กรรมที่ทำให้เป็นสิวเห่อจัด

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย birdkub, 12 มกราคม 2010.

  1. birdkub

    birdkub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +401
    ถาม – อยากทราบว่าการมีสิวแบบขึ้นเห่อมากๆ ไม่ใช่แค่เม็ดสองเม็ดนี่ เกิดจากการที่เราไปทำกรรมอะไรไว้คะ? ทำไมคนอื่นๆบางทีเขาไม่มีสิวเลยทั้งที่การดูแลรักษาทำความสะอาดและทานอาหาร เหมือนๆกัน ปัจจัยแวดล้อมภายนอกก็ไม่แตกต่างกัน แถมสิวของดิฉันรักษาอย่างไรก็ไม่หายขาด แล้วถ้าเป็นเพราะกรรมเก่าจริง ดิฉันควรทำบุญแบบไหนเป็นการแก้

    ตอบ

    สิวเป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่ง และตัวการที่โดนโทษมากกว่าเพื่อนคือฮอร์โมนแอนโดรเจน แม้แบคทีเรียหรือเชื้อโรคอันเกิดจากการไม่รักษาความสะอาดยังเป็นรอง

    ส่วน จำนวนสิวจะมากหรือสิวน้อยนั้น ตัวชี้บอกอันดับหนึ่งไม่ใช่เรื่องของการรักษาความสะอาด ไม่ใช่เรื่องของอาหาร ไม่ใช่เรื่องของฤดูกาล ไม่ใช่เรื่องของอารมณ์ร้าย แต่เป็นเรื่องของกรรมพันธุ์! ขอให้สังเกตเถิดว่าถ้าโรคไหนมีชนวนจากจากกรรมพันธุ์เป็นหลัก โรคนั้นจะปราบยากมากถึงยากที่สุด

    ฮอร์โมนและกรรมพันธุ์เป็นองค์ ประกอบทางกาย เป็นเรื่องของรูปธรรม พระพุทธเจ้าตรัสว่าสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม คุณสมบัติและรายละเอียดต่างๆทางกายก็ถูกกำหนดด้วยกรรมเก่าทั้งสิ้น จะหยาบหรือประณีตแค่ไหน จะน่ามองหรือน่าเมิน จะอยู่สบายหรืออยู่ไม่สุข ล้วนไม่ใช่เรื่องของความบังเอิญ ไม่ใช่เรื่องที่จะถูกสิ่งแวดล้อมกำหนด โรคหรือข้อบกพร่องทางกายที่รักษายาก จะฟ้องว่าเคยทำบาปไว้หนักหรือนาน กรรมเก่าซึ่งทำหน้าที่คุมรูปกายนี้ จึงยื้อไว้ยืดเยื้อ ไม่อนุญาตให้มีทางออกง่ายนัก

    หากมองโดยภาพรวม สิวบนใบหน้าทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับหน้าตา หรือแม้ไม่ห่วงสวยห่วงงาม ตอนชำระล้างทำความสะอาดหรือแม้จะนั่งอยู่เฉยๆก็อาจเจ็บปวดทรมานบนใบหน้าได้ นับว่าเป็นวิบากที่ทารุณไม่เบา วิบากที่เกิดขึ้นกับใบหน้า มักมาจากกรรมที่ทำประจำจนติดเป็นนิสัย หรือมาจากกรรมที่ทำอย่างหนักหน่วงกับบุคคลอันเป็นผู้ทรงคุณ

    ส่วนใหญ่กรรมเก่าของคนเป็นโรคผิวหนังเรื้อรังจะมาจาก

    ๑) การพูดประทุษร้าย การกล่าวตู่ผู้ทรงคุณเป็นนิตย์ ผู้ทรงคุณในที่นี้หมายถึงผู้มีพระคุณเช่นบิดามารดา หรือผู้มีศีลสัตย์บริสุทธิ์ ตลอดจนอริยบุคคลในพุทธศาสนาตั้งแต่พระโสดาบันจนถึงพระอรหันต์ การเป็นโรคผิวหนังจากกรรมประเภทนี้มักมาในรูปที่ก่อให้เกิดความเจ็บปวด ความแสบร้อน หรือเป็นผื่นคันทรมาน รวมทั้งการมีสิวเห่อเป็นแผงๆชนิดกำจัดยาก กำจัดแล้วก็เป็นอีก เพราะเหมือนผิวหนังจะถูกสร้างขึ้นมาจากวจีทุจริตโดยตรง

