การรักตัวเองไม่ใช่ความเห็นแก่ตัว

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย Katheryn, 14 พฤศจิกายน 2019.

  1. Katheryn

    Katheryn สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2019
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +0
    การรักตัวเองคืออะไร

    การรักตัวเองอย่างไร้เงื่อนไขนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นเรื่องที่จะต้องทำความเข้าใจ เพราะในขณะที่มีบทความ หนังสือ นักพูดและครูมากมายที่พูดเรื่องการรักตัวเองอย่างสวยหรูงดงาม ในความเป็นจริงนั้น กว่าเราจะรักตัวเองอย่างไร้เงื่อนไขเช่นนั้นได้ ต้องผ่านการเยียวยาจิตใจและผ่านการตามหาจิตวิญญาณของตนเองมาแล้ว

    ยกตัวอย่างเช่น:

    • คุณจะรักตัวเองได้อย่างไร ถ้าใจของคุณยังมีสงครามคุกรุ่นอยู่ภายใน?
    • คุณจะรักตัวเองได้อย่างไร ถ้าคุณเกลียดสิ่งที่คุณมองเห็นในกระจก?
    • คุณจะเรียนรู้เรื่องการรักตัวเองได้อย่างไร ถ้าสภาพแวดล้อมของคุณมันเป็นพิษและน่าหดหู่?
    • คุณจะเรียนรู้เรื่องการรักตัวเองได้อย่างไร ถ้าคุณไม่มีบุคคลตัวอย่างเชิงบวก?
    • คุณจะเรียนรู้เรื่องการรักตัวเองได้อย่างไร ถ้าคนอื่นมาป้ายสีว่าคุณเห็นแก่ตัวและทอดทิ้งพวกเขา?
    ถึงแม้ว่าบทความนี้จะไม่ได้ตอบคำถามด้านบนโดยตรง แต่เรามีเครื่องมือ เทคนิค คำสอน และขุมความรู้ที่คุณต้องการ เพื่อที่จะนำมาสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ นั่นก็คือการรักตัวเอง (Self-love)

    การรักตัวเองคืออะไร?

    การรักตัวเองคือการให้อภัย การยอมรับ และให้เคารพในแก่นแท้ของตัวคุณ ทั้งด้านที่สวยงามและด้านที่เลวร้าย คุณรักตัวเอง เทคแคร์ตัวเอง ให้ความเกียรติขีดกำจัดของตัวเอง ฟังสิ่งที่คุณต้องการ และเคารพในความฝันของคุณมากพอที่จะทำความฝันให้เป็นจริง

    เมื่อคุณรักตัวเอง ความสุข สุขภาพ และความอิ่มเอิบใจจะกลายเป็นสิ่งที่สำคัญสูงสุด เพราะคุณตระหนักว่าถ้าคุณไม่รักตัวเอง คุณจะไม่สามารถรักคนอื่นได้อย่างแท้จริง

    ประโยชน์อันลึกซึ้ง 18 ประการของการรักตัวเอง

    การรักตัวเองจะส่องประกาย พัฒนา และทำให้ทุกด้านของชีวิตลุ่มลึกขึ้น ต่อไปนี้คือประโยชน์ของการเรียนรู้ที่จะรักตัวเองให้มากขึ้น

