.ในครั้งพุทธกาลช่วงหนึ่ง ไม่แน่ใจว่าด้วยปัญหาอะไรทำให้พระไม่ได้ออกบิณฑบาต .พระโมคคัลลาน์ จึงทูลอาสาพระพุทธเจ้า จะใช้ฤทธิ์พลิกแผ่นดินเพื่อนำ...
.สติเล็งไปที่อารมณ์ปฏิฆะ มีขันติ อันนี้อารมณ์หนักหน่อย แม้เราที่ปฏิบัติผ่านมาก็ถือว่ายากนะ เราเพลี่ยงพล้ำไปหลายครั้งเหมือนกัน...
¤อ๋อ ตอนตั้งชื่อนั้นเจตนาตั้งใจจะทำความดีนั้น ก็เคยได้ยินว่ากลิ่นของศีลและความดีนั้น หอมไปได้ไกลขจรขจายกว่ากลิ่นใดๆ และทวนกระแสลมได้...
¤ศีลคุณธรรมจักเป็นเครื่องป้องกันอันตรายจากภายนอก ¤การรู้เท่ากิเลส เป็นเครื่องป้องกันอันตรายและทุกข์ภายในใจ
>ในวงจรไฟฟ้านั้น หลังจากกระแสไฟฟ้าไหลผ่านโหลดไฟฟ้าแล้ว มันจึง ''ย้อนกลับ"ไปยังแหล่งจ่าย เพื่อแสดงให้ทราบว่า มีการใช้ไฟฟ้าไปเท่าไร...
>เพราะการครองเรือนยากที่จะไม่มีบาป แต่มันก็มีหนัก เบา อย่างที่บอก >ทั้งบาป และ ราคะ เป็นกิเลสเหตุแห่งทุกข์...
บาปมันก็มีหนัก มีเบา เหมือนอาบัติของพระนั่นแหละท่าน ตั้งแต่ปาราชิก ไป เสขิยวัตรเป็นต้น >ทั้งคนฆ่า ผู้ที่ซื้ออุดหนุน รวมกันเป็นวงจร...
>จะได้เห็นอริยสัจจ์ไง อานิสงส์ >ทุกข์ คือ อาการไม่สงบ เร่าร้อน ทนได้ยาก >เหตุเพราะ ราคะ >ราคะเบาบาง หมด ทุกข์ก็เบาบาง หมด >การปฏิบัติ...
.มนุษย์และสัตว์ที่ทำตัวน่ารัก ไม่เบียดเบียน สร้างความเดือดร้อน ความไม่สงบ ต่อผู้อื่น ย่อมได้รับการอภิบาลจากท่านผู้มีคุณทั้งหลาย..
*สำรวมอายตนะภายนอก(ตา หู จมูก ลิ้น กาย) *เรียนรู้อารมณ์ในใจ *เมื่อรู้แจ้งอารมณ์ มันก็ทุเลาเบาบางไป *สิ่งภายนอกหมุนไปเป็นธรรมดา...
อภัยด้วยนะ อ่านตอนแรกคิดว่าเป็นท่านจขกท.เอง >ส่วนตัวเรานับถือผู้มีคุณธรรม ความดี ไม่ว่าจะเป็นใคร สัตว์ ปุถุชน กัลยาณชน พระโพธิสัตว์ พระอริยเจ้า...
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ที่ท่านรังเกียจนี่ ความดีทั้งนั้น สิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล บางอย่างมันต้องเรียนรู้เอง
.มีพ่อแม่ไว้ให้กราบไหว้นี่ดีแล้วท่าน .บางคนพ่อ แม่ หน้าตาเป็นไง ชื่อเสียงเรียงนามว่าไร ก็ยังไม่มีโอกาสเลย....ได้แต่นอนฝัน เอ๊..หน้าตาท่านเป็นไง...
