ประสบการณ์ ธรรมะ พระเครื่อง หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก จ.อยุธยา

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย Specialized, 14 ตุลาคม 2009.

  1. Ov

    Ov เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2012
    โพสต์:
    289
    ค่าพลัง:
    +1,417
    ใครเป็นแบบผมบ้าง

    หลังจากที่ผมได้พระจากพี่โมทย์มา2องค์ผมคือหลวงปู่ทวดกับเหรียญครบรอบ108ปี สำหรับผมองค์หลวงปู่ทวดผมเลี่ยมแขวนคอตั้งแต่วันแรกใช้กำภาวนาสมาธิในทุกๆวันหรือเท่าที่จะทำได้. แต่ที่ผมกำลังจะพูดถึงคือเหรียญ108ปีครับในวันแรกที่ผมได้มาผมได้กำสมาธิไม่นานนักระยะหนึ่งผมรู้สึกได้ถึงแสงสว่างสีขาวนวนปรากฎเป็นระยะเวลานานรู้สึกดีมากครับ:'(
     
  2. bobbysoking

    bobbysoking เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2011
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +182
    ขอบคุณพี่อิฐและพี่ๆทุกท่านด้วยครับ
     
  3. bobbysoking

    bobbysoking เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2011
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +182
    คือพี่ๆจะหมายถึงให้กำพระ หลับตานิ่งๆเฉยๆ ไม่ต้องพูด ท่อง หรือคิดอะไรใช่ไหมครับ
     
  4. Jopaa

    Jopaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    1,720
    ค่าพลัง:
    +4,867
    การปฏิบัติธรรมสมาธิ โดยหลักการเราแบ่งเป็น สมถกรรมฐาน กับ วิปัสสนากรรมฐาน

    สมถกรรมฐาน คือ ไปให้ถึงซึ่งความสงบ ไปถึงซึ่งฐานจิตเดิม เราเรียกระดับความนิ่งของจิตในแต่ละขั้นว่า อุปจารสมาธิก็ดี อัปปนาสมาธิก็ดี หรือจะเรียกเป็นญาณ 1 2 3 4 หรือเท่าไรก็ดี ก็แล้วแต่จะเรียก แล้วแต่สำนัก เราอย่าไปให้ความสำคัญกับชื่อสมมุติมากนัก

    วิปัสสนากรรมฐาน คือ การละจากสมถเข้าสู่การใช้ "ปัญญา "ขบคิดใคร่ครวญถึงเหตุต่างๆ ที่ทำให้เกิดทุกข์ เราเรียกตัวเหตุเหล่านั้นว่า " กิเลส " การใช้ปัญญาฆ่าฟันกับกิเลสให้ชนะ เป็นระดับขั้นๆไป ตั้งแต่เอาชนะได้ซึ่ง กิเลสอย่างหยาบ อย่างกลาง จนถึงละเอียด การเอาชนะได้ซึ่งกิเลสแต่ละชนิด ชนะได้ก็คือ ความหลุดพ้นจากพันธนาการเดิม เกิดความสบายจิตสบายใจ ค่อยๆหลุดออกจาก ความอยากได้ อยากมี อยากเป็น เมื่อละความอยากเหล่านี้ได้ ใจก็ไม่เกิดทุกข์ หรือ จากปกติเดิมๆทุกข์มันไปซะทุกเรื่อง ก็ค่อยๆคลายตัวลง ไม่ยึดติด ปลดทุกข์ไปได้ที่ละเปราะ ก็เกิดความสบายอกสบายใจแก่ตนเองมากขึ้น

    หากท่านเคยปฏิบัติแนวทางอื่นมาบ้างแล้ว เช่น ภาวนาพุท-โธก็ดี , สัมมา-อรหังก็ดี, ยุบหนอ-พองหนอก็ดี จะภาวนาแต่คำเฉยๆก็ดี, ภาวนาควบคู่กับการกำหนดดูลมหายใจเข้า-ออกก็ดี (อานาปานสติ) เมื่อปฏิบัติแล้วเกิดความชำนิชำนาญ ถูกจริต รับรู้ได้ถึงความสงบ ก็เลือกตามแนววิธีที่ท่านเคยดำเนินมา ทุกวิธีดีทั้งนั้น..

