กรรมของบุคคลที่ชอบติฉินนินทา ว่ากล่าวผู้อื่น

อยากทราบว่า ผู้ที่ชอบคิดไม่ดีกับผู้อื่น ว่าผู้อื่นโดยไม่คิด ทำให้ผู้ที่ถูกว่าเจ็บแค้น ทำให้ผู้ที่ถูกกล่าวหาเจ็บแค้นในใจ จะได้รับกรรมอะไรบ้างครับ

 

นินทานั้นไม่มีโทษ...แก่ผู้ถูกนินทาเลย


ผู้ถูกนินทาพึงมีเหตุผล

คำ นินทาใดๆ ไม่อาจทำคนดีให้เป็นคนไม่ดีไปได้ คนจะดีก็เพราะกรรม คนจะเลวก็เพราะกรรม หาใช่จะดีเพราะสรรเสริญ หรือจะเลวเพราะนินทาก็หาไม่

ควร ถือความจริงนี้เป็นสำคัญ และอย่าทำหรือไม่ทำอะไรเพราะกลัวนินทาหรือเพราะปรารถนาสรรเสริญ อย่าทำอะไรก็ตามทุกอย่างที่แม้เพียงสงสัยว่าเป็นกรรมไม่ดี แต่จงทำอะไรก็ตามทุกอย่างที่พิจารณาแล้วตระหนักแน่ชัดว่าเป็นกรรมดีเท่ากัน แม้ว่าการทำกรรมดีจะมีผู้นินทา

นินทา นั้นไม่มีโทษแก่ผู้ถูกนินทาเลย ถ้าผู้ถูกนินทาไม่รับ คือไม่ตอบ เช่นเดียวกับผู้ถูกด่าไม่ด่าตอบ ผู้ถูกขู่ไม่ขู่ตอบ ผู้ถูกชวนวิวาทไม่วิวาทตอบ แต่คำนินทาว่าร้ายทั้งจะตกเป็นของผู้นินทาทั้งหมด ผู้นินทาคือผู้ทำกรรม ซึ่งเป็นกรรมไม่ดี ไม่ว่าผู้ถูกนินทาจะรับหรือไม่รับก็ตาม ผู้นินทาย่อมได้รับผลไม่ดีแห่งกรรมไม่ดีของเขาอย่างแน่นอน

ดัง นั้นแม้เมื่อถูกนินทาแล้ว ก็ให้คิดว่าผู้นินทาเราได้รับการตอบแทนแล้ว คือได้รับผลของกรรมไม่ดี ซึ่งจะส่งผลให้ปรากฏช้าหรือเร็วเท่านั้น ผลของกรรมไม่ดีนั้นแหละได้ตอบแทนเขาผู้นินทาแล้ว เราไม่มีความจำเป็นต้องตอบแทนแต่อย่างใด

ความ เชื่อในเรื่องกรรมและผลของกรรมมีคุณอย่างที่สุด ผู้ใดทำกรรมไว้จักได้รับผลของกรรมนั้น ความเชื่อเช่นนี้จักทำให้ไม่คิดร้ายตอบผู้คิดร้าย เป็นการระงับเวรภัยไม่ให้เกิดแก่ตน เป็นการป้องกันตนมิให้ทำกรรมไม่ดี ทั้งทางกายวาจาและใจ โดยมุ่งให้เป็นการแก้แค้นตอบแทน ผลจักเป็นความสงบสุขแก่ตนและแก่ผู้อื่นด้วย



ที่มา : การบริหารจิตสำหรับผู้ใหญ่
: สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

 

<B><BIG><BIG>ผลของกรรมไม่ดี 10 ข้อ </BIG></BIG></B><!--MsgIDBody=0-->อกุศลกรรมบททั้งสิบเหล่านี้ ถ้าหากผู้นั้นไม่ได้ลงนรก เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์แล้วจะได้รับสิ่งเหล่านี้ ได้แก่


ปาณาติบาต ผลของการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต (รวมไปถึงการทำร้ายสัตว์ด้วยแม้ไม่ถึงตายก็ตาม)มี ๙
ประการ คือ

๑. พิการ
๒. รูปไม่งาม
๓. กำลังกายอ่อนแอ
๔. กำลังกายเฉื่อยชา
๕. เป็นคนขลาด
๖. ฆ่าตนเอง หรือถูกฆ่า
๗. โรคภัยเบียดเบียน
๘. ความพินาศของบริวาร กำลังปัญญาไม่ว่องไว
๙. อายุสั้น


อทินนาทาน ผลของการลักทรัพย์ของผู้อื่น แม้เพียงเงินหนึ่งบาทมี ๖ ประการ คือ

๑. ด้อยทรัพย์
๒. ยากจน
๓. อดอยาก
๔. ไม่ได้สิ่งที่ตนปรารถนา
๕. พินาศในการค้า
๖. ทรัพย์พินาศเพราะอัคคีภัย อุทกภัย ราชภัย โจรภัยเป็นต้น


กาเมสุมิจฉาจาร ผลของการล่วงละเมิดในคนรักของผู้อื่น มี ๑๑ ประการ คือ

๑. มีผู้เกลียดชังมาก
๒. มีผู้ปองร้ายมาก
๓. ขัดสนทรัพย์
๔. ยากจนอดอยาก
๕. เป็นหญิง (เป็นหญิงที่อับโชค)
๖. เป็นกระเทย
๗. เป็นชายในตระกูลต่ำ
๘. ได้รับความอับอายเป็นอาจิณ
๙. ร่างกายไม่สมประกอบ
๑๐. มากไปด้วยความวิตกห่วงใย
๑๑. พลัดพรากจากผู้ที่ตนรัก


