[กฎแห่งกรรม] ยิ่งเกลียด-ยิ่งใกล้ และนางวิสาขาแห่งวัดอัมพวัน โดยหลวงพ่อจรัญ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย hyperz, 9 มิถุนายน 2010.

  1. hyperz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    338
    ค่าพลัง:
    +3,421



    บทนำ
    <O:p</O:p

    ปลายเดือนเมษายน ต่อเดือนพฤษภาคม ๒๕๓๔ นี้ เป็นสัปดาห์ปฏิบัติธรรมของยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย มีผู้เข้าปฏิบัติกรรมฐานจำนวนถึง ๗๐๐ คนเศษ โดยมีคุณแม่ดร.สิริ กรินชัย และคณะเป็นวิทยาการผู้ฝึกอบรม<O:p</O:p
    คืนวันที่ ๓ พฤษภาคม เป็นวันสุดท้าย ยุวพุทธิกสมาคมฯ จึงจัดให้มีการบำเพ็ญกุศลทอดผ้าป่า เป็นการให้ลูกโยคี ทำบุญด้วย ใช้หนี้สงฆ์ด้วย ได้อาราธนาหลวงพ่อมาชักผ้าป่าและแสดงสัมโมทนียกถา เพื่อเพิ่มพูนศรัทธาปสาทะและความร่าเริงในธรรม เป็นรายการปัจฉิมนิเทศที่ประทับใจแก่ลูกโยคีทุกคน<O:p
    <O:p</O:p

    หลวงพ่อให้คติธรรม<O:p</O:p
    ขอเจริญพรพี่น้องที่มาปฏิบัติธรรมทุกคน เป็นผู้มีบุญวาสนาทั้งนั้น ข้อสำคัญอยู่ที่ท่านจะรักษาบุญวาสนาที่ได้รับไปแล้วนี้ไว้ได้หรือไม่ บางคนมาสร้างบุญวาสนาแล้ว ก็ไม่รักษาไว้ กลับไปถึงบ้านก็คลาย หนักเข้าก็ทิ้ง แล้วจิตก็กลับเข้าสู่ภาวะเดิม น่าเสียดายโปรดจำไว้ว่า การทำจิตให้เป็นกุศลนั้นจะต้องปฏิบัติโดยต่อเนื่อง ทำอะไรทำให้จริง ทำจริง-เข้าถึงแล้วท่านจะซึ้งใจ มีสัจจะ เมตตา สามัคคี มีวินัย ประทับใจในพระคุณของบิดามารดา ครูบาอาจารย์ เกิดความรับผิดชอบในหน้าที่การงานอันจะเป็นมงคลแก่ชีวิตสูงสุด<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ภาคปฏิบัติธรรมนี่ ชั้นสูงนะ ไม่ใช่ฉันตักบาตรข้าวขันแกงโถ ไปวัดฟังธรรม แล้วว่าเป็นคนมีบุญ ไม่ใช่นะ การเจริญกรรมฐาน เป็นงานสร้างความสุขที่วิเศษสุดให้แก่ชีวิตจิตใจของเราทุกคน จึงจำเป็นต้องทำอย่างต่อเนื่อง<O:p</O:p
    อาตมาอยากให้ท่านได้บุญ ปฏิบัติกรรมฐานให้เกิดความสุข มีความสนุกในการทำงาน ชีวิตนี้คือชีวิตกรรมฐาน<O:p</O:p
    ถ้าใครปฏิบัติได้จะแสดงออกมา ๑๐ ข้อ ย่อใจความดังนี้<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ๑. ขยันและประหยัด<O:p</O:p
    ๒. ยืนหยัดอดทน<O:p</O:p
    ๓. ทำตนเชื่อถือได้<O:p</O:p
    ๔. อ่อนน้อมถ่อมตน เจียมตัวเจียมตน วางตนไว้เหมาะสม<O:p</O:p
    ๕. ตั้งปณิธาน มีสัจจะ ทำอะไรไม่มีเดี๋ยว คนนั้นมีบุญแล้ว ได้วาสนาแล้วมีกุศลอยู่ในตัว<O:p</O:p
