก็ไม่เห็นว่าฉันจะรู้สึกดีตรงไหนเลย...
คุณรู้ใช่ไม๊ว่าอะไรที่ฉันอยากจะพูดน่ะ?
(ตอบ)
ก็จริง...ที่เราจะยอมรับในสิ่งที่ได้เห็น.
และนั่นมันไม่ใช่เป็นการแสดงออกซึ่งความกล้าหาญที่ “ความเชื่อ” ให้บอกอยู่ในตอนนี้ล่ะหรือ ?
แล้วคุณไม่รู้สึกว่าจิตวิญญาณของคุณมันเข้มแข็งขึ้นหลังจากที่ได้ทำตาม”ความเชื่อ” ที่ยังสามารถนำไปใช้ได้ในหลาย ๆ เรื่องด้วย... หรอกหรือ ?...
คุณน่ะ...รู้เรื่องนี้มานานแล้ว ... และตอนนี้คุณก็กำลังมีความสุขกับสิ่งที่คุณได้ทำอยู่ <style>  </style>
แล้วนี่มันทำให้คุณเกิด”ความกลัว”ไม๊ ?
ไม่เลยใช่ไม๊…นี่เพราะหัวใจของคุณได้ใช้สัญชาตญาณของคุณเองบอกคุณว่า
" ในคำว่า “รัก” ไม่มีคำว่า “แพ้”"
นี่แหละคือ “สัจจะ

ไม่มีใครอยากเป็นคนไม่ดี แต่ที่ทำ เพราะเหตุจาก"ความไม่รู้"

อจิตตะ, 5 เมษายน 2012

#5188
อจิตตะ เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

12 มกราคม 2012

โพสต์:

305

ค่าพลัง:

+1,840

ข้อความการสื่อสารทางโทรจิต
โดย Blossom Goodchild
วันที่สื่อสาร ๓ เมษายน ๒๕๕๕

ที่มา : Blossom Goodchild - April 3, 2012

ตอนที่ ๖
<style>  </style> (ถาม)
เป็นคำตอบที่ดีทีเดียว
(ตอบ)
สิ่งที่เราต้องการให้คุณทำในตอนนี้คือ ขอให้คุณจงรู้ตัวทั่วพร้อมไว้
คุณลองคิดซิ...
...หากมีหนึ่งในพวกคุณหยุดอ่านและหยุดรวบรวมข้อมูลจากผู้ที่มิได้อยู่ในโลกในตอนนี้ เขาจะแตกต่างจากพวกคุณที่มีปฏิกิริยากับข้อมูลข่าวสารที่สื่อสารมาจากที่ไหนสักแห่งที่คุณปฏิเสธไม่ได้ที่จะประกาศให้คนอื่นได้รู้ ...ไม๊?
แล้วจะเกิดอะไรขึ้น หากระบบการสื่อสารของโลกเกิดล่มแบบไร้ฟื้น...คุณจะอยู่ได้ไม๊...คงได้ใช่ไหม?...แล้วสามเดือนล่ะ...เป็นไง...
แต่เรา...ก็ยังอยู่บนท้องฟ้า ...คุณมองเห็น..แล้วคุณ
จะหนีไปหลบซ่อนข้างในได้ล่ะหรือ ?...
แน่นอน...คุณทำอย่างนั้นไม่ได้แน่
ดังนั้น...คุณต้อง”เชื่อ”ในสิ่งที่ “หัวใจ” คุณนำเสนอและมอบ “ความรู้สึก”มาให้คุณทุกขณะจิตนั้น ๆ
คุณต้องเชื่อ “ความรู้สึก” นั้น เพราะมันไม่ได้ได้มาจาก การสื่อสารที่ผ่านเนทเวอร์คหรือใคร ,สิ่งใดมา ให้คำแนะนำให้คุณ”รู้สึก”นั้น ๆ
(เป็นความรู้สึกที่มาจากตัวคุณเอง= ผู้แปล)
และเมื่อถึงตอนนั้นคุณต้อง “เชื่อ” เพราะคุณไม่มีทางเลือก
นี่คือเรื่องที่คุณต้องลงลึกลงไป...เพราะนั่น คือ “คุณ”
ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับเราหรือใครทั้งนั้น
ทั้งหมดมันเกี่ยวแต่ “คุณ”
...ว่า ”คุณคือใคร”...”อยู่เพื่ออะไร”
...จงยืดอก...และปล่อยให้ “คุณ” บอกคุณว่า”คุณคือใคร” แล้ว ถึงตอนนั้นให้มองไปรอบ ๆ ตัวคุณ แล้วคุณจะสังเกตุได้ว่าความเปลี่ยนแปลงได้เข้ามาแทนที่แล้ว

