ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. kb 2500

    kb 2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +873
    ต้องแนวนี้ ฮาร์ดคอร์ ครับท่านเกษม ช่างสรรค์หานำมาลงให้รู้ขอบคุณครับ แต่ประโยชน์ทางเพิ่มรอยหยักสมองและปัญญา น้อยไปนิดครับ หามาให้เพิ่มก็คงจะแจ่มครับ
     
  2. ตั่วเฮีย

    ตั่วเฮีย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    222
    ค่าพลัง:
    +259
    จงอยู่กับปัจจุบัน
    จงมีสติในทุกขณะ
    จงมีอุเบกขาในทุกขณะ
    จงอยู่กับปัจจุบัน........
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.1 ริกเตอร์ ที่ประเทศพม่า !!!

    engineer03 สมาชิก

    มีรายงานจากสถานีวัดความสั่นสะเทือน จังหวัดเชียงใหม่ ว่าเวลา 00.59 น. 26-02-2013 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.1 ริกเตอร์ ที่ประเทศพม่า

    [​IMG]
    [​IMG]

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ประกาศ...ช่วงนี้จับตารอยเลื่อนสะแกงพม่า.51734/page-708
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กุมภาพันธ์ 2013
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    แผ่นดินไหว 5.7 ริกเตอร์ ถล่มญี่ปุ่นสะเทือนถึงตึกสูงกลางกรุงโตเกียว

    [​IMG]

    forest60 สมาชิก

    เอเอฟพี - ผู้เชี่ยวชาญเผยวันนี้ (25 ก.พ.56) เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.7 ริกเตอร์ ถล่มญี่ปุ่น ทำให้อาคารสูงหลายแห่งในเมืองหลวงสั่นไหว แต่ยังไม่มีความเสี่ยงที่จะเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ

    สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเครายงานว่า ไม่มีความผิดปกติใดๆ เกิดขึ้นที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ต่างๆ ที่อยู่ใกล้กับศูนย์กลางแผ่นดินไหว ทางตอนเหนือของกรุงโตเกียวแต่อย่างใด ขณะที่ตึกหลายแห่งใจกลางเมืองหลวงแห่งนี้สั่นสะเทือนอยู่ราวครึ่งนาทีทีเดียว

    ด้านสำนักสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ ระบุว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.23 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือราว 14.23 น.ตามเวลาของไทย โดยมีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองมาเอบาชิไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 57 กิโลเมตร และห่างจากกรุงโตเกียวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 143 กิโลเมตร ณ ระดับความลึก 9 กิโลเมตร

    ก่อนหน้านี้ สำนักอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นรายงานว่า แผ่นดินไหวดังกล่าวมีระดับความรุนแรงอยู่ที่ 6.2 ริกเตอร์

    ส่วน ทาคายูกิ ฟูคูดะ เจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงเมืองนิกโกะ ในจังหวัดโทชิกิ ซึ่งอยู่ใกล้กับศูนย์กลางแผ่นดินไหวเผยผ่านทางโทรศัพท์ว่า แรงสั่นสะเทือนในครั้งนี้เกิดขึ้นในหลายจุดของเมือง ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม

    “แผ่นดินไหวอยู่ราว 10 นาที ไม่มีอะไรตกจากชั้น ไม่มีกระจกหน้าต่างบานใดแตก ไม่มีรายงานเกิดเพลิงไหม้ และเรากำลังเตรียมการเพื่อออกสำรวจทั่วเมือง” ฟูคูดะเผย

    เขาระบุว่า ก่อนหน้านี้มีรายงานกำแพงอาคารแห่งหนึ่งในเมืองถล่มลงมากจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่ยังไม่ทราบจำนวน

    นอกจากนี้ เอ็นเอชเคยังรายงานว่า รถไฟหัวกระสุนหลายขบวนต้องหยุดให้บริการเป็นการชั่วคราว แต่ก็กลับมาเดินทางได้อีกครั้งในเวลาต่อมาไม่นาน

    ทั้งนี้ ญี่ปุ่นมักเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงบ่อยครั้ง และได้ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานส่วนใหญ่ของประเทศให้รองรับแรงสั่นสะเทือน ที่อาจจะสร้างความเสียหายได้อย่างมากในประเทศที่ด้อยพัฒนากว่า

    manager.co.th วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2556

    ที่มา http://palungjit.org/threads/แผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น-6-2-ริกเตอร์-ไม่มีคำเตือนสึนามิ.451683/
     
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    มาพักสมอง..แกะภาพปริศนาธรรมกันบ้างดีกว่านะคะ !!!

    [​IMG]

    natatik สมาชิก

    มาพักสมอง แกะภาพปริศนาธรรมกันบ้างดีกว่านะคะ อิอิ ขอบคุณ Falkman มาแฝงกระทู้นี้ชั่วคราวก่อนนะคะ

    พิจารณาจากภาพที่เป็นปริศนาธรรมพระมหาชนก จากที่ได้มีการวิเคราะห์จากหลายท่านว่า ภาพในจอคอมพิวเตอร์นั้น น่าจะสื่อถึงเหตุการณ์อุกกาบาตที่พึ่งตกไป โดยมีชายคนหนึ่งนอนดูความวุ่นวาย จากการสู้รบแก่งแย่งของชาติอื่น อย่างสะดวกสบายในศาลา มีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า แต่หารู้ไม่ว่ากำลังเกิดไฟไหม้ที่บนหลังคาศาลาของตัวเอง

    (คิดว่าน่าจะเป็นญี่ปุ่น สังเกตุจากทรงหลังคาของศาลา และ ผ้าคาดหัว) และมีการสื่อภาพไฟ จากภาพสามเหลี่ยมปิรมิตที่วางอยู่ข้างศาลา

    ภาพชาวพม่าที่กำลังปีนบันไดสูงเพื่อที่จะข้ามกำแพง โดยมีผู้หญิงขี่ม้าคอยยิงธนูคุ้มกันอยู่ มีการเซ็นสัญญาหรือเอกสารอะไรสักอย่าง ที่เกิดจากชาวต่างชาติตะวันตก สังเกตจากภาพมุมบนขวา

    สังเกตได้ว่า จะเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวาย รบราฆ่าฟันกัน ซึ่งแสดงถึงความขัดแย้งของแต่ละชนชาติ เน้นรอบ ๆ ประเทศเรา ดูจากการแต่งกาย แม้แต่ชาติเดียวกันเองก็มีการสู้กัน

    ภาพทหาร ซึ่งแบ่งเป็น 2 คน ที่มีความแตกต่างกันในแบบฟอร์ม ภาพทหารคนแรก ไม่ได้แต่งชุดเต็มยศ ชูมือ 2 นิ้ว แสดงสัญลักษณ์สู้ตาย ปราศจากอาวุธ ภาพทหารคนที่ 2 แต่งเต็มเครื่องแบบ ถือปืนยืนคุม คนสองคนที่ถูกจับมัดแขนไพล่หลัง

    สังเกตุคนที่ถูกมัดแขนคนแรกในมือถือธงสีขาว ด้านซ้ายมือของเค้ามีป้ายคล้ายกับป้ายประท้วง หรืออะไรสักอย่างที่ปักอยู่ด้านซ้ายมือ ส่วนอีกคนถูกมัดมือไพล่หลังนั่งทับอะไรอยู่ก็ไม่รู้

    ส่วนภาพที่แม่กำลังอุ้มลูกที่กำลังงองแง อยู่นั้น เราเดาว่าคงจะมีโรคระบาด
    ที่เกี่ยวข้องกับเด็ก ๆ ค่ะ

    ที่มา http://palungjit.org/threads/สิ่งที...ารณ์ที่จะเกิดขึ้นในปี-2013-๒๕๕๖.444502/page-2
     
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เรื่องร้ายแรงที่กำลังจะเกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา !!!

    [​IMG]

    ped2011 สมาชิก

    ใครว่างก็ลองแกะระหัสสิ่งต่างๆ ที่มีการบอกใบ้เอาไว้ที่สนามบินนานาชาติเดนเวอร์? ส่วนตัวผมมองว่าเป็นการบอกใบ้ของ

    - ดัจญาล

    - แอนตี้ ไครส์ (Antichrist) หรือมาร

    - มันผู้นั้น

    - ฯลฯ


    ...วิดีโอเกี่ยวกับภาพจิตรกรรมฝาผนังของสัญลักษณ์ ภาพจิตรกรรมฝาผนังเหล่านี้เป็นคำเตือน? ถึงสิ่งที่เกี่ยวกับความชั่วร้ายที่จะมาในเร็วนี้หรือไม่? มีฐานบัญชาการด้านล่างใต้ดินสนามบินหรือไม่?
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=3h14D6TQ8Rc&feature=player_detailpage]New World Order Denver International Airport - YouTube[/ame]
    อเมริกาวันนี้มีการเตรียมโลงศพเอาไว้ในหลายๆพื้นที่มาได้เป็นระยะเวลาหนึ่ง คำถามว่า เขาจัดเตรียมรอไว้ทำไมมากมายขนาดนั้น ? [ame=http://www.youtube.com/watch?v=EeU19jcdrK8&feature=player_detailpage]AMERICAN HOLOCAUST AND THE COMING NEW WORLD ORDER - YouTube[/ame]
    .เมื่อมองดูสถานการณ์ในปัจจุบัน ทำให้ทฤษฏีเรื่อง NWO เด่นชัดเพิ่มมากขึ้น เป็นไปได้ว่าโลงศพเหล่านี้ อาจจัดเตรียมรอไว้สำหรับเหตุการณ์ความวุ่นวายของประเทศหลังล่มสลายทางเศรษฐกิจ เกิดการลุกฮือของประชาชน ต่อต้าน ก่อความไม่สงบ นี้เป็นสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้หรือไม่? หรือผู้บงการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังจะประกาศ NWO หรืออย่างไร?