    แต่หากปฏิบัติตามวิธีขั้นต้นแล้ว จิตยังแสสร่าย ไม่นิ่ง หรือ ท่านเป็นผู้ไม่เคยปฏิบัติธรรมสมาธิมาก่อนเลย และอยากลองปฏิบัติตามแนวทางหลวงปู่ดู่ท่านดู ก็ให้กำหนดเอาคำ ไตรสรณคมณ์ คือคำว่า พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สรณัง คัจจามิ เป็นคำในการภาวนา

    ให้ท่องอยู่ในใจเบาๆช้าๆ..เป็นจังหวะจะโคน จิตตามดูคำภาวนาไว้ เมื่อปฏิบัติใหม่ๆ แรกจับคำภาวนาได้ อีกสักหน่อยใจก็แวกไปทางอื่น คิดนู้นคิดนี่ เมื่อรู้สึกตัวก็ให้ดึงกลับมาที่คำภาวนาใหม่ ความรู้สึกตัวว่าแวบออกนอกไปแล้ว และระลึก (ดึง) กลับมาได้ เราเรียกว่าอาการนั้นว่าตัว "สติ"

    ปฏิบัติไปเช่นนั้น จนชำนิชำนาญ จากที่สติที่เคยหลุดบ่อยๆ นานวันเข้าก็จะกลายเป็นนานๆจะหลุดออกนอกซะที่

    เมื่อภาวนาไปแล้ว จิตเริ่มนิ่ง เช่นนี้ไม่ต้องถามใคร จิตเราจะเป็นผู้บอกเอง จิตเขารู้ว่าอยากหยุดคำภาวนาแล้ว อยากนิ่งแล้ว เช่นนี้แล้วเมื่อจิตเขาให้หยุด จงอย่าไปรั้ง อย่าไปฝืน ตามดูตัวนิ่งเขาต่อไป ไม่ต้องกลัวนั้นกลัวนี่ กลัวเป็นบ้า กลัวเห็นผี กลัวนั่งไปแล้วกลับไม่ได้ ฯลฯ ความกลัวโดยไร้เหตุผลเช่นนี้ จะทำให้จิตหลุดจากอารมณ์แห่งความสงบที่จะก่อเกิด

    นักภาวนาใหม่ๆ บางท่าน เพียงต้นทางแห่งปฏิบัติ ก็ไปติดภาพนิมิตร ติดภาพลวงตา ติดแสง ติดลูกแก้ว ติดเทพธิดา นางฟ้านางสวรรค์ ติดวิมานแก้วฟ้าจุฬามนี ติดรู้เห็นเรื่องราวต่างภพต่างภูมิ ติดเหาะเหินเดินอากาศ ตัวเบ่ง ตัวพอง ติดภาพต่างๆที่จิตจินตนาการสร้างขึ้น ฯลฯ (ส่วนมากมักเป็นเรื่องเดิมที่ฝังรากลึกอยู่ในจิตส่วนลึก หรือสิ่งที่ถูกตอกย้ำความเชื่ออยู่บ่อยๆ) เมื่อจิตติดอยู่แค่นั้น จิตก็ไปไหนต่อไม่ได้ บางท่านปฏิบัติได้เพียงแค่นั้น ก็พากันหลงทาง นึกปิติดีใจว่า เราเป็นผู้มีบุญ เราเป็นผู้ผู้วิเศษ มีความสามารถเหนือกว่าผู้อื่น เราได้เห็นแสงสว่าง เราได้เห็นรูปพระพุทธเจ้ามาโปรด เราได้ไปเที่ยวสวรรค์วิมานบ้านของตนเองที่ได้สร้างบุญไว้แล้ว อะไรเช่นนี้เป็นต้น การปฏิบัติส่งจิตออกนอกบ่อยๆเช่นนี้ นานวันไปก็จะกลายเป็น "จิตหลอกจิต" ที่สุดหลอกตัวเองว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติพิเศษเหนือผู้อื่น สามารถติดต่อ รู้เห็นอะไรกับสิ่งภายนอกได้ ตั้งตนตั้งตัวเองเป็นอาจารย์ เป็นเจ้าสำนักวัดวาอารามก็มาก หรือแม้กระทั่งตำหนักทรงต่างๆก็มากมี