ไม่มีใครอยากเป็นคนไม่ดี แต่ที่ทำ เพราะเหตุจาก"ความไม่รู้"

อจิตตะ, 5 เมษายน 2012

#5189
อจิตตะ เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

12 มกราคม 2012

โพสต์:

305

ค่าพลัง:

+1,840

ข้อความการสื่อสารทางโทรจิต
โดย Blossom Goodchild
วันที่สื่อสาร ๓ เมษายน ๒๕๕๕

ที่มา : Blossom Goodchild - April 3, 2012

ตอนที่ ๗ (จบ)
<style>  </style> (ตอบต่อ)
คุณเป็นคนเข็มแข็ง. และคุณได้ทำให้ชีวิตคุณมีอิสระภาพได้ด้วยตัวคุณเองแล้ว
คุณได้ตื่นขึ้นมาพร้อมกับ”ความจริง”ของตัว “คุณ “.... ซึ่งก็มี”คุณ”เท่านั้นแหละที่ทำอย่างนี้ได้
มันเข้มแข็งแกล้วกล้าแค่ไหนน่ะหรือ?
นี่เลย...“คุณจะเดินก้าวออกมาและบอกได้ว่า“ความรักของคุณ” ไม่แพ้ภัยพาลแล้ว ! “
ตอนนี้คุณคง”เข้าใจ” และ “ปิ๊ง” แล้วละนะ...
...ที่พวกคุณมาที่นี่ก็เพื่อทำสิ่งนี้ ... เพื่อเปลี่ยนโลกของคุณให้มีความรุ่งโรจน์เหมือนในอดีต
YOU! YOU! YOU! ....คุณ!คุณ และคุณ กำลังลงมือทำอยู่ ลองมองไปรอบ ๆ ซิ... คุณกำลังลงมือทำ ใช่ไหมล่ะ ?
คุณจะรู้สึกเป็นสุขกับเส้นทางการเป็น”ผู้ให้” ซึ่งผลที่ได้รับมันเหมือนการอัพเกรดเทคโนโลยี่ขั้นสูงอย่างไงอย่างงั้น…ยังไม่หมดนะ…คุณยังจะได้เป็นส่วนหนึ่งของเราได้เมื่อเราเปิดรับคุณ…
จงตื่นรู้ ในความเป็น “ ผู้มีพลัง”!
จงอยู่ร่วมกับ พลังแสงแห่งพี่น้องร่วมโลกแล้วส่องสว่างให้โชติช่วงชัชวาลไปทั่วราชอาณาจักรใหม่ของคุณ...
นี่เป็น“ความเชื่อ” จากตัวเราบอกเราให้ “เชื่อ” ใน สิ่งที่“คุณ” ทำ

(ถาม)
เราทำแน่. ..ขอได้รับความขอบคุณจากพวกเราด้วย
...และขอให้สุขสันต์วันอีสเตอร์...( Happy Easter)
(จบ)

ไม่มีใครอยากเป็นคนไม่ดี แต่ที่ทำ เพราะเหตุจาก"ความไม่รู้"

อจิตตะ, 5 เมษายน 2012

#5190
UncleGee เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

1 มกราคม 2012

โพสต์:

3,979

ค่าพลัง:

+10,239

ขอบคุณท่านผู้ถ่ายทอดความรู้ และท่านผู้แปล ทุก ๆ ท่าน ครับ
ขออาราธานาคุณพระรัตนตรัย และสิ่งศักสิทธิ์ทั้งหลายทั่วสากลโลก
ช่วยคุ้มครองทุกท่าน ให้รอดพ้นจากภัยพิบัติทั้งปวงตลอดไป

"ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน"

UncleGee, 6 เมษายน 2012

#5191
uuuu0010 เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

12 พฤษภาคม 2009

โพสต์:

97

ค่าพลัง:

+247

ขอบคุณผู้คณะผู้แปลทุกท่านคะ
;41

uuuu0010, 6 เมษายน 2012

#5192
wuttstock เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

28 มิถุนายน 2011

โพสต์:

75

ค่าพลัง:

+132

(ตอบ)
มาทบทวนกันอีกครั้งนะ...
“””ใครคือผู้ที่นำคุณสู่ “ความกลัว” และใครเป็นผู้ที่นำคุณสู่ “ความรัก” “””' แค่นี้แหละที่คุณต้องรู้...