    ...จากเหตุการณ์ที่มีการกราดยิงเด็กและผู้หญิง กูรูหลายท่านบอกว่า เป็นการสร้างสถานการณ์ขึ้นเพื่อจะได้ออกกฏหมายควบคุมอาวุธปืน และเพื่อเรียกเก็บอาวุธคืนจากประชาชน ..งานนี้หากมีเหตุการณ์ใดๆ ที่ประชาชนมะกันต้องการใช้อาวุปืนต่อสู้ พวกเขาหมดสิทธิ์.

    - มีการมอบอำนาจสิทธิพิเศษให้กับตำรวจ พร้อมอาวุธหนักเข้าประจำเมืองใหญ่ๆ คล้ายๆกับจะมีการเตรียมรับมือกับการก่อเหตุร้ายแรง Military equipment flowing to local law enforcement raises questions | Aftermath News

    - มีการฝีกซ้อมรบร่วมระหว่างกระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคงภายในอื่นๆ [ame=http://www.youtube.com/watch?v=ttrOTiJhl_c]Martial Law Drills conducted in Miami Florida. - YouTube[/ame] [ame=http://www.youtube.com/watch?v=Q0Ii2whfrvY]DHS ~ MASSIVE CIVIL WAR! Preparations Underway - YouTube[/ame] [ame=http://www.youtube.com/watch?v=Smmu8DGv7-g]Massive Army Drill in Texas Scares Residents - YouTube[/ame]
    - กฏหมายใหม่มอบอำนาจให้นำเครื่องบินไร้คนขับ พร้อมติดอาวุธหนักอย่าง Predator Drone เป็นจำนวนมาก แต่พวกเขาบอกประชาชนของตัวเองว่า เป็นเครื่องบินตรวจการณ์.Drones are taking to the skies in the U.S. - latimes.com

    - การมาของอุกาบาตที่รัสเชีย ยังคลุมเครือว่าที่แท้แล้ว เป็นการทดสอบอาวุธของอเมริกาหรือไม่ และหรือว่ามันเป็นการส่งสัญญาณการบุกของ เอเลี่ยน ที่ก่อนหน้านี้มีการนำเสนอมากมายในท้องฟ้าหลายๆประเทศ

    - ที่น่าแปลกพันธมิตรของอเมริกาอย่างอังกฤษ มีการสะสมอาวุธแปลกไว้ต่อสู้เอลี่ยน ที่อาจมาบุกโลก Britain has alien-war weapons, says former government adviser - Exclusive video and images from MSN News

    ..จากหลายเหตุการณ์ทั้งหมดรวมทั้งภัยพิบัติต่างๆแปลกๆ ที่เกิดขึ้นมากมายบนโลกอย่างไม่ทราบต้นเหตุที่แท้จริง หลายฝ่ายบอกว่ามาจากฝีมือมนุษย์! ผลพวงจากการกระทำทั้งหมดที่เกิดขึ้น อาจเป็นการบอกกล่าวกันล่วงหน้าให้เราได้สังเกตุ ยืนยัน และให้เตรียมตัวถึงสิ่งที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่ช้า.

    ที่มา http://palungjit.org/threads/สิ่งที...ารณ์ที่จะเกิดขึ้นในปี-2013-๒๕๕๖.444502/page-2
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กุมภาพันธ์ 2013
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    การอุบัติในมิติใหม่ของพระพุทธองค์ !!!

    [​IMG]

    ว่าด้วยคำทำนายเกี่ยวกับบ้านเมือง

    เมื่อศตวรรษโลกจักได้เสื่อม พระศาสนา มีราชาองค์น้อยหายใจบ่ทั่วท้อง เข้ามาเชิดชู คนจักมรณาม้วน สูญพันธ์เมิดเผ่า พระเจ้าอุบัติเกิดขึ้นแล้ว เมืองนั้นเปลี่ยนแปลง เมืองเหนือหากสิขึ้น เมืองกลางหากปั่นป่วน ทาง ในเกิดเดือดร้อนหวังฆ่าแต่กัน ต่อจากพระวรรษา ๒๕๕๐ นี้ พระยาสิเริ่มใหญ่ เมืองนั้นกะสิ ได้เปลี่ยนแปลง มีขาวมีดำ สมกันเกิดโลกใหม่ ยุคศิวิไล พระสีส้มโยมสีเหลืองเมิดหมู่ โห่โห่ก้องขึ้นสู่สุวรรณภูมิ คงความเห็น ดั่งเดียวคำย้อง พุทธองค์ลงมาโปรด ดูราโลกใหม่ คนโฮมไหลหลั่งเต้า มาเผ้า (เฝ้า) ต่อพระองค์ จักกล่าวเรื่องไว้ให้พอเป็นสังเขป มีเสนาทั้งเจ็ดอยู่วังมาตุ้ม พระยามู แลมะตู วือว็อด อองค็อย องกา เสนา อ็องกุด

    (หลังจากพ้นกึ่งพุทธกาลไปแล้ว โลกเสื่อมโทรมลงมาก หมายถึงทุกๆด้านรวมทั้งจิตใจมนุษย์ และสิ่งแวดล้อมก็เสื่อมโทรม ด้วยการเบียดเบียนธรรมชาติของมนุษย์ที่ไม่ได้คำนึงว่าธรรมชาติเป็นแม่บังเกิดเกล้า เกิดมาแล้วสร้างเทคโนโลยี่เอาชนะธรรมชาติ คิดว่าลูกต้องเก่งกว่าแม่ พากันลืมตัวเสมือนเป็นวัวลืมตีน มีความหลงผิดเป็นมิจฉาทิฐิ ส่วนพระพุทธศาสนาก็กระทบไปด้วย

    จึงเกิดพระราชาองค์น้อย ขึ้นมาเชิดชูส่งเสริมพระพุทธศาสนา แต่ในช่วงระยะเวลานี้ ผู้คนจะล้มตายพากันสูญเผ่าพันธุ์มนุษย์ นั่นหมายถึงถูกธรรมชาติร่อนตะแกรงกรรม นำเอาคนที่มีเซลล์ในร่างกายสีดำ หรือจิตใจมืดบอดขาดศีลและธรรม ต้องตายไปสิ้น ไม่สามารถข้ามแดนไปสู่ยุคชาวศิวิไลซ์ได้ และพระพุทธเจ้าจะกลับมาอุบัติขึ้นใหม่ ในมิติใหม่ในยุคชาวศิวิไลซ์ นับแต่ พ.ศ. 2550 เป็นต้นไป โดยอาศัยพระสรีระธาตุและหลักฐานต่างๆ ที่พระพุทธองค์ได้มาเตรียมไว้ด้วยพระองค์เอง เมื่อยังทรงมีพระชนมายุ 50 และ 57 พระพรรษา มาเป็นเครื่องหมาย

    และพระองค์ได้ทรงโปรแกรมจิต ใส่พลังงานแห่งความสำเร็จในคุณธรรมทั้งทางโลกและธรรม เอาไว้ให้แก่ลูกหลานในวัตถุธรรมต่างๆ ที่แปลคำปริศนาที่พระองค์ได้ทรงทำไว้ให้เข้าใจ นั่นคือความหมายของพระพุทธเจ้าอุบัติเกิดขึ้นแล้ว บ้านเมืองสุวรรณภูมิก็จะเปลี่ยนแปลง เมืองเหนือขึ้น หมายถึงเจริญงอกงามด้วยรากฐานของผู้ที่มีจิตมั่นคงในศีลธรรม ตั้งอยู่บนนิจศีลนั่นเอง ส่วนภาคกลางประสบภาวะปั่นป่วนในทุกๆเรื่อง แม้การรบราฆ่าฟันเอาชีวิตกัน

    หลังจาก พ.ศ. 2550 พระยาธรรม ที่เกิดขึ้น ..นั่นคือหลวงพ่อภรังสี ลูกศิษย์ของหลวงปู่มหาโมคคัลลานะ เริ่มเป็นที่รู้จักของมหาชน ประเทศชาติซึ่งมีทั้งขาวและดำคือมีทั้งคนดีคนชั่วปะปนกัน ต้องเปลี่ยนแปลงตามภาวะการณ์ปรับเปลี่ยนย้ายแกนโลกของธรรมชาติ ที่จะเกิดขึ้นปลายปี 2555 เป็นต้นไป ผู้ที่ขาดนิจศีลรองรับจิตใจย่อมขาดภูมิคุ้มกัน จึงรอดได้ยาก ไปสู่ยุคชาวศิวิไลซ์ ซึ่งจะเหลือแต่พระภิกษุผู้ทรงคุณธรรมแท้หมายถึงสีส้ม ส่วนโยมสีเหลืองนั้นคือผู้ที่ตั้งอยู่บนนิจศีลหรือสีเหลืองด้วยน้ำใจเมตตา ซึ่งแทนด้วยคลื่นรังสีสีเหลืองอยู่กันเป็นหมู่เหล่า

