ตามรอย "พระมหาชนก"

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Falkman, 15 กรกฎาคม 2010.

  1. Heureuse

    Heureuse เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2008
    โพสต์:
    857
    ค่าพลัง:
    +3,446


    ทำให้นึกถึง บ้านเชียง
    จาก
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤษภาคม 2012
  2. แก้มแดง

    แก้มแดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +794
    คุณ ณคอนสะหวัน เข้าใจถูกต้องแล้วครับ
     
  3. แก้มแดง

    แก้มแดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +794
    บ่ายวันนี้ได้ไป จ.สระบุรีอีกครั้งนึงเพื่อไปซื้อหินอ่อน จำนวน 1,600 ตรม.สำหรับปูพื้นเจดีย์ฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้จะได้ลดราคา 35 % แต่ยังต้องจ่ายเงินอีกประมาณ 1,200,000 บาท หากไม่เตรียมหินอ่อนไว้ ต่อไปก็อาจจะหาหินอ่อนมาปูพื้นเจดีย์ฯไม่ได้ครับ

    เมื่อเย็นนี้ขณะที่ผมทานข้าวเย็นอยู่ ได้มีกระแสเสียงมาบอกว่า "ให้ลูกรีบเร่งเก็บของเตรียมตัวให้พร้อมนะ ภัยเข้ามาใกล้มากแล้ว" ฟังแล้วก็หนาวเหมือนกันครับ ยังไงก็ขอให้ลูกหลานพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ตั้งอยู่ในความไม่ประมาทครับ

    อันที่จริงเย็นวันที่ 17 พ.ค. ผมก็จะเดินทางออกจาก กทม. ไปภาวนาและติดตามเร่งรัดงานก่อสร้างที่พุทธสถานฯอยู่แล้ว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านมาเร่งรัดแบบนี้ พิจารณาดูแล้วว่าเหตุการณ์ชักจะไม่ค่อยดีซะแล้ว ครับ

    วันเสาร์ที่ 19 พ.ค.จะถือโอกาสนิมนต์พระสงฆ์ 9 รูปมาฉันเพลและเจริญพุทธมนต์ เพื่อทำบุญขึ้นบ้านใหม่ให้กับญาติธรรมที่ปลูกบ้านอยู่บริเวณด้านหลังพุทธสถานฯและใกล้เคียง

    และเช้าวันที่ 20 พ.ค.จะทำพิธีบรรจุสิ่งของที่ใต้ฐานองค์พระเป็นวาระที่สอง ตกกลางคืนก็จะร่วมกันสวดมนต์ภาวนาเพื่อเพิ่มบุญบารมีให้กับตนเอง ญาติธรรมท่านใดมีโอกาสแวะไปที่พุทธสถานฯในช่วงวันที่ 19-20 พ.ค.นี้ก็สามารถมาร่วมงานได้ครับ

    คุณ Dang11sys :- เมื่อถึงเวลานั้นประเทศญี่ปุ่นจะจมหายไปด้วยครับ

    มีปริศนาธรรมจากวัดพระแก้วเมื่อวันที่ 3 พ.ค. 55 ก่อนงานสมโภชน์องค์ยันต์พระพุทธเจ้า วันนั้นผมกับคณะไปสักการะพระแก้วที่วัดพระแก้ว ด้วยความที่ไม่ค่อยจะพร้อมในการเตรียมเครื่องสักการะ ก่อนเข้าไปที่วัดพระแก้วก็แวะซื้อพวงมาลัยแถวท่าพระจันทร์ แล้วก็เดินกันไปที่วัดพระแก้ว ขณะที่เดินเลาะกำแพงวัดพระแก้วอยู่นั้น ก็มีกระแสญาณจากพ่อพระแก้วมรกตท่านบอกว่า ดีแล้วที่ลูกตัดสินใจมา สิ่งศักดิ์สิทธิ์เขารอกันอยู่ ถึงกาลเวลาแล้ว (ที่จริงวันนั้นมีธุระหลายอย่าง ทีแรกตั้งใจจะไม่ไปที่วัดพระแก้วแต่จะไปในวันหลัง แต่มาคิดอีกทีนึงว่า ถ้าเราไม่ไปเราเสียสัจจะแน่ เทวดาเขาจะตำหนิเอา ก็เลยตัดสินใจไป) เมื่อเดินเข้าไปในเขตวัดก็เดินมองยอดพระปรางค์องค์ต่างๆและคิดว่าเขาทำได้สวยงาม อลังการมากจริงๆ ก็มีกระแสญาณจากพ่อพระแก้วมรกต ว่า "ให้ลูกจดจำไว้ให้ดีนะ ต่อไปอีกไม่นานลูกจะไม่ได้เห็นวัดในสภาพแบบนี้อีกแล้ว" เมื่อไปจุดธูป 16 ดอก เพื่ออธิษฐานถึงพระแก้วและบอกถึงจุดประสงค์ที่มาสักการะ ฟ้าก็ร้องครืนๆแล้วก็เงียบหายไป จากนั้นก็เข้าไปในวิหารพระแก้ว ไปนั่งสมาธิข้างหน้า จิตภายในก็ทำงาน มองเห็นสองสถานที่เชื่อมถึงกันโดยมีกระแสจิตเป็นสื่อเชื่อมสองสถานที่ จากนั้นก็อธิษฐานถึงปู่ขาวมหาราชและปู่อชิตะ พระญาณของสองพระองค์นี้ก็ซ้อนลงมารับสื่อญาณของพระแก้วมรกต