มุสาวาท ผลของการพูดเท็จ มี ๘ ประการ คือ

๑. พูดไม่ชัด
๒. ฟันไม่เป็นระเบียบ
๓. ปากเหม็นมาก
๔. ไอตัวร้อนจัด
๕. ตาไม่อยู่ในระดับปกติ
๖. กล่าววาจาด้วยปลายลิ้น และปลายปาก
๗. ท่าทางไม่สง่าผ่าเผย
๘. จิตไม่เที่ยงคล้ายวิกลจริต


ปิสุณาวาท ผลของการพูดยุยงนินทา ให้ผู้อื่นรังเกียจ แตกสามัคคีรักใคร่กัน มี ๔ ประการ คือ

๑. ตำหนิตนเอง
๒. มักจะถูกลือโดยไม่มีความจริง
๓. ถูกบัณฑิตตำหนิติเตียน
๔. แตกมิตรสหาย


ผรุสวาท ผลของการพูดเพราะความโกรธ การด่า ให้ผู้อื่นเจ็บปวดช้ำใจ หรือพูดหยาบให้เขาโกรธเคือง มี ๔ ประการ คือ

๑. พินาศในทรัพย์
๒. ได้ยินเสียง เกิดไม่พอใจ
๓. มีกายและวาจาหยาบ
๔. ตายด้วยอาการงงงวย


สัมผัปปลาปะ ผลของการพูดเพ้อเจ้อ เช่น การล้อเล่น ,พูดจาไม่มีประโยชน์, พูดเล่น พูดเรื่องหนัง เรื่องดารา เรื่องไม่มีเหตุผล ฯลฯ มี ๔
ประการ คือ

๑. เป็นอธัมมวาทบุคคล (เป็นคนพูดไม่มีสาระที่จะถือเอาได้)
๒. ไม่มีผู้เลื่อมใสในคำพูดของตน พูดอะไรก็ไม่มีใครเชื่อฟัง ถูกรังเกียจ
๓. ไม่มีอำนาจ เป็นคนต้อยต่ำ
๔. จิตไม่เที่ยง คือ วิกลจริต


อภิชฌา ผลของความอยากได้ อยากมีในทรัพย์ของผู้อื่นมี ๔ ประการ คือ

๑. เสื่อมในทรัพย์และคุณงามความดี
๒. ปฏิสนธิในตระ***ลต่ำ
๓. มักได้รับคำติเตียน
๔. ขัดสนในลาภสักการะ


ผลในปวัตติกาลของพยาบาท(ความเพ่งเล็ง คิดร้าย อยากให้ผู้อื่นเสียหาย - เช่นขอให้ตายไวไวเป็นต้น) มี ๔ ประการ คือ

๑. มีรูปทราม
๒. มีโรคภัยเบียดเบียน
๓. อายุสั้น
๔. ตายโดยถูกประทุษร้าย


มิจฉาทิฏฐิ ผลของความเห็นผิด มี ๔ ประการ คือ

๑. ห่างไกลรัศมีแห่งพระธรรม
๒. มีปัญญาทราม
๓. ปฏิสนธิในพวกคนป่าที่ไม่รู้อะไร
๔. เป็นผู้มีฐานะไม่เทียมคน


สุราเมรัย ผลของเสพสุราเมรัย มี ๖ ประการ คือ

๑. ทรัพย์ถูกทำลาย
๒. เกิดวิวาทบาดหมาง
๓. เป็นบ่อเกิดของโรค
๔. เสื่อมเกียรติ
๕. หมดยางอาย
๖. ปัญญาเสื่อมถอย

PANTIP.COM : Y5706951 �Ţͧ�������� 10 ��� []

 

ขอนุญาตินำไปเผยแพร่ต่อนะค่ะ

 

<TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center></TD><TD vAlign=center>กรรมวาจามีผลรุนแรงมาก

« เมื่อ: สิงหาคม 04, 2009, 09:00:40 PM »

</TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" vAlign=bottom align=right height=20></TD></TR></TBODY></TABLE>

<HR class=hrcolor width="100%" SIZE=1>

หลวงปู่ดู่สอนศิษย์






หลวงปู่ท่านมักกล่าวถึงมงคลที่สำคัญที่ท่านอยากให้ลูกศิษย์ได้นำไปปฏิบัติ คือ มงคล 38 ประการ

มงคลที่ท่านพูดถึงบ่อยๆ นั่นคือ สัมมาวาจาชอบ คือ พูดแต่สิ่งที่เป็นมงคล
ท่านว่าคนส่วนมากมักสร้างกรรมทางวาจา เพราะกรรมนี้สร้างได้ง่าย

แต่เขาไม่รู้หรอกว่าผลของกรรม เมื่อส่งผลจะร้ายแรงเพียงไร
คำพูดนั้นสำคัญมาก บางคนพูดไม่ดีกับผู้อื่น
จนเป็นเหตุถึงโกรธเกลียดกันชั่วชีวิตก็มี

บางรายคำพูดเพียงไม่กี่คำ ก็ทำให้ไม่พูดกันไปหลายปี
คนส่วนมากที่ขึ้นโรงขึ้นศาล หรือทะเลาะกันจนไปถึงฆ่ากันตาย
ก็เพราะคำพูดที่ไม่ดีนี่แหละ

