การปลูกต้นไม้ตามทิศ

ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย paang, 28 พฤศจิกายน 2005.

  1. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,325
    [​IMG]


    ประโยชน์การปลูกต้นไม้ตามทิศ ไม้ริมรั้ว และพรรณไม้หอม คนไทยส่วนใหญ่ฉลาดในเรื่องปลูกต้นไม้


    <DD>ดูจากสมัยก่อนที่มีป่าไม้มากมาย การนำต้นไม้ใบหญ้าในป่าออกมาทำได้ลำบาก จึงนำพันธุ์ไม้ต่างๆ มาปลูกไว้รอบบ้าน และปลูกตามทิศ ซึ่งเป็นความเชื่อแต่ก็เป็นเรื่องที่ดีมีคุณค่า การปลูกต้นไม้ตามทิศมีดังนี้

    <DD>1.ทิศเหนือ (อุดร) มี 3 ชนิด คือ

    <DD>-มะเดื่ออุทุมพร เป็นไม้ยืนต้นพบในป่าดิบชื้น บริเวณแม่น้ำลำคลอง ริมธาร ตามบ้านและริมทาง พบได้ทางภาคเหนือ ภาคอีสานและภาคกลาง ปลูกแล้วเชื่อว่าทำให้เกิดความเจริญ

    <DD>-ส้มป่อย เป็นไม้เลื้อยพบภายในป่าดงดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณและที่ราบเชิงเขา การปลูกส้มป่อยเชื่อว่าจะช่วยปลดปล่อยทุกข์โศกโรคภัย

    <DD>-ส้มซ่า เป็นไม้พุ่มขนาดกลาง ปลูกโดยใช้เมล็ดหรือตอนกิ่ง เชื่อว่าแก้เคล็ดให้บุตรหลานมีชื่อเสียงขจรขจายไปทั่วเมือง


    <DD>2.ทิศตะวันออก (บูรพา) มี 2 ชนิด คือ

    <DD>-ไผ่สีสุก เป็นไม้ยืนต้นขึ้นเองตามป่าราบและบนภูเขาสูงๆ ขยายพันธุ์ด้วยหน่อ ปลูกแล้วทำให้เกิดความสุขความเจริญ อยู่เย็นเป็นสุข สุขกายสบายใจในทุกสิ่งทุกอย่าง

    <DD>-มะพร้าว เป็นไม้ยืนต้นปลูกได้ดีในดินทราย ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด เชื่อว่าการเจ็บไข้จะไม่มีแลจะอยู่เย็นเป็นสุข


    <DD>3.ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) มี 3 ชนิด คือ

    <DD>-ทุเรียน เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ปลูกได้ทุกภาคโดยเฉพาะภาคใต้ ขยายพันธุ์โดยตอนกิ่ง เชื่อว่าปลูกแล้วคนในบ้านจะคงแก่เรียน

    <DD>-ไผ่รวก เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ขึ้นเองตามป่าและบนภูเขาสูงๆ แพร่พันธุ์ด้วยหน่อซึ่งจะแทงออกมาจากโคนต้น เชื่อว่าทำให้มีความสุขความเจริญ

    <DD>-มะตูม เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ดและตอนกิ่ง เป็นไม้ปลูกกลางแจ้งและทนต่อความร้อนได้ดี เชื่อว่าจะทำให้เกิดกำลังใจ เกิดความมานะพยายามต่อสู้ฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ในชีวิต


    <DD>4.ทิศตะวันออกเฉียงใต้ (อาคเนย์) มี 4 ชนิด คือ

    <DD>-กระถิน เป็นไม้พุ่มขนาดใหญ่ถึงไม้ต้นขนาดเล็ก ทนความแห้งแล้งได้ดีและเติบโตเร็ว ขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด เชื่อว่าป้องกันเสนียดจัญไรสิ่งเลวร้ายได้

    <DD>-ยอบ้าน เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ปลูกได้ดีกับดินทุกชนิดที่มีความชุ่มชื้นพอควร จึงควรปลูกในฤดูฝน โดยหว่านเมล็ดแล้วปล่อยให้งอกเอง หรือรดน้ำเป็นครั้งคราวจะงอกเร็วขึ้น เมื่อต้นกล้าโตพอควรและขึ้นหนาแน่นก็แยกไปปลูกที่อื่นได้ เชื่อว่าจะได้รับการสรรเสริญเยินยอ ยกยอปอปั้นในสิ่งที่ดีงาม

    <DD>-ยอป่า เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง พบตามป่าเบญจพรรณทั่วๆ ไป ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ดหรือการปักชำกล้า เชื่อว่าป้องกันจัญไรและมีผู้สรรเสริญเยินยอ

    <DD>-สารภี เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงใหญ่ พบตามป่าเบญจพรรณและป่าดงดิบในภาคเหนือ ภาคตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ ขยายพันธุ์โดยการตอนกิ่งหรือเพาะเมล็ด เชื่อว่าป้องกันเสนียดจัญไร สิ่งมีพิษสิ่งเลวร้ายทั้งหลาย


    <DD>5.ทิศตะวันตก (ประจิม) มี 5 ชนิด คือ

    <DD>-กุ่มน้ำ เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบขึ้นได้ทั่วไป มีมากในภาคกลางและภาคใต้แถบจังหวัดระนอง ชุมพร กระบี่และพังงา ขึ้นในที่สูงจากระดับน้ำทะเลไม่เกิน 100 เมตร พบทั่วไปตามริมแม่น้ำ ลำห้วยในป่า ลำคลอง ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด ปักชำ ตอนกิ่ง เชื่อว่าจะทำให้ครอบครัวมีฐานะ อยู่กันเป็นกลุ่มเป็นก้อนอบอุ่นดังชื่อของต้นไม้

    <DD>-กุ่มบก เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก มีขึ้นทั่วไปในภาคกลางและภาคใต้แถบจังหวัดระนอง ชุมพร กระบี่ และพังงา ขึ้นในที่สูงจากระดับน้ำทะเลไม่เกิน 350 เมตร ขึ้นตามดินทราย ตามป่าไม้ผลัดใบ เขาหินปูน ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด ปักชำและการตอนกิ่ง เชื่อว่าจะทำให้ครอบครัวมีฐานะมีเงิน อยู่กันเป็นกลุ่มเป็นก้อนอบอุ่นในหมู่เครือญาติ

    <DD>-พุทรา เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ขึ้นเองตามป่าราบ ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ดหรือตอนกิ่ง มักปลูกคู่กับต้นมะยม ปลูกแล้วผู้คนจะได้นิยมไม่สร่าง

    <DD>-มะขาม เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่แตกกิ่งก้านสาขามาก ขึ้นได้ดีในดินทุกชนิดโดยเฉพาะดินเหนียว ชอบแสงแดด ส่วนในดินเหลวมะขามจะช่วยปรับสภาพดินได้ เพราะเป็นพืชตระกูลเดียวกับถั่ว การขยายพันธุ์ใช้การเพาะเมล็ด ทาบกิ่ง ติดตาและต่อกิ่ง เชื่อว่าป้องกันความถ่อย ถ้อยความและผีร้ายมิให้มากล้ำกราย และทำให้มีแต่คนเกรงขามยำเกรง

    <DD>-มะยม เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง เป็นไม้กลางแจ้ง เจริญเติบโตได้ดีทั้งที่แดดจัดหรือในที่ร่มรำไร ปลูกขึ้นได้ดีในดินที่ร่วนซุย มีความชื้นพอเหมาะ ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด เชื่อว่าป้องกันความถ่อย ถ้อยความและผีร้ายมิให้มากล้ำกราย ปลูกแล้วผู้คนจะได้นิยมเหมือนมีนะเมตตามหานิยม


    <DD>6.ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ (พายัพ) มี 3 ชนิด คือ

    <DD>-มะกรูด เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ปลูกได้ดีในดินทุกชนิด ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด เชื่อว่าจะทำให้เป็นคนช่างเจรจา

    <DD>-มะนาว เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ขึ้นได้ทุกสภาพดินโดยเฉพาะดินร่วนซุยและมีการระบายน้ำดี ควรปลูกในฤดูฝน วิธีการปลูกโดยใช้กิ่งตอนปลูกในหลุม ใช้ปุ๋ยหมักรองก้นหลุม กลบดินให้แน่นพอควรปักไม้ไว้ยึดกันโยก ช่วงที่ปลูกใหม่ๆ ต้องรดน้ำทุกวัน และควรบังแดดจนกว่าต้นจะแข็งแรง เชื่อว่าจะทำให้คนในบ้านอยู่ดีมีสุขทั่วหน้า

    <DD>-มะพูด เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ขยายพันธุ์โดยการปักชำ เชื่อว่าปลูกแล้วทำให้มีความมานะบากบั่น ช่างพูดช่างเจรจา


    <DD>7.ทิศตะวันตกเฉียงใต้ (หรดี) มี 4 ชนิด คือ

    <DD>-ขนุน เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ปลูกโดยการเพาะเมล็ด ปลูกทั่วไปในสวนและบริเวณบ้าน เชื่อว่าจะหนุนเนื่องบุญบารมี เงินทอง จะมีคนเกื้อหนุนและอุดหนุนจุนเจือ

    <DD>-ชัยพฤกษ์ เป็นไม้ยืนต้นสูงได้ถึง 15 เมตร ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด เชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งพระพุทธศาสนา

    <DD>-พิกุล เป็นไม้ยืนต้น ขยายพันธุ์โดยการตอนกิ่ง เพาะเมล็ดหรือปักชำกิ่ง เชื่อว่าสามารถป้องกันเหตุร้ายต่างๆ นานา

    <DD>-สะเดา เป็นต้นไม้ขนาดกลาง สะเดาเป็นไม้ดั้งเดิมของเขตเอเชียอาคเนย์ พบทั่วไปในประเทศพม่าและอินเดีย ขึ้นในป่าเบญจพรรณและป่าแดงปะปนกับไม้ใหญ่ ชาวบ้านนำมาปลูกทั่วไป เป็นไม้ปลูกง่ายอยู่ในที่แห้งแล้งได้ดี ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด เชื่อว่าป้องกันภูตผีปีศาจมารบกวน ป้องกันโรคร้ายต่างๆ



    <DD>8.ทิศใต้ (ทักษิณ) มี 4 ชนิด คือ

    <DD>-ตะโกนา, ตะโกสวน เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด เชื่อว่าจะทำให้มุมานะ อดทนต่อสิ่งต่างๆ

    <DD>-มะพลับ เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง พบตามป่าดงดิบและตามบริเวณป่าชายเลน เหนือระดับน้ำทะเล 2-30 เมตรทางภาคใต้ ขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด เชื่อว่าจะทำให้ร่ำรวยยิ่งขึ้น

    <DD>-มะม่วง เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ควรปลูกในหน้าฝน เจริญเติบโตได้ดีในดินอุดมสมบูรณ์ ปลูกกลางแจ้งได้ การขยายพันธุ์ทำได้โดยการเพาะเมล็ดและการตอนกิ่ง เชื่อว่าปลูกแล้วจะทำให้ร่ำรวยยิ่งขึ้น


    <DD>นอกจากการปลูกต้นไม้ตามความเชื่อดังกล่าวแล้ว ยังมีต้นไม้ที่มีประโยชน์ในสวนครัว คือไม้ริมรั้ว ไม้ริมรั้วมีทั้งหมด 65 ชนิด เช่น กระเจี๊ยบแดง กระเจี๊ยบมอญ กระทือ ขมิ้นชัน ขี้เหล็ก แค ช้าพลู ชุมเห็ดเทศ ดีปลี ตะลิงปลิง ตำลึง ทองพันชั่ง บุก บัวบก เปราะหอม ผักขม ผักคราดหัวแหวน ผักชี ผักบุ้ง ผักปลัง ผักแปม ผักหวานบ้าน ผักหวานป่า พลูคาว เพกา ฟ้าทะลายโจร มะแว้งเครือ มะแว้งต้น มะอึก ย่านาง เร่ว ว่านหางจระเข้ ส้มกุ้ง เป็นต้น

    <DD>ตัวอย่างเช่น "ต้นกะเพรา" เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็ก แตกกิ่งก้านสาขามาก ลำต้นเป็นรูปสี่เหลี่ยม โคนต้นที่แก่เป็นเนื้อไม้แข็ง ยอดเป็นไม้เนื้ออ่อน กลิ่นหอมฉุน มี 2 พันธุ์ คือ กะเพราขาวและกะเพราแดง สรรพคุณทางยา ใช้บำรุงไฟธาตุ ขับลม แก้ปวดท้อง แก้ลมตานซาง แก้จุกเสียด แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ กะเพราแดงจะมีฤทธิ์แรงกว่ากะเพราขาว จึงมักใช้กะเพราแดงทำยา ประโยชน์ทางอาหารช่วยแต่งกลิ่นและกลบคาว และที่สำคัญต้นกะเพรายังมีสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย

    <DD>นอกจากนี้ในการสร้างบ้านมักจะมีต้นไม้หอม ไม้ดอกไม้ประดับปลูกไว้รอบบริเวณบ้าน กลิ่นหอมลอยตามสายลม จนน่าจะมีการฟื้นฟูขึ้นมาอีกครั้ง สมุนไพรไม้หอมที่นิยมปลูกมีจำนวนมาก ได้แก่ กรรณิการ์ กระดังงาไทย กระดังงาสงขลา กระถินณรงค์ กระถินเทศ กฤษณา กันเกรา แก้ว ขจร คัดเค้าเครือ เดหลีใบกล้วย ตันหยง เถาวัลย์เปรียง ทิวาราตรี เทียนกิ่ง นมตำเลีย นมแมว โนรา นางแย้ม บานบุรีเหลือง บุนนาค บุหงาส่าหรี ประดู่บ้าน ประดู่ ประยงค์ ปีบ พุดตะแคง พุดสามสี พวงแก้วมณี มณฑา มหาหงส์ โมกบ้าน โมกใหญ่ รสสุคนธ์ขาว รังราชาวดี ราชาวดีสีม่วง ลำเจียก เลี่ยน สาละลังกา สายน้ำผึ้ง หิรัญญการ์ เป็นต้น

    <DD>ตัวอย่าง "ต้นมะลิลา" หรือที่เรียกว่าต้นมะลิ เป็นพันธุ์ไม้กลางแจ้งชอบแดดจัด ขึ้นได้ดีในดินทุกสภาพที่ร่วนซุย เป็นไม้พุ่มแกมเถา ดอกมีกลิ่นหอมแรงออกตลอดทั้งปี แต่ออกมากในฤดูร้อนและฤดูฝน ขยายพันธุ์โดยการตอนกิ่งหรือปักชำ เมื่อผ่านกรรมวิธีนำมารับประทานจะช่วยบำรุงหัวใจ ดับพิษร้อนถอนพิษไข้ ช่วยบำรุงครรภ์ แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้อาการผื่นคัน แผลเรื้อรัง เยื่อตาอักเสบ แก้ปวดท้อง แก้แผลพุพอง แก้พิษฝีดาษ ใช้ยอด 3 ยอดตำพอกหรือทารอยแผลเป็น ช่วยแก้เลือดออกตามไรฟัน ใช้ต้มน้ำดื่มแก้อาการปวดศีรษะ ตำให้ละเอียดผสมเหล้าองุ่นให้ร้อนแก้ปวดเอ็นขัดยอกเนื่องจากหกล้ม แก้หลอดลมอักเสบ

    <DD>ข้อควรระวัง

    <DD>-ดอกมะลิลาที่นำมาแต่งกลิ่นใบชา ไม่ควรรับประทานติดต่อกันเป็นประจำ อาจทำให้ความจำไม่ดี ลืมง่าย

    <DD>-รากมะลิลารับประทานมากไปอาจทำให้สลบได้

    ในอนาคตหากเราปลูกต้นไม้ที่ไม่มีคุณค่าหรือเหตุผลในวิถีชีวิต หรือปลูกไม้ต่างประเทศซึ่งเน้นความสวยงามเท่านั้น ก็จะทำให้พันธุ์ไม้พื้นเมืองสูญพันธุ์ไปในที่สุด เราจึงควรกลับมาช่วยกันฟื้นฟูรณรงค์ปลูกพันธุ์ไม้พื้นบ้านทุกแง่ทุกมุม เพื่อให้คงอยู่คู่สังคมไทยต่อไป

    <DD>สุดท้ายนี้เชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมโครงการปลูกต้นไม้ถวายพ่อหลวง ประจำปี 2548 กับศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ระหว่าง 1-5 ธันวาคม 2548 โดยมูลนิธิฯ มีโครงการ "ครอบครัวสุขสันต์ด้วยการแพทย์แผนไทยปลูกต้นไม้เพื่อชีวิต" สอบถามรายละเอียดและจองบูธซึ่งมีจำนวนจำกัดได้ที่มูลนิธิการแพทย์แผนไทยพัฒนา โทร.0-2588-5745 หรือเว็บไซต์ htt://www.ttmdf.or.th อี-เมล์ ttmdf@ttmdf.or.th ภายในงานมีการอบรมโดยวิทยากรของมูลนิธิฯ และแจกเมล็ดพันธุ์แก่ผู้ที่สมัครเป็นสมาชิกด้วย.



    </DD>
     

แชร์หน้านี้

Loading...