ฝึกทิพจักขุญาณ(เห็นผี) ทำยังไงครับ

jabb2541: ทำยังไงถึงจะเห็นวิญญาณของเจ้ากรรมนายเวน ครับ
จะได้ถามว่าเค้าต้องการอะไร จะได้ไปผุดไปเกิด
เราก็จะได้หมดเวนหมดกรรมไปด้วย

LLo:ฝึกทิพจักขุญาณครับ


jabb2541:แล้วมันฝึกยังไงครับ

 

ฝึกทิพพจักขุญาณครับ
(tm-love)

 

แล้วมันฝึกยังไงครับ

 

มันก็ไม่ได้จะฝึกกันง่ายๆนะหน่ะ
(มีอีกวิธีนะ ให้ผู้ที่ออกบวชหรือผู้ทรงศีลช่วยเหลือ)

 

กรรมหนีไม่พ้นหรอก ถึงแม้เจ้ากรรมนายเวรท่านจะอโหสิกรรมให้ แต่กรรมก็ยังส่งผลอยู่ สู้ตั้งใจปฎิบัติแต่ความดีให้มากก็พอ อย่าคิดอะไรมาก

 

อานุภาพกสิณ ๑๐
​

​

กสิณ ๑๐ ประการนี้ เป็นปัจจัยให้แสดงฤทธิ์ต่างๆ ตามนัยที่กล่าวมาแล้วในฉฬภิญโญ
เมื่อบำเพ็ญปฏิบัติในกสิณกองใดกองหนึ่งสำเร็จถึงจตุตถฌานแล้ว ก็ควรฝึกตามอำนาจที่กสิณ
กองนั้น ๆ มีอยู่ให้ชำนาญ ถ้าท่านปฏิบัติถึงฌาน ๔ แล้ว แต่มิได้ฝึกอธิษฐานต่าง ๆ ตามแบบ
ท่านว่าผู้นั้นยังไม่จัดว่าเป็นผู้เข้าถึงกสิณ อำนาจฤทธิ์ในกสิณต่างๆ มีดังนี้
ปฐวีกสิณ มีฤทธิ์ดังนี้ เช่น นิรมิตคน ๆ เดียวให้เป็นคนมากได้ ให้คนมากเป็นคน ๆ
เดียวได้ ทำน้ำและอากาศให้แข็งได้
อาโปกสิณ สามารถนิรมิตของแข็งให้อ่อนได้ เช่น อธิษฐานสถานที่เป็นดินหรือหินที่
กันดารน้ำให้เกิดบ่อน้ำ อธิษฐานหินดินเหล็กให้อ่อน อธิษฐานในสถานที่ฝนแล้งให้เกิดฝน
อย่างนี้เป็นต้น
เตโชกสิณ อธิษฐานให้เกิดเป็นเพลิงเผาผลาญหรือให้เกิดแสงสว่างได้ ทำแสงสว่าง
ให้เกิดแก่จักษุญาณสามารถเห็นภาพต่าง ๆ ในที่ไกลได้คล้ายตาทิพย์ ทำให้เกิดความร้อนใน
ทุกสถานที่ได้
วาโยกสิณ อธิษฐานจิตให้ตัวลอยตามลม หรืออธิษฐานให้ตัวเบา เหาะไปในอากาศก็
ได้ สถานที่ใดไม่มีลม อธิษฐานให้มีลมได้
นีลกสิณ สามารถทำให้เกิดสีเขียว หรือทำสถานที่สว่างให้มืดครึ้มได้
ปีตกสิณ สามารถนิรมิตสีเหลืองหรือสีทองให้เกิดได้
โลหิตกสิณ สามารถนิรมิตสีแดงให้เกิดได้ตามความประสงค์
โอทาตกสิณ สามารถนิรมิตสีขาวให้ปรากฏ และทำที่มืดให้เกิดแสงสว่างได้ เป็น
กรรมฐานที่อำนวยประโยชน์ในทิพยจักษุญาณ เช่นเดียวกับเตโชกสิณ
อาโลกกสิณ นิรมิตรูปให้มีรัศมีสว่างไสวได้ ทำที่มืดให้เกิดแสงสว่างได้เป็น
กรรมฐานสร้างทิพยจักษุญาณโดยตรง
อากาสกสิณ สามารถอธิษฐานจิตให้เห็นของที่ปกปิดไว้ได้ เหมือนของนั้นวางอยู่ในที่แจ้ง
สถานที่ใดเป็นที่อับด้วยอากาศ สามารถอธิษฐานให้เกิดความโปร่ง มีอากาศสมบูรณ์เพียงพอแก่
ความต้องการได้

