กันลืม

​

1. คนทั้งหลายที่พากันแข่งขันกันว่า...
ตนเองรู้เรื่องต่างๆมากมาย...
แต่จะมีสักกี่คน...ที่รู้เรื่องของตนอย่างถ่องแท้.....
​

 

​

2. "ทำดี"....อยู่ก็น่าอยู่....ตายก็น่าตาย...
"ทำชั่ว"...อยู่ก็ไม่น่าอยู่....ตายก็ไม่น่าตาย...​

 

​

3. ทำดี...ถึงไม่ได้อะไรก็ทำไปเถอะ...เพราะมันดี....
ทำชั่ว....ถึงไม่ได้อะไรก็เลิกทำเสียเถิด....เพราะมันไม่ดี....​

 

​

4. พรสวรรค์....คือบุญเก่าที่สั่งสมมาดีแล้ว...
พรแสวง......คือความเพียรพยายามในปัจจุบัน....
พรเสวย......คือผลของพรสวรรค์ + พรแสวง.....​

 

5. การภาวนาวิธีใดก็ตาม.....
ล้วนเป็นเหตุ....ทำให้เกิดสมาธิได้ทั้งนั้น....​

 

​

6. ความรู้ในตำรา...เป็นความรู้ที่ถูกจำกัดไว้...
ความรู้นอกตำรา...เป็นความรู้ที่ไร้ขีดจำกัด.....
แต่ถ้ารู้ในตำราและนอกตำรา...เป็นยอดของความรู้.....​

 

​

7. ถ้าเราเป็นคนดีแล้ว....ดูอะไรๆในโลกนี้...ก็ดีไปหมด...
ถ้าเราเป็นคนชั่วเสียแล้ว...
ดูอะไรๆในโลกนี้...ก็เป็นของไม่ดีไปหมด....​

 

8. คำว่า "ผู้มีคุณธรรม"
คือ ผู้ที่ทำสิ่งที่มีอยู่แล้ว...ให้เกิดประโยชน์สูงสุด...
ทั้งแก่ตนเอง...และผู้อื่น...​

 

9. ผู้รู้จักดี จะทำดีแบบไม่นับดี
ผู้รู้จักศีล จะนับถือศีลแบบไม่นับข้อศีล
ผู้รู้จักสมาธิ จะปฏิบัติตนแบบไม่อยากได้สมาธิ
ผู้รู้จักปัญญา จะปฏิบัติตนเหมือนคนไม่มีปัญญา​

 

10. "โลก"....คือสิ่งที่ลวงจิตให้หลงในสิ่งต่างๆ ว่าเป็นจริง...
แต่แล้วทุกสิ่งในโลก...ก็สลายดับไปเป็นธรรมดา....​

 

11. คนมีศีลธรรมมีลักษณะ 3 อย่าง คือ....
....เยือกเย็น...หนักแน่น...ไม่หวั่นไหว....​

 

คุยเสียดี ที่แท้ แพ้กิเลส
น่าสมเพช เตือนเท่าไหร่ ก็ไม่เห็น
ว่าเป็นทาส กิเลส อยู่เช้าเย็น
จะอวดเป็น ปราชญ์ไป ทำไมนา
ค้นธรรมะ หาทางออก อุ้มกิเลส
น่าสมเพช จริงจริง เที่ยววิ่งหา
ตำรานั่น ตำรานี่ สรรหามา
ได้เป็นข้า กิเลสไป สมใจเอย<SCRIPT type=text/javascript> <!-- vBulletin.register_control("vB_ProfilefieldEditor", "5"); //--> </SCRIPT>

กิเลสนิพพาน

 

ทุกข์มีเพราะยึด
ทุกข์ยืดเพราะอยาก
ทุกข์มากเพราะพลอย
ทุกข์น้อยเพราะหยุด
ทุกข์หลุดเพราะปล่อย

ปล่อยวางได้...ไม่ทุกข์ จริงๆค่ะ สาธุ ^_^

 