    ๖. วางตนเป็นกลาง<O:p</O:p
    ๗. มีจิตเมตตา<O:p</O:p
    ๘. ไม่โลภ รู้สันโดษ<O:p</O:p
    ๙. รู้กาลเทศะ รู้กิจจะลักษณะ รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่ รู้จักวางตัวให้เหมาะสมสวยน่ารัก คนมีบุญวาสนาเป็นอย่างนี้<O:p</O:p
    ๑๐.รู้ใจคนอื่นได้<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ยิ่งเกลียด-ยิ่งใกล้<O:p</O:p
    อาตมาอยู่ที่วัดอัมพวันนี้ ต้องต่อสู้ มือเท้าพองก็ต้องสู้ ต้องสร้างความดี ต้องใช้เวลามากถึง ๓๕ ปี กว่าจะมีคนเข้ามาช่วยด้วยน้ำใจ โดยไม่ต้องการสินจ้างรางวัลใด ๆ สร้างวัตถุด้านรูปธรรม ใช้เวลาน้อย เช่นสร้างศาลาสุธรรมภาวนานี้ ใช้เวลาเพียง ๑ ปี ๖ เดือน ก็เสร็จตามสัญญาจ้าง แต่การพัฒนาจิตใจนี่ยากมากต้องใช้เวลามาก อาตมายอมถวายชีวิตต่อพระพุทธเจ้า สำหรับงานสร้างคน ยุวพุทธกสมาคมแห่งประเทศไทยฯ เห็นใจ-เข้าใจอาตมาดี<O:p</O:p
    ขอกลับไปหาคนที่มาช่วยอาตมาด้วยน้ำใจ มาเป็นกำลังสำคัญให้วัดอัมพวันในปัจจุบันนี้ อาตมาเริ่มสร้างความดี ด้วยการไปช่วยเขาก่อน ให้ลูกเขาได้เรียนหนังสือเป็นใหญ่เป็นโตช่วยให้เขาร่ำรวย ช่วยให้เขาสวย ช่วยให้เขาดี ช่วยให้เขามีปัญญา ต้องเคลียร์พื้นที่ให้เขาก่อนเป็นเวลานานมาก<O:p</O:p

    นางวิสาขาแห่งวัดอัมพวัน<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ขอยกตัวอย่าง แม่อุ่นเรือน นันทพงษ์ เมื่อก่อนตัดรูปขาย อยู่อำเภอพรหมบุรี คุณนิพนธ์ นันทพงษ์ สามีก็ถีบจักรยานไปถ่ายรูปตามวัด เมื่อก่อนอยู่ที่ท่าข้าม อำเภอบางระจัน ไม่ค่อยมีเงินทอง อาตมาต้องเอาเรือไปรับมาพรหมบุรี แล้วก็สอนเขา แผ่เมตตาให้เขา เดี๋ยวนี้สบายมาก พอได้เวลาให้ย้ายไปอยู่ลพบุรี เช่าห้องไว้ก่อนอยู่หน้าวิกนารายณ์<O:p</O:p
    แม่อุ่นเรือน เดินหยิบของขายเท้าแตกเลย ขายดิบขายดี ต้องเสียสละทางร้าน ไม่ขายของ อุตส่าห์มาช่วยงานสร้างคนกับอาตมา เขาไม่ต้องการสตางค์หรอก<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เราช่วยเขาก่อนนานแล้วนะ ตั้งแต่ยังเป็นสาว แล้วเขาไปมีลูกตั้ง ๗-๘ คน ดี ๆ หมด ไปเช่าห้องอยู่ห้องเดียวแล้ว สองคนสามีภรรยาช่วยกันทำมาหากิน สวดมนต์ไหว้พระเป็นประจำ เดิมแม่อุ่นเรือนเค้าเกลียดอาตมา เพราะว่าเราเอาสามีเขามาเข้าวัด เขาไม่ชอบคนวัด แต่สามีเขาเป็นคนเข้าวัด ยืนไปยืนหน้าร้านเขา เขาค้อนขวับเลยคล้าย ๆ พูดว่า จะพาสามีเขาไปไหนอีกล่ะ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เอาละกฎแห่งกรรม ยิ่งเกลียดยิ่งใกล้ ยิ่งรักยิ่งห่างไกล บางคนไม่รู้คำนี้ ถ้าท่านนั่งกรรมฐาน ท่านจะรู้คำนี้ชัดเจน<O:p</O:p
