-
joni_buddhist
Legal returns
ทีมงาน
ผู้ดูแลเว็บบอร์ด
ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต
โทษแห่งปาณาติบาต
.......การทำลายชีวิตผู้อื่นแม้เพียงครั้งเดียว ผลที่ตามมากลับหนักหนาสาหัสอย่างคาดไม่ถึง จึงเกิด
เรื่องราวอันน่าสะเทือนใจของผู้ที่ต้องชดใช้ความผิดด้วยชีวิตของตน ครั้งแล้วครั้งเล่า ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
มตกภัตตชาดก
.......เมื่อครั้งอดีตกาล สมัยที่พระเจ้าพรหมทัตครองนครพาราณสี มีพราหมณ์ผู้หนึ่งซึ่งเป็นอาจารย์
ที่มีชื่อเสียง มีความคิดที่จะบวงสรวงดวงวิญญาณของผู้ที่ล่วงลับไปแล้วโดยใช้แพะเป็นเครื่องสังเวย
พราหมณ์ผู้นั้นจึงได้ให้เหล่าศิษย์ไปจัดหาแพะมาตัวหนึ่ง แล้วสั่งว่า " พวกท่านจงนำแพะตัวนี้
ไปตกแต่งประดับประดาให้ดี "
พวกศิษย์รับคำ แล้วนำแพะไปอาบน้ำยังแม่น้ำ หลังจากประดับตกแต่งแพะนั้นดีแล้ว ก็ปล่อย
ให้แพะยืนพักอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ
ขณะที่ยืนอยู่นั้น แพะได้ระลึกชาติเห็นกรรมเก่าของตน ที่ทำให้ต้องมาทนทุกข์ถึงเพียงนี้ และ
เมื่อรู้ว่า วันนี้ตนจะพ้นจากความทุกข์นั้นแล้ว จึงเกิดความดีใจ หัวเราะขึ้นมาเสียงดังลั่น แต่แล้ว
เมื่อกลับคิดว่า หากพราหมณ์ฆ่าตน พราหมณ์ย่อมจะต้องไปรับความทุกข์ เช่นที่ตนเคยรับมา คิด
แล้วรู้สึกสงสารพราหมณ์นั้น จึงร้องไห้ออกมาด้วยเสียงอันดัง
ศิษย์ของพราหมณ์ได้เห็นดังนั้น จึงถามแพะว่า
" เพื่อนเอ๋ย เหตุใดท่านจึงหัวเราะ แล้วกลับร้องไห้ "
แพะตอบว่า " เมื่อกลับถึงสำนักอาจารย์ของท่านแล้วค่อยถามเรา "
ศิษย์ของพราหมณ์นำแพะกลับไปยังสำนัก พร้อมทั้งเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ให้กับพราหมณ์
ผู้เป็นอาจารย์ฟัง
พราหมณ์จึงถามแพะว่า " นี่ท่าน เพราะเหตุใดท่านจึงหัวเราะ และเหตุใดท่านจึงร้องไห้ "
แพะได้หวนระลึกถึงกรรมที่ตนเคยกระทำไว้ แล้วตอบว่า " ท่านพราหมณ์ เมื่อก่อนเราก็เป็น
พรมหมณ์เช่นท่าน เราได้ฆ่าแพะตัวหนึ่งเพื่อเป็นเครื่องสังเวย ในการบวงสรวงดวงวิญญาณ และ
เพราะการฆ่าแพะเพียงตัวเดียวนั้น ทำให้เราต้องถูกตัดศีรษะมาแล้วถึง ๔๙๙ ชาติ และชาตินี้ คือ
ชาติที่ ๕๐๐ จะเป็นชาติสุดท้ายแล้วที่เราจะถูกตัดศีรษะ เราเกิดความดีใจ ที่จะพ้นจากความทุกข์นี้
เสียที เราจึงหัวเราะขึ้นมา แต่ที่ร้องไห้นั้นเป็นเพราะเราสงสารท่าน ถ้าหากท่านฆ่าเรา ท่านก็จะ
ต้องทนทุกข์ ด้วยการถูกตัดศีรษะไปถึง ๕๐๐ ชาติ เช่นเดียวกับที่เราเคยเป็นมา "
เมื่อได้ฟังดังนั้น พราหมณ์จึงกล่าวกับแพะว่า
" ท่านอย่ากลัวเลย เราจะไม่ฆ่าท่าน "
แต่แพะกลับกล่าวว่า " พราหมณ์ ไม่ว่าท่านจะฆ่าหรือไม่ฆ่าเรา วันนี้เราก็ไม่อาจพ้นจาก
ความตายไปได้ "
พราหมณ์จึงกล่าวต่อไปว่า " ท่านอย่ากลัวเลย เราจะคอยติดตามคุ้มครองท่าน "
" พราหมณ์ บาปที่เราได้กระทำนั้น มีกำลังมากเกินกว่าที่ท่านจะคุ้มครองเราได้ "
พราหมณ์ก็ยังยืนยันว่า " เราจะไม่ยอมให้ใครฆ่าท่าน "
จากนั้นพราหมณ์ได้ปล่อยแพะให้เป็นอิสระ พร้อมกับพาเหล่าศิษย์ทั้งหลายออกติดตามคุ้ม
ครองแพะนั้น
เมื่อแพะถูกปล่อย ก็เดินตรงไปยังต้นไม้ ซึ่งขึ้นอยู่ที่หลังแผ่นหินแห่งหนึ่ง ขณะที่แพะกำลัง
ชะเง้อเพื่อจะกินใบไม้ทันใดนั้นเอง ฟ้าก็ผ่าลงที่หลังแผ่นหินนั้น สะเก็ดหินชิ้นหนึ่งได้กระเด็น
มาตัดคอแพะจนขาดไป
การตายของแพะ ได้ทำให้ผู้คนทั้งหลายมาประชุมกันพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
พระโพธิสัตว์
ซึ่งบังเกิดเป็นรุกขเทวดาอยู่ในที่นั้น ได้ปรากฏกายขึ้นในอากาศ พร้อมทั้งแสดงธรรมด้วยเสียงอัน
ไพเราะว่า
" สัตว์ทั้งหลาย เมื่อรู้ผลของบาปเช่นนี้
ไม่ควรทำปาณาติบาต พึงรู้ว่าการเกิดนี้เป็นทุกข์
สัตว์ไม่ควรฆ่าสัตว์ เพราะว่าผู้มีปกติฆ่าสัตว์ ย่อมเศร้าโศก "
เสียงหัวเราะและร้องไห้ในวันสุดท้ายแห่งชีวิตของแพะนั้น อาจช่วยผู้คนทั้งหลายให้รอดพ้น
จากเภทภัยแห่งการผิดศีลได้ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม แพะผู้มีน้ำใจ ผู้ได้สำนึกผิดแล้ว และได้รับการ
คุ้มครองป้องกันเป็นอย่างดี ก็ยังมิอาจรอดพ้นจากความตายไปได้
เพียงเพราะชาติหนึ่งที่หลงผิด ได้ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต คุณภาพจิตใจจึงถูกทำลายจนตกต่ำเสื่อมทราม
ไม่อาจรองรับความเป็นมนุษย์ได้ ต้องวนเวียนเกิดตายในร่างเดรัจฉาน ชดใช้บาปกรรมอย่างทุกข์
ทรมานตลอดมา
จากหนังสือ.....
ศีล....เป็นที่ตั้งแห่งความดีงาม
ที่มา http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=5050