ท่านทั้งหลาย สติและปัญญา อยู่ขันธ์ไหนครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย thepkere, 20 กรกฎาคม 2012.

  1. thepkere

    thepkere เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,018
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,449
    อชิตปัญหาที่ ๑
    [๔๒๕] อชิตมาณพทูลถามปัญหาว่า
    โลกคือหมู่สัตว์อันอะไรหุ้มห่อไว้ โลกย่อมไม่แจ่มแจ้งเพราะอะไร
    พระองค์ตรัสอะไรว่า เป็นเครื่องฉาบทาโลกไว้ อะไรเป็นภัยใหญ่ของโลก
    นั้น ฯ
    พระผู้มีพระภาคตรัสพยากรณ์ว่า ดูกรอชิตะ
    โลกอันอวิชชาหุ้มห่อไว้ โลกไม่แจ่มแจ้งเพราะความตระหนี่(เพราะ
    ความประมาท) เรากล่าวตัณหา ว่าเป็นเครื่องฉาบทาโลกไว้ ทุกข์เป็น
    ภัยใหญ่ของโลกนั้น ฯ
    อ. กระแสทั้งหลายย่อมไหลไปในอารมณ์ทั้งปวง อะไรเป็นเครื่องกั้นกระแส
    ทั้งหลาย ขอพระองค์จงตรัสบอกเครื่องกั้นกระแสทั้งหลาย กระแสทั้ง
    หลายอันบัณฑิตย่อมปิดได้ด้วยธรรมอะไร ฯ
    พ. ดูกรอชิตะ สติเป็นเครื่องกั้นกระแสในโลก เรากล่าวสติว่าเป็นเครื่อง
    กั้นกระแสทั้งหลาย
    กระแสเหล่านั้นอันบัณฑิตย่อมปิดได้ด้วยปัญญา ฯ
    อ. ข้าแต่พระองค์ผู้นิรทุกข์ ปัญญา สติ และนามรูป ธรรมทั้งหมดนี้ย่อม
    ดับไป ณ ที่ไหน พระองค์อันข้าพระองค์ทูลถามแล้ว ขอจงตรัสบอก
    ปัญหาข้อนี้แก่ข้าพระองค์เถิด ฯ

    พ. ดูกรอชิตะ เราจะบอกปัญหาที่ท่านได้ถามแล้วแก่ท่าน นามและรูปย่อม
    ดับไปไม่มีส่วนเหลือ ณ ที่ใด สติและปัญญานี้ย่อมดับไป ณ ที่นั้นเพราะ
    ความดับแห่งวิญญาณ ฯ

    อ. ชนเหล่าใดผู้มีธรรมอันพิจารณาเห็นแล้ว และชนเหล่าใดผู้ยังต้องศึกษา
    อยู่เป็นอันมากมีอยู่ในโลกนี้ ข้าแต่พระองค์ผู้นิรทุกข์ พระองค์ผู้มี
    ปัญญารักษาตน อันข้าพระองค์ทูลถามแล้ว ขอจงตรัสบอกความเป็นไป
    ของชนเหล่านั้นแก่ข้าพระองค์เถิด ฯ
    พ. ภิกษุไม่กำหนัดยินดีในกามทั้งหลาย มีใจไม่ขุ่นมัว ฉลาดในธรรม
    ทั้งปวง มีสติ พึงเว้นรอบ ฯ
    จบอชิตมาณวกปัญหาที่ ๑
    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๒๕
    พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
    หน้าที่ ๓๙๗/๔๑๘
     