    หากท่านไร้คุณธรรม มาปฏิบัติ ๗ วัน ท่านจะรู้คุณธรรมของท่าน ว่ามีคุณธรรมหรือยัง ปัจจัตตังเวทิตัพโพ วิญญูหิ วิญญูชนจะรู้ได้เฉพาะตน นี่นะคนมีบุญ มันก็เกิดส่งผลเอง แม่อุ่นเรือนเขาก็ไม่อยากจะทำบุญเพราะมีเงินน้อย แต่อาตมาช่วยเขาตลอด<O:p</O:p
    สามีเขาถ่ายรูปตอนอาตมาสร้างโบสถ์ที่วัดกุฎีลอย พรหมบุรี เมื่อ ๓๘ ปีโน้น เขาถ่ายรูปให้ไม่คิดเงินเลย อาตมาก็บอกเขาว่า เอาละ คุณนิพนธ์ อาตมาจะช่วยต่อไปนะ ก็แผ่เมตตาให้เขาและสวดมนต์ภาวนาด้วย ถึงเวลาก็ย้ายไปอยู่ลพบุรี ไปอยู่ห้องเล็ก ๆ ก็บอกเขาว่า เอาละอุ่นเรือนตั้งใจสวดมนต์<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เกลียดนั่นแหละทำให้รัก สวดมนต์ไหว้พระ นั่งกรรมฐานความเกลียดก็หายไป ความรักเข้ามาแทนที่ มีปัญญาอยู่ตรงนี้<O:p</O:p
    อาตมาเกลียดพระ ต้องมาเป็นพระ ท่านอย่าไปเกลียดคนโน้นรังเกียจคนนี้นะ ท่านจะเป็นอย่างนั้น ถ้าท่านแผ่เมตตานั่งกรรมฐาน ความเกลียดจะหายไป ความรักจะเข้ามาแทนที่มิใช่หรือ ไปคิดเอาเอง<O:p</O:p
    อาตมาก็ช่วยแผ่เมตตาให้ท่านเหล่านั้น ที่ต้องเช่า ข้าวต้องซื้อ ลูกตั้งหลายคน บอกว่าให้เอากรรมฐานไปใช้จะรวย ไม่ใช่กรรมฐานไปสวรรค์นิพพานที่คนเข้าใจเช่นนั้น แต่เขาก็ทำอะไรไม่เป็น แต่งตัวก็ไม่เป็น เป็นสาวบ้านนอก ไม่เอาเหนือเอาใต้ แต่พอได้ธรรมะแล้วก็ทันสมัยเลย นี่อุ่นเรือนเขามาช่วยงาน ก็เล่าประวัติให้ท่านฟัง<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เขาก็สวดมนต์ไหว้พระ พอเขาจะรวยก็มีเวรกรรมครั้งอดีตชาติซึ่งติดมา ๖๐% เรารู้ก่อนล่วงหน้าว่าร้านของอุ่นเรือนกับร้านบางกอกเฟอร์นิเจอร์ไฟไหม้แน่ ๆ หมดสิ้นเนื้อประดาตัวอีกครั้งหนึ่ง เพราะเวรกรรมตามสนอง
    <O:p
    ยิ่งสร้างความดี กรรมยิ่งทวงถาม สร้างความดีต้องมีอุปสรรคแน่นอน ต้องรู้ล่วงหน้าไว้อย่างนั้นจึงจะถูกต้อง เขามาวัด ช่วยเหลืองานต่าง ๆ เพราะเริ่มรวยขึ้นมาบ้าง สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เสด็จที่วัดนี้ถึง ๕ ครั้ง ท่านพอพระทัยที่นี่มาก<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    สมเด็จพระสังฆราชเสด็จ เขาก็มาช่วย จัดวัดจัดสถานที่ อย่าลืม อุ่นเรือน จบ ป.