ได้ฌานแล้วแต่ตายขณะไม่ได้ทรงฌานจะไปเกิดที่ไหน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย kengloveyou, 6 กันยายน 2010.

  1. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,979
    ค่าพลัง:
    +3,259
    แหม คุณ รู้รู้ไป อ่านที่ตอบให้ในกระทู้คุณ วิญญาณนิพพาน ดูเหมือนมีลูกฮึด น่าฟัง

    แต่มา กระทู้นี้ สั้นจุ๊ดจู๋ เป็นปริศนา อีกและ อ่านมากๆ เดี๋ยวผมก็เห็นเป็น พี่หลง(สมาชิกอีกท่านหนึ่ง)
    ผู้เชี่ยวชาญกล่าวปริศนาแบบเซ็น กลายเป็นผลิกนิกายกันพอดี

    แต่ก็เนาะ มีลูกฮึด แบบนี้ ก็ไม่ยุ่งและ

    เขาข่าย ทางใครทางมัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กันยายน 2010
  2. รู้รู้ไป

    รู้รู้ไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    953
    ค่าพลัง:
    +3,165
    เมื่อมีธรรม เมื่อแสดงธรรม ย่อมเกิดธรรม ย่อมได้ธรรม ย่อมสรรเสริญธรรม
    มีกัลยาณมิตรดี ย่อมเป็นเครื่องช่วยให้ถึงซึ่งจุดหมาย อันเป็นธรรม อันเป็นมงคล
    เมื่อผมขาดกัลยาณมิตร ผมย่อมขาดจากธรรมอันเป็นมงคล นั้นด้วย อย่าเป็นเช่นนั้นเลย

    ธรรมดาอาหารย่อมมีรสชาติเปรี้ยวหวานมันเผ็ด แต่ประโยชน์ที่แท้ของอาหารก็คือบำรุงร่างกาย บางคราวรสชาติอาจไม่ถูกใจบ้าง แต่ก็ยังขอรับในส่วนทีเป็นประโยชน์ แล้วทำเป็นไม่รู้ถึงรสชาติที่ไม่ถูกใจนั้น จึงได้ประโยชน์จากอาหารนั้น
    ผมอนุโมทนาแล้วซึ่งผู้ประกอบอาหารอันมีประโยชน์ทั้งหลาย แต่บางคราวต้องวางลงบ้างด้วยมีรสชาติไม่ลงใจบ้าง ด้วยผมยังเป็นผู้ไม่พร้อม

    อนูโมทนากับสหายธรรมผู้แสดงธรรมอันมีประโยชน์ น้อมแล้วซึ่งประโยชน์แห่งธรรมนั้น
    เมื่อใช้ใจ แม้ใบไม้ตกกระทบย่อมเข้าใจ
    ธรรมนั้นก็ดี ประโยชน์นั้นก็ดี กัลยานมิตรนั้นก็ดี รสชาตินั้นก็ดี หากขาดสิ่งใดไป คงน่าเสียดายแล้ว
    ผู้แสดงธรรม ผู้ทำประโยชน์ ผู้เป็นกัลยาณมิตร ผู้ปรุงรสชาติ ย่อมได้เข้าถึงซึ่งสิ่งนั้นเป็นผล
    จริตนี้เป็นอย่างนี้เอง ด้วยทำมาเป็นอย่างนี้เอง
    อนุโมทนาอีกครั้งครับ
     
  3. badjoize

    badjoize เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    293
    ค่าพลัง:
    +293
    อย่าได้สงสัยใดใดเลย ธรรมอยู่ที่ใจ หาใช่อื่นใดไม่
     
  4. ชุนชิว

    ชุนชิว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +780
    ถ้าเอาพระไตรปิฎก ตัดตอนมาอธิบายเข้าข้างตัวเองแบบนี้ก็แย่ซิครับ ยังกะตัดต่อเทปอภิสิทธิ์เลย น่าสงสารจังไม่รู้ว่าเข้าใจแบบนั้นจริงๆ หรือตั้งใจจะทำให้คนอื่นเข้าใจผิด มิจฉาทิฐฐิอย่างแรงกล้าจริงๆ เขาตักเตือนดีๆ แทนที่จะสำนึก เวรกรรม เวรกรรม
     
