การชำระโลกให้สะอาดยังคงดำเนินต่อไป พร้อมคลิปภัยพิบัติทั่วโลก

โชคดีนะครับพี่ ผมขอลาก่อน
(ขอบคุณสำหรับทุกสิ่ง กราบขอโทษที่บางครั้งเล่นไม่รู้กาละเทศะ)

 

ทุกอย่างเดินไปตาม "อนิจจา..สังขารไม่เที่ยง"

<IMG src='http://image.free.in.th/v/2013/ia/140921032949.JPG' width=350> <IMG src='http://image.free.in.th/v/2013/im/140921033456.jpg' width=250>

อ้ายหนุ่ม...คนนั้น ดูหงอยเหงา

ในมือของเขา มีเบสบอล อนิจจา!!

 

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/T3mnfaMa7RM" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/bFLB-OLEx1c" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>​

 

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/Ea3jaxb2o2Y" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/1YD7ZYADNM0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>​

 

ISIS - Pantip

 

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/fLK_Stj6h24" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/RojiK_l45hY" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

 

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/R_iYQlMw0r0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/bsCZzpmbEcs" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/MeEOM44KxCg" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

​

 

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/L8EdkH4blIA" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/fxDuENvxw_o" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
​

 

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/ok2XI9lVFZo" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/33WRiT1vBxw" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

คลิปนี้นาทีที่ 15 เด็กน้อย​

 

Visudhi Punya
22 กันยายน เวลา 16:46 น. ·

พี่น้องนักเรียนที่รักแห่งเราทั้งหลาย
การเรียนรู้ที่จะใช้พลังอำนาจทางปัญญา
เพื่อให้มีอำนาจเหนือนำสภาวะจิตฝ่ายต่ำของท่าน
ในกรณีที่ถูกยั่วยุจนจิตตกหรือเสียสมดุลไปแล้วนั้น
มันเป็นสิ่งที่กระทำได้ยากยิ่งนัก....

เพราะท่านไม่มีทางที่จะหยิบปัญญาขึ้นมา
ดับอารมณ์รู้สึกนึกคิดด้านลบ
ที่อยู่ในจิตของท่านได้เลย
ถ้าขณะนั้นสภาวะจิตของท่านมัน "ไม่ว่าง"

โดยที่มันไม่ว่างก็เพราะว่ามันยังสั่นสะเทือนเป็นลบ
แทนความ "สงบ" หรือนิ่งๆว่างๆ
ในสภาวะปกติอยู่ไงล่ะ
ที่สำคัญก็คือ ถ้าสภาวะจิตขณะนั้นมันสั่นเป็นลบ
มันก็จะมีผลต่อการคิดไปในด้านลบตามไปด้วย
จะให้ท่านเปลี่ยนเป็นคิดบวก
ในขณะที่สภาวะจิตยังเป็นลบอยู่ไม่ได้แน่นอน

ดังนั้น....
หน้าที่ของท่านคือการทำให้ตนเองมีสภาวะจิต
ที่พร้อมต่อการใช้ปัญญา
เพื่อจัดการกับปัญหาของท่าน
ที่กำลังเริ่มจะโรมรันพันตูกันอยู่กับคนอื่น
จนอาจลื่นไถลกลายไปเป็น
ก่อ "พันธะกรรม" กันขึ้นมาได้
ให้รวดเร็วทันใจว่องไวเป็นที่สุดนั่นเอง

แน่นอนว่า
สภาวะจิตที่พร้อมต่อการใช้ปัญญาก็คือ
การว่างไปจากอารมณ์ขยะรายวันนั้นในทันที

หากปล่อยชักช้าจนสภาวะจิต
เสียสมดุลด้านลบมากขึ้น
การทำให้สภาวะจิตนั้นมันว่าง
ก็จะยิ่งยุ่งยากมากยิ่งขึ้นตามไปด้วย

มีเพียงวิธีเดียวเท่านั้นที่จะช่วยท่าน
มิให้ตกเป็นทาสทางอารมณ์รู้สึกนึกคิดด้านลบ
ของตนเองได้อย่างสิ้นเชิง คือ
ให้หันมาฝึกการใช้ "กฤติสติ" ให้เกิดทักษะด้วย

กฤติสติ หมายถึง ความรู้ตัวล่วงหน้า
ในสิ่งร้ายๆที่จะเกิดขึ้นต่อตนเอง

เช่นรู้ว่าเพื่อนมนุษย์ที่ตนคบหา
ไม่ว่าคนใกล้ตัวหรือไกลตัวนั้น
พวกเขาสามารถทำตนเป็นคนน่ารักของท่านได้
และสามารถที่จะทำตนเป็นคนไม่น่ารักได้เหมือนกัน
ในทุกวันทุกเวลา ในทุกโอกาส ทุกสถานที่

ดังนั้น ท่านจึงเรียนรู้ที่จะยอมรับความจริงนี้
ด้วยการคบหาสมาคมกับใครแล้วไม่คาดหวังใคร
ให้ทำตนเป็นคนน่ารักเสมอ
โดยไม่ทำตนเป็นคนน่าชังอย่างเด็ดขาด

เมื่อท่านยอมรับความจริงดังว่านี้แล้ว
หากในวันหนึ่งข้างหน้า เมื่อท่านต้องเผชิญกับ
ความไม่น่ารักของใครขึ้นมาจริงๆในชีวิต
ท่านก็จะไม่มีวัน "จิตตก" หรือเสียสมดุลใดๆ
เพราะเหตุว่าท่าน....
มีกฤติสติและใช้มันได้ในทันที คือ

1.ท่านรู้ตัวล่วงหน้ามาก่อนแล้ว
2.ท่านทำใจยอมรับความจริงนั้นไว้ก่อนแล้ว
3.ท่านมีสติล่วงหน้าตลอดเวลาอยู่แล้ว

ดังนั้น...
การมีกฤติสติ จึงหมายถึง
การสร้างสติเอาไว้ล่วงหน้านั่นเอง

ขอท่านทั้งหลายจงเร่งทำความเข้าใจ
แล้วหยิบนำไปใช้ในชีวิตของท่านเถิด
อาการสติแตก...และอะไรๆแตกมันจะไม่เกิดเหมือน
อดีตกาลที่ผ่านมาอีกต่อไป
เอเมน....

ป.วิสุทธิปัญญา
22-09-2014

หมายเหตุ:

ด้วยเดชะพระนามแห่งองค์จิตจักรวาล
พระผู้ทรงเป็นพระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
ของมนุษย์บนโลกเสรีนี้

เราขอประทาน "กริชสติ" อาวุธประจำกายอันศักดิ์สิทธิ์นี้
ในพระนามแห่งพระองค์ แก่พี่ๆน้องๆผู้ใดก็ตาม
ที่มีปณิธานแห่งนิพพานแท้จริง ไม่เหลาะแหละ
ไม่ล่องเล่น ไม่โลเล ไม่พาโล
ให้ใช้ข้ามผ่านหรือฟันฝ่า ทุกบททดสอบ
ทุกบทเรียนกรรม และทุกบทเรียนโลก
ตลอดเส้นทางสายวิมุติสู่การหลุดพ้นนับแต่บัดนี้

ขอความศักดิ์สิทธิ์ของ "กริชสติ" เล่มนี้
จงมีบังเกิดแก่ทุกท่านทุกคน.....เอเมน!



Visudhi Punya
22 กันยายน เวลา 12:04 น. ·

พี่น้องที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะขอกล่าวต่อท่านทั้งหลายว่า

วิธี "จัดการผลกรรมแต่อดีตชาติ" ให้เป็นกลาง
เพื่อสะสางมวลขยะทางพลังงานในระบบโลก
ที่ตนเองได้ก่อไว้ให้หมดสิ้นไปในแต่ละกรณีกรรม
ดั่งพวกท่านเรียกว่า "สิ้นกรรม" นั้น

ในวิธีที่สองนี้.....
มีเงื่อนไขการใช้ก็ต่อเมื่อรู้ว่า....หรือ เมื่อไม่มั่นใจว่า
คู่กรณีกรรมของท่านรูปธรรมนั้นๆ
เขายอมรับความมีสำนึกของท่านในวิธีการที่หนึ่ง (ให้อภัย)
จากการร้องขออโหสิกรรม (ขออภัย) ของท่านหรือไม่

เพราะคู่กรณีกรรมของท่านรายนั้น
เขายังไม่หายโกรธเคืองขุ่นแค้น
เขายังแสดงอาการที่บ่งชี้ว่าตัวท่านเป็นปรปักษ์
หรือยังเป็นคนที่ไม่น่ารักสำหรับตัวเขาอยู่
นี่ย่อมแปลได้ว่า.....
พันธะกรรมของพวกท่านที่เกี่ยวเนื่องกันมา
มันยังคงค้างคาอยู่ดังเดิม