หลวงปู่ท่านสอนอยู่เสมอว่า อย่าไปพูดไม่ดีกับใครเขา
ถ้ามีคนมาว่าหรือด่าเราแต่เราไม่ว่าหรือด่าเขาตอบมันก็จะไม่มีเรื่องกัน
แต่ถ้าแกไปด่าเขาเมื่อไรนั่นแหละเรื่องใหญ่

ท่านสอนศิษย์เสมอว่า

"อย่าไปพูดทำลายความหวังของใครเขา
เพราะนั้นอาจจะเป็นความหวังเดียวที่เขามีอยู่
ถ้าแกไปพูดเข้าเมื่อไหร่กรรมใหญ่จะตกแก่ตนเอง"

ท่านบอกไว้อีกว่า คนที่ชอบด่าหรือใส่ร้ายผู้อื่นรวมไป
ถึงการพูดไม่ดีต่างๆ กับคนอื่นนั้น กรรมจะมาเร็วมาก
เขาผู้นั้นจะเป็นคนที่มีศัตรูทั้งภายนอกและภายใน
ไม่เป็นที่รักของคนทั่วไป ตรงกันข้ามกับเป็นคนที่น่ารังเกียจแก่คนทั้งหลาย

กรรมนี้จะทำให้เขามีเรื่องและเดือดร้อนอยู่เสมอๆ ทั้งทางกายและทางใจ


บางคนทำกรรมนี้ไปเรื่อยๆ อย่างไม่รู้ตัว
พอกรรมดีที่ตนเคยสร้างมาแต่ปางก่อนหมดหรือเหลือน้อยลง
กรรมชั่วที่สร้างนี้ก็จะสนองเขาอย่างหนักทั้งในภพนี้และภพหน้า

ในภพนี้เวลาที่กรรมดีแต่ปางก่อนจะส่งผลให้มีความสุขหรือมีโชคลาภ
กรรมชั่วก็จะเข้ามาตัดรอนกรรมดี เหมือนอย่างเขาผู้นั้น
ซื้อหวยเลข 56 หวยก็จะออกเลข 55 หรือ 57 บางที
ก็ติดต่อการค้าหรืองานต่างๆ มองเห็นอยู่ว่างานนี้ได้แน่นอน
แต่พอถึงเวลาก็ไปไม่ทันบ้าง ไปแล้วไม่เจอหรือมีเหตุต่างๆ
มาทำให้มีอุปสรรคอยู่เสมอๆ ซึ่งที่จริงแล้วผู้นั้นจะมีโชคที่ควร
ได้ประมาณเป็นล้านๆ เขาก็จะได้แค่หมื่นสองหมื่นหรือโชคครั้งนี้
จะได้หลายหมื่น แต่เขากับได้เพียงไม่กี่พันบาทหรือเพียงได้
ไม่กี่ร้อยเท่านั้นเอง นี้เป็นเพราะ กรรมชั่วเข้ามาตัดรอนกรรมดี

และรวมถึงญาติพี่น้องลูกหลาน เขาเหล่านั้นก็จะทำความ
เดือดร้อนเสียหายมาให้ มีพี่น้องหรือญาติไปจนถึงเพื่อนฝูง
ก็จะโกงทรัพย์สินเงินทองของเราบ้าง บางครั้งก็พูดใส่ร้ายให้โทษ
ด่าว่าทะเลาะวิวาท ทำให้เราไม่สบายกายและสบายใจเป็นอย่างมาก
มีเรื่องเดือดร้อนต่างๆ อยู่ตลอดเวลาอย่างไม่จบสิ้น

มีลูกหลานก็จะดื้อด้าน ว่านอนสอนยาก ทำความเดือดร้อน
ให้เสียเงินทองอยู่มิได้ขาด ว่ากล่าวลูกหลานไม่เชื่อฟัง
ไม่เคารพนับถือ ลูกหลานบางคนก็จะอกตัญญูตนเอง
มักจะเดือดร้อนด้วยการเป็นโรคร้ายที่รักษายากหรือรักษาไม่หาย
เช่น อัมพฤต อัมพาต มะเร็ง เบาหวาน โรคหัวใจ และโรคร้ายต่างๆ
อีกมากมายหลายชนิด

หลวงปู่ท่านบอกไว้ว่า กรรมทางวาจามีร้ายแรงมาก
การที่เราพูดใส่ร้ายหรือพูดไม่ดีจนทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนและเสียใจ
หรือไปพูดทำลายความหวังต่างๆ ของเขาถ้ารู้ตัวให้หยุดเสีย

ถ้าไม่หยุดหรือเลิกทำเสียกรรมไม่สนองแต่ในชาตินี้
พอตายลงไปยังต้องไปใข้กรรมยังนรกตามขุมต่างๆ อีก
ท่านจะพูดและสอนศิษย์อยู่เสมอว่า "คนดีเขาไม่ตีใคร"
ความหมายว่าคนดีไม่ตีใคร ไม่ใช่เอาไม้หรือของแข็งๆ ไปตีเขา
แต่ท่านไม่ให้พูดจาไม่ดีด่าว่าใส่ร้ายทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนเสียหาย และทุกข์ใจ