.แนะนำให้ทำเพื่อให้เห็น โทษ ความทุกข์ อันเนื่องมาจากกิเลส .เมื่อเห็นอานุภาพมันแล้ว ก็หาทางปฏิบัติเพื่อชำระมันทิ้ง .เป็นวิธีกินเจที่ยั่งยืน...
.กิเลสที่เกิดกับใจ(ธัมมารมณ์)เป็นที่ตั้งแห่งสติ .ในเคสนี้ก็เช่น ^รู้สึกหวาดเสียว ไม่สบายใจ^เมื่อเห็นของมีคม เช่น เข็ม มีดหมอ เห็นบาดแผล เลือด...
.พระพุทธเจ้าสอนให้ชำระบาปในใจ .ต้องศึกษาดู ทำอย่างไร
.ที่ใดมีศีลที่นั่น สงบสุข .สรรพสัตว์ทั้งปวงอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ไม่เบียดเบียนล่วงเกินกัน .ที่ใดสงบ ย่อมง่ายต่อการเจริญ สมาธิ ปัญญา จนถึงนิพพาน...
.ถ้าหาไม่ได้ก็ปฏิบัติเลยท่าน .ได้ยินเสียงต่างๆ แล้วเกิดอารมณ์อะไรขึ้นบ้าง (เช่น ปฏิฆะ รำคาญ) .ใช้อารมณ์เหล่านั้นเป็นองค์สมาธิ .วิตก(ระลึก)...
.ความกำหนัดใน รูป กลิ่น รส อาหาร เรียกว่า กิเลสราคะ เข้าใจนะ
.กลัวตกนรก กลัวตาย กลัวผี.... .เป็นกิเลสนำอบายภูมิ .ตั้งสติ ปิดอบายภูมิ .เริ่มกลัว นี่เริ่มหมองแล้วนะ....
.เพิ่งผ่านเข้ามานะ กระทู้ดีจัง โมทนาด้วยทุกท่าน .ส่วนของเรา ตั้งแต่ปี2553เป็นต้นมาเราปฏิบัติตัวมาประมาณนี้ . .ไม่มีเจตนาเบียดเบียน...
.บุญฤทธิ์...
.ไปเพ่ง บังคับมันน่ะ ประมาณว่าอยาก ได้โน่นได้นี่นะท่าน เป็นผลข้างเคียง . แต่มันเป็นความปราถนาส่วนตัวนี่นะ ว่ากันไม่ได้ .เลยต้องรู้ก่อนว่า...
.คงเป็นจิตคิดปรามาสโดยไม่เจตนาอ่ะนะท่าน .เช่น ไปกราบพระที่ปฏิบัติดีแท้ๆ แต่ในใจโอ้โห.....สารพัดของมันไม่น่าเชื่อ .ให้ดูใจเฉยๆ ใจมีความคิด...
.accident นี่ท่าน คิดมากจัง .การบูชาพระพุทธเจ้าที่ดีที่สุดคือ การละกิเลส .ไม่สบายใจเป็น1ในกิเลสโมหะ นำเกิดในอบายภูมิ4 ละได้ด้วยการรู้เท่า รู้ทัน...
.อธิษฐานใจ คือ การตั้งใจอย่างยิ่ง
.มันขึ้นอยู่กับตอนบนไว้ ตั้งใจไว้ยังไง .สิ่งที่ท่านไปบนไว้น่ะเป็นของสูง .ถ้าท่านทำไม่ถูกตามที่บนไว้น่ะ มันจะทำให้ไม่สบายใจ...
.ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ก็ให้ถือซะว่าบำเพ็ญขันติบารมี..แกร่งทั่วแผ่นไปเลย
.ศีล คือ ความปกติ สงบ ไม่หวั่นไหว .ถามว่าผิดศีลไหม .ตรวจจิตดูว่า ผิดปกติมั๊ย คิดมากมั๊ย หวั่นไหวมั๊ย .เช่น ยืดอกบอกกับทุกคนในสังคมได้ว่า...
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค เช่น พลังจิต, พุทธศาสนา