การผรุสวาจา ด่าว่าพระ (พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน)
พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องใหญ่ในวงการสงฆ์ปัจจุบันนี้คือวัดพระธรรมกาย อย่าทำตัวเป็นกองเชียร์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะว่าถ้าทำตัวเป็นกองเชียร์เมื่อไร เราจะสร้างกรรมไม่รู้ตัว
ถ้าใครลองไปอ่านเรื่องอัศจรรย์โลกใบนี้ ที่เว็บวัดท่าขนุน จะมีเปรตอยู่ตนหนึ่ง ด่าบุคคลที่ต้องอาบัติปาราชิก แล้วตัวเองไปเกิดเป็นเปรต ต้องทนทุกข์ยากหิวโหยอยู่เป็น ๑,๐๐๐ ปี
อย่าลืมว่าแม้บุคคลนั้นจะต้องอาบัติปาราชิก แต่จากการที่เราด่า เราไม่ได้ด่าตัวบุคคล เราใช้คำว่าพระ !!! ซึ่งคำว่า พระ แปลว่า ผู้ประเสริฐ โดยเฉพาะสมัยนี้เห็นในโซเชียลมีเดีย มีการคอมเมนต์ต่าง ๆ ใช้คำพูดรุนแรงมาก ด่ากันหยาบ ๆ คาย ๆ โดยใช้คำว่าพระ แต่ละคนตายเมื่อไรจะรู้ว่าตนเอง จะได้รับโทษอะไรบ้าง
แต่ว่าโทษใหญ่ที่จะเกิดขึ้น ก็คือ ถ้าเราไปเชียร์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง กาย วาจา ใจ ของเรานั่นแหละที่จะเป็นทุกข์เป็นโทษ เพราะฉะนั้นควรที่จะอยู่ในความสงบ แล้วก็คอยดูว่าเรื่องนี้จะจบลงอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดโทษแก่ตนเอง อย่างต่ำ ๆ ก็ไปเป็นเปรต อย่างที่อยู่ในเว็บวัดท่าขนุน ลองไปค้นอ่านกันเอาเอง"
หลวงพ่อวัดท่าซุงเคยกล่าวเตือนไว้นานแล้วว่า ถ้าพูดถึงตัวบุคคลที่เป็นนักบวช อย่าใช้คำว่าพระ เพราะคำว่าพระเหมารวมตั้งแต่พระพุทธเจ้าลงมา กลายเป็นจะสร้างโทษใหญ่ให้เกิดแก่ตัวเองโดยไม่รู้ตัว
อาตมาเห็นแต่ละคนแล้ว ในปัจจุบันนี้เหมือนกับว่าถ้าสามารถแสดงความเห็นในลักษณะด่าพระได้แล้ว รู้สึกโก้หรือว่าเท่มาก อยากจะบอกว่ารู้สึกหวาดกลัวแทนพวกเขา แต่ไม่รู้จะช่วยอย่างไร ถ้าหากว่าตายวันไหน ขอร้องให้อาตมาไปช่วยก็คงไม่ทันแล้วล่ะ
โซเชียลมีเดียมีดีตรงที่ว่าข่าวคราวทุกอย่างไปเร็ว แต่พอไปเร็ว การแสดงความเห็นนั่นแหละ ที่ไปกระพือเรื่องราวให้ร้ายแรงแล้วก็รุนแรงขึ้นไปเรื่อย ๆ ควรที่จะได้สติหันมาตั้งหน้าตั้งตาทำการทำงาน ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด เรื่องจะจบอย่างไรเรามีโอกาสได้ดูได้เห็นแน่ ๆ อย่าไปใส่อารมณ์ตาม แล้วทำให้ใจของเราเศร้าหมอง
นักปฏิบัติธรรมที่ดี ถ้าสภาพจิตใจของตนเองเศร้าหมองเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก เพราะจะทำให้ผลการปฏิบัติของเราถอยหลังไปอีกนาน กว่าจะขัดเกลาจิตใจให้ผ่องใสคืนมาได้ก็เสียเวล่ำเวลา ถ้าตายไปตอนนั้นก็ขาดทุนอีก เพราะจิตใจที่เศร้าหมองย่อมพาลงสู่อบายภูมิ"
ทำใจไว้ว่าจะเชียร์ฝ่ายไหนเราก็ต้องกิน ในเมื่อเราต้องกินก็ต้องทำมาหากิน ทำมาหากินแล้วไม่ดี ก็แปลว่าเราทุ่มเทความพยายามไม่พอ หน้าที่การงานถึงไม่ก้าวหน้า กิจการถึงไม่ก้าวหน้า
ให้ทุ่มเทใช้ความพยายามทั้งกาย ทั้งวาจา ทั้งใจของเราไปลงทำงานตรงหน้า ถ้าว่างเว้นจากกิจการงานของเราเมื่อไร ก็หันมาอยู่กับการภาวนาของเรา อยู่กับศีล สมาธิ ปัญญาของเรา ถ้าอย่างนั้นโอกาสที่จะก้าวหน้าทั้งทางโลกทางธรรมก็จะมี
ถ้ามัวแต่ไปเชียร์เขาอยู่...ลำบาก สภาพจิตเศร้าหมองโกรธแค้นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งขึ้นมา ก็กลายเป็นเกิดโทษแก่ตัวของเราเอง"
ที่มา : เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนมีนาคม ๒๕๖๐
*******************************************************************
การผรุสวาจา ด่าว่าพระ ( พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน )
ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย นโมพุทธายะ๕, 3 ตุลาคม 2017.