เพราะการสิ้นสุดยุติกรรมใดๆนั้น
ฝ่ายใดฝ่ายเดียวจะ "ยอม" อีกฝ่ายหนึ่ง
เพื่อเลิกแล้วต่อกันดื้อๆไม่ได้

ฝ่ายผู้กระทำผิดบาป
จักต้องยอมสำนึกผิดเพื่อขออภัย

ส่วนฝ่ายผู้ถูกกระทำผิดบาป
ก็จักต้องยอมสำนึกด้วยยินดีที่จะให้อภัย
โดยการหยิบยื่นความรักออกมาให้
เพื่อใช้พลังงานความรักในรูปของคลื่นแม่เหล็ก
ที่จิตของผู้จะให้อภัยนั้นผลิตมันออกมา
เพื่อจัดการชำระมวลขยะพลังงานกรรม
ซึ่งสั่งสมตกค้างอยู่ในสนามพลังงานของระบบโลก
ให้มันเป็นกลางเสียให้สิ้นนั่นเอง

ดังนั้น....
การที่จะช่วยให้คู่กรณีกรรม
มีสำนึกที่จะให้อภัยหรือให้อโหสิในกรรมนั้นๆได้
ท่านจะยังคงสั่นสะเทือนมัน
ด้วยการมีสำนึกแต่ที่ในจิตใจตนเอง
ตามวิธีที่หนึ่งอยู่อย่างนั้นต่อไปไม่ได้อีกแล้ว

แต่ท่านจักต้องให้ความร่วมมือช่วยเหลือเขา
เพื่อเสมือนเป็นการตอบแทนเขา
ด้วยการช่วยลดหย่อนผ่อนบรรเทา
ความทรงจำทางอารมณ์ขยะ
ที่มันยังคงบันทึกอยู่ในเบื้องลึกแห่งจิต
ติดต่อกันมายาวนานนับแต่ครั้งเกิดเหตุกันไว้ในอดีตนั่น
ถ้าเขาเลิกโกรธแค้นอาฆาตท่านได้
ความทรงจำทางอารมณ์ด้านลบ
ต่อกรณีกรรมนั้นๆภายในจิตวิญญาณของเขา
ก็จักสลายคลายไปในขณะเดียวกัน

การไม่เอาความหรือเลิกแล้วต่อกัน
ในพันธะกรรมนั้นจะเป็นอันยุติอย่างสิ้นเชิงได้

สันดานมนุษย์โลกเสรีที่คล้ายคลึงกัน
คือ มีทุกข์ต้องปลดทุกข์
ปวดท้องหนักก็ต้องถ่าย ถ่ายไม่ออกก็มีปัญหา
ปวดท้องเบาก็ต้องถ่าย ถ้าไม่ถ่ายออกมาปัญหาก็จะเกิด

ดังนั้น....
การเป็นทุกข์ทางใจ คือ
การปวดใจหรือการมีปัญหาทางอารมณ์นี่ก็เช่นกัน
มนุษย์จึงมักใช้วิธีเดียวกันคือถ่ายสิ่งที่ปวดอยู่ในใจนั้นออกมา
ซึ่งพวกท่านหมายถึง "การระบายอารมณ์" นั่นเอง

ต่อเมื่อท่านหรือเขาได้ระบายจนหายปวดแล้วนั่นล่ะ
ความสมดุลในจิตใจหรือความปกติในท้องไส้
จึงจะกลับคืนมาเป็นปกติ สบายใจสบายท้องดังเก่า

พวกท่านมีวิธีระบายกันหลายวิธีและหลายช่องทาง
หลายคนเรียกพฤติกรรมการระบายถ่ายทุกข์ทางจิต
ในทุกรูปแบบว่า "พฤติกรรมทางอารมณ์"
โดยถือว่าถ้าใครแสดงพฤติกรรมทางอารมณ์ใส่ใคร
แสดงว่ารายการ "แก้แค้น" เพื่อระบายทุกข์ทางจิต
กำลังเกิดขึ้นแล้ว....

ถ้าท่านเป็นฝ่ายถูกกระทำแล้วไม่กระทำตอบ
เพราะท่านฉลาดพอที่จะรู้เท่าทันกระบวนการยุติกรรมนี้ได้
ทั้งเขาและท่านก็จักสามารถจัดการผลกรรมแต่อดีต
ให้มันเป็นกลางได้อย่างสิ้นเชิง....

แปลว่าเมื่อเขาได้ระบายแล้ว
เขาก็จบคือหายปวดใจแล้ว
ผู้ถูกกระทำในภพชาตินี้คือท่านเองไม่กระทำตอบด้านลบ
เพราะมีสำนึกแห่งการร้องขออโหสิกรรม
ต่อเขาอยู่แล้วตั้งแต่แรก
และเข้าใจในกระบวนการที่เรากล่าวมาตั้งแต่ต้น
ท่านจึงได้มอบพลังงานความรักก้อนใหญ่ให้เขาไป
แทนที่จะเป็นฝ่ายรอให้เขาหยิบยื่นพลังแห่งรัก
จากการอโหสิให้ท่านก่อน ตามขั้นตอนปกติที่มันควรจะเป็น

พลังงานจิตด้านบวก ต่อกรณีกรรมเดียวกันนี้
ไม่ว่ามันจะเป็นของใครฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
มันก็สามารถใช้สลายมวลพลังงานขยะแห่งผลกรรม
ที่ดำรงอยู่ในโครงข่ายสนามแม่เหล็กโลกมายาวนาน
เพื่อรอเจ้าของมันจัดการชำระ
ด้วยการทำให้มันมีคุณสมบัติเป็นกลางทางไฟฟ้า
จนแตกสลายกลายเป็นอีเล็คตรอนอิสระ
โดยไม่จับกลุ่มรวมกันเป็นมวลใหญ่
ให้เกิดเป็นขยะรกฟ้าอยู่อีกตลอดไปได้ทั้งนั้น

นี่เป็นความลับเบื้องหลังมิติโลก
เป็นศาสตร์ด้านอภิปรัชญาบริสุทธิ์
ซึ่งมนุษย์ไม่รู้ว่าตนยังไม่รู้
หากท่านต้องการหลุดพ้นในภพชาติเดียวนี้
จงทำความเข้าใจเรื่องนี้ให้กระจ่างเถิด
ด้วยการย้อนกลับขึ้นไปอ่านทบทวนทำความเข้าใจใหม่
ก่อนที่จะปฏิบัติตามคำสอนของเราต่อไป
ด้วยการ.....

ไม่ต่อสู้ ไม่ตอบโต้ ไม่ต่อต้าน และไม่หลีกเลี่ยง
ต่อการกระทำใดๆที่ไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม
ไม่ดีงาม ที่เขาคนนั้นกระทำต่อตัวท่าน
โดยท่านมีหน้าที่แต่เพียงว่า
ท่านจะทำอย่างไร ท่านจะช่วยเหลือเขาอย่างไร
เพื่อจะให้เขา ลด ละ หรือเลิก การกระทำด้านลบนั้นเสีย
ด้วยการใช้สติปัญญาของท่าน
จัดการกับปัญหานั้นๆ
แทนการใช้อารมณ์เข้าไปกระทำตอบ
ดังเช่นปกติทั่วไป

เพียงเท่านี้....ผลกรรมด้านลบ ที่ค้างคามาแต่อดีตชาติ
ก็ถึงจุดจบพบความเป็นกลางได้อย่างสิ้นเชิงแล้ว
เอเมน.....