    พากันเฉลิมฉลองเทิดทูลพระพุทธศาสนา ให้ก้องท้องธาราขึ้นทั่วทั้งแดนสุวรรณภูมิ เป็นธงชัยของชาวโลก ต่างมีคติธรรมประจำใจในสัมมาทิฐิกันทั่วหน้า อันหมายถึงพวกที่มีเซลล์สีดำในร่างกาย ไม่สามารถหลุดรอดจากตะแกรงกรรมมาได้นั่นเอง และพระพุทธองค์ก็ได้มาเปิดศาสนาพุทธในยุคใหม่มิติใหม่ ขึ้นที่ วัดภูพะลานสูง มีผู้คนหลั่งไหลมากราบบูชามากมาย และยังมีเจ้าพระยาผู้สูงศักดิ์ต่างๆ พากันมากราบไหว้เคารพบูชา ที่กล่าวไว้เพียงสังเขป คงมีรายละเอียดเกิดขึ้นอีกมาก ที่สาธุชนค่อยๆติดตามต่อไปในช่วงชีวิตของตนที่เหลืออยู่)

    ว่าด้วยเรื่องการอัญเชิญและสงครามแย่งชิงพระบรมสารีริกธาตุ

    เมืองพม่า จักได้กล่าวถึงพระอิศเรศหงสา ในคั้งพระวรรษาที่ ๑๓ อยู่ที่นั้นอีก ๑ ปี มีศึกมาต้าน จักปล้น เอาพระธาตุอีก เทวจักรฟ้าว(รีบ)รวมอิทธิฤทธิ์เหาะเหินข้ามนทีคงคา ดังเสมือนไปถงสิบสองปันนา งอยฝั่งเลย หยุดยั้งอยู่ก้ำฝั่งไทยครั้งเนาอยู่ฮั่น ๖ เดือน เตือนประชากรทั้งหลาย มาสร้างโพนเนาเจดีย์ไว้ แมงเงาเฝ้า เจดีย์ได้หลายโต ๙ หมู่ข้าปูทางไว้ ทางก้ำฝั่งไทย จักย้ายเข้าสู่มอญขาวชาวนครชื่นชมมาต้อน ขอมดำดิน จักถวายปราสาทให้ เป็นที่รองรับ เทวจักรนำพระองค์ตั้ง ถวายให้แก่ขอมจักได้ว่าขึ้นอยู่ ๑๖ ปี มีราชา หลายเมือง โห่กันมาแย่ง เทวจักรได้เหาะเหินขึ้นส่ง ลงกลางดงปราสาทกว้าง หวังซ่อนพุทธองค์

    เทวยักษา ตนหนึ่งยังกะเลวต่อต้านหวังสู้บ่ถอย เทวจักรจึงได้อ่อยๆแถลงความเฮาบุญมา เถิงบ่ตอบขาบ สองตาบข้าง องค์เอกสัพพัญญู ข้างว้ายองค์อังคาร ข้างขวาพระสารีริกธาตุ อสูรเจ้าหลงมัวทำบาปใหญ่ หัวเข่าตั้งลง กราบไหว้พนม โอนอท่านมีชื่อนามใด๋ โปดอภัยขอถามเรื่องราวพายซ้อย นามกรข้ายักษาโตหนึ่ง เขาทอบ กระดูก ไว้ เขาให้ฮักษา เฮานี้ได้ชื่อว่าเทวจักร มือกำคอยักษ์ ฮูบทะยานขึ้นบนฟ้า เลยอัดเข้า ปายเจดีย์ ยอดแก้ว แล้วจึงเหาะดุ่งผ้าย ไปก้ำฝ่ายขอม สงครามได้ ตีเมืองแตกพ่าย แหวกประตูผ่าม้าง เขานั้นข่มขอม ขอมกะยอมเมิดแล้ว พระยาเมืองต้านใส่ ถามว่าไสพระบรมสารีริกธาตุ ของค้ำคูณเมืองที่อยู่เนานำเจ้า เฮาสิมาขอสู้ ตีเอาส่วนแบ่ง พระยาแนมพระเนตรขึ้น องค์เจ้าพระประธาน ราชาแย่งขึ้นแบก องค์พระธาตุอยู่นี้ ชิงได้กะสิถอย นี่คือสงครามแย่งพระธาตุ


    (พระมหาเทวจักร ได้เข้ารับพระบรมสารีริกธาตุ กระดูกข้อพระหัตถ์ขวา และพระสรีรังคาร ได้ผ่านมาแวะพักที่เมืองหงสาวดี เป็นแห่งแรก และเจ้าผู้ครองนครหงศาฯได้ทูลขอพระบรมธาตุเอาไว้ 1 องค์ประดิษฐานอยู่ที่วัดพระนอน เมืองร่างกุ้งในปัจจุบัน ต่อมาอีก 1 ปีมีการต่อสู้รบแย่งชิงพระบรมธาตุเกิดขึ้น พระมหาเทวจักรจึงพาพระบรมธาตุ เหาะข้ามแม่น้ำไปเมืองสิบสองปันนา ตอนเหนือของสุวรรณภูมิ อยู่ที่นั่นได้ 6 เดือน โดยพระมหาเทวจักรได้ชักชวนชาวบ้านผู้มีจิตศรัทธา สร้างพระเจดีย์บรรจุพระบรมธาตุเอาไว้กราบไหว้ มีแมลงป่องยักษ์ทั้ง 9 คอยเฝ้าอารักขา แล้วพระมหาเทวจักรก็ได้เดินทางต่อมาเข้าในเมืองเชียงราย ที่บ้านเชียงแสน

    ที่นี่พระมมหาเทวจักรเปลี่ยนวิธีการ โดยเชิญบรรดาเจ้าเมืองทั้งหลายมาประชุมพร้อมกัน เป็นที่ตกลงกันว่าเมืองใดสร้างสถานที่รองรับพระบรมธาตุได้สมพระเกียรติเสร็จก่อน จะนำพระบรมธาตุไปมอบให้ที่เมืองนั้น เมื่อตกลงหลักการกันได้แล้ว ก็มีเจ้าเมืองขอมเสนอขึ้นว่า ปราสาทสถานที่ใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จมีอยู่พร้อมแล้วที่นครจำปาศรี ผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมดจึงไปตรวจเยี่ยมปราสาทนั้นพร้อมกัน และลงความเห็นว่าเป็นการสมควรที่จะนำพระบรมธาตุมาบรรจุเอาไว้ที่นี่

    อยู่มาได้ 16 ปี ก็เกิดการรบพุ่งทำสงครามแย่งชิงพระบรมธาตุเกิดขึ้นอีก พระมหาเทวจักรจึงพาพระบรมธาตุเหาะหนีเข้าป่า ไปถึงเทวสถานเจดีย์ของพราหมณ์ ไปพบเทวยักษ์ที่เฝ้าอารักขาสถานที่อยู่ที่นั่น เมื่อพระมหาเทวจักรบอกอานิสงส์แห่งบุญกุศลที่เทวยักษ์จะได้รับ จึงได้นำพระบรมธาตุบรรจุไว้ที่ส่วนยอดของพระเจดีย์ และอยู่ที่นั่นมา 2,500 กว่าปี โดยไม่มีมนุษย์ผู้ใดรู้เรื่องพระบรมธาตุของพระพุทธองค์บนยอดอีกเลย

    นอกจากพระมหาเทวจักรได้สั่งการให้เทวยักษ์อารักขาพระบรมธาตุแล้ว ยังให้ออกตามหาพระยาธรรม ผู้ซึ่งจะมาจุติหลังกึ่งพุทธกาลให้อีกด้วย ท่านผู้นี้จะมารองรับพระพุทธศานต่อจาก ท่านพระมหาเทวจักรสร้างวัดขึ้นในแดนสุววรณภูมิ ที่ภูพลานสูงสืบพระศานาต่อไปจนครบ 5,000 ปี ส่งเสริมให้เกิดพระอริยเจ้า ที่อุดมไปด้วยอภิญญาฤทธิ์เช่นในต้นพุทธกาล อีก 700,000 รูป)

    ว่าด้วยเรื่องพระเทวจักรนิพพาน

    เทวจักรนั่นหายใจลำบาก เล็งญาณสังสิยากต่อไป สงครามแย่งบ่อแม่นดินแดนหากแต่เป็นศรัทธาหลายเล็ง ดูแล้ว ใจหมายมั่นทุกข์คน จึงได้ขอบันดลให้สงครามแตกผ่าย แสนดีใจทุกก้ำ จากหั่นได้สงครามเงียบหนตนก็ได้ บำเพ็ญพระวัสสาจากลาสังขารสู่นิพพานหมดสิ้น

    (เมื่อพระมหาเทวจักแก่เฒ่า ..หายใจลำบาก ได้ใช้ญาณทัสสนะ และสันตติตรวจสอบว่าการเกิดสงครามแย่งชิงกันนั้น เจ้าเมืองต่างๆไม่ได้มุ่งหวังมีอำนาจครองเมืองข้าศึกแต่อย่างใด เป้าหมายคือต้องการพระบรมธาตุ พระองค์ท่านจึงแผ่เมตตาให้เจ้าเมืองเหล่านั้นมาปรองดองกัน แล้วแบ่งพระบรมธาตุไปบูชากันส่วนหนึ่ง ทุกฝ่ายก็ต่างปิติยินดี ดีใจเลิกรบราฆ่าฟันกัน แสดงให้เห็นว่าเจ้าเมืองเหล่านี้ยังเป็นผู้มีปัญญาและคุณธรรมพอสมควร จึงได้พูดกันรู้เรื่องดี เรื่องจึงจบลงด้วยความสันติ พระมหาเทวจักรจึงได้เฝ้ารักษาจิตตนอยู่บน 'ทาง' เข้าสู่นิพพานในที่สุด)