๔ นะ แต่จัดสถานที่ จัดสีจัดม่าน รับเสด็จได้เหมาะสม น่าดูน่าชม ปัญญาเกิดจากกรรมฐานทั้งสิ้น สมเด็จพระสังฆราชทรงพอพระทัยมาก เลยบอกอุ่นเรือนว่า หนูมาใกล้ ๆ ซิ หลวงพ่อจะให้พร พระสังฆราชตรัสว่า “ขนมสะเออะ (เครื่องแห้งต่าง ๆ เช่น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง เม็ดขนุน ฯลฯ) เลิกทำเสียทีนะลูกนะ เอาขนมอยุธยามาใช้ ไข่กบ นางลอย นกปล่อย ไอ้ตื้อ น้ำกะทิ เป็นประธานสำราญรมย์ชมสมบัติสวัสดีลูกเอ๊ย” อุ่นเรือนเขาก็ทำเป็นที่พอพระทัยเป็นอย่างยิ่ง เรื่องกตัญญูกตเวทีไม่มีจนนะ เขาได้มาจากวิปัสสนากรรมฐานที่ทำกันนี้ ขอให้ทำจริง ๆ นะ ทำจริงได้ของจริง ถ้าปลอมได้ของปลอม ถ้าท่านมีบุญก็รักษาบุญไว้ได้ ท่านมีกุศลก็รักษาวาสนาไว้ได้นะ ในที่สุดได้รับพรแล้ว พรอันศักดิ์สิทธิ์ พรของพระอินทร์ พรของเทวดา พรของพระพรหม พรของบิดามารดา พรของครูบาอาจารย์สำคัญมาก<O:p</O:p
    อย่าไปทำลายพร คือ โอวาทหรือกรรมฐานน่ะ ถ้าท่านไม่ทำก็เรียกว่า ท่านทำลายพรของท่านเอง รับสัจจะจากครูบาอาจารย์แล้ว ท่านจะไปทำลายตัวเองก็แล้วแต่ท่าน ช่วยไม่ได้นะ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ยกตัวอย่าง อุ่นเรือนที่เขามาช่วยนี่ เอาชีวิตชีวามาช่วยเลย ไม่ต้องมีสินจ้างรางวัลใด ๆ ทั้งสิ้น เสียสละทิ้งร้านมาเลย ร้านก็ขายดิบขายดี เป็นตัวแทนเนชั่นแนลขายเครื่องไฟฟ้าทั้งหมด<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    และเราก็รู้เหตุการณ์ล่วงหน้าว่า ไฟจะไหม้บ้านเขา จนหมดเนื้อประดาตัว เพชรนิลจินดาจะหมด เตรียมทำกรรมฐานไว้ให้หนักนะอุ่นเรือนนะ แล้วสมศรีร้ายบางกองเฟอร์นิเจอร์เราก็รู้ ไฟจะเกิดจากตรงนั้น<O:p</O:p
    พอดีอาตมาไปเมืองจีน ทั้งสองคนก็ไปเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช พระองค์โปรดประทานพร ปวารณาตัวไว้เป็นลูกศิษย์ คือรักมาก เมตตามาก เพราะถูกใจ ทำอะไรดีหมดถูกใจทุกคน อาตมาจำเป็นต้องเดินทางไปเมืองจีน ก็บอกว่าเป็นห่วงสองคนนี่มาก จึงได้บอกกับหลวงพ่อวัดดอนเมืองว่า ก่อนค่ำนี่นะ ลูกศิษย์ผมไฟไหม้บ้าน ตอนนั้นกำลังพักอยู่นครแต้จิ๋ว<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ทีนี้เราก็แผ่เมตตา ไหม้ก็ไม่เป็นไรนะ แต่ขอให้ทรัพย์สินบางอย่างอยู่บ้าง และให้ปลอดภัยต่อชีวิตบ้าง อย่าตายเลย ในที่สุดเขาก็มีชีวิตรอดได้ และมีทรัพย์สินเหลืออยู่บ้าง ตามที่อธิษฐานจิตช่วยทุกประการ<O:p</O:p