วิธีอธิษฐานฤทธิ์
วิธีอธิษฐานจิตที่จะให้เกิดผลตามฤทธิ์ที่ต้องการ ท่านให้ทำดังต่อไปนี้ ท่านให้เข้าฌาน ๔
ก่อน แล้วออกจากฌาน ๔ แล้วอธิษฐานในสิ่งที่ตนต้องการจะให้เป็นอย่างนั้น แล้วกลับเข้าฌาน ๔
อีก ออกจากฌาน ๔ แล้วอธิษฐานจิตทับลงไปอีกครั้ง สิ่งที่ต้องการจะปรากฏสมความปรารถนา

(จบกสิณ ๑๐ แต่เพียงเท่านี้)

แนะกสิณร่วมวิปัสสนาญาณ
ท่านผู้ฝึกกสิณ ถ้าประสงค์จะให้ได้อภิญญาหก ก็เจริญไปจนกว่าจะชำนาญทั้ง ๑๐ กอง
ถ้าท่านประสงค์ให้ได้รับผลพิเศษเพียงวิชชาสาม ก็เจริญเฉพาะอาโลกกสิณ หรือเตโชกสิณ
หรือ โอทาตกสิณ อย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วฝึกทิพยจักษุญาณ แต่ท่านที่มีความประสงค์จะเร่งรัด
ให้เข้าสู่พระนิพพานเร็วๆ ไม่มีความประสงค์จะได้ญาณพิเศษเพราะเกรงจะล่าช้าหรืออัชฌาสัย
ไม่ปรารถนารู้อะไรจุกจิก ชอบลัดตัดทางเพื่อถึงจุดหมายปลายทางขอให้ปฏิบัติดังต่อไปนี้

เครดิด คู่มือปฏิบัติพระกรรมฐาน ----> หน้า 34โดย หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ

 

จะฝึกกสิณควรหาอาจารย์ดีๆที่ควบคุมการฝึกนะครับไม่ควรฝึกเองจะอันตรายครับ

 

กสิณมันอันตรายยังไงอะครับ ผมได้ยินมานานแล้วว่ามันอันตราย

จากประสบณ์การตัวเองเพิ่งลองดูรู้สึกว่าตัวเองสงบสุขขึ้นเยอะเลย

ทำไมผลกลับได้ต่างคำคนอื่นแทนที่ผมจะมีอันตรายกับยิ่งนั่งยิ่งชอบยิ่งสงบสุขขึ้นแปลกจังครับ

 

ฝึกกสิณอันตรายไหม ?

​

​

ถาม : ฝึกกสิณอันตรายไหมคะ ?

ตอบ : ก็ดูว่าเราเองนี่สติสัมปชัญญะบกพร่องหรือเปล่า ถ้าบกพร่องไปได้กสิณไฟเดี๋ยวไปไล่เผาชาวบ้านเขาสนุกสนาน จริง ๆ แล้วคนที่ทำได้ถ้าไปใช้ผิดมันจะเสื่อม แต่ว่าในการเสื่อมลักษณะนี้ไม่นานหรอกพอเรารวบรวมกำลังใจได้มันก็ได้ใหม่ แต่ถ้าใช้ผิดอีกมันก็พังอีก