    ว่าด้วยผูกพระโมคคัลานะ

    โมคคัลลานะด้นนำตนสืบต่อพระวัสสาสู่มื้อสังสิส่วยแต่กะ ยัง พุทธองค์ทรงสานต่อได้ถึงเกือบ หกร้อยพระวัสสา เกือบซาวพันปีต่อไปภายหน้า ไผผู้เล็งเห็นแล้วให้จุบเอาให้มันทั่วอิติ เกิดขึ้นแล้วจุบให้ฮุ่งเจริญ ในศตวรรษสองพัน

    (หลวงปู่มหาโมคคัลลานะ พระมหาสาวกเบื้องซ้าย ได้ทรงช่วยสืบต่อพระพุทธศาสนามาต่อเนื่อง หลังจากพระพุทธองค์เสด็จปรินิพพานไปแล้วอีก 600 ปี และยังมีภารกิจช่วยสืบต่อพระศาสนาอีกช่วงหนึ่ง ภายหลังที่พระพุทธองค์มาอุบัติครั้งใหม่หลังกึ่งพุทธกาล โดยหลวงปู่มาคอยหลวงพ่อภรังสี ที่บวชเป็นภิกษุยังไม่ครบ 10 พรรษา ซึ่งหลวงปู่ใหญ่ก็ได้เฝ้าคอยเวลาอยู่ที่เมืองบาดาล จนหลวงพ่อภรังสีบวชได้ครบ 10 พรรษา แล้วจึงได้ให้พบ และรับเป็นศิษย์

    ช่วยกันสืบต่ออายุพระศาสนา ที่มากด้วยอภิญญาฤทธิ์ และเป็นภารหน้าที่โดยตรงของหลวงปู่ใหญ่ ในฐานะพระอริยะสาวกเบื้องซ้ายผู้รุ่งเรืองด้วยอภิญญา 6 มาช่วยเพาะเชื้อเหล่าพระสาวกรุ่นใหม่ ในยุคชาวศิวิไลซ์ หลังจาก พ.ศ. 2550 นี้เป็นต้นไป ให้ศาสนาเจริญรุ่งเรืองไพบูลย์ยิ่ง เกิดพระอริยะเจ้ารุ่นใหม่อีก 700,000 รูป คล้ายในคราวต้นพุทธกาล โดยมีพระสรีระธาตุต่างๆของพระพุทธองค์มาเป็นองค์ประธานฟื้นฟูพระศาสนาขึ้นใหม่ไปตลอด 5,000 ปี จวบสิ้นพระศาสนาของพระพุทธองค์สมณโคดม)

    จบคำแปลพระคัมภีร์

    ที่มา http://ainews1.com/article310_a.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • fwd.jpg
      fwd.jpg
      ขนาดไฟล์:
      65.9 KB
      เปิดดู:
      581
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กุมภาพันธ์ 2013
  9. kb 2500

    kb 2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +873
    สตีฟ จ๊อบอาจมีข้อมูลของอเมริกา เหล่านี้ครับท่านเกษม..ผู้มีคุณวิเศษในเมืองไทยเคยรู้เห็นหลังการตายของคนๆนี้ ช่วยหามาลงหน่อยครับ คุณเกษมเคยบอกว่าเป็นที่ท่านนับถือ
    ขอความเห็นหน่อยครับ ขอความรู้เหล่านั้นหน่อย
     
  10. phirus

    phirus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +318
    ต้องไปหาหมอผีอาจารย์คง ละมั้งครับ หรือจะส่ง Line ไปถามดีละ:boo:
    สตีฟจ๊อบจะรู้อะไรนอกจากธุรกิจของ apple iphone ipad พวกนี้เป็นยิว ไม่สนใจใครหรอกนอกจากจัวพวกเขาเอง :cool:
     
  11. montep

    montep Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +64
    ถ้าโลกเอียง90องศาเพราะดาวเนบิรุแล้ว โลกจะเอียงแบบนั้นตลอดไปหรือเปล่าครับ
     
  12. kb 2500

    kb 2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +873
    สตีฟ จ๊อบ เขาเป็นระดับเทพบนสวรรค์แล้วนะจ๊ะ..รู้กันเยอะแล้วด้วย ไม่ควรปรามาส..นะจ๊ะ
     
  13. phirus

    phirus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +318
    ว๊าาาายยย เค้าจะตกนรกมั้ยอ่ะตัวเทอ ปรามาสเยอะซะด้วย 55555
    [​IMG]
    ยิ่งสตีฟเป็นเทวดากึ่งย้าาาก ด้วย คงจะดุเนอะ:boo:[​IMG]
     
  14. ชัยบวร

    ชัยบวร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2011
    โพสต์:
    928
    ค่าพลัง:
    +1,642
    ช่วงนี้มีสหายจากอเมริกากลับมาบ้าน (คนไทย) จากการสอบถามเรื่องราวต่าง ๆ ก็พอจะทราบได้ว่าเศรษฐกิจที่อเมริกาก็ไม่ดีเลย สหายคนนี้คือคนที่ผมเคยแนะนำให้ออกจากฮาวายตอนที่เกิดอุทกภัยร้ายแรง และสั่งไม่ให้เข้าไปในฮาวายอีก เราสองคนคุยกันหลายเรื่อง ซึ่งเขาจะถามผมเสมอเรื่องภัยต่าง ๆ ผมได้แนะนำไปว่า

    "ถ้าเกิดอะไรขึ้นในอเมริกา ให้รวบรวมคนไทยทั้งหมด แล้วอาศัยอยู่ในอเมริกาให้รอด ถ้าเกิดวิบัติมากจนล่ม ให้รอบรวมชาวพุทธในอเมริกาเป็นหนึ่งเดียวกัน ระวังการก่อการร้ายด้วย"....
     
  15. BeforEnd

    BeforEnd เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +209
    เพ้อเจ้ออีกแล้ว รับยาด่วนนะครับ อาการทางสมองเริ่มกำเริบแล้วครับ
    เว็บพลังจิตจริงๆแล้ว มีแต่คนติ๊งต๊องส์ครับ มีใครเคยทำนายอะไรแล้วถูกบ้างครับ มีแต่มั่วทั้งนั้น



    อ๋อเหรอครับ คนที่จะรอด คงมีแต่คุณ "มณีส่องแสง" กับคุณ "เกษม" สินะ คนที่ไม่เห็นด้วยตายหมด เพราะเป็นคนเลว
    สาธุๆๆ นะครับ แม่คนดี-พ่อคนดี ทั้งสองคน


    คนเรามีกรรมเป็นของตัวเองครับ อายุขัยย์ถูกกำหนดมาทุกคนแล้ว คนที่ตายหรือไม่ตาย
    ไม่เกี่ยวกับการกดปุ่มปัญญาอ่อน(ไม่เห็นด้วย) นั่นหรอกครับ เพ้อเจ้อ
    ทำตัวหยั่งรู้ รู้นั่นรู้นี่ เผลอๆคุณสองคน อาจจะตายก่อนใครก็ได้ อย่าสำคัญตัวเองผิดครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กุมภาพันธ์ 2013
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    -:รายละเอียดของกระบวนการชำระโลกโดยจิตจักรวาล:-
    กระบวนการทางเทคนิคของพระบิดาต่อไปนี้ จะเปิดเผยเฉพาะบางส่วนที่มนุษย์ควรรู้เท่านั้น เพื่อให้มนุษย์ได้ใช้เป็นข้อพิสูจน์ว่าความรู้ทั้งหมดทั้งสิ้น ล้วนเป็นพระเมตตาที่พระบิดาประทานมาให้เผยแพร่ มิใช่เป็นการกระทำขึ้นมาเองของมนุษย์ที่อวดอุตริ..ว่าจริงแท้หรือไม่?

    หากทุกอย่างเป็นความจริงตามที่เผยให้รู้ไว้ล่วงหน้านี้ ย่อมจะเป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนว่าองค์จิตจักรวาล ผู้เป็นพระบิดาหรือพระผู้สร้างหรือว่าพระเจ้าล้วนมีจริงเป็นแน่แท้ แต่จะมีใครสักกี่คนกันเล่า ที่จะมีโอกาสข้ามผ่านกลียุคครั้งที่ 4 นี้ไปได้เพื่อถึงวันเวลาแห่งการพิสูจน์นั้น?