อนุโมทนา สาธุ 1คำบรรยายให้คนได้อ่าน เขาเปลี่ยนไปตามความดีนั้น
เป็นทานที่น่าสรรเสริญ

 

สองวันมานี้
ซึ้งกับความหมายของสำนวนนี้มากค่ะ
"รักมาก...ทุกข์มาก
รักน้อย...ทุกข์น้อย
ไม่รัก...ไม่ทุกข์"

 

หลายปีก่อน ไปกราบนมัสการพระธาตุพนม
ได้อ่านคำเตือนใจ ที่เขียนติดไว้ในบริเวณวัด....

"จริยาเป็นของเรา...คำตัดสินเป็นของผู้อื่น"

 

....รินจัง....
พี่ติงอ่านแล้วน้ำตารื้นเลยค่ะ
สุดยอดเลยนะคะ

 

วันนี้คุมสอบPre O-NET ที่โรงเรียน
ก็คุยกับเพื่อนครูว่า ทำไมหนอ ทั้งๆที่เราทุ่มเท ตั้งใจ ทำทุกสิ่งทุกอย่างที่คิดว่าดี สำหรับลูกศิษย์ของเรา
ทำไม ผลสอบO-NET ถึงอยู่ในสภาพทรงกับทรุด
ทำไม ....
ทำไม....
ทำไม....
เคยได้ยินคุณครูบางท่านบอกว่า
เพราะโรงเรียนของเรา รับนักเรียนทุกคนที่มาสมัคร
ทำไมไม่คัดเอาเฉพาะเด็กที่มีคุณภาพ เรียนเก่ง ผลการเรียนดี สอบได้คะแนนผ่านเกณฑ์...
โดยเฉพาะนักเรียนที่ย้ายมาจากที่อื่นระหว่างภาคเรียนด้วยปัญหาความประพฤติ
และสารพัดปัญหา พอรับมาแล้ว นอกจากไม่ตั้งใจเรียน ก็ยังดึงเด็กๆที่ดีๆ ไปเป็นพวกของเขา
...
ฟังแล้วก็คิดว่า

ถ้าเราไม่รับเขาแล้ว จะให้เขาไปอยู่ที่ไหน
ถ้าเราไม่ดูแลเขาแล้วเราจะให้ใครดูแล
ถ้าเราปล่อยเขาออกไปนอกระบบการศึกษา
เมื่อเขาโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ เขาจะเป็นสมาชิกแบบใดของสังคม

ที่สำคัญ
เขาก็เป็นคนไทย มีความเป็นคน คุณพ่อคุณแม่ของเขาเสียภาษี ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม
เราทุกคน มีเงินเดือน ที่มาจากภาษีอากรของประชาชน
เราไม่มีสิทธิที่จะผลักภาระนี้ไปให้โรงเรียนอื่น
ก็แล้วจะให้โรงเรียนที่ไหนดูแลเขา
ปัญหาสารพัด ที่เกิดขึ้นกับเด็กๆ เราควรถือเป็นหน้าที่ ที่ต้องช่วยกัน
อย่างเต็มความสามารถมิใช่หรือ

 

หน้าที่ในการสอนคนให้เป็นคนดี ยากที่สุด

จงภูมิใจที่ได้สั่งสอนศิษย์ให้เป็นคนดี ..ครูติงทำดีที่สุดแล้ว

โมทนาสาธุครับ..

 

ถ้อยคำคมของคุณติงติง เป็นอนุสติเตือนใจดีที่สุดเท่าที่ได้เห็นมา

เป็นคุณูปการแด่ประชาชนผู้อ่าน ไม่ใช่เป็นแม่พิมพ์ที่ให้สิ่งมีค่าทุกอย่างแก่เด็กเท่านั้น

แต่ยังเจือจานสิ่งดีงามให้กับสังคมไทยส่วนรวม ถ้ามีคำคมอีก อยากได้อ่านต่อ

ค่ะ