เพราะฉะนั้นถ้าถามว่าฝึกกสิณอันตรายไหม ? ก็ต้องดูอย่างหลวงพ่อท่านฝึกปฐวีกสิณ คือ กสิณดินแล้วก็ไปหัดเดินในน้ำ ปรากฏว่าก้าวลงไปร่วงตูมเลย อธิษฐานใช้ผิด ตอนนั้นถ้าว่ายน้ำไม่เป็นก็อันตราย (หัวเราะ) ถ้าว่ายน้ำเป็นก็ไม่เท่าไหร่ ท่านไปอธิษฐานว่าให้แม่น้ำทั้งสายแข็งตัว มันผิด เพราะว่าเรือแพต่าง ๆ สัญจรไม่ได้ ต้องอธิษฐานว่าน้ำทุกจุดที่เราเหยียบเท้าลงไปให้แข็งเหมือนแผ่นดินถ้าอย่าง นั้นน่ะได้ ใช้ผิดหน่อยเดียวอาบน้ำเที่ยงคืนเลย (หัวเราะ) หนาวแทบแย่ ฤดูหนาวด้วย

หรือไม่ก็อย่างเจ้าจ๊อบเจ้าเมล์ลูกสาวพี่สามารถเขา ตอนนี้คงจะโตเป็นสาวแล้ว ตอนนั้นเรียนมัธยมอยู่มันแกล้งเพื่อน เข้าห้องน้ำได้ ห้องน้ำของวัดเขาจะทำรางน้ำยาว ๆ ทะลุถึงกันทุกห้องเลย เจ้านั่นเข้าไปถึงก็เพ่งน้ำ เพื่อนจ้วงลงไปเสียงดัง ก๊อง! แทนที่จะเป็นน้ำกลายเป็นน้ำเเข็งไปเลย เด็ก ๆ มันเล่นกันสนุก จะตักน้ำล้างก้นมันไม่ให้ล้างน่ะ (หัวเราะ) แกล้งทำให้น้ำแข็งซะ


ถาม : ฝึกกสิณกับฝึกอานาปานสติอย่างไหนเร็วกว่ากันครับ ?

ตอบ : จริง ๆ แล้วฝึกกสิณมันมีภาพเป็นเครื่องจูงใจจะกำหนดได้ง่ายกว่า อานาปานสติเรากำหนดรู้ตามลมไปใช่ไหม ? บางทีรู้สึกว่ามันไม่เห็นภาพไม่เห็นอะไร สำหรับบางคนแล้วมันจะไม่ตรงกำลังใจเขา เพราะฉะนั้นต้องดูว่าตัวเองถนัดอย่างไหน ถ้าเราถนัดอย่างไหนอย่างนั้นเราจะได้เร็ว ดังนั้นถามว่าอันไหนมันจะได้ผลเร็วกว่ากันหรือว่าคล่องตัวกว่ากัน ก็ต้องลองดูว่าเราชอบเราถนัดแบบไหน

ถาม : สมมุติว่าได้มาแล้วเสื่อมเร็ว ?

ตอบ : ได้มาแล้วเสื่อมเร็วก็ต้องหัดให้ให้คล่องตัว ถ้าใช้จนคล่องตัวนึกเมื่อไหร่ได้เมื่อนั้น โอกาสเสื่อมยากยกเว้นเราไปใช้ผิด ใช้ผิดประเภทโดนลงโทษคิดอยากจะช่วยเขาอยู่เรื่อย

พวกเราส่วนใหญ่แล้วมันติด ...ใช่ไหม ? นิสัยเห็นเขาแล้วอดสงสารไม่ได้ เห็นเขาลำบากโดยไม่ได้ดูซะก่อนว่าเขาลำบากเพราะทำกรรมอะไรมา ถึงเวลาก็ลุยไปช่วยเลยมันก็เป็นการฝืนกฏของกรรม ถ้าฝืนกฏของกรรมวิชาเสื่อมไปจนกว่าจะรวบรวมกำลังใจได้ใหม่อีก การ ใช้ฤทธิ์ใช้อภิญญาสำคัญตรงต้องยอมรับกฏของกรรม ตราบใดที่จิตยังไม่ยอมรับกฏของกรรมจริง ๆ มันจะต้องไปฝืนนี้เราไม่สามารถใช้ได้เต็มที่หรอก

บางคนก็แปลกใจขนาดฝึกกสิณมาแท้ ๆ แต่ใช้ได้นิดเดียว คือ ถ้ายังไม่ยอมรับกฏของกรรมจริง ๆ ใช้ยาก โดยเฉพาะพวกฤทธิ์พวกอภิญญาสำหรับนักปฎิบัติแล้วนะ ท่านให้ใช้ส่วนของธรรมะเท่านั้นไม่ใช่สำหรับตัวเอง ตัวเองต้องยอมรับกฏของกรรมเป็นปกติจึงสามารถเข้าถึงมรรคผลได้


ถาม : แสดงว่าใช้กรรม ...?