    -:ขั้นตอนโดยสังเขปของช่างเทคนิค:-
    1. ก่อนวันชำระครั้งใหญ่จะเริ่มต้นขึ้น 15 วัน แกนหมุนรอบตัวเองของดาวเคราะห์โลก ที่ทำมุมกันแนวดิ่งอยู่ 23.5 องศานั้น จะถูกกำหนดให้มันค่อย ๆ ขยับตัวเพื่อเบี่ยงเบนไปจากแนวเดิมเรื่อย ๆ จะทำให้ขั้วโลกเหนือก้มหัวลงหันเข้าหาดวงอาทิตย์มากขึ้น

    2. น้ำแข็งบริเวณขั้วโลกเหนือจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น จากกรณีที่เกิดขึ้นในข้อแรก ทำให้น้ำแข็งละลายกลืนกับน้ำในมหาสมุทรอย่างรวดเร็ว

    3. เมื่อโลกเอียงในลักษณะก้มหัวมากขึ้นเรื่อย ๆ น้ำจากขั้วโลกก็จะพากันไหลหลั่งลงสู่เบื้องล่างเป็นคลื่นน้ำระลอกใหญ่ ในอันที่จะนำไปสู่คลื่นยักษ์ถาโถมแผ่นดิน และบริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่จะกลืนแผ่นดินต่อไป

    4. ขณะเดียวกันก็จะกำหนดให้เกิดการสั่นสะเทือนใต้มหาสมุทรบริเวณขั้วโลกใต้ เพื่อกระเทาะเอาก้อนน้ำแข็งขนาดยักษ์ให้หลุดออก เพื่อใช้เป็นมวลในการถ่วงดุลด้านน้ำหนักมวลระหว่างขั้วโลกเหนือกับขั้วโลกใต้ ในกระบวนการทางเทคนิคที่จะกล่าวถึงในข้อ 5 และ 6 เป็นลำดับต่อไปนั่นเอง

    5. เมื่อครบ 15 วันตามกำหนดที่จะชำระความครั้งใหญ่แล้ว แกนหมุนรอบตัวเองของดาวเคราะห์โลกจะเบี่ยงเบนไปจากเดิม 8.5 องศา หรืออยู่ที่ 32 องศากับแนวดิ่งแล้ว ตรงพิกัดตำแหน่งนี้จะเป็นกำหนดเวลาที่ส่วนโค้งของโลก จะเริ่มบดบังแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ได้อย่างเหมาะเจาะพอดีอีกต่างหากด้วย ดังนั้นวันแรกแห่งการชำระความในกรณีชำระโลกครั้งใหญ่ ที่มนุษย์จะสังเกตมายาได้ก็คือ ฟ้าจะเริ่มมืดสลัวลง ผิดปรกติ

    6. ดาวเคราะห์โลกจะค่อย ๆ ม้วนตัวก้มหัวเอาขั้วโลกเหนือ คว่ำลงแทนที่ตำแหน่งขั้วโลกใต้อย่างช้า ๆ โดยมีน้ำหนักจากขั้วโลกเหนือที่ไหลลงสู่ด้านล่าง และก้อนน้ำแข็งขนาดยักษ์ทางด้านขั้วโลกใต้ช่วยส่งเสริม กระบวนการทางเทคนิคนี้ให้แนบเนียนกลมกลืนยิ่งขึ้น เมื่อขั้วโลกเหนือย้ายตนเองไปสู่ขั้วโลกใต้แล้วก็จะค่อย ๆ พลิกม้วนตัวขึ้นเพื่อย้อนคืนสู่ตำแหน่งเดิมของตนต่อไป โดยไม่ย้อนรอยเดิม แนวแกนหมุนรอบตัวเองตำแหน่งใหม่ในยุคพลังงานใหม่ก็คือ 22 องศากับแนวดิ่ง เพื่อสร้างฤดูกาลใหม่ที่สมดุลให้กับมนุษย์ยุคพลังงานใหม่แห่งโลกเสรี

    ระยะเวลาที่โลกม้วนตัวตีลังกาครบ 1 รอบ จะใช้เวลาดำเนินการทั้งสิ้น 30 วัน !

    7. คำกล่าวที่ว่า “น้ำจะท่วมฟ้า ปลาจะกินดาว” จะเกิดขึ้นภายใน 7 ราตรี คือ 49 วันอันมีแต่กลางคืนนั่นเอง หมายความว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะจมอยู่ใต้บาดาล ผู้ที่อยู่ใต้น้ำย่อมมองเห็นเหมือนน้ำท่วมท้องฟ้าและปลาจะแหวกว่ายอยู่ไปมา ทำให้คนที่จมอยู่ใต้น้ำแลประหนึ่งว่า ปลาจะกินดาวนั่นเอง

    8. ตึกสูงใหญ่ วัตถุเทคโนโลยีขยะ มนุษย์ขยะ สัตว์ประจำโลก ต้นไม้ใหญ่น้อย ภูเขาสูงชันและอื่น ๆ จะถูกชำระออกไปจากระบบ เพื่อลดจำนวนและน้ำหนักมวลบนพื้นผิวโลกให้น้อยลง เพื่อสร้างสมดุลใหม่ให้กับดาวเคราะห์ดวงนี้

    9. สัตว์ประจำโลกบางชนิดจะสูญพันธุ์ เพราะพวกเขาหมดหน้าที่แล้ว โดยพระบิดาจะเรียกนำจิตวิญญาณพวกเขาทั้งหมดกลับคืน คือ กระต่าย และ หนู

    10. เมื่อครบ 49 วันหรือ 7 ราตรีแล้ว พระบิดาจะใช้น้ำฝนดั่งน้ำทิพย์ที่บริสุทธิ์ของพระองค์หลั่งลงมาเพื่อเก็บกวาดชำระล้างเศษซากทุกสิ่ง และชุบชีวิตให้กับจิตวิญญาณบุตรที่รักดีที่เหลือรอด

    ขั้นตอนการชำระความโดยสังเขป:-

    การชำระระบบโลก
    1. ให้มีการ ชำระความ ก่อนวันชำระใหญ่ได้เรื่อย ๆ นับแต่ปี พ.ศ. 2535 เป็นต้นมา

    2. การชำระความ กระทำโดยกลุ่มของช่างเทคนิค ผู้เป็นเจ้ากรรมนายเวรของมนุษย์ในยุคปัจจุบัน ซึ่งมีอยู่ทั้งสิ้นในสนามพลังงานดาวเคราะห์โลก จำนวน 20 เท่าของประชากรโลกที่มีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน โดยเจ้ากรรมนายเวรของมนุษย์ในประเทศใดก็จะทำหน้าที่เป็นช่างเทคนิคเพื่อชำระความกับมนุษย์ในประเทศนั้น

    3. การชำระความของเจ้ากรรมนายเวรผู้เป็นช่างเทคนิค หมายถึง การแก้แค้นเอาคืนอย่างสาสมกับมนุษย์ที่เคยก่อกรรมด้านลบต่อพวกเขามาก่อน

    4. เจ้ากรรมนายเวร หมายถึง พี่ ๆ น้อง ๆ ของมนุษย์ในภพชาติปัจจุบันนี้เอง ที่ได้รับความทุกข์ทรมานจากการจองจำด้วยความอาฆาต โกรธแค้นต่อมนุษย์ปัจจุบันที่เคยกระทำผิดคิดร้ายต่อพวกเขา โดยพวกเขาไม่ยอมไปผุดเกิดยังภพภูมิใด ๆ ได้แต่รอคอยโอกาสเพื่อติดตามแก้แค้นทวงคืนอยู่อย่างเดียว บางรูปธรรมได้จองจำมนุษย์ไว้นานร่วมสองหมื่นปีมาแล้วก็มี

    5. เจ้ากรรมนายเวร หมายถึง รูปธรรมทางพลังงานจิตวิญญาณของผู้ที่เคยเกิดเป็นมนุษย์ หรือ สัตว์ประจำโลก ที่เคยถูกมนุษย์ทำร้ายให้ทุกข์ทรมานอย่างทารุณ ด้วยการเข่นฆ่าเอาชีวิต และกินเลือดกินเนื้อพวกเขาอย่างเมามัน เช่น หมู เป็ด ไก่ ห่าน วัว ควาย และอื่น ๆ เป็นต้น

    6. วิธีการชำระความก็คือ การอยู่เบื้องหลังภัยธรรมชาติที่รุนแรง เพื่อจัดการกับมนุษย์ผู้เป็นบุคคลเป้าหมายที่จะเอาความของพวกตนเช่น การโอบอุ้มน้ำฝนไปถล่มซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อก่อให้เกิดอุทกภัยที่รุนแรงต่อมนุษย์ในเป้าหมายชำระของพวกตน การร่วมกันทำให้เกิดฟ้าฝ่าบุคคลเป้าหมาย การทำให้เกิดลมพายุพัดถล่มซ้ำ การทำให้เกิดคลื่นยักษ์ การทำให้เกิดแผ่นดินไหว ด้วยการใช้เสียงดังของฟ้าฝ่าในระดับ 30 เดซิเบลขึ้นไปเพื่อเป็นเงื่อนไขให้เกิดการสั่นสะเทือนนั้น การผลักเคลื่อนตัวของรอยแยกของเปลือกโลกอันเกิดจากการระเบิดในใจกลางโลก การสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวที่รุนแรง และการระเบิดของภูเขาไฟ ในสถานที่ ๆ ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

    7. ชำระความด้วยเสียงอันดัง เพื่อทำลายประสาทหูและใช้พลังงานด้านลบที่เข้มข้น เพื่อทำลายสติและเอาชีวิตมนุษย์เป้าหมายนั้นในฉับพลัน

    8. ชำระความมนุษย์ด้วยโรคระบาดร้าย ๆ ที่มากับน้ำเน่าเสีย เช่น อหิวาตกโรคชนิดใหม่ที่มนุษย์ต้องตายภายใน 6 วันหลังการได้รับเชื้อนั้น หรือภัยร้ายจากเชื้อโรคพันธุ์ใหม่ชื่อ Virusteria ที่มนุษย์โลกไม่เคยรู้จักซึ่งสามารถขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็วกว่าเชื้อโรคชนิดใด ๆ บนโลกใบนี้

    9. ชำระความด้วยความอดอยากหิวโหย ไม่มีที่อยู่ ไม่มีน้ำดื่ม ไม่มีอาหารบริโภค เพราะน้ำท่วมเสียหายหมด และไม่มีใครช่วยเหลือใครได้เพราะต่างต้องประสบเคราะห์กรรมโดยทั่วหน้ากัน

