นิพพานชาตินี้

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย thanan, 9 พฤศจิกายน 2004.

  1. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,024
    เพิ่งอ่านเจอ..ขอบคุณค่ะ
     
  2. thongchat

    thongchat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    482
    ค่าพลัง:
    +2,195
    เพิ่งเข้ามาอ่านเจอเช่นเดียวกัน

    ความจริงแล้วผมตั้งใจไว้ว่าจะไม่ถกเถียง หรือวิจารณ์กับใครเรื่อง พระนิพพาน เป็นอันขาด ทั้งนี้ก็เพราะว่า ที่ตั้งวงถกเถียงกันอยู่นี้ จำขึ้ปากเขา หรืออ่านจากหนังสือเล่มนั้น เล่มนี้มาแล้ว ทั้งนั้น ตัวเองศีล 5 มีครบหรือเปล่าก็ไม่ทราบ แต่ดันมาวิจารณ์เรื่อง พระนิพพาน ช่างน่าเวทนานัก

    แต่ถ้าจะอ้างว่าถึงแม้ฉันจะยังไม่ได้พระนิพพาน แต่ก็สามารถอาศัยการศึกษา สอบถาม นึกคิดตรึกตรองดู หรืออาศัยตรรกะพิจารณาได้ ก็ได้ครับ ผมก็จะอาศัยข้อนี้มาร่วมวงด้วยสักนิด

    พระท่านแบ่งการศึกษาพระศาสนาออกเป็น 3 อย่าง คือ ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ จะสังเกตได้ว่ากลุ่มที่บอกว่านิพพานสูญ นรกสวรรค์ไม่มี เป็นกลุ่มที่ศึกษาหนักทางด้านปริยัติ เกาะตำรา (ผมไม่ได้บอกว่าท่านไม่ได้ปฏิบัตินะครับ แต่บอกว่าศึกษาหนักทางด้านปริยัติ) อาศัยความจำแม่น โวหารดี ตีความตัวหนังสือเป็นฉากๆ ในขณะที่ฟากที่บอกว่าพระนิพพานไม่สูญ ส่วนใหญ่เป็นพระนักปฏิบัติ และเป็นนักปฏิบัติระดับที่เอาชีวิตเข้าเป็นเดิมพันกันเลยทีเดียว ดังนั้นปฏิเวธหรือผมการศึกษาปฏิบัติของทั้งสองกลุ่มจึงไม่เหมือนกัน เพราะเหตุปัจจัยไม่เหมือนกัน แต่ถ้าถามว่าแล้วจะเชื่อใครดี ก็ตอบว่า ถ้าจะให้ดีที่สุด คือฟังทั้งสอบฝ่าย แต่ไม่เชื่อใครเลย เพราะพระพุทธเจ้าท่านบอกว่าอย่าเพิ่งเชื่อจนกว่าจะได้ปฏิบัติเอง เห็นเอง (พระพุทธเจ้าให้ความสำคัญกับการปฏิบัติ)

    แล้วในระหว่างที่เรายังพึ่งตนเองไม่ได้นี้ จะฟังใครดี อุปมาว่า มีคนถามว่า ทะเลเป็นอย่างไร คนหนึ่งไม่เคยไปเคยแต่อ่านจากหนังสือก็บรรยายว่าทะเลกว้างใหญ่มาก มีแต่น้ำ น้ำทะเลเป็นสีฟ้า ฉะนั้นถ้าตักน้ำทะเลใส่ขวดมาก็จะมีสีฟ้า แต่อีกคนหนึ่งเคยผ่านทะเลมาแล้ว เคยไปว่ายน้ำในทะเลมาแล้ว เคยเล่นคลื่นมาแล้ว กินน้ำทะเลมาแล้ว ท่านจะเชื่อใคร หรือคนอยู่ในป่าหลังเขา ถ้ามีคนบอกว่า เคยไปในเมืองที่นั่นมีบันไดวิเศษ เราไม่ต้องก้าวเดิน แค่ยืนเฉยๆ ก็ขึ้นไปได้ หรือมีกล่องวิเศษ ชาวเมืองเรียกว่า ลิฟท์ เราเข้าไปในนั้นแล้ว กดปุ่ม กล่องนั้นก็จะพาเราขึ้นไปชั้นสูงๆ ได้ คนป่าหลังเขาก็ต้องว่าเราบ้าอย่างแน่นอน

    สรุปก็คือลงมือปฏิบัติเองเถอะครับ แล้วจะรู้เองเห็นเอง รู้อย่างไร เห็นอย่างไร ก็ให้เชื่ออย่างนั้น แล้วก็ไม่ต้องมาถกเถียง วิจารณ์กัน เพราะต่างคนอาจจะรู้และเห็นไม่เหมือนกันก็ได้ อ้าว! ถ้าอย่างนั้นใครถูกล่ะ ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ พระอรหันต์ สิ้นกิเลสแล้ว ยังมีตั้ง 4 ประเภท แล้วเถียงกันทำไม

    เอวัง ก้อมีด้วยประการฉะนี้
     
  3. pratanporn

    pratanporn สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +9
    ชอบมากเลยคะ ดีและมีประโยชน์ทุกเรื่องเลย อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ
     
  4. yutkanlaya

    yutkanlaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    865
    ค่าพลัง:
    +4,403
    (b-love2u) <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->กฎธรรมชาติ..ที่แท้จริง???


    จาก สูงสุด วัตถุ กาย จิต..กิเลส
    สู่ สามัญ จิต..บริสุทธิ์

    สรรพสิ่งในมหาสากลจักรวาล คือ สิ่งเดียวกัน???

