นั้งสมาธิแล้ว ตาลืมเอง (สมาธิ)

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย คุณตุ๊ก, 4 กันยายน 2012.

  1. คุณตุ๊ก

    คุณตุ๊ก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +131
    หลังจากเคยตั้งกระทู้ถามเกียวกับสมาธิ ผมก็ไปนั้งต่อ
    วันนี้ผมนั้งก็เห็นนิมิต เยอะพอสมควร แต่ก็พุทธโธไปเรื่อยๆ..
    จนสักพักมันก็ วินๆตึบๆ ตาก็จะลืมอยู่ตลอดเวลา ผมฝืนอยู่หลายครั้ง เวลาตามันจะลืม จะมีแสงสว่างตรางข้างๆหน้าผากตลอกเวลา และ จะสว่างเรื่่อยๆ ผมเลยลอง
    ปล่อยไปตามธรรมชาติ สรุปคือ ตาลิมจนปรกติ แต่แปลกตรงที่มันยังมีนๆตึงๆ ไม่หลุด มองเห็นเบลอๆไม่ชัด พอรู้ว่าอะไรคืออะไร ห้องสว่างนิดหน่อย พอมองเห็น แต่รู้ว่า ลืมตาปรกติเลย ได้ยินเสียงก็ไม่ตกใจไม่หลุด ผมก็หลับตามาพุทธโธ ต่อไปเรื่อยๆ ทีนี้ตาไม่ลืมละ แต่มือซ้านกระตุ๊ก ออกแนวสั่นเลยก็ว่าได้ ผมก็รับรู้ไปเรื่อยๆ แต่ยังอยู่ที่ พุทธโธ สักพักหายไป ผมก็เลยค่อยๆออก เพราะต้องมาทำงาน แต่ตอนที่ผมค่อยๆออก มันกลับรู้สึกร้อนๆหนาวๆ แล้วเหมือนมันไม่อยากออก อยากจะทำสมาธิต่อ
    เลยอยากทราพข้อเทจจริง เพื่อเป็นกำลังใจให้ตัวเอง ประฎิบัติ ต่อนะครับ ขอบคุณครับ
     
  2. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    อาการของสมาธิชั้นนี้ มันมีสารพัดแหละครับ เยอะไปหมด
    ทำต่อไปเรื่อยๆ ครับ อีกหน่อยอาการพวกนี้จะหมดไปเอง

    ลืมตาแล้วยังอยู่ในสมาธิ อันนี้ดีนะครับ อีกหน่อยจะได้เข้าสมาธิได้โดยไม่ต้องหลับตา

    อ้อ ต้องระวังนิดนึง ไอ้อาการไม่อยากออกจากสมาธิ อันนี้มันทำให้เกิดอาการติดในสมาธิได้ครับ ขั้นรุนแรงนี่ อาจถึงขั้นทำงานไม่รู้เรื่อง ขับรถอันตรายได้เลย จิตจะแช่ค้างอยู่ในสมาธิตื้นๆ ทั้งวัน จะรู้สึกสบายตัว เบาทั้งวัน แต่เป็นมิจฉาสมาธิ ครับ
     
  3. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817
    คุณขอรับ ... นั่งสมาธิหรือฝึกสมาธิ เพื่อให้ใจสงบ เพื่อให้จิตตั้งมั่น และยังมีเรื่องของสมาธิที่พวกคุณไม่เข้าใจอีกมากมาย

    ถ้าคุณนั่งสมาธิแล้วเป็นโน่นเป็นนี่ มีอาการอย่างนั้นอย่างโน้น เขาเรียกว่า "อาการทางจิต"ขอรับ คำว่าอาการทางจิตในที่นี้หมายถึง อาการทางหัวใจและสมอง ใจมีความอยาก สมองสั่งการตามข้อมูลที่มีอยู่ในสมองบ้างก็ปรุงแต่งให้เกิดอาการอย่างนั้นอย่างนี้ สารพัดตามแต่ใจต้องการตามแต่สมองสั่งการ
    ถ้าหากจะเรียกตามหลัก"ฌาน(ชาน)" เรียกว่า "วิตก วิจาร ฯ"


    นั่งสมาธิหรือฝึกสมาธิ แล้วทำเป็นดัดจริตว่า ไม่อยากออกจากสมาธิบ้าง ออกจากสมาธิไม่ได้บ้าง นั่นมันเป็นอาการทางจิตทั้งนั้นขอรับ
    คุณต้องไปทำความเข้าใจในเรื่องของสมาธิ คุณไม่ต้องไปอ่านอะไรมากมายดอกขอรับ เอาเพียงแค่อ่านแล้วรู้และเข้าใจว่า การปฏิบัติสมาธิ หรือการฝึกสมาธิ คือ การฝึกอะไร เพื่ออะไร เท่านั้นคุณก็จะสามารถปฏิบัติสมาธิได้อย่างถูกต้องแล้วขอรับ
     
  4. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="680"><tbody><tr><td>ใน web นี้มีทั้งสิ่งจริงและสิ่งลวง
    ขอให้ท่านเจ้าของกระทู้เลือกเชื่อในสิ่งที่เป็นประโยชน์ ตามหลักกาลามสูตรนะครับ