    10. ช่วงเวลาแห่งการชำระความครั้งใหญ่ จะใช้เวลานานถึง 7 ราตรี โดยที่ 1 ราตรี หมายถึง การที่โลกจะปกคลุมไปด้วยความมืดมิดคือ มีแต่กลางคืนติดต่อกัน 7 วันเต็ม ๆ ขณะที่ภัยธรรมชาติที่วิปริตแปรปรวนอันเกิดจากน้ำมือของช่างเทคนิค เป็นผู้กระทำอยู่เบื้องหลังจะรุกกระหน่ำเอาความกับมนุษย์อย่างไม่ลืมหูลืมตา แม้จะปิดตาก็แลเห็นจะปิดหูก็ได้ยิน ทั่วทั้งแผ่นดินจะเจิ่งนองไปด้วยน้ำ บอบช้ำไปด้วยพายุถล่ม แผ่นดินถล่ม และตึกสูงใหญ่ที่ถล่มทลายลงมากองเป็นภูเขาเลากา ท่ามกลางเสียงหวีดกรีดร้องของมนุษย์กับเจ้ากรรมนายเวร ประสานเสียงกันอย่างบาดหัวใจ

    11. แผ่นดินบางแห่งจะลุกเป็นไฟ เพราะแสงเพลิงและสายธารของลาวาจากใต้โลก บางแห่งจะยุบตัวลงกลืนเมืองลงไปทั้งเมือง แล้วราดทับด้วยเปลวถ่านร้อน ๆ ของลาวาอย่างน่าพรั่นพรึง

    12. แผ่นดินจำนวนมากจะถูกกลืนหายไปใต้แผ่นน้ำ และมหาสมุทรอย่างถาวร เพราะคลื่นยักษ์ แผ่นดินไหว และแรงดูดดึงจากใต้สมุทรจนทำให้เกาะน้อยใหญ่ไม่แตกกระจาย ก็จะจมหายลงไปใต้ผืนทะเลตลอดกาล

    [​IMG]

    โลกจะพลิกตัวลงไปทางใต้ แล้วกลับขึ้นไปใหม่ ขั้ว S กลับเป็น N ใข้เวลาราว 2เดือน ตามรหัส 49+7

    1.แนวแกนหมุนของโลกทำมุมกับแนวดิ่ง 32 องศา (เอียงเพิ่มอีก 8.5 องศาจากเดิม 23.5 องศา)ทาง NE*
    2.แนวแกนแม่เหล็กโลก จะย้ายไปอีก 3องศา (เดิม 11 องศา) + 3องศา
    3.ระบบโครงข่ายสนามแม่เหล็ก จะยกตัวสูงขึ้น 60.000 กม.
    4.น้ำหนักมวลบนผิวโลกจะลดลง
    5.ความเข้มสนามแม่เหล็กโลกเปลี่ยนเป็น 22 เกาส์ (จากเดิม 14 เกาส์)
    6.โลกจะหมุนเร็วขึ้นจาก 24 ชม. เป็น 22 ชม.ต่อรอบ

    จากหนังสือ 56 วัน 7 ราตรี ปฎิบัติการชำระโลก สู่ยุคพลังงานใหม่ ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากจิตจักรวาลโดย อาจารย์ปริญญา ตันสกุล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กุมภาพันธ์ 2013
  17. chayapin

    chayapin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +1,115
    แรงไปนะคะ โกรธ น่าจะอ่านแบบสนุกๆ ก็พอนะ โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า ค่ะ สาธุ..
     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    การเปลี่ยนขั้วโลกใหม่ !!!

    [​IMG]

    ว่าด้วยการเปลี่ยนขั้วโลกใหม่ไปตาม กาแลคซี่ไตรแองกุลัม

    เหตุ : ทุกรอบ 13,000 ปี สุริยจักรวาล กาแลคซี่ทางช้างเผือก และกาแลคซี่ไตรแองกุลัม จะโคจรมาอยู่ในแนวเดียวกัน

    ผล : ในรอบนี้ โลก และสุริยจักรวาล จะเปลี่ยนเข้าสู่แรงดึงดูดของกาแลคซี่ไตรแองกุลัมทางทิศตะวันออก

    องค์ความรู้ฯ ที่ได้นำเสนอแต่โดยย่อดังต่อไปนี้ เป็นองค์ความรู้ของ พระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ เจ้าอาวาสวัดดอยเกิ้ง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ท่านได้บวชในบวรพระพุทธศาสนา 2 ครั้ง ครั้งแรก เป็นการลาบวชขณะยังรับราชการครู เป็นเวลา 1 พรรษา เมื่อปี พ.ศ. 2515 หลังจากลาสิกขาบทแล้ว ได้กลับเข้ารับราชการต่ออีกประมาณ 2 ปี และในปี พ.ศ. 2517 ได้ลาออกจากราชการเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์อีกครั้ง ตราบจนปัจจุบัน

    พระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ สอนหลักของวิปัสสนากรรมฐาน หรือการเคลื่อนที่ของจิต ด้วยอุบายหลัก 2 วิธี คือ การเจริญสติ เพื่อฝึกจิตให้เห็น การเกิด – ดับ ของการกระทบที่เกิดขึ้น เป็นปัจจุบันขณะ และ อุบายของการหมุนธรรมจักร เพื่อฝึกจิตไม่ให้ติดในการกระทบที่เกิดขึ้น ทั้งสองส่วน คือ ที่อายตนะภายนอก และอายตนะภายใน อีกทั้งยังได้ประยุกต์หลักการเคลื่อนที่ของจิต มาเป็นการเคลื่อนที่ของพลังจิต พลังงาน โดยใช้ศาสตร์พีระมิดของชาวแอตแลนตีส เป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญ เพื่อประโยชน์ในการเสริมสร้างฟื้นฟู บำบัด รักษาร่างกายด้วยตนเอง

    องค์ความรู้ฯ ว่าด้วยการเปลี่ยนขั้วโลกใหม่ เป็นองค์ความรู้ฯ ที่ได้มาจากการศึกษาด้วย “จิต” ฉะนั้นโปรดใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูล พระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ รู้ถึงเหตุและผล ของแต่ละปรากฏการณ์ หรือ ความเชื่อมโยงของแต่ละเหตุการณ์ได้ด้วยการใช้ แรงสืบต่อ หรือ แรงสันตติ สาวหาเหตุและผล ของการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และ สลาย ของสรรพสัตว์ ปรากฏการณ์ สุริยจักรวาล กาแลคซี่ จักรวาล ฯลฯ

    ให้เห็นความจริงที่ผูกโยงเป็นเงื่อนไขว่า เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้ย่อมมี เพราะความเกิดขึ้นแห่งสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงเกิด เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้ย่อมไม่มี เพราะความดับไปแห่งสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงดับไป ซึ่งเป็นความรู้ที่ไม่ได้เกิดมาจากการทำงานของสมองและใจ จึงไม่ใช่การพยากรณ์หรือทำนาย

    แต่เป็นการบอกว่า ถ้าสิ่งนี้เกิดขึ้นแล้ว อะไรจะเกิดตามมาในลำดับต่อไป ตามเงื่อนไขที่ผูกโยงไว้อย่างเป็นเหตุและผลต่อกัน เรื่องภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นกับโลกของเราในอนาคตนั้น แท้ที่จริงแล้วกล่าวได้ว่าเป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นเป็นธรรมดา เพราะโลกของเราเคยเปลี่ยนแปลงเช่นนี้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน เป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้น ในรอบเวลาประมาณ 26,000 ปี ตามความรู้ที่ได้จากสโตนเฮนจ์ (Stone Henge) ซึ่งบ่งชี้ว่า ทุกๆ 13,000 ปี จะมีการสลับเปลี่ยนขั้วของแรงดึงดูดที่มีอิทธิพลต่อโลก สุริยจักรวาล เนื่องจากกาแลคซี่ที่มีอิทธิพลต่อสุริยจักรวาลมีด้วยกันถึง 3 กาแลคซี่ ได้แก่

    1. กาแลคซี่ทางช้างเผือก (Milky Way Galaxy)มีศูนย์กลางของแรงดึงดูดอยู่ทางทิศเหนือ ในปัจจุบัน โลก สุริยจักรวาลตกอยู่ภายใต้แรงดึงดูดของกาแลคซี่นี้2. กาแลคซี่ไตรแองกุลัม (Triangulum Galaxy) มีศูนย์กลางของแรงดึงดูดอยู่ทางทิศตะวันออก มีขนาดเล็กกว่ากาแลคซี่ทางช้างเผือก ในอนาคตโลก สุริยจักรวาลจะถูกดึงเข้าสู่แรงดึงดูดของกาแลคซี่นี้ ตามวาระการวนครบรอบอีกครั้ง

    3. กาแลคซี่อันโดรเมดา (Andromeda Galaxy) เป็นกาแลคซี่ที่มีขนาดใหญ่มาก แผ่อิทธิพลควบคุมทั้ง 2 กาแลคซี่ ไม่ส่งผลกับโลกโดยตรง ดังนั้น จึงพอสรุปได้ว่า ใน 1 รอบใหญ่ คือประมาณ 26,000 ปี ตามปฏิทินดาราศาสตร์ที่สโตนเฮนจ์ โลก สุริยจักรวาล จะตกอยู่ภายใต้แรงดึงดูดของกาแลคซี่ทางช้างเผือก 13,000 ปี และสลับไปอยู่ภายใต้แรงดึงดูดของกาแลคซี่ไตรแองกุลัม อีก 13,000 ปี รายละเอียดของสโตนเฮนจ์ จะกล่าวถึงในภายหลัง