    ปัจจุบันแม้ในแวดวงผู้สนใจการปฏิบัติธรรมด้วยกัน การปฏิบัติเพื่อการค้นหาความจริงในชีวิต ค้นหากิเลสแห่งตนเพื่อการละวางนั้น อันเป็นทางลัดตัดตรง ทางบริสุทธิ์เพื่อมรรคผลนิพพาน เริ่มมีน้อยลงทุกวัน เดี๋ยวนี้เริ่มเกิดครูบาอาจารย์สายใหม่ขึ้น กลายเป็นปฏิบัติไปก็เพื่อการเห็นต่างๆ การมุ่งให้มองเห็นนู้นเห็นนี่ เห็นพระพุทธเจ้ามาโปรด เห็นครูบาอาจาร์ตนมาโปรด เห็นความวิเศษเหนือมนุษย์ต่างๆ เป็นต้น จึงควรพิจารณาว่าการสอนให้เห็น การตอกย้ำกระตุ้นเตือนต่อมจิตสำนึกเพื่อคาดหวังว่าจะได้เห็น ที่แท้นั้นถูกต้องหรือไม่ เป็นการมุ่งสอนเพื่อให้เกิดการสะสม หรือเพื่อการละวางกิเลสกันแน่..

    เรื่องของนิมิตรนั้น อาจกล่าวได้ว่า เป็นเรื่องทางสองแพร่งอันสำคัญ เป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวังให้ดีที่สุด เราอย่าเพิ่งพึ่งปฏิเสธว่านิมิตรนีไม่มีจริง นิมิตรนั้นมีจริง แต่ให้เข้าใจว่ามีทั้งนิมิตรหลอก และนิมิตรจริง แต่ระดับเราๆอย่างเพิ่งให้ความสนใจเลย โดยทัวไปมักเป็นแต่นิมิตรหลอก ที่ฉายภาพจินตนาการความต้องการส่วนลึกของตนออกมา นิมิตรอันถูกต้องแม่นยำนั้นยกให้เป็นเรื่องของระดับอริยะสงฆ์ หรืออริยบุคคลของแท้ท่านก่อนเถิด หากเราไปให้ความสนใจเรื่องนิมิตรตั้งแต่ต้น โอกาสเสี่ยงต่อการออกนอกลู่นอกทาง มีความเสียงสูงที่เดียว นักปฏิบัติหลายๆท่านเมื่อออกนอกแล้ว ยากที่จะกลับคืนได้ มีแต่ไปแล้วไปลับ ยากจะกู่กลับ ความจริงยากกว่าการจะเริ่มต้นปฏิบัติใหม่เสียอีก

    การที่กล่าวถึงนิมิตรเช่นนี้..หาใช่ว่ากล่าวว่านิมิตรเป็นสิ่งไม่ดีไม่ถูกต้องไม่ เพราะในการปฏิบัติธรรมสมาธิของบางท่าน บางสำนัก ก็ใช้แนวทางแห่งจินตการภาพใน วัตถุ แสง สี เป็นจุดเริ่มต้น ซึ่งหาใช่แนวทางที่ผิดแต่ประการใดไม่ หากแต่เป็นวิธีการหนึ่งในหลายๆวิธีการตามตำรา ที่เพียงขึ้นต้นแนวทางที่แตกต่าง สุดท้ายหากไปต่อได้ ย่อมลงสู่จุดหมายปลายทางเดียวกัน แต่อย่างไรก็ดี คำว่า "ไปต่อได้" จุดนี้เป็นจุดสำคัญที่ควรคิดคำนึง แนวทางที่ปลอดภัย แนวทางที่ครูบาอาจารย์อริยสงฆ์เจ้าท่านเคยพาเดินพาทำ ในสิ่งที่ถูกต้องดีงามปลอดภัยอยู่แล้ว ใยจึงต้องมาเลือกแนวทางเพื่อการเสี่ยงเหล่านั้นเล่า..