ชัดจริงๆ...

wuttstock, 6 เมษายน 2012

#5193
goodarz เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

29 มีนาคม 2012

โพสต์:

87

ค่าพลัง:

+577

ขอบคุณมากกับท่านผู้แปลได้นำเสนอข้อมูลต่างๆ เป็นความรู้ ซึ่งถ้าพิจารณาให้ดีก็เปรียบเสมือนคำสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ทรงประทานหนทางและแสงสว่างมอบให้กับเหล่าเวไนยสัตว์ทั้งหลาย โดยไม่แบ่งชั้นวรณะ และศาสนาใด เพื่อให้พิจารณาดับทุกข์ อันเกิดจากการยึดมั่น ถือมั่น และลด ละ เลิก จากอาสวะกิเลสทั้งหลาย สุดท้ายดวงจิตจะบริสุทธิ์ และเข้าพบพระนิพพานในที่สุด พวกเราเกิดมาเป็นกระทำพันธสัญญา อันเป็นบทเรียน และต้องให้ผ่านบททดสอบให้ได้ ก็จะพบทางแห่งแสงสว่างในที่สุด / ขออวยพรให้ทุกท่านมีดวงตาเห็นธรรม

goodarz, 6 เมษายน 2012

#5194
Happy_Me เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

15 พฤษภาคม 2011

โพสต์:

170

ค่าพลัง:

+314
kindred said: ↑

ข้อความการสื่อสารจาก Archangel Michael

โดย Ronna Herman / เมษายน 2012

ที่มา...http://www.funfactory.spruz.com/pt/Archangel-Michael-Where-Are-You-On-The-Path-Of-Ascension---April-2012-through-Ronna-Herman/blog.htmffice

ตอนที่ 4

ในขั้นเริ่มต้นของการขยายตัวทางจิตสำนึก
ชีวิตที่จดจ่ออยู่แต่ในโลกแคบๆของพวกคุณจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
ตัวตนแห่งวิญญาณของพวกคุณจะค่อยๆกลายเป็นผู้กำกับและคอยเป็นผู้ควบคุมดูแลชีวิตของพวกคุณ
; แต่ ตัวตนของความอยากแห่งอัตตาจะไม่ยอมให้ถูกครอบงำได้ง่ายนัก
มันมีอยู่ในธรรมชาติของจิตและอารมณ์ต่างๆของพวกคุณเองมาอย่างยาวนานแล้ว
ในขณะที่พวกคุณกำลังดำเนินการในการตื่นรู้ทางจิตสำนึก
การสวดมนต์จะต่อยๆพัฒนาไปสู่การทำสมาธิทั้งแบบเคลื่อนไหว และ แบบอยู่นิ่งๆ(active and passive meditation)
การปฏิญาณตนและการท่องมนตราต่างก็เป็นวิธีการทั้งหลายในการพูดคุย
กับพระบิดา/พระมารดาแห่งเรา และกับรูปธรรมแห่งแสงสว่าง

การทำสมาธิ หรือ ความสงบเงียบอันศักดิ์สิทธิ์
คือการรอฟังคำตอบ

เมื่อเวลาผ่านไป ความต้องการทั้งหลายของอัตตา
จะค่อยๆถูกแทนที่ด้วยเจตจำนงของจิตที่ถูกจดจ่อจากจิตวิญญาณไปเอง
พวกคุณต้องทำตามการชี้นำเหล่านี้จากจิตวิญญาณของพวกคุณเอง
และพวกคุณก็จะถูกปรับให้รับเสียงกระซิบและเสียงกระตุ้นเตือนของตัวตนอันสูงส่งของพวกคุณได้

พวกคุณต้องก้าวข้ามดินแดนที่มืดมนของระนาบทิพย์ในระดับต่ำๆ
และเผชิญหน้ากับมายาการในด้านลบทั้งหลายที่พวกคุณได้เคยสร้างมันขึ้นมาเองให้ได้
: ความกลัว ความรู้สึกผิด ความละอายใจ
การไม่เห็นคุณค่า การละทิ้ง และ ความรู้สึกสิ้นหวังในชะตากรรม

พวกคุณจะค่อยๆมีความมั่นใจมากขึ้น
หากว่าพวกคุณยอมเผชิญหน้ากับรูปแบบของความรู้สึกนึกคิดในด้านลบๆเหล่านี้ และปะทะกับมันแบบซึ่งๆหน้า
มันจะไม่มีอะไรให้ต้องกลัวเกรงเลย