    • สามารถอดทนต่อข้อด้อยและความอ่อนแอของตัวเองได้
    • ทำให้มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น
    • ให้อภัยตัวเองได้มากขึ้น
    • มีความคิดที่ดีขึ้น และมีความคิดที่จะทำลายตัวเองลดลง
    • พัฒนาให้เกิดความสามารถในการค้นหาและเติมเต็มโชคชะตาของตัวเอง
    • เพิ่มความรัก การยอมรับ และความเมตตาต่อตัวเอง
    • เพิ่มความรัก การยอมรับ และความเมตตาต่อผู้อื่น
    • ทำให้ความสัมพันธ์ดีขึ้น
    • ทำให้ความเป็นเพื่อนพัฒนาขึ้น
    • ทำให้อาชีพการงานดีขึ้น
    • ทำให้คุณมีความสัมพันธ์กับคนอื่นได้อย่างจริงใจ
    • เพิ่มความสุขและการสำนึกรู้คุณต่อชีวิต
    • ทำให้ขี้เล่นขึ้น มีความคิดสร้างสรรค์ และมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น
    • ทำให้เชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้น
    • เลือกสิ่งที่ดีต่อสุขภาพโดยรวม และสิ่งที่ฉลาดมากขึ้น
    • เพิ่มโอกาสให้กับตัวเองมากขึ้น
    • พัฒนาสุขภาพจิต มีความวิตกกังวลและความเศร้าน้อยลง
    • เข้าถึงจิตวิญญาณและเส้นทางของจิตวิญญาณได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น
    pexels-photo-953162.jpg
    ทำไมการรักตัวเองถึงเป็นสิ่งที่ยากนัก?

    ตอบแบบสั้นๆ ก็คือ เราถูกเลี้ยงมาในสังคมและครอบครัวที่ไม่เคยสอนเราเรื่องการรักตัวเอง

    ตลอดช่วงชีวิตในวัยเริ่มต้น เราได้รับการอบรมให้อ่าน เขียน คำนวณ สร้าง สร้างทฤษฎี เรียน และวิเคราะห์ชีวิต เราถูกอบรมให้พูดคำว่า “ได้โปรด” “ขอบคุณ” ตลอดจนถึงสิ่งที่เป็นที่ยอมรับและไม่ยอมรับในสายตาผู้อื่นและสังคมส่วนใหญ่ แต่พวกเราโดยมากไม่ได้รับการศึกษาเรื่องที่มีความสำคัญต่อเราอย่างมากในชีวิต นั่นคือการรักตัวเอง

    ถ้าคุณถูกเลี้ยงดูมาในวัฒนธรรมและสังคมแบบเก่า คุณอาจถูกสอนว่าจงนำผู้อื่นมาก่อนตัวเอง และอย่าคิดกังวลเรื่องความต้องการของตนเองมากเกินไป การปฏิเสธตนเองและการเสียสละตนเองคือค่านิยมหลักที่ถูกสอนในวัยเด็กของเรา และยังถูกเน้นย้ำเหมือนมันเป็นตัววัดความใจดี เอาใจใส่ และความมีคุณค่าในฐานะมนุษย์มาจวบจนทุกวันนี้

    แต่ค่านิยมนี้ไม่ได้สอนอะไร นอกไปจากความเจ็บปวดทางด้านจิตใจและอารมณ์อันเกิดจากการทำตัวเป็นผู้เสียสละ ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ได้เข้าใจถึงวิธีการเทคแคร์ตัวเองหรือผู้อื่นอย่างแท้จริง

    ผลของการไม่ได้รับการสอนเรื่องการรักตัวเองในวัยเด็ก และยอมรับหน้ากากในการเป็นผู้เสียสละคือ ความเศร้า ความขมขื่น ความวิตกกังวล การผูกใจเจ็บ และการเคารพตัวเองที่ต่ำอย่างที่สุด

    แต่แม้คุณจะไม่ได้รับการสอนว่าควรจะรักตัวเองอย่างไรในช่วงเวลาที่โตขึ้นมา ประตูแห่งโอกาสก็ยังเปิดรอคุณอยู่ แต่ก่อนที่เราจะเดินผ่านประตูนี้ไป ลองมาสำรวจคำโกหกชิ้นโตเกี่ยวกับเรื่องการรักตัวเองกันก่อน

    การรักตัวเองเป็นการเห็นแก่ตัวหรือเปล่า?