    ผมขอยืนยันสิ่งที่คุณ Aunyasit แจ้งบอกท่านทั้งหลายไปครับ อีกไม่นานเกินรอครับ แต่หลังจากนี้เป็นต้นไปผมจะแจ้งบอกเท่าที่จะบอกได้นะครับ ช่วยเท่าที่จะพอช่วยได้นะครับ เพื่อไม่ให้ไปล่วงรู้ความลับที่ไม่ควรเปิดเผยก่อนเวลาอันควร ผู้ที่ทำหน้าที่ล้างมนุษย์ก็ไม่เดือดร้อน ผู้ที่ทำหน้าที่ฟื้นฟูประเทศก็ไม่เดือดร้อน ผมก็ไม่เดือดร้อน สิ่งที่ผมได้พิจารณาไปนั้นได้ปูพื้นฐานในเรื่องพระมหาชนกอย่างเป็นลำดับขั้นลำดับตอนมาให้ครึ่งทางแล้วครับ ถ้าท่านทั้งหลายพิจารณาดีๆ ท่านจะเห็นสิ่งที่ผมแจ้งซ่อนอยู่ในปริศนาธรรมครับ ดังนั้นผมจะปล่อยให้เป็นไปตามกรรมที่ควรจะเป็นเพื่อให้ความลับยังคงเป็นความลับต่อไป ซึ่งเมื่อถึงเวลาของคนบุญที่เหลือรอดชีวิต ก็จะต้องไปทำหน้าที่ต่อไป ตามกำลัง ตามความรู้ ตามความสามารถ ตามสายของพ่อแม่ครูอาจารย์ที่ท่านได้เชื่อมบุญกันไว้ ธรรมะจะจัดสรรให้เองครับ ขอเพียงแต่ให้ท่านทั้งหลายมีความเชื่อความศรัทธาที่บริสุทธิ์ ต่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างสุดจิตสุดใจ เมื่อถึงเวลาผมและท่านทั้งหลายก็ต้องไปทำหน้าที่ เมื่อถึงเวลาถ้ามีบุญวาสนาก็คงจะได้เจอกัน แต่จะเรียกชื่อใช้แทนตัวเองว่า ลูกแก้ว ลูกแก้วของพระรัตนตรัย ณที่นี้ผมก็จะยังคงต้องทำหน้าที่ตรงนี้ให้จบเพื่อให้บรรลุเป้าหมายต่อไปครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • images.jpg
      images.jpg
      ขนาดไฟล์:
      8.7 KB
      เปิดดู:
      52
  4. UncleGee