    และ..จะมีสักกี่คนที่เริ่มต้นปฏิบัติจากแนวทางเสี่ยงๆนั้น แล้วไม่เสพสุขหลงไปกับการเห็น กี่คนเล่าที่จะสามารถพาจิต ดึงจิตกลับเข้าสู่แนวทางที่ถูกต้องแห่งการดูกิเลส ละกิเลส ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์ที่แท้จริงเพียงข้อเดียวแห่งการปฏิบัติธรรมกรรมฐานได้ ถ้าการดึงจิตเข้าสู่แนวทางปกติได้ง่ายดายปานนั้น ทำไมกี่ล้านคนเล่าที่ยังยึดติดกับลูกแก้ว ยังยีดติดกับการเที่ยวเยี่ยมชมวิมานสวรรค์ชั้นฟ้าที่ตนสร้างขึ้น กี่คนเล่าที่ยังสนุกเพลิดเพลินกับการเข้ากราบพระพุทธองค์ ณ วิมานแก้วฟ้าจุฬามณี กี่คนเล่าที่ยังสนุกกับการส่งจิตออกนอกเที่ยวเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆเหนือสมุทรใต้บาดาลอย่างเพลิดเพลิน ฯลฯ

    หากท่านใดที่เริ่มนั่งแล้วมักมีอาการเช่นนั้นเป็นประจำ คือ ชอบส่งจิตออกนอกตลอด วิธีละนิมิตรง่ายๆ ที่ครูบาอาจารย์ท่านพึ่งสอน พึ่งว่ากล่าวตักเตือนไว้ ก็คือ " ให้มองตัวผู้เห็น (เพ่งอยู่แต่เฉพาะในวงกายเรา) อย่าไปมองผู้ถูกเห็น " หมายความว่า หากเห็นสิ่งเหล่านั้น อย่าได้ตื่นตกใจ เงียบๆเฉยๆ ไม่สะทกสะท้าน ไม่ตื่นเต้นดีใจ เสียใจ ไม่ปิติ ไม่ยินดี เฉยๆ อย่าได้ไปตามดู หรือให้ความสนใจกับสิ่ง (ภายนอก) เหล่านั้น เมื่อเราไม่ให้ความสนใจ ไม่ตามดู ที่สุดแล้ว ภาพเหล่านั้นทีมาหลอกล่อก็จะหายไปเอง ให้พึ่งระลึกเตือนสติตนเองให้ขึ้นใจอย่างหนึ่งว่า " สิ่งที่เราเห็น.เราเห็นจริง แต่สิ่งที่ถูกเห็นอาจไม่จริง " และคำว่า " นิมิตรต่างๆนั้น ดูไปก็น่าสนุกเพลินเพลินดีอยู่ดอก แต่สิ่งเหล่านั้นยังเป็นเพียงของภายนอก ไม่ทำให้พ้นทุกข์ได้ "

    เอาเวลาแห่งการเห็นนั้น มาพี่งกำหนดอยู่ที่คำภาวนา หรือ ความนิ่ง หรือพิจารณาลงไปให้เห็นต้นทางแห่งกิเลสนั้นๆในตัวเรา เพื่อการละวางเป็นขั้นๆลงไปนั้นดีกว่า

    ถึงขั้นนี่แล้ว ทุกอย่างไม่ต้องบอก ปล่อยให้จิตเขาเดินของเขาไปเอง..ทำเอง ปฏิบัติเอง อย่าเรียนรูทฤษฏีมากไป การเรียนรู้ทฤษฏีมากไป มักเกิดเป็นตัวสัญญาจำได้หมายรู้ ยิ่งรู้มาก จิตยิ่งไปไม่ได้ เพราะจิตมันไปจดจำทฤษฏี รู้ไปซะทุกเรื่องก่อนล่วงหน้าแล้ว

    ครูบาอาจารย์อริยะสงฆ์ท่านจึงมักเป็นผู้ไม่พูดมาก " พูดมากคือไม่จริง พูดจริงคือไม่มาก" ท่านมักกล่าวแต่ว่า " ให้ปฏิบัติไป ทำไปๆๆๆๆ แล้วจะรู้เอง "