    </td> </tr> <tr> <td>[​IMG]</td> </tr> <tr> <td> [FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]แต่ละดวงมีลักษณะดังนี้[/FONT]</td> </tr> <tr> <td> [FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]๑) วิตกเจตสิก เป็นธรรมชาติที่ยกจิตขึ้นสู่ความคิดนึก หรือตรึกไปในเรื่องราวต่าง ๆ เป็นเรื่องราวที่ผ่านมาแล้วบ้าง เรื่องราวที่ยังไม่เกิดขึ้นบ้าง เช่น ไปดูภาพยนตร์ เรื่องที่สนุกสนานแล้ว นำมาเล่าสู่กันฟัง ผู้เล่าก็ยกจิตเล่าไปตาม เรื่องราว ผู้ฟังก็ยกจิต ฟังตามเรื่องราวที่เล่า ทำให้เกิดความสนุก สนานไปด้วยไม่ง่วงเหงาหาวนอน [/FONT]</td> </tr> <tr> <td height="132"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="78%">[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]อุปมาเหมือนกับบุรุษไปรษณีย์ ที่นำจดหมายเรื่องโน้นเรื่องนี้ มาส่งทำให้จิต ได้นึกคิดต่อ วิตกเจตสิก นี้เมื่อยกจิต ขึ้นสู่เรื่องราวบ่อย ๆ จะไม่เกิดอาการง่วง คนที่นอนไม่หลับก็คือคนที่หยุดคิดไม่ได้ จิตจึงไม่ง่วงไม่หลับ ถ้าจะให้หลับ ก็คือเลิกคิด หยุดคิดให้เป็นแล้ว จะหลับง่ายตามตั้งใจ[/FONT]</td> <td width="22%">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td>
    </td> </tr> <tr> <td> [FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]๒) วิจารเจตสิก เป็นธรรมชาติที่ประคับประคองจิต ไว้ในเรื่องราวหรืออารมณ์ต่างๆ ตามที่ต้องการมิให้ไปที่อื่น การทำงานของวิตกเจตสิก และวิจารเจตสิกนี้ ใกล้ชิดกันมาก เหมือนกับนกที่บินถลาอยู่กลางอากาศ เมื่อกระพือปีกแล้วจะร่อนถลาไป วิตกเจตสิกเหมือนกับ การกระพือปีกของนก วิจารเจตสิกเหมือนกับการร่อนถลาไปของนก ซึ่งจะเห็นว่าการร่อนถลาไปของนก คือวิจารเจตสิกนั้น มีความสุขุมกว่าการกระพือปีก คือวิตกเจตสิก ทั้งสองนี้จะทำงานร่วมกันเสมอสำหรับบุคคลที่ยังไม่ถึงฌาน ถ้าเป็นจิตของผู้ถึงฌานที่ ๑ และฌานที่ ๒ แล้ว เจตสิกทั้งสองนี้ จะแยกออกจากกัน นอกจากนี้ วิจารเจตสิก ยังเป็นปรปักษธรรมกับวิจิกิจฉาเจตสิกที่อยู่ ในนิวรณธรรม

    [/FONT]หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ได้นิยามวิตก วิจารณ์ไว้โดยง่ายว่า :


    วิตก แปลว่า นึก นึกว่าเราจะหายใจ นึกว่าเราจะภาวนา

    วิจารณ์ ตัวนี้ก็รู้อยู่ ว่าการหายใจเราหายใจอยู่หรือเปล่า หายใจสั้นหรือหายใจยาว ภาวนาอยู่หรือเปล่า คำภาวนาถูกหรือผิด เรียกว่า วิจารณ์


    ส่วนในเรื่องของการติดในสมาธินั้น เรียกว่า ค้นพบจริตเดิมของตัวเองดีกว่าครับ
    คือเคยมีการฝึกในเรื่องของสมาธิมาในชาติก่อนๆ จึงชอบความสงบสุขของสมาธิ
    กลุ่มพวกนี้เวลาฝึกสมาธิในชาติปัจจุบัน จะคุ้นเคยและไปได้เร็วกว่าเฉลี่ยคนปกติธรรมดาทั่วไปครับ
    คนที่ไม่ได้มีจริตในแนวทางนี้ บางคนนั่งสมาธิมาเป็นสิบๆ ปี ยังไม่สามารถนั่งเกิน 3 ชั่วโมงได้
    แต่คนที่มีจริตมาในทางนี้ บางทีฝึกแค่ครึ่งปี ก็นั่งกันข้ามคืนได้แล้ว เพราะมันคุ้นเคยในการทำมาก่อน
    แต่!!! จริตนี้เป็นจริตที่ไม่ค่อยมีประโยชน์ในทางปัญญานะครับ ระลึกรู้ให้ทันมัน แล้วปฏิบัติให้เป็นทางสายกลางเสียจะดีที่สุดครับ