    การประสบกับภัยพิบัติอย่างรุนแรง ถึงกับมีการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของพื้นผิวโลก เช่น อาจจะเปลี่ยนจากภูเขาไปเป็นมหาสมุทร จากป่าฝนไปเป็นทะเลทราย จากเขตร้อน กลายเป็นเขตหนาว ฯลฯ นอกเหนือจากเป็นการทำงานตามวาระของธรรมชาติแล้ว ยังมีองค์ประกอบที่ส่งผลร่วมอย่างร้ายแรง คือ การกระทำของมนุษย์ในแต่ละยุคสมัยด้วย

    เมื่อประมาณ 26,000 ปีที่ผ่านมา เป็นช่วงวาระที่โลก สุริยจักรวาล อยู่ภายใต้แรงดึงดูด ของกาแลคซี่ไตรแองกุลัม ที่สมบูรณ์ไปด้วยพลังงานที่ดี เช่น กระแสลมปราณ และ มโนธาตุ ส่งผลให้มหาอาณาจักรแอตแลนตีส เจริญสูงสุดในทุกด้าน แต่จุดเสื่อมย่อมเพาะเชื้อก่อกำเนิดมาจากจุดสูงสุดเสมอ เมื่อรู้มาก เก่งมาก จึงนำไปสู่การผลิตอาวุธสงครามที่ร้ายแรง เรียกว่า “อาวุธเส้นแสง” เมื่ออาวุธเส้นแสง ถูกนำมาใช้ในสงคราม สิ่งที่เกิดตามมา

    คือเกิดแรงอัดกระแทกอย่างมหาศาลลงสู่พื้นดิน พร้อมๆกับการโคจรมาเรียงตัวเป็นเส้นตรงของ สุริยจักรวาล กาแลคซี่ ทางช้างเผือก และกาแลคซี่ไตรแองกุลัม ด้วยขนาดของกาแลคซี่ทางช้างเผือกที่ใหญ่กว่า จึงทำให้แกนขั้วโลกจากทิศตะวันออก พลิกเปลี่ยนชี้ไปทางทิศเหนือ มหาอาณาจักรแอตแลนตีส จึงจมลง เปลี่ยนสภาพจากแผ่นดิน กลายเป็นมหาสมุทรในชั่วข้ามคืน เกิดการเปลี่ยนแปลงลักษณะทางกายภาพบน พื้นผิวโลกอย่างมโหฬารไปทั่วทุกส่วนของโลก ตามอัตราส่วนของการมีพื้นน้ำ 3 ส่วน และพื้นดิน 1 ส่วน มนุษย์เสียชีวิตเหลือคณานับ เป็นการสิ้นสุดของยุคทองแห่งแอตแลนตีส

    ชาวแอตแลนตีสกลุ่มหนึ่ง มีผู้นำเป็นนักบวชที่มีพลังจิตสูง ได้ลงเรือเดินทางออกจาก มหาอาณาจักร ก่อนจะเกิดเหตุภัยพิบัติล่วงหน้าประมาณ 1 เดือน ขึ้นฝั่งในแถบลุ่มแม่น้ำไนล์ ประเทศอียิปต์ในปัจจุบันนี้ การถ่ายทอดอารยธรรมแอตแลนตีสจึงได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง สัญลักษณ์สิ่งแรกที่ยิ่งใหญ่แสนมหัศจรรย์ที่นักบวชได้สร้างขึ้นด้วยพลังจิต และอาศัยความช่วยเหลือจากชาวดาวอังคาร คือการสร้างสฟิงซ์ (Sphinx) ด้วยเทคนิคการใช้พลังจิต เปลี่ยนวัตถุเป็นพลังงานแสง และเปลี่ยนพลังงานแสงเป็นวัตถุ เป็นรูปสิงโตหมอบ เหยียดขาหน้าทั้งคู่ไปด้านหน้า ลำตัวทอดยาวไปตามแนวทิศตะวันออกและทิศตะวันตก เพื่อเป็นสิ่งบ่งบอกว่า

    ในอนาคตข้างหน้า เมื่อถึงวาระครบ 13,000 ปีอีกครั้ง ณ ที่ตั้งสฟิงซ์แห่งนี้ จะกลายเป็นตำแหน่งของขั้วโลกใหม่ และ ขั้วโลกจะชี้ไปทางทิศตะวันออก อยู่ในอิทธิพลแรงดึงดูดของกาแลคซี่ไตรแองกุลัม อีกครั้ง นานประมาณ 13,000 ปี

    ชาวแอตแลนตีส มีความชำนาญในการใช้พลังพีระมิดอย่างหลากหลาย และได้ถ่ายทอดสู่ชาวอียิปต์จากรุ่นสู่รุ่น จนกระทั่งอีกหลายพันปีต่อมา จึงได้มีมหาพีระมิดเกิดขึ้น เชื่อสายแอตแลนตีส รุ่นต่อๆมา มีการย้ายถิ่นฐานสร้างเมือง สร้างประเทศใหม่ อารยธรรมแอตแลนตีส จึงกระจายออกไปหลายส่วนของโลก ที่รู้จักกันดี คือ ชนเผ่ามายา หรือ มายัน ผลงานชิ้นสำคัญของพวกเขา คือการจัดวางเสาหิน แท่งหิน ขนาดมหึมาเป็นรูปวงกลมซ้อนกันอยู่ 3 วง เรียกว่า สโตนเฮนจ์ (Stone Henge) อยู่ที่เมือง ซาลเบอรี่ (Salisbury) ประเทศอังกฤษ มีเทคนิคการสร้างเหมือนกับการสร้างสฟิงซ์ คือการใช้พลังจิตเปลี่ยนวัตถุเป็นพลังงานแสงก่อน และเมื่อนำไปจัดวางได้เรียบร้อยแล้ว จึงเปลี่ยนพลังงานแสงคืนกลับเป็นวัตถุอีกครั้ง

    สโตนเฮนจ์ เป็นปฏิทินดาราศาสตร์ ใช้หลักคำนวณจากการโคจรของกาแลคซี่ ทั้ง 3 ใน 1 รอบ คือ 26,000 ปี โดยสามารถถอดรหัสได้ว่า ในช่วงระยะเวลา 26,000 ปี สุริยจักรวาล จะตกอยู่ภายใต้แรงดึงดูดของกาแลคซี่ทางช้างเผือก 13,000 ปี และอีก 13,000 ปี จะสลับมาอยู่ในอิทธิพลของกาแลคซี่ไตรแองกุลัม ฉะนั้น การสร้างสโตนเฮนจ์ มีจุดมุ่งหมาย เพื่อเตือนภัยแก่ชาวโลก เมื่อถึงวาระของการสลับเปลี่ยนขั้วของแรงดึงดูดอีกครั้ง

    การเกิดภัยพิบัติในอนาคตอันใกล้นี้ เป็นความสัมพันธ์ เชื่อมโยงระหว่างอดีตกับปัจจุบันและอนาคต ระหว่างกาแลคซี่ทั้ง 3 กับสฟิงซ์ สโตนเฮนจ์ และแกนพลังงานโลก โดยมีทั้งมนุษย์และธรรมชาติ เป็พลังงานขับเคลื่อนแกนพลังงานโลก เป็นแกนพลังงานที่ทอดยาวควบคู่ไปกับแกนสสาร ที่ปัจจุบันชี้ไปทางขั้วโลกเหนือและใต้ แกนพลังงานประกอบด้วยพลังงานสำคัญ 3 อย่าง

    1. พลังงานแม่เหล็กโลก หรือ พลังงานแรงดึงดูดจากศูนย์กลางกาแลคซี่ทางช้างเผือก เป็นแรงร้อยรัดที่ดึงโลกให้อยู่กับสุริยจักรวาล และกาแลคซี่ ตามลำดับ เป็นพลังงานที่มีคุณสมบัติที่ร้อนและหนัก มีสีเข้ม คล้ายสีเทา และอยู่นอกสุดของแกนพลังงาน

    2. พลังงานกระแสลมปราณ มีสีออกเหลือง เป็นพลังงานที่โลกเราได้รับมาจากดวงอาทิตย์ เป็นพลังงานที่ดี มีประโยชน์ เป็นเสมือนภูมิต้านทานร่างกาย ที่มนุษย์ทุกคนได้รับอย่างเท่าเทียมกัน โดยลมหายใจเข้า

    3. พลังงานมโนธาตุ มีสีออกขาว อยู่ชั้นในสุดของแกนพลังงาน เป็นพลังงานดี ช่วยเสริมจิตและใจให้มีคุณธรรม

    เทคโนโลยีที่เกิดจากการผลิตอุตสาหกรรมหนัก ทำให้เกิดสารตกค้าง CFC
    หรือ สาร คลอโรฟลูออโรคาร์บอน และยังไม่มีวิธีการใดที่สามารถทำลายสาร CFC นี้ได้สำเร็จ สาร CFC มีคุณสมบัติ “เบา กว่าธาตุอื่นๆทุกชนิด” จึงสามารถแทรกเข้าไปทำลายแกนพลังงานโลก เริ่มขบวนการทำลายมาตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ. 2540-2544 จนกระทั่งแกนพลังงานโลกตัน ทำให้แรงร้อยรัด หรือพลังงานแม่เหล็กโลก ที่ส่งออกมาจากกาแลคซี่ทุกวินาที ไม่สามารถไหลทะลุผ่านขั้วโลกเหนือ-ใต้ได้