    UncleGee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,009
    ค่าพลัง:
    +10,241
    วันนี้ (14 พ.ค.) เวลา 15.29 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินออกจากที่ประทับชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช โดยรถเข็นพระที่นั่ง การนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ รศ.นพ.ประดิษฐ์ ปัญจวีณิน ผอ.รพ.ศิริราชปิยมหาราชการุณย์ เป็นผู้ถวายการเข็นรถพระที่นั่ง พร้อม ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา รองคณบดี คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล และคณะแพทย์ พร้อมพยาบาลตามเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินยังพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวัง เป็นการส่วนพระองค์ เพื่อทอดพระเนตรและทรงฉายพระรูปพระบรมสาทิสลักษณ์สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า <O p=""></O>
    ในขณะเสด็จพระราชดำเนินพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระพักตร์ที่สดใส ทรงแย้มพระโอษฐ์ให้แก่ประชาชน โดยประชาชนต่างกู่ร้องทรงพระเจริญ ดังกึกก้องทั่วทั้งโรงพยาบาลศิริราช มีประชาชนที่ต่างพร้อมใจกันเพื่อมารอเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับเสด็จฯ อย่างเนืองแน่น<O p=""></O>
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงอยู่ในฉลองพระองค์สูทสีเขียวอ่อนทับเชิ้ตลายสก๊อตสีน้ำตาลสลับสีขาว พระสนับเพลาสีกรมท่า ฉลองพระบาทสีดำ ทรงประทับรถยนต์พระที่นั่งจากอาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช เสด็จพระราชดำเนินยังพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวัง เป็นการส่วนพระองค์ เพื่อทอดพระเนตรและทรงฉายพระรูปพระบรมสาทิสลักษณ์สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า บริเวณชั้น 2 มุขกระสันด้านตะวันตก ซึ่งประกอบด้วย 3 ชั้น ชั้นบน เป็นเฉลียงทางเดินระหว่างหอพระบรมอัฐบนพระที่นั่งจักรีฯ องค์กลางกับหอพระอัฐบนพระที่นั่งจักรีฯ องค์ตะวันตก ชั้นกลาง เป็นห้องโถง สำหรับรับรองแขกผู้มีเกียรติ ผนังประดับพระบรมฉายาลักษณ์ พระบรมสาทิสลักษณ์และพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระอัครมเหสีในองค์สมเด็จพระมหากษัตริยาธิราชเจ้ารวม 6 พระองค์ คือ กรมสมเด็จพระเทพศิรินทรามาตย์ สมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถ บรมราชชนนี พระพันปีหลวง สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลย์มารศรี พระอัครเทวี และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชการที่ 7 ชั้นล่าง เป็นห้องโถง<O p=""></O>
    กระทั่งเวลา 16.35 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ กลับยังที่ประทับชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช รวมเป็นเวลา 1 ชั่วโมง 6 นาที.
    "ในหลวง" เสด็จฯ ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท | เดลินิวส์<O p=""></O>
     
  5. ZZ

    ZZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    5,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,649
    ต้องขออภัยท่านด้วย...ที่ต้องขอออกความเห็นแย้ง...ในเรื่องนี้นะครับ

    เนื่องจากผมไม่ได้รับสัญญาณภัยพิบัติร้ายแรง (ภัยธรรมชาติ) ถึงขั้นเสียหายร้ายแรง...ในช่วงเวลานี้ (2555) เลย

    นอกจากภัยธรรมชาติ....น้ำท่วม พายุ และภัยการเมือง...ส่วนภัยแบบย้ายเมืองหลวงหรือร้ายแรงกว่านั้น...ยังไม่ได้รับสัญญาณเลยครับ ( ผมอาจจะสมาธิไม่ค่อยดีก็ได้ )

    ดังนั้น...ท่านอื่นๆที่เข้ามาอ่านขอให้ทราบว่าเป็นความเห็นเฉพาะตน...เป็นความเชื่อส่วนบุคคล...นะครับ

    ส่วนการเตรียมการเพื่อรองรับภัยธรรมชาตินั้น...เป็นสิ่งดีที่เราควรกระทำอยู่แล้ว....ครับ



     
  6. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    เรียนคุณสนั่น
    [​IMG]
    เลขระหัส 291929 ผมเข้าใจว่าเอาเองว่า(เป็นความเชื่อส่วนบุคคลครับ)ในหลวงท่านบอกใบ้ว่า วันที่ 29, วันที่ 19, วันที่ 29 ต้องเป็นวันเดียวกันของแต่ละสัปดาห์ใน 1 ปีปฏิทิน และมีระยะเวลาห่างกันเท่ากันอาจจะเป็นเดือนที่เท่ากันหรืออาจจะเป็นวันที่เท่ากัน ปีพ.ศ.2554, 2555 ไม่มีพบเจอครับ แต่ไปเจอในปีพ.ศ. 2556 ครับคือวันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2556, วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม 2556, วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2556, ห่างกัน 4 เดือนเท่ากันแต่วันไม่เท่ากัน
    วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2556 กับ วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม 2556 ห่างกัน 111 วัน
    วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม 2556 กับ วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2556 ห่างกัน 131 วัน
    2+9,1+9,2+9 = 11,10,11= 111,011
    มีความเหมือนคือเลข 111, ส่วน 131 ผมเข้าใจว่า เป็นวันอาทิตย์ที่ 31 ของเดือนมีนาคม 2556 ก็เป็นเช่นนั้นจริงด้วย