    โยมผู้เฒ่าผู้แก่ บอก เออ! เป็นห่วงเฉพาะสาว ๆ นะ เขาสวย คนแก่อย่างฉันนี้ไม่ห่วง เมื่อไฟไหม้บ้านหมดแล้ว เขาถึงได้รู้ว่า หลวงพ่อไม่ได้ห่วงสาวแต่ห่วงอย่างนี้ นี่เพราะอุ่นเรือนมีอทินนาทานติดมา ๖๐% ต้องไฟไหม้บ้านแน่ ๆ ถ้าทำกรรมฐานมันจะยับยั้งได้ มันจะรวยขึ้นอีกกว่าเก่า และได้ที่เป็นของตัวเองด้วย ที่วิทยากรคุณแม่สิริสอน ก็เอาไปใช้ในกิจประจำวัน รับรองท่านรวยมหาศาล ไม่ใช่นั่งกรรมฐานไปสวรรค์นิพพานนะ เอารวยก่อน เอาสวยด้วย ดีด้วย มีปัญญา แก้ปัญหาในบ้านได้เอาแค่นี้ก่อน<O:p</O:p
    สำคัญทำไปแล้ว แก้ปัญหาอะไรก็ไม่ได้ จะไปสวรรค์นิพพานเป็นไปไม่ได้ เอาแค่ขั้นต้นของคนในมนุษย์ที่อยู่ในสังคมนี้ก่อนนะ มันมีความหวังอย่างนั้น<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    อาตมาไปเมืองจีนไม่ได้ไปเที่ยวนะ ไปสวดมนต์ฉลองวัดไทงั้ง วัดนี้อายุ ๑,๒๐๐ ปี รัฐบาลจีนไม่ปิด เพราะมีประโยชน์ต่อประชาชน และประเทศชาติ สอนหนังสือเด็ก แต่วัดอีกหลายหมื่นวัดถูกปิดหมด เพราะสวดกงเต๊กเอาสตางค์คนจน รัฐบาลจีนจึงปิดวัดไม่ให้มีพระ พระก็ต้องออกไปทำมาหากิน คนจีนในประเทศไทยก็ชอบกงเต๊ก แต่ก็ไม่รู้ความหมายที่เขาเดินกงเต๊ก เอาสตางค์ทิ้ง ๔ บ่อ อาตมาถามพวกกงเต๊กก็ไม่รู้ อาตมาไปรู้มาจากหลวงจีนที่วัดไทงั้ง กงเต๊กก็คือ คำสอนของพระพุทธเจ้า ให้มีสะพาน มีที่พึ่ง วิ่งลงสะพานแล้ววิญญาณก็ไปยืนยันกับยมบาล ขอให้พ่อ ให้เตี่ยไปสวรรค์ แต่มันไปไม่ได้หรอก<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    บ่อ ๔ บ่อคืออะไร ทิ้งสตางค์ลงไป อาตมาถามคนจีนในจังหวัดสิงห์บุรีก็ไม่รู้ เขาบอกว่า ทิ้งไปอย่างนั้นเองตามประเพณีจีน<O:p</O:p
    บ่อที่หนึ่ง ไปใช้หนี้เก่า<O:p</O:p
    บ่อที่สอง ไปให้เขากู้<O:p</O:p
    บ่อที่สาม ไปฝังไว้<O:p</O:p
    บ่อที่สี่ ไปทิ้งเหว<O:p</O:p
    สมภารวัดไทงั้งบอก ส่งภาษาจีนกลางเสียด้วย อาตมาถามท่านว่า “เอาตึกไปเผาไฟนี่ได้อะไรหรือ”<O:p</O:p
    ท่านสมภารวัดไทงั้งตอบว่า “อาฮ่วยเซียเท้าเอ้ย เขาเผาเป็นปริศนา ว่าที่เผานี่เอาไปไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเตี่ยตายแล้วเอารถยนต์ไป เอาตึกไป ไม่ใช่อย่างนั้น นี่เป็นปริศนา รถก็มีตึกก็มี บ้านก็มี แอร์ก็มีเอาไปไม่ได้ เอาไปเผาไฟหมด ที่เอาไปได้ต้องใส่ใจไป ทรัพย์สมบัติเอาไปไม่ได้ ต้องเอาไปเผาไฟแหม! ท่านตอบได้ดีมาก<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    