ซูกระแท้ว....แซวกระทู้....

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย raming2555, 14 เมษายน 2014.

  1. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,993
    การแซวกระทู้...ก็ขอหยุดพักลงแต่เพียงเท่านี้...หากท่านใดจะโพสต์เล่นสนุกสนานต่อจากนี้ ก็ยินดีครับ...ไม่มีเงื่อนไข ข้อแม้ใดๆ บังคับ...เพียงแต่ผมจะหนีไปแอบ เหมือนป๋า Topluss99 บ้างแล้วครับ...ผมจะขอเลียนแบบล่ะนะ...อิอิอิ...
     
  2. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,647
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,017
    *****************************
    :':)':)':)'(
    อย่าไปเลียนแบบท่าน อ ทูพลัสนะ ท่านไม่ค่อยสบายค่ะ หายดีคงกลับมาเหมือนเดิม แต่ก็...นะ ทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นไปตามกฎไตรลักษณ์ ตัวเองก็อาจจะหายไปวันนี้พรุ่งนี้ก็ได้ เรื่องจะไปเกิดสมัยพระ ศรีอารย์ก็ขอปฏิเสษเด็ดขาด คิดดูจะต้องเข้าห้องนํ้ากันกี่ครั้ง ผู้หญิงกว่าจะแต่งงานก็อายุ๕๐๐๐ปี(คงต้องรอดูใจกันราวๆ๒๐๐๐ปี อิอิ)
     
  3. aeziss

    aeziss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    377
    ค่าพลัง:
    +1,294
    บรรดาป๋าๆ..หนีไปหมดแล้ว..เหล่าบรรดาแฟนคลับจะอยู่กันอย่างไร..แง้ๆ

    บรรดาป๋าๆ..หนีไปหมดแล้ว..เหล่าบรรดาแฟนคลับจะอยู่กันอย่างไร..แง้ๆ

     
  4. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,993
    [​IMG]

    ทดสอบการฝากไฟล์ ผ่าน เฟสบุ๊ค...
    ก่อนจะโพสต์ให้เลือกที่ สาธารณะ ...
    เมื่อกดโพสต์ไปแล้ว ให้คลิ๊กขวาที่รูปภาพ จากนั้นกดที่ copy image URL
    จากนั้นเอามาวางตรงที่เราจะพิมพ์ กด Ctrl V ก็ได้
    เมื่อโพสต์แล้วภาพจะขึ้นมาให้เห็น...

    แต่ผมลองโพสต์แล้ว ภาพไม่ขึ้น จึงต้องพิมพ์ [​IMG] ไว้ข้างหลังลิงค์ จึงจะมีภาพปรากฎขึ้นครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 สิงหาคม 2015
  5. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,621
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ไม่อยากจะเชื่อว่า...

    จะมีคนที่คิดเหมือนกัน....

    อายุขัย..กับวาระกรรม

    ยุคของพระสมณะโคดม องค์สัมมาสัมพุทธเจ้า เลิศคุณด้วยปัญญา

    จึงเหมาะกับการตรัสรู้ใช้เวลาอายุอายุขัยของมนุษย์น้อยกว่า ทุกพระพุทธเจ้าในภัทรกัปล์เดียวกัน..

    แม้นว่าอายุขัยสั้น มนุษยชาติเราเรียนรู้สุขทุกข์ ได้มากมาย
    ก็น่าะได้เปรียบกว่าการใช้เวลามากแต่เรียนรู้ช้า..สุขทุกข์กว่าจะบ่มเพาะจริตให้เกิดสายปัญญาได้

    เอาว่า..ใครเกิดทันพระธรรมพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน...
    ความเห็นส่วนตัว ผมว่าน่าจะได้เปรียบสุดๆ สำหรับคนเบื่อทุกข์ทังหลาย
     
