สมัยตอนเป็นเด็ก เคยดูโฆษณาหนังไทยเรื่อง "พ่อปลาไหล" ทำนองว่า สามีคนหนึ่งซึ่งเป็นคนเจ้าชู้ พยายามทำให้ภรรยาเข้าใจว่าเป็นคนธรรมะ ธัมโม จะได้หนีไปเที่ยวได้โดยภรรยาไม่สงสัย และชอบพูดประโยคฮิตในสมัยนั้นว่า "ปลงเสียเถอะแม่จำเนียร พระท่านว่า กมฺมุนา วตตี โลโก.. กุ๊ก..กุ๊ก" ความหมายคือว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
พอมีความรู้เรื่องการเขียนบล็อกหน่อยหนึ่งก็เลยอยากจะแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับท่านผู้รู้ทั้งหลาย จึงขอเปิดบล็อกนี้ขึ้น
คราวนี้มาถึงชื่อบันทึก ทำไมเรื่องของกรรม มีเรื่องของคณิตศาสตร์มาเกี่ยวข้องด้วยนะ คือ พยายามอธิบายให้ง่ายคือ พระพุทธองค์ ทรงแบ่งกรรมเป็น 3 ประเภท ประเภทละ 4 หมวด รวมกันแล้วเป็น 12 หมวด เรียกว่า กรรมสิบสองก็ได้ ดังนี้
กรรมประเภทที่ 1
กรรมที่ว่าโดยหน้าที่
ชนกกรรม : กรรมที่ชักนำให้ไปเกิด
อุปถัมภกกรรม : กรรมที่ช่วยชนกกรรมให้เจริญ
อุปปีฬกกรรม : กรรมที่เบียดเบียนกรรมอื่นให้มีสภาพตรงข้ามกับตน
อุปฆาตกกรรม :
กรรมที่ทำหน้าที่ฆ่ากรรมอื่น
กรรมประเภทที่ 2
กรรมที่ว่าโดยลำดับการให้ผล
ครุกรรม : กรรมหนัก ให้ผลก่อนกรรมอื่น ๆ
อาสันนกรรม : กรรมที่กระทำในเวลาใกล้จะตาย ให้ผลลำดับ 2
อาจิณณกรรม : กรรมที่กระทำเป็นอาจิณ หรือทำบ่อย ๆ ให้ผลลำดับที่ 3
กตัตตากรรม : กรรมที่สักแต่ว่าทำ ให้ผลเป็นลำดับสุดท้าย
กรรมประเภทที่ 3
กรรมที่ว่าโดยเวลาให้ผล
- ทิฐธรรมเวทนียกรรม : กรรมที่ให้ผลในชาตินี้
- อุปปัชชเวทนียกรรม : กรรมที่ให้ผลในชาติหน้า ที่ต่อจากชาตินี้
- อปราปริยเวทนียกรรม : กรรมที่ให้ผลในชาติต่อไปตั้งแต่ชาติที่ 2 นับจากชาตินี้
- อโหสิกรรม : กรรมที่ไม่ให้ผล เพราะหมดแรงกรรม