บางคนนุ่งดำไปงานศพ บอกว่าไว้ทุกข์ ไว้ทุกข์ที่ไหน ใครตายก็ไว้ทุกข์กันทั่วประเทศ นุ่งดำนี่โปรดไปสอนลูกหลาน ไฟมันดับแล้ว พ่อก็ตาย แม่ก็ตาย มันมืดจึงนุ่งดำ เธอจงทำตัวให้ขาว ให้พึ่งตัวเองได้ นี่ซิไว้ทุกข์ของไทย รู้กันไม่จริงทั้งนั้น เล่าถึงอุ่นเรือนไฟไหม้ อาตมากลับจากเมืองจีนบอกว่า ไม่เป็นไร อุ่นเรือน เดี๋ยวจะช่วยนะ ใช้หนี้เก่าไปเถอะ เราเคยไปลักทรัพย์เขามา ไปโจรกรรมเขามานะ ก็ขอให้ใช้หนี้ให้หมดไป คนที่ทำกรรมฐานเป็นการใช้หนี้ด้วยนะ สร้างความดีกันใช้หนี้เขา ท่านจะรู้เรารู้เขา รู้แจ้งถึงใจ ถึงจะรู้ว่าสร้างความดีไปใช้หนี้เขา ท่านจะไม่น้อยเนื้อต่ำใจ อาตมาให้เหตุผลอย่างนี้ อาตมากลับมาก็นำแม่อุ่นเรือนเข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช พระองค์ก็นึกถึงบุญคุณ ว่า เออ! เคยทำสำรับกับข้าวนะหนูเอ๊ย เอาละสมเด็จพระสังฆราชจะประสาทพรอีกครั้ง จะเสด็จไปในงานเธอ และตั้งชื่อร้านให้ใหม่ เดิมชื่อร้านวรทัศน์ สมเด็จพระสังฆราชตั้งให้ใหม่ชื่อ รวีอาภาพรรณ เอาละลูกเอ๋ย สมเด็จจะให้พรแล้วก็สร้างบ้านใหม่ ซื้อที่ได้หมดเลย แล้วไปสร้างที่สระแก้วอีก ๔-๕ ห้อง เดี๋ยวนี้อยู่สบาย ในที่สุดสมเด็จพระสังฆราชเสด็จเปิดร้านให้ด้วยพระองค์เอง พร้อมพระวัดราชบพิธ และนิมนต์พระที่ลพบุรีผสมไม่ต้องขอทางการ ท่านบอกว่าไปส่วนตัวนะลูกเอ๋ย<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เลยรวยกันขึ้นมามีเงินมีทอง เขาจะไม่ลืมพระคุณคนอย่างนี้ มีงานเขาก็มาช่วย คนที่มีปัญญาทางวิปัสสนา แต่งตัวก็สวย จิตใจก็รวยนะ มันสวย มันรวย มันดี มีปัญญา คนที่มีธรรมะไม่จนนะ ไม่จนแน่ ๆ สมเด็จพระสังฆราชเสด็จเปิดแล้ว อาตมาก็ไปช่วยงาน จึงบอกอุ่นเรือนว่า ใครมาช่วยทำบุญเอาถวายสมเด็จพระสังฆราชสร้างโรงพยาบาล ได้สองแสนกว่าบาท แล้วยังถวายเครื่องไฟฟ้า ตู้เย็น อะไรใช้ได้ถวายหมด<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    สมเด็จพระสังฆราชเสด็จมาที่นี่ ๕ ครั้ง อาตมารวมกันถวายเงินทุกครั้งเข้าโรงพยาบาลได้ล้านเศษ ชื่นใจ เงินไหลมาเอง เทวดาโปรดปรานเพราะมีสัจจะมีความจริง ร้อนถึงเทวดาร้อนถึงพระอินทร์ ส่งทิพยเนตรช่วยเรา ไม่ต้องใครอื่นช่วยได้ ถ้าท่านทั้งหลายเจริญกรรมฐานได้ แผ่เมตตาอโหสิกรรม ท่านจะมีโม่งช่วยท่าน โม่งดำ คือวิญญาณทั่วไปช่วยท่าน โม่งแดง เชื้อชาติของบิดามารดา กรรมดีที่ทำต่อบิดามารดาช่วยได้คือ โม่งแดง โม่งขาว คือบุญกุศลบริสุทธิ์ใจช่วยได้นะ ท่านจะเป็นพระเอกนางเอกในเรื่องละครชีวิตจนตาย ขอฝากไว้เท่านี้เป็นหลักปฏิบัติด้วย<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    คนไม่ลืมพระคุณคน อาตมาขอฝากน้ำใจ อาตมาจะให้ใครเป็นหมื่นเป็นแสน จะไม่จดจะไม่จำเพราะไม่หวังผลตอบแทน ถ้าหวังผลตอบแทนจะเสียใจเปล่า ๆ โยมเลี้ยงลูกเอาบุญเถอะ อย่าหวังผลตอบแทนนะ จะเสียใจทุกราย รักคนนี้มากนั่นแหละจะช้ำใจ เกลียดคนนี้มาก จะต้องไปตายไปอยู่กับคนที่เราเกลียดเขา ขอฝากไว้เป็นกำนัล ใจดีกำหนดจดจำเป็นข้อคิดในวันนี้ด้วย โดนกับอาตมามาแล้ว ยิ่งเกลียด ยิ่งเข้าใกล้ ยิ่งรักยิ่งห่างไกล เกลียดให้แผ่เมตตา อย่าไปเกลียดเขา แล้วความเกลียดหายไปความเมตตาจะข้ามาแทนที่ ความรักจะเกิดมีในน้ำใจ อุ่นเรือนเกลียดอาตมานะ เลยมาช่วยเอง สามีเลยไม่มา นี่กฎแห่งกรรมนะอย่าลืม อาตมาให้ใครจะไม่จดไม่จำ ไม่หวังผลตอบแทน แต่บุญกุศลจะช่วยเราเอง ร้อนถึงพระอินทร์ แต่ใครให้น้ำชาแม้แต่ถ้วยเดียว จะไม่ลืมพระคุณเขาเลย และเราก็เจริญรุ่งเรืองมาจนบัดนี้<O:p</O:p
    ขอสรุปใจความว่า ผู้เจริญกรรมฐานจะเกิดอานิสงส์ ๕ ประการดังนี้<O:p</O:p
    ๑. มีธรรมะ<O:p</O:p
    ๒. สุขภาพดี จิตใจสบาย<O:p</O:p
    ๓. การงานเจริญ<O:p</O:p
    ๔. การเงินดี<O:p</O:p
    ๕. การสังคมดีมาก<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ได้เหตุผล ๕ ประการ สรุปสั้น ๆ ถ้าคนไหนไม่มีวิปัสสนา ไม่มีศีลธรรม รับรองสุขภาพจิตเสีย พลุ่งพล่านนึกจะพูดอะไร ไม่มีหูรูด ถ้าคนไหนมีศีลธรรมจากกรรมฐาน แนบสนิทติดในหัวใจแล้ว จงสุขภาพจิตดีมาก โรคภัยก็จะน้อยลง จะไม่มีโรคกายโรคใจ เบียดเบียนบีฑาแต่ประการใด<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ถ้ารับราชการ การงานจะเจริญการเงินก็จะดีงาม การสังคมไปไหนมีคนนับหน้าถือตา มีคนรักด้วยไม่ตรีอันดียิ่ง<O:p></O:p>
    นี่แหละ อุ่นเรือนที่มาช่วยเราเพราะอย่างนี้นะ เดี๋ยวนี้ลูกของเขาดีทุกคนเลย แล้วขายดิบขายดี จนคนร่ำลือว่า ร้านนี้ทำไมขายดีนัก ก็ขายถูกนี่มันต้องขายดี ของดีเอามาขายให้มันถูกลงไป อย่าไปรีดนาทาเร้นกัน<O:p></O:p>
