การขออโหสิกรรม

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย โทรจิต, 25 กันยายน 2012.

  1. โทรจิต

    โทรจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2010
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +1,377
    การขออโหสิกรรม

    [​IMG]

    ครูบาอาจารย์ท่านหนึ่ง ได้อธิบายถึงเรื่องหลักการ การขออโหสิกรรมต่อเจ้ากรรมนายเวรไว้ว่า
    <O:p</O:p
    การที่คนเราจะขออโหสิกรรมต่อเจ้ากรรมนายเวรนั้น ไม่ใช่ว่าเราจะทำเหมือนกัน
    ใช้ได้เหมือนกันนั้น มันไม่ใช่อย่างนั้น มันอยู่ที่ว่าเจ้าหนี้คือเจ้ากรรมนายเวรเหล่านั้น
    เขาต้องการอานิสงส์ผลบุญแบบไหน แล้วถึงจะไปทำ และต้องทำกับผู้ใดถึงจะเกิดผลและได้บุญมาก
    เพราะบุญแต่ละอย่างและความเป็นเนื้อนาบุญนั้นไม่เท่ากัน
    <O:p</O:p
    โดยเฉพาะการที่เราอุทิศให้กับเจ้ากรรมนายเวรของเรา เขาจะได้รับก็ต่อเมื่อเขาพึงพอใจในบุญกุศลนั้น
    และกรรมตรงนั้นก็จะเป็นการให้อโหสิกรรมซึ่งกันและกัน แต่ว่ามันก็ยังมีเศษเวรเศษกรรมอยู่
    ไม่ใช่ว่าผลของกรรมนั้นจะหายไปโดยสิ้นเชิง
    <O:p</O:p
    ไม่ใช่บางคนใส่บาตร คนนี้ก็จะใส่บาตรเหมือนกันบางคนอาจจะเพียงแต่รักษาศีล
    ภาวนาเพื่อเป็นกุศลให้เขา ก็สามารถอโหสิกรรมได้ บางคนก็ถวายสังฆทาน สวดมนต์ ไหว้พระ
    ทำสมาธิ แต่บางคนที่วิบากกรรมหนัก อาจต้องไปบวชเป็นพระสงฆ์
    ซึ่งจะได้กุศลแรงเจ้ากรรมนายเวรจึงจะอโหสิกรรมให้

    [​IMG]
    <O:p</O:p
    ที่มา : เสบียงทิพย์<O:p</O:p
     
  2. na_krub

    na_krub "นโม ธรรมะสุขัง อรหังพุทโธ นโมพุทธายะ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +2,916
    อนุโทนาบุญแด่เจ้าของกระทู้ด้วยนะครับ ที่นำบทความดีๆมาฝากให้กับทุกๆท่านได้อ่านกัน


    เมื่อรู้ต้นเหตุที่มา ก็สามารถอุทิศบุญกุศลให้พวกเค้าเหล่านั้นได้ เหตุผลหลักคือ ตัวเราไม่เคยไปนึกถึงสิ่งที่เราเคยทำไว้กับพวกเค้าเหล่านั้นในอดีตที่ผ่านมา ตั้งแต่เล็กจนถึงปัจจุบัน ผลของกรรมคืออดีตที่ผ่านมาในชาติปัจจุบัน หรือบางคนคิดว่าเป็นผลมาจากอดีตที่ก่อนจะเกิดมาก็เป็นไปได้ แต่ที่สังเกตุมาจากตัวเองหรือบุคคลอื่นที่เรารู้จัก ผลของกรรมนั้นมาจากขาติปัจจุบันทั้งนั้น แต่น้อยคนที่จะนึกไปถึงว่าอดีตตั้งแต่เราเกิดมาเคยทำกับใครไว้บ้าง ยิ่งหนักไปกว่านั้น คือ ไม่คิดว่าการกระทำกับสัตว์นั้นคืออกุศลกรรม คนมีชีวิต สัตว์ก็มีชีวิตเหมือนกัน มีครอบครัวเหมือนกัน ต้องกิน ต้องอาศัยเหมือนกัน การที่เราไปเอาเปรียบเค้า เช่น รังแก ไม่ชอบแล้วมีการทุบตี ตายบ้างพิการบ้าง รวมกระทั่งการฆ่าเพื่อความสนุกสนานหรือเพื่อเป็นอาหาร สิ่งเหล่านี้ก็ถือว่าเป็นการทำอกุศลกรรมกับคนอื่นเช่นกัน เวลาเค้าไม่มีตัวตนหรือรูปไปแล้วนั้น เรียกง่ายๆว่าตายไปแล้วนั้น เค้าจะมาปรากฎให้เห็นในรูปของคน ไม่ได้มาในรูปของสัตว์เหล่านั้น เมื่อได้รู้แบบนี้แล้วก่อนขออโหสิกรรมต่อพวกเค้าแล้ว ต้องยอมรับความผิดพลาดของตนเองที่ได้กระทำต่อพวกเค้าเหล่านั้นก่อน โดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆทั้งสิ้น ไม่ใช่นึกอยากขออโหสิกรรมก็ขอไปแบบนั้น คิดว่าเค้าได้รับผลบุญเราแล้ว เดี๋ยวเค้าก็อโหสิกรรมให้เราเองแหละ บุคคลที่คิดอย่างนี้ เป็นการปิดประตูขังตัวเองไว้อยู่กับความคิดอันผิดๆของตัวเอง ทุกอย่างอยู่ที่เจตนาเป็นหลัก ถึงจะทำดี แต่คิดไม่ดี บุญกุศลมันก็ไม่เต็มที่ แล้วเมื่อไหร่ที่พวกเค้าเหล่านั้นจะอโหสิกรรมให้กับตัวเรา



    วันนี้เป็นวันพระขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑o สิ่งใดที่เป็นกุศลกรรมในวันนี้ที่ข้าพเจ้าได้กระทำ ข้าพเจ้าขอมอบบุญกุศลนี้แด่ผู้ที่ใฝ่ในธรรมมะทุกๆท่าน รวมไปถึงเจ้ากรรมนายเวร ญาติทั้งหลาย เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ครู-อาจารย์ทั้งหลาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ผู้ที่ตกอยู่ในวิบากกรรมทั้งหลาย ทั้ง ๓ ภพภูมิ ของผู้ที่ใฝ่ในธรรมมะทุกๆท่าน ขอให้ท่านทั้งหลายเหล่านี้จงพ้นจากวิบากกรรมต่างๆได้ไปสู่ยังภพภูมิที่ดียิ่งๆขึ้นไป และได้พบหนทางแห่งการปรินิพพาน ด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ

    อนุโมทนาบุญแด่ผู้ที่ใฝ่ในธรรมมะทุกๆท่านนะครับ สาธุ สาธุ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2012
  3. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,275
    ค่าพลัง:
    +82,733
    ขอบคุณสำหรับข้อคิดเตือนใจนะคะ....
     

แชร์หน้านี้

Loading...