  2. thepkere

    thepkere เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,018
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,449
    [๑๖๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ประการอื่นยังมีอีก สารีบุตรล่วงเนวสัญญานาสัญญายตนฌาน
    โดยประการทั้งปวงแล้ว เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธอยู่ เพราะเห็นด้วยปัญญา อาสวะของเธอจึงเป็น
    อันสิ้นไป เธอย่อมมีสติออกจากสมาบัตินั้น ครั้นแล้วย่อมพิจารณาเห็นธรรมที่ล่วงแล้ว ดับแล้ว
    แปรปรวนไปแล้วว่า ด้วยประการ นี้ เป็นอันว่า ธรรมที่ไม่มีแก่เรา ย่อมมี ที่มีแล้ว ย่อมเสื่อมไป
    เธอไม่ยินดีไม่ยินร้าย อันกิเลสไม่อาศัย ไม่พัวพัน พ้นวิเศษแล้ว พรากได้แล้วในธรรมนั้นๆ
    มีใจอันกระทำให้ปราศจากเขตแดนได้แล้วอยู่ ย่อมรู้ชัดว่า ยังมีธรรมเครื่องสลัดออกยิ่งขึ้นไปอยู่
    และมีความเห็นต่อไปว่า ผู้ที่ทำเครื่องสลัดออกนั้นให้มากก็มีอยู่ ฯ
    [๑๖๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ผู้กล่าวชอบ พึงกล่าวชมภิกษุรูปใดว่า เป็น ผู้ถึงความชำนาญ
    ถึงความสำเร็จในอริยศีล ในอริยสมาธิ ในอริยปัญญา ในอริยวิมุติ ภิกษุรูปนั้นคือ สารีบุตรนั่นเอง
    ผู้ที่กล่าวชอบ พึงกล่าวชมว่า เป็นผู้ถึงความชำนาญ ถึงความสำเร็จในอริยศีล สมาธิ ในอริยปัญญา
    ใน อริยวิมุติ ฯ
     
  3. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    ข้างบนนี้ กล่าวว่า อาสวะสิ้นไปในขณะที่อยู่ในสัญญาเวทยิตนิโรธน

    ทีนี้ ตอนออกสมาบัติ สัญญเวทยิตนิโรธน นั้น ต้อง รักษาสติ ให้ได้
    เพื่อ ตามเห็น แม้น สัญญาเวทยิตนิโรธน ก็เป็นของที่ เกิดขึ้น ตั้งอยู่
    และดับไป ............. เพื่อให้เกิดสติไม่หลงลืม หรือ สำคัญผิดไป
    ว่า อาสวะได้สิ้นไปแล้ว

    จริงๆแล้วไม่ใช่ อาสวะสิ้นไปก็ต่อเมื่ออยู่ในสัญญาเวทยิตนิโรธน
    แต่ถ้าออกมาจากสมาบัติ อาสวะก็กลับมาเหมือนเดิม และ.....

    ตัวสัญญาเวทยิตนิโรธนเอง ก็เป็น ธรรมที่เกิดดับ

    หาก "เพลินในธรรมใดๆ** " ก็ชื่อว่า "วิญญาณ" ยังมีอยู่ เพราะ นามรูป ย่อมมี
    อยู่อันเกิดจากความ "เพลิน"

    ดังนั้น

    พระสารีบุตร จึงทำสัญญาเวทยิตนิโรธน ภายในเสี้ยวเวลา หนึ่งลมหายใจ ได้แสนโกฏ
    ขณะ คือ ตามเห็นความเกิดดับ ของตัว สัญญาเวทยิตนิโรธน ว่าเป็น สิ่งเสื่อม และ
    ดับเป็นธรรมดา

    ทำให้ พระโมคคัลลานะ ก็เทียบไม่ได้ในความสามารถ(ชำนาญ)ทางด้าน "สัมมาสมาธิ"
    ที่พระสารีบุตรมี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กรกฎาคม 2012
  4. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    ท่านทั้งหลาย สติและปัญญา อยู่ขันธ์ไหนครับ ?

    วิสัชชา. สติกับปัญญา เป็นสังขารขันธ์ครับ<!-- google_ad_section_end -->
     
  5. thepkere

    thepkere เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,018
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,449
    ถ้าได้คำอธิบายสักหน่อยจะดีมากเลยครับ จะได้เป็นธรรมทานกับผมและทุกคนที่ยังไม่รู้
     
  6. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    เกรงว่าจะไม่ใช่ ธรรมทาน อะสิ

    น่าจะจัดเป็น กรรมอาน มากกว่า

    เพราะ หาก ถามอากู๋นิดหน่อย เนี่ยะ จะเห็น บทความจำนวนมาก
    เขาเขียนทำนองเดียวกันหมดว่า เป็น สัญญาขันธ์