    ๒) การกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นเกิดบาดแผลหรือใช้ยาพิษกับศัตรู ประเภทเอาหมามุ่ยไปโรยแกล้งชาวบ้านด้วยความสนุกคึกคะนองบ่อยๆ หรือประเภทหึงหวงสามีแล้วเอาน้ำกรดไปสาดหน้าเมียน้อย เหล่านี้อาจเป็นโรคเกี่ยวกับผิวหนังได้ตั้งแต่ขั้นเบาะๆตามหน้าตา ไปจนถึงขั้นรายแรงคันคะเยอเห่อแสบทั่วทั้งร่างกาย

    นอกจากกรรมเก่า แล้ว กรรมใหม่ก็เป็นเหตุให้เกิดสิวได้พิสดาร เช่นถ้าคุณเป็นคนดีมีศีลสัตย์สะอาดหมดจดสัก ๕ ปี ผลคือจะมีผิวพรรณละเอียดผุดผ่องขึ้นกว่าเดิมมาก ทีนี้พอพลาดไปทำเรื่องโลภๆโกรธๆชนิดหน้ามืดยืดเยื้อสักครึ่งชั่วโมง สิวอาจผุดขึ้นมาทันตาเห็น ถ้าผิดน้อยหน่อยก็อาจขึ้นตามคางหรือตามแนวข้างที่ไม่ค่อยเห็นจากการมองตรง แต่ถ้าผิดมากหน่อยก็อาจปูดโปนแบบเด่นชัดเห็นง่าย ทั้งนี้ก็เป็นวิธีเตือนของธรรมชาติอย่างหนึ่ง ไม่ให้เราออกนอกทางของความดีงามง่ายนัก

    ส่วนถ้าผิวพรรณผุดผ่องมาแต่ เกิด สะท้อนความเป็นคนดีมีศีลสัตย์อย่างเข้มแข็งในชั่วชีวิตก่อน อันนี้แม้หน้ามืดด้วยโลภะโทสะหนักๆก็อาจจะยังไม่เห็นผลเร็วทันตา อาจต้องสะสมบาปอยู่หลายปีกว่าความหมองจะปรากฏ หรือต้องคิดปรามาสหรือจาบจ้วงอริยเจ้าด้วยเจตนาประทุษร้าย สิวถึงผุดขึ้นฟ้องบาปได้

    สำหรับการรักษา ขอแนะนำให้รักษาด้วยวิธีที่ทันสมัยตามคลินิกที่น่าเชื่อถือก่อน เพราะการใช้รูปธรรมแก้รูปธรรมนั้น ง่ายกว่าการใช้นามธรรมแก้รูปธรรม แต่หากลองเท่าไหร่ๆแล้วไม่ช่วยให้กระเตื้อง ก็อาจใช้ทางลัดที่เป็นไปได้ของกรรมวิบากดูบ้าง หลักการคือทำความดีอย่างเป็นรูปธรรม แบบที่จะปรากฏเป็นภาพกระทบตางดงามผุดผ่อง เพื่อให้ใครๆได้เห็นแล้วเกิดความชื่นชมเลื่อมใส

    ยกตัวอย่างเช่นอาสา ทำความสะอาดพระพุทธรูปตามวัด เอาแบบที่เราตระเวนไปดูแล้วเห็นว่าเริ่มมีคราบฝุ่นสกปรกเกาะติด ถ้าลงมือขัดถูอย่างดีเป็นสิบเป็นร้อยองค์ มีใจเบิกบานสดชื่นรื่นเริงเป็นอันดีกับการเห็นพระปฏิมาแต่ละองค์ผ่องใสขึ้น คุณจะรู้สึกถึงรังสีเฉิดฉายบางอย่างที่สว่างออกมาทางใบหน้าเลยทีเดียว และสัญชาตญาณทางจิตจะบอกคุณเลยว่ารังสีเฉิดฉายประมาณนี้ จะค่อยๆชนะ ค่อยๆกลบทับริ้วรอยอันไม่พึงประสงค์บนใบหน้าได้แน่ๆ