    คงเอาแค่เบื้องต้นนี่ก่อน สำหรับนักปฏิบัติใหม่ๆ

    สำหรับนักปฏิบัติธรรมชั้นสูง และผู้คงแก่เรียน กระผมคงต้องขอประทานโทษด้วยเป็นอย่างสูง หากเขียนนี้ เขียนไปโดยขาดภูมิความรู้ ได้แต่เขียนขึ้นจากประสบการ์ณ เรียนรู้จากครูบาอาจารย์ตามป่าๆดงๆ ไม่ได้ศึกษาจากอารามหลวง พระมหาเปรียญธรรมสูงศักดิ์ใด อีกทั้งการปฏิบัติก็เคยทำบ้างแต่เพียงเล็กน้อยงูๆปลาๆ ผิดพลาดใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กรกฎาคม 2012
  5. nakorn99

    nakorn99 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +27
    อนุโมทนาสาธุ
    แจ่มแจ้ง ชัดเจนเป็นอย่างยิ่งครับ
    ในฐานะผู้ที่เพิ่งจะเริ่มปฏิบัติตามแนวทางหลวงปู่ ขอขอบคุณในความรู้ที่ให้มาครับ
     
  6. nakorn99

    nakorn99 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +27
    อนุโมทนาสาธุ
    แจ่มแจ้ง ชัดเจนเป็นอย่างยิ่งครับ
    ในฐานะผู้ที่เพิ่งจะเริ่มปฏิบัติตามแนวทางหลวงปู่ ขอขอบคุณในความรู้ที่ให้มาครับ
     
  7. monkeyboy55

    monkeyboy55 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2007
    โพสต์:
    381
    ค่าพลัง:
    +545
    สุดยอดครับ หลวงปู่ดู่
     
  8. monkeyboy55

    monkeyboy55 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2007
    โพสต์:
    381
    ค่าพลัง:
    +545
    อนุโมทนาบุญด้วยครับพี่โจ สำหรับความรู้ เป็นแนวทางสำหรับผู้ปฎิบัติได้ดีเลยครับ
     
  9. bobbysoking

    bobbysoking เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2011
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +182
    ขอบคุณพี่ Jopaa มากๆครับ ทำให้ผมรู้เยอะขึ้นมากเลยขึ้น เพราะผมไม่เคยทำกรรมฐานเลยครับ
     
  10. cnsya

    cnsya Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +60
    ขอบคุณมากๆครับ.......
     
  11. prom20

    prom20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    3,086
    ค่าพลัง:
    +8,975
    อนุโมทนาครับ
     
  12. แหม่มจ้า

    แหม่มจ้า เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,087
    ค่าพลัง:
    +3,455
    ขออนุโมทนาและขอบคุณพี่โจที่ให้ความรู้แนวทางการปฏิบัติครับ
     
  13. kamkling

    kamkling เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2009
    โพสต์:
    222
    ค่าพลัง:
    +562
    สวัสดีครับ เรื่องแปลกมาก ๆ ที่ผมได้เช่าพระผงยัต์ดวง ( ไม่รู้เช่ามาได้ยังไงด้วย ) ปกติผมก็สวดมนต์เป็นประจำครับ ( ผมสวดพาหุง อิติปิโสเท่าอายุ+1 ชินบัญชร คาถาเงินล้าน ) แต่คาถาจักรพรรดิ์ผมสวดแค่ 3 จบ ตอนเช้าก่อนไปทำงานครับ ผมมาทางหลวงพ่อฤาษีลิงดำครับ แต่เก็บพระของหลวงปู่หมุน วันพระที่ผ่านมา อยู่ ๆ อยากสวดคาถามหาจักรพรรดิ์ 9 จบ จนขับรถไปที่ทำงาน ก็สวดคาถาจักรพรรดิ์ในรถจนถึงที่ทำงาน มาเปิดเน็ตก็ไม่รู้คิดยังไงมาดูพระของหลวงปู่ดู่ ก็เลยโทรขอเช่าบูชาพระผงยันต์ดวง วางสายเสร็จผมยัง งง เลยครับว่าบูชามาได้ไง คิดยังไงถึงบูชา งงมาก ๆ ครับ เพราะปกติผมจะเก็บชองหลวงปู่หมุน วัดบ้านจานครับ หลังจากได้มายังไม่ได้ขึ้นคอนะเพราะผมห้อยรูปหล่อเบ้าทุบเสาร์ 5 หลวงปู่หมุนอยู่ 3 วันก่อนไปพันธ์ทิพย์งามวงศ์วาน ตั้งใจไปซื้อเครื่อง Printer แต่อยู่ ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าเอาพระผงยันต์ดวงหลวงปู่ดู่ไปเข้าตลับพุกดีกว่า กลับมาจากบ้านก็เปลี่ยนสร้อยครับ ความรู้สึกตอนนั่งสมาธิจิตดิ่งเร็วมาก ๆ และยิ่งเวลาแผ่เมตตาขนลุกแบบปิติมาก ๆ ครับ ตั้งแต่ห้อยพระผงยันต์ดวงหลวงปู่ดู่เหมือนคนอารมณ์ดีครับ ปกติผมค่อนข้างใจร้อน และเวลาทำงานหรือทำอะไรสักอย่างเหมือนกับสะดวก ไม่มีอุปสรรคอะไรเลยไปแบบเรียบง่ายครับ ใจจริงอยากขึ้นคอทั้งหลวงปู่หมุนและหลวงปู่ดู่เลย แต่ไม่รู้จะเข้าชุดยังไง ( ผมชอบสะสมพระเครื่อง ) และชอบห้อยแบบเดี่ยว ๆ ด้วย เฮ้ยกลุ่มเจออาการแบบรักพี่เสียดายน้องจริง ๆ แต่หลวงปู่ดู่ก็สุดยอดจริง ๆ ครับ
     