    ผมแน่ใจว่าในหลวงท่านบอกใบ้ในปี 2556 จะมีภัยธรรมชาติใหญ่ๆมาก ขนาดที่พระมหาชนกต้องว่ายอยู่ในทะเล 7 วัน 7 คืน เป็นแค่ความเชื่อส่วนบุคคลของผมเท่านั้นนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 16 พฤษภาคม 2012
  7. อธิฎฐาน

    อธิฎฐาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    430
    ค่าพลัง:
    +1,610
    ตามลำดับเหตุการณ์สงครามใหญ่กลางเมืองยังไม่เกิด
    ก็คิดว่ามหันตภัยร้ายแรงที่ขนาดต้องย้ายเมืองหลวง ยังไม่เกิดขึ้นก่อนค่ะ
    เพียงแต่ต้องเตรียมการณ์ไว้ก่อน เช่นมูลนิธิอุทกพัฒน์
    หากสงครามใหญ่เกิดขึ้นก็เตรียมตัวไว้ได้เลย อาจจะเป็นปี พ.ศ. 2556
    ตามที่หลายท่านคาดการณ์ไว้

    http://www.dailynews.co.th/royal/21081
     
  8. แก้มแดง

    แก้มแดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +794
    หลังจากศึกช้างชนช้าง หรือคนในชาติทะเลาะกันไม่นาน ศึกพระพุทธศาสนาก็ตามมาเป็นลูกคลื่น เพราะถ้ารัฐอยู่ยาวย่อมมาเป็นแผงหน้ากระดาน ผลต่างตอบแทนกัน เมื่อนั้นเราจะได้เห็นศึกพระชนพระ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ลุกคืบไปตามลำดับ (คือ ชาติ ศาสน์ ... ตามลำดับ)
     
  9. แก้มแดง

    แก้มแดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +794
    ภัยพิบัติที่ร้ายแรงระยะที่๑
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. FALCON1

    FALCON1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,522
    ค่าพลัง:
    +4,863
    แผ่นดินไหว บริเวณชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศพม่า (15.16,95.93) ขนาด 5.1 วันที่ 20 พฤษภาคม 2555 เวลา 02:10 น. ตามเวลาประเทศไทย


    20 พฤษภาคม 2555, 2:10:29[​IMG]
    2012-05-20 02:10:29 น.
    Lat. 15.16 , Long. 95.93
    ขนาด 5.1