    เกิดขึ้นชั่วคราวแล้วดับไปทันที ไม่มี การปรากฏเป็น วิบาก

    คือ ทำหน้าที่เฉพาะกิจตรงหน้า แล้ว ก็สลายหายไปเลย

    ***********

    ทีนี้ ก็จะเห็น บทอนุโลมเรียก ตามท้ายการจัดว่าเป็น สัญญาขันธ์ ว่า

    จัดเป็น สังขารขันธ์ก็ได้ เพราะ บางครั้งใช้เจตคติน้อมไปสู่การมีได้

    ไอ้ตรงการใช้ เจตคติ สร้าง สติ สร้าง ปัญญา ได้ ตรงนี้ เป็นการอนุโลม
    ด้วยความ ฉ้อฉล ต่อธรรมะ

    คือ พยายามจะยัด ปัญญาแบบปุถุชนผู้ขาดการสดับ ให้กลายเป็น ปัญญาขันธ์

    พยายามจะยกหางปุถุชนธรรมดาๆ ให้มี วิชชา8 ( ปัญญาขันธ์ )

    ซึ่งจะเห็นชัดเลยว่า เป็นเรื่อง พวกขี้ฉ้อเท่านั้น ที่จะกล่าวอนุโลมว่า เป็นสังขารขันธ์
     
  7. thepkere

    thepkere เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,018
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,449
    [๔๖๔] ธรรม ๙ อย่างที่ควรทำให้แจ้งเป็นไฉน ได้แก่อนุบุพพนิโรธ ๙ คือ เมื่อเข้า
    ปฐมฌาน กามสัญญาดับ เมื่อเข้าทุติยฌาน วิตกวิจารดับ เมื่อเข้าตติยฌาน ปีติดับ เมื่อเข้า
    จตุตถฌาน ลมอัสสาสปัสสาสะดับ เมื่อเข้าอากาสานัญจายตนฌาน รูปสัญญาดับ เมื่อเข้า
    วิญญาณัญจายตนฌาน อากาสานัญจายตนสัญญาดับ เมื่อเข้าอากิญจัญญายตนฌาน วิญญาณัญ
    จายตนสัญญาดับ
    เมื่อเข้าเนวสัญญานาสัญญายตนฌาน อากิญจัญญายตนะดับ เมื่อเข้าสัญญา
    เวทยิตนิโรธ สัญญาและเวทนาดับ
    ธรรม ๙ อย่างเหล่านี้ควรทำให้แจ้ง ฯ
    ธรรม ๙๐ ดังพรรณนามานี้ เป็นของจริง แท้ แน่นอน ไม่ผิดพลาด ไม่เป็นอย่างอื่น
    อันพระตถาคตตรัสรู้แล้วโดยชอบ ฯ

    (ผมว่า ลุงหมาน น่าจะตอบถูกนะ) สารีบุตรล่วงเนวสัญญานาสัญญายตนฌาน
    โดยประการทั้งปวงแล้ว เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธอยู่ เพราะเห็นด้วยปัญญา อาสวะของเธอจึงเป็น
    อันสิ้นไป เธอย่อมมีสติออกจากสมาบัตินั้น

    ถ้าสติและปัญญาอยู่ในสังขาร
    สติและปัญญาก็เป็นธรรมที่ถูกปรุงแต่ง ผมเข้าใจถูกหรือเปล่า
     
  8. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    ก็ตามที่บอกนั่นแหละ หากเราใช้รส อรรถ และ ภูมิบรรดามี จากเรา
    ซึ่งขออนุญาติปรักปรำว่า เป็นปุถุชน มันจะมองข้ามไปไม่ได้ ย่อม
    สำคัญว่า เป็นสิ่งปรุงแต่ง เพราะ ใช้ เจตคติ สร้างขึ้นมา ปุถุชน
    ย่อมอาศัยปัญญาแบบนี้

    แต่.............ปัญญาของศาสนา ที่เหนือไปกว่า ปัญญาของปุถุชน
    มีอยู่ คือ "โยนิโสมนสิการ" ตัวนี้หากแปลเอาดื้อๆ จะคิดว่าเป็นเรื่อง
    ใคร่ครวญตรึกเอาได้