แล้วพวกคุณก็จะเริ่มใช้ชีวิตควบคู่ไปกับการตื่นรู้ได้ด้วยตนเอง
ดังนั้นพวกคุณก็จะค่อยๆสัมผัสได้ถึงระนาบทิพย์ที่สูงขึ้นของมิติที่ 4 และระนาบทางจิตในชั้นต้นๆของมิติที่ 5 ได้
พวกคุณจะค่อยๆสอดรับและผสานธรรมชาติต่างๆทางอารมณ์และจิตใจของพวกคุณได้อย่างช้าๆ
เพื่อที่พวกคุณจะได้เคลื่อนไปตามกระบวนการของบรรลุถึงยัง
"ความเป็นหนึ่งเดียวกันกับตัวตนที่เป็นมนุษย์ในแบบของพวกคุณเองที่มีหลากหลายด้านได้อย่างกลมกลืนกัน"

เมื่อสิ่งนี้สำเร็จเสร็จสิ้นลง พวกคุณก็จะพร้อมสำหรับการผสาน
รวมเข้ากับเหลี่ยมมุมทั้งหลายของตัวตนอันสูงส่งของพวกคุณเองได้

ถ้าพวกคุณยังคงใส่ใจต่อเสียงเรียกอยู่อย่างสม่ำเสมอ
พวกคุณจะเกิดความเข้าใจต่อความหมายของชีวิตและสิ่งที่เป็นเป้าหมายอันสูงส่งของพวกคุณเองมากขึ้น
นั่นก็คือ การอยู่เหนือข้อจำกัดทางโลกย์ที่มีอยู่ของพวกคุณ

ทันใดนั้นเอง กิจกรรมต่างๆรวมทั้งผู้คนทั้งหลายแหล่ที่พวกคุณเคยมีปฏิสัมพันธ์กันมาแต่เก่าก่อนในอดีต
ก็ดูราวกับว่าสิ่งต่างๆเหล่านั้นกลับนำมาแต่ความรู้สึกที่น่าพึงพอใจ
และสร้างความปลาบปลื้มยินดีให้เกิดขึ้นกับพวกคุณ

คลื่นใต้น้ำของความไม่พอใจอันศักดิ์สิทธิ์จะเริ่มแข็งแกร่งขึ้นในจิตใจของพวกคุณ
และจะเริ่มผุดพลุ่งขึ้นมาเสนอหน้าภายในธรรมชาติทางอารมณ์ของพวกคุณ
ความปรารถนาในความรู้ของจิตวิญญาณก็จะแข็งแกร่งขึ้น
พร้อมๆกับความต้องการที่จะเข้าใจว่า อะไรที่มันกำลังเกิดขึ้นกับพวกคุณอยู่
มันจะเหมือนกับว่า สิ่งบังตาอย่างหนึ่งของพวกคุณได้ถูกถอดออกไป
และพวกคุณก็กลายเป็น alien ต่างถิ่น

บางที...พวกคุณก็อาจจะไม่มีใคร
ที่พวกคุณจะสามารถไว้เนื้อเชื่อใจได้เลยก็ได้
แล้วพวกคุณก็เลยเริ่มรู้สึกอยากจะแยกตัวออกมา
อย่างสันโดษและอยู่ตามลำพัง
Click to expand...

บทความของท่านมหาเทพไมเคิลชุดนี้ มันโดนมากๆ เลยค่ะ

แบบว่ามันใช่ ใช่เลย ที่กำลังเป็นอยู่ในตอนนี้เลย ทรมานจิตใจดีทีเดียว T_T
แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 เมษายน 2012

Happy_Me, 7 เมษายน 2012

#5195
ทิวลิปขาว เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

19 กุมภาพันธ์ 2010

โพสต์:

134

ค่าพลัง:

+1,555

ใช่เลยค่ะ.....ความรู้สึกเช่นเดียวกับคุณ Happy Me

ทรมานในจิตมาก ในบางครั้งนึกย้อยกลับไป ในสิ่งที่เราเคยทำ ความเป็นลบ ทั้งหลาย
ที่พลาดพลั้ง ไป....ถ้าเป็นไปได้ ไม่อยากกระทำอีกเลย

นี่แหละ ความรู้สึก ความกลัว ความรู้สึกผิด ความละอายใจ

แต่ยังงัยซะ มันก็ต้องผ่านไป เป็นกำลังใจให้ทุกคน ที่กำลังอยู่ในช่วงเวลา กับความรู้สึกขณะนี้

สวดมนต์ ไหว้พระ ทำสมาธิ....ให้จิตดำรง อยู่ในมนต์บทใดบทหนึ่งที่ชอบ
หรือคำภาวนา คำใดคำหนึ่ง ที่รู้สึกชอบ ทุกขณะ เวลา

" มนตรา เป็นรหัสแห่งพระพุทธเจ้า เป็นการค้นหาวิธีติดต่อทางจิตวิญญาณ กับสรรพสิ่งที่มีพลังชั้งสูง.

" การน้อมจิต ในการสวดมนตร์จริงๆ จึงเกิดพลังมหาศาล ในการแผ่เมตตา ให้กับเจ้ากรรมนายเวร ที่พวกเขาผูกเวรกับเราในอดีตชาติได้ "

(ปล. ข้อความรู้ หลักของการสวดมนตร์ นี้ ได้มาจาก ครูบาร์อาจารย์ที่เคารพนับถือค่ะ )

แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 เมษายน 2012

ทิวลิปขาว, 7 เมษายน 2012

#5196
ทิวลิปขาว เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

19 กุมภาพันธ์ 2010

โพสต์:

134

ค่าพลัง:

+1,555

ขอ อนญาติเผยแผ่ หลักความรู้ แห่งการสวดมนตร์

การสวดมนตร์ เป็นการปรับคลื่นแห่งจิต

ให้มีพลัง ที่ดีงามในจิตวิญญาณของเรา มนตร์ทุกบท ทุกตอน ทุกภาษา ย่อมมีความหมายในเนื้อหาของมนตร์นั้นๆ...

แต่จะทำให้เกิดพลังในความสงบ ต้องสวดด้วยจิตที่ศัทธา ตั้งมั่นในจิตวิญญาณจริงๆ... ไม่ใช่สวดเพื่อความขลัง หรืออำนาจแห่งความศักดิ์สิทธ์

ถ้าจิตของเรายังไม่ดีงามพอ....ก็จะทำให้เกิดพลังแห่งมนตร์ได้ยาก...
ใช่ว่าทุกคนจะสวดหรือภาวนาได้...แล้วจะทำให้เกิดพลังแห่งมนตร์
จิต...ของเราตอนนั้นในขณะที่สวด จะต้องน้อบน้อมจริงๆ
ในตัวของมนตร์ ก็สามารถปรับคลื่นแห่งจิตนั้นๆ..ได้อย่างรวดเร็ว
สามารถเข้าถึงพลังแห่งมนตร์ได้....

จิตก็จะเกิดความสงบเป็นรหัสแห่งมนตร์ เพื่อเข้าถึง...สมาธิจิตได้อย่างเร็ว

มนตร์มหากรุณาธารณีสูตร
หากได้สวดรวมกันเป็นกลุ่มได้ยิ่งดี เพื่อให้พลังอำนาจจิตนั้นเชื่อมต่อกันจะมีพลังอย่างมหาศาล
แต่ ต้องมีผู้ชี้แนะอย่างถูกต้องด้วยพิกัดถึงจะเชื่อมต่อกันได้

เพื่อส่งต่อไปให้บุคคลที่กำลังเจ็บป่วย และผู้มีปัณหาสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้

ถ้าเรามาสวดมนตร์เพื่อบอกกล่าวสิ่งที่มีอำนาจเหนือกว่าเรา....
เราก็จะได้รับการโปรดจากเบื้องบนอย่างแน่นอน
มนุษย์ต้องมีศัทธาอย่างแรงกล้า...
ถึงจะเข้าถึงพลังแห่งมนตร์ เพราะการสวดมนตร์เป็นรหัสแห่งพระพุทธเจ้าเป็นการค้นหาวิธีการติดต่อทางจิตวิญญาณกับสรรพสิ่งชั้นสูง

ความรู้เกี่ยวกับ " มนตร์ "

"มนตร์" มีพลังอำนาจที่ปลดปล่อยดวงวิญญาณให้หลุดพ้นจากอากาศและให้สติปัณญาอันยิ่งใหญ่ ให้แสงสว่างและอิสรภาพ ความสันติ ความสุขแห่งดวงจิต และอมตะ

" มนตร์ "เมื่อได้สวดอย่างตั้งใจมั่นคงแล้วจะสามารถปลุกปัญญาแห่งดวงจิต ปัญญานั้น แฝงอยู่ในตัวบทแห่งมนตร์

"มนตร์ " เป็นสิ่งที่นำมาซึ่งพลังมหาศาลที่จะทำลายความชั่วร้ายของมนุษย์ได้ เป็นสิ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงธรรมชาติฝ่ายต่ำของมนุษย์
ของมนุษย์ชาติได้อย่างมหัศจรรย์ เป็นสิ่งที่ทำลายตัณหา ความโลภ ความหลง ของมนุษย์
ทั้งหลายให้หมดสิ้นไป

"มนตร์ "คือรหัสแห่งพระพุทธเจ้าที่จะทำให้เข้าถึงความว่างความสงบอีกวิธีหนึ่งที่สามารถเข้าสู่พุทธะแห่งจิตวิญญาณได้รวดเร็วเช่นกัน