  14. bobbysoking

    bobbysoking เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2011
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +182
    ประสบการณ์พี่สุดยอดมากครับลฃ ผมก็อยากได้ยันต์ดวงของหลวงปู่แต่ไม่มีดอกาศจะได้เลยครับ ไม่ทราบว่าพี่เช่ามาแพงไหมครับ
     
  15. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,159
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,349

    ขอบคุณที่แวะมาเล่าสู่กันฟังครับ :)
     
  16. motana2008

    motana2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    4,929
    ค่าพลัง:
    +10,336
    ขอบคุณครับพี่บอย ชอบมาคติธรรมดีดีที่ให้ผมได้เรียนรู้
    ขอบคุณครับพี่ Jopaa พี่ให้ข้อคิดดีดีให้ผม และ ลูกหลานหลวงปู่ได้มีสติบูชา

    กราบพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ และ หลวงปู่ดู่ด้วยใจเคารพยิ่ง
    พุทธัง สรณัง คัจฉามิ

    ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ

    สังฆัง สรณัง คัจฉามิ
     
  17. แดงแก่น

    แดงแก่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2012
    โพสต์:
    359
    ค่าพลัง:
    +641
    เหรียฐทำน้ำมนต์หลวงปู่ศรี มีเหลือแจกบ้างไหมครับ สำหรับผู้มาใหม่ครับ
    ขอบพระคุณครับ
     
  18. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,201
    ขอเล่าประสบการณ์ล่าสุดนะครับคุณบอย ลูกชายผมอายุ 5 ขวบกว่า ๆ วันนั้นไปบ้านตา ตาชอบเอาใบมีดโกน 2 คม (ใบมีดโกนยิลเลต) มาตัดเชือก และสิ่งของต่าง ๆ คงลืมเก็บใส่ตะกร้าที่เดิม เจ้าลูกชาย เอามือไปหยิบแล้วกำมือมา ผมก็ดูว่าอะไร ปรากฎว่าเห็นเป็นใบมีดโกน ก็เลยบอกให้วางลง แล้วเอาไปทิ้ง น่าแปลกที่เด็กหยิบแล้วไม่บาดมือเด็ก ทั้ง ๆ ที่ใบมีดยังคมอยู่ ลูกชายผมแขวนเหรียญ ลป.ดู่ เหรียญเดียวครับ กราบหลวงปู่ดู่ ครับ
     
  19. motana2008

    motana2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    4,929
    ค่าพลัง:
    +10,336
    กราบหลวงปู่ดู่ครับ พระผู้มากล้นด้วยบารมี และ เมตตาล้นพ้น
    ประสบการณ์ไม่ธรรมดาเลยครับ ของผมเคยจับป๊าบเลือดอาบครับ แฮ่ๆ
     
  20. bobbysoking

    bobbysoking เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2011
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +182
    ประสบการณ์หลวงปู่เข้มจริงๆครับ ผมนับถือหลวงปู่มากครับ แต่ประสบการณ์ยังไม่ชัดเจนพอมาบอกเล่าครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...