    บางครั้งบางคราวคุณอาจได้ยินคำพูดโต้งๆ หรือคำบอกเป็นนัยๆ ว่าการรักตัวเองคือความเห็นแก่ตัว บางทีคุณอาจอยู่ในครอบครัวที่ตำหนิการดูแลตัวเองในรูปแบบต่างๆ (self-care) และเชิดชูการเสียสละตัวเองที่กลับเป็นพิษ หรือบางทีคุณอาจทำงานในสภาพแวดล้อมที่การรักตัวเองนั้นถูกเย้ยหยันหรือถูกเยาะเย้ย

    ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร เราควรตัดไฟแต่ต้นลมเกี่ยวกับแนวคิดผิดๆ นี้

    การรักตัวเองไม่ใช่ความเห็นแก่ตัว ทำไมน่ะเหรอ? เพราะว่าถ้าคุณไม่ได้เทคแคร์ตัวเอง คุณก็ไม่ได้มีความสามารถในการเทคแคร์คนอื่นอย่างแท้จริง การรักตัวเองนั้นเป็นประโยชน์แก่คนรอบข้างไม่ใช่แค่ตัวคุณเอง เมื่อคุณสามารถรักและยอมรับตัวเองได้อย่างแท้จริง คุณจะสามารถรักและยอมรับคุณอื่นได้อย่างเต็มหัวใจมากขึ้น

    ถ้าให้ยกตัวอย่างเปรียบเปรย เราจะนำเอาถ้วยเปล่าไปใช้ลดความกระหายน้ำของบุคคลอื่นได้อย่างไร? มันเป็นไปไม่ได้ นั่นคือเราไม่สามารถให้ความรักได้ หากเราไม่เติมความรักให้ตัวเองก่อน

    มีความจริงเกี่ยวกับจิตวิทยาที่ได้รับการยอมรับนั่นก็คือ การปฏิบัติต่อตนเองอย่างผิดๆ จะส่งผลให้เกิดการปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างผิดๆ อย่างที่ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยา คริสติน เนฟฟ์ ได้กล่าวว่า

    “การเมตตาต่อตัวเอง มันเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติต่อตนเองด้วยความเมตตา ความห่วงใย และการสนับสนุนแบบเดียวกับที่คุณแสดงออกกับเพื่อนรัก เมื่อต้องเผชิญกับปัญหาชีวิต หรือเผชิญหน้ากับความผิดในเรื่องส่วนตัว ความล้มเหลว ความขัดสน จงเมตตาต่อตัวเองแทนการตัดสินตัวเองอย่างรุนแรง โปรดจำไว้ว่าความไม่สมบูรณ์แบบ คือประสบการณ์ความเป็นมนุษย์ที่พวกเรามีเหมือนกัน”

    ดังนั้นในครั้งหน้า เมื่อคุณเริ่มรู้สึกผิดที่จะต้องสละเวลาเพื่อตัวเองหรือเอาใจใส่ในสิ่งที่ตนเองต้องการ จงเตือนตัวเองว่า การรักตัวเองนั้น คุณกำลังทำให้ความสามารถในการรักคนอื่นมีความเข้มแข็งขึ้นไปด้วย

    วิทยาศาสตร์พูดเกี่ยวกับการรักตนเองไว้ว่าอย่างไรบ้าง

    มีการทดลองมากมายแสดงให้เห็นว่า การเรียนรู้ที่จะรักตัวเองนั้นมีประโยชน์อย่างมาก นี่คือตัวอย่างของงานวิจัยที่ถูกค้นพบ

    • การยอมรับตัวเอง คือกุญแจสำคัญของชีวิตที่เป็นสุข (source)
    • ความเมตตาต่อตนเอง ทำให้เกิดการตัดสินใจเรื่องสุขภาพที่ดีขึ้น (source)
    • ความเมตตาต่อตนเอง ทำให้ความวิตกกังวลและอาการซึมเศร้าลดลง (source)
    • ความเมตตาต่อตนเอง ช่วยลดความเครียดที่นำไปสู่การผลัดวันประกันพรุ่ง (source)
    • การดูแลตนเอง (Self-care) ช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายได้ (source)
    • การรักตัวเองช่วยสนับสนุนให้คุณฝ่าฟันเรื่องเลวร้ายไปได้ (source)
    การเรียนรู้ที่จะรักตัวเองไม่ใช่เรื่องลึกลับแบบนิวเอจ มันคือการตัดสินใจที่ชาญฉลาดที่คุณจะสามารถทำได้ในชีวิตนี้