    ขายดิบขายดีด้วยอัธยาศัยไมตรีของพ่อค้าแม่ค้า มีนางกวักประจำใจคือธรรมะ ไม่ลดละภาวนา ไปไหนมีคนรักนับหน้าถือตา ตลอดทั้งเจ้านายถึงระดับนายพล บอกอุ่นเรือนคำเดียวว่ามีงาน ทหารมาแล้ว ทหารเรียกแม่หมดเลย นี่ซิคนมีธรรมะ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    หลวงพ่อให้พร<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    อาตมาขออนุโมทนาในส่วนกุศลของท่านทั้งหลายของคุณแม่ (ดร.สิริ กรินชัย) ท่านวิทยากร และยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่ให้คติเตือนใจนั้นเป็นโอวา เพราะโอวาทเป็นเรื่องธรรมดา พ่อแม่ต้องให้โอวาทลูก ครูอาจารย์ต้องให้โอวาทลูกศิษย์ โอวาทคือพรอันสำคัญ จงทำดีให้กับพร พรจะให้ดีมีปัญญา ขอให้ท่านมีความสุขความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป งอกงามไพบูลย์ในพระพุทธศาสนาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอให้ท่านทั้งหลายมีพุทธานุภาพ ธัมมานภาพ สังฆานุภาพ นำผลเกิดสรรพมงคลในกุศลครอบครัวของท่าน<O:p</O:p
    ขอให้ครอบครัวของท่านมีความสุข มีความเจริญยิ่ง ๆ ขอให้บิดามารดาของท่านมีความสุข ปู่ย่าตายายสนุกในการรักลูกหลาน ประเมินผลได้ด้วยรักสมัครสมานสามัคคี เป็นอภิชาติบุตร<O:p</O:p
    อย่างที่คุณโยมทองคำกล่าว พาพ่อแม่มานี่ชื่นใจ นี่แหละเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ ไม่ใช่ตอบแทนพ่อแม่โดยไร้เหตุผล พ่อชอบเหล้าก็เอาหล้าให้ดื่ม พ่อชอบการพนันก็เอาพ่อไปเล่นการพนัน ไม่ใช่วิสัยที่พระพุทธเจ้าสอน
    <O:p</O:p
    ลูกที่ดีต้องนำพ่อแม่มาบำเพ็ญศีล บำเพ็ญทานและภาวนา จนเป็นลูกที่ดี ต้องตอบแทนด้วยความถูกต้อง ให้พ่อแม่ไม่สวรรค์นิพพานนี่หายากเหลือเกิน<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ขอบุญกุศลดลบันดาล ให้ทุกท่านจงประสบแด่ความสุขสันต์นิรันดร ขอจงเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย ๔ ประการ มีอายุขอให้ยืนนาน วัณโณ ขอผิวพรรณผ่องใส สุขัง พอให้สุขภาพกายอนามัย ทุกท่านโปรดได้ใจดี โรคภัยไข้เจ็บมีก็โปรดหาย สิ่งทั้งหลายที่คิดไว้ ณ บัดนี้ และจะคิดต่อไปโอกาสหน้า จงสำเร็จเผด็จผล สมเจตจำนงความมุ่งมาดปรารถนาทุก ๆ ท่าน เทอญ<O:p</O:p
    <O:p


    <O:p</O:p​


    ------------------<O:p</O:p

    ที่มา : ภาคกฎแห่งกรรม เล่ม 5
    วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี
     
  2. sujid สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2010
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +13
    รักกันอยู่สุดขอบฟ้าเขาเขียว สเหมือนอยู่หอแห่งเดียวร่วมห้อง ขอพลังปัญญาจงบังเกิดแก่ทุกท่านด้วยเถิด
     

แชร์หน้านี้