  6. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,647
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,017
    raming2555
    ผมจึงอยากจะขอฝาก ข้อคิดเห็นเหล่านี้ เอาไว้กับหมู่กัลยาณมิตรทั้งหลาย..
    ที่ปัจจุบันนี้ พระพุทธศาสนายังมีอยู่ พระธรรมยังมีอยู่ การบรรลุมรรคผล ยังสามารถทำได้อยู่ พระอริยสงฆ์ยังมีอยู่...เราทั้งหลาย...จะรออะไรกันอีก...จะปรารถนาอะไรในภายภาคหน้า อันหานิมิตหมายเครื่องกำหนดใดๆเป็นที่แน่นอนไม่ได้...และแม้ได้โอกาสในยุคสมัยแห่งพระศรีอริยเมตตรัยแล้วนั้น...ท่านทั้งหลาย จะยินดีอยู่กับกองทุกข์อันยาวนาน เพื่อการบรรลุธรรม อันเสมอกันนี้ จริงๆหรือ?

    ครูบาอาจารย์ท่านคงทราบเรื่องเหล่านี้มานานแล้ว แต่บอกกล่าวอย่างไร ผู้คนที่มีตัณหาอันท่วมล้น ก็ยังไม่สนใจจะเร่งรัดปฏิบัติธรรมในปัจจุบัน...ต่างยังเพ้อฝันยินดี ลุ่มหลงกับความทุกข์อันยาวนานในอนาคตกาลอันไกลโพ้น...

    ผมจึงหวังว่า ความเห็นของผมในครั้งนี้ จะได้แพร่กระจายไปยังคนทั้งหลาย เพื่อให้เปลี่ยนทัศนคติเสียใหม่ .... ให้เร่งทำประโยชน์ในปัจจุบันชาติ ให้ยิ่งๆขึ้นไป จนสำเร็จแห่งการดับไม่มีเชื้อ ในยุคสมัยปัจจุบันนี้เถิด...

    ********
    ยกเอามาอ่านอีก ตอกกระลาหัวตัวเอง สาธุธรรมค่ะcatt1
     
  7. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,647
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,017
  8. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,993
  9. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,993
    หลายวันก่อน ได้มาหยุดคิด ทบทวน เรื่องราวต่างๆในชีวิตที่ผ่านๆมาว่า...
    เรานี้เคยมีความสุขที่สุด ในครั้งไหนบ้าง...เมื่อทบทวนแล้วก็ไม่พบว่า เคยมีความสุขมากๆ จนสามารถทำให้เกิดความทรงจำที่ประทับใจได้...หรือว่าจะดีใจสุดๆ ก็ไม่เคย...

    เมื่อทบทวนเรื่องความเสียใจมากๆ เสียใจที่สุด...ก็พบว่าไม่เคยเสียใจมากๆ ในเรื่องใดๆเลย...จะมีบ้างก็เสียดาย ซึ่งก็น้อยครั้งมาก...

    สำหรับเรื่องความรักนั้น ก็พบว่า ไม่เคยรู้จักว่า ความรัก นี่คืออะไร...แต่ว่าอธิบายได้เป็นคุ้งเป็นแคว....มีทั้งหลักการ แง่คิด ปรัชญา บ้าบอมากมาย...แต่ว่าตัวเองกลับไม่รู้หรอกว่า ความรักเป็นอย่างไร...ถ้าจะมีความคิดถึงนี้ เคยมีอยู่...

    เรื่องอกหัก จึงไม่เคยอกหัก ไม่รู้ว่าการถูกทิ้งให้อยู่เพียงลำพัง...มองใบไม้ร่วงแล้วน้ำตาไหลริน มันเป็นยังไง...มีความรู้สึกว่า น้ำเน่ามั๊ง...มีแต่ในมิวสิควีดีโอเท่านั้นแหละนะ...แต่ว่าจริงๆแล้วมีอยู่จริงเหมือนกัน...เพียงแต่เราไม่เคยรู้จัก...

    นึกๆไปแล้ว เรานี่มันเกิดมาเสียชาติเกิดหรือเปล่าเนี่ย...
    เรื่องพวกนี้น่าจะได้เคยลองสัมผัสดูบ้างนะ...