หลวงปู่บอกว่า คนดีเขาไม่ว่าใคร
ถ้าแกไปว่าเขาแกก็จะเป็นคนไม่ดี



�����Ҩ��ռ��ع�ç�ҡ

 

เรื่องของ ติฉินนินทา ว่ากล่าวผู้ือื่นนี่ ว่ากล่าวให้คนอื่นเจ็บแค้น โดยไม่คิดนี่ จะได้รับกรรมเรื่องมุสา คือ ตัวเองจะต้องโดดเดี่ยว พูดอะไรไม่มีใครฟัง ไม่มีใครเชื่อ และ จะทำให้เป็นคนพูดจา เพ้อเจ้อ

ทีนี้ ก็ต้องไปดูด้วยว่า มีคนร้ายคนไหนสรรเสริญตำรวจที่จับตน ไม่มีหรอก ถามว่า

มีลูกคนไหน ไม่เคยเจ็บด้วยคำตำหนิ จากพ่อแม่บ้าง

แบบนี้ ก็ต้องวิเคราะห์ดูหลายๆ อย่าง ไม่ใช่ ว่า นึกคิดอะไรขึ้นมาแล้ว ตั้งเป็นประเด็น

 

คนบางคนรู้นะ แต่ก็หัดไปว่าคนอื่นว่าเขา โม้บ้างล่ะ เขาขี้คุยบ้างล่ะ ก็จะมีโทษแบบไหนน้อ

 

ขอโมทนา


มีบุญมาฝากคับทางกลุ่มพระพุทธศาสนา ม. สงขลานครินทร์ ภูเก็ต ได้ จัดทำโครงการแจกสือ่ ธรรมะของสายหลวงพ่อฤาษีลิงดำคับ เพราะ ที่นี่มีเด็กหลายคนสนใจมาฝึกมโนมยิทธิและหันมาทำความดีกัน เนื่องด้วย สื่อ ธรรมะ ของหลวงพ่อ ครับทางชมรมเลยจัดโครงการแจกสือ่ธรรมะเป็นสาธารณะประโยชน์ แก่ โรงเรียน ห้องสมุดต่างๆเพื่อ ชักจูง คนให้เป็นสัมมาทิฐิและเป็นกำลังพระศาสนา สืบต่อไปครับ
ขอให้ชาวเวปพลังจิตทุกท่าน เจริญขึ้นทั้งทางโลก และทางธรรม เข้าถึงธรรมขององค์สมเด็จฯ ได้โดยง่ายครับ

เข้าชมรายละเอียดได้ที่http://palungjit.org/forums/ขอเชิญร่วมบุญ-โครงการธรรมทานกับนักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์-ภูเก็ต-[.109/FONT]218421.html<O></O>
<O</O

 

อนุโมทนา สาธุ...

ลึกซึ้งมากครับ

ผมเจอคนอย่างที่กล่าวมาแทบหมด

คนอย่างนี้จะรู้ตัวไหมหนอ อยากให้เค้ามาอ่านคำสอนของเจ้าบรอดตรงนี้จัง

เค้าจะรู้สึกตัวหรือป่าว ตรงกับตนเองหรือไม่ ถ้าไม่รู้สึกตัว เค้าต้องคงรับกรรมไปเต็ม ๆ

น่าสงสารดี หรือ น่าสมเพศดีนะ คนอย่างนี้

คงจะไป ว่า สั่งสอน ตักเตือน เค้าไม่ได้หรอก (บางคนนะครับ)

ถ้าเราไปว่าเค้า ตักเตือนเค้า สั่งสอนเค้า ถ้าเค้าไม่เชื่อฟังเรา

เค้าคงจะว่า ด่าเรา ให้เค้าสร้างกรรมเพิ่มอีก ไม่มีสิ้นสุด

คนมีสติ ปัญญาเท่านั้น ถึงจะรู้สึกตัว ว่าตนเองทำอะไรลงไป

_______________________________________________

ดี-ชั่วไม่ได้เป็นกรรมพันธุ์...

กรรมใด ใครก่อ กรรมนั้น ย่อมคืนสนอง

 

โมทนาค่ะ...ตัวก้อยเองก็มีความรู้ทางธรรมน้อย แต่ก็พอจะบอกได้ดังนี้

การนินทา เป็นหนึ่งในโลกธรรม 8 ที่ถึงแม้พระอริยเจ้าดังเช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ยังหลีกหนีไม่พ้น ตราบใดที่ยังมีมนุษย์และมนุษย์เหล่านั้นยังมีกิเลส ย่อมกล่าววาจาที่เต็มไปด้วยการทำลายบุคคลที่เอ่ยถึง ด้วยจิตที่หยาบกระด้าง ไม่ผ่องใส

การนินทา ไม่ว่าผู้ที่ถูกนินทานั้นอาจจะไม่ดีตามที่กล่าวหาจริง แต่เราก็ไม่ควรพูดถึงเขาในลับหลัง ซึ่งเขาเองอาจมีเหตุผลบางอย่างในที่ทำแบบนั้น และการเอาเขามาพูดลับหลัง เขาเองไม่มีสิทธิ์โต้แย้งหรือชี้แจงเหตุผลได้เลย...