  5. พุฒิฬส

    พุฒิฬส Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +51
    ฟันธงได้เลย

    อยากเกิดเป็นอะไรละ... :cool: จิตที่เคยผ่านหรือแม้แค่เฉียดๆฌาน ไม่ใช้ธรรมดาแล้ว จิตระดับนี้ยิ่งมาจากการฝึกประกอบกับศีลด้วย แว็บแรกกำลังของจิตจะไปสู่พรหมโลกก่อน เพราะจิตได้เคยปฎิสนธิฌานขึ้นแล้ว จักยังดำรงอยู่ในวิญญาณเรา(การรับรู้)ซึ่งไม่มีในคนทั่วๆไป แต่ก็อีกแหละถ้ามีกรรมหนัก(คุรุกรรม) หรือติดในเรื่องบุญจากการถือศีลก็อาจนะ อาจจะ คนธรรมดาประกอบกรรมบาปทำบุญน้อย ก่อนตายนึกถึงสิ่งที่ดียังเข้าสู่สุขติได้(แต่ยากมาก ต้องมีกัลยาณมิตรที่ดีช่วยเช่นองค์พระสารีบุตรกับสหายผู้เป็นพราหมณ์ตระหนี่) เขาหรือใครจะยกอ้างอะไรมาก็ช่างส่วนที่จะหวังให้ได้ดีกว่ามีน้อย พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้แยะต่างกรรมต่างวาระ อุตสาหะฝึกกระทั่งจิตได้ปฏิสนธิแล้ว ถ้าไม่ชอบแบบวิง วิง อยากอยู่ในการปกครองก็เอาตามความชอบ นะ (づ ̄ ³ ̄) (づ ̄ ³ ̄)
     
  6. chotipala

    chotipala Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +89
    ติดในอนุพยัญชนะและนิมิต.....ไม่ถึงฌานนะ....
     
  7. พุฒิฬส

    พุฒิฬส Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +51
    เรื่องจริงมีอยู่ว่า ครั้นนั้นองค์พระสารีบุตรรู้ข่าวว่าสหายในวรรณะเดิมแห่งตน ป่วยอยู่และภายหลังได้รับการเชื้อเชิญจากสหายนั้น อาจต้องการร่ำลาหรือเป็นการขอจากเพื่อนเพื่ออนุเคราะห์กัน เมี่อได้มีการต้อนรับเป็นอันดีเยื้องพราหม์อันมีสกุลแล้ว จากนั้นจึงได้มีการขอให้องค์พระสารีบุตรแสดงถึงชีวิตหลังความตายตามที่ครูแห่งตน(พระพุทธองค์)ได้แสดงไว้ ว่ามีเยื้องไรบ้าง สุดท้ายมารู้ตัวอีกก็เข้าสู่พรหมโลกแล้ว ทั้งที่ก่อนตายรู้แน่ๆว่าตนต้องไปสู่อบาย เพราะเหตุแห่งความตระหนี่ทั้งที่มีเป็นอันทรัพย์มาก
    ท่านทั้งหลายเอย เรามิได้มาบอกให้ท่านเข้าใจว่ากรรมหลีกได้หรือไม่ได้ อย่างน้อยถ้าท่านมีสหายเยื้ององค์พระสารีบุตรที่มิทอดทิ้งก็ไม่ใช้ธรรมดาแล้ว(หาให้ตายก็...)มีอยู่ ใยจักต้องกล่าวถึงการที่ได้อุตสาหะกระทั้งเข้าสู่อารมณ์แห่งฌานอีกเล่า(วิตก วิจารณ์ ปิติ สุข เอทัคกตา) พระพุทธองค์ทรงตรัจว่าอย่าเชื่อแม้ในสิ่งที่ตถาคตได้เคยแสดงไว้ จงเชื่อในธรรมได้เห็นในธัมมะอันเธอรู้และข้าใจด้วยปัญญา(ฌาน)ของเธอเอง
    ปัจจัตตัง วิญููหิติ
     
  8. พุฒิฬส

    พุฒิฬส Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +51
    บันลือสีนาถ

    วิญญานคือการรับรู้ ด้วยเหตุใดเล่าองค์พระโพธ์ จึ่งต้องเสด็จมาปฎิสนธิ์ ก็ด้วยวิญญาน(การรับรู้)มีแต่ในมนุษย์เท่านั้นที่เป็นที่สุด
    ไม่ว่ากะไรกัน ที่เราต้องทนทุกข์ๆวันนี้ ก็ด้วยท่านทั้งหลายเข้าใจว่านาม เป็นจริงเข้าใจว่าองค์พระพุทธโคดมตรั้จเพือเอาประโยช์น แล้วยังซ้ำเติมว่าไม่เอาประโยชน์
    อยากเกิดเป็นอะไร สหายเอย...
     

แชร์หน้านี้

Loading...