ป.วิสุทธิปัญญา
22-09-2014



Visudhi Punya เพิ่ม 2 รูปภาพใหม่
22 กันยายน เวลา 1:15 น. ·

ถ้าปืนไม่มีลูกกระสุน
ปืนกระบอกนั้นก็ย่อมไม่น่ากลัว
แสดงว่าเพราะ "กระสุน" จึงทำให้ปืนน่ากลัว

คนชั่วก็เช่นกัน
เขาก็เป็นคนกับเขาคนหนึ่ง

แต่ที่เขาชั่วเพราะว่าเขามี "ความชั่ว" เป็นคุณสมบัติส่วนตน
ถ้าเขาไม่มีความชั่ว เขาก็เป็นคนไม่มีอะไรน่าเกลียดน่าชัง

เพราะว่าเขามีความชั่วเป็นคุณสมบัตินี่เอง
เขาจึงต้องทำชั่ว

ดังนั้น......
ความชั่วของคนชั่วจึงน่ากลัวกว่าตัวตนของคนชั่ว

ป.วิสุทธิปัญญา
21-09-2014

 

ถ้าไม่วกกลับ มาผมต้องเสีย ใจไปตลอดชีวิตเลยล่ะครับ

 

ซัวซไดย ซกสะบายดี ท่านอสุรินทร์นะ(อิอิ)
ขอสุขะเพียบละออเด้ออ้ายเด้อ
จำน้องสาวคนนี้ได้อ๊ะเปล่าเน้อ
คนที่เธอเคยทักเป็นภาษาแขมร

 

Visudhi Punya
เมื่อวานนี้ เวลา 4:19 น. ·

พี่ๆน้องๆแห่งเราทั้งหลาย.....
เราจะขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายอีกว่า

ขณะนี้ปฏิบัติการชำระโลกสู่ยุคพลังงานใหม่
กำลังค่อยๆยกระดับความเข้มข้นขึ้นในแทบทุกด้าน
โดยเฉพาะด้านความสมดุลใหม่
ของอำนาจแม่เหล็กโลก

ซึ่งมันจะมีผลกระทบโดยตรงต่อ
เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์
และทุกสรรพสิ่งที่ดำรงอยู่ในระบบโลก
ในอันที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่
ชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติ

ในการเปลี่ยนแปลงด้านอำนาจแม่เหล็กโลกนั้น
นอกจากจะเป็นเรื่องของความเข้มสนามแม่เหล็ก
กับระดับความสมดุลเหนือพื้นโลกของระบบโครงข่าย
ตามที่เราเคยกล่าวเปิดเผยมาก่อนหน้านี้แล้วนั้น
ยังมีความลับเบื้องหลังมิติโลกที่ท่านควรรู้
อยู่อีกกรณีหนึ่งก็คือ.......

การปรับเปลี่ยนแนวแกนแม่เหล็กโลกเหนือใต้
ตามแนวเข็มทิศแม่เหล็ก
ให้เบี่ยงเบนมาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
คือ เคลื่อนย้ายมาทางประเทศไทย
ในอัตราทำมุม 3 องศาจากแนวเดิม
ซึ่งขณะนี้นักวิทยาศาสตร์โลกก็เริ่มค้นพบ
ความเป็นพิรุธได้ชัดเจนเป็นรูปธรรมบ้างแล้ว

ในภาพประกอบที่เห็นเป็นพื้นที่สีแดง 2 ดวง
ตรงบริเวณขั้วโลกเหนือใต้นั้น
มันคือบริเวณที่สนามแม่เหล็กโลก
มีความเข้มข้นสูงสุด
ซึ่งตามปกติมันจะปรากฏอยู่เพียงดวงเดียวเท่านั้น
ขณะที่ตามภาพที่เห็นกลับพบว่ามีสีแดงเข้มอยู่ 2 ดวง
ทั้งทางด้านขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้เลยทีเดียว

สาเหตุที่พระบิดา
เอกองค์จิตจักรวาลดวงใหญ่
ทรงมีกำหนดให้แนวพิกัดของเข็มทิศแม่เหล็กโลก
ตามแนวเหนือใต้ในปัจจุบัน
ให้เบี่ยงเบนไปจากแนวเดิม
มาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 3 องศา
ก็เพราะเหตุว่า.........

ดาวเคราะห์โลกในยุคพลังงานใหม่
หลังผ่านปฏิบัติการชำระคาบสุดท้าย
ในห้วงเวลา 56 วัน 8 ราตรีผ่านไปแล้วนั้น
จะมีพระศาสดาพระองค์ใหม่ปรากฏพระองค์ขึ้น
บนแผ่นดินที่เครื่องยนต์แห่งกรรมของเรา
เลือกใช้เป็นจุดศูนย์กลางของการสั่นสะเทือน
ทางด้านจิตสำนึกของดาวเคราะห์โลกอยู่นี้นั่นเอง

แน่นอนว่าในพิกัดที่ตั้งของประเทศนี้
จะเป็นดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์และบริสุทธิ์แท้
เมื่อขยะทั้งหลายทั้งคนทั้งวัตถุเท็คโนโลยี
จะได้รับการกำจัดคัดทิ้งจนหมดสิ้น

ผู้คนบนแผ่นดินนี้จะเป็นต้นแบบ
ของมวลมนุษย์แห่งโลกเสรี
ที่จะเข้าถึงความรักในนิยามขององค์จิตจักรวาล
และสามารถเข้าถึงการใช้ปัญญาญาณ
ของสมองซีกขวาซึ่งเป็นสติปัญญาของจิตวิญญาณได้
และแน่นอนว่า....สิ่งที่จะช่วยเกื้อกูลเพื่อการนี้ก็คือ
แนวเส้นแรงสนามแม่เหล็กโลกของระบบโครงข่าย
จะต้องพาดผ่านพิกัดประเทศนี้โดยตรงเท่านั้น

แต่เดิมมาจนตราบเท่าทุกวันนี้นั้น
ทิศทางของเส้นแรงแม่เหล็กโลกมันเอนเอียง
เบี่ยงเบนไปทางซีกโลกตะวันตกค่อนข้างมาก
จึงเกิดการเสียสมดุลตลอดมา
สาเหตุหลักแห่งการเสียสมดุลมี 3 ประการ คือ

1.เพราะแนวระนาบของกาแล็กซี่ทางช้างเผือก
ได้เกิดการเสียสมดุลขึ้นโดยเอนเอียงเบี่ยงเบน
ไปทางซ้ายทำมุม 0.2 องศากับแนวดิ่ง

จึงยังผลให้ผู้คนทางซีกโลกด้านตะวันออก
ซึ่งถูกกำหนดให้เป็นผู้ใช้ปัญญาญาณได้ดีกว่า
ไม่อาจเข้าถึงมันได้ง่ายอย่างที่ควรจะเป็น
พวกท่านจึงพากันหันมาใช้สมองซีกซ้ายนำซีกขวา
เพื่อการคิดรู้และยึดติดอยู่กับวัตถุเท็คโนโลยีขยะ
ตามผู้คนทางซีกโลกตะวันตกไปด้วย
ยังผลให้สองพันกว่าปีที่ผ่านมา
โลกเสรีนี้จึงมีแต่คนปราดเปรียว
ที่ขาดความปราชญ์เปรื่องด้านปัญญาญาณ

2.เพราะดาวเคราะห์โลกเสียสมดุลด้านพลังงาน
จึงยังผลให้พลังอำนาจ
ในการเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองต่ำลงและไม่คงที่
จนเกิดอาการหมุนไปแกว่งไป ส่ายไปตลอดมา
ยังผลให้เส้นแรงสนามแม่เหล็กโลก
พลอยเสียสมดุลตามไปด้วย

3.เพราะดาวเคราะห์โลกด้านตะวันออก
มีผู้คนที่บกพร่องทางจิตสำนึก
เนื่องจากรักกันไม่ได้ ให้กันไม่เป็น
ยอมให้กิเลสตัณหาเข้าครอบงำจิตใจ
จนยังผลให้พลังงานรวมจากจิตสำนึกด้านบวก
ที่มอบให้กับแกนโลกมีปริมาณน้อยมาก

เมื่อมีพลังงานด้านบวกให้แก่โลกน้อย
ขณะที่ใช้พลังจิตผลิตสร้างแต่พลังงานลบ
ที่โลกไม่ต้องการออกมามากขึ้นๆเรื่อยๆ
มันก็มีส่วนทำให้แนวเส้นแรงสนามแม่เหล็กโลก
สูญเสียความสมดุลไปได้เช่นเดียวกัน

ท่านทั้งหลายจะต้องรู้ว่า
แนวเส้นแรงสนามแม่เหล็กโลก
คือ ถนนที่ท่านทั้งหลาย
ต้องใช้สื่อสารกับจักรวาล

เพื่อรับฟังข่าวสารจากจักรวาล
เพื่อรับเอาความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ
เข้ามาสู่กระบวนการคิดด้วยสมองซีกขวา
ที่เรียกว่า "ปัญญาญาณ"
หรือสติปัญญาของวิญญาณโดยเฉพาะ

หากมันเป็นถนนไม่แข็งแรงสมบูรณ์
ท่านก็ติดต่อกับจักรวาลได้ยากลำบากยิ่ง

แต่ถ้าหากมันเบี่ยงเบนไป
ไม่พาดผ่านพิกัดที่ท่านดำรงอยู่
ท่านก็จะขาดการติดต่อกับจักรวาลไปทันที
เหมือนเช่นในรอบสองพันปีที่ผ่านมา
จนกระทั่งถึงปัจจุบันนั่นแหละ

ถ้าปรับแก้ไขไปตามที่เรากล่าวมาสำเร็จ
พระศาสดาพระองค์ใหม่จึงจะสามารถติดต่อ
กับองค์จิตจักรวาลได้อย่างสะดวกดาย
และมนุษย์ยุคพลังงานใหม่บนแผ่นดินนี้
ก็จะปราชญ์เปรื่องเฟื่องฟู
ด้านการใช้ปัญญาญาณกันถ้วนหน้า