    เกิดมาชาตินี้ ผ่านเรื่องราวทุกข์ยากแสนสาหัสมาหลายต่อหลายครั้ง นับแทบไม่ถ้วน แต่ละครั้งก็ล้วนหนักหนา...แต่ก็เห็นว่านี่คือทุกข์...เสือกเกิดมาเองนี่หว่า...ขึ้นชื่อว่าเกิดมาแล้ว ไม่มีความทุกข์เลยย่อมไม่มี...ถ้าไม่อยากทุกข์แบบนี้อีก..มีทางเดียว...คือทางที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอนเอาไว้แล้ว...เอาให้มันจริงๆสิ...พ้นทุกข์ได้ตั้งแต่ยังมีลมหายใจนี่แหละ...
     
  10. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,647
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,017
    แสดงว่ายังไม่เคยมีความทุกข์ในเรื่องความรัก(ก็มีทั้งรักตัวเอง ครอบครัว คน...แปลกหน้า)ก็ยังถือว่าท่านก็นับว่าโชคดีมากนะคะ แต่ที่โชคดีกว่านั้นก็คือการเข้าถึงธรรมซึ่งก็นับว่าท่านโชคดีที่สุดค่ะ ตัวเองก็ค่อยๆกระย่องกระแย่งไปกว่าจะถึง คิดว่าตั้งแต่อ่าน"หลงทาง"แล้วคงจะไม่หลงอีกต่อไป เจริญธรรมทุกๆท่านค่ะ


    เค้าบอกเนื้อคู่เรา เป็นคนต่างชาติ
    …..เราอยู่ชาตินี้…..เค้าอยู่ชาติหน้า
    :'(
     
  11. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,993
    ่ลอกเค้ามาอีกทีครับพี่ต้อย...คริคริคริ...
    กระทู้"หลงทาง" น้องดี รวบรวมเป็นไฟล์PDFไว้ให้แล้วครับ หาดาวโหลดได้จากกลุ่มในเฟส...https://www.facebook.com/groups/405325989663060/
    กลุ่มธรรมหรรษา ครับ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. ราคุเรียวซาย

    ราคุเรียวซาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,940
    ค่าพลัง:
    +8,515
    ว่าด้วยเรื่องทุกข์


    แต่ก่อนเวลามีทุกข์ จะคิดว่าทุกข์ระดับนี้ควรมีค่าดัชนีที่เท่าไร

    ระดับนี้ทนได้ไหม

    พบว่าส่วนใหญ่ทนได้ ทนได้ค่ะ

    แต่ตอนไส้ติ่งอักเสบ ที่เจ็บจนสลบไม่ลง
    นั้น ข่มใจข่มเวทนา ไม่ได้เลยเลยต้องไปผ่าออก

    กลายเป็นผู้พิการใส้ติ่ง จนปัจจุบัน
     
  13. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,647
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,017
    ***********
    เหมือน"ถุงนํ้าดี" ที่มันเปลี่ยนใจกลายเป็นไม่ดี ต้องตัดทิ้งเช่นกันค่ะ
     
  14. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,647
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,017
    *****************
    ธรรมะสวัสดีทุกๆท่านค่ะ อาจารย์ลงเก่งจัง ทําไม่เป็นแต่ก็ฟังไป๓ครั้งแล้ว บังเอิญวันนี้ไปเจอของท่าน ว ว สนุกมากค่ะ เลยเอามาฝากน้องๆฟังแล้วมีแต่ฮา

    ธรรมมะใสๆ หัวใจ 4 ดวง - ท่านว.วชิรเมธี

    https://youtu.be/K9i9RwydIao
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ตุลาคม 2015
  15. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,993
    เรื่องมหัศจรรย์อันน่ายินดี

    หลายวันก่อน เดินๆอยู่ ก็ได้เห็นตัวเองและคนรอบข้างว่า....
    เราไม่พิการ ตาไม่บอด หูไม่หนวก ไม่เป็นใบ้ ไม่พิการแขนขา ไม่เป็นบ้า ปัญญาอ่อน(นิดๆ)
    เรามีครบ อาการ 32 ....
    อีกทั้งเรายังมีลมหายใจ...

    นี่ก็เป็นเรื่องดี และมหัศจรรย์ใจเพียงใดแล้ว...
    ทำไมเราไม่เคยคิดถึงสิ่งดีๆเหล่านี้...
    มัวแต่จะไปนั่งทุกข์ ...
    ทุกข์ เพราะอยากได้ อยากมี อยากเป็น...
    ไม่อยากได้...ไม่อยากมี...ไม่อยากเป็น...