ตอบ : จริง ๆ แล้วก็คือว่า มีหรือไม่มีมันก็เท่ากันนั่น แหละ มีมันดีตรงที่กำลังใจมันเข้มแข็งทำให้อาศัยกำลังตัวนั้นตัดกิเลสได้ง่ายแต่ ถ้าเผลอก็ติดแหง็กอยู่แค่นั้น




สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เดือนกรกฏาคม ๒๕๔๔
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ


เครดิตเอามาจาก PaLungJit.com > พุทธศาสนา > อภิญญา - สมาธิ > หลวงพี่เล็ก ผู้โพส คือ tamsak ทีมพระไตรปิฏก​

​

 

ไม่ต้องอยากจะฝึกหรอกครับ ถ้าคุณได้ตาทิพย์มาคุณยิ่งกว่าใช้กรรมที่มีอยู่อีก
คุณพร้อมหรือยังที่จะรับรู้เรื่องต่างๆของโลกวิญญาณ เขามาขอความช่วยเหลือจากคุณ
ทั้งวันทั้งคืนเลยนะ(เตือนไว้ก่อน) อีกอย่างคุณอาจจะเห็นเหตุการณ์โหดๆที่เขาประสบณ์
มาก็ได้ ซึ่งตัวอย่างนี้ก็มีหลายคนที่มีตาทิพย์แล้วต้องรับรู้
ตาทิพย์ได้มาเป็นเรื่องที่ดีถ้าใจเราพร้อมที่จะได้มา
ของเหล่านี่มันไม่ใช่ของสนุก ถ้าคุณได้มาหน้าที่ทางโลกวิญญาณคุณเต็มเลย
ตัวอย่างก็มีเยอะ
ในเรื่องของเจ้ากรรมนายเวร เขาอยากทำอะไรก็ให้เขาทำไป
เรามั่นสร้างบารมีแล้วอุทิศให้เขาขออโหสิกรรมก็พอ
รักษาศีล5(กายให้บริสุทธิ์) พยายามประกอบแต่กรรมที่ไม่เบียดเบียนคนอื่น(สิ่งมีดวงจิตทุกอย่าง) ให้เดือดร้อนอีกต่อไป เพื่อจะไม่ได้สร้างบาปกรรมต่อไปอีก

เรื่องของบาปกรรมที่ส่งผลต่อเรา 1.เกิดจากเจ้ากรรมนายเวรโดยตรง 2. เกิดจากวิบากกรรมที่เรากระทำนั้นส่งผลต่อเราไม่ว่าจะดีจะชั่วก็เป็นไปตามกรรมที่เราทำนั้นเอง

เรามั่วแต่จะไปแก้ที่ปลายเหตุ เราลองมาแก้กันที่ต้นเหตุกันดีกว่า ว่า วิบากกรรมที่
ทำให้เราทุกข์(ผลของวิบากกรรมที่เราไม่ชอบ)นั้นเกิดจากเราไปทำอะไร นั่นก็คือ
อะไรที่ทำแล้วผลของการกระทำเราทำให้สิ่งที่มีดวงจิต(รวมตัวเองด้วย)เดือดร้อน(เรียกว่าการเบียดเบียน)
วิบากกรรมจากตรงนี้ก็จะส่งผลในทำนองเดียวก็กลับมาให้เราในข้างหน้านั่นเอง

ศีล สมาธิ ปัญญา ทำอะไรอย่าประมาท แม้เรื่องเล็กๆก็อย่าคิดว่ามันไม่สำคัญ
เพราะทุกสิ่งมันล้วนมีจุดเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ

โชคดี สาธุ

 

อันนี้จริงครับขนาดได้ยินแค่เสียงกระซิบ
ขนลุก หนักบ่า อันนี้ก็น่ากลัวแล้วครับ

ถ้าเห็นเปงตัวเปงตนมาแบบ เละๆๆ ยิ่งไปกันไหญ่

สรุปแล้วปฏิบัติดี ดีที่สุดครับ

 

ความเป็นทิพข์จักขุ จากกสิณ หรือ อาปาฯ สามารถเห็นได้ก็ส่วนหนึ่งนะครับ...แต่การที่จะคุยได้ขึ้นอยู่กับความระเอียดของจิตด้วยครับ..ถ้าฝึกได้ก็ดีครับ..เพราะถ้าไม่ฝึกแต่ก็เจริญสติเดินปัญญาไปในระดับหนึ่ง..จะเห็นเจ้ากรรมนายเวรได้ในส่วนที่เป็นภพที่ไม่สูง..แต่ถ้าทิพข์จักขุ.บังเกิดจะเห็นได้ในส่วนเจ้ากรรมนายเวรที่ท่านเลื่อนระดับภพภูมิสูงๆขึ้นไปแล้ว...และสามารถที่จะขออโหสิกรรมกันได้ครับ..
ขอบคุณครับ...

 

ผมอยากรู้ว่าถ้าฝึกได้จริงหรอครับแอดมินฝึกแล้วได้ไหมครับถ้าได้Pmมาบอกผมหน่อยว่าได้จริงหรือคนที่ได้มาแล้วช่วยบอกผมหน่อยว่าได้จริงผมไม่อยากเชื่อที่เขียนกันมาซักเท่าไรว่าฝึกแล้วได้แบบนั้นแบบนี้แต่ผมอยากรู้จากคนที่ได้จริงๆว่ามันเป็นของจริงทำแล้วได้จริง
ปล.แค่อภิญญาบางทีมันก็ทำให้เกิดความเชื่อในเรื่องอื่นๆตามมาได้อีกเยอะ เพราะสวรรค์ นรกผมก็ไม่รู้ว่ามันมีจริงแค่ไหนได้แค่ฟังๆตามกันมา วิญญาณผมก็ไม่เคยเห็นเคยสัมผัสผมเลยอยากรู้จากคนที่มีประสบการณ์จริงและตรงว่ามันมีจริงๆของพวกนี้นะ

 

ก็ที่เขียนก็เอามาจากคนที่รู้จริงเห็นแจ้งอ่ะครับ

ง่ายๆอยากเจอแบบเร็วก็ลองไปลบหลู่ศาลเจ้าหรือที่เฮี้ยนๆดูก็ได้ครับผม แล้วจะรู้เองครับ เพราะต่อให้คนได้ตาทิพย์มาบอกอะไรสำหรับคุณมันจะดูว่าเวอร์ คุณต้องเจอกับตัวเองครับ ถึงจะเชื่อขึ้นใจ

 

แล้วเราจะฝึกกสินต้องทำไงครับ
ใช้เวลานานรึเปล่า
ต้องมีผู้ควบคุมการฝึกด้วยรึเปล่า
หรือว่า ฝึกเองได้เลยครับ

 

เวลาฝึกกสิณ เราก็เลือก ชอบแบบไหน ก็นั่งหลับตาสมาธิหายใจเข้าออก แบบ พุทโธ

แต่ให้ภาวนาว่า คำกสิณนั้นๆแทน เช่น กสิณไฟ ก็ภาวนานว่า เตโชกสิณณัง ให้เราเติมณังไปด้วยทุกกสิณที่เราจะฝึก

พอฝึกได้พอประมาณแล้วก็ฝึกเพ่งไฟ คือจำาภพไฟให้ได้หรือภาพกสิณนั้นๆ แล้วก็มานั่งสมาธินึกถึงภาพสิณนั้นๆที่เราฝึก

ตอนนี้่ผมก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ฌาณ1กับ2พอไปรอดละครับ