เพราะ....ฉะนั้นเมื่อสวดมนตร์ต้องให้เป็น สมาธิ อย่างแน่วแน่ตั้งมั่น ไม่ใชสวด ปากวิ่งไปโน่น ไปนี่ คิดแต่ความอยากอยู่ตลอดเวลา ก็จะไม่ได้รับพลังแห่งมนตร์แม้แต่นิดเดียว

ฉะนั้น....การสวดมนตร์จะทำให้เราเข้าสู่สมาธิได้ง่าย
การที่เราจะมีสมาธิได้ จะต้องเริ่มจากการสวดมนตร์ เพื่อปรับคลื่นแห่งจิตให้ราบเรียบให้มีพลังงานเพื่อแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์

การสวดมนตร์ ให้ตั้งจิตนอบน้อมในการสวดจริงๆ จึงจะเกิดพลังอย่างมหาศาล ในการแผ่เมตตา ให้กับเจ้ากรรมนายเวรที่พวกเขาผูกเวรกับเรา ในอดีตชาติ

[COLOR=Purple]1. มีความกตัญญู

2. มีความอดทน

3.มีความเมตตา

4.ให้อภัยทาน

[COLOR=DarkOrchid][SIZE=2]

[SIZE=3]สาธุ บุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้นำมาเผยแผ่เพื่อเป็นธรรมทานนี่ ขอบุญนี้อุทิศให้แด่องค์ปฐมบรมพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระอรหันเจ้า พระโพธิสัตว์เจ้า พระมหาโพธิสัตว์เจ้า เทพ พรหม องค์บารมี ของเจ้าข้าพเจ้าทุกพระองค์ บิดามารดา ครูบาร์อาจารย์ ในทุกภพทุกชาติ รวมทั้งชาติปัจจุบัน ผู้ที่เกี่ยวข้องกับข้าพเจ้าทุกคน ท่านเจ้ากรรมนายเวรทุกท่าน ด้วยเทอญ[/SIZE]
[/SIZE][/COLOR]เนื้อหาข้อมูลจากที่นี่คะ
[COLOR=Black][SIZE=2]http://www.e-nery.lcey.net[/SIZE][/COLOR]

[/COLOR]

ทิวลิปขาว, 8 เมษายน 2012

#5197
phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

14 พฤศจิกายน 2009

โพสต์:

2,471

ค่าพลัง:

+2,396

ทิวลิปขาว said: ↑

การสวดมนตร์ เป็นการปรับคลื่นแห่งจิต

ให้มีพลัง ที่ดีงามในจิตวิญญาณของเรา มนตร์ทุกบท ทุกตอน ทุกภาษา ย่อมมีความหมายในเนื้อหาของมนตร์นั้นๆ...

แต่จะทำให้เกิดพลังในความสงบ ต้องสวดด้วยจิตที่ศัทธา ตั้งมั่นในจิตวิญญาณจริงๆ... ไม่ใช่สวดเพื่อความขลัง หรืออำนาจแห่งความศักดิ์สิทธ์

ถ้าจิตของเรายังไม่ดีงามพอ....ก็จะทำให้เกิดพลังแห่งมนตร์ได้ยาก...
ใช่ว่าทุกคนจะสวดหรือภาวนาได้...แล้วจะทำให้เกิดพลังแห่งมนตร์
จิต...ของเราตอนนั้นในขณะที่สวด จะต้องน้อบน้อมจริงๆ
ในตัวของมนตร์ ก็สามารถปรับคลื่นแห่งจิตนั้นๆ..ได้อย่างรวดเร็ว
สามารถเข้าถึงพลังแห่งมนตร์ได้....

จิตก็จะเกิดความสงบเป็นรหัสแห่งมนตร์ เพื่อเข้าถึง...สมาธิจิตได้อย่างเร็ว

มนตร์มหากรุณาธารณีสูตร
หากได้สวดรวมกันเป็นกลุ่มได้ยิ่งดี เพื่อให้พลังอำนาจจิตนั้นเชื่อมต่อกันจะมีพลังอย่างมหาศาล
แต่ ต้องมีผู้ชี้แนะอย่างถูกต้องด้วยพิกัดถึงจะเชื่อมต่อกันได้

เพื่อส่งต่อไปให้บุคคลที่กำลังเจ็บป่วย และผู้มีปัณหาสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้

ถ้าเรามาสวดมนตร์เพื่อบอกกล่าวสิ่งที่มีอำนาจเหนือกว่าเรา....
เราก็จะได้รับการโปรดจากเบื้องบนอย่างแน่นอน
มนุษย์ต้องมีศัทธาอย่างแรงกล้า...
ถึงจะเข้าถึงพลังแห่งมนตร์ เพราะการสวดมนตร์เป็นรหัสแห่งพระพุทธเจ้าเป็นการค้นหาวิธีการติดต่อทางจิตวิญญาณกับสรรพสิ่งชั้นสูง