    แล้วก็ถามตัวเองว่า"เราเกิดมาทำไม"
    เราไม่ได้เกิดมาเพื่อใช้กรรม...
    แต่เราเกิดมาเพื่อสร้างบารมี...
    การสร้างบารมีของเราคือ การฝึกฝน กาย ฝึกฝน ใจ...
    ให้ล่วงรู้เจนจบ ทั้งทางโลก และทางธรรม...
    ขึ้นชื่อว่าการสร้างบารมีแล้ว ย่อมต้องใช้ความพยายาม อดทน ด้วยความยากลำบาก...
    ใครที่ไหนกัน จะสร้างบารมีโดย นั่งๆ นอนๆ กินไป เที่ยวไป เสพไป...

    ถ้ารวยมากๆ มีอำนาจมากๆ แล้วจะได้สร้างบารมีได้มากๆ...ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง พระเตมีย์ไม่ต้องแกล้งเป็นใบ้ให้โดนขับออกจากวัง...
    พระเวสสันดร ไม่ต้องทิ้งราชย์สมบัติออกไปสู่ป่า...
    ...พวกบ้าเงิน...หน้าเงิน...เห็นแก่เงิน...หวังว่าเงินจะใช้เพื่อปรนเปรอตนเอง...แล้วมาโลกสวยอ้างว่าจะใช้สร้างบารมี...ถถถถถ...
    บ่นจบก็เดินถึงบ้านพอดี...ฟุ้งซ่านจังนะเรา...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ตุลาคม 2015
  16. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,993
    เอาพวงมาลัย ดอกมะลิ ไปล้างเท้าพ่อแม่เพื่อขอขมากรรม ที่ได้เคยล่วงเกินมาแล้ว...แล้วชีวิตจะดีขึ้น....(ธรรมเนียมไทย)

    อาจจะด้วยผมเป็นคนจีน ผมจึงไม่ได้ปลาบปลื้มกับลูกที่เอาน้ำมาล้างเท้าพ่อแม่ ขอขมา เพื่อตัวเอง(ย้ำนะครับว่า..เพื่อตัวเอง..ไม่ใช่เพื่อพ่อแม่พี่น้องสังคมประเทศชาติพระศาสนาใดๆ..เพื่อตัวเอง) จะได้ดีขึ้น...เรื่องนี้ผมไม่เชื่อหรอกครับ...ผมเชื่อว่า ใครทำกรรมใดไว้ ดีหรือชั่วก็ตาม ตนจะต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น....
    ....แต่ผมชื่นชมมากกว่า กับลูกคนนึง ที่ลางาน ไปอาบน้ำให้แม่ เพราะแม่ป่วย ช่วยสวนทวารให้ ไม่รังเกียจ คอยเช็ดตัวให้แม่ ตอนแม่ตัวร้อน เช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้แม่ จนตัวเองแทบไม่ได้หลับได้นอน พาแม่ไปหาหมอ เพื่อตรวจร่างกายรักษา...หาหยูกยามาให้แม่กินทั้งๆที่ตัวเองไม่ค่อยจะมีตังค์...พาแม่ไปวัด ไปกราบครูบาอาจารย์ ให้ได้ประพฤติปฎิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอน...อ่านคำสอนของครูบาอาจารย์ให้ฟัง...พาแม่สวดมนต์...

    ผมสรรเสริญคนแบบนี้มากกว่าครับ...คนๆนี้เขาไม่ได้ทำเพื่อให้ตัวเองดีขึ้น แต่เขาทำเพื่อแม่ แม่ที่ครั้งนึงเคยคิดและพยายามทำร้ายเขาให้ถึงแก่ชีวิต...ผมไม่รู้หรอกครับว่า ชีวิตของคนๆนี้จะดีขึ้นไหม หน้าที่การงานจะดีขึ้นไหม จะร่ำรวยเงินทอง หรือเปล่า...แต่ผมมั่นใจว่า ใจของคนๆนี้ เจริญแล้ว ดีแล้ว เขาถึงทำเช่นนี้ได้...