    วันนี้ประมาณ บ่ายสองไหวใกล้ๆอีกแล้วครับ
    C5-WarRoom Falkman
     
  11. แก้มแดง

    แก้มแดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +794
    .สัญญาณเริ่มการเปลี่ยนแปลงของธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ จากภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติ ได้เริ่มมีให้เห็นก่อนหน้านี้แล้ว ข่าวคราวต่างๆที่หลายๆท่านได้รับก็คงได้ทราบโดยทั่วกันแล้วนะครับ<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    .สัญญาณเริ่มการเปลี่ยนแปลงธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ ของใจคน สงครามครั้งสุดท้ายของคนไทยทุกคน ได้เริ่มต้นให้เห็นแล้ว ทั้งชาติ ศาสนา และสถาบัน ตามลำดับ<o:p></o:p>
    ถ้าชาติไม่แข็งแรง ย่อมมีผลทำให้ศาสนาอ่อนแอ และมีผลให้สถาบันไม่มั่นคง<o:p></o:p>
    สัญญาณการเริ่มต้นต่างๆได้มารายงานตัวกันครบหมดแล้ว ให้ท่านทั้งหลายพิจารณา ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ใช่ช่วงเวลาการรบการฆ่ากันถึงขั้นแตกหักก่อนที่จะถึงวันนั้นที่ผมได้แจ้งไปก่อนหน้านี้นั้นต้องมีลำดับขั้นลำดับตอนอีกหลายเรื่องหลายอย่างต้องอาศัยเวลา อาศัยเหตุปัจจัย ต้องเกิดสิ่งนี้ก่อนสิ่งนั้นถึงจะเกิดได้ดังนั้น ๒๐ เมษายน ๒๕๕๕ ก็ผ่านมาแล้ว 24 April 2012 ก็ผ่านมาแล้ว 2 May 2012 ก็ผ่านมาแล้ว 9 May 2012 ก็ผ่านมาแล้ว และ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ที่ท่านทั้งหลายเฝ้าติดตามกันก็ผ่านมาแล้ว ขอให้ท่านทั้งหลายพิจารณาสิ่งที่ผมแจ้งเตือนไปให้เข้าใจถึงขั้นตอนการล้างมนุษย์ ดังนั้นขอให้คนบุญเข้าใจว่า เราๆท่านๆเป็นผู้ถูกกระทำ เป็นผู้ที่ถูกทดสอบทั้งจิตและใจ พ่อแม่ครูอาจารย์แต่ละท่านก็ต้องทดสอบลูกศิษย์ว่ามั่นคง ศรัทธาในตัวพ่อแม่ครูอาจารย์มากน้อยแค่ไหน ลูกศิษย์คนไหนเป็นของแท้ คนไหนเป็นของเทียม ใครจะอยู่ ใครจะไป ก็คงมีให้เห็นกันอยู่ ถ้ายิ่งใกล้ถึงวันเวลาที่ผมได้แจ้งเตือนไปก็ยิ่งเข้มข้นหลายเท่า มีทั้งหลอกทั้งล่อจนหลงลืมพิจารณาสุดท้ายต้องหลุดต้องปล่อยไปตามยถากรรมหรือตามกรรมที่ตัวเองปรามาศไว้ ดังนั้นคนที่ขาดพ่อแม่ครูอาจารย์ถือได้ว่าใช้ชีวิตที่เสี่ยง เป็นชีวิตที่ไม่ปลอดภัย ตามที่ผมได้พิจารณาแจ้งไปก่อนหน้านี้แล้ว เช่นเดียวกับพ่อแม่ครูอาจารย์ของผม ใครที่จะไปหาท่านนั้นยากมาก ท่านไม่เปิด ท่านก็ทยอยคัดลูกศิษย์ที่ไม่มั่นคงออกไปเรื่อยๆ ลูกศิษย์คนไหนไปหาท่านๆก็บอกว่าให้กลับไปทำมาหากินที่ต่างจังหวัดกันได้แล้ว ไปปลูกผักปลูกข้าว ทำไร่ทำสวนกันได้แล้วไม่ต้องห่วงพ่อไม่เป็นไร ตามที่ผมได้พิจารณาแจ้งไปก่อนหน้านี้แล้วเช่นเดียวกัน<o:p></o:p>
     
  12. แก้มแดง

    แก้มแดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +794
    ปี๒๕๕๕ นี้ผมก็ยังยืนยันข้อความนี้เหมือนเดิมเป็นครั้งที่ ๒ ไม่แปรเปลี่ยน
     
  13. แก้มแดง

    แก้มแดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +794
    ภัยพิบัติร้ายแรงระยะที่ ๑
     
  14. klu

    klu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,320
    ขอยืนยันเช่นกัน ในหลวงท่านยังไม่ย้าย เราก็ยังไม่ไป
    จะอยู่เฝ้าจนตัวตาย ต่อให้ชีพมลายฤๅสูญสิ้น
     
  15. UncleGee

    UncleGee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,009
    ค่าพลัง:
    +10,241
    "ถึงจะมองไม่เห็นฝั่ง เราก็ต้องพยายามว่ายอยู่ท่ามกลางมหาสมุทร
    โภคะทั้งหลาย มิได้สำเร็จ ด้วยเพียงคิด เท่านั้น"

    เมื่อเวลา 16.44 น. วันที่ 25 พ.ค. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินออกจากที่ประทับชั้น16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช โดยรถเข็นพระที่นั่ง พร้อมสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากโรงพยาบาลศิริราชเพื่อไปสักการะพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย ทุ่งมะขามหย่อง ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นการส่วนพระองค์ ในการนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ รศ.นพ.ประดิษฐ์ ปัญจวีณิน ผอ.โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์ เป็นผู้ถวายการเข็นรถพระที่นั่ง พร้อม ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล และคณะแพทย์พยาบาล ตามเสด็จฯ ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอยู่ในฉลองพระองค์ชุดจอมทัพไทย
    http://www.dailynews.co.th/royal/116474
     