    แต่ถ้าเราไม่ได้ประมาทธรรมแบบนั้น เราจะรู้ว่า โยนิโสมนสิการ นั้น
    ลึกซึ้ง ละเอียด และ ปราณีตกว่า การคิดๆนึกๆ เพราะ มีความรวดเร็ว
    คล่องแคล้วกว่า เหมือนเราอยู่ห่างระฆังพันลี้แต่ยังได้ยินเสียงระฆัง
    นั้นได้ [ เอามาจาก บทว่าด้วยเจโตปริญญาณ ]

    ดังนั้น หากเราเอาปัญญาปุถุชนมาตรอง เราจะเห็นว่า ปัญญา สติ เป็น
    สังขารขันธ์ จะเห็นเป็นอื่นไม่ได้เลย

    แต่ถ้าเอาไตรลักษณ์ญาณมาพิจารณาร่วมแล้ว สังขารขันธ์เป็นเพียง
    สิ่งที่คนไม่เคยสดับธรรมะเท่านั้น จะพิจารณาได้ เพราะ กว่านั้นมีอีก
    คือ สัญญาขันธ์

    ถ้าไวกว่านี้ ก็จะรู้ อุปทานขันธ์

    พอรู้ว่า อุปทานขันธ์เป็นอย่างไร จะไม่มาเสียงเวลาถามว่า สติ ปัญญา จัดลง
    กองใดในขันธ์5 อีก จะยกเฉพาะ ศีลขันธ์ ปัญญาขันธ์ วิมุตติขันธ์ ขึ้นมาเพิ่มเติม
    ให้ สมควรกับธรรมะ
     
  9. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    หรือ คุณจะดูอีกทีก็ได้ ว่า ไม่มี พระภิกษุองค์ไหนๆ ถามกันและกันว่า

    ท่านภาวนาอย่างไรหนอ ท่านเห็นสังขารเกิดอย่างไรหนอ ท่านเห็นสังขารดับอย่างไรหนอ

    จะมีแต่สำนวนถามกันและกันว่า สัญญาเกิดอย่างไรหนอ สัญญาดับอย่างไรหนอ

    หรือ ดูกรรมฐาน10 ในหมวด สัญญา10 ก็ได้

    จะเห็นเลยว่า ไม่มีการจัด หรือ ยกว่า สังขาร10

    ดังนั้น พวกที่ระบุว่า การภาวนา การเจริญสติ เจริญปัญญา เป็นเรื่อง สังขาร อันนั้น
    ก็เรียกว่าเป็นพวก ปุถุชนดนดี ธรรมดาๆ หรืออาจจะเรียกว่า ปุถุชนไม่เคยสดับ ก็ได้
     
  10. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    จริงๆ ผมก็ กะจะทำชั่วแต่เช้าแล้ว

    ตอนที่เห็น คุณกดอนุโมทนา ก็ว่าจะทักแล้วหละว่า ที่กดอนุโมทนาได้
    ก็เพราะว่า มีปัญญาเสมอกัน แล้วผมก็จะกล่าวล่วงเลยไปอีกว่า "ลุงหมาน
    แก่เป็นนักพอใจในการกล่าวคาถาปากเปล่า" เป็นเพียงนักคิดชั้นยอดเท่านั้น

    เหตุนั้นเขาจึง สรรเสริญ สังขารขันธ์ ว่าเป็น สุดยอด หรือ ที่สุดแห่งโลก หรือ ชีวิตา

    คนที่อนุโมทนา จึงต้องถือว่า ไม่ต่างกัน เสมอกัน ด้วยการ คิดเอาว่าปฏิบัติ

    เช่น ปากพูดว่า สัญญาเวทยิตนิโรธน ปั๊ป ก็ให้รู้สึกแล่นไปว่า รู้จักแล้ว รู้ถ้วนแล้ว
    ทั้งๆที่ เป็นเขม่าความคิดเท่านั้น
     
  11. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    จัดเป็นสังขารขันธ์ครับ

    เป็นกุศลธรรมครับ

    เกิดแต่ปัจจัยครับ ดับแต่ปัจจัยครับ

    ขึ้นขื่อว่าขันธ์ ล้วนเป็นทุกข์ เพราะไม่เที่ยงครับ
     
  12. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    ลุงขันธ์ เต็มๆ กั๊ก กั๊ก กั๊ก
     