    เพราะความดี ไม่ใช่นับกันที่ความร่ำรวย...ไม่ได้นับกันที่ความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน...
    โกงเก่ง ก็รวยได้....เลียแข้งเลียขา ประจบสอพลอ ก็ก้าวหน้าในหน้าที่การงานได้....
    แต่ความดีและความเจริญของคุณธรรมในใจต่างหากล่ะครับ...ที่ควรสรรเสริญ...


    ถ้าใครไหว้ พ่อแม่ทุกๆ7วันหลังตาย ครบ7ครั้ง คนนั้นจะเจริญรุ่งเรือง ....(ธรรมเนียมจีน)
    สำหรับคนที่เลี้ยงดูบุพการี ตราบจนชีวิตหาไม่ ยอมอดๆอยากๆเพื่อให้บุพการีมีกิน มีใช้ สุขสบาย หากไม่ไหว้ 7ครั้ง ทุกๆ7 วันหลังจากตายไปแล้ว ...มันจะไม่เจริญ ประสบความสำเร็จในชีวิต...มันคงไม่ถูกต้องตามกฎแห่งกรรมมั๊งครับ...

    ตายไปแล้วจะรู้อะไรเล่า...ไหว้แล้วท่านจะได้อะไรเล่า...ไหว้ดีแค่ไหน ก็กินไม่ได้...
    มีชีวิตอยู่ไม่เคยเลี้ยงดู ดูแล ตายไปมานั่งไหว้ จะได้อะไร...
    ไหว้แล้วจะทำให้ตัวเองเจริญรุ่งเรืองร่ำรวย ประสบความสำเร็จในชีวิตได้...
    ผมไม่เชื่อหรอกครับ...
    ผมมันกบฎต่อธรรมเนียมความเชื่อเหล่านี้...

    ................................................................
    แล้วความสำเร็จในชีวิตผม ผมเชื่ออะไร???ถ้าผมไม่เชื่อเรื่องการล้างเท้าขอขมา ไม่เชื่อเรื่องการไหว้ 7,7 49...

    ผมเชื่อว่า คนเราจะมีโอกาสประสบความสำเร็จได้ ต้อง...
    "ขยัน และ ประหยัด ยืนหยัดอดทน ทำตนเชื่อถือได้ อ่อนน้อมถ่อมตน รู้จักประมาณตน รู้ผิดแลรู้ชอบ คิดสร้างสรรค์"

    ส่วนคนที่ผมยกย่องนั้น ผมไม่ได้ยกย่องคนรวย หรือกำเนิดเกิดมาในชาติตระกูลที่เขาสมมติว่ายิ่งใหญ่ ในตระกูลของผู้นำ...
    แต่ผมยกย่อง คนที่มีคุณธรรมจากภายในใจของเขา ที่ทำดีออกมาจากภายใน โดยไม่ต้องแต่งแต้ม หลอกล่อ เสแสร้ง สร้างภาพโลกสวย...เป็นคุณธรรมที่ปรากฎออกจากใจของเขาอย่างแท้จริง...

    มันก็เป็นเพียงความเชื่อความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ...อาจไม่เหมือน ทัศนคติของหลายๆท่าน ก็ต้องขอบอกว่า...แม้เราคิดเห็นต่างกัน แต่ก็ไม่ใช่ศัตรูกัน...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2015
  17. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,647
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,017
    แล้วเรื่องการเผากระดาษ(รถ บ้าน....etc)ส่งให้พ่อ แม่ หรือ ญาติที่เสียชีวิตไปแล้วล่ะคะ ท่านมีความเห็นอย่างไรและยังทํากันอยู่หรือไม่ ธรรมะสวัสดีทุกๆท่านค่ะ
     
  18. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,993
    เรื่องเผากระดาษ คนจีนยังทำกันอยู่ครับ...มีมากมายหลายอย่างด้วยกัน...
    ตั้งแต่ เหงิ่งเตี๊ย ไปจนถึง ไอโฟน10 บัตรเคดิตต่างๆนานา จนเมืองผีน่ากลัวจะเงินเฟ้อไปเสียแล้วนะครับ...