  16. UncleGee

    UncleGee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,009
    ค่าพลัง:
    +10,241
    วันนี้ (25 พ.ค.) เวลา 18.00 น. รถยนต์พระที่นั่งเคลื่อนขบวนมาถึงพระราชนุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย จ.พระนครศรีอยุธยา โดยรถยนต์พระที่นั่งเทียบที่หน้าพระราชานุสาวรีย์ฯ เจ้าพนักงานพระราชพิธีเชิญพวงมาลัยเข้าถวาย แล้วพระราชทานไปถวายสักการะที่โต๊ะหมู่หน้าพระราชานุสาวรีย์ฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงคม จากนั้นประทับรถยนต์พระที่นั่งทอดพระเนตรบริเวณโดยรอบพระราชานุสาวรีย์ฯ ก่อนที่จะเสด็จฯ ไปยังศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้า ผลิตภัณฑ์พื้นบ้านและผลิตผลทางการเกษตร พระราชานุสาวรีย์ฯ ซึ่งเป็นอาคารขนาดใหญ่สวยงามตั้งอยู่ติดบึงน้ำภายในทุ่งมะขามหย่อง เมื่อเสด็จฯ ถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เฝ้าฯ รับเสด็จ และทูลเกล้าฯ ถวายพวงมาลัย แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีน้อมเกล้าฯ ถวายโฉนดที่ดินเลขที่ 5009 ตำบลบ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่หน้าทุ่งมะขามหย่องและเป็นที่ดินแปลงนาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเคยเกี่ยวข้าวเมื่อปี 2539 รวม 7 ไร่2 งาน 14 ตารางวา ซึ่งได้เปลี่ยนชื่อที่ดินที่สำนักงานที่ดินจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาเป็นชื่อของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา
    ในการนี้ นางวาสินี ผิวผ่อง นากยกเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทูลเกล้าฯ ถวายพวงมาลัย แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ นางวิภาดา สีตบุตร ภริยาแม่ทัพภาคที่ 1 ทูลเกล้าฯ ถวายพวงมาลัยแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรฯ และนายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข นายสุระ อนันต์สุขเสรี ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พลโท อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เฝ้าฯ รับเสด็จ โดยนายวิทยา ผิวผ่อง ผวจ.พระนครศรีอยุธยา ทูลเกล้าฯ ถวายเงิน โดยเสด็จพระราชกุศลสมทบทุนมูลนิธิราชประชานุเคราะห์
    จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ เข้าห้องรับรองประทับพักพระอิริยาบถตามพระราชอัธยาศัย ก่อน เสด็จออกจากห้องรับรองไปยังศาลาพลับพลากลางน้ำ ที่ตกแต่งเรียบง่าย และสวยงามด้วยผ้าขาวม้าทอพื้นเมืองของกลุ่มอาชีพแม่บ้านในเขต จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งพระองค์ทรงพระราชทานความช่วยเหลือแนะนำอาชีพมาก่อน จนชาวบ้านนำแนวพระราชดำรัสไปตั้งเป็นกลุ่มทอผ้าขาวม้าและผ้าพื้นเมืองจนประสบความสำเร็จ ในการนี้ ทรงทอดพระเนตรการแสดงสื่อผสม ชุดทุ่งมะขามหย่อง ผืนแผ่นดินแห่งพระมหากรุณาธิคุณ เวลาในการแสดงทุกประเภทรวม 45 นาที โดยการแสดงชุดทุ่งมะขามหย่องผืนแผ่นดินแห่งพระมหากรุณาธิคุณเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวของทุ่งมะขามหย่องและโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงให้สร้างอ่างเก็บน้ำบริเวณพื้นที่โดยรอบพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุรีโยทัย เพื่อรองรับน้ำในช่วงน้ำท่วม และเก็บกักน้ำไว้ใช้ในช่วงน้ำแล้ง มีการแสดงชุดทุ่งมะขามหย่องผืนแผ่นดินแห่งพระมหากรุณาธิคุณ เริ่มตั้งแต่ขบวนแห่ช้างและขบวนทหารกองเกียรติยศ สวนสนามเลียบอ่างเก็บน้ำมายังพลับพลาพิธีเพื่อถวายพระเกียรติ โดยช้างทั้ง 9 เชือกที่เข้าร่วมพิธีรับเสด็จ ได้ผ่านพิธีปักษะปะพรมน้ำมนตร์ทั้งช้างและควาญช้างเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยช้างเชือกแรกนำพานพุ่มให้ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมด้วยข้าราชการผู้ใหญ่ 36 ท่าน ถวายบังคม จากนั้นการแสดงชุดแรก การแสดงเพลงเห่เรือ 6 ลำ ซึ่งจะขับเพลงเห่เรือประจำถิ่นที่สื่อความหมายถึงการสรรเสริญเทิดพระเกียรติที่พระองค์ท่านทรงทำให้ถิ่นแผ่นดินอุดมสมบูรณ์ มีน้ำใช้ในหน้าแล้งและที่เก็บน้ำในหน้าฝน ซึ่งในปัจจุบันเป็นพื้นที่รองรับน้ำท่วมให้ประชาชนคนกรุงเทพฯ ซึ่งล้วนมาจากพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้งเมื่อครั้งน้ำท่วมใหญ่ในปี พ.ศ. 2538 ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งให้ปล่อยน้ำเข้าพื้นที่โดยรอบพระราชานุสาวรีย์และให้กักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้งตามโครงการพระราชดำริ ในวันที่ 23 ม.ค. 2539 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินมาเปิดคันบังคับน้ำปล่อยน้ำเข้าสู่ท่อส่งน้ำให้แก่เกษตรกร และในวันที่ 14 พ.ค. 2539 ทรงเกี่ยวข้าวในนาข้าวด้วยพระองค์เอง
    จากนั้น เข้าสู่การแสดงชุด 16 ปีแห่งความหลัง ณ ทุ่งมะขามหย่อง โดย อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี บรรเลงขลุ่ยเพลงพระราชนิพนธ์ความฝันอันสูงสุด แล้วเข้าสู่การแสดงชุดหลั่งเลือดทาบทา ปกปักษ์รักษาแผ่นดิน พร้อมด้วยการฉายวีดีโอเรื่องราวประวัติศาสตร์ของทุ่งมะขามหย่องที่พระมหาจักพรรดิต่อสู่กับกองทัพพม่า เพื่อไม่ให้เข้าสู่กรุงศรีอยุธยาได้ รวมทั้งวีดีโอเรื่องราวของสมเด็จพระสุริโยทัย ถ่ายทอดความเสียสละของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ระหว่างฉายวีดีโอเทิดพระเกียรติสมเด็จพระสุริโยทัย รอบข้างเวทีได้นำเสนอภาพช้างบำรุงงา โดยควาญช้างผู้มากด้วยประสบการณ์ (การฝึกช้างยุทธหัตถี ซึ่งเป็นสุดยอดแห่งการฝึกช้างให้รู้จักประสานงา เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงพระราชสงคราม สมเด็จพระสุริโยทัย ในทุ่งมะขามหย่อง สมัยกรุงศรีอยุธยา) ที่นำแสดงโดยช้าง 6 เชือก จากวังช้างอยุธยาแลเพนียด ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ที่แต่งกายสวยงามตามโบราณประเพณี ด้วยผ้าหลากสีสันสดใสทั้งสีทอง แดง และเหลือง ซึ่งเป็นสีที่แสดงถึงความเป็นนักสู้ สีทอง คือ สีแห่งความรุ่งเรือง มองแล้วสว่างไสวขับกับสีผิวของช้าง ต่อด้วยการแสดงชุดสายน้ำหลั่งไหล น้ำตาหลั่งริน ชีวีสูญสิ้น โดยมี อ.ธนิสร์ บรรเลงเสียงขลุ่ย ประกอบขับบทกลอนจาก อ.เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ที่สื่อความหมายถึงความทุกข์ยากของประชาชนที่เกิดจากการประสบอุทกภัยในหลายครั้งหลายครา จากนั้นเป็นชุดการแสดงน้ำพระทัยขับไล่น้ำตา เป็นวีดีโอประมวลภาพ ผวจ.พระนครศรีอยุธยาและชาวบ้านที่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และตามด้วยชุดการแสดง บทกวีเทิดพระเกียรติ เป็นการขับบทกวีจาก นางจิระนันท์ พิตรปรีชา ที่กล่าวสรรเสริญพระเกียรติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการช่วยเหลือประชาชนในด้านต่างๆ