แล้วแต่คนชอบว่าชอบแบบมี อาจารย์หรือลองกันเองเลยเพราะว่าผมฝึกอยู่กับบ้านสบายๆชิวๆ ยังไม่เห็นมีอันตรายอะไรเลยครับ

อยู่ที่ความเพียรของเราครับ

 

ครับผมอยากรู้นะว่ามีจริงไหมแต่ผมก็ยังกลัวยังไม่กล้าลองขนาดนั้นแค่อยากให้เขาบ่งบอกแล้วเรารับรู้แค่นั้นก็พอใจละครับ แบบว่ารับรู้ได้ด้วยใจฝันอะไรประมาณนี้อย่ามาเห็นๆกับตัวเลยเพราะยังกลัวอยู่

 

ที่ผมพูดมันจริงหมดครับ ตัวอย่างก็มีเยอะ(ถ้าเราค้นหาดู)
หลักเหตุและผลก็เป็นไปตามนั้น
เรื่องกรรมก็เป็นไปตามนั้น
ถึงตัวคนเขาอโหสิกรรมให้แต่วิบากกรรมจากการกระทำเรายังคงอยู่
เปรียบเหมือนเราฆ่าคนตาย แม้เขาจะยกโทษให้ ตัวคุณก็ต้องรับผลของกรรมอยู่ดี

ถึงคุณจะมีอำนาจขนาดไหน เปลี่ยนฟ้าเปลี่ยนดินได้ คุณก็หนีกฎแห่งกรรมไม่ได้
แม้กระทั่งนิพพานไปได้ก็เพราะแรงของกรรมแห่งบารมี

สาธุ โชคดี ขอให้ทุกคนอย่าได้เบียดเบียน

 

ถ้าจะฝึก อาโลกกสิณ เราก็นั้งหลับตาทำสมาธิแล้ว หายใจเข้าพูดว่า อาโลกกสิณณัง ออกพูดว่า อาโลกกสิณณัง แล้วคิดภาพว่า ตรงหน้า จากความมืด
เป็นแสงสว่างและร่างกายของเราก็เป็นแสงสว่างเหรอครับ ผมเข้าใจถูกรึเปล่า
(ผมไปค้นหา อาโลกสิณ ใน google มันจะมีทั้ง อาโลกสิณ และ อาโลกกสิณ สรุปว่า มันชื่อกสิณอะไรกันแน่ครับ ผมงง)

แล้วคำว่า ฌาณ คือไรเหรอครับ คือระดับการฝึกกสิณของเรารึเปล่า แล้วจะรู้ได้ไงว่าเรา ฌาณ อะไร

 

สมาธิฝึกๆไปเถอะครับ สนับสนุน ให้คนปฏิบัติธรรม

ตอนนี้เจอมาสองคนแล้วในเว็บว่าไม่ชอบไม่เชื่อในพลังวิเศษ ว่าไม่ดีอย่างนั้อย่างนี้ อ้างนั่นอ้างนี่สุดท้ายมันก็เอาความรู้สึกที่มันไม่เห็นชอบของมันแล้วเอาพระธรรมมาอ้าง

อีกคนเรื่องเทพเจ้า เทพเจ้าทำไม่ถูกตัวเอง อหังการ ว่าเทพเลย นี่เป็นไงสุดยอดเลย คำถามถ้าไม่ดีพระพุทธเจ้าจะทรงสอนไว้ทำไม

ต่อเรื่องภาวนาครับ เช่นผมภาวนาว่า เตโชกสิณณัง ผมก็ทำแบบนี้ หายใจเข้า เตโช หายใจออก ก็ กสิณณัง ครับประมาณนี้ครับ

ก็ง่ายๆให้นึกถึงแสงสว่างถ้ายังนึกไม่ออกก็ภาวนาไปสักพักเดี๋ยวก็นึกออกเองครับ

ญาณได้จากการฝึกสมาธิต่างๆครับ เมื่อได้เมื่อไรเราจะรู้ด้วยตนเอง แต่อย่าเอาไปพูดกับใครเพราะพวกเลวมันอยู่เยอะมันจะโจมตีเราหลายๆประการผมเจอมาแล้วครับ