    ท่านบ่าวเอิง ท่านเคยไปดูผลของทำพิธีกงเต๊ก ท่านว่ากระดาษที่เผาลงไปนั้น คนที่ตายไปแล้ว เขาได้รับ...
    ผมก็เคยแอบตามไปดู ตอนงานกงเต๊กเตี่ย...เผาไปก็เป็นขี้เถ้า ไม่เห็นมีใครได้รับ นอกจากร้านขายกระดาษ...

    ผมเองก็ไม่ค่อยอยากจะไปเผาหรอกครับ? ผมพวกอนุรักษ์โลกสวย ...
    อยากจะช่วยลดโลกร้อน(แต่จริงๆพวกกระดาษพวกนี้แพงน่าเกลียดมากครับ ผมสงสารกระเป๋าตัวเองมากกว่า จู่ๆเหมือนเราเองเงินมาเผาเล่นน่ะนะ)

    ปะทัดผมก็ไม่ค่อยชอบจุดครับ หนวกหูมาก ไร้สาระที่สุด(จริงๆแล้วผมกลัวปะทัดน่ะครับ) เคยถามตั่วเฮีย แกว่าจุดไล่ผี มั๊ง...

    เอาเป็นว่าตามธรรมเนียมเขามีกัน ถ้าเราไม่เดือดร้อนมากนัก ก็ทำตามๆเขาว่าไป...แต่ถ้าเยอะมากไป จนไม่สบายใจ สบายกาย ก็หยุดซะ...

    หันมาสวดมนต์ ไหว้พระ เจริญภาวนา ท่าทางจะดีกว่านะครับ...
     
  19. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,993
    ผมเป็นเด็กขี้สงสัย...จนได้รับฉายาว่า "มนุษย์เจ้าปัญหา"
    สำหรับบางประเทศแล้ว การเป็นมนุษย์เจ้าปัญหาเป็นเรื่องน่ารังเกียจ...
    มีบางประเทศที่เห็นว่า การมีปัญหา หรือมองเห็นปัญหา เป็นสิ่งที่ดี เพราะนั่นแสดงว่า คุณกำลังใช้สมอง ผ่านกระบวนการคิด และคุณมีวิสัยทัศน์ที่แตกต่างจากสิ่งเดิมๆ...
    ปัญหาที่สงสัย เมื่อหาทางแก้ไข หรือหาคำตอบได้ นั่นจะทำให้เกิดปัญญา...
    .................................
    เมื่อความสงสัย เป็นปัญหาให้กับสังคมผมจึงเลือกที่จะเก็บความสงสัยของผมเอาไว้ แล้วค้นคว้าหาคำตอบด้วยตัวเองเป็นส่วนใหญ่...
    บางข้อสงสัยก็ได้คำตอบ...
    คำตอบบางครั้งก็ขัดกับความเชื่อของคนอื่นๆที่ผ่านๆมา...
    บางคำตอบก็เป็นแต่เพียงคาดเดา...
    บางข้อสงสัยก็ยังไม่สามารถหาคำตอบที่เหมาะสมได้...ก็ยังคงต้องค้นหากันต่อไป...


    ผมเห็นคนสร้างเจดีย์ สร้างวิหาร ถวายทานเป็นอันมาก...บางคนก็ทุ่มสุดตัว บางคนรวยมากทำทานได้มากๆ สร้างวัดได้ทั้งวัด หรือหลายๆวัด...บางคนก็โกงเขามา แต่เอาเงินที่ได้จากการโกงมาทำบุญ...พระสวดให้พรเยอะมาก...พระท่านลำดับอานิสสงค์ให้ฟัง ฟังแล้วน่าปลื้มใจมาก จะได้ไปเป็นเทวดา มีนางฟ้า(ทำหน้าที่บำเรอ)ตั้ง1000 เกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ ฯลฯ...กว่าจะหมดบุญก็บรรลุธรรมขั้นสุดไปเสียก่อนแล้ว...