    พลังงานจึงแผ่กระจายไปทั่วทุกส่วนของโลก ทั้งพื้นน้ำ มหาสมุทร พื้นแผ่นดิน แผ่นหินเปลือกโลก ร่างกายมนุษย์ สัตว์ พืช ฯลฯ ความร้อนและหนัก จึงฝังตัวติดแน่น สะสมเป็นเชื้อร้ายแฝงอยู่ และเพิ่มอันตรายมากทวีคูณ เกินกว่าจะพรรณนาได้ กล่าวได้เพียงว่า พลังงานแม่เหล็กโลกจากกาแลคซี่ทางช้างเผือก คือพลังงานสำคัญที่ทำลายมนุษย์ และเปลี่ยนโลกใบนี้ในอนาคต มนุษย์คือผู้ปล่อยยักษ์ใจร้ายตนนี้ออกมาเอง ใช่หรือไม่ และหากสมมุติว่า จะเนื่องด้วยเหตุผลใดก็ตาม ทำให้ภัยพิบัติจากการเปลี่ยนขั้วโลกใหม่ไม่เกิดขึ้น มนุษย์ สัตว์ พืช ยังคงถูกทำลายอย่างรุนแรงด้วยพลังงานแม่เหล็กโลก และอาจสิ้นชีวิตลงทั้งหมดภายในไม่เกิน 10-15 ปี

    พลังงานกระแสลมปราณ และ พลังมโนธาตุ ที่เป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ ได้ลอยสูงขึ้นๆ ไปอยู่ในบรรยากาศชั้นบนสูงเกินกว่ามนุษย์จะนำเข้าสู่ร่างกายได้ด้วยลมหายใจเข้า องค์ความรู้ของพระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ จึงได้นำพลังพีระมิดมาใช้อีกครั้ง ปัจจัยสำคัญ และ เป็นความเชื่อมโยงอย่างแสนมหัศจรรย์อีกอย่างหนึ่ง ของปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ คือการปรากฏของดาวนิบิรุ (Nibiru) เป็นดาวมีสีออกแดง ลักษณะกลมรี คล้ายลูกรักบี้ มีขนาดใหญ่กว่าดาวพฤหัสบดี ประมาณเกือบ 2 เท่า เป็นดาวที่อยู่นอกระบบสุริยจักรวาล มีวงโคจรผ่านทิศตะวันออก - ตะวันตก และจะมาเยือน สุริยจักรวาลในทุกๆ 13,000 ปี

    และในรอบนี้ ดาวนิบิรุ จะมาเรียงตัวอยู่ที่ลำดับหัวแถว ใกล้ๆกับโลก เป็นการเพิ่มแรงดึงดูดให้กับ กาแลคซี่ไตรแองกุลัม ที่มีขนาดเล็กกว่ากาแลคซี่ทางช้างเผือก จนสามารถดันขั้วโลกเหนือไปเป็นขั้วโลกตะวันออก เมื่อรอบ 13,000 ปีที่ผ่านมา ดาวนิบิรุ โคจรมาและได้ไปเรียงตัวอยู่ด้านปลายแถวของ สุริยจักรวาลเมื่อใกล้ช่วงเวลาของการเกิดภัยพิบัติ เปลี่ยนขั้วโลกใหม่ ดาวนิบิรุ (ซึ่งขณะนี้ ดาวนิบิรุ ได้เข้ามาเยือนสุริยจักรวาลแล้ว แต่ยังอยู่ไกลมาก) จะมาอวดสายตาแก่ชาวโลกทางด้านทิศตะวันออก มองเห็นได้อย่างชัดเจน อยู่ใกล้กับดวงอาทิตย์ เป็นดาวสีแดง

    มองแล้วเหมือนกับว่ามี ดวงอาทิตย์ขึ้น 2 ดวง หากมนุษย์มองดาวดวงนี้แล้วจะรู้สึกจิตใจหดหู่ เศร้าหมอง ดาวนิบิรุจึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าดาวมฤตยู (แต่ไม่ได้หมายความถึงดาวพลูโตเลย) และมาตรวัดความหนาแน่นของพลังงานแม่เหล็กโลกจะอยู่ที่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นทิศที่คั่นกลาง เป็นช่องว่าง เป็นเขตปลอดพลังงาน ทั้งของกาแลคซี่ทางช้างเผือกและกาแลคซี่ไตรแองกุลัม หากเมื่อใดพลังงานแม่เหล็กโลก หนาแน่นจนเต็มพิกัด และไม่สามารถทะลุผ่านไปจนสุดขอบทางทิศตะวันออกได้ พลังงานแม่เหล็กโลกจะรีดเป็นเส้นตรง เปลี่ยนเป็นพุ่งทะลุขึ้นไปด้านบน ตามแนวทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ปะทะชนกับพลังงานของกาแลคซี่อันโดรเมดา ที่มีขนาดใหญ่กว่าหลายพันเท่า

    พลังงานแม่เหล็กโลกจึงถูกอัดกลับเข้าสู่โลก สุริยจักรวาลอีกครั้ง เกิดปรากฏการณ์ “แสงวาบ” ที่ยิ่งใหญ่เห็นได้ทั่วจักรวาล การสั่นไหวอย่างรุนแรง การเคลื่อนที่สับเปลี่ยนแผ่นดิน แผ่นน้ำ เกิดลมพายุ น้ำท่วม การหล่นกระจายของแผ่นฝ้าน้ำแข็งเพดานโลกที่เกิดจากการสะสมของควันน้ำมัน ฯลฯ กระบวนการเปลี่ยนขั้วโลกใหม่นี้ใช้เวลา ประมาณ 3 วัน 3 คืน มนุษย์ประกอบด้วย จิตและกาย หากยังมีความคิดว่า “ชีวิตเป็นสิ่งมีค่า ควรรักษาไว้” จึงควรแสวงหาทางรอด ตามวิถีความเชื่อของแต่ละบุคคล

    สำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับการฝึกจิต ควรเข้าใจให้ชัดเจนว่า พลังงานแม่เหล็กโลกที่ไม่ได้อยู่ในแกนพลังงานโลก เป็นพลังงานกั้นบัง ฉุดรั้ง เป็นเสมือน ตัณหาที่ฉาบทาโลก ส่งผลให้การฝึกจิต ทำได้ยากยิ่งขึ้น หากโลกเราได้แกนพลังงานใหม่เปลี่ยนเป็นขั้วโลกตะวันออกเป็นกาแลคซี่ใหม่ที่สมบูรณ์ด้วยพลังงานกระแสลมปราณ พลังมโนธาตุ ซึ่งเหมาะแก่การฝึกจิตเป็นอย่างยิ่ง

    ในที่สุด คำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้ก็สำเร็จตามจิตประสงค์ มหาอาณาจักรแอตแลนตีสที่เคยจมหายไปร่วม 13,000 ปี จะได้มีโอกาสโผล่ขึ้นมาอวดโฉมอีกครั้ง เป็นการปิดฉาก บทบาทของสฟิงซ์ และสโตนเฮนจ์ อย่างถาวร หากท่านใดยังรู้สึกอาลัยอาวรณ์ ตัดใจไปจากกาแลคซี่ทางช้างเผือกไม่ได้ โปรดอดใจรอไปก่อน อีกเพียง 13,000 ปี เท่านั้น สิ่งเตือนใจอายุขัยของ มนุษย์ สัตว์ นั้นแสนจะสั้น มีอายุได้อย่างมากไม่เกิน 100 ปี

    หากยังดับกิเลสได้ไม่หมดสิ้น ย่อมไปจุติ เวียนว่ายต่างภพ ต่างภูมิ ตามผลของการกระทำที่เคยสร้างไว้ และถ้าหากไม่เคยฝึกจิต คงไม่สามารถรู้ถึงเหตุและผล ของการตกอยู่ในสังสารวัฏ และการวนรอบของปรากฏการณ์ทุกอย่างได้ จึงเชื่อเฉพาะสิ่งที่รู้ได้ด้วยใจและสมองเท่านั้น เพราะ “จิต” ที่ยังไม่ “หลุดพ้น” ย่อมตกอยู่ภายใต้อำนาจ การบงการของ “ใจ” อย่างถอนไม่ขึ้น

    เรียบเรียงโดย จีรพันธุ์ ประศาสน์วุฒิ
    1 ธันวาคม 2553

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ความลับของสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา.371062/page-3
     
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    "วิบากกรรม"ของสตีฟ จ๊อบ !!!

    [​IMG]

    ผมไม่มีความเห็นใดๆทั้งสิ้นครับ ส่วนความรู้เรื่องวิบากกรรมของสตีฟจ๊อบ เข้าไปศึกษาดูได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ

    ปรโลกนิวส์ ตอน สตีฟ จ็อบส์ ตายแล้วไปไหน ตอนที่ 1
     
  20. joyplayerman1

    joyplayerman1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +331




    อ่า.....นะ ... คุณไปถามเข้าล๊อคแบบนี้ เกษมฉวยโอกาสตอบสิครับ

    ไม่มีความเห็นแต่วางลิ้งวัดทำมะกายอีกแล้ว ... เฮ้อ ..

    คนก้อคลิ๊กตามเข้าไปอ่าน.. มีคนเห็นอีก ..

    การประชาสัมพันธ์สำเร็จอีกแล้ว

    ... เฮ้อออ ... เก่งแท้ เกษม..
     

แชร์หน้านี้

Loading...