    เท่าที่มนุษย์ ค้นพบ
    ดิน น้ำ ลม ไฟ
    ดวงดาว ป่าเขา แผ่นดิน ท้องฟ้า ทะเล แม่น้ำ สรรพสัตว์
    ประเทศ จังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน ครอบครัว คน สัตว์ สิ่งของ
    โมเลกุล อะตอม อิเล็กตรอน โปรตรอน นิวตรอน นิวตริโน อนุภาคแสง โฟตอน แกมมา อัลฟา ฯลฯ

    สิ่งที่เล็กที่สุด คือ อะไร????ทำจากอะไร????เกิดจากอะไร????จิต???

    สรรพสิ่งในมหาสากลจักรวาล

    ยึดกันอยู่อย่างไร??? ห่างกันเท่าใด???ใกล้ชิดแค่ไหน????
    เท่าที่มนุษย์คิดได้ มีตัวชี้วัด คือ ระยะ..
    ระยะทาง ระยะห่าง ระยะเวลา
    นั่นแสดงว่ามี
    ช่องว่าง ความว่าง ระหว่างสรรพสิ่ง
    ช่องว่าง ความว่าง ระหว่างทุกสรรพสิ่ง เป็น..ผืนเดียวกัน..เหมือนกัน????
    ...ย่อมเป็น..ผืนเดียว..อันเดียวกัน..จริงแท้แน่นอน...ทั่วทั้งสากลมหาจักรวาล
    ...ย่อมเป็น..ที่ตั้งอยู่ และ เปลี่ยนรูปไป..ไม่ดับ..ของ..ทุกสรรพสิ่ง ทั่วทั้งสากลมหาจักรวาล

    ในช่องว่าง ความว่าง ระหว่างสรรพสิ่ง มีอะไร????
    สรรพสิ่งยึดกันอยู่ด้วยอะไร????
    แรง?
    แรงดึงดูด
    แรงโน้มถ่วง
    แรงยึดเหนี่ยว
    แรงเกี่ยวพัน
    แรงสัญญา
    ฯลฯ


    จึงเห็นว่า
    ทุกสรรพสิ่ง ล้วน เกี่ยวข้อง สัมพันธ์กัน
    ทุกสรรพสิ่ง ประกอบด้วย วัตถุ+ช่องว่าง ซึ่ง บรรจุด้วย แรง ทำให้ ยึดติด สัมพันธ์กัน เฉกเช่น คน สัตว์ สิ่งของ ล้วนเกี่ยวข้อง ผูกพันกันและกัน มีผลต่อกันและกัน ต่อเนื่องกัน ไม่มีที่สิ้นสุด ดุจ ทฤษฎีปฏิจจสมุทปบาท ทฤษฎีสัมพันธภาพฯลฯ ทั้ง การกระทำ คำพูดและ ความคิด จิตใจ หรือนี่คือที่มาของคำว่า กฎแห่งกรรม


    ซึ่งเป็นไปตาม กฎธรรมชาติ เช่น
    ทฤษฎีแรงโน้มถ่วง ของนิวตัน
    ทฤษฎีแรงสัมพันธภาพ ของไอน์สไตน์
    ทฤษฎีปฏิจสมุทปบาท ของพระพุทธเจ้า
    ฯลฯ เท่าที่มนุษย์ คิดได้

    อยากถาม..มนุษย์อีกว่า
    จะแยกเขา แยกเรา แยกเผ่า แยกพันธุ์ แยกหมู่ แยกพวก แยกเชื้อ แยกชาติ แยกศาสนา แยกๆๆๆฯลฯ...ทำไม..????? ในเมื่อ..เราล้วนเป็นสิ่งเดียวกัน ตั้งอยู่บนช่องว่าง ความว่าง อันหนึ่งอันเดียวกัน มีแรงฯลฯยึดเหนี่ยวเกี่ยวพัน กันและกันๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    เมื่อใหร่???..จะยินยอมพร้อมใจ..และกลับคืน..สู่..สามัญ
    ธรรมชาติ ..สมดุลย์
    ธรรมดา ..สบายๆ..
    ด้วย..
    ธรรม ..สายกลาง
    อันหนึ่งอันเดียวกัน คือ ความ..รัก..ดี..ที่จิต..กาย..พอดี พอเพียง..ต่อสรรพสิ่ง
    สู่..
    ความว่าง..ช่องว่าง..จิต..บริสุทธิ์..ดั่งเดิม..นิพพานัง..จิตจักรวาลหนึ่งเดียว

    วิธีการ นั้นมีอยู่แล้ว ฟรีๆ ทุกๆที่ ทุกๆเวลา ขณะจิต

    หรือนี่คือ???
    กฎแห่งความจริงแท้ แน่นอน ของมหาสากลจักรวาล
    (b-love2u) (b-cry) (b-lablin) (b-love2u)
     
  5. เปลือกไม้

    เปลือกไม้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2007
    โพสต์:
    15,448
    ค่าพลัง:
    +39,087
    ถ้าท่านละความชั่ว ทำแต่ความดี และทำจิตใจให้ผ่องใส เท่ากับท่านเดินทางสู่ถนนสายนิพพานแล้ว ขออนุโมทนากับผู้ปฏิบัติธรรมทุกท่านครับ
     
  6. thanan

    thanan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,666
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +5,210
    เผื่อใครยังไม่ได้อ่าน
     

แชร์หน้านี้

Loading...