ความรู้เกี่ยวกับ " มนตร์ "

"มนตร์" มีพลังอำนาจที่ปลดปล่อยดวงวิญญาณให้หลุดพ้นจากอากาศและให้สติปัณญาอันยิ่งใหญ่ ให้แสงสว่างและอิสรภาพ ความสันติ ความสุขแห่งดวงจิต และอมตะ

" มนตร์ "เมื่อได้สวดอย่างตั้งใจมั่นคงแล้วจะสามารถปลุกปัญญาแห่งดวงจิต ปัญญานั้น แฝงอยู่ในตัวบทแห่งมนตร์

"มนตร์ " เป็นสิ่งที่นำมาซึ่งพลังมหาศาลที่จะทำลายความชั่วร้ายของมนุษย์ได้ เป็นสิ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงธรรมชาติฝ่ายต่ำของมนุษย์
ของมนุษย์ชาติได้อย่างมหัศจรรย์ เป็นสิ่งที่ทำลายตัณหา ความโลภ ความหลง ของมนุษย์
ทั้งหลายให้หมดสิ้นไป

"มนตร์ "คือรหัสแห่งพระพุทธเจ้าที่จะทำให้เข้าถึงความว่างความสงบอีกวิธีหนึ่งที่สามารถเข้าสู่พุทธะแห่งจิตวิญญาณได้รวดเร็วเช่นกัน

เพราะ....ฉะนั้นเมื่อสวดมนตร์ต้องให้เป็น สมาธิ อย่างแน่วแน่ตั้งมั่น ไม่ใชสวด ปากวิ่งไปโน่น ไปนี่ คิดแต่ความอยากอยู่ตลอดเวลา ก็จะไม่ได้รับพลังแห่งมนตร์แม้แต่นิดเดียว

ฉะนั้น....การสวดมนตร์จะทำให้เราเข้าสู่สมาธิได้ง่าย
การที่เราจะมีสมาธิได้ จะต้องเริ่มจากการสวดมนตร์ เพื่อปรับคลื่นแห่งจิตให้ราบเรียบให้มีพลังงานเพื่อแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์

[COLOR=Red]
การสวดมนตร์ ให้ตั้งจิตนอบน้อมในการสวดจริงๆ จึงจะเกิดพลังอย่างมหาศาล ในการแผ่เมตตา ให้กับเจ้ากรรมนายเวรที่พวกเขาผูกเวรกับเรา ในอดีตชาติ

[COLOR=Purple]1. มีความกตัญญู

2. มีความอดทน

3.มีความเมตตา

4.ให้อภัยทาน

[COLOR=DarkOrchid][SIZE=2]

[SIZE=3]สาธุ บุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้นำมาเผยแผ่เพื่อเป็นธรรมทานนี่ ขอบุญนี้อุทิศให้แด่องค์ปฐมบรมพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระอรหันเจ้า พระโพธิสัตว์เจ้า พระมหาโพธิสัตว์เจ้า เทพ พรหม องค์บารมี ของเจ้าข้าพเจ้าทุกพระองค์ บิดามารดา ครูบาร์อาจารย์ ในทุกภพทุกชาติ รวมทั้งชาติปัจจุบัน ผู้ที่เกี่ยวข้องกับข้าพเจ้าทุกคน ท่านเจ้ากรรมนายเวรทุกท่าน ด้วยเทอญ[/SIZE]
[/SIZE][/COLOR]เนื้อหาข้อมูลจากที่นี่คะ
[COLOR=Black][SIZE=2]http://www.e-nery.lcey.net[/SIZE][/COLOR]

[/COLOR][/COLOR]

Click to expand...

ยอด เลย ครับ:VO:VO
ขอบ คุณ ครับ

phudit999, 8 เมษายน 2012

#5198
Isreal เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

4 พฤศจิกายน 2011

โพสต์:

530

ค่าพลัง:

+1,327

ขอบคุณคุณอจิตตะมากๆค่ะ แปลได้สละสลวยมากๆเลย
อ่านมานี่โดนใจทุกอันเลยค่ะ ^^

รักและคิดถึงเพื่อนๆทุกคนเสมอค่ะ (k) (k) (k)

Isreal, 8 เมษายน 2012

#5199
Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

วันที่สมัครสมาชิก:

3 สิงหาคม 2005

โพสต์:

6,408

ค่าพลัง:

+50,772

อันที่จริงแล้ว มีคนหลายคน ที่กำลังรออ่านภาคภาษาไทยของ
Conversation with God-3 อยู่ ผมเองก็ด้วย

แต่ดูเหมือนว่า คนแปลเขาจะยังทำไม่สำเร็จ ล่าช้ามาเป็นปีแล้วครับ
และพอดีว่ามีคนมาสะกิดว่า หนังสือเล่มนี้น่าจะแปลมากเลย
ผมก็เลยอยากจะมาชวนพวกเราทำโครงการนี้ร่วมกันหนะครับ
เพราะว่าผมเองก็เคยตั้งใจจะแปลเล่นๆอยู่เหมือนกัน
และก็ได้แปลไปแล้วหลายหน้าแล้วเหมือนกันครับ

"โครงการ CWG-3 ฉบับออนไลน์"

พวกเราใครที่อยากร่วมด้วย ก็ลงชื่อมาได้ ไม่จำกัดจำนวนครับ
เราจะแบ่งงานกันเป็นทีม คือ

1. ทีมแปล => อันนี้รับสมัครไม่อั้นครับ
2. ทีมตรวจสอบความถูกต้อง => อันนี้จะมีผมกับทีมแปลเก่าอีกบางท่านครับ

และถ้าเป็นไปได้ ก็อาจจะมีฝ่ายนี้ด้วยครับ..

3. ฝ่ายขัดเกลาสำนวน => อันนี้ต้องเป็นคนๆเดียวเท่านั้น
(ซึ่งผมมองพี่แม่นายมลเอาไว้แล้ว เพราะว่าแกเป็นคนดำริความคิดนี้ขึ้นมาหนะครับ)
เพื่อที่ว่าสำนวนการแปลจากทุกๆคน จะได้ถูกปรับ และถูกขัดเกลา
ให้เป็นสำนวนทำนองเดียวกันทั้งหมด

จากนั้นเราก็จะเอามาโพสต์ในเวปพลังจิตนี้แหละ
แต่อาจจะตั้งเป็นกระทู้แยกออกไปต่างหากเฉพาะของมัน
ซึ่งเราก็อาจจะต้องมีทีมโพสต์อีกหรือเปล่านะ หรือช่วยๆกันโพสต์ก็ได้ครับ
แล้วเราก็จะรวบรวมเป็น PDF file เอาไว้เผื่อแจกจ่ายให้คนที่สนใจอ่านหนะครับ

ใครคิดว่าไงบ้างครับ? แต่ไม่รู้ว่าทางสำนักพิมพ์เขาจะมีปัญหาหรือเปล่านะครับ

...สมัครกันมาได้หลังไมค์นะครับ...

ปล.

1. ต้องดูก่อนว่าจะมีใครสนใจไหม ถ้ามีก็เดินหน้าต่อ ถ้าไม่มีก็ล้มเลิกไปนะครับ

2. สำหรับทีมตรวจสอบความถูกต้อง เพื่อให้เร็ว ผมจะตรวจให้และบอกแค่ว่า
ท่อนไหน ตรงไหน ที่แปลไม่ถูกเท่านั้นนะครับ แล้วให้คนแปลไปแก้ไขเอาเอง
ไม่งั้น ตรวจให้ด้วย แก้ให้ด้วย มันจะช้ามากๆเลยครับ

3.งานแปลข้อความจากต่างมิติปกติ ก็ยังจะต้องทำอยู่ต่อไปตามปกตินะครับ

เพราะฉะนั้นแล้ว .. งานนี้ก็จะต้องอาศัยความขยันกันเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวหละครับ

.................................................................

แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2012

#Facebook: Chayutt Naowarat https://web.facebook.com/chayutt.deejaroen
#เพจขายหินออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย: Alchemistic Power of Stones (https://facebook.com/chayutt.naowarat) สร้อยข้อมือ, สร้อยคอ, กำไลข้อมือ, แหวน (เครื่องประดับ), ต่างหู, หินแท้, หิน, คริสตัล, หยก, อัญมณี, ประคำ, ไข่มุก, เขี้ยวหนุมาน, แซฟไฟร์, ทับทิม (อัญมณี), มุกดา, หินออบซิเดี้ยน, โอปอล, ควอตซ์, อำพัน, มรกต, หินตาเสือ, ไคยาไนต์, โกเมน, อะซูไรต์, เบริล, ทัวร์มาลีน, Earing, Pendant, Bangle, Topaz, Jewellery Store

Chayutt, 10 เมษายน 2012

#5200

(คุณต้องเข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน เพื่อที่จะโพสต์)

หน้า 260 ของ 494

แชร์หน้านี้

Loading...