    จากนั้นเป็นการแสดงรื่นเริงในรูปแบบตลาดน้ำ แสดงวิถีชีวิตชาวบ้าน ในชุดการแสดง “ระบำสายน้ำ ลำน้ำแห่งแผ่นดินทอง” โดยมีไฮไลท์จากเรือ 6 ลำ เป็นพ่อเห่ แม่เห่ ได้แก่ เรือท้องพระคลัง เรือกล้วยทอดนายก เรือฟ้าเปลี่ยนสี (ย้อมผ้า) เรือตู้ทองเคลื่อนที่ (ขายทองหยิบ-ทองหยอด) เรือก๋วยเตี๋ยวเรือกรุงเก่า และเรือย้อนยุคกรุงเก่า รวมถึงมีเรือของชาวบ้านมาสมทบอีกกว่า 100 ลำ เพื่อจำลองบรรยากาศบึงน้ำที่ชาวอยุธยาใช้ประกอบสัมมาอาชีพ ย้อนภาพตลาดน้ำในสมัยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเคยเสด็จแล้วทอดพระเนตรเห็นวิถีชีวิตชาวบ้าน ซึ่งชาวบ้านมีความสุขจากพระมหากรุณาธิคุณที่ได้รับจากพระองค์ ต่อด้วยการแสดงขับร้องบทเพลงเทิดพระเกียรติจากนักร้องชื่อดัง แอ๊ด คาราบาว ทำการขับร้องในบทเพลง “ปิดทองหลังพระ” ก่อนปิดท้ายการแสดงด้วยเพลงสดุดีมหาราชา เพลงสรรเสริญพระบารมีและเพลงทรงพระเจริญ โดยการแสดงทั้งหมดเป็นประชาชนของ จ.พระนครศรีอยุธยา ทั้งหมด 662 คน เรือพื้นบ้าน 240 ลำ เรือเหล่านี้เป็นเรือที่ใช้จริงในชีวิตประจำวัน
    จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประทับรถยนต์พระที่นั่งไปยังพระตำหนักสิริยาลัย ในฝั่งเกาะเมืองพระนครศรี อยุธยาติดแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตรงข้ามวัดไชยวัฒนาราม เพื่อเสวยพระกระยาหารค่ำ ตามพระราชอัธยาศัย โดยทางมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา จัดทำกระทงสาย จำนวน 2,500 กระทง เพื่อลอยตามแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งจะไหลผ่านหน้าพระตำหนักสิริยาลัย เพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้ได้ทอดพระเนตร จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินกลับ รพ.ศิริราช
    ทั้งนี้ระหว่างทุกพระองค์เสด็จขึ้นประทับยังรถยนต์พระที่นั่ง ทันใดนั้นได้เกิดมีฝนตกโปรยปรายลงมาทันที สร้างความอัศจรรย์ใจให้เหล่าพสกนิกร จนต่างรู้สึกปีติและหลั่งน้ำตาออกมาโดยไม่รู้ตัว
    “ในหลวง”ถวายสักการะพระราชานุสาวรีย์ฯสมเด็จพระสุริโยทัย | เดลินิวส์