โดยส่วนตัวแล้ว คิดว่า การที่เขานินทาเราเพราะ อย่างน้อย เราต้องมีคุณค่าระดับหนึ่งเขาถึงเอาตามาสนใจเรา และเอาปากพูดถึงเรา และก้อยเองก็หนีไม่พ้นการโดนนินทาเหมือนกัน แต่ก้อยก็ไม่ได้ใส่ใจ เพราะถือว่าเหมือนเป็นเรื่องหมาเห่าตีนช้าง บางอย่างเขาไม่เข้าใจเรา เห็นเราทำแบบนี้และเอาไปพูดต่างๆนานา เรื่องดีมีตั้งเยอะไม่พูด แต่เรื่องเสีย คนชอบมองกันจัง ...

ก้อยเอง เวลาได้ยินเพื่อนนินทาคนอื่น หรือได้ยินคนเขานินทากัน ก้อยไม่ค่อยสังเกตว่าเนื้อความเป็นยังไง แต่มักจะใส่ใจผู้ที่นินทามากกว่า เพราะแต่ละคำที่เขาเอามาพูดนินทาคนอื่นนั้น เป็นตัวบ่งบอกนิสัยใจคอของคนที่นินทาได้อย่างดีทีเดียว ส่วนใหญ่คนที่นินทาคนอื่น มักหนีไม่พ้นกิเลสที่เกิดจากความอิจฉาริษยา ... ก้อยรู้สึกน่าสงสารคนที่นินทามากกว่าคนที่ถูกนินทา เพราะคนที่ถูกนินทา เขาไม่ได้มารับมารู้ แต่คำทุกคำที่พูดออกมานั้น คนที่พูด กลับได้รับและซึมซับเข้าไปเต็มๆ แล้วยังงี้ ใครมันจะได้รับกรรมกันล่ะ......

ยิ่งถ้าบังเอิญไปนินทาคนที่มีศีล หรือกำลังปฏิบัติ พัฒนาจิต ปฏิบัติธรรมแล้วล่ะก็ บาปหนักเชียว...

อย่างไรเสีย นินทากาเล ก็ไม่มีผลดีอยู่แล้ว แต่ถามว่าผลแย่ๆนั้นตกอยู่ที่ใคร ก็ต้องตกอยู่ที่ตัวผู้พูด เพราะทำสิ่งใดไว้ ท่านจะได้รับสิ่งนั้นคืนสนองแน่นอน คือไม่นาน ก็จะมีคนนินทาท่านเหมือนที่ท่านทำกับผู้อื่น หรือเมื่อท่านนินทาให้คนอื่นฟัง คนที่ฟังก็จะไม่ไว้ใจในตัวท่าน เพราะเขาเองก็กลัวว่าท่านจะเอาไปพูดในทางที่ไม่ดีอีกเช่นกัน ดังนั้นจะเห็นได้ว่า คนที่นินทาคนอื่นเป็นประจำนั้น จะไม่มีเพื่อนที่จริงใจเลย

อีกอย่าง การนินทา โดยเฉพาะในหมู่สาวๆ ทำให้เสียบุคลิก ถึงสวยแค่ไหน แต่ถ้าหนุ่มๆมาเห็นเข้าล่ะก็ ชิ่งหนีทุกราย เหอๆ...

ทำดีก็ต้องได้ดี แต่ถ้าทำกรรมไม่ดีกับคนดี กรรมหนักไม่รู้ตัวนะจ๊ะ...

โมทนา

 

เจอการนินทาว่าร้าย ใส่ร้ายป้ายสีอยู่เป็นประจำ นึกเสียว่ามันเป็นธรรมดาของโลก และเป็นเศษกรรมของเราเอง เแต่บางครั้งมันหนักและเหนื่อย ก็เล่นใส่ร้ายกันจนขั้นทำให้ตกงานถึง 2 ครั้ง 2 คราเดือดร้อนไปถึงพ่อแม่ญาติพี่น้องกระทบไปหมด แต่คนเหล่านั้นก็ยังเสวยสุขยังไม่เห็นทุกข์ร้อนอะไร ไม่ใช่แค่เราแต่เค้าทำกับคนที่ตนเองไม่ชอบ ไม่เข้าพวกไปหลายคนทีเดียว ไม่พอใจก็ช่วยกันงัดออก บางครั้งก็รู้สึกเบื่อหน่ายกับจิตใจมนุษย์โลกในยุคนี้ ช่างไม่มีหัวใจกันเสียเลย

 

ต้องพยามมีสติ อย่าปากไว
อนุโมทาครับ

 

ถ้าการนินทาหมายถึงการพูดถึงพูดอื่นลับหลังโดยที่ผู้ที่ถูกพาดพิงไม่ได้อยู่ในที่นั้นด้วย

ผมว่ามันสรุปไม่ได้หรอกว่ากรรมมากน้อยแค่ไหน ต้องพิจารณาเป็นกรณี กรณีไป ว่าผู้ถูกนินทาคือใคร ผู้นินทาคือใคร นินทาเพราะจุดประสงค์อะไร นินทาด้วยความรู้สึกอะไร เรื่องที่กล่าวเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องเท็จ

ทุกๆอย่างต้องกลับมาที่เจตนาว่าการกล่างพาดพิงพูดถึงคนอื่นลับหลังนั้นเพื่ออะไร การสรุปแบบที่กล่าวข้างบนเหมือนเป็นการเหมารวมๆไปทั้งหมด