    ขอเพิ่มเติมเรื่องนิมิตนิดนึงนะครับ ท่านเจ้าของกระทู้เห็นนิมิตเยอะ อย่าเอาอารมณ์ตามนิมิตไป อย่าส่งจิตออกไปตามนิมิตเป็นอันขาดนะครับ ไม่งั้นจะอันตรายมากๆ เสี่ยงต่อการหลง และ วิปลาสได้ สำหรับผู้ปฏิบัติที่ยังใหม่ๆ อยู่ ห้ามส่งจิตออกนอก โดยไม่มีครูบาอาจารย์ควบคุมเด็ดขาดครับ
    </td></tr></tbody></table>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กันยายน 2012
  5. คุณตุ๊ก

    คุณตุ๊ก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +131
    ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความรู้นะครับ

    สิ่งที่ผมเล่าให้ฟังเกิดขึ้นจริงกับผมครับ มันเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นเอง
    โดยที่ผมก็ไม่เข้าใจ จึงเรียนถามทุกท่านนะครับ เพียงต้องการทราพว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป ซึ่งผลที่ได้รับ จากการนั้งสมาธิของผม ก็คือความสุขลึกๆ และ ความใจเย็นลงของผม
    ผมจึงมั้นใจว่า การนั้งสมาธินั้นเป็นผมดี ทั้งจิตใจ และ ร่างกาย ของผมเอง ผมจึงอยาก ประฏิบัติ ต่อไปเรื่อยๆ นะครับ
    เนืองจากว่า ผมเป็นคนทำงานกลางคืน ไม่มีเวลาไปหาครูบาอาจารย์ที่ไหน ไม่ได้มีความรู้ด้านนี้มากนัก ก็ได้หาอ่านตามเว็บบ้าง Youtube บ้าง แต่ก็ไม่เข้าใจในบ้างอย่างบ้างเหมือนกัน จึงมาไคร่ขอ ความรู้ที่นี้นะครับ

    ด้วยความเคารพอย่างสูง..
     
  6. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    ให้สนใจที่จิตเท่านั้นแหละ
     
  7. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ในชั้นต้นนี้ การนั่งสมาธิ ให้นั่งเพื่อความสงบสุข เพื่อฝึกการรวมจิตเท่านั้นไปก่อนครับ นั่งแบบไม่ส่งจิตออกนอก อย่านั่งเพื่อต้องการรู้เห็นสิ่งใด อย่านั่งเพื่อความอยาก เพื่อนิมิต อย่าติดในความสุขของมัน ติดเมื่อไหร่ มันเล่นงานอ่วมแน่นอน

    ประสบการณ์ของผมเองคือ ตอนที่ผมบวชเสร็จใหม่ๆ ช่วงนั้นหลวงพ่อเตือนผมว่า นั่งสมาธิ เอาแค่ 10 นาที 15 นาทีก็พอ แต่ตอนนั้นไอ้เรามันถึงจุดที่นั่งแล้วสบาย มีความสุขแล้วนี่ ไม่เคยเจอความสุขแบบนั้นมาก่อนในชีวิต เราก็ตะบี้ตะบันนั่งไปเลย 1 ชั่วโมงบ้าง ชั่วโมงครึ่งบ้าง...

    ตอนนั้นขับรถแทบไม่ได้เลยครับ ไอ้ตัวความสุขในสมาธินี่แหละ กวนทั้งวันไม่หยุดเลย ทำงานทำการแทบไม่ได้

    พอฝึกไม่ส่งจิตออกนอกได้แล้ว ก็ฝึกเจริญสติ และขึ้นการวิปัสสนาตามไปด้วยครับ ตามที่ผมได้แนะนำคำสอนครูบาอาจารย์ไว้แล้วในอีกกระทู้นึงครับ
     
  8. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    นั้งสมาธิแล้ว ตาลืมเอง (สมาธิ)
    เป็นทำมะดาครับ ทำให้บ่อยๆ
    มั่นคงในกรรมฐานก็จะหายไปเอง ชำนาญไปเอง

    อย่าไปทำ กรรมย้าย เป็นใช้ได้
     
  9. arttioz

    arttioz สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +6
    ผมเองก็เป็นเช่นกัน ติดอยู่ตรงนี้ มีคนถามเลยได้ความรู้ไปด้วย :cool:
     
  10. ตั้งฉาก

    ตั้งฉาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    495
    ค่าพลัง:
    +573
    ข่มให้ตาปิด แต่ไม่ต้องฝืนจนเกร็ง ก้อแค่หลับตาให้เป็นธรรมชาติ

    มาร มาหลายรูปแบบ แต่จุดประสงค์เดียว คือ ทำยังไงก้อได้ให้สมาธิไม่เกิด ถ้าเกิด สมุนมารจะเดือดร้อน จะโดนพญามาร ลงโทษ

    ผลของ สมาธิ คือ ความสงบ

    (ใหม่ๆ อาจขืน ตาปิด จนเวียนหัว ปวดตา กอ้ไม่เป็นไร ก้อ เลิกสมาธิ วันหลังค่อยทำใหม่ ทำไปสักระยะ อาการนี้จะหายไปเอง ไม่ต้องวิตก)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤษภาคม 2013
  11. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ที่เห็นอยู่ทั้งหมดนะอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
     

แชร์หน้านี้

Loading...