    ผมลองทำบ้าง...แต่แล้วก็ย้อนกลับมาดูที่ใจตัวเอง โลภลดลงไหม? ไม่ลดลงเลย มีแต่เพิ่มขึ้น เพราะอยากเป็นเทวดา พรหม พระเจ้าจักรพรรดิ์ ฯลฯ ไม่ได้อยากเป็นยาจกเข็ญใจ หรือคนธรรมดาๆ เดินดินกินข้าวแกงเลย...โกรธน้อยลงไหม? ก็เปล่า หลงน้อยลงไหม? ท่าทางจะมีมากขึ้น...
    เราบริจาคแบบนี้ไปแล้ว ไม่ได้ฝึกจิต...จะเอาอะไร ไปบรรลุธรรมเหรอ? ไม่มีเหตุ ผลจะเกิดได้อย่างไร?
     
  20. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,993
    เมื่อผมฝึกมโนมยิทธิ...จนหลวงพี่ท่านให้ไปท่องญาณ๘ กับครูเปี๊ยก ชั้นล่าง...
    ผมไปพระจุฬามณี ไปพรหม ไปจนถึงพระนิพพาน ท่องเที่ยวไปในสุคติภูมิภพต่างๆได้..
    ไปมีวิมานบนพระนิพพาน ฯลฯ...
    ศิษย์รุ่นพี่ทั้งหลาย ต่างก็ดีอกดีใจกับสิ่งที่ปรากฎขึ้นในการฝึกกรรมฐาน...
    ต่างก็คิดว่าตัวเองเมื่อตายไปจะได้ไปพระนิพพานเป็นแน่แล้ว ถ้าไม่ทิ้งอารมณ์พระนิพพานนี้...

    โอปนยิโก.....

    เมื่อออกจากสมาธิ ผมได้ย้อนดูจิตใจตัวเอง ถึงความยึดมั่นถือมั่นในกายนี้ว่ายังมีอยู่หรือไม่ ก็พบว่ายังมีอยู่ครบ...พิจารณาสังโยชน์ทั้ง 10 ประการ ผมยังมีครบ ตั้งแต่สักกายะฑิฐิ ไปจนถึงอวิชชา...เรื่อง รัก โลภ โกรธ หลง ผมยังมีครบถ้วน ไม่ต่างจาก ปุถุชนทั่วไป...ตายไปสภาพนี้แล้ว ผมจะไปพระนิพพานได้อย่างไร? ถ้าจะว่าไปจริงๆแล้ว ความชั่วในใจผมไม่ได้ลดลงเลย...

    การที่มีความเห็นว่า ร่างกายนี้ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เราไม่มีในร่างกายนี้ ร่างกายนี้ไม่มีในเรา ก็เป็นแต่เพียง สัญญา คือความทรงจำ ที่ฟังมาจากครูบาอาจารย์ มานั่งคิดๆเอา ก็เห็นว่าเป็นเรื่องจริง..แต่มันก็เป็นเพียงความนึกคิดจากสมอง หาได้ค้นพบเป็นปรมัตถสัจจะ จากจิตเดิมแท้ของตนเองแต่อย่างใด...

    พระพุทธศาสนาสอนเรื่องจิต เริ่มต้นทุกอย่างที่จิต และทุกอย่างก็จบลงที่จิต...
    ไม่ใช่ที่สมอง...เพราะหากบรรลุและสำเร็จได้ด้วยสมองขบคิดเอาแล้ว คนที่เรียนหนังสือเก่งๆ คงจะบรรลุธรรมกันไปหมดแล้ว...ผมไม่เห็นคนที่เรียนเก่งๆบรรลุธรรมกันเลย กลับเห็นลูกชาวบ้าน เลี้ยงวัว เลี้ยงควาย ทำนากันมาก่อน เมื่อมาปฏิบัติแล้ว จึงได้บรรลุธรรมขั้นสูง จนสอนพวกที่เรียนสูงๆได้ อย่างห้าวหาญ เช่น หลวงปู่มั่น หลวงพ่อชา หลวงปู่ดุลย์ หลวงพ่อพุธ ฯลฯ

    แน่นอนว่า ผมจึงสงสัยในสิ่งที่ผมเห็น เพราะเห็นแล้ว กิเลส ตัณหา มันไม่ได้ลดลง แบบนี้ผมจะรอดจากนรกได้ยังไงกัน?
     

แชร์หน้านี้

Loading...