ทุกวันที่ผ่านมากว่าสามสิบปีแล้ว
เราจึงพยายามชี้แนวทาง สร้างแนวคิด
กระตุ้นจิตสำนึกของท่านทั้งหลายตลอดมา
สอนให้รักกันให้ได้ ให้กันให้เป็น
ไม่ก้าวล่วงซึ่งกันและกัน
ก็ล้วนเพื่อเตรียมตัวท่านให้พร้อม
ต่อการเป็นมนุษย์ยุคพลังงานใหม่ที่ถูกคัดไว้ทั้งสิ้น

ผู้ใดไม่ฟังเรา ไม่เชื่อเรา ไม่หันมาทางเรา
ผู้นั้นก็มิอาจเข้าถึงความรักของเรา
ที่พระบิดาทรงฝากเรามาเป็นกำนัลแก่ท่าน
ในภพชาติสุดท้ายนี้ได้

ผู้ใดก้าวล่วงเรา ในฐานะที่พระบิดาทรงใช้เรามา
นั่นเท่ากับว่าท่านผู้นั้นได้ก้าวล่วงต่อพระบิดา
ผู้ทรงให้กำเนิดจิตวิญญาณของท่านผู้นั้นเอง
ท่านก็คงจะมิอาจได้รับการละเว้นโทษทัณฑ์ได้

พายุสุริยะแต่ละระลอก
แผ่นดินไหวแต่ละครั้ง
ภูเขาไฟปะทุแต่ละที
บททดสอบจิตสำนึกสำหรับท่านแต่ละคน
ปฏิบัติการสามเหลี่ยมกับพระบิดา
ที่ทุกท่านได้หมั่นกระทำผ่านมาทางเรา
ล้วนเป็นหนึ่งในแผนการปรับย้าย
โครงข่ายสนามแม่เหล็กโลกทั้งสิ้น

การที่เราสื่อพระโอวาทในระบบจิตสู่จิดกับพระบิดา
มาให้ท่านทั้งหลายได้รับรู้เรียนรู้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
บนแผ่นดินประเทศนี้นั้น
มันคือปฏิบัติการทางจิตวิญญาณ
เพื่อการติดตั้ง "เสาอากาศ" ที่ถาวรไว้ตรงนี้
เพื่อการติดต่อระหว่างมนุษย์แห่งโลกเสรี
กับรูปธรรมอื่นๆในจักรวาล
และเพื่อพระศาสดาพระองค์ใหม่
จะทรงใช้ติดต่อสื่อสารกับองค์จิตจักรวาลต่อไปด้วย
เอเมน...

ป.วิสุทธิปัญญา
7-10-2014

 

Visudhi Punya
6 ตุลาคม เวลา 14:38 น. ·

:พี่ๆน้องๆแห่งเราทั้งหลาย
เราขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
ขณะนี้สนามแม่เหล็กโลกกำลังเริ่มแปรปรวน

ความแปรปรวนเกิดจากสองสาเหตุ

สาเหตุแรก:
เกิดจากจิตสำนึกมนุษย์แห่งโลกเสรีตกต่ำลง
ในระดับที่รุนแรงใกล้เคียงกับยุคที่เคยตกต่ำ
เมื่อราวๆสองหมื่นสี่พันปีที่ผ่านมา
จนพระบิดาต้องพิพากษาชำระโลกครั้งใหญ่
เพื่อคืนความสมดุลให้แก่ดาวเคราะห์ดวงนี้มาแล้ว

ผลที่เกิดขึ้นในครั้งนั้น คือ
มีสัตว์ตายและผู้คนล้มตายจำนวนมาก
วัตถุเท็คโนโลยีขยะถูกทำลาย
แผ่นดินจมหายด้วยการกลบฝังมันเอาไว้
ใต้ฝ่าเท้าของพวกท่านในยุคปัจจุบัน

ยิ่งปัจจุบันขณะ
ท่านทั้งหลายโดยส่วนใหญ่
ยังคงรักกันไม่ได้ ให้กันไม่เป็น เข่นฆ่าบ้าอำนาจกัน
ก่อสงครามล้างเผ่าพันธุ์ เบียดเบียนกันเอง
หนักข้อกันมากเท่าไหร่.....
มันจะยิ่งส่งผลร้ายทำให้สนามแม่เหล็กโลก
ที่เหวี่ยงออกมาห่อหุ้มอุ้มโอบระบบโลกนี้ไว้
เกิดอาการอ่อนแอ ไม่เข้มข้นแข็งแรง ไม่มีพลัง
และจะเกิดอาการวิปริตแปรปรวนในระดับที่รุนแรงได้

สาเหตุที่สอง:
เกิดจากปฏิบัติการทางเท็คนิกของช่างเท็คนิก
ผู้เดินทางมาจากนอกระบบโลก
ซึ่งคอยทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงหรือผู้พิทักษ์โลกตลอดมา
เพื่อคอยช่วยค้ำจุนระบบโครงข่ายสนามแม่เหล็กโลกไว้
ให้สมดุล มั่นคง แข็งแรง

พวกเขาต้องรับภาระหนัก
ที่จะเข้ามาช่วยกันกอบกู้พลังอำนาจของดาวเคราะห์นี้
ให้กลับคืนสู่สมดุลใหม่ที่เหมาะสมกับยุคพลังงานใหม่
โดยให้มีความเข้มสนามแม่เหล็กสูงขึ้นจากเดิม
และให้มีความสมดุลของระดับความสูงของโครงข่าย
คงที่ คือ 6 หมื่นกิโลเมตรจากพื้นผิวโลก

ซึ่งปฏิบัติการของทีมช่างเท็คนิกที่ต้องเข้ามา
ปฏิบัติการทางกายภาพในระบบโลกโดยตรงแล้ว
ยังจะต้องทำหน้าที่สัมพันธ์กันกับพระสุริยะเทพ
ในการปลดปล่อยพลังงานจากดวงอาทิตย์
ผ่านกระบวนการ Solar Flare
ที่ระเบิดถี่ขึ้น และรุนแรงขึ้นเรื่อยๆด้วย
เพื่อกระตุ้นให้มีการตื่นตัวขึ้นที่แกนโลก
เป้าหมาย คือ ยกระดับความเข้มสนามแม่เหล็ก
และระดับความสูงของระบบโครงข่ายขึ้นสูง
ในระดับที่พระบิดาได้ทรงกำหนดไว้ให้ใหม่แล้ว

ดังนั้น....
ระยะที่ผ่านมาจนบัดนี้และต่อๆไป
ท่านทั้งหลายจะพบว่าดวงอาทิตย์
จะเกิดโซล่าร์แฟลร์
บ่อยขึ้น ถี่ขึ้น รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ท่านจะพบว่าจุดดำบนดวงอาทิตย์
ตรงด้านที่หันมายังโลกนั้น บางวันเวลา
อาจมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นถึงระดับ 9 ถึง 10 จุด
และอาจพบว่า มีการระเบิดบนพื้นผิว
เพื่อส่งพายุสุริยะมายังโลกมากกว่า 1 จุด
ในคราวเดียวกันเลยทีเดียวเชียว!

ท่านทั้งหลายจึงต้องรู้ความจริงกันด้วยว่า
หากเมื่อใดก็ตามที่ระดับโครงข่ายสนามแม่เหล็ก
ซึ่งห่อหุ้มดาวเคราะห์โลกนี้ไว้อ่อนแอ
ยกระดับเหนือพื้นโลกได้ไม่ถึง 6 หมื่นกิโลเมตร
หรือเดี๋ยวสูงเดี๋ยวต่ำ ขาดๆ เกินๆ ไม่พอดี
หรือที่เรียกว่า "แกว่ง" แล้ว

ดาวเคราะห์ดวงนี้จะต้องเสี่ยงกับการถูกชน
จากประดาเทหวัตถุที่เป็นขยะอวกาศ
จำพวก ดาวหาง อุกกาบาต และดาวเทียมหมดอายุ
ทั้งยังเสี่ยงกับการถูกบุกรุกโดยอาคันตุกะ
ที่พวกท่านไม่ได้เชื้อเชิญอีกต่างหากด้วย

เนื่องจากสนามแม่เหล็กโลก คือ รั้วของโลก
ถ้ารั้วบ้านไม่แข็งแรงเสียแล้ว
คนในบ้านจะปลอดภัยได้อย่างไรกัน

นอกจากนั้น....
ท่านทั้งหลายยังจะต้องรู้ว่า
ถ้าค่าความเข้มสนามแม่เหล็กโลก
เกิดอาการแปรปรวน วิปริต หรือ ไม่คงที่
มันยังจะมีผลใหญ่หลวงต่อมนุษย์โลกเสรีนี้อีกด้วย
ลองเรียนรู้ดูตัวอย่างพอสังเขปกันก็ได้ว่า
ผลกระทบต่อท่านทั้งหลายมีอะไรบ้าง
ดังต่อไปนี้......

1.ถ้าค่าความเข้มมันแกว่งขึ้นๆลงๆจากค่าคงที่
ซึ่งปัจจุบัน คือ 14 เก๊าส์ ท่านทั้งหลายจะเกิดอาการ
ทางระบบประสาท ซึ่งเป็นกลไกทางไฟฟ้าที่สับสน
เช่น วิงเวียนศีรษะ ปวดมึนศีรษะ คลื่นไส้ เป็นต้น

2.กลไกทางไฟฟ้าเหนี่ยวนำในระบบเซล
จะแปลคำสั่งทางชีวภาพผิดพลาด เป็นว่าให้มัน
ทำร้ายตัวเอง....แทนที่จะรักษาสมดุลไว้
ด้วยการดำรงอยู่และซ่อมสร้างเหมือนดังปกติ
ท่านจะมีกายสังขารที่เสื่อมลงเร็วกว่าปกติ

3.การมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างต่อมไร้ท่อ
และอวัยวะภายในต่างๆ
ซึ่งอยู่นอกเหนือการควบคุมของจิตใจ
จะเกิดอาการผิดปกติ
เพราะสนามแม่เหล็กโลกมีปัญหา
นั่นคือ หัวใจ ปอด ตับ ไต ถุงน้ำดี กระเพาะอาหาร
ลำไส้ หรืออื่นๆ จะแสดงอาการเสื่อมสมรรถภาพ
ให้ได้รู้เห็นหรือเผชิญกันแน่นอน

4.ตาที่สามหรือประตูมิติในเครื่องยนต์แห่งกรรมของท่าน
จะถูกแง้มออกทันที ที่อำนาจแม่เหล็กโลกอ่อนแอ
หมายความว่า ความลับเบื้องหลังมิติโลก
ซึ่งเป็นมิติที่สูงกว่าสองตามนุษย์ปกติจะแลเห็นมันได้
ก็จะถูกเปิดอ้าออกในบางวันเวลา

เช่น บางคนจะเกิดภาพนิมิตบางสิ่งเข้ามาให้รู้เห็น
ในขณะที่คนอื่นๆเขาไม่อาจรู้เห็นได้

เช่นบางคนจะได้ยินเสียงแว่วอยู่ในหู
ฟังแล้วรู้ความได้ว่าคืออะไร
แต่ก็ไม่รู้ว่าเสียงนั้นเป็นเสียงอะไร เสียงใคร มาจากไหน
และไม่อาจจะระงับดับเสียงนั้นให้มันหยุดได้ดังใจอีกด้วย

ยังผลให้บางคนเข้าใจว่าตนนั้นเป็น "ผู้วิเศษ"
โดยมิได้ฝึกฝนเลยก็มี

ยังผลให้บางคนตกใจกลัว
ด้วยคิดว่าตนเองเกิดอาการป่วยทางประสาทไปก็มี
ที่แย่หน่อยก็คิดว่าถูกผีครอบงำไปก็มี

5.ถ้าสนามแม่เหล็กโลกแปรปรวนรุนแรงต่อเนื่อง
มันจะยังผลให้การนั่งกรรมฐานสมาธิแบบเก่า
ไม่ค่อยได้ผลอีกต่อไป หรือไม่ก็จะทำได้ไม่ง่ายอีกแล้ว
เนื่องจากกลไกต่อมไร้ท่อทั้งระบบ
ภายในเครื่องยนต์แห่งกรรมของท่านทั้งหลาย
เสียสมดุลไปจากกันและกัน

เราจึงขอกล่าวต่อท่านทั้งหลายว่า
สนามแม่เหล็กโลกได้จากพลังทางจิตสำนึกด้านบวก
ของพวกท่านทั้งหลายที่กระทำต่อกันในชีวิตประจำวัน
หากพวกท่านเรียนรู้ที่จะรักกันให้ได้ในทุกมิติ
รักกันให้ได้อย่างไร้เงื่อนไข
ดาวเคราะห์โลกดวงนี้
แม้จะถูกปรับชำระกันอยู่ในทุกวันนี้
มันก็จะไม่เกิดผลกระทบที่รุนแรงต่อผู้ใดทั้งสิ้น

จึงขอท่านทั้งหลาย
จงสร้างกฤติสติต่อเรื่องนี้กันเอาไว้ด้วย
อย่ามัวแต่ไปกังวลเรื่องพายุสุริยะที่มันจะ
ก่อให้เกิดภาวะแผ่นดินไหว ภูเขาไฟสะท้าน
และสภาพภูมิอากาศวิปริตผิดฤดูกาลกันอยู่ด้านเดียวเลย
เอเมน....สาธุ....

ป.วิสุทธิปัญญา
6-10-2014



Visudhi Punya
6 ตุลาคม เวลา 16:59 น. ·

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

จิตวิญญาณของพวกท่าน
คือ ผู้ที่ขันอาสามาเกิดเป็นคน
เพื่อเรียนรู้ที่จะคนตนเองให้เป็นมนุษย์
วิธีการคนนั้น
พระพุทธองค์ทรงเรียกว่าหมุน "ธรรมจักร"

สำหรับฆารวาสหรือนักสู้เพื่อการรู้แจ้ง
ผู้เลือกที่จะครองรักครองเรือนกันอยู่
การหมุนธรรมจักรในตนเองนั้น
จะเกิดได้ก็ต้องใช้ "จิตปัญญา"
โดยต้องสั่นสะเทือนทางจิตให้เกิดเป็น "ความรัก"
และต้องสั่นสะเทือนทางปัญญาของสมอง
ให้เกิดเป็น "ความเฉลียวฉลาด"
ที่รวมเรียกว่าต้องใช้ "จิตสำนึก" เท่านั้น

ดังนั้น...
จิตสำนึก ของท่านมันจะเกิดได้
รวมทั้งการหมุนธรรมจักร จะบังเกิดผลสำเร็จได้นั้น
พระบิดาแห่งจิตวิญญาณจึงต้องทรงปิดมิติพวกท่านไว้
ด้วยอำนาจแม่เหล็กโลกในปัจจุบัน

เพื่อให้พวกท่านที่เป็นมนุษย์
สามารถยกระดับจิตปัญญาได้ด้วยตัวท่านเอง
จากการใช้สติปัญญา
สู่การใช้ปัญญาญาณเพื่อการหยั่งรู้
ด้วยวิธีการทางธรรมชาติในชีวิตประจำวัน
มิใช่การใช้วิธีพิเศษเยี่ยงนักพรตนักบวช
จนบังเกิดสิ่งที่เรียกว่า "ตาทิพย์"
จนหลงตัวเองว่าเป็นผู้วิเศษเหนือมนุษย์
เพราะสามารถใช้ตาที่สามได้
ทั้งๆที่จิตปัญญาหรือจิตสำนึก
ยังมิได้ผ่านการยกระดับ
หรือพัฒนาสู่การเป็นมนุษย์เลยแม้แต่เพียงนิดเดียว

บทบาทของนักสู้เพื่อการรู้แจ้งแท้จริง
ซึ่งเป็นวิถีแห่งฆราวาสอันควรปฏิบัตินั้น
คนสามัญธรรมดาทุกคน
ใครๆก็สามารถเปิดตาที่สามได้
ด้วยพลังอำนาจในตนเอง
จากการยกระดับจิตปัญญาในชีวิตประจำวัน
ด้วยการเรียนรู้ที่จะรักให้ได้ ให้ให้เป็น
ไม่คิดก้าวก่ายล่วงเกินผู้อื่น
และเรียนรู้ที่จะใช้ปัญญาของตนเองเพื่อการคิดรู้
เพื่อการตัดสินใจ เพื่อการแสดงออกหรือกระทำใดๆ
ทั้งต่อปัญหา ต่องาน ต่อตนเอง และต่อผู้อื่นให้ถูกต้อง

เพียงเท่านี้ตาที่สามก็เปิดออกได้แล้ว
แม้สนามแม่เหล็กโลกจะปิดเอาไว้ในคนปกติก็ตาม

ดังนั้น....
การเปิดตาที่สามได้ ใช้ตาที่สามเป็นจึงไม่ใช่เรื่องยาก
ไม่ใช่เรื่องที่จะทำให้ใครเหนือกว่ามนุษย์คนอื่นๆหรอก
หากเรียนรู้วิธีปฏิบัติทางเท็คนิก
ตามแบบที่พระพุทธองค์ซึ่งเป็นนักบวชทรงค้นพบไว้
ก็สามารถปฏิบัติได้อย่างไม่ยากเย็นเลย
แต่หากทำได้แล้ว ก็ต้องถามตนเองว่า
ทำได้แล้วยังไงต่อล่ะ....

วันนี้เรากล่าวถึง "ตาที่สามรั่ว"
กับการที่บางคนเชื่อว่าตน "เปิดตาที่สามได้"
ไม่ว่าจะเป็นวิธีทางเท็คนิก
หรือวิธีแบบมนุษย์ๆที่เรียกว่า
นักสู้เพื่อการรู้แจ้งเขาทำกันนั้น

คนที่ฉลาดและมีภูมิปัญญาของตนเอง
จะเข้าใจดีว่าที่เรากล่าวไว้นั้น
"มันเป็นคนละเรื่องกัน"
เรายังมิได้ไปก้าวล่วงความเป็นผู้วิเศษของใครเลย
เราบอกแล้วว่า

โลกนี้เป็นดาวเคราะห์แห่งทางเลือกเสรี
ท่านใดฝักใฝ่ในสิ่งใด อันควรหรือไม่ควร
มันล้วนเป็นเรื่องของพวกท่าน
เชิญพวกท่านตามสะดวกเถิด

เรามีหน้าที่ของเรา เราก็ทำหน้าที่ของเราไป
หากท่านเป็นผู้พัฒนาจิตปัญญาดั่งผู้วิเศษแท้จริงแล้ว
ใยต้องสั่นไหวไปในทางต่ำ
กับความรู้ของเรากันด้วยเล่า
เอเมน...

ป.วิสุทธิปัญญา
6-10-2014

 

Visudhi Punya
4 ชม. ·

เหตุการณ์ที่สมควรบันทึกไว้เป็นข้อสังเกต
จากแนวรอยร้าวของแผ่นเปลือกโลก
ที่เกิดการเคลื่อนตัวต่อเนื่องในแนวดิ่ง
ณ พิกัดเดียวกัน!

จากระดับความลึก 40 กิโลเมตร
ไหวครั้งสองจากระดับความลึก 33 กิโลเมตร
และไหวครั้งที่สามที่ระดับความลึก 10 กิโลเมตร

นี่คือปรากฏการณ์ที่เรียกว่า....
"ช่างเท็คนิกแล่ (ชำระ) แผ่นเปลือกโลก"
โดยจะแบ่งออกเป็นชิ้นๆ ตามที่กำหนดไว้

สถานการณ์แผ่นดินไหวครั้งต่อไป
ก็จะเป็นลักษณะเช่นว่านี้
โดยจะไหวซ้ำๆกันตรงที่เดิมหรือใกล้เคียง
เพียงแต่ระยะเวลาไหวสั่นอาจจะไม่ใกล้เคียงกันชัดเจน
อย่างเช่นในครั้งนี้....

ครั้งนี้...จัดทำขึ้นเป็นกรณีพิเศษ
เพื่อหยิบเอามากล่าวความจริงต่อพวกท่าน
ให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีมหาสติ
มิเช่นนั้นจะก้าวล่วงเราให้เป็นความผิดบาปต่อตนเอง
ด้วยโทษมหันต์เหมือนเช่นครั้งที่ผ่านมา
เอเมน....

ป.วิสุทธิปัญญา
9-10-2014

 

Visudhi Punya
เมื่อวานนี้ เวลา 3:38 น. ·

นักเรียนที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราขอกล่าวต่อท่านทั้งหลายว่า

ในชีวิตประจำวันของท่านต่อแต่นี้
จะมีการเคี่ยวกรรมเข้มข้นขึ้น
จะมีบททดสอบจิตสำนึกระดับสูงกว่าเดิม
ทั้งจะมีบทเรียนโลกให้ท่านแต่ละคน
ได้เรียนรู้กันอย่างคึกคักเข้มข้นกันอีกด้วย

ในความเข้มข้นคึกคักที่ท่านจักต้องได้เผชิญนั้น
มีด้วยกันหลากหลายอรรถรส
ขึ้นกับว่าจิตวิญญาณแก่นแท้ของท่าน
รังสรรค์บทละครของตนกันมาแบบใดบ้าง

หนึ่งในนั้นที่เราจะหยิบมากล่าวถึงก็คือ
สถานการณ์หรือเรื่องราวหรือเงื่อนไข
ที่จะนำพาท่านให้ได้เผชิญกับสิ่งที่เรียกว่า
"ความกลัว" ในบรรยากาศของการผจญภัย

สถานการณ์ที่พอจะเป็นตัวอย่างได้
คงไม่มีอะไรชัดเจนเท่ากับการผจญภัย
ของ "หนู" ซึ่งกำลังเผชิญหน้าอยู่กับ "แมว" เป็นแน่แท้

ถ้าท่านเป็นเสมือนหนูตัวน้อยจ้อยจิริด
ในยามเผชิญหน้ากับแมวที่แสนดุร้าย
ที่ทั้งว่องไวปราดเปรียว และมีเขี้ยวเล็บแหลมคม
ซึ่งพร้อมจะจับท่านกินเป็นอาหารทันที
ตัวท่านจะต้องปฏิบัติตนอย่างไร

1.เพื่อให้รอดตายจากการถูกแมวจับกิน
หรือเพื่อให้ตัวท่านรอดพ้นจากการถูกทำร้ายรังแก

2.เพื่อรักษาจิตให้สงบสมดุลไว้

3.เพื่อมิให้เกี่ยวกรรมกับแมวหรือศัตรูโดยไม่จำเป็น

ดังนั้น....
ท่านทั้งหลายจึงสมควรที่จะจดจำ
"กฎแห่งการผจญภัย"
ในโอกาสที่ท่านจะต้องเผชิญหน้ากับบุคคลที่เป็นศัตรู
หรือต้องเผชิญกับสถานการณ์ร้ายๆที่ไม่พึงประสงค์
โดยท่านจักต้องยึดหลัก "5 ไม่" ดังนี้ คือ

1.ไม่กลัว:
ในสถานการณ์ไม่พึงประสงค์เช่นนี้
สิ่งแรกที่มันจะเกิดขึ้นภายในจิตใจท่านคือ "ความกลัว"
กลัวจะถูกทำร้าย กลัวจะสู้เขาไม่ได้
กลัวว่าตนจะเสียหาย และอื่นๆ

ท่านจึงควรรู้ว่า ความกลัวนั้นมันจะทำให้ท่านเสื่อม
เพราะความกลัวทำให้จิตตก ทำให้เกิดความทุกข์กังวล
ทำให้ท่านไม่กล้าเผชิญหน้า
ทำให้ท่านขาดความเชื่อมั่นในตนเอง
จะยังผลให้ท่านเข้าถึงการใช้ปัญญาและความรักไม่ได้
เนื่องเพราะขาดมหาสติ

2.ไม่เกลียด:
ในสถานการณ์ไม่พึงประสงค์เช่นนี้
สิ่งถัดมาที่มันจะเกิดขึ้นภายในจิตใจท่าน
คือ "ความเกลียด" หรือรังเกียจ

จนยังผลให้ท่านไม่อยากเผชิญหน้า
จนทำให้ท่านปรารถนาจะหลบเลี่ยงไปให้พ้น
ซึ่งมันจะบ่อเกิดแห่งทุกข์ไปทันที

เพราะว่าแม้ท่านจะรังเกียจหรือเกลียดมากแค่ไหน
ท่านก็มิอาจหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้านั้นไปได้พ้น
จึงเมื่อเกิดทุกข์ขึ้นในจิตใจแล้ว
มหาสติย่อมไม่มา
มหาปัญญาย่อมไม่เกิดไปทันที

3.ไม่กลุ้ม:
ในสถานการณ์ไม่พึงประสงค์เช่นนี้
สิ่งต่อมาที่มันมักจะเกิดขึ้นภายในจิตใจท่าน
คือ "ความกลัดกลุ้ม"

เหตุหลักแห่งความกลัดกลุ้มนั้น
ส่วนใหญ่จะเป็นผลมาจาก
ความปริวิตกเป็นกังวลล่วงหน้าในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
เช่น วิตกว่าตนจะแพ้ทั้งๆที่ยังมิได้ลงมือต่อสู้เลย
ดังนั้น....
ทางที่ดีแล้วท่านจะต้องฝึกฝนตนเองให้
เป็นคนที่ไม่มองโลกไปในแง่ร้าย
และไม่คาดหมายต่อตนเองไปในทางต่ำเข้าไว้
จึงจะข้ามผ่านฟันฝ่าบททดสอบและบทเรียน
ในลักษณะที่ว่านี้ไปได้อย่างราบรื่น

4.ไม่ใกล้:
ในสถานการณ์ไม่พึงประสงค์เช่นนี้
สิ่งถัดมาที่ท่านพึงสังวรณ์ไว้
คือ "ระยะถ่าง" หรือ ระยะห่าง
ระหว่างตัวท่านกับคนๆนั้นหรือสถานการณ์นั้นๆ

หากท่านฉลาดท่านจึงควรเว้นวรรค
หรือเว้นช่องถ่างระหว่างตัวท่านกับสถานการณ์นั้น
หรือเว้นช่องถ่างระหว่างตัวท่านกับคนที่น่ากลัวนั้น
เพราะการนำตนเองเข้าไปใกล้ๆ
มันจะทำให้ท่านไม่ปลอดภัยนั่นเอง

5.ไม่กล้า:
ในสถานการณ์ไม่พึงประสงค์เช่นนี้
สิ่งสุดท้ายที่มันจะเกิดขึ้นภายในจิตใจท่านคือ "ฮึดสู้"
สู้เพื่อเอาชนะ
สู้เพื่อความอยู่รอดปลอดภัย
สู้เพื่อเกียรติยศและศักดิ์ศรี
จนบางทีด้วยความที่อยากเอาชนะมากเกินเหตุ
มันจะทำให้ท่านเกิดความกล้าหาญเกินตัว
หรือบางทีความโกรธจัดในขณะนั้น
มันจะทำให้ท่านเกิดอาการเห็นช้างตัวเท่ามด
ดุจดั่งหนูไม่กลัวแมว จนหาญกล้าสู้กับแมว
โดยช่างไม่เจียมตัวเอาเสียเลย

กฎแห่ง 5 ไม่ ที่เรากล่าวไว้ทั้งหมดนี้
มันจะช่วยให้ท่านครองมหาสติเอาไว้ได้

จนทำให้ท่านสามารถเข้าถึง
การใช้ความรู้ ความรัก และความฉลาด
ในการเอาตัวรอด
ในการข้ามผ่าน
ในการฟันฝ่า
สถานการณ์ไม่พึงประสงค์
หรือบุคคลอันตรายนั้นๆไปได้อย่างไม่บอบช้ำ
โดยจะไม่ก่อกรรมใหม่ร่วมกันกับใครๆเขาได้เสมอ

เราขอให้นักเรียนทุกท่านโชคดีมีชัย
ในทุกสถานการณ์เหล่านี้ด้วยกันทุกคนนะ

ป.วิสุทธิปัญญา
8-10-2014

 

Visudhi Punya
8 ชม. ·

สัญญาณเตือนภัยจากทีมช่างเท็คนิก
คราวนี้...เป็นประเทศแถบอเมริกากลาง
ฝนถล่มติดต่อกันหลายวัน
น้ำท่วมหนักเป็นครั้งแรก ตึกถล่ม
มีผู้เสียชีวิตพบศพแล้ว 22 ราย
ที่เหลือยังค้นหาอยู่ใต้กองโคลนและซากตึก
..............................................................
ภาพที่ (1) และ (3)

เป็นภาพแผนที่ประเทศแถบอเมริกากลาง
นิคารากัว ฮอนดูรัส เอลซาลวาดอร์ คอสตาริก้า
ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดง...
ที่อาจสูญหายไปจากแผนที่โลกยุคพลังงานใหม่

ภาพที่ (2)

เป็นภาพน้ำท่วมหนักในนิคารากัว
ทำให้ประชาชนเดือดร้อนหนัก

นิการากัวกำลังเผชิญกับฝนถล่มติดต่อกันหลายวัน
นับตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ (20-10-2014)
ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 22 ราย
โดย 9 ราย เสียชีวิตจากเหตุการณ์
กำแพงพังถล่มในกรุงมานากัว
เมืองหลวงของประเทศ

ขณะนี้ทางการต้องสั่งอพยพประชาชน
จำนวนหลายพันครัวเรือน
ออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยอย่างเร่งด่วนแล้ว

ภาพที่ (4)

นางโมราซิโอ มูริญโญ
โฆษกหญิงประจำรัฐบาลประเทศนิการากัวกล่าวว่า
ทางการได้สั่งอพยพประชาชนหลายพันครัวเรือน
ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยจากฝนตกหนักและโคลนถล่ม
และมีรายงานว่าผู้อพยพ
จากหมู่บ้านยากจนหลายคนในนิการากัว
ไม่พอใจศูนย์อพยพที่ทางรัฐบาลจัดให้
เนื่องจากอยู่ห่างไกลตัวเมือง
และสถานที่ทำงานของพวกเขา

ขณะนี้ มีประชาชนได้รับผลกระทบ
จากเหตุการณ์ฝนถล่มที่ประเทศนิการากัวแล้ว
กว่า 30,000 ราย
นอกจากนี้ ประเทศเอลซัลวาดอร์ ฮอนดูรัส และกัวเตมาลา
ก็ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ด้วยเช่นกัน

พี่ๆน้องๆแห่งเราทั้งหลาย
ต่อแต่นี้ประเทศบนภาคพื้นอเมริกากลางเหล่านี้
จะได้รับการเตือนที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

โปรดบันทึกแผนที่พิกัดนี้ไว้....
เพราะเป็นพื้นที่สีแดง และเป็นประเทศยากจน
พวกเขาจักต้องพบเจอการสั่นสะเทือนใต้แผ่นดิน
จากการทรุดตัวลงของแผ่นเปลือกโลก
อย่างต่อเนื่อง...บ่อยขึ้น...แรงขึ้น

อุทกภัย ดินถล่ม โคลนถล่ม ตึกถล่ม
พายุพัดถล่ม แผ่นดินไหว แผ่นดินยุบแยก
และภูเขาไฟปะทุต่อเนื่อง
ตามด้วยการขาดแคลนสิ่งบริโภคอุปโภค
และยารักษาโรคระบาด.....

ปรากฏการณ์แห่งภัยร้ายเหล่านี้
จะค่อยๆคืบคลานเข้าไปหาอย่างช้าๆ

ให้ทุกท่านโปรดเตรียมตนเองและจิตวิญญาณ
เพื่อการผจญภัยเอาไว้ให้พร้อมด้วยมหาสติ

เราขอย้ำอีกครั้งว่า...
สิ่งที่เตือนมานี้ มันมิได้จะเกิดขึ้นพร้อมกันทันที
แต่จะค่อยๆเขย่าเตือนไปเรื่อยๆ ถี่ขึ้น รุนแรงขึ้น
เพื่อหมายว่าจะสั่นสะเทือนให้ไปถึง
จิตสำนึกแห่งการเป็นมนุษย์ของพวกท่านทั้งหลาย
บนพื้นที่สีแดงเหล่านี้กันได้บ้าง
ก่อนวันสิ้นยุคนั่นล่ะ......

ป.วิสุทธิปัญญา
20-10-2014

 

Visudhi Punya
16 ชม. ·

เราบอกพวกท่านแล้วไงว่า.....
การเติมพลังงานให้พระสุริยะครั้งล่าสุด
เสร็จสิ้นแล้ว!
......................................................

เมื่อวันที่ 19 ต.ค.57
มีการตรวจพบว่า มีการปะทุที่จุดดำ 2192 บนดวงอาทิตย์
ทำให้เกิดความสว่างของรังสี X-ray
อยู่ในระดับสูงถึง X1.1

แต่น่าแปลกใจสำหรับมนุษย์โลกมากก็คือ
ในการปะทุครั้งนี้พระสุริยะ
กลับมิได้พ่นมวลพลังงาน CME ออกมามากมาย
เหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา

ตามข่ายรายงานว่ามีแค่ความสว่างของรังสี X-ray
ในระดับ X1.1 เท่านั้นเอง
โดยไม่มีมวลพลังงานคลื่นแม่เหล็กหลุดออกมาด้วย

พวกเขาพากันกล่าวว่าเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจมาก
สำหรับการปะทุในระดับขนาด X-Class นี้

เว็บ solarham ได้สรุปว่า
การปะทุครั้งนี้ไม่มีทั้งความเร็วและไม่มีมวลเกิดขึ้น

ผลกระทบต่อระบบโลก
คงจะมีแต่คลื่นวิทยุ
อันเกิดจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นของรังสี X1.1
อย่างเดียวเท่านั้น
ที่มันจะส่งผลกระทบต่อระบบสื่อสารวิทยุ
ภายใน 24 ชั่วโมงบนโลก หลังจากเกิดการปะทุขึ้น

เราจึงขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
ภาพที่ชาวโลกเห็นในการปะทุครั้งนี้นั้น
จุดดำ 2191 เป็นพิกัดหนึ่งที่ยานของช่างเท็คนิก
กำลังเติมเชื้อเพลิงเหลวให้แก่พระสุริยะ

โดยที่เมื่อปฏิบัติการเสร็จแล้ว...
ก็จะถอยยานออกมา
แต่ขณะถอยยานออกมา
ก๊าซเหลวในดวงอาทิตย์ส่วนหนึ่ง
ก็จะพุ่งไหลตามยานออกมาด้วย
พอก๊าซเหลวได้สัมผัสกับเปลวไฟร้อนที่ลุกโชนอยู่
บริเวณด้านนอกหรือตรงพื้นผิวดวงอาทิตย์เข้า
จึงเกิดการปะทุของเปลวไฟขึ้นมาอย่างที่เห็น

เนื่องจากเป็นเปลวไฟ
จากการระเบิดแค่ด้านผิวนอกหรือชั้นนอกของพระสุริยะเท่านั้น
การระเบิดหรือปะทุครั้งนี้
จึงมิได้พ่นเอามวล CME ออกมามากมายเหมือนปกติ

เพราะหากจะพ่นมวล CME ออกมาได้นั้น
การปะทุจะต้องเกิดขึ้นมาจากภายในดวงอาทิตย์เท่านั้น
มิใช่เกิดแต่พื้นผิว

ป.วิสุทธิปัญญา
20-10-2014

 

Visudhi Punya กับ Thanaporn Singnoi
14 ตุลาคม เวลา 14:17 น. ·

ภาพแสดงปฏิบัติการทางเท็คนิกของช่างเท็คนิก
ในการกวาดต้อนมวลประจุลบจำนวนมาก
อันเกิดจากพลังจิตของมนุษย์
ที่ผลิตสร้างพลังงานกรรมกันขึ้นมา

ซึ่งอยู่ในรูปของบุรพกรรมแม่เหล็ก
ที่มีศักยภาพทางไฟฟ้าเป็นลบ
เพื่อทำลายทิ้ง

อันเป็นวิธีกำจัดขยะพลังงานในระบบโลก
ที่มีมากมายจนล้น
เนื่องจากพลังงานด้านบวก
จากจิตสำนึกโดยรวมของชาวโลก
ถูกผลิตสร้างออกมาลดน้อยลง
จนไม่มากพอที่จะทำให้พลังงานด้านลบเป็นกลางได้

ช่างเท็คนิกจึงต้องเข้าแทรกแซง
ทำให้พวกท่านทั้งหลายได้แลเห็นก้อนเมฆแปลกๆ
ฟ้าแปลกๆจนบางครั้งแลดูน่ากลัว

วิธีกำจัดประจุลบในระบบโลก
ของช่างเท็คนิกนั้น
เขาทำได้โดยนำไปใช้สร้างเสริมการเกิดพายุหมุน

นำไปสร้างเสริมสนามแม่เหล็กที่แปรปรวนในก้อนเมฆ
เพื่อให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองเฉพาะแห่ง
บางครั้งก็นำไปใช้เป็นสายฟ้า
เพื่อกระตุ้นให้ลาว่าในปากปล่องภูเขาไฟ
เกิดการตื่นตัวหรือปะทุขึ้นมา เป็นต้น

ดังนั้น.....
ปรากฏการณ์หลายสิ่ง
ที่ท่านทั้งหลายพบเห็นกันอยู่ในชีวิตประจำวันนั้น
จงอย่าคิดเข้าใจว่ามันเป็นธรรมชาติไปเสียทั้งหมด
ความลับเบื้องหลังมิติโลกยังมีที่ท่านไม่รู้ว่าไม่รู้
อยู่อีกมากมายนัก....

ป.วิสุทธิปัญญา
14-10-2014

 

เศรษฐกิจโลกตะวันตกกำลังจะหมดลมหายใจ การตั้งค่าใหม่ทางเศรษฐกิจใหม่กำลังจะเกิดขึ้นทั่วโลก

นักลงทุนทั้งหลาย จับตาทิศทางเศรษฐกิจโลกให้ดีนะครับ ถ้าไม่รู้ข้อมูลภายใน ก็ให้ติดตามสัญญาณ จากบรรดาเศรษฐีระดับโลกทั้งหลาย ตอนนี้ วอเรน์ต์ บัฟเฟตต์ เทขายหุ้นในเทสโก โลตัส ตลอดจนกิจการอื่นๆ ในตลาดหุ้นสหรัฐ เพราะความกังวลต่อกำลังซื้อของชาวอเมริกัน นอกจากนั้นก็มี จอห์น พอลสัน แม้กระทั่งพ่อมดการเงิน "จอร์จ โซรอส" กำลังเทขายหุ้นในธนาคาร เจ.พี.มอร์แกน เชส ซิตีกรุ๊ป โกลแมน แซค

พวกนี้จมูกไวนะครับ น่าจะรู้ข้อมูลภายในเป็นอย่างดี โดยเฉพาะจอร์จ โซรอส ผู้ให้ทุนสนับสนุนการรณรงค์หาเสียงของ บารัค โอบามา เพื่อชิงตำแหน่ง ปธน.สหรัฐ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา และทั้งอยู่เบื้องหลังวิกฤติการณ์ ยูเครน

ตอนนี้ได้มีสัณญาณที่บ่งบอกว่าระบบการเงินโลกเก่าใกล้จะล่มสลาย
บรรดาอภิมหาเศรษฐีต่างๆพากันเทชายหุ้นกันยกใหญ่เลยทีเดียวครับ

การบริหารเงินคงคลังของสหรัฐฯ และธนาคารกลางของสหรัฐฯ กำลังจะถูกตัดขาดออกจากกันแล้ว เนื่องจากมีหนี้สินและวงเงินหนี้สินขนาดใหญ่โตเทียบเท่าภูเขาเอฟเอรเรสเลยทีเดียว ศาลโลกจะตัดสินถึงการล้มละลายของธนาคารกลางสหรัฐ และพิพากษาว่า นี่คือความผิด ที่พวกเขาจะต้องจ่ายเงินทั้งหมดกลับคืนยกให้กับมนุษย์โลก

ประเทศจีนเมื่อเร็วๆนี้ได้ซื้ออาคาร JP Morgan ในแมนฮัตตันราว $ 725,000,000 พร้อมกับมีข่าวลือหนาหูว่า จีนเตรียมจะซื้อธนาคารกลาง Federal Reserve และเปลื่ยนตัวผู้บริหาร

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ทำให้มีความเป็นไปได้สำหรับการออกตัวตั้งค่าสกุลเงินใหม่ที่อิรัก คู่ขนานไปกับ IMF (หรือประกาศ RV/GCR) ที่มันจะเกิดขึ้นในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ หรือในเร็วๆนี้ก็ได้เมื่อข้อตกลงต่างๆได้ถูกทำขึ้น

โทรทัศน์อาจจะมีการประกาศข้อตกลงที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การเงินระหว่างสหรัฐและจีน พวกเขาจะหารือเกี่ยวกับวิธีการทั้งหมดเกี่ยวกับสกุลเงินโลกที่ได้รับการตีราคาใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราส่วนการผลิตจริงและสินทรัพย์ทางกายภาพที่จะต้องมีการรีเซ็ตความสมดุลใหม่ สำหรับเศรษฐกิจในตลาดโลก รวมทั้งการปฏิรูประบบการเงินทั้งหมด เงินจากกองทุนต่างๆจะไหลเข้ามา การช่วยเหลือโลกที่ 3 กำลังจะเกิดขึ้น

จีนและครอบครัวมังกร รวมทั้งกลุ่ม BRICS ทำเช่นนี้ เพื่อปลดปล่อยดาวเคราะห์ของเราจากระบบเก่า หรือระบบเงินกระดาษ (FIAT Currency) ที่มีการกดขี่และทำลายชีวิตของมนุษย์เรามานานหลายศตวรรษ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นบวกมากๆ ไม่มีเหตุผลใดที่เราจะต้องกลัวนะครับ และที่กำลังมาถึงอย่างใกล้ชิดแล้วในขณะนี้ !
.
--------------------------------------------------------------------
- RV คือ การปรับราคาสกุลเงินโลกใหม่ (RV and a major currency reset)

- GCR คือ การนำแบงค์ที่ทำจากทองคำมาใช้ สามารถพับเก็บได้สะดวกในกระเป๋าสตางค์ด้วย ไม่ใช่กระดาษและมันก็ไม่ใช่เงินจากรัฐบาล มันเป็นทองคำบริสุทธิ์ เป็นวัตกรรมใหม่ครับ(Global Currency Reset)

- NESARA / Gesara คือ โครงการกองทุนด้านมนุษยธรรมทั่วโลก กล่าวคือ เพื่ออิสรภาพทางการเงิน และเพื่อจะอยู่ในสังคมที่ เงินมีความจำเป็นน้อยลง
--------------------------------------------------------------------