เหมือนบอกว่าฆ่าคนเป็นบาป ถ้านิยามว่าการฆ่าคนคือการทำให้คนอื่นตายโดยเจตนาหรือไม่เจตนาก็แล้วแต่ งั้นก็คงต้องไปศึกษาในพระวินัยกันใหม่ ถ้าจำไม่ผิด เคยมีกรณีศึกษาหลายๆ กรณีในพระไตรปิฏกพูดถึงการฆ่าคนแล้วไม่บาป เพราะเป็นการกระทำโดยไม่มีเจตนา (แต่ทางกฏหมาย ไม่ว่ายังไงก็ต้องผิด)

การนินทาก็เหมือนกัน ถ้านิยามว่าการนินทาคือการพูดพาดพิงถึงใครสักคนที่ไม่ได้อยู่ในวงสนทนา
ก็ต้องพิจารณาให้ลึกลงไปว่าพูดพาดพิงถึงด้วยสิ่งที่เป็นความจริงหรือไม่เป็นความจริง และด้วยเจตนาอะไร ต้องคิดให้ดีๆ อย่าไปเหมารวมไปหมด
อย่างเช่น เราพูดพาดพิงถึงใครสักคนเพราะเค้าทำร้ายเรา หรือทำให้เราเสียหาย กรณีนี้ไม่บาป แต่ทำให้จิตหม่นหมอง เพราะการมาคิดซ้ำพูดซ้ำ ก็เท่ากับถูกทำร้ายซ้ำ
ผมไม่คิดว่าการที่เราพูดพาดพิงถึงใครสักคนที่ไม่ได้อยู่ในวงสนทนาด้วย(ซึ่งหมายถึงการนินทา)จะเป็นบาปเป็นกรรมไปหมดทุกกรณี ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นกับเรื่องที่พูดว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ และเจตนาในการพูดเพื่ออะไร

 

อนุโมทนา สาธุค่ะ กระทู้นี้ดีมากๆ จะเก็บไว้บอก ลูกหลานต่อนะคะ

 

กรรมคือกระทำ เจตนาคือตัวกรรม

เจตนาคือตัวกรรม
โดย หลวงปู่แหวน

คนเราบางคนเกิดมาแล้วชอบทำแต่ความชั่ว ทั้งนี้ก็เพราะกรรม เจตนากรรมบุญ เจตนากรรมบาป สองอย่างนี้แหละตัวเจตนา เจตนาเป็นตัวกรรม กรรมบาป กรรมบุญเจตนารักษาศีล คือ การสำรวมระวัง รักษากาย รักษาวาจารักษาใจ
อาศัยความอดทน อดด้วยกาย อดทนด้วยวาจา อดทนด้วยใจ ตีติกขา ความอดทน คือความอดกลั้นต่อบาปอกุศล


มันสำคัญอยู่ที่ กาย วาจา ใจ อกุศลเจตนากรรมบาป ความตั้งใจของเราสำคัญ อดีตอนาคตไม่ข้องเกี่ยวตัดออกหมด


อดีตอนาคตเป็นธรรมเมา เอาในปัจจุบัน รู้ในปัจจุบัน ละในปัจจุบัน วางในปัจจุบัน ตั้งเจตนาให้จริงกาย จริงวาจา จริงใจ กาย วาจา ใจ เขาเป็นปกติอยู่แล้ว


ใจก็ไม่ไปที่ไหน คงตั้งอยู่เป็นปกติ ต้องเอาปัญญาตัดอกุศลเจตนาออกจากใจ อย่าให้มันหมักอยู่ในใจ ประเดี๋ยวจะเดือดร้อน

ตั้งเจตนาให้แน่วแน่ว่า เราจะทำจิตทำใจของเราให้เบิกบาน ให้บรรลุมรรคผลนิพพาน สัจจะ ความจริงกาย จริงวาจา จริงใจ ขันติปารมี อดกลั้น ด้วยกายด้วยวาจา ขันติอุปาปปารมีอดกลั้นด้วยวาจา ขันติปรมัตถปารมี อดกลั้นด้วยใจ ตีติกขา ความอดกลั้นเป็นบารมีธรรมอย่างเอก


ตัดอดีตอนาคต มุ่งเฉพาะปัจจุบันธรรม อดีตอนาคตมันมาแต่ดึกดำบรรพ์ ทั้งส่วนดีส่วนร้ายเนื่องมาจากตัณหาทั้งสาม คือ กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา ความพอใจหรือไม่พอใจ ก็ตัณหานี้


ละออกจากจิตจากใจเสียก็สบาย รูป เสียง กลิ่น รส กามารมณ์ทั้ง ๕ ปล่อยให้เขาผ่านไปผ่านมา ดีเขาก็ไม่ว่าไม่ดีเขาก็ไม่ว่า มันสำคัญอยู่ที่เจตนาตัวกรรมบุญ เจตนาตัวกรรมบาป เข้าไปครองจิตแล้วทำให้คิดไปปรุงแต่งไป เป็นรักเป็นชัง เป็นโกรธ เป็นเกลียด ให้ละวางตัวนี้ อย่าเอาเข้ามาหมักไว้ในใจ


ละอยู่ที่ใจ วางอยู่ที่ใจ ไม่ใช่ที่อื่น เอาใจนี้ละ เอาใจนี้วางจึงใช้ได้ ไม่ใช่ไปจำเอาคำพูดในคัมภีร์มาพูดใช้ไม่ได้ มันต้องน้อมเข้ามาหากายหาใจของเรานี้ กำหนดการละ กำหนดการวางลงใน กาย วาจา ใจ ของเรานี้ รวมลงในไตรทวารนี้ ไม่ใช่ที่อื่น


อดีตอนาคตที่ใจนำมาก็ละเสีย หู ตา ก็อยู่เป็นปกติ อินทรีย์ ๕ เขาก็ตั้งอยู่ปกติอย่างนั้น รูป เสียง กลิ่น รส กามารมณ์อันนั้นต่างหาก ปล่อยให้เขาผ่านไปผ่านมาอย่าเอามา หมักไว้ในใจ


ใจของเราให้ตั้งอยู่โดยปกติ เวลาจะทำจิตทำใจของเราต้องวางหมด อย่าให้มีสิ่งไม่ดีมีอยู่ในใจจะเดือดร้อน ต้องนำออกให้หมด ทำใจให้ว่างให้มีความพอ อดีตอนาคตไม่ต้องเกี่ยวข้องทั้งหมด


อย่าปล่อยให้ใจไปเกาะเกี่ยวข้องแวะส่วนที่เป็นอดีตและอนาคต เป็นเครื่องบั่นทอนปัจจุบันธรรม ให้รู้เฉพาะปัจจุบัน ละปัจจุบัน ให้รู้มรรค รู้ผล




แหล่งข้อมูล : ਵ

 

ผมก็โดน มา นมนาน เกือบ 20 ปี แล้วครับ...

เหตุผล ก็ตั้งแต่ แย่งหญิงนี้... ยัดหญิงคนนั้นให้แทน... นี้พวกผมยำเพื่อ น้อง เพื่อพี่ นี้ยึดแฟน เพื่อสั่งสอน แบบนี้ก็มี... (อยากยึด ก็ยึดไป อุสาห์ปล่อยแล้ว ก็ตามมาทำ เย้ยหยัน ส่อเสียดล้อเลียน ช่วงนั้นแย่มากก ๆๆ เลย ต้องเข้า คลีนิคบำบัดทางจิต ต้องฉีดยา กินยา แก้บ้า)

อยากให้เลิกคนนี้ ก็ข่มขื่นใจ ให้เลิก

อยากให้รักคนนั้น ก็ข่มขื่นให้ รัก

โดยวิธี จ้องจับผิด ทุกกิริยา อาการ ทุึกคำพูด ต้องเอาไปแปลให้เสีย ๆๆ หาย ๆๆ บาง ไปเที่ยวสนตะพาย (อ้างสารพัดอ้าง หวังดีบาง สั่งสอนบาง ไอ้นี้เป็นโจรเป็นขโมย ลักของเพื่อนพนักงานบาง ) ให้ ร้านค้า ร้านอาหาร ตามล้อเลียนบาง ทำหยาบ ๆๆ คาย ๆๆ ใส่บาง ให้เด็ก ๆๆ ตามล้อบาง ให้ไปทะเลาะกับเด็ก กับ กุ๊ย บาง....

พรรคพวกตัวเอง ทำงานพลาด ก็ยัดข้อหา ... ยัดเลย แล้วจ้างบริษัท รีดไถ่ มาคอยตามเล่นงาน... เป็น ประจำ เป็นนิจศิล

เค้าจะมักพูด ลอย ๆๆ เฮ้ย.. ไม่เล่น ๆๆๆ บาง เด่วมีล้างตาบาง...
เรียกว่า พูดให้รู้ว่าจะมีการเอาคืน ... แล้วผมไปเอาอะไรของเค้า...

คนพวกนี้ ไม่รู้จะพูดอย่างไร...แล้วก็เป็นกันแบบนี้ มานมนาน แล้วนะครับ

ขนาด ผมเป็นโรคหัวใจ พับเข้า รพ.ไปหลายรอบ ก็ยังตามมาเล่นงาน
มียำเทสคนอื่นเค้าขาดกัน ทำมัย ผมไม่ขาด เอา เกณฑ์สลิป มาเกณฑ์เงินมา
เอาแบบ เยอะ ๆๆ แหลก ๆๆ คือจะเอาคืนให้ได้ พร้อมกับ กลั่นแกล้งต่าง ๆๆ นานา ชุดใหญ่ ละครับ... รายละเอียดผมคงไม่เล่านะครับ มันจะยืดยาวมากไป

ทำอะไรไม่ได้ พวกก็ลักทรัพย์ ลักของ แล้วเอาของกลางมาทิ้งข้างรั่วบ้าน แล้วไปเรียกเจ้าของ มาเก็บไปเป็นหลักฐาน แบบนี้ก็มี... ลักของในเซฟ แล้วช่วย ๆๆ กันชี้ว่า ผมนี้อีกแล้ว... ไปลักบัตรเอทีเอ็ม คนเค้า แล้วมาทำเดินเกร่ หน้าที่ทำงานพอ จะออก ก็ทำมากด เอทีเอ็ม พร้อมกับ อ้ากระเป๋า หันมาทางผม แบบนี้ก็มีจะสร้างหลักฐานเท็จ ทำให้ดูเชื่อได้ว่า เป็นโจร...

ฯลฯ

ตามบ่อนทำลาย ทุกอย่าง

ไปทำบุญที่วัด ก็ตามไปพิสูจน์ทราบ ทำมานั่งข้าง ๆๆ ในบาตร มีอะไร...

โธ่ ... ผมไม่เอาของโจร ไปถวายหลวงพ่อหรอกนะครับ...

ผมชอบอะไรก็ตามเล่นงานตลอด เคยโดนยาท้องอืดมัยครับ

เนี่ยหวังดี อย่ากินแป๊ปซี่ ต้องกินน้ำเปล่า รู้มัยครับหลังจากดื่มแล้ว

ท้องอืดจนต้องคลายเข็มขัดออกเลยนะครับ... วัดรอบพุง ก็จะกางออกมา จากเดิม 5 - 6 นิ้ว แน่นมาก จนบ่อย ๆๆ เข้า หูรูดกระเพาะก็ไป กลายเป็นโรคกรดไหลย้อน...

ต่อมา ก็กลายเป็น โรคหัวใจโต...

ออ... อยู่ รพ. ก็ยังตามไปพิสูจน์ทราบ อีกนะครับ...
ใ้ห้ นางพยาบาล เด่วเดินมาเปิดห้อง เด่วเดินมาเปิดห้อง ทำอะไร ๆๆ

เอากับพวกนี้ซิครับ...

ผมโดน อะไรต่อมิอะไรมากมาย จน เบื่อที่จะมีชีวิตอยู่ จริง ๆๆ ครับ

แต่ก็คงไม่นานแล้วละครับ เป็นโรคหัวใจโต ก็คงลากไปได้อีกไม่นาน

ไม่ได้เสียใจอะไรที่ต้องมาอายุสั้นกว่าที่ควร...(อยากไปเร็ว ๆๆ เหมือนกัน )

ห่วงแต่ว่า เพิ่งจะมาหัดทำบุญทำทานกับเค้า ก็ใกล้ตายแล้วนี้ เสียดายอยู่

 

เช่นกันกับคุณสายน้ำผึ้งค่ะ คนที่ชอบพูดให้ร้ายผู้อื่น ว่าผู้อื่นด้วยถ้อยคำเจ็บแสบไม่ว่าต่อหน้าและลับหลังเนี่ยมีอยู่ทุกที่เลยนะคะ ไม่ว่าจะไปอยู่ตรงไหนไม่วายที่จะต้องเจอ นิ่งและมีสติอย่างเดียวอ่ะค่ะ เพราะถ้าเราโต้ก็คือสร้างศัตรูให้ตัวเอง ไม่วายเราก็จะอยู่ไม่ได้อีก พวกเค้าย่อมอยู่ได้เพราะคนเหล่านี้จะปรับตัวในการเข้ากับสังคมได้ดี คำพูดสร้างคน และก็แน่นอนทำลายด้วยค่ะ
(เสียใจกับคุณ Vikingsx ด้วยนะคะ แต่ก็ขอเป็นกำลังใจให้ และก็ดีใจที่คุณทำใจได้ด้วยค่ะ)

ขออนุโมทนาสาธุ

 

พี่โดนหนักขนาดรึคะ น่าสงสารมาก เคยอ่านเรื่องคำพิพากษา ที่เอามาสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่องไอ้ฟัก-สมทรงค่ะ ก็จะรู้ถึงโลกียวิสัยทางโลก สิ่งเหล่านี้เป็นทุกข์อย่างยิ่ง
ควรเร่งทำความดี เเล้วกรรมดีจะหนุนนำ

 

อืม.... ได้พบได้เจอมาคล้ายๆกันครับ
คิดๆแล้วก็เวทนาคนพวกนี้ ที่พวกเค้าสามารถทำได้ทุกอย่าง เพื่อสนองตัณหา ราคะ ของตัวเอง

โมทนาที่คิดจะทำบุญนะครับ
ถ้าฝึกทำบุญด้วยจิตได้ล่ะก็ เยี่ยมเลย

 

สำหรับตัวเองเคยเจอสถานการณ์ที่ต้องตกเป็นผู้ถูกคนอื่นติฉันนินทาใส่ร้ายเป็นประจำ ก็ได้แต่ทำใจค่ะ เข้มแข็งและให้อภัยเขา ไม่ต่อกร ไม่เอาชนะคะคาน ไม่สาดโคลนเข้าหากัน ถ้าเขาไม่เมื่อยปากที่จะนินทาเราก็ช่างเขาเถิดค่ะ ให้เขาพูดไป ที่พูดมาข้างต้นเหมือนว่าจะทำใจยอมรับได้ง่าย แต่พอตัวเองเจอสถานการณ์แบบนั้นเข้าจริงๆ ก็ทำใจยากส์อยู่เหมือนกัน ได้แต่ภาวนากรรมฐาน เพื่อช่วยให้พ้นทุกข์เหล่านี้ บุญจะช่วยผ่อนหนักให้กลายเป็นเบาทีทางออก

ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นรอบตัวเราล้วนมาจาเหตุที่เราเคยสร้างไว้ตั้งแต่อดีตมาแล้วทั้งนั้นค่ะ อดีตก็คืออดีตเป็นสิ่งที่ผ่านมาแล้ว อดีตตายไปแล้ว กลับไปย้อนแก้ไขให้มันดีขึ้นไม่ได้

ดังนั้นปัจจุบันที่มาเจอเหตุการณ์แบบนี้คือมารับผลตั้งแต่อดีตที่เราสร้างมานั่นเอง คิดแบบนี้ได้ก็สบายใจค่ะ สวดมนต์แผ่เมตตาให้เขารวมถึงเทวดาประจำตัวคนที่นินทาว่าร้ายเรา เพื่อให้ดลใจเขา คิดดี พูดดี ทำดี ให้มากยิ่งขึ้น

ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆ คนที่เจอสถานการณ์เดียวกันค่ะ