  13. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ดีแล้วจิตตินนท์ ^^

    นานๆมีบทพูดก็พูดตามที่รู้สึกนั้นแล
     
  14. thepkere

    thepkere เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,018
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,449
    ทุกคนที่เข้ามาผมถือว่าท่านให้ความรู้ครับผมยังโง่อยู่เยอะ
     
  15. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    ทำบ่อยๆ จะได้จำได้ (k)
     
  16. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ดีแล้วจิตตินนท์ ^^

    เอาออกเยอะๆ :cool:
     
  17. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    เอาอะไรออก เหรอครับพี่หลง
    แล้วเยอะๆนี่ ขนาดไหนครับ
    ดีแล้ว จิตตินนท์ ดีแล้วยังไงเหรอครับ
    ^^ จำได้แล้วครับ ว่าเป็น หลงเข้ามา
     
  18. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    แต่....อ่านหนังสือ แล้ว บรรลุธรรมได้ นี่มีระบุนะ ถ้าจำไม่ผิดเนี่ยะ มีระบุในพระไตรปิฏก

    ความเป็นไปได้ก็มีอยู่ ไม่ใช่ไม่มีอยู่ เช่น

    อ่านหนังสือแล้วเกิดปิติ และ เกิดสุข ตัวเบา จิตโล่ง อันนี้ให้รู้เลยว่า จิตมีราคะ

    อ่านหนังสือแล้วเกิดปิติ ไม่มีสุข แต่ มีปัสสัทธิ สงบระงับ อันนี้ก็รู้ไปเลยว่า จิตไม่มีราคะ

    ทีนี้ หากเคยสังเกต เวลาจิตมีปิติ อ่านหามรุ่งหามค่ำได้ มีความสงบ รำงับดี ไอ้มือ
    ไม้ เท้าขา ตัว มันจะ ยุ๊กยิ๊ก โดยไม่รู้ตัวบ้าง รู้ตัวบ้าง ตอนไหน รู้ตัวว่ากำลังยุ๊กยิ๊ก
    ก็ให้รู้ไปเลยว่า จิตมีปฏิฆะ ถ้าไม่แกะ ไม่เกา ไม่แคะ ไม่เคอะ ไม่กระดก ไม่กระดิก
    ก็รู้ไปเลยว่าจิตไม่มีปฏิฆะ

    ถัดจากนี้ จะง่วงละ จะมีการท้อถอยละ นี่ก็กำลังรบกับกิเลสอย่างกลาง ให้ระลึกรู้
    ไปด้วย

    พอทำได้แบบนี้ คราวนี้ก็แค่ ย้อนมาดู การฟู การแฟบ

    ซึ่งก็ดูจาก "อาการสมจริง" กับ การอ่าน การคิด เช่น อ่านบัญญัติ สัญญาเวทยิตนิโรธน
    แล้ว มันเกิดความรู้สึกสมจริงขึ้นมา อันนี้เราก็ดูไปเลย จิตมีโมหะ พอดูจิตมีโมหะจาก
    การรู้สึกสมจริงไปกับความคิด แบบนี้ก็ภาวนาได้เข้าขั้นเหมือนกัน ดูโมหะเนืองๆแบบนี้
    ย่อมทำความสมควรแก่ธรรมได้ ไม่มากก็น้อย

    จะเห็นว่า ไม่ห้ามอะไรทั้งนั้น ทุกคนสามารถมีวิหารธรรมตามที่คลุกเคล้าแล้วเกิดปิติ
    ได้ง่าย ได้เลย ในเบื้องต้น เพื่อไม่ให้ประมาท .............ใส่ในเบื้องต้น เสียหน่อย
    เป็นการ ทำ x ที่มือ
     
  19. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ดีแล้วจิตตินนท์ ^^

    ที่รู้จัก หลงเข้ามา
     
  20. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    มีแต่ทุกข์ เท่านั้น ที่เกิด หลงเข้ามา
    วนแล้ว ไปดีกว่า
     

แชร์หน้านี้

Loading...