    <!-- /.content --><!-- START: Facebook Share -->
     
  17. ZincOxide

    ZincOxide เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    366
    ค่าพลัง:
    +1,703
    อนุโมทนาครับ

    นึกถึงเรื่องเล่าที่เคยฟังเมื่อนานมาแล้ว ...


    วันเสด็จพระราชดำเนินกลับประเทศสวิส ขณะที่ประทับรถพระที่นั่งไปสู่สนามบินดอนเมือง ทรงได้ยินเสียงตะโกนดังๆว่า

    "ในหลวง...อย่าทิ้งประชาชนนะ"


    ทำให้ทรงนึกตอบบุคคลผู้นั้นในพระราชหฤทัยว่า


    "ถ้าประชาชนไม่ทิ้งข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าจะทิ้งประชาชนได้อย่างไร"

    ...

    " ที่ของข้าพเจ้าในโลกนี้ คือ การได้อยู่ท่ามกลางประชาชนของข้าพเจ้า นั่นคือคนไทยทั้งปวง "


    พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
     
  18. swanred

    swanred สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +12
    มีแสดง ช้างชนช้าง กันด้วย ในวันนั้น
     
  19. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0

    อนุโมทนาด้วยค่ะ ขอสนับสนุนด้วยค่ะ
     
  20. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    วันนี้ไปหนองคายมา ระหว่างที่เดินชมของอยู่บริเวณจุดชมวิว
    ตรงท่าเสด็จอยู่นั้น คนขายเสื้อ ก็เดินเข้ามาคุยด้วยอย่างเป็นมิตร

    คนขายเสื้อ: เมื่อวันก่อน ร้อนอบอ้าวมาก ...
    แต่ก็ยังดีกว่า คนที่อยู่ภาคใต้ ดูข่าวแล้วสงสาร
    พวกที่ถูกน้ำท่วมที่ผ่านมา ช่องสามพึ่งไปสร้างบ้านให้
    โดนพายุอีกแล้ว บ้านพังหมดเลย ...


    ...โดยส่วนตัวคิดว่า บางครั้ง การตักเตือนอาจดูเลวร้าย...

    แต่... ถ้าใช้ปัญญาพิจารณาสักนิด ... ในสิ่งที่เหลืออยู่
    กับสิ่งที่เสียไป ... ท่านก็อาจจะเห็น...
    ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป
     

แชร์หน้านี้

Loading...