    ถ้าใจถึงยิ่ง กว่านั้น ลองเป็นอาสาสมัครล้างส้วมให้พระเณรดู คุณถือเครื่องมือทำความสะอาดเดินดุ่ยๆเข้าไปได้ทุกวัด เขาไม่ห้าม งานนี้เป็นไปตามหลักที่ว่าถ้าเอาความสกปรกออกจากวัด ก็เท่ากับเอาวิบากสกปรกออกจากตัว จะมากหรือน้อยย่อมเห็นผลประจักษ์ในไม่ช้า

    การ ถวายจีวรเนื้อดีเป็นสิบเป็นร้อยผืนก็มีส่วนช่วยได้มาก เพราะการถวายจีวรหรือให้เครื่องนุ่งห่มแก่ผู้ต้องการ จะเป็นบุญประเภทที่ให้ผลกับผิวหนังโดยตรง เนื่องจากอาภรณ์เป็นเครื่องห่อหุ้ม และผิวหนังก็ทำหน้าที่ห่อหุ้มความเป็นตัวเราไว้

    หากจะทำกรรมที่ตรง เหตุ แต่เห็นผลไม่หวือหวาทันใจ ก็ขอให้ตั้งจิตรักษาศีล ๕ ให้สะอาดหมดจด โดยเฉพาะข้อที่เกี่ยวกับวาจา คุณต้องมีเมตตาท่วมทับเจตนาร้าย ไม่พูดโกหก ไม่พูดหยาบ ไม่พูดส่อเสียด และไม่พูดเพ้อเจ้อ ถ้าทำได้แม้ในระดับความคิด กระทั่งรู้สึกถึงอานุภาพของศีลที่ฉายแสงเรืองออกมาจากภายใน อธิษฐานกำกับไปด้วย ว่าข้าพเจ้าจะไม่เป็นผู้ประทุษร้ายตนเองและผู้อื่นด้วยคำพูดอีก ขอให้กรรมคือความตั้งใจดีนี้ จงชำระสิ่งสกปรกออกจากตัวของข้าพเจ้า แล้วให้ผลเป็นความมีผิวเนื้อที่น่าพิศ ไม่เหลือร่องรอยน่ารังเกียจใดๆอีก

    หาก ทำด้วยความมีศรัทธาเปี่ยมล้น ก็น่าจะเห็นผลในเวลาไม่เนิ่นช้าครับ ภายในหนึ่งปีต้องทุเลาลงอย่างเห็นได้ชัดแน่ๆ ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานเลยก็ดี

    หมาย เหตุย้ำไว้นิดหนึ่ง การจะระบุว่าเป็นโรคเวรโรคกรรมนั้น ต้องดูเบื้องต้นด้วยว่าไม่ใช่โรคติดต่อ หรือไปคลุกกับความสกปรกติดตัวมา แต่จะต้องเกิดขึ้นเอง รักษาเท่าไหร่ก็ไม่หายแม้จะด้วยวิทยาการทันสมัย ถึงหายแล้วก็กลับเป็นอีก

    ที่มา หนังสือเตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว
     
  2. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    สาธุ ผมขออนุโมทนาด้วยนะครับ
    ดีมากๆๆ เลยนะครับ ผมเองก็เจอกรรมแบบนี้ละครับ
     
  3. magnagiled

    magnagiled เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    596
    ค่าพลัง:
    +1,444
    อนุโมทนาบุญด้วยครับ

    ผมเองก็เป็นเรื่อยๆ หายหาย มามา ตลอด

    มาลองนั่งนึกดู เ่ออ เวลาเรานั่งนินทานั่งพูดจาเพ้อเจ้อกับเพื่อนพูดหยาบด้วย

    ช่วงนั้น สิวก็จะเริ่มผุดออกมาจริงๆด้วย ไม่รู้ตัวเลย

    ตอนเช้าไม่มี กลับบ้านมามีแล้ว

    ผมคงต้องมั่นคงในศีลให้มากกว่านี้
     

แชร์หน้านี้

Loading...