    pexels-photo-207962.jpg
    มุมมืดของการรักตัวเอง

    การเรียนรู้ที่จะรักตัวเองมากขึ้น อาจทำให้รู้สึกอบอุ่นอยู่ในใจ แต่มันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

    ความเป็นจริงคือ ผู้คนส่วนมากไม่ต้องการสนับสนุนคุณ ไม่เพียงเท่านั้น สังคมโดยมากจะโยนความผิดมาให้คุณอย่างถาโถม เช่น

    1. คุณต้องทำให้คนรักและยอมรับคุณ
    2. คุณต้องเอาความต้องการของคนอื่นมาก่อนตัวเองตลอดเวลาโดยไม่มีข้อยกเว้น
    3. คุณต้องโอนอ่อนผ่อนตามสภาพที่เป็นอยู่และเข้ากับสังคมให้ได้
    4. และคนรอบข้างคุณอาจพูดว่า เธอต้องไม่มีความสุขและไม่มีความพอใจ – เหมือนพวกเรา
    ในความเป็นจริงนั้น ผู้คนส่วนมากไม่ชอบที่จะมีความสุข แต่พวกเขาต้องการความสบายกาย ความมั่นคง ความปลอดภัย และการควบคุมได้ ทำไมน่ะเหรอ? เพราะว่าความปลอดภัยและความคาดเดาได้ คือวิธีการที่ค่อนข้างสบายในการใช้ชีวิตตามมาตรฐานสังคมวัฒนธรรม

    โชคไม่ดีเลย แนวคิดเด็กๆ ที่ต้องการมองหาความปลอดภัย ทำให้ผู้คนส่วนมากรีรอที่จะสนับสนุนคุณบนเส้นทางของการรักตนเอง เมื่อคุณเลือกเดินบนเส้นทางที่มีคนเดินน้อย คุณจะสวนทางกับสิ่งที่ผู้คนจำนวนมากลงทุนลงแรงลงไป นั่นคือ ความสบายและความสามัญธรรมดา คุณจะกลายเป็นตัวอันตรายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะคุณจะทำให้ผู้คนรอบข้างไตร่ตรองถึงตัวเลือกของพวกเขา การ กระทำของพวกเขา และจิตใจของพวกเขา ผ่านการกระทำของคุณ คุณจะทำให้พวกเขาสงสัยในตัวเองอย่างไม่ได้ตั้งใจ มีคนจำนวนน้อยมากที่กล้าหาญพอที่จะมองตัวเองอย่างซื่อสัตย์และกล้าเปลี่ยนแปลง

    เมื่อคุณเริ่มปฏิบัติตามแนวคิดการรักตัวเอง คุณจะกลายเป็นคนนอกคอก ผ่าเหล่าผ่ากอ คุณจะไม่เข้ากับสังคม มันจะทำให้คุณไม่สบายใจไม่สบายกายนัก เพราะคุณต้องเลือกว่าจะเดินเส้นทางแคบๆ หรือเส้นทางที่กว้างและง่ายๆ

    บางคนก็ยอมแพ้ บางคนก็ไปต่อแต่ลงเอยด้วยความเหี่ยวแห้งเพราะแรงกดดันของสังคม บางคนก็ตั้งใจเดินบนเส้นทางอันโดดเดี่ยว มีคนมาหนุนใจบ้างตามรายทาง แต่ก็ต้องฝ่าฟันการโจมตีอยู่ร่ำไป เช่น “แกมันไม่ดีพอ” “แกควรทำตัวเหมือนพวกเรา” “แกมันไร้ค่า” “แกมันเห็นแก่ตัว”

    การรักตัวเองอย่างแท้จริง อย่างไร้เงื่อนไขในยุคนี้ ถือเป็นการบรรลุเป้าหมายที่น่าศรัทธา มันเป็นการกระทำที่หายากมากๆ คนส่วนใหญ่พูดถึงการรักตัวเอง แต่น้อยคนนักจะทำตามที่พูดได้

    จะป้องกันคนอื่นมาดึงเราลงต่ำได้อย่างไร

    คุณจะต้องพบเจอคนที่ไม่เห็นด้วย ไม่อนุมัติ หรือต่อต้านความปรารถนาของคุณที่จะรักตัวเอง

    ต่อไปนี้คือวิธีการมองภาพใหญ่และป้องกันไม่ให้พวกเขาดึงคุณลงมา

    1. โปรดระลึกไว้ว่าผู้คนต่างหวาดกลัวและมีบาดแผลทางใจ

    หนึ่งในสิ่งที่ต้องเรียนรู้เพื่อการรักตัวเอง คือ การไม่เอาการกระทำของคนอื่นมาคิดเป็นความผิดตัวเอง

    ลองถามตัวเองสิว่า คนที่รู้จักแต่รักที่มีเงื่อนไขจะให้รักที่ไร้เงื่อนไขกับคุณได้อย่างไร? มันเหมือนการคาดหวังให้เด็กทารกปีนเขา มันจะไม่เกิดขึ้นและไม่มีทางเกิดขึ้นได้ ดังนั้นจะมีประโยชน์อะไรในการคร่ำครวญถึงสิ่งที่เป็นไปไม่ได้? จะสร้างบาดแผลและไร้ความสุขเพราะคนที่ไม่สนับสนุนคุณและพูดจาต่อต้านคุณไปเพื่ออะไร? การกระทำของพวกเขาแสดงให้เห็นถึงการขาดความรักในชีวิตเขา นั่นไม่น่าเศร้ากว่าหรือ?

    คนส่วนมากไม่มีความรักแบบไร้เงื่อนไข แถมยังอยู่ในโลกของความกลัวและความเจ็บปวดทางใจ ความกลัวและความเจ็บปวดนี้เกิดขึ้นจากภาพลวงตาว่าพวกเขาโดนตัดขาดจากชีวิต

    เมื่อคุณตระหนักว่าผู้คนต่างกลัวและมีความเจ็บปวดทางใจ ก็จงปลงใจจากคำพูดที่คอยทิ่มแทงใจและการกระทำที่ไม่ถูกต้องของพวกเขา มันจะทำให้คุณมีพลังงานมากขึ้นและสามารถนำพลังงานนั้นมารักตัวเองได้มากขึ้น

    เมื่อคุณตระหนักในข้อนี้ คุณจะหยุดตอบสนองต่อข้อด้อยของพวกเขาและเริ่มมีความแมตตาต่อพวกเขา และความเมตตานี้แหล่ะที่จะทำให้พวกเขาสับสน และบางทีอาจจะเป็นแรงบันดาลใจมากพอให้พวกเขาเลือกเดินเส้นทางเดียวกันนี้

    2. โปรดตระหนักว่าผู้คนปฏิบัติต่อคุณเหมือนกับที่ปฏิบัติต่อตัวเขาเอง

    บางทีมันก็เจ็บปวดที่คุณกลายเป็นคนเดียวในวงสังคม ที่พยายามแสดงความรับผิดชอบต่อชีวิตของตนเอง มันเจ็บปวดที่โดนปฏิเสธจากเพื่อน ครอบครัว เพราะคุณเลือกทางเดินที่ต่างออกไป การเรียนรู้ที่จะรักตัวเองในบางครั้งก็เจ็บปวดอย่างปฏิเสธไม่ได้ แต่มันก็รู้สึกมีความสุขและมหัศจรรย์ในที

    การต่อต้านของพวกเขาสะท้อนวิธีที่พวกเขาปฏิบัติต่อตนเอง คุณคิดว่าคนที่ปฏิบัติไม่ดีต่อคุณนั้นคิดว่าพวกเขาสูงส่งกว่าคุณหรือเปล่า? บ่อยครั้งที่คำตอบคือ ไม่เลย พวกเขาปฏิบัติต่อคุณไม่ดี เพราะพวกเขารู้สึกว่าถูกคุณคุกคาม คนส่วนมากขี้กลัวและไม่มั่นใจในตนเอง ยกเว้นพวกหลงตัวเองและพวกpsychopaths ยิ่งคุณสวนกระแสมากเท่าไหร่ พวกเขาก็จะรู้สึกว่าถูกคุกคามมากเท่านั้น โปรดเข้าใจในสิ่งนี้ ความสามารถที่จะรักตัวเองของคุณจะง่ายขึ้นและชัดเจนขึ้น

    เป็นไปได้ไหมที่เราจะรักตัวเองอย่างไร้เงื่อนไข?

    ถ้าคุณไม่ได้บรรลุเรื่องจิตวิญญาณระดับสูง การรักตัวเองอย่างไร้เงื่อนไขจะไม่ได้เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ คุณต้องฝึกฝนหน่อยล่ะ

    เราเป็นจิตวิญญาณที่มีประสบการณ์การเป็นมนุษย์ ชีวิตเรามีขึ้นมีลง ในบางช่วงของชีวิต เราเชิดชูตัวเองและรู้สึกมั่นใจในความสามารถของเรา ในบางช่วงเวลาเรารู้สึกไม่มั่นใจ น่าเกลียด อ้วน เฟอะฟะ ไม่เป็นที่รัก นั่นเป็นเรื่องที่ปกติมาก ในความเป็นจริงคุณก็ต้องผ่านวงจรนี้ภายในหนึ่งสัปดาห์หรือหนึ่งวัน

    คุณจะต้องทำให้การรักตัวเองให้ฝังลึกลงไปในการฝึกจิตนี้ เมื่อเวลาทดสอบมาถึงและคุณถูกต่อต้าน คุณจะสามารถฝึกสติและความตระหนักรู้ได้ แทนที่จะรู้สึกแต่เกลียดตัวเอง คุณจะสามารถฝึกความเมตตาต่อตัวเอง

    คุณจะได้พบช่วงเวลาพิเศษ ที่คุณจะได้รักตนเองและยอมรับตนเองอย่างสุดจิตสุดใจ แต่มันก็เป็นแค่แว๊บเดียวไม่นานหรอกนะ การที่จะทำให้การรักตนเองและการยอมรับตนเองกลายเป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ คุณต้องฝึกฝนมันอย่างตั้งใจ ทุกวัน ไม่มีข้อแม้

    pexels-photo-255441.jpg
    จงจำไว้ว่า

    อย่าเครียด ถ้าความรักตัวเองกับความเกลียดตัวเองจะเกิดขึ้นสลับกันบ้าง อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ เป็นเรื่องปกติ ถ้าคุณฝึกฝนการรักตนเองวันแล้ววันเล่า คุณก็จะสามารถจัดการสิ่งที่เข้ามาในชีวิตได้เอง

    จงผ่อนคลาย

    ให้ตัวเองได้หายใจบ้าง

    ไปอย่างช้าๆ ให้กำลังใจตัวเอง อย่างที่แมทท์ คาห์น ว่า “ไม่ว่าอะไรผุดขึ้นมา จงรักมัน”

    ซึ่งแปลว่าคุณสามารถฝึกฝนการยอมรับและการให้อภัยกับทุกสิ่งที่ผุดขึ้นมาในใจ รวมไปถึงความไม่มั่นใจ ความละอาย ความรู้สึกผิด และการตัดสินตัวเอง

    ตอนที่ 2

    ที่มา https://thepisces.home.blog
     

แชร์หน้านี้

Loading...