สติอัตโนมัติ พ้นเจตนา เป็นสัมมาสติหรือป่าว

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย พรม, 9 เมษายน 2012.

  1. พรม

    พรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +164
    สติอัตโนมัติ พ้นเจตนา เป็นสัมมาสติหรือป่าวคับ:cool:

    มหาสติละคับ เป็นสัมมาสติหรือป่าวคับ:cool:

    คุยกันได้เถียงกันบ้าง ทะเลาะกันบ้าง แต่อย่าอาฆาตจองเวรกันนะคับ :cool:
     
  2. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,480
    ค่าพลัง:
    +1,880
    พระวจนะ" ภิกษุ ทั้งหลาย สัมมาสติ เป็นอย่างไรเล่า ภิกษุทั้งหลาย ในกรณีนี้ ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห็นกายในกายอยู่เป็นประจำ มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ ถอนความพอใจและไม่พอใจ ในโลกออกเสียได้ ย่อมเป้นผู้ พิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาทั้งหลายอยู่เป็นประจำ มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติถอนความพอใจไม่พอใจในโลกออกเสียได้ ย่อมพิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่เป็นประจำ มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ ถอนความพอใจไม่พอใจในโลกออกเสียได้ ย่อมเป้นผู้พิจารณาเห็นธรรมในธรรมทั้งหลายอยู่เป็นประจำ มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีสัมปชัญญะมีสติ ถอนความพอใจไม่พอใจในโลกออกเสียได้ ภิกษุทั้งหลาย อันนี้เรากล่าวว่า สัมมาสติ---มหา.ที.10/349/299..:cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 เมษายน 2012
  3. พรม

    พรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +164
    ถอนความพอใจไม่พอใจในโลกออกเสียได้ภิกาุทั้งหลาย อันนี้เรากล่าวว่า สัมมาสติ

    งั้นอย่างมหาสติของพระอรหันต์ ผู้ถอนความพอใจไม่พอใจในโลกได้แล้ว ก็ไม่เป็นสัมมาสติแล้วใช่ใหมคับ
     
  4. พรม

    พรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +164
    สับแหลก;5975696]สติอัตโนมัติ พ้นเจตนา เป็นสัมมาสติหรือป่าวคับ:cool:

    มหาสติละคับ เป็นสัมมาสติหรือป่าวคับ:cool:

    คุยกันได้เถียงกันบ้าง ทะเลาะกันบ้าง แต่อย่าอาฆาตจองเวรกันนะคับ :cool:


    ถามอีกซักหน่อยคับว่า
    สติอัตโนมัติ พ้นเจตนา เป็นการเดินมรรครึไม่เป็นคับ
     
  5. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,480
    ค่าพลัง:
    +1,880
    ขอยกเอาคำอธิบายของท่านพุทธทาส------ผู้ศึกษาพึงสังเกตุ เห็นความสัมพันธิ์กันอย่างสลับซับซ้อน ว่า องค์มรรคเจ็ดข้างต้น ถูกจัดให้เป็นบริวารขององค์ สุดท้ายคือ สัมมาสมาธิ แล้วทำให้สัมมาสมาธินั้นได้ นามสูงขึ้นไป ว่า อริยสัมมาสมาธิ องค์ห้า ข้างต้น คือ สัมมาทิฎฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ ถูก จัดให้แวดล้อมด้วย " สัมมาทิฎฐิ สัมมาวายามะ สัมมาสติ"โดยเหตุที่ สัมมาวายามะและ สัมมาสติ ไปทำหน้าที่แวดล้อมองค์ห้านั้นเสีย จึงไม่ถูกยกขึ้นมาเป้นกลุ่มเฉพาะของตน จึงไม่มีกลุ่มที่หกที่เจ็ด ส่วนสัมมาทิฎฐิ นั้น มีความสำคัญ จนจัดเป็นกลุ่มกลุ่มหนึ่งของตัวเอง แล้วยังไปทำหน้าที่แวดล้อมในกลุ่มทั้งห้าอีกด้วยทุกกลุ่ม ส่วนสัมมาวายามะก็ดี สัมมาสติก็ดี ซึ่งไม่มีกลุ่มของตน เพราะเข้าไปแทรกในทุกกลุ่มเพื่อให้หน้าที่ในกลุ่มนั้นนั้น สมบูรณ์ ราวกับว่าซ่อนตัวอยู่อย่างลึกลับ แต่มิได้หายไปใหน........สัมมาทิฎฐิได้ชื่อว่าเป้นผู้นำหน้าของทุกกลุ่ม เพราะเข้าไปรู้ลักษณะขององค์ธรรมอันเป็นชื่อประจำกลุ่มนั้นนั้น ซึ่งได้ทรงจำแนกไว้ทั้งสองประเภท คือประเภทที่เป็นไปด้วย อาสวะ และประเภทที่ไม่เป้นไปด้วยอาสวะ และยังรู้ถึงฝ่ายตรงข้ามคือ ฝ่าย มิจฉา หรือ ฝ่ายผิด อย่างครบถ้วนอีกด้วย จึงทำให้สัมมาวายามะและสัมมาสติแห่งกลุ่มนั้นนั้นดำเนินไปถูกทางดังนั้น จึงได้ชื่อว่าผู้นำหน้า............ ผู้ศึกษาพึงสังเกตุ จนเข้าใจความสัมพันธิ์กันดังกล่าวนี้อย่างแจ่มแจ้งแล้ว จะเป็นเหตุให้ท่านทราบว่า กิจแห่งองค์ มรรคทั้งหลาย สัมพันธิ์กันด้วยดีอย่างไร มรรคจึงจะเป็นถึงขนาดที่ดับทุกข์ได้โดยไม่เหลือ....(อริยสัจจากพระโอษฐ์ ท่านพุทธทาส):cool:
     
  6. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,480
    ค่าพลัง:
    +1,880
    พระวจนะ" ภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดง อริยสัมมาสมาธิที่มีที่ตั้งอาศัย ที่มีบริขาร เธอจงฟังธรรมนั้น จงทำในใจให้สำเร็จประโยชน์ เราจักกล่าว..........ภิกษุทั้งหลาย อริยสัมมาสมาธิที่มีที่ตั้งอาศัย ที่มีบริขาร เป็นอย่างไรเล่า ภิกษุทั้งหลาย องค์แห่ง มรรคเหล่านี้คือ สัมมาทิฎฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ เหล่าใดอันเป้นองค์ 7 ประการ ที่แวดล้อม เอกัคตาจิตอยู่ เอกัคตาจิตชนิดนี้ เราเรียกว่า อริยสัมมาสมาธิที่มีที่ตั้งอาศัย ดังนี้บ้าง ที่มีบริขารดังนี้บ้าง---อุปริ.ม.14/180/252-/253:cool:
     
  7. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,801
    ค่าพลัง:
    +7,939
    เวลาตั้งคำถาม แล้ว มันทำให้ คำถามทวีขึ้น เป็นสอง เป็นสาม

    สังเกตเอาไว้ว่า คำถามแบบนี้ เกิดจากการ ตั้งจิตไม่ตรง

    ถ้าตั้งจิตตรงนะ คำถามจะไม่แตกประเด็น อีกทั้งเกิดการ ข้ามกังขา
    แรกเห็นที่บริสุทธิได้หมด (กังขาวิตรณวิสุทธิ)

    สมมตินะสมมติ สมมติว่า ตั้งจิตไว้ตรง แล้วถามใหม่

    สติอัตโนมัติ พ้นเจตนา ทำให้สิ้นตัณหา แจ้งในนิพพานได้ไหมครับ !?

    เนี่ยะ ถ้าถามแบบนี้นะ มันจะมี จิตที่ ตั้งไว้ตรง ประกอบอยู่

    ทีนี้ หากผู้ถาม เคยเห็น "สติอัตโนมัติ พ้นเจตนา" มาจริงๆเนี่ยะ สิ้นตัณหา
    มันจะเป็นไปได้หรือเปล่า ถ้ามันเป็นไปได้ ปรากฏอยู่ เป็นพยานอยู่กับตน
    ไอ้เรื่อง เป็นสัมมาหรือเปล่า มันจะถูกข้ามไปหมด ไม่ต้องถามให้เสียเวลา
    เหมือนคนตื่นจากหลับจากกังขา มาเจอแสงอรุณวิสุทธิก็เพลินยืนงุนงง เอา
    แต่ขยี้ตา ตาบอดกันพอดี
     
  8. พรม

    พรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +164
    ถ้ารู้แล้วจะถามทำไม?
    ถ้ารู้แล้วจะถามเพื่ออะไร?
    เพื่ออะไรรึขอรับอาเฮียเล่าปัง!! อิาเฮียรู้แล้วก็ตอบผมมาสิคับจะมาโยกเยกทำมัยรือรึ
     
  9. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,801
    ค่าพลัง:
    +7,939
    ก็นั่นแหละ ตั้งจิตให้ตรงสิ

    ตั้งไว้ตรง เมื่อไหร่นะ

    สุตตมัยยะปัญญา มันก็ฟังได้ตรง

    จินตมัยปัญญา จินตนาการไป มันก็ได้ตรง

    ทีนี้ บอกผมว่า รู้แล้วจะถามหรือ ก็แปลว่า ยังขาด ภาวนามัยยปัญญา

    แค่นี้มันก็บอกในตัวแล้วว่า ถามเพื่ออะไร หรือ รู้แล้วจะถามเพื่ออะไร

    ก็ ภาวนามัยยะปัญญามันขาดไป มันก็แปลว่า รอสิ่งนี้ไง

    ทีนี้ ภาวนามัยยะปัญญานี่ มันเป็นการปฏิบัติด้วยตนเอง ดังนั้น หาก
    เข้าใจ มันจะไม่ถามเอาจากชาวบ้าน เพื่อทวงถามจากชาวบ้านให้ไป
    ปฏิบัติแทนตนหรอก แต่จะรู้ว่า ตนนั้นต้องทำอย่างไร

    ถามเพื่ออะไร

    รู้แล้วเพื่ออะไร

    ก็ไม่ใช่ เพื่อถกกันไปวันๆละเนาะ

    แต่ถ้า ตั้งจิตไม่ตรงนะ ก็จะ ถกไปวันๆ ทันควันเลย


    ************


    ก็จะเห็นว่า ผมโยกเยก เพื่อให้คุณ เผยว่ารู้อะไรมา และ ทำมาแค่ไหน

    ที่เหลือ ก็ว่าไปตามโอกาส เนาะ
     
  10. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,065
    ค่าพลัง:
    +2,682
    ถามแบบนี้เกิดปัญญาน้อย แต่เพิ่มความพอใจและไม่พอใจสูงขึ้นเรื่อยๆนะครับ
     
  11. blank123

    blank123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +229
    โถ ๆๆๆๆๆ อย่าเพิ่งงอล สิจ๊ะ
    พ่อกระรอกบัวปริ่มน้ำ เค้าก็ชอบ ทำเป็นดีดดิ้นเล่นตัว
    หลอกให้อยาก แต่ปากหนัก เงี๊ยะแหล่ะทูนหัววววววจ๋าาาาาาาา


    ว่าแต่ อ่านอรรถาบรรยาย ที่บรรดาสาวกใบลาน
    มันเอาศัพท์แสง ทางธรรม มาโพส งี้
    แล้ว ไอ้นู๋ เวียนเฮด กับการ ต้องมานั่ง แปลไทยเป็นไทย มั่งอ๊ะปล่าว จ๊ะ
    และ ถ้า หาก ภาษาไทยไม่แข็งแรง
    เด๋ว ป้าบัวป่อง จา แล่ง เรื่อง สติ สติ๊ สติ หั้ยฟัง เป็น ภาษาชาวบ้าน
    ตาม ประสบการณ์ ที่ป้า ใช้ วิปัสนึกตรึก เอา ก็แล้วกันนะจ๊ะ





    ก่อน อื่น นู๋ต้อง ทำความเข้าใจ
    กับ คำว่า สติ( ในแบบที่ชาวบ้านเค้าเข้าใจกัน )
    โดยไม่ต้อง ไปเปิด พจนานุกรม ฉบับ ราชบัฑิตยสถาน ซะก่อนอ่ะ
    จะได้พูดปุ๊บก็เห็นภาพปั๊บ ไม่ต้องแปลไทยเป็นไทย กลับไปกลับมา สี่ห้าตลบ :'(


    อืม...สำหรับป้า
    สติ เก๊าะ คือ อาการฉุกใจ หรือ สะกิดใจแว้บ ๆ
    เหมือนการจุดประกายไฟ อ่ะจร้าาาาา


    ซึ่งอาการ ดังกล่าวนั้น โดยตัวมันเดี่ยว ๆ แล้ว
    ตอนที่ไอ้ตัว สติ มันเกิดขึ้นมา ก็คง ไม่มีลักษณะ ดี /ชั่ว
    มาให้พิณาได้หรอกมั้ง ว่า สติตัวนั้น เป็น สัมมา หรือ ว่าเป็น มิจฉา
    ก็คงต้องรอจนกว่า เราจะเห็น วิถีในการนำไอ้ตัวสตินั้น ไปใช้ น่ะ
    จึงจะสามารถ พิณา ได้ว่า ไอ้ตัวสติที่เกิด นั้น มันยังไง

    อาทิ พิณา จาก การที่มันรวมกับองคประกอบอื่น ๆ
    จนเกิดเป็นการกระทำ ต่าง ๆ ที่แสดงออกมา ( มโนกรรม วจีกรรม กายกรรม ) น่ะ
    เช่น เกิดเป็น ความเชื่อ ( ทิฐิ ) , อาชีพ ( อาชีวะ ) , คำพูด ( วาจา ) ฯลฯ


    ก็อย่างที่บอก อ่ะ สติ มันก็เหมือน การจุดประกายไฟ
    ถ้า จุดแล้ว เอาไปก่อไฟหุงข้าวแจกจ่ายแก้หิวให้คนยากไร้ มันก็เป็นสัมมา
    แต่ถ้า จุดแล้ว เอาไปเผาไล่ที่ในสลัม ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน มันก็เป็น มิจฉา


    อนึ่ง เมื่อเก็ทสะเทือน ตรงนี้แล้ว
    ถ้า มาพิณา คำว่า มหาสติ มัน ก็คิอ สติแบบบิ๊ก ๆ
    ประมาณว่า กำลังสติเยอะขึ้นมั้ง เหมือนการจุดประกายไฟ
    ที่ไม่ได้มีแค่สะเก็ดไฟเกิดขึ้น แต่มี เปลวไฟกองหญ่าย เกิดขึ้น น่ะ
    การเอาไปใช้สอยให้เกิดทั้ง ประโยชน์ (และ โทษ ) ก็ทำได้มากขึ้น ตามไปด้วย
    ส่วนจะเป็น สัมมา หรือ มิจฉา ก็ยัง คง คอนเซปต์ เดิม
    เหมือน ตอนที่เป็น สะเก็ดไฟ นั่นแหล่ะ
    คือ ต้อง พิณา ที่ วิถีการที่นำไปใช้ ร่วมกับองคประกอบอื่น ๆ
    จึงจะบอกได้ว่า เป็น มิจฉา หรือว่า สัมมา
    ( เช่น เอาไป ทำอาหาร หรือว่า เอาไปเผาไล่ที่ ฯลฯ )


    อธิบายแบ่บบ้าน ๆ งี้ หวังว่า คงจาทำหั้ย ไอ้นู๋จำไม เข้าใจมากขึ้นนะจ๊ะ


    ปล.
    อ้อ ขอ อภัย ล่วงหน้า ถ้า อธิบายแล้ว ดูโลโซ ไม่ขลัง แล อลังการงานสร้าง
    แบ่บว่า ป้า ขี้เกียจ ปีนกะได ไปหยิบเอา สคริปต์ใบลาน มาเป็น Reference อ่ะจร้าาา
    เด๋วจาโดนยัดยาบ้า ข้อหา บิดเบือน พระไตรปิฎก อะซิก ๆ :'(
     
  12. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ประมาณนี้นะครับ